แชร์

บทที่ 4 พี่ชายปริศนา

ผู้เขียน: เทียนสื่อ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-08-13 12:00:44

จางหลินจูเดินห่างออกมาจากเพิงพักเรื่อย ๆ ภายในใจครุ่นคิดเรื่องราวที่เกิดขึ้นต่าง ๆ นานา เพราะไม่รู้ว่าต่อจากนี้ควรใช้ชีวิตอย่างไร ดูเหมือนว่าในโลกอีกด้าน ครอบครัวของจางหลินจูคงไม่หลงเหลือใครอีกแล้ว

เพียงคะนึงถึง ภาพครอบครัวแสนอบอุ่นก็ฉายซ้ำไปมาตอกย้ำความเจ็บปวด กระบอกตาคู่งามร้อนรื้นแดงก่ำ ดวงตากลมโตเริ่มเกิดม่านน้ำตาเสียจนภาพเบื้องหน้าพร่าเบลอ จางหลินจูพยายามกล้ำกลืนก้อนสะอื้นกลางลำคอลงไปด้วยความยากลำบาก จากนั้นก็ยกมือขึ้นซับน้ำตาซึ่งร่วงเผาะลงมาเมื่อใดก็สุดจะรู้

คุณพ่อคุณแม่คะ ไม่ต้องห่วงจูเอ๋อร์นะคะ ลูกสัญญาจะใช้ชีวิตนับจากนี้ให้ดี

“โอ๊ย!”

“เดินไม่ดูตาม้าตาเรือบ้างหรือไง”

“ขอโทษเจ้าค่ะ ข้าไม่ได้ตั้งใจ”

จางหลินจูไม่ทันระวัง มุ่งหน้าโดยไร้ทิศด้วยจิตใจเหม่อลอย เป็นเหตุให้ชนกับบุรุษร่างกำยำเข้าโครมใหญ่

อีกฝ่ายชักสีหน้าไม่สบอารมณ์ ทว่าเมื่อเขาสำรวจเรือนร่างและใบหน้าของจางหลินจู ภายในใจก็ผุดความคิดสกปรก น้ำเสียงแข็งกระด้างพลิกกลับเดี๋ยวนั้น 

“แม่นางน้อย ข้าไม่ถือสา ว่าแต่เจ้าจะไปที่ใดหรือ”

จางหลินจูผงะเมื่อนางประสานเข้ากับแววตาหยาดเยิ้มแฝงไปด้วยความหยาบโลนแทะโลมอย่างปิดไม่มิด เท้าเล็กถอยร่นไปเบื้องหลังอย่างระแวดระวัง

เสียงใสกล่าวอ้อมแอ้ม “ขะ…ข้ากำลังจะเข้าไปในตัวเมืองเจ้าค่ะ พอดีแม่ข้าป่วยต้องการหมอ”

“อ่า…พอดีเลย ข้าเองก็เป็นหมอ งั้นให้ข้าไปเรือนเจ้าด้วยดีหรือไม่”

สำรวจจากรูปพรรณสัณฐาน จางหลินจูทราบในทันทีว่าคนผู้นี้ไม่ใช่หมอ และเขาอาจเป็นชายโรคจิต จางหลินจูข่มใจไม่ให้กระโตกกระตาก พยายามคิดหาหนทางเพื่อเอาตัวรอด ทว่าอีกฝ่ายยังคงเยื้องย่างใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ จางหลินจูก็ถอยไปเบื้องหลังช้า ๆ เช่นเดียวกัน

“อ๊ะ!”

เพราะคนเราไร้ตาหลัง จางหลินจูจึงไม่เห็นว่ามีหินก้อนหนึ่งขวางอยู่ ร่างระหงล้มลงบนพื้นเย็นเยียบ บุรุษแปลกหน้าฉีกยิ้มกว้างชอบใจ เอ่ยเสียงแปร่ง “แม่นางน้อย เจ็บที่ใด ให้ข้าช่วยดูหรือไม่”

ร่างกำยำยอบกายลงด้วยแววตาหื่นกระหาย พร้อมยื่นมือหยาบระคายออกมาหวังสัมผัสปลายคางโค้งมน จางหลินจูหวาดผวาจนกายสั่นสะท้าน ทว่าก่อนที่เขาจะสัมผัสถึงตัว จางหลินจูก็ลอบกำผงธุลีไว้เต็มฝ่ามือแล้ว ครั้นสบโอกาสมือเรียวก็ซัดฝุ่นผงเข้าเบ้าตาอีกฝ่ายอย่างไม่ลังเล 

“โอ๊ย! นังเด็กบ้าเจ้าอยากตายรึ”

จางหลินจูเล็งเห็นจังหวะเหมาะ ร่างระหงลุกวิ่งไม่คิดชีวิต คาดไม่ถึงว่าจางหลินจูวิ่งไปไม่ทันไรก็ถูกชายฉกรรจ์อีกสองคนขวางทางเอาไว้ จางหลินจูพยายามเบี่ยงกายหลีกหนีพวกเขาแต่ก็ถูกตีกรอบเสียจนหนทางเอาตัวรอดแคบลงเรื่อย ๆ 

“สาวน้อย จะหนีไปไหน ต้องการหมอไม่ใช่หรือ พวกข้าช่วยฝังเข็มให้เจ้าและแม่ของเจ้าดีหรือไม่”

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพวกคนชั่วช้าหมายความเช่นไร “ถอยไปนะ คนสารเลว!”

“ฮ่า ฮ่า สตรีไม่ได้ชอบคนสารเลวหรอกหรือ” แววตาของชายทั้งสองลามเลียจางหลินจูตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า

ขาเรียวยังคงก้าวถอยหลังด้วยอาการหวาดกลัว สมองตริตรองเพื่อเอาตัวรอดอีกครั้ง ทว่าเหลือบมองทางใดก็พบเพียงความริบหรี่ จางหลินจูเป็นสตรีตัวเล็ก ๆ กำลังเผชิญหน้ากับบุรุษตัวโตถึงสามคน นางจะตีฝ่าออกไปได้อย่างไร ไม่นานแผ่นหลังบางก็ปะทะเข้ากับบางอย่างด้านหลัง ไหล่แคบถูกคว้าหมับจนตัวชา 

“ตัวแสบ เจ้าเกือบทำข้าตาบอด เจ้ามันสมควรโดน!”

อั๊ก!

ชายหยาบช้าชกจางหลินจูบริเวณท้อง ร่างระหงตัวงอหน้าแดงก่ำ จางหลินจูเจ็บจุกจนพูดไม่ออก ดูเหมือนโอกาสเกิดใหม่ครั้งนี้ไม่สวยหรูเอาเสียเลย 

คุณพ่อคุณแม่คะ ช่วยจูเอ๋อร์ด้วย! 

จางหลินจูทรุดฮวบนอนกลิ้งลงบนพื้น เสียงหัวเราะของบุรุษดังก้องเสียจนหูอื้ออึง ร่างระหงตะเกียกตะกายเพื่อหาทางเอาตัวรอดพลางเรียกหาบิดามารดาอยู่ในใจ แต่ดูเหมือนเสียงยังดังไม่พอ และคงไปไม่ถึงผู้มีพระคุณทั้งสองเสียแล้ว 

ฮื่อ…จูเอ๋อร์ขอโทษ

ก่อนถูกชายเหล่านั้นยกกายพาดบ่า เสียงควบม้าก็ดังสะท้อนใกล้เข้ามา จางหลินจูรับรู้ด้วยสติที่หลงเหลือเพียงน้อยนิด 

“พวกเจ้ากำลังทำอะไร หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”

ชายทั้งสามแตกตื่น ครั้นภาพที่ปรากฏกลับเป็นเพียงเด็กหนุ่มอายุราวสิบเจ็ดสิบแปดควบม้าเข้ามาพร้อมดาบไม้ในมือเท่านั้น จึงเหยียดยิ้มดูถูก เด็กน้อยปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมยังกล้าจองหองใส่พวกเขา 

“เจ้าเด็กนี่แส่หาเรื่องจริง ๆ ไสหัวไป!”

เสียงที่แตกหนุ่มเอ่ยเยียบเย็น “พวกเจ้านั่นล่ะ ที่ต้องไสหัวไป กล้ารังแกกระทั่งเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ งั้นหรือ”

“แล้วอย่างไร นังเด็กนี่เป็นทาสของข้า ข้าซื้อมันมาด้วยเงินของข้าเอง ข้ามีสิทธิ์ทำอย่างไรก็ได้ เจ้าอย่าสอดดีกว่า หากยังอยากมีชีวิตถึงวันพรุ่งนี้”

เด็กหนุ่มเงียบไปครู่หนึ่ง เขาเหลือบมองสีหน้าแดงก่ำของสตรีเบื้องล่าง เพราะจางหลินจูพูดไม่ออกยังอยู่ในอาการเจ็บระบม นางทำได้เพียงส่ายศีรษะเพื่อเป็นสัญญาณให้เขา

เด็กหนุ่มเวทนาจางหลินจูอย่างมาก เมื่อได้รับคำตอบที่แน่ชัด เขาก็ทราบได้ทันทีว่าชายสามคนนี้กำลังแอบอ้างเป็นเจ้านายของนาง “โกหก! เจ้าทำร้ายผู้อื่น ซ้ำยังคิดกระทำมิดีกับเด็กผู้หญิง ข้าจะนำตัวเจ้าไปส่งทางการ”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

บุรุษทั้งสามประสานเสียงหัวเราะร่วน พลางถ่มน้ำลายอย่างเถื่อนถ่อย 

“ตัวเท่าลูกสุนัข ยังคิดจะจับพวกข้า”

เด็กชายแค่นยิ้ม “ได้หรือไม่ก็ลองดู อีกอย่างคนที่เป็นสุนัขคือพวกเจ้า หนำซ้ำยังขี้เรื้อนเสียด้วย หากคิดแตะต้องตัวนางก็ข้ามศพข้าไปก่อน!”

จางหลินจูได้ยินประโยคเมื่อครู่ก็แทบหลั่งน้ำตา คนผู้นี้คือใครกัน ช่างคุณธรรมสูงส่งนัก ในชีวิตที่ผ่านมานอกจากพ่อแม่แล้ว ยังไม่เคยมีใครกล้าเอ่ยคำนี้กับนางด้วยความจริงใจสักคน

พี่ชาย ขอบคุณเจ้าค่ะ

จางหลินจูปรับม่านดวงตาเพื่อสำรวจใบหน้าของเขา ทว่านางกลับมองเห็นเพียงภาพอันเลือนราง เสียงกีบเท้าม้าห้อทะยานวิ่งวนเป็นวงกลมเสียจนฝุ่นตลบ

จางหลินจูสัมผัสได้ถึงการต่อสู้อย่างบ้าระห่ำ แต่ยามนี้นางไม่อาจครองสติได้แล้ว ร่างกายของนางอ่อนแอเกินไป 

พี่ชาย ท่านต้องปลอดภัยนะเจ้าคะ

สติของจางหลินจูพลันดับวูบ พร้อมกับชายทั้งสามที่หมอบราบลงบนพื้น สิ้นสงครามขนาดย่อมไม่นาน ก็มีกลุ่มคนกรูเข้ามาด้วยสีหน้าแตกตื่น

“นายน้อย! ท่านเป็นอันใดหรือไม่”

บุรุษร่างสูงสวมเครื่องแต่งกายสีเข้มถลาเข้ามาบังหน้าหวังปกป้องผู้เป็นนาย นัยน์ตาคมเข้มกวาดมองคู่กรณีจากนั้นย้ายสายตามาที่หนุ่มหน้าวสันต์ เมื่อประเมินสถานการณ์อย่างถ้วนถี่กลับพบว่ายามนี้นายน้อยของเขายังคงสะอาดสะอ้านครบสามสิบสอง ไม่เหมือนชายร่างยักษ์ทั้งสามที่ลงไปนอนโอดครวญบนพื้นด้วยร่างกายสะบักสะบอม เขาตื่นตูมเกินไปหน่อยแล้ว 

“ข้าไม่เป็นไร คนพวกนี้เอาไปส่งทางการให้หมด อ้อ…ตามหมอมาด้วยเล่า”

องครักษ์เกิดแตกตื่น “นายน้อย ท่านได้รับบาดเจ็บงั้นหรือ”

เด็กหนุ่มส่ายศีรษะ “ไม่ใช่ข้า แต่เป็นนาง”

องครักษ์มองตามสายตาของผู้เป็นนายก็เข้าใจทุกอย่างในบัดดล 

“พวกเจ้า ลากคอมันไป เร่งตามหมอมาด่วน!”

“ขอรับ”

ชายทั้งสามถูกลากตัวไปเป็นที่เรียบร้อย เด็กหนุ่มร่างโปร่งกระโจนลงจากหลังม้า เขายอบกายลงแช่มช้า กวาดสายตาสำรวจใบหน้าพริ้มเพราครู่หนึ่ง กระทั่งไปสะดุดตากับหยกแขวนบนลำคอของนาง

“สร้อยนี่มีมูลค่ามากทีเดียว คุณหนูบ้านใดกันเล่า ไยมาเดินเตร็ดเตร่คนเดียวที่นี่”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เกิดใหม่เป็นบุตรีเศรษฐีผู้ตกอับ   สุดใจปรารถนา ตอนพิเศษ

    หนึ่งปีหลังจากจางหลินจูและซวี่ฟางจิ้นวิวาห์และสะสางงานทั้งหมดจนเรียบร้อยทั้งสองก็เดินทางมาเยี่ยมท่านหมอหลี่“ซื่อจื่อ” ท่านหมอหลี่ค้อมศีรษะลงจากนั้นผินหน้ามาส่งยิ้มให้จางหลินจูเขาตั้งใจค้อมศีรษะเพื่อเคารพนาง ทว่าจางหลินจูรุดเข้าประคองเขาไว้เสียก่อน“ท่านหมอหลี่ เกรงใจไปแล้ว”“ได้อย่างไร เป็นถึงฮูหยินซื่อจื่อ”“ท่านหมอหลี่คนกันเองทั้งนั้น ท่านเคยช่วยเหลือจูเอ๋อร์ไว้ตั้งมาก อย่าได้มากพิธีเลย” ซวี่ฟางจิ้นเอ่ยไม่นานเจ้าตัวเล็กก็วิ่งรี่เข้ามาเกาะเอวหลี่จงหยาง “ท่านหมอหลี่”“ตายแล้ว คุณชายน้อย ระวังเจ้าค่ะ”ลู่เสียนวิ่งหน้าตื่นเพราะเกรงว่าจางหลินชวนจะวิ่งซนจนได้บาดแผล“ไม่เป็นไร” ท่านหมอหลี่เอ่ย จากนั้นยอบกายลงอุ้มเจ้าตัวเล็กไว้บนอ้อมแขน พลางเขี่ยปลายจมูกหยอกล้อ“ชวนเอ๋อร์ โตเป็นหนุ่มแล้วนี่นา”จางหลินชวนยิ้มตาหยี “ท่านหมอหลี่ คิดถึงชวนเอ๋อร์หรือไม่ขอรับ”“คิดถึงสิ คิดถึงมากเลยล่ะ”จางหลินจูและซวี่ฟางจิ้นยืนมองจางหลินชวนเจื้อยแจ้วกับท่านหมอหลี่ไม่หยุดปากก็ต่างส่งยิ้มให้กับภาพอันแสนสุข

  • เกิดใหม่เป็นบุตรีเศรษฐีผู้ตกอับ   บทที่ 29 แทนคุณชั่วชีวิต

    สองวันก่อน ณ ท้องพระโรงแคว้นอันอี้โอรสแห่งสวรรค์นั่งแผ่กลิ่นอายครั่นคร้ามอยู่บนบัลลังก์มังกรสีทองอร่าม ซวี่ฟางจิ้นถูกเรียกตัวเข้าเฝ้าพร้อมเหล่าขุนนางทั้งบู๊และบุ๋น“ซวี่ซื่อจื่อ”“พ่ะย่ะค่ะ” ซวี่ฟางจิ้นประสานฝ่ามือพลางค้อมศีรษะอยู่บริเวณกลางท้องพระโรงหน้าบัลลังก์“เจ้าสามารถกวาดล้างพวกหนักแผ่นดินออกไปได้อย่างแยบยล กลยุทธ์การศึกล้วนเป็นเลิศแม้อายุยังน้อย เช่นนั้นข้าจะปูนบำเหน็จให้แก่เจ้า”“ขอบพระทัยฝ่าบาท เพียงแต่บำเหน็จนี้สามารถทูลขอตามความต้องการได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”ขุนนางทั้งท้องพระโรงแตกตื่น รวมถึงบิดาของเขา ซวี่อ๋อง เหงื่อกาฬเริ่มเปียกโซมแผ่นหลัง ลูกชายตัวดีของเขากำลังจะก่อเรื่องอีกแล้ว ครั้งก่อนเขาต้องบากหน้าใช้ข้ออ้างสารพัดเพื่อยกเลิกงานหมั้นหมายกับท่านหญิงรั่วซี มาหนนี้บุตรชายตัวดีอยากได้บำเหน็จที่ตนต้องการ ทั้งที่ไม่เคยมีผู้ใดเคยร้องขอมาก่อน“จิ้นเอ๋อร์” เสียงทุ้มเอ่ยลอดไรฟันหมายปรามซวี่ฟางจิ้นทว่าซวี่ฟางจิ้นหาได้ใส่ใจ เขายังคงประสานฝ่ามือและทำหูทวนลมต่อไป อึดใจเดียวทุกคนก็ได้ยินเสียงตบเข่าดังฉาด ขุนนางทั้งซ้ายขวาที่ถ

  • เกิดใหม่เป็นบุตรีเศรษฐีผู้ตกอับ   บทที่ 28 จับกุม

    อรุณรุ่งมาเยือน จวนนายอำเภอกลับบังเกิดความอลหม่าน เมื่ออยู่ ๆ ก็มีหมายจากทางการเข้าจับกุมทุกคนต่างมารวมที่ลานกลางเรือน จางจางอิงที่ตื่นขึ้นบริเวณศาลาริมน้ำ กรีดร้องจนน้ำตาแทบเป็นสายเลือด ใบหน้าของจางจางอิงแดงเป็นจ้ำเพราะถูกบรรดาแมลงกัดต่อย ฟูมฟายไม่นานก็ถูกทหารสองนายมาลากตัวออกไป“ปล่อยนะ ปล่อยข้านะ พวกเจ้าเป็นใคร”“คุณหนู เจ้าอย่าดิ้นรนให้เปลืองแรง ยามนี้จวนนายอำเภอถูกล้อมไว้หมดแล้ว”จางจางอิงหน้าตื่น “หมายความว่าอย่างไร”นายทหารไม่ตอบอีก ทว่ากลับพานางถูลู่ถูกังมายังลานกลางเรือนร่วมอีกคนหนิงเจินเห็นหน้าบุตรสาวลายพร้อยประหนึ่งเสือดาวก็แตกตื่น แต่เรื่องที่น่าตระหนกยิ่งกว่าคือทั้งจวนนายอำเภอกระทำสิ่งใดผิดก็หารู้ได้ และผู้นำการจับกุมครั้งนี้ก็คือ ซวี่ซื่อจื่อ“อิงเอ๋อร์ นี่เจ้าเป็นอะไรไป”จางจางอิงหน้าบูด “ท่านแม่ ข้าเองก็ไม่ทราบ ตื่นมาอีกครั้งก็เห็นตัวเองนอนอยู่ที่ศาลาริมน้ำท้ายสวนโน่นเจ้าค่ะ”หนิงเจินผงะ หวนนึกถึงภาพเมื่อคืนก็บังเกิดความผวา “ละ…แล้วเมื่อคืนที่แม่เห็น ไม่ใช่เจ้างั้นหรือ”จางจางอิงหันขวับ “หมายความ

  • เกิดใหม่เป็นบุตรีเศรษฐีผู้ตกอับ   บทที่ 27 แผนการ

    บ่าวรับใช้นายหนึ่งเดินเข้ามาโน้มกระซิบข้างหูจางหมิ่น “นายท่าน คุณหนูยังไม่กลับเรือนเล็กเลยขอรับ”จางหมิ่นลอบมองท่าทางซึ่งเริ่มเมาได้ที่ของซวี่ฟางจิ้น ซื่อจื่อเองก็ไม่ได้มองหรือใส่ใจเขา จางหมิ่นจึงวางใจ“ส่งคนไปตามหานางให้ทั่ว เอาของสิ่งนั้นมาให้ได้”“ขอรับ”บ่าวบุรุษร่างโตถอยหลังค้อมศีรษะจากไป จางหมิ่นเหลือบมองภรรยาข้างกายเป็นนัยให้ทำตามแผนเสียที“ซื่อจื่อ ดื่มอีกหน่อยนะเจ้าคะ นาน ๆ ท่านจะได้มาเยือนที่นี่”ซวี่ฟางจิ้นมิได้ปฏิเสธเขายิ้มตอบพร้อมรับจอกสุรากระดกลงคอ ซวี่ฟางจิ้นดื่มสุรามากเกินไป ยามนี้สติของเขากำลังพร่าเบลอ ร่างกายโอนเอนไปมาประหนึ่งหญ้าอ่อนต้องสายลมจางหลินจูผลัดอาภรณ์ใหม่ให้คล้ายกับสาวใช้ในจวน นางยืนหลบหลังสาวใช้อีกนางอยู่ไม่ห่าง เหลือบมองท่าทีเมาแอ้ของซวี่ฟางจิ้นอย่างนึกหงุดหงิดซื่อจื่อ ท่านนี่มีหัวไว้คั่นหูหรือไง ไยต้องทำตนเองให้เมาหัวราน้ำเพียงนี้กันภารกิจช่วยเหลือผู้มีพระคุณของจางหลินจูดูเหมือนจะเกิดอุปสรรคใหญ่เสียแล้ว เมื่อเห็นว่าซวี่ฟางจิ้นกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบา

  • เกิดใหม่เป็นบุตรีเศรษฐีผู้ตกอับ   บทที่ 26 หายตัว

    จางหลินจูกลับมายังจุดชมบุปผา ทว่านางไม่พบเฟยหมิงแล้ว“อาลี่ แล้วหัวหน้าผู้ตรวจการเล่า”“คุณหนู ท่านมาแล้วหรือ ไม่นานมานี้ท่านหญิงรั่วซีถูกงูกัดเจ้าค่ะ”จางหลินจูตกใจ “ท่านหญิงเป็นอันใดมากหรือไม่ แล้วยามนี้นางอยู่ที่ใด”“นายท่านตามหมอมาแล้วเจ้าค่ะ และตอนนี้หัวหน้าผู้ตรวจการก็กำลังพาท่านหญิงไปส่งที่จวน”จางหลินจูถอนหายใจโล่งอก ครั้นเหลือบมองอีกด้านก็เห็นบุรุษร่างสูงเดินตรงเข้ามาไม่ห่าง ทั้งหมดเป็นเพราะเขาทำให้นางต้องผิดนัดกับเฟยหมิง หนำซ้ำท่านหญิงรั่วซีเกิดเหตุขึ้นทั้งที่นางมีวิชาแพทย์ติดตัวแต่กลับช่วยสิ่งใดไม่ได้เลย“เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ” ซวี่ฟางจิ้นเอ่ยถามซูลี่สะดุ้งโหยง “เอ่อ…ซื่อจื่อ เมื่อครู่ท่านหญิงถูกงูกัดเจ้าค่ะ”ซวี่ฟางจิ้นเหลียวมองผู้คนในงานที่หลงเหลือบางตา แต่มิได้แตกตื่นเช่นคราแรกแล้ว “นางเป็นไงบ้าง”“ท่านหญิงปลอดภัยแล้วเจ้าค่ะ หัวหน้าผู้ตรวจการกำลังไปส่งที่จวน”คิ้วเข้มเลิกขึ้นหนึ่งฝั่ง เขาพอทราบความสัมพันธ์สองคนนี้มาบ้าง ดูเหมือนเขาคงไม่ต้องหวาดระแวงเรื่องหมั้นหมายของตนเพียงนั้นแล้วจางหลินจูยื

  • เกิดใหม่เป็นบุตรีเศรษฐีผู้ตกอับ   บทที่ 25 สับสน

    ค่ำคืนนี้ยังหลงเหลือแขกอีกมาก เพราะหลายคนล้วนอยากชื่นชมผการ้อยราตรีด้วยกันทั้งสิ้น เนื่องจากจวนซวี่อ๋องอยู่ไกลถึงหัวเมืองใหญ่ จางหมิ่นจึงให้บ่าวรับใช้ตระเตรียมห้องหับเพื่อต้อนรับแขกคนสำคัญโดยเฉพาะ ส่วนคนอื่น ๆ ต่างก็อยู่ไม่ไกลจากจวนนายอำเภอมากนัก จึงไม่ได้เกิดปัญหาต่อการเดินทางยามกลับเรือนเวลามืดค่ำแต่อย่างใด“จูเอ๋อร์”จางหลินจูสะดุ้งตัวโยนเมื่อได้ยินเสียงทุ้มดังมาจากเบื้องหลัง เสียงอันคุ้นเคยนี้เป็นเหตุให้จิตใจของนางระส่ำระสาย มือที่ถือกล่องขนมหวานเอาไว้สั่นระริกจางหลินจูได้ยินเสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ร่างระหงยังคงหยุดนิ่งอยู่ที่เดิมและไม่กล้าขยับ กระทั่งลมหายใจอุ่น ๆ เป่ารดใบหูเล็ก จางหลินจูก็ผละห่างจากเขา“ซะ…ซื่อจื่อ ท่านมีอันใดเจ้าคะ ไยจึงไม่อยู่ในงานหรือ”นัยน์ตาคมหรี่ลงเล็กน้อย เขาไม่ได้ตอบคำถามของนาง เพียงมองไปยังกล่องขนมที่จางหลินจูถือเอาไว้“แล้วเจ้าเล่า เหตุใดมาอยู่ตรงนี้ผู้เดียว”“ข้าก็แค่มาเอาของเจ้าค่ะ”“ของที่ว่าคือขนมนั่น ซึ่งเจ้าทำให้หัวหน้าผู้ตรวจการเฟยงั้นหรือ”จางหลินจูกลืนน้ำลายหนืดเหนียวลง

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status