Home / รักโบราณ / เกิดใหม่อีกที เป็นพระชายาก็ไม่เลว / 9. เจียวซินกับมิมีผู้ใดดีต่อกัน (1)

Share

9. เจียวซินกับมิมีผู้ใดดีต่อกัน (1)

last update Last Updated: 2025-06-24 23:07:16

“หนิงเออร์ เหตุใดพวกนางต้องมาคารวะข้าแต่เช้าเช่นนี้ด้วย” เช้าวันนี้ เจียวซินถูกปลุกขึ้นมาแต่งกาย ผัดหน้าแต่เช้า เพื่อมานั่งรอบรรดาเมียๆ ของสวามี ตั้งแต่นางเข้ามาอยู่ในโลกนี้เกือบสิบวัน วันนี้เป็นวันที่เขาหงุดหงิดเป็นที่สุด สิบวันที่ผ่านมานางไม่ได้ทำอะไรเลย จะหยิบจับอันใดก็มีคนทำให้ทุกอย่างจน น่าเบื่อหน่าย ท่านอ๋องที่เคยบอกว่าจะพาไปค่ายทหารก็ผัดผ่อนมาเรื่อยๆ มีเพียงนำองค์รักษ์เงาสามคนที่จะให้ติดตามนางมาแนะนำให้รู้จักเท่านั้น นอกนั้นก็แทบจะมิได้เจอหน้ากัน แล้ววันนี้ยังจะต้องตื่นเช้ามารอรับการคำนับจากชายารองและอนุของสวามีอีก น่าเบื่อหน่ายเกินไปแล้ว คิดถึงเด็กนักเรียนของนางเสียจริง ตอนทำงานเป็นครู มิมีวันใดเลยที่ไม่ตื่นเต้นเพราะในแต่ละวันก็จะเจอเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันแตกต่างกันไป

“เป็นเวลานี้ปกติอยู่แล้วเพคะ ก่อนหน้านี้พระชายาประชวรจึงละเว้นการคำนับไปในช่วงนั้นเพคะ”

“เอาเถิดๆ แล้วเมื่อไหร่พวกนางจะมา” พูดได้ไม่ทันขาดคำ เสียงของนางกำนัลหน้าห้องก็ดังขึ้น

“ทูลพระชายา พระชายารองและอนุทั้งสามขอเข้าเฝ้าเพคะ”

“ให้พวกนางเข้ามา”

“คำนับพระชายาเอกเพคะ” ทั้งสี่คนกล่าวพร้อมกัน

“อย่าได้มากพิธี พวกเจ้านั่งดื่มชาและขนมของว่างก่อนเถิด”

“ขอบพระทัยเพคะ พระชายาเอก” ทั้งสี่ยอบกายลงที่นั่งของตนทันที

“อาการของพระชายาดีขึ้นแล้วหรือเพคะ” อันอ้ายฉิงเอ่ยถามขึ้นมาคนแรก เจียวซินหันมองไปที่หนิงเออร์เพื่อขอความช่วยเหลือเพราะตอนนี้นางไม่รู้จักคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าแม้แต่คนเดียว

“คนถามเป็นชายารองอัน อันอ้ายฉิงเพคะ ส่วนด้านหลังทางซ้ายเป็นอนุถัง ตรงกลางเป็นอนุตง และทางขวาเป็นอนุจ้งเพคะ” หนิงเออร์ยืดตัวเข้ามากระซิบ ข้างหูผู้เป็นนาย เมื่อได้ข้อมูลเจียวซินจึงได้ตอบคำถามของชายารอง

“ข้าดีขึ้นมากแล้ว ขอบใจชายารองอันมากที่ถามไถ่”

“มิได้เพคะ หม่อมฉันกังวลเหลือเกินว่าพระชายาจะวิปลาสตามที่ผู้อื่นกล่าว” อันอ้ายฉิงพูดจบก็แสร้งยกมือปิดปากหัวเราะคิกคัก

โอ้โห?! นี่เจอกันวันแรกก็เปิดศึกเลยสินะ คิดว่าจะยอมรึ นอกจาก ผอ.โรงเรียน ที่ข้าเคยทำงานในโลกก่อนแล้วข้าก็ไม่กลัวใครแล้ว

“หึๆ มิได้เป็นเช่นนั้นหรอกชายารองอัน ผู้อื่นก็ว่าไปตามประสาคนมิรู้ความ เจ้าอย่าได้เก็บคำเล่าลือมิมีความจริงมาใส่ใจดังคนโง่เขลาเบาปัญญา มิรู้จักกรองข่าวสารเช่นนี้ คราหน้าจะลำบากเอาได้” ก็มาสิ มิต้องด่าด้วยคำหยาบคาย มิต้องแสดงอารมณ์ฉุนเฉียว แต่ก็ทำให้อีกฝ่ายเจ็บใจได้ นี่หล่ะจางเจียวซินคนใหม่ นางจะไม่ยอมเป็นนางร้ายในสายตาผู้อื่นอีกต่อไป เจียวซินเคยได้ยินจากหนิงเออร์เอ่ยว่าเมื่อก่อนชายารองและเหล่าอนุมักจะพูดจากยั่วยุอารมณ์ของเจียวซินอยู่บ่อยครั้งทำให้เจียวซินโมโหจนอาละวาด ส่วนพวกนางก็ทำตัวเป็นผู้ถูกกระทำที่ น่าสงสาร

หึ นางดอกบัวขาวพวกนี้ หากมายุ่งวุ่นวายกับข้าอีก ข้าจะเด็ดกลีบดอกพวกเจ้าจนสิ้นมิให้เหลือแม้แต่กลีบเดียว

“นั่นสิชายารองอัน ท่านหลงเชื่อข่าวไม่มีมูลเหล่านั้นได้อย่างไร น่าขันนัก” ตงลี่ถังสบโอกาสก็กล่าวเสียดสีอันอ้ายฉิงทันที

“มิใช่ว่าเป็นเจ้าหรอกหรือที่ป่าวประกาศว่าพระชายาเอกวิปลาสไปแล้ว” จ้งลู่เอินกล่าวขัดขึ้น ทำเอาอนุตงถึงกับหน้าคล้ำลง

“ข้ามิได้-” ยังไม่ทันที่อนุตงจะกล่าวแก้ตัว เจียวซินก็ได้เอ่ยขัดขึ้นเสียก่อน

“เอาเถิดๆ พวกเจ้ามิต้องถกเถียงกัน คราวหน้าหากได้ข่าวสารอันใดมา จงใช้ความคิดของพวกเจ้ากลั่นกรองเสียก่อน ค่อยนำมาพูดต่อ วันนี้หากมิมีอันใดแล้วพวกเจ้าก็กลับตำหนักตนเองเถิด ข้าจะพักเสียหน่อย อ้อ! หรือพวกเจ้าจะอยู่ทานของว่างให้หมดก่อนข้าก็มิว่าอันใด” กล่าวเพียงเท่านี้เจียวซินก็ลุกเดินออกจากห้องโถงตรงไปห้องนอนทันที

“เห้อออออ ปวดหัวเหลือเกิน พวกนางเป็นเช่นนี้ตลอดเลยหรือ”

“เป็นเช่นนี้มาตลอดเพคะ ชายารองและเหล่าอนุล้วนไม่มีผู้ใดดีต่อกันเพคะ มักพูดจาถากถางกันอยู่เนืองๆ จะมีก็แต่อนุถังที่มิค่อยมีปากมีเสียง โอนเอนไปทางผู้นั่นทีผู้นี้ทีเพคะ”

“อ่า เป็นคนฉลาดสินะ ทำตัวเป็นหญ้าลู่ไปตามลม…แล้ว เอ่อ แล้วท่านอ๋องโปรดผู้ใดมากที่สุด” เจียวซินถามหนิงเออร์ด้วยความอยากรู้ อย่างน้อยนางก็จะได้รู้ว่าควรเอาใจผู้ใด

“ตั้งแต่ที่หม่อมฉันเข้ามาที่นี่พร้อมพระชายา ยังมิเคยเห็นท่านอ๋องจุดโคมตำหนักใดเลยเพคะ มีบ้างที่ไปเยี่ยมเยือน แต่ไม่นานก็กลับตำหนักใหญ่เพคะ หากให้หม่อมฉันคาดเดาอาจจะเป็นอนุถังนะเพคะ เพราะนางเป็นอนุเพียงคนเดียวที่ท่านอ๋องต้องการแต่งเข้ามา อีกทั้งท่านอ๋องยังไปเยี่ยมเยือนอนุถังอยู่บ่อยครั้งเพคะ”

“อืม อนุถังงั้นหรือ… ว่าแต่เจ้า มีหูสองข้าง มีตาสองตาจริงหรือ เหตุใดจึง รู้เรื่องราวของผู้อื่นมากมายถึงเพียงนี้” เจียวซินจับปลายคางของคนสนิทหันซ้ายทีขวาที ทำท่าเหมือนกำลังมองหาหูตาที่ซ่อนอยู่ของคนสนิท

“โถ่พระชายา ทรงล้อหม่อมฉันเล่นแล้วเพคะ” หนิงเออร์ทำหน้าเขินอายจนเจียวซินถึงกับหัวเราะออกมาเสียงดัง

“หนิงเออร์ที่นี่มีห้องตำราหรือไม่” เจียวซินที่ว่างจนเบื่อจึงคิดว่าหากได้อ่านหนังสือคงคลายความเบื่อหน่ายลงได้บ้าง อีกอย่างนางมีเวลาเพียงแค่สองหนาวก่อนที่จะหย่าขาดกับท่านอ๋อง ดังนั้นนอกจากเบี้ยหวัดแล้วนางควรหาความรู้เกี่ยวกับโลกนี้ไว้บ้าง

“เอ่อ มีห้องตำราของท่านอ๋องเพคะ หากอยากเข้าไปคงต้องขออนุญาต ท่านอ๋องก่อนเพคะ”

“งั้นเราไปเตรียมเครื่องเสวยเถิด วันนี้ข้าจะไปรับสำรับเช้ากับท่านอ๋อง”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เกิดใหม่อีกที เป็นพระชายาก็ไม่เลว   120. ตอนพิเศษ สองแฝดกับ “อย่ามาว่าน้องข้านะ!” (2)

    “ยึ้ย! นี่มันอันใดกัน! ใครถ่ายหนักแล้วเอามาเช็ดตรงนี้ แหวะ!” ไฉ่หงรีบเช็ดมือเข้ากับบานประตูแล้วรีบออกมาทันที เพราะกลัวว่าจะมีผู้ใช้ห้องสุขาต่อและคิดว่าตนเองเป็นคนทำ แต่ทว่าเด็กน้อยมิทันได้ระวังจึงเหยียบเข้ากับน้ำมะม่วงที่สองแฝดเทเอาไว้จนรองเท้าหรูเปรอะเปื้อนไปหมด“อ่าว! ไฉ่หงอยู่นี่เอง ข้าอยากขอโทษที่ต่อว่าเจ้าเมื่อวันก่อน ยกโทษให้ข้านะ” ซินอี๋ทำทีว่าบังเอิญเจอไฉ่หงที่หน้าห้องสุขา เขาแสร้งตีหน้าเศร้าราวกับว่าเรื่องวันก่อนเขาได้ทำผิดไป“อะ เอ่อ ข้ายกโทษให้ แต่เจ้าอย่าได้มาขึ้นเสียงกับข้าอีกเล่า มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้าไม่เตือน หึ!”“ขอบใจเจ้ามากนะไฉ่หง น้องข้าก็เอาแต่ใจเช่นนี้ มิได้ความเสียจริง” หย่งเล่อที่จู่ก็โผล่มาเกาะไหล่ไฉ่หงจากด้านหลัง มือเล็กของหย่งเล่อลูบไปทั่วแผ่นหลังและบั้นท้ายของไฉ่หง“อืม ข้าต้องไปแล้ว เจ้าก็สั่งสอนน้องเจ้าให้ดีด้วยเล่า” ว่าแล้วไฉ่หงก็เดินกลับเข้าห้องเรียนของตนทันทีหย่งเล่อและซินอี๋ที่มองไฉ่หงจากด้านหลังก็ยิ้มกริ่มพอใจกับผลงานตนเอง เพราะอาภรณ์ด้านหลังของไฉ่หงเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำมะม่วงสุกที่หย่งเล่อลงทุนใช้มือตนเองป้ายลงไป“ข้าว่าเจ้าไปล้างมือก่อนเถิด ข้าเหม

  • เกิดใหม่อีกที เป็นพระชายาก็ไม่เลว   119. ตอนพิเศษ สองแฝดกับ “อย่ามาว่าน้องข้านะ!” (1)

    “หย่งเล่อเจ้าว่าน้องของเราจะเป็นหญิงหยือชาย” ซินอี๋และหย่งเล่อกำลัง ยืนเกาะขอบประตูห้องทำคลอด ที่บัดนี้ด้านในกำลังทำคลอดให้มารดาของพวกเขาอยู่หลังจากที่บิดาของพวกเขาให้คำมั่นว่าจะมีน้องชายน้องสาวมาให้พวกเขาเลี้ยงมานานนับหลายปีจนตอนนี้พวกเขาอายุได้สี่หนาวย่างเข้าห้าหนาวแล้วมารดาพวกเขาถึงได้ตั้งครรภ์และกำลังจะคลอด มิเหมือนกับท่านลุงซีห่าวกับท่านน้าเฟยเฟิ่งที่บัดนี้มีทั้งน้องชายวัยสองหนาว ทั้งท่านน้าเฟยเฟิ่งยังตั้งครรภ์ได้กว่าแปดเดือนแล้ว แต่ก็ช่างเถิด อย่างไรเสด็จพ่อก็ทำตามสัญญาแม้จะช้าไปหลายปีก็เถอะนะ…“ไม่รู้” หย่งเล่อจดจ้องอยู่ที่ประตูตาไม่กระพริบ เด็กน้อยกำลังกังวลว่าเสด็จแม่และน้องจะปลอดภัยหรือไม่ แต่ปากเล็กก็ยังเอ่ยตอบน้องชาย“แล้วเจ้าว่าน้องจะหน้าตาเหมือนผู้ใด เสด็จพ่อหยือเสด็จแม่”“ไม่รู้”“แต่ข้าว่าให้น้องเหมือนข้าน่าจะเข้าท่า เพราะข้าเป็นชายหนุ่มที่หย่อเหยาที่สุดในแคว้นเฉินแห่งนี้” ซินอี๋ใช้มือเล็กๆ ลูบคางของตนเองไปมา ดึงท่าทีคล้ายต้องการแสดงให้ผู้อื่นเห็นว่าตนเองนั้นหล่อเหลาเพียงใด สองแฝดคู่นี้แม้หน้าตา จะเหมือนกันจนแยกไม่ออกแต่ทว่านิสัยใจคอกลับแตกต่างกับลิบลับ คนหนึ่งนิ่งข

  • เกิดใหม่อีกที เป็นพระชายาก็ไม่เลว   118. ตอนพิเศษ คืนเข้าหอ (ซีห่าวxเฟยเฟิ่ง) (2)

    “อ๊ะ อื้ออออ”จุ๊บ! จ๊วบ! ปากหนาเลื่อนไปครอบยอดถันสีแดงก่ำ ทั้งไล่เลีย ทั้งดูดดึงดั่งทารกที่หิวโหย เฟยเฟิ่งที่พึ่งเคยถูกสัมผัสที่ลึกซึ้งถึงกับตัวอ่อนระทวย ปล่อยให้ร่างหนารุกเร้าอยู่อย่างนั้น ปากบางถูกเจ้าของขบกัดจนแดงก่ำ สองมือลูบไล้ไปตามร่างกายอันกำยำของสามีอย่างหลงไหล“ทะ ท่านพี่ ของ ของท่านมัน-” ร่างกายเปลือยเปล่าบดเบียดแนบชิดกันจนเฟยเฟิ่งรู้สึกได้ว่ามีบางสิ่งดุนดันอยู่ที่บั้นท้ายของนางอยู่“อะฮึ่ม! มันคงอยากมาเล่นกับเจ้ากระมัง มาเถิด ทำให้พี่ดูว่าที่เจ้าเล่าเรียนมานั้นจะใช้ได้จริงหรือไม่” ซีห่าวผละกายออกจากเฟยเฟิ่งพลางถอยไปพิงอ่าง สองแขนแกร่งยกขึ้นพาดขอบอ่างดั่งคุณชายเจ้าสำราญที่รอรับการปรนนิบัติ เฟยเฟิ่งที่ถูกทวงถามก็รีบเค้นบทเรียนที่เล่าเรียนมาปรนนิบัติให้สามีประทับใจ“อึก! ของท่านดูเหมือนจะใหญ่กว่าแท่งหยกที่เสด็จแม่นำมาสอน” เฟยเฟิ่งเอื้อมมือที่สั่นเทาไปแตะแท่งทวนของสามีที่อยู่ใต้น้ำ มือบางชักรูดเบาๆ พลางวนนิ้วโป้งบนปลายหยัก“อืมมมม ดี มือเจ้านุ่มเหลือเกิน ซี๊ดดด” ซีห่าวแหงนหน้าสูดลมเข้าปากด้วยความเสียวซ่าน เฟยเฟิ่งเห็นท่าทีของสามีก็ได้ใจรีบรูดรั้งแท่งทวนช้าบ้างเร็วบ้างหวังให้สา

  • เกิดใหม่อีกที เป็นพระชายาก็ไม่เลว   117. ตอนพิเศษ คืนเข้าหอ (ซีห่าวxเฟยเฟิ่ง) (1)

    “เป็นอย่างไรบ้าง มาให้แม่ดูเสียหน่อยว่าเรียบร้อยดีหรือไม่” ฮองเฮาหลี่เดินเข้ามาจัดชุดพิธีการสีแดงปักดิ้นทองที่เฟยเฟิ่งใส่อยู่ให้เป็นระเบียบมากขึ้น มือบางลูบไล้จัดแต่งเรือนผมของบุตรีพลางย้อนนึกถึงตอนที่เฟยเฟิ่งยังเป็นเด็กซุกซนวิ่งเล่นอยู่ในตำหนัก แต่มาบัดนี้เด็กน้อยแสนซนผู้นั้นกำลังจะได้ตบแต่งออกไปมีครอบครัวเป็นของตนเองแล้ว“ลูกงดงามหรือไม่เพคะ” เฟยเฟิ่งที่เห็นว่ามารดานิ่งเงียบไป จึงเอ่ยถามขึ้น“งดงาม แต่คงมิเท่าแม่ หึๆ”“โถ่! วันนี้เป็นวันสมรสของลูก เสด็จแม่จะมิยอมให้ลูกงดงามที่สุดบ้างเลยหรือเพคะ”“ฮ่าๆ ได้ๆ วันนี้แม่ให้เจ้างดงามที่สุด…เฟิ่งเออร์ แม้ตบแต่งออกไปแล้วแต่เจ้าก็ยังเป็นบุตรของแม่และเสด็จพ่อ หากว่าซีห่าวทำสิ่งใดให้เจ้าเจ็บช้ำน้ำใจขอเพียงเข้าบอกแม่ แม่จะให้เสด็จพ่อจัดการกับเขาเอง” ฮองเฮาหลี่อดเป็นห่วงบุตรีของตนมิได้ ด้วยเพราะตั้งแต่เกิดมาเฟยเฟิ่งมิเคยห่างจากอกบิดามารดาเลยสักครา“หึ อย่างซีห่าวนะหรือจะทำให้เฟิ่งเออร์เจ็บซ้ำน้ำใจ คงจะมีแต่คนของเรามากกว่าที่จะทำให้เขาปวดหัว” ฮ่องเต้เฟยหลงที่เพิ่งเดินเข้ามาเอ่ยเย้าบุตรของตน“โถ่ เสด็จพ่อละก็ ลูกมิได้ซุกซนถึงเพียงนั้นเสียหน่อย อีก

  • เกิดใหม่อีกที เป็นพระชายาก็ไม่เลว   116. ตอนพิเศษ “เราทั้งคู่ต่างเป็นบุรุษ” (เฉินเฟยฉีxจ้าวจินเยว่) (2)

    “อืม…แค่กๆ” เฟยฉีรู้สึกตัวขึ้นมาก็รู้สึกเจ็บปวดไปทั่วร่างกาย ตาคมมองไปรอบๆ ก็พบว่าตะเกียงในห้องของเขาถูกจุดสว่างไสว ความทรงจำสุดท้ายคือเขารู้สึกตาพร่ามัว ทั้งยังเจ็บปวดไปทุกส่วน และหลังจากนั้นทุกอย่างก็มืดดับไป“องค์รัชทายาท ได้สติแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ” จินเยว่ที่ฟุบหลับอยู่ข้างเตียงได้ ไม่นานก็ได้เสียงไอของคนบนเตียงเขาจึงได้สะดุ้งตื่นขึ้นมา จิเยว่รีบเดินไปรินน้ำอุ่นมาให้เฟยฉีทันที ร่างบางพยายามประคองร่างสูงให้ดื่มน้ำให้มากๆ ด้วยการขับพิษในครั้งนี้เฟยฉีเสียเลือดไปมาก“แค่กๆ จินเยว่” ปากหนาเอ่ยเรียกคนรักด้วยเสียงออดอ้อน ยังดีที่เฟยเทียนสั่งให้นางกำนัลเฝ้าอยู่หน้าห้องบรรทม ภายในห้องจึงมีเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้น“พ่ะย่ะค่ะ”“จินเยว่”“อึก! พ่ะย่ะค่ะ องค์รัชทายาทมีสิ่งใดจะรับสั่งกับกระหม่อมหรือ” ดวงใจน้อยๆ ของจินเยว่ถึงกับกระตุกเมื่อเห็นแววตาเว้าวอนของคนรัก“เยว่เยว่ เยว่เยว่”“ว่าอย่างไร”“ข้าเจ็บไปทั้งตัวเลย ฮึก! ใจข้าก็เจ็บ” ร่างสูงโถมกายเข้าซุกซบกับอกของ จินเยว่จนล้มหงายหลัง“ชะ เช่นนั้นกระหม่อมจะไปนำยามาให้ องค์รัชทายาทปล่อยกระหม่อมก่อนพ่ะย่ะค่ะ”“ไม่ หากข้าปล่อยเจ้า เจ้าก็จะหนีไป”“กระห

  • เกิดใหม่อีกที เป็นพระชายาก็ไม่เลว   115. ตอนพิเศษ “เราทั้งคู่ต่างเป็นบุรุษ” (เฉินเฟยฉีxจ้าวจินเยว่) (1)

    "ซี๊ดดดดด ตัวเล็กกระจิดริดเหตุใดจึงกัดเจ็บถึงเพียงนี้นะ”จินเยว่ที่กำลังเก็บสมุนไพรเงี่ยหูฟังเสียงที่ดังแว่วเข้ามาในหู ใบหน้าแสนน่ารักหันไปหันมาเพื่อสำรวจหาต้นเสียง เขาเดินไปตามเสียงที่ได้ยินสุดท้ายก็พบเข้ากับชายหนุ่มร่างสูงใหญ่กำลังก้มๆ เงยๆ ล้างเลือดออกจากแผลบนมือ จินเยว่ขมวดคิ้วแน่นคิดไม่ตกว่าควรเข้าไปช่วยดีหรือไม่ หากเข้าไปช่วยจะเกิดเหตุการณ์ดังเช่นครั้งก่อนหรือไม่“เจ็บๆ หากรู้ว่ากัดเจ็บถึงเพียงนี้ อย่าหวังว่าข้าจะช่วย ข้าจะปล่อยเจ้าแห้งตายอยู่ในกับดักโง่ๆ นั่น ฮึ่ย!” เสียงบ่นกับตนเองของชายหนุ่มแปลกหน้าคนนั้นทำให้จินเยว่อดยิ้มขำออกมามิได้ หากให้เขาคาดเดาชายหนุ่มผู้นี้คงจะช่วยสัตว์ที่ติดอยู่ในกับดักแต่ดันถูกสัตว์ตัวนั้นกัดมาเป็นแน่จึงได้มานั่งบ่นอยู่เช่นนี้น่าสงสารเสียจริง…“คิกๆ” จินเยว่หยุดหัวเราะออกมาโดยมิรู้ตัว“ใครน่ะ” แย่แน่แล้ว!!! จินเยว่รีบหลบไปอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ ร่างบางตัวสั่นเทา ใจหนึ่งก็นึกกลัว แต่อีกใจหนึ่งก็อดสงสารชายหนุ่มผู้นั้นมิได้ หากชายหนุ่มถูกสัตว์มีพิษกัดเข้าเล่าจะทำเช่นไร“ข้าถามว่าใคร ออกมา! มิเช่นนั้นข้าจะถือว่าเจ้ามาร้าย” จินเยว่ได้ยินเสียงเข้มเอ่ยดังนั้นจ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status