Share

เขาคนนั้น
เขาคนนั้น
Author: เกศิณีแอดมินสกั้ง

อารัมภบท

last update Last Updated: 2025-05-15 00:07:03

เพล้ง!    

เสียงหล่นแตกของกระเบื้องจากห้องข้างๆทำอินถาสะดุ้งตื่น ดีดตัวจากการนอนหงายเป็นนั่งหลังตรงทั้งที่ยังไม่ลืมตา เสียงถอนหายใจแรงถูกพ่นตอนเห็นเวลาตีสี่

“วันนี้กลับมาช้ากว่าปกตินะ..”

ก่อนจะทิ้งตัวลงหลับต่อก็หลังจากพึมพำพร้อมยิ้มกว้าง

หกโมงกว่า..

เสียงโทรศัพท์ปลุกให้ตื่นอีกครั้ง น่าแปลกคราวนี้คนบนเตียงกลับหงุดหงิด ขณะควานหาเสียงนั้นใต้ผ้าห่ม เมื่อคืนเธอผล็อยหลับกลางคัน ยังไม่ทันได้วางมันตรงที่ประจำ โต๊ะข้างเตียง

และเมื่อเห็นเบอร์โทรเจ้าของสายเรียกเข้า...

“ฮัลโหล~ ค่า”

(วันนี้วันเกิดหัวหน้า แผนกเราจะรวมเงินกันซื้อของขวัญ แกโอนเงินมาเลยนะ)

ฮะ?!

แค่ปลุกให้ตื่นทั้งที่กำลังหลับสบายและเป็นวันหยุดก็รู้สึกว่าเสียมารยาทจะแย่แล้ว ยังไม่พอยังจะมาพูดเรื่องเงินแต่เช้าอีก?!

อินถาแยกเขี้ยวใส่โทรศัพท์ ผุดลุกขึ้นนั่งขัดตะหมาด

ด้วยสภาพผมเผ้ายุ่งเหยิงปรกหน้า จำต้องเสยมันขึ้นไปลวกๆอัตโนมัติ บวกใจร้อนรุ่มใคร่ตะโกนด่ากราดให้สาแก่ใจ ทว่าทำได้แค่นั้นเพราะคนในสายไม่ใช่คนที่เธอจะกระทำอย่างที่คิดได้ แม้ในใจอยากจะด่าสุดๆก็ตาม

เดี๊ยะ!!!

“ได้ค่ะพี่ติ๋ว เท่าไหร่คะ”

(คนละสี่พัน)

“ฮะ?!”

ปลิดทิ้งเลยจ้ะ

ราวกับกระดกเครื่องดื่มชูกำลังจนหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง

(ตกใจอะไรขนาดนั้นฮะ)

ปลายสายกลั้วหัวเราะ ต่างจากเธอลอบกลืนน้ำลายลงคอก้อนใหญ่

“ตกใจสิพี่ อะไรคือของขวัญ รถเรอะ? ทำไมมันแพงนักล่ะ”

(เอ้อ เป็นความคิดที่ดี ที่จริงน่าจะซื้อรถ)

“ประชด~ ว่าแต่แผนกเรามีตั้งสิบกว่าคนไม่ใช่รึ”

(ก็ใช่ไง นี่ยังไม่พอนะ พี่ยังต้องออกส่วนที่เหลือไปอีก ที่ยัยเมย์ไปเลือกมาคือระดับพรีเมียม)

“แล้วพี่ก็เห็นด้วย?”

(อืม..)

“โธ่พี่ติ๋ว พี่ก็รู้เมย์มันมีความเป็นอัตตาสูงขนาดไหน ให้มันเลือกก็ตายกันพอดีสิ”

อินถาโวยวาย เหลือบตามองบนสลับกับการเต้นร่าบนเตียง รู้สึกถูกรบกวนการนอนก่อนหน้าเป็นเรื่องเล็กไปโดยปริยาย นี่สิเรื่องใหญ่ยิ่งกว่า เพราะมันกำลังจะลามปามมารบกวนเงินอันน้อยนิดที่เหลืออยู่ในบัญชี ซึ่งจะต้องใช้ให้พอถึงสิ้นเดือน

(ทีแรกพี่ก็ไม่เห็นด้วยหรอก แต่เมย์มันบอกว่าของที่เลือกมาจะต้องกินใจหัวหน้าแน่ๆ พี่เห็นก็ว่ามันจริง ก็เลยเอ้า..โอเค เผื่อจะมีผลต่อโบนัสปีนี้)

เหรอ....

“เข้าใจคิดนะพี่ หัวหน้ากินใจ แต่เรากินแกลบเนี่ยนะ มันคุ้มตรงไหนกัน”

(แกก็นะ..เข้าใจพูด)

ปลายสายเสียงอ่อน เริ่มคิดตามลูกน้องฝ่ายนี้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไปตกลงปลงใจกับลูกน้องฝ่ายโน้น ส่อแววอย่างเห็นได้ชัดว่าหัวหน้าของเธอไร้ความเป็นผู้นำสุดๆ หญิงสาวส่ายหัวเอือมระอา

“พี่ บอกตามตรงนะ เงินที่เหลืออยู่ตอนนี้ไม่พอใช้อ่า ขืนให้พี่ไปซื้อของขวัญให้หัวหน้า ครึ่งเดือนที่เหลือถาต้องกินกระดุมแน่ๆเลย ทิ้งถาสักคนได้ไหมพี่ หัวหน้าจะไม่ปลื้มก็ไม่เป็นไร ปกติก็ไม่ค่อยชอบขี้หน้าถาอยู่แล้ว”

(ไม่ได้!)

กีรติหรือติ๋วเกือบจะหลวมตัวตามลูกน้องอยู่แล้ว ถ้าไม่ติดประโยคล่าสุดที่ว่าไม่เข้าหูหล่อน ให้กลายเป็นนางมารร้ายขึ้นมาทันที

(เด็กของพี่จะต้องเป็นคนที่รักหัวหน้าทุกคน!)

“เอ่อ..”

อะไรวะ..

ทั้งที่หัวหน้าไม่ต้องรักเราก็ได้นะหรือ? ยุติธรรมตรงไหนก่อน คำนี้คิดได้แค่ในใจ

อินถาเก็บความรู้สึก อึดอัดสุดตรงที่ไม่สามารถเผยธาตุแท้ได้เลย ทำได้แค่สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ถอนออกมาให้เบาที่สุด แสร้งขำกลบเกลื่อน

“แหะๆๆ อันที่จริงไม่ต้องทำเพื่อถาขนาดนั้นก็ได้พี่ติ๋ว ถ้าเขาจะรักยืนเฉยๆเขาก็รักนะพี่”

(อย่ามาตลก พี่ไม่ใช่เพื่อนเล่น)

“เอ๋า ก็ไม่เคยคิดว่าเป็นเพื่อนเล่นหรอก และที่พูดก็ไม่ได้เล่นด้วย ไอ้เรื่องของขวัญ วันกงวันเกิดที่มันนอกเหนือจากงานอะไรเนี่ย มันควรเกิดขึ้นจากความสมัครใจของลูกน้องไหมอะ เนี่ยๆ อีก 2 อาทิตย์จะต้องผ่อนรถ จ่ายค่าห้อง”

(ก็เพราะเช่าคอนโดแพงแบบนั้นไง แกเลยขาดสภาวะคล่อง ขาดอิสระทางการเงิน)

“อ่าวติ๋ว เอ๊ยพี่ติ๋ว ไหงพูดแบบนั้น ถาก็พอใจของถาแล้วปะ กับเงินเดือนที่ได้และความเป็นอยู่ มันสะดวกสบายถา ที่ไม่เกี่ยวกับใครอื่น ใครจะไปรู้ล่ะ ว่านอกจากการทำงานให้ถูกใจ จะต้องเอาใจด้วย ตลก”

(เอาเถอะๆ ขี้เกียจเถียงกับแกแล้ว ว่ามาจะเอายังไง แต่บอกไว้ก่อนเพื่อนคนอื่นสมัครใจกันทุกคน ยกเว้นแกนะตอนนี้)

อืม...

เอาเป็นว่าถ้าไม่มีเรื่องไร้สาระที่พวกแม่งนี้ทำอยู่ การใช้ชีวิตให้รอดของแต่ละเดือนก็สมบูรณ์แบบทุกประการ ไม่ต้องขวนขวายหา ไม่ต้องทะเยอทะยาน และไม่ต้องดิ้นรน ชีวิตก็จะอยู่บนเส้นกราฟที่ไม่มีการดึงขึ้นให้สูง หรือร่วงลงต่ำเลย

“อันนี้พี่ถามถาเหรอ”

(แต่ต้องไม่ใช่ที่แกขอเมื่อกี้นี้นะ ไอ้เมื่อกี้มันไม่ได้)

“อ่าว”

(มันไม่ได้ถา เข้าใจไหม? ไม่ได้จ้ะหนู)

“งั้นถายืมเงินพี่ติ๋ว”

(อ่าว..)

“อ่าวไม่ได้พี่ มันคือทางเลือกสุดท้าย ไหนๆพี่จ่ายส่วนเกินไปแล้ว งั้นรบกวนพี่ช่วยรวมของถาไปด้วยละกัน..”

(แต่ว่า..)

“รบกวนด้วยนะพี่ ขอบคุณค่ะ”

อินถามัดมือชก ตัดบทตัดสายไม่สนใจเสียงคัดค้านทันควัน พร้อมปิดเครื่องหนีทันที วันนี้เป็นวันหยุดของเธอ ถึงจะถูกด่าล้านพยางค์ ถ้าไม่รับสาย ก็ไม่ได้ยินหรอก

“ค่อยไปแสร้งบีบน้ำตาวันทำงานก็แล้วกัน..”

เธอพึมพำท่าทางห่อเหี่ยว ถอนใจแรงเตรียมล้มตัวนอนต่อ ทว่าบางอย่างกลับทำให้ต้องชะงักค้าง เบิกตาโพลงฟื้นคืนชีพอีกที

มันคือกลิ่นโชยมาของควันบุหรี่ข้างห้อง อิทธิพลของมันสามารถเปลี่ยนจากการถอนหายใจของเธอเป็นการสูดลมหายใจเข้าปอดแทนได้ ทั้งที่เป็นมลพิษ

ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นและดีใจได้เท่ากับ..ตอนนี้ที่เวลาหกโมง

เขาคนนั้นยังอยู่ อยู่ในห้องของเขา!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เขาคนนั้น   บทที่ 15 คำถามง่ายๆ

    ในห้องคอนโดขนาดใหญ่ปกคลุมไปด้วยอุณหภูมิเย็น ถูกเปิดราวกับต้องการดับร้อนของคนทั้งคู่ ซึ่งกำลังกอดรัดฟันเหวี่ยงกันอย่างเมามันอยู่บนเตียง แน่นอนพวกเขาไม่มีเสื้อผ้าสักชิ้น ชุดชั้นในของฝ่ายหญิงก็ไม่มีเหลือ ตกหล่นกระจัดกระจายเกลื่อนพื้น ผสานเสียงหอบกระเส่าเป็นอีกหนึ่งของพร็อพประกอบ ให้ฉากโดยรอบดูขลังอีกเท่าตัว ทว่าความร้อนระอุจากการสร้างขึ้นของคนทั้งคู่ ที่มีความหนาวเย็นจากเครื่องปรับอากาศนั้น ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย ไม่พอเหมือนจะหมดประสิทธิภาพไปเลยด้วย“อือ..เบาๆสิคะ”ซ้ำอารมณ์กระสันรัญจวน เมื่อเปรียบเทียบกับเม็ดเหงื่อที่พรั่งพรูเกาะอยู่บนเนื้อตัวทั้งสองฝ่าย ยังเยอะกว่าเลย“ขอโทษครับ..”หน้านิ่วคิ้วขมวดไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความเจ็บปวดปานใกล้ใจจะขาด แต่มันคือความเร้าใจที่เก็บเอาไว้ไม่ไหวของเขา ผู้ควบคุมชายหนุ่มผงกหัวขึ้นมาเอ่ยเสียงแหบ หลังใช้ปากถูไถเนินเต้าอูมอวบแล้วเผลอลงฟันอย่างมันเขี้ยวอินถาแหงนหน้าขึ้นสุด จนลำคอเห็นเส้นจังหวะคู่กิจกรรมบรรเลงเพลงรักแบบถึงพริกถึงขิง อย่างไร้ความปราณี เธอเสียวซ่าน และสิ่งนั้นทำให้เผลอใช้เล็บจิกลงไปบนแผ่นหลังขาวแข็งแกร่งน่าแปลกหญิงสาวยืนอยู่ตรงนี้ มุมห้องฝ

  • เขาคนนั้น   บทที่ 14 เพื่อนสนิทที่รู้สึก

    หลังจากนั้นเขาก็เดินกลับห้องของตัวเอง ปล่อยให้เธอนอนโดดเดี่ยวอยู่บนฟูกสายเรียกเข้านับร้อยสาย แจ้งเตือนจากข้อความอีกมากมายทำเขาหงุดหงิด หลังเปลี่ยนโหมดห้ามรบกวนหลายชั่วโมง ซึ่งหากเขาติดต่อกลับหรือตอบข้อความทุกแจ้งเตือนมีหวังได้นอนเช้าเป็นแน่ จึงจำต้องเลือกเพียงบุคคลที่สำคัญเท่านั้น(กว่าจะโทรกลับมานะมึง)ความตึงเครียดเกิดขึ้นทันทีนับจากได้ยินเสียงปลายสาย ราล์ฟทิ้งตัวบนโซฟา แผ่นหลังพิงพนักกลับไม่ได้ช่วยให้ผ่อนคลายขึ้น“เพิ่งจะห่างกันมา”เสียงทุ้มแหบพร่าแสดงให้รู้ถึงความเหนื่อยจากการต้องแบกรับน้ำหนักของคนเมาคนหนึ่งพาดบ่า ทว่าปลายสายไม่ได้คิดเช่นนั้น(อย่าบอกนะ..จัดมาแล้ว?)เขามีความถ่อยเป็นของตัวเอง ที่คนอย่างราล์ฟมักจะหลีกเลี่ยงด้วยการเงียบทุกครั้งไป แล้วเรื่องนั้นจะถูกเปลี่ยนอัตโนมัติ ไม่สนใจผลลัพธ์หรือคำตอบ“มีอะไรหรือเปล่าครับ”(ไม่ได้สำคัญมากหรอก แค่จะเตือนว่าอย่าพาผู้หญิงเข้าห้อง ถ้าจะเที่ยวจะกินไปหาที่อื่น ห่างจากอีนี่สักหน่อย ไม่อย่างนั้นมันจะไม่ไว้ใจมึง)“ผมรู้ละน่า”(นี่มึงหงุดหงิดกูเรอะ)น้ำเสียงราล์ฟเปลี่ยนไป ห้วนกระด้างจากเดิม อย่างที่ปลายสายว่า อยู่ๆข้างในจิตใจเขานึกฉุนเฉี

  • เขาคนนั้น   บทที่ 13 แผนเริ่มต้น

    แสงไฟอยู่บนทั้งเชิงเทียน และลอยน้ำยิ่งยกระดับความหรูหรามากขึ้น อินถาไม่รู้แสงสว่างตรงจุดนี้เป็นตัวช่วยขับเสน่ห์ให้กับเธอ ทั้งความสวยและสดใสเขย่าใจคนมอง เลี่ยงเปรียบเทียบกับผู้หญิงหลายคนที่เคยผ่านมาและพามาไม่ได้ หากแต่ข้อเปรียบเทียบนี้จะต้องเก็บไว้ในใจ ให้มีเพียงเขาเท่านั้นที่ได้ยิน ภายใต้ใบหน้านิ่งเรียบนั้นสีหน้าอินถาแลดูเปลี่ยนทันที หลังได้ยินคำตอบของคำถามที่ตนใคร่รู้ โชคดีบรรยากาศตอนกลางคืนซึ่งเต็มไปด้วยหมู่ดาวท่ามกลางท้องฟ้ามืดมิด ลับกับเสียงไฟจากดวงกลมรอบๆร้านจงใจจัดแต่งให้ดูดีมีสไตล์มากขึ้น และลมเบาหวิวพัดโชย ทำให้การเกี่ยวเส้นผมมาทัดหู ยามปลิวว่อนปกปิดหน้า ไม่ได้ถูกมองว่าเคอะเขินจนดูแย่ แต่ดูน่าค้นหาไปอีกแบบผู้หญิงตรงหน้า เป็นคนเดียวที่ทำให้เขาเสียอาการ ในความสดใสถึงขนาดพกติดสมองไปด้วยทุกที่ ช่วงไหนที่ว่างช่วงนั้นเรื่องราวของเธอจะมาแทรกแซง“ว่ายังไงคะ ได้ไหม? หนูยังไม่ให้คำตอบพี่เลย”ดวงตาคู่สวยเหลือบขึ้นมาจากจานอาหาร หลังถูกยกเสิร์ฟได้สักพัก พร้อมเม้มริมฝีปากแนบสนิท ในหัวปั่นป่วนพอๆกับท้องน้อย ถ้าสมมุติปฏิเสธเขาจะเป็นอย่างไร?ร่างบางคิดหนัก พยายามทบทวนความเป็นจริงระหว่างระยะเ

  • เขาคนนั้น   บทที่ 12 ภาพจำที่ต่าง

    ชายหนุ่มในคราบเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงขายาวสีดำ กับกระดุมเสื้อถูกปลดออกไปแล้วสองเม็ด ไม่ได้ทำให้ดูแย่ลง กลับกันทำให้เข้าใจง่ายว่าเขาเหนื่อยมาจากงานที่ทำด้วยซ้ำ และการเผยช่องโหว่ของแผงอกเป็นการคลายความร้อนกับความอึดลงอย่างหนึ่งอินถายิ้มน้อยๆเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้า โดยระดับความสูงของเธอเทียมหน้าอกของพอดิบพอดี เพราะระดับต่างกันจึงทำให้ต้องแหงนหน้าขึ้นไปคุย“เอ่อ..” สายตามองผ่านไปยังรถของตัวเองก่อน จึงจะลากกลับมายังใบหน้าหล่อเหลาอีกครั้ง “คุณมารออหนูเหรอคะ”“ใช่ค่ะ”ตอบทันควันแบบไม่ได้คิด คนชะงักไปไม่ถูกกลายเป็นคนที่ถาม เขาเป็นผู้ชายคนแรกที่ทำให้เธอไม่เป็นตัวของตัวเองรอบที่ล้าน!“รอทำไมคะ แล้วรู้ได้ยังไงว่าหนูยังอยู่ที่นี่”“เอาคำถามไหนดี ก่อนหรือหลัง”ต่างจากเขาที่ดูสบายๆ ราวกับช่ำชองเรื่องนี้มานาน ดูไม่ประหม่า ควบคุมสถานการณ์ได้ดีและอยู่หมัดนาทีนี้อินถารู้สึกถึงความเล็กภายในตัวเองที่เล็กยิ่งกว่าอะตอมภายใต้เซลล์ประหนึ่งควาร์ก (Quark)ดูเป็นผู้ใหญ่ใจดี ที่ไม่ได้ดีมากขนาดนั้น เข้าถึงง่ายแต่ไม่เปิดโอกาสให้สนิทเอาเป็นว่า เขาคือผู้ใหญ่ที่มีเสน่ห์และน่าค้นหาคนหนึ่ง หากเปรียบด้วยผู้คนตลอดชีวิตยี่

  • เขาคนนั้น   บทที่ 11 ดักรอ

    เช้าตรู่ของการตื่นนอนที่ไม่ปกติ เนื่องจากตื่นก่อนเวลาเป็นชั่วโมง แต่พอเดินออกมายังห้องรับแขกที่มีโซฟา กลับพบว่าอีกคนตื่นเร็วกว่า แถมไม่อยู่ตรงนั้นแล้วอินถาถอนหายใจพรืด หมุนตัวเดินกลับไปที่เดิม เพื่ออาบน้ำแต่งตัว ก่อนจะกลับออกมาใหม่อีกครั้งก็ตอนฟ้าสว่าง จังหวะนั้นกำลังจะเดินผ่าน เหลือบตามองเห็นกระดาษโน้ตสีเหลืองวางอยู่บนโต๊ะโดยมีรีโมตแอร์ทับไว้'ขอบคุณมากค่ะ ไว้คราวหน้าพี่จะพาไปทานข้าวนะ'สาวเจ้าเลิกคิ้วเอียงคอ ทำไมต้องพาทานข้าว เธอไม่ได้อดอยากสักหน่อย พลางสูดลมหายใจยิ้มกว้าง เตรียมตัวไปทำงานต่อ ก่อนจะเดินมุ่งหน้าสู่กล่องลิฟต์ไม่วายยืนจ้องมองประตูห้องของเขา คิดไปเองว่าชายหนุ่มอาจจะอยู่ในนั้น แต่ต้องขมวดคิ้วภายหลังเมื่อนึกขึ้นได้ว่า..“คีย์การ์ดเขาหายนี่นา..”จึงจะส่ายศีรษะหนีจากความคิด มุ่งสู่ที่ทำงานตามเดิมที่ทำงาน...แปะ!“ฮึ่ย”คนตัวเล็กบนเก้าอี้สำนักงานสะดุ้ง ให้กับฝ่ามือใหญ่ที่จงใจปะทะเข้าหากันเพื่อปลุกให้ตื่นจากการเหม่อลอย"เป็นอะไรเนี่ย"เจ้าของมือคือนักรบ เขาถามก่อนคำตอบของเธอจะเป็นต้นเหตุของรอยยิ้มที่หายไป“รบ เมื่อคืนเขามานอนห้องฉัน”“ฮะ” ไม่พอ แถมหัวคิ้วขมวดเข้าหากันด้วย “

  • เขาคนนั้น   บทที่ 10 อ่อย

    เสียงร้องมาพร้อมกับเท้าสะดุด ผลของการเดินเร็วจนเกินไป แล้วหยุดชะงักกลางคัน เพราะภาพตรงหน้าคือผู้ชายคนหนึ่งยืนเปลือยล่อนจ้อนอยู่หน้าไม่อาย!สามารถใช้คำนี้ได้เลยอินถาอ้าปากค้างมองตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนขึงตาโตก็ตอนเห็นตรงนั้นประเจิดประเจ้อ“เหวอ!”เธอเบือนหน้าหนีไปทางอื่น หลังตั้งสติได้ว่าไม่ควรจ้องนาน กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ สาบานเลยว่าสิ่งที่เห็นเต็มสองตาเมื่อครู่ จะไม่มีวันลืม“ขอโทษค่ะ พี่ไม่คิดว่าหนูจะกลับมาเร็ว”แล้วถ้าเดินกลับมาช้าจะเป็นยังไงเล่า จะล่องหนหรือหายตัวไปนะหรือ“คุณมีคาถาหายตัวได้รึไงกัน”ร่างบางกัดฟันกรอดเอ่ยเสียงแผ่ว ยังคงยืนหันหลังให้เขาอยู่ คนถูกถามกระตุกยิ้ม กลั้นขำ“ก็จะหันหลังให้ จะไม่ยืนโจ่งแจ้งแบบนี้”“ห๊า..” ถึงกับลืมตาโพลง คิดตามที่เขาพูด เมื่อคิดยังไงก็ไม่ใช่เหตุผลถึงกับคอตก “คุณก็รอหนูกลับมาก่อนก็ได้นี่ ของสงวนแบบนั้นไม่ควรเอาออกมาให้เห็นกันง่ายๆรู้ไหมคะ”“ไม่เป็นไรค่ะ พี่ไม่ถือ”What??!อินถากะพริบตาถี่ เขาโดนซ้อมจนสมองตีลังกากลับหลังไปแล้วกระมัง“แต่ถาเป็นผู้หญิงนะคะ”“ถ้าอย่างนั้นพี่ขอโทษก็แล้วกัน ขอผ้าเช็ดตัวให้พี่ได้หรือยัง”“ยะ อย่าเข้ามานะคะ”สาวเจ้

  • เขาคนนั้น   บทที่ 9 พาผู้ชายขึ้นห้อง

    “เฮ้ยคุณ!”เธอปล่อยถุงอาหารหลุดมือ พร้อมขึงตาขึ้นกว้าง มากกว่าปกติ ความตกใจลืมหมดแม้ความเย็นชื้นจากสายฝนที่กระหน่ำเทลงไม่ขาดสาย ไม่เหลือพื้นที่แห้งบนเสื้อผ้า แล้วนิ่งทำอะไรไม่ถูก จนเห็นร่างนั้นเริ่มขยับเขยื้อนอีกครั้ง ถึงจะถลาเข้าไปช่วยประคองดึงให้ลุกขึ้นมาส่วนเขาพยายามแหงนหน้า ใช้ม่านตาพร่ามัวที่สายฝนเม็ดใหญ่พรั่งพรูใส่ไม่หยุดมอง ก่อนนิ่วหน้าตอนเธอทำเขาเจ็บ บางทีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการปฐมพยาบาลก็สำคัญ เสียดายที่ไม่จดจำสมัยได้เรียน“ตัวคุณหนักมาก ฉันคนเดียวไม่ไหวหรอก ไปตามคนมาช่วยดีกว่า”หมับ!แขนเรียวถูกฉุดรั้งทันทีที่พูดจบ ด้วยแรงเหลืออยู่เพียงน้อยนิดของเขา“คะ?”ก่อนอ้าปากค้าง หลังเขาส่ายหน้าท้ายที่สุดเป็นเธอที่ต้องพยายาม ดิ้นรนพยุงพาไปยังรถจอดอย่างทุลักทุเล ความหนักของเซลล์ทุกส่วนเป็นอุปสรรคให้ต้องกัดฟันกรอด หลังใช้เท้ายึดพื้นให้มั่นคง เพื่อทรงตัวจังหวะหิ้วปีกเขาลุก“ค่อยๆนะ”“เกิดอะไรขึ้นคะ คนพวกนั้นเป็นใคร มาทำร้ายคุณทำไม”อินถาหันไปถาม ดึงเข็มขัดมาคาดลำตัว เตรียมทำหน้าที่เป็นพลขับ บวกกับความสับสนพยายามไขข้อข้องใจ ให้เหมาะสมไม่คุ้มเสียแก่การตัดสินใจช่วยเหลือเขาด้วยตัวเองแ

  • เขาคนนั้น   บทที่ 8 ฟ้าฝนเป็นใจ

    ยิ่งใกล้ไตรมาสสุดท้ายงานยิ่งล้นมือ หลายวันมานี้อินถาไม่มีเวลาแม้แต่จะเข้ายิม หรือโผล่หน้าสดไปให้พนักงานร้านกาแฟได้เห็น ชีวิตมีอยู่แค่สองทาง คือทางกลับบ้านกับทางไปทำงาน และสายทุกวัน“ฮ๊าววว~”เสียงหาววอดผสานกับเสียงเสียดสีของก้นแก้วกาแฟเลื่อนผ่านโต๊ะเนื้อไม้มาจอดอยู่ตรงหน้า สาวเจ้าเหลือบมอง พยักหน้ายิ้มบางๆแทนคำขอบคุณ“ขอบใจนะ”“เมื่อคืนดึกหรือ”นักรบทิ้งตัวลงนั่งฝั่งตรงข้าม ในมือก็ถืออยู่อีกแก้วหนึ่ง“ใช่~ พี่ติ๋วอะดิ แกบ้าจี้อะไรไม่รู้โทรมาสั่งให้แก้งานกะทันหัน กะจะไม่รับสายแล้วนะ แต่ก็กลัวจะเป็นเรื่องด่วนหรือเป็นแกเองที่ขอความช่วยเหลือ”ได้ทีอินถาบ่นใหญ่ ทว่าสายตาไม่ได้จับจ้องคู่สนทนา แต่หรี่ต่ำมองแก้วในมือตัวเอง มองควันที่พวยพุ่งจากความร้อนนั้นอยู่ดีๆในหัวเกิดมีภาพแห่งความทรงจำเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านทำไมกันนะ กับอีแค่ยาไม่กี่แผง ถึงได้มีอิทธิพลทำให้เธอรู้สึกดีได้มากขนาดนี้ ทั้งๆที่เขานั้นก็มีเจ้าของอยู่แล้วอินถาเผลอยิ้ม แอบเข้าข้างตัวเอง แต่ปัจจุบันเขานั้นหายไปเลย ไร้วี่แววแม้แต่เงา เสียงเงียบราวกับไม่มีใครอยู่ในห้องข้างๆในขณะเดียวกันก็ตกเป็นเป้าสายตาของเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อไปด้วย เ

  • เขาคนนั้น   บทที่ 7 กลิ่นเทาเขาคิวปิด

    อินถายืนสงบนิ่งให้กับความสับสนของตัวเองที่ได้มาอย่างไม่ทันตั้งตัว ในมือชูถุงยาขึ้น มองมันราวกับเป็นของวิเศษแวบมาจากทิศทางใดไม่รู้สักแห่ง ก่อนจะหันซ้ายหันขวามองหาเขา เจ้าของผู้กระทำนำพา ทว่าทั้งทางเดินพบแต่ความว่างเปล่าความรู้สึกกระดี่ได้น้ำถูกเก็บไว้ในที่ตื้น ชนิดหากไม่รีบทำอะไรสักอย่างอาจโผล่พ้นออกมาให้เห็นได้เนื่องจากยากต่อการควบคุม เธอถึงได้เร่งเปิดประตูแล้วพาตัวเองเข้าไปในห้องนั้น เพื่อกระโดดโลดเต้น ดีใจประหนึ่งถูกรางวัลฉลากกินแบ่งรัฐบาล จิตใต้สำนึกบวกสัญชาตญาณกระซิบบอกให้เข้าข้างตัวเอง สิ่งนี้ที่ถืออยู่อาจเป็นของเขาผู้ชายที่แอบชอบไม่รอช้าหญิงสาวรีบคลี่ปมของมันทันที ก่อนจะหยิบออกมาดูทีละชิ้น เมื่อพบว่าเป็นยารักษาแผลทั้งภายในและภายนอก ก็ขึงตาโต“พระเจ้าคะ..” มือผสานเข้าหากัน แหงนหน้าขึ้น พร้อมยิ้มปลื้มดุจน้ำตาจะไหล ซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระเจ้าจูปิเตอร์ “ทรงได้ยินคำขอของอินถาแล้วสินะคะ อินถาสามารถตัดชุดแต่งงานรอได้เลยใช่ไหม งื้อ..”ความตื่นเต้นถึงขนาดหัวเราะดังลั่นห้องอย่างลืมอาย จากนั้นจึงจะเดินไปทิ้งตัวลงกลางเตียง“เฮ้อ สบายใจจัง...”แล้วเผลอหลับไปเพราะความเพลียในที่สุดด้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status