Beranda / รักโบราณ / อัปลักษณ์จวนเดียวดาย / ตอนที่ 6 ของขวัญปริศนา 1.6

Share

ตอนที่ 6 ของขวัญปริศนา 1.6

last update Terakhir Diperbarui: 2025-06-05 09:06:17

ทันใดนั้นเอง

“ข้ารอเจ้ามานานแสนนานแล้ว! มาหาข้า! ข้ารอเจ้าอยู่ที่จวนเดียวดาย! รอเจ้าที่จวนเดียวดาย” เสียงดังกล่าวกึกก้องออกมาจากภาพวาดที่อยู่ในมือของนักร้องสาวคนดังและเธอก็ได้ยินเสียงนั้นอย่างชัดเจน

“ไม่จริง! มันจะต้องไม่เป็นความจริง! ฉันต้องหูฝาดแน่ๆ ต้องไม่ใช่! ไม่ใช่!!!”

ในขณะที่เสียงจากภาพวาดยังคงดังกึกก้องออกมาอย่างไม่ขาดสาย

“มาหาข้า! ข้ารอเจ้าที่จวนเดียวดาย!” เสียงเรียกนั้นเริ่มดังขึ้นพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับหยางเฟยอี้

ตุบ! ภาพวาดที่กำลังถืออยู่มือร่วงหล่นลงพื้นอย่างรวดเร็ว เมื่อนักร้องสาวมีอาการหายใจไม่ออกขึ้นมาอย่างกะทันหัน หยางเฟยอี้พยายามที่จะหายใจทางปากแต่กลับทำให้เจ็บแปลบเข้าที่หัวใจจนไม่สามารถทำให้เธอหายใจได้เป็นปกติ

อะ...โอ๊ยยยยย!!! มือเรียวสวยยกขึ้นจับศีรษะของเธอทันทีเมื่อเสียงร้องเรียกดังกล่าวทำให้นักร้องดังมีอาการปวดหัวอย่างรุนแรงพร้อมเริ่มมีอาการหายใจไม่ออกอย่างเฉียบพลัน

“ชะ...ช่วย...ช่วยด้วย...หะ...หายใจ...ไม่ออก!!!” สิ้นเสียงตะกุกตะกักที่เธอพยายามสื่อสารให้กับเจ้าหน้าที่ตรงหน้าซี่งกำลังยืนมองเธอด้วยความตกใจเมื่อเห็นอาการแปลกๆ เกิดขึ้น

ร่างระหงทรุดฮวบลงกับพื้นอย่างรวดเร็ว

“คุณถิงถิง!!!” เสียงร้องเรียกของเจ้าหน้าที่ประจำจวนดังขึ้นมาทันทีพร้อมร่างสูงรีบตรงเข้าไปรับร่างของนักร้องดัง ท่ามกลางเสียงร้องเรียกอีกคนผู้หนึ่ง

“ถิงถิง!!!!” หลี่ยู่ตะโกนเรียกน้องสาวจนสุดเสียง แก้วน้ำและขนมมากมายที่ซื้อติดมือทิ้งลงกับพื้นอย่างรวดเร็ว

“พะ...พี่...พี่ใหญ่!!!” หยางเฟยอี้เรียกพี่สาวได้เพียงแค่นั้น

ความรู้สึกที่ว่าขาดอากาศหายใจเป็นอย่างไง เธอได้ลิ้มรสชาติก็วันนี้เองเมื่อหัวใจเจ้ากรรมเริ่มเจ็บเสียดปวดแปลบ อากาศหายใจคล้ายจะหมดลงพร้อมความรู้สึกของหญิงสาวดับวูบลงไปทันที นักร้องสาวคนดังคอพับลงไปทันใดท่ามกลางความตกใจของคนรอบข้างต่างเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวด้วยกันทั้งสิ้น

ถิงถิง!!! เสียงร้องเรียกชื่อเล่นของเธอพยายามปลุกเร้าให้ฟื้นสติกลับมา ท่ามกลางความโกลาหลบังเกิดขึ้นทันใด

โรงพยาบาลเมืองลั่วหยาง

ห้องฉุกเฉิน

ร่างอวบอิ่มของหลี่ยู่เดินกลับไปกลับมาอยู่บริเวณหน้าห้องฉุกเฉินภายในโรงพยาบาลชื่อดังของเมืองลั่วหยางโดยไม่เป็นอันทำอะไร สายตาเฝ้าคอยมองประตูห้องฉุกเฉินอยู่ตลอดเวลาด้วยความเป็นห่วงน้องสาว

ในขณะที่บริเวณด้านหน้าโรงพยาบาลฝูงนักข่าวมายืนรอทำข่าวกันอย่างเนืองแน่น ทันทีที่ล่วงรู้ข่าวของนักร้องสาวชาวฮ่องกง เบื้องต้นทีมแพทย์ฉุกเฉินสรุปอาการของหยางเฟยอี้ เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวอย่างเฉียบพลันรวมไปถึงมีอาการเส้นเลือดฝอยในสมองแตกเกิดขึ้นด้วย โอกาสรอดชีวิตศูนย์เปอร์เซ็นต์

ครืดดดด!!! ประตูทางเข้าออกของห้องฉุกเฉินเลื่อนเปิดออกอย่างรวดเร็ว พร้อมทีมแพทย์ผู้ช่วยชีวิตเดินออกมาจากห้องดังกล่าวซึ่งเป็นระดับอาจารย์แพทย์ของโรงพยาบาล

สีหน้าของทีมแพทย์แต่ละคนบ่งบอกให้ล่วงรู้ว่ามีข่าวร้ายมากกว่าข่าวดีและทันทีที่เห็นทีมแพทย์เดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน หลี่ยู่ถลาเข้าไปถามไถ่อาการของน้องสาวอย่างรวดเร็ว

“คุณหมออาการน้องสาวดิฉันเป็นอย่างไงบ้างคะ เธอดีขึ้นบ้างไหม” หลี่ยู่ละล่ำละลักถามอาการน้องสาวเฝ้ารอคำตอบจากปากหมออย่างใจจดใจจ่อด้วยความหวังเต็มเปี่ยม

ในขณะที่แพทย์ใหญ่เจ้าของไข้ได้แต่ถอนหายใจออกมาเบาๆ พร้อมเอ่ยตอบหลี่ยู่

“ทางเราพยายามเต็มที่แล้วครับ แต่น้องสาวของคุณหมดลมหายใจก่อนจะมาถึงโรงพยาบาลนานแล้วด้วยภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันและเส้นเลือดฝอยในสมองแตก ทีมแพทย์ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ”

คำตอบของแพทย์ใหญ่ตรงหน้าสร้างความตกตะลึงให้แก่หลี่ยู่จนยืนนิ่งอยู่กับที่ดั่งคนถูกสาปให้กลายเป็นหิน ร่างอวบอิ่มยืนโงนเงนไปมาก่อนจะเป็นลมหมดสติเป็นล้มพับไปทันที เมื่อล่วงรู้ข่าวการจากไปของหยางเฟยอี้อย่างไม่มีวันหวนกลับ

ท่ามกลางความวุ่นวายบริเวณหน้าห้องฉุกเฉินเมื่อต้องเข้าปฐมพยาบาลหลี่ยู่ที่หมดสติไปโดยไม่รู้ตัวทันทีที่ได้ยินข่าวเสียชีวิตของน้องสาวจนทั่วบริเวณเกิดความวุ่นวาย

ข่าวการเสียชีวิตกะทันหันของนักร้องสาวคนดังชาวฮ่องกงเริ่มแพร่สะพัดออกมาจากโรงพยาบาล จนต้องตั้งโต๊ะแถลงข่าวเพื่อยืนยันการเสียชีวิตอย่างเป็นทางการของหยางเฟยอี้ ซึ่งมาจบชีวิตในจีนแผ่นดินใหญ่ด้วยอาการหัวใจวายเฉียบพลันและเส้นโลหิตในสมองแตก ด้วยอายุเพียง 19 ปีเท่านั้น หญิงสาววัยดรุณีได้จากไปอย่างน่าเสียดายและไม่มีใครคาดคิดเลยว่าเธอจะจากโลกนี้ไปอย่างรวดเร็วและกะทันหันเช่นนี้

ในขณะที่วงการบันเทิงจีนและฮ่องกงต้องสูญเสียดาวที่กำลังเจิดจรัสและพรสวรรค์จากพลังเสียงมหัศจรรย์ของหยางเฟยอี้ ไปอย่างไม่มีวันหวนคืน ซึ่งเธอถูกกล่าวขานว่าเป็นนักร้องมหัศจรรย์ นอกจากจะมีเส้นเสียงที่ทรงพลังแล้วยังอัจฉริยะทางด้านดนตรี สามารถเล่นเครื่องดนตรีได้ทุกชนิดรวมไปถึงเครื่องดนตรีโบราณซึ่งเธอเชี่ยวชาญทุกแขนง

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้วงการบันเทิงสูญเสียบุคคลอัจฉริยะได้ดับแสงลาลับไปจากวงการบันเทิงจีนและฮ่องกงไปอย่างน่าเสียดาย ฉายาบุบผางามพันปีก็สิ้นสุดลงด้วยเช่นกันนับตั้งแต่นั้นมา

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • อัปลักษณ์จวนเดียวดาย   ตอนที่ 11 อินอวิ๋นหยาง

    เทือกเขาหลงเมิ่งเทืองเขาสูงเสียดฟ้าถูกปกคุลมด้วยสายหมอกเมฆาเห็นเป็นทะเลหมอกปกคลุมไปทั่วบริเวณ สายลมเย็นยะเยือกพาดผ่านไปมาอยู่เป็นระยะ กระทบอาภรณ์ขาวจนชายผ้าพลิ้วไหวสะบัดไปมาเส้นผมสีดำสนิทยาวถึงบั้นเอวถูกเกล้าครึ่งศีรษะปล่อยส่วนปลายให้ทิ้งตัวลงในวันสบายๆ เช่นนี้ มวยผมถูกจัดให้เป็นทรงได้รูปสวยงามเสียบปิ่นปักผมทำจากหยกสีขาว กำลังยืนเอามือไพล่หลังพร้อมหมุนหยกก้อนกลมสีขาวเหมือนกับอาภรณ์ไปมาอยู่ตลอดเวลา พลางทอดสายตามองขุนเขาสูงตรงหน้าที่เพิ่งจะกลับมาพำนักอยู่ได้เพียงแค่สามปีเท่านั้นร่างสูงใหญ่ท่ามกลางอาภรณ์ขาวสวมใส่อยู่บนเรือนกาย เจ้าของดวงตาสีน้ำตาลคู่โศก ใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มรับกับจมูกโด่งสูงและริมฝีปากหยักได้รูปสวยโครงหน้าประหนึ่งรูปสลัก หล่อเหลางดงามเป็นที่เลื่องลือไปทั่วหล้าว่าเป็นบุรุษรูปงามที่หาพบได้ยากยิ่งหากแต่บุรุษผู้ลือนามอันเป็นที่กล่าวขานไปทั่วแผ่นดินผู้นี้ กับมีสมญานามที่ผิดไปจากรูปลักษณ์ภายนอกอันงดงามอย่างสิ้นเชิง อุปราชอำมหิต นามเลื่องลือที่ผู้คนต่างสะพรึงกลัวและหวาดหวั่น อุปราชอินอวิ๋นหยางแห่งหยวนเป่ย ผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่ามีชีวิตที่ลึกลับและน่าพิศว

  • อัปลักษณ์จวนเดียวดาย   ตอนที่ 9 อินอวิ๋นฉวี่ 1.3

    ฉาด!!!! พระหัตถ์ตบลงบนหน้าขาของพระองค์จนได้ยินเสียงดังอย่างชัดเจน ติดตามด้วยเสียงหัวเราะดักกึกก้องออกมาทันทีไม่รู้ว่าเห็นด้วยกับวิธีการของขันทีคนสนิทหรือเห็นต่างกันแน่“ดี! เจ้าทำได้ดีมากเสี่ยวฉิงจื่อ! ความคิดของเจ้ายอดเยี่ยมช่างตรงกับความต้องการที่อยู่ในภายในใจของข้า! ข้าต้องการให้เสด็จอาตายไปเสียที! ยิ่งเร็วได้เท่าไรยิ่งดีจะได้ไม่ต้องอยู่ขวางทางอำนาจของข้าอีกต่อไป”รับสั่งของฮ่องเต้น้อยทำให้ไส้ศึกจากสองแคว้นผ่อนลมหายใจของตนออกมาทันที รอยแสยะยิ้มเหยียดปรากฏขึ้นบนใบหน้า ในที่สุดฮ่องเต้โง่ผู้นี้ก็มีความเห็นคล้อยตามที่คิดจะกำจัดอุปราชอินอวิ๋นหยางเกิดขึ้นภายในจิตใจ ไม่เสียแรงที่เฝ้ายุแยงมานานหลายปีไม่ทำให้ลงแรงไปโดยเปล่าประโยชน์“แต่ว่าแล้วจะเอามือสังหารจากที่ไหนทำงานนี้ได้ ในเมื่อเสด็จอามีวรยุทธสูงมากขนาดนั้น ไม่มีผู้ใดสามารถเข้าใกล้ได้เลยส่งไปก็ถูกฆ่าดั่งใบไม้ร่วงหล่นโดยเปล่าประโยชน์ และเสด็จอาต้องล่วงรู้ว่าข้าเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังเป็นแน่ แบบนี้ข้าก็แย่สิดีไม่ดีจะกลายเป็นคนถูกฆ่าเสียเอง เกิดเสด็จอาฉวยโอกาสนี้หาข้ออ้างปลิดชีวิตข้าแล้วชิงบัลลังก์ขอ

  • อัปลักษณ์จวนเดียวดาย   ตอนที่ 10 อินอวิ๋นฉวี่ 1.4

    “เจ้าให้ข้าพูดแบบนั้นหมายความว่าอย่างไงกันแน่! ข้าไม่เคยต้องการให้คนผู้นั้นแผ่ลูกหลานสายสกุลอินออกมาแม้แต่น้อยตรงกันข้ามจะฆ่าไม่ให้เหลือเสียด้วยซ้ำ! ลูกหลานสายสกุลอินจะต้องมาจากข้าเท่านั้นจึงจะถูกต้อง!” รับสั่งอย่างไม่พอพระทัย“โธ่! ฝ่าบาทไปกันใหญ่แล้ว! อย่าเพิ่งเข้าพระทัยผิดพ่ะย่ะค่ะ ทรงทำความเข้าใจเสียใหม่ว่านี้คือแผนหลอกล่อจึงต้องยกข้ออ้างเช่นนั้นออกมา หาไม่แล้วแผนต่อไปจะสำเร็จได้อย่างไร จะทำให้อุปราชไว้วางพระทัยว่าไม่มีอะไรแอบแฝงก็ต้องยกยอไปก่อนแล้วค่อยจัดการภายหลัง” เสี่ยวฉิงจื่ออธิบายกลับไปพร้อมถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย“คนผู้นี้ช่างโง่เขลาเสียจริง! ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดข้าจึงทนได้มานานหลายปีเช่นนี้นะไม่เข้าใจตัวเองเลยจริงๆ” เสี่ยวฉิงจื่อรำพึงอยู่ภายในใจในขณะที่ฮ่องเต้หยวนเป่ยได้ยินคำอธิบายกลับมาเช่นนั้น พระองค์พยักพระพักตร์ขึ้นลงด้วยไม่เห็นต่างจากเสี่ยวฉิงจื่อ“จริงด้วย! จะสังหารเสด็จอาก็ต้องทำให้ไว้วางใจเสียก่อน หาไม่แล้วจะเสียแผนการทั้งหมด ดี! ใช้แผนนี้ดีที่สุดว่าแต่จะทำให้สตรีจากต้าซางและต้าเหลียงเป็นคนของเ

  • อัปลักษณ์จวนเดียวดาย   ตอนที่ 8 อินอวิ๋นฉวี่ 1.2

    ไม่มีใครล่วงรู้เลยว่าตัวตนดั้งเดิมที่แท้จริงของขันทีผู้นี้หาใช่ชาวหยวนเป่ยโดยกำเนิด ในความเป็นจริงแล้วคือสายลับที่ถูกฮ่องเต้ต้าเหลียงและฮ่องเต้ต้าซางซึ่งจับมือผนึกกำลังหวังโค่นล้มหยวนเป่ย ถูกส่งตัวเข้ามาแทรกซึมคอยหาข่าวภายในราชสำนักหยวนเป่ย เป้าหมายเพื่อหาโอกาสลอบสังหารอุปราชอวิ๋นหยาง และถ้าหากลงมือกับอุปราชผู้นั้นสำเร็จมีหรือชีวิตของอินอวิ๋นฉวี่จะอยู่รอดต่อไปได้นาน ฮ่องเต้หนุ่มจะต้องถูกสังหารตายตามไปด้วยเช่นเดียวกัน ทันทีที่ชีวิตของอินอวิ๋นหยางหลุดลอยออกจากร่างแต่ที่ไม่ลงมือปลงพระชนม์อินอวิ๋นฉวี่ด้วยเพราะ หากอวิ๋นฉวี่สวรรคตลงวันใดแน่นอนว่า แผ่นดินหยวนเป่ยจะต้องตกเป็นของอุปราชผู้กล้าอินอวิ๋นหยางโดยทันที และนั่นจะยิ่งยากกว่าอะไรทั้งหมดหากจะคิดเป็นอิสระและก้าวขึ้นมาครอบครองหยวนเป่ย แทนที่นั้นต้องสืบล่วงรู้จุดอ่อนของอุปราชลือชื่อผู้นี้ให้จงได้รวมไปถึงที่พำนักอันแท้จริงของพระองค์ด้วยไม่เคยมีผู้ใดล่วงรู้เลยว่าแท้จริงแล้วอุปราชผู้นี้ประทับอยู่แห่งหนใดและบริหารแผ่นดินโดยใช้อินทรีทองสื่อสารอันเป็นสัญลักษณ์ของพระองค์ ซึ่งต้าเหลียงและต้าซางรวมไปถึงหยวนเป่ยนั้นต่างรบพุ่งกันมานานเพื

  • อัปลักษณ์จวนเดียวดาย   ตอนที่ 7 อินอวิ๋นฉวี่ 1.1

    ยุคอดีตแคว้นหยวนเป่ยณ.พระราชวังหลวงภายในแคว้นหยวนเป่ยในเวลานี้อยู่ในสมัยการปกครองของสายสกุลอิน ซึ่งขึ้นมามีอำนาจเป็นใหญ่ในแผ่นดินฮ่องเต้แต่ละพระองค์มีทั้งเข้มแข็งและอ่อนแอสลับกันไป และได้นั่งบัลลังก์สืบทอดมานานกว่า 111 ปี จนถึงสมัยอินอวิ๋นฉวี่ขึ้นปกครองแคว้นในขณะที่มีพระชนม์มายุเพียงแค่ 10 พระชันษาเท่านั้นสืบเนื่องจากอดีตฮ่องเต้ซึ่งเป็นพระราชบิดาเสด็จสวรรคตลงอย่างกะทันหัน ในขณะที่มีพระชนมายุเพียง 27 พระชันษาและขึ้นปกครองแคว้นได้เพียงห้าปีเท่านั้น ด้วยสาเหตุเลือดในพระวรกายเกิดเป็นพิษซึ่งหากเทียบในยุคปัจจุบันคือติดเชื้อในกระแสเลือดนั่นเอง จึงเป็นเหตุให้องค์ชายอินอวิ๋นฉวี่ ที่ประสูติจากหยางฮองเฮาขึ้นเป็นฮ่องเต้ครองแคว้นด้วยเพราะเป็นพระโอรสเพียงหนึ่งเดียว ส่วนอีกแปดพระองค์นอกนั้นเป็นพระราชธิดาทั้งสิ้นในขณะที่หยางฮองเฮาพระราชมารดา ก็สิ้นพระชนม์ตามพระสวามีไปด้วยเพราะทรงตรอมพระทัย เพียงแค่สามเดือนที่ฮ่องเต้อวิ๋นโฉสวรรคตพระนางก็จากไป จึงทำให้ฮ่องเต้น้อยผู้ครองแคว้นหยวนเป่ย ซึ่งยังเยาว์วัยยิ่งนักต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว พระองค์เหลือเพียงฮองไทเฮาเสด็จย่า แล

  • อัปลักษณ์จวนเดียวดาย   ตอนที่ 6 ของขวัญปริศนา 1.6

    ทันใดนั้นเอง“ข้ารอเจ้ามานานแสนนานแล้ว! มาหาข้า! ข้ารอเจ้าอยู่ที่จวนเดียวดาย! รอเจ้าที่จวนเดียวดาย” เสียงดังกล่าวกึกก้องออกมาจากภาพวาดที่อยู่ในมือของนักร้องสาวคนดังและเธอก็ได้ยินเสียงนั้นอย่างชัดเจน“ไม่จริง! มันจะต้องไม่เป็นความจริง! ฉันต้องหูฝาดแน่ๆ ต้องไม่ใช่! ไม่ใช่!!!”ในขณะที่เสียงจากภาพวาดยังคงดังกึกก้องออกมาอย่างไม่ขาดสาย“มาหาข้า! ข้ารอเจ้าที่จวนเดียวดาย!” เสียงเรียกนั้นเริ่มดังขึ้นพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับหยางเฟยอี้ตุบ! ภาพวาดที่กำลังถืออยู่มือร่วงหล่นลงพื้นอย่างรวดเร็ว เมื่อนักร้องสาวมีอาการหายใจไม่ออกขึ้นมาอย่างกะทันหัน หยางเฟยอี้พยายามที่จะหายใจทางปากแต่กลับทำให้เจ็บแปลบเข้าที่หัวใจจนไม่สามารถทำให้เธอหายใจได้เป็นปกติอะ...โอ๊ยยยยย!!! มือเรียวสวยยกขึ้นจับศีรษะของเธอทันทีเมื่อเสียงร้องเรียกดังกล่าวทำให้นักร้องดังมีอาการปวดหัวอย่างรุนแรงพร้อมเริ่มมีอาการหายใจไม่ออกอย่างเฉียบพลัน“ชะ...ช่วย...ช่วยด้วย...หะ...หายใจ...ไม่ออก!!!” สิ้นเสียงตะกุกตะกักที่เธอพยายามสื่อสารให้กับเจ้าหน้าที่ต

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status