ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"เธอ รอแป็บนะ" ผมบอกคนในสายที่กำลังนั่งตาปรืออยู่คุยเป็นเพื่อนผม "อืม" เขาวางแมคบุ๊คลงบนที่นอน และพาร่างสูงเหมือนนายแบบเดินไปส่องตาแมวที่ประตูห้องพักด้วยความสงสัย เพราะเขาไม่ได้โทรไปสั่งอาหารหรือของแต่อย่างใด จะว่าเลขา รายนั้นก็พึ่งส่งข้อความมาบอกว่าขอออกไปช้อปปิ้งเมื่อครู่ "สวัสดีค่ะ คุณฟิล์ม" คนตรงหน้าสร้างความแปลกใจให้ผมไม่น้อย เพราะเธอเป็นคู่แข่งทางธุรกิจที่เดินทางมางานเดียวกัน เคยพบปะพูดคุยกันตามงานโดยไม่มีอะไรเกินเลย ถึงแม้ว่าเธอจะพยายามส่งสายตาอยู่หลายครั้งก็ตาม เธอสวยแต่บอกเลยว่าไม่ใช่สเปคผม รู้จักห้องผมได้ยังไงวะ? "ครับ" ร่างสูงตอบรับด้วยสีหน้านิ่งเฉย ไม่มีแม้แต่รอยยิ้มใดๆ "เมลพักอยู่ห้องข้างๆ นี่แหละค่ะ" "อ่อ ครับ" โลกกลมเกินไปมั้ง "คือเมลอยากชวนคุณฟิล์มไปดินเนอร์ด้วยกันค่ะ" "คือ ผมติดประชุม วันนี้คงไม่สะดวก" ผมคิดว่าการตอบปฏิเสธแบบนี้ดูสุภาพมากที่สุด เพราะคงต้องเจอกันอีกหลายงาน "งั้น ไว้พรุ่งนี้ก็ได้ค่ะ ห้ามปฏิเสธกันนะคะ" "อะ เอ่อ..." "จุ๊บ บายค่ะ" เธอคนนั้นกระโดดเข้ามากดจูบที่แก้มสากโดยที่ผมไม่ทันตั้งตัว ก่อนจะเดินกลับห้องตัวเองที่อยู่ข้างกัน แต่ยังหันมาสบตาอย่างเขินอายทิ้งท้าย จนผมต้องรีบปิดประตูหนีแล้วเดินกลับมานั่งบนเตียง ที่มีใครบางคนรออยู่ในสาย ไม่รู้เด็กแสบได้ยินอะไรบ้าง ทำไมถึงรู้สึกขนลุกแปลกๆ แบบนี้วะ "วางไปแล้ว?" คนตัวโตกดโทรหาคนน้องอยู่เกือบสิบครั้ง แต่ไม่มีวี่แววว่าเธอจะรับสายแต่อย่างใด แบตหมดก็ไม่น่าใช่เพราะเพิ่งชาร์ตไปชั่วโมงก่อน หรือว่าแบบนี้ที่เขาเรียกกันว่า...งานเข้า! จากที่เลื่อนไฟล์ทบินกลับเป็นวันพรุ่งนี้เช้าเพราะอยากไปเซอร์ไพรส์เด็กแสบ ก็ต้องกดเลื่อนไฟล์ทอีกครั้งเป็นเที่ยวบินที่เร็วที่สุดของคืนนี้ ใจเขามันร้อนเกินกว่าจะปล่อยให้เวลาล่วงเลยจนเธอเข้าใจผิดกันไปไกลกว่านี้ เพราะถ้าเป็นผม ผมก็คงรู้สึกและคิดไปต่างต่างๆ นานาไม่ต่างจากเธอ "ทำฉันเป็นบ้าได้ขนาดนี้นะ เด็กแสบ" เขาตรวจดูความเรียบร้อยของกระเป๋าอีกครั้งว่าไม่ลืมของสำคัญอย่างของฝากของมามี๊น้องสาวและของใครบางคน ก่อนจะหยิบเสื้อแจ๊คเก็ตหนังสีดำมาใส่ เตรียมพร้อมเดินทางไปสนามบิน แกร๊ก! "ไม่อยู่?" ความว่างเปล่าของห้องนั่งเล่นทำผมใจแป้ว ทิ้งกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ไว้ตรงทางเดิน ถือวิสาสะเปิดประตูห้องนอนเข้าไปหาหวังว่าเธอจะอยู่ในนั้น "หึ หลับขนาดนี้ ปล้ำซะดีมั้ย" ได้แต่คิดแค่นั้น ก่อนจะมุดตัวเข้าไปในผ้าห่มผืนใหญ่ทับร่างบางฝังหน้าเข้ากับอกนุ่มๆ สูดความหอมที่โหยหาเข้าเต็มปอด ค่อยหายเหนื่อยหน่อย "อุ้ย กรี๊ดด" "..." ตกใจอะไรขนาดนั้นวะ "คนหรือผี ฉันกลัวนะ" "ผี" "ฮือ พี่ฟิล์มอย่ามาจองเวรจองกรรมกันเลย เดี๋ยวน้องฝันทำบุญไปให้" เรียกพี่ซะด้วย คนตัวโตเงยหน้ามองคนน้องที่นอนหลับตาปี๋ไม่กล้าลืมขึ้นมามองหน้าพร้อมกับยกมือไหว้สวดมนต์หวังให้เขาหายไป จนเขาต้องยื่นนิ้วไปดีดหน้าผากมนเบาเบาด้วยความหมันไส้ ที่กล้าคิดว่าเขาเป็นผี ผีที่ไหนจะหล่อขนาดนี้วะ "..." เธอค่อยๆ ลืมตาปรับโฟกัสมองคนบนร่าง "มองให้ชัด" "ผีจริงๆ ด้วย" เสียงหวานตอบแผ่วเบา ก่อนจะเบือนหน้าหนีทำหน้านิ่งใส่ต่างจากเมื่อครู่ราวกับเป็นคนละคน "เดี๋ยวจะโดน" สองมือเล็กผลักหน้าอกแกร่งให้ลุกออกไปจากตัว จนเขาต้องใช้มือข้างหนึ่งรวบข้อมือเล็กทั้งสองข้างของเธอขึ้นไปเหนือหัว "ไหนบอกกลับพรุ่งนี้ไง โกหกกันหรอ" หน้างอนๆ ตาดุๆ ก็น่ารักเหมือนกันแฮะ "แล้วเด็กที่ไหนมันงอน" นิ้วยาวเกลี่ยเส้นผมข้างแก้มใสไปทัดใบหู ก่อนจะกดปากจูบปากเชิดๆ ให้หายมันเขี้ยว วางทาบไว้อย่างนั้น จุ๊บ "คระ ใครงอน ไม่มี" "โทรกลับมาทำไมไม่รับ" จุ๊บ หนึ่งคำถามหนึ่งจูบ... "มะ ไม่ได้ยิน" ป๊อก! "นี่ เจ็บนะ" คำตอบของเธอชวนให้นิ้วผมดีดหน้าผากมนอีกครั้ง ก่อนจะเลื่อนริมฝีปากขึ้นไปจูบปลอบประโลมให้หายเจ็บ "ไม่มีอะไรอย่างที่เธอคิด" เสียงแหบพร่ากระซิบแผ่วเบาข้างหู ใช้จมูกคลอเคลียแก้มนุ่มอยู่ไม่ห่าง เลื่อนขายกขาเล็กให้เลื่อนออกพอให้เขาทิ้งตัวลงไปได้มากขึ้น "เชื่อมั้ย" ฟอด "เชื่ออะไร" "เชื่อใจกันมั้ย" ฟอด "เจ้าชู้ขนาดนั้น" "นั่นมันเมื่อก่อนครับ" ผมพูดแก้ต่างให้ตัวเองเพียงเท่านั้น ก่อนจะปิดปากเล็กๆ ที่เตรียมจะต่อว่ากันให้กลืนทุกคำลงไป เปลี่ยนมาเป็นรับจูบที่แสนโหยหาจากผมแทน ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่เราทั้งสองคนนอนลิ้มชิมความหวานของกันละกัน ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเริ่มทำมือซุกซนปลดกระดุมเสื้อให้กันจนท่อนบนอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า ชวนให้มือหนาขยับเข้าไปสัมผัสก้อนนุ่มนิ่มขยำไปมาอย่างมันเขี้ยว "อ๊ะ เจ็บนะ" ปากร้ายๆ เลื่อนลงมาฟัดก้อนกลม แอบฝากรอยไว้จนร่างบางรู้สึกเจ็บ "ซี๊ด" ก่อนที่คนน้องจะเงยหน้าขึ้นมากัดซอกคอแกร่งเป็นการเอาคืนอย่างไม่ยอมแพ้ จากความโหยหาของเขาและเธอเปลี่ยนเป็นอารมณ์ที่พลุ่งพล่านจนเตียงกว้างกลายเป็นสนามรบระหว่างคนสองคน เขากลืนกินเธอทีละนิดให้หายคิดถึง ส่วนเธอก็ปล่อยใจไปกับเขาด้วยความเต็มใจ บอกให้เขารู้เป็นนัยนัย ว่าเธอเองก็คิดถึงเขาเหมือนกัน #กลัวจะลืมว่าพี่ฟิล์มเป็นคนแซ่บ❤️🔥"เธอหาคาเฟ่นั่งกัน" อยากเช็คอีเมล์สักหน่อย เพราะเลขาส่งข้อความมาให้ผมช่วยอนุมัติงานให้ด่วน เลยอยากไปหาที่นั่งอ่านเงียบๆ"คุณลุงเหนื่อยแล้วหรอ..." สองมือเล็กประคองแก้มสากบีบเล่นเบาเบาพร้อมน้ำเสียงหยอกล้อแววตาดูซุกซนเหมือนว่าผมแก่นักแก่หนา"เดี๋ยวจะโดน" จนผมต้องใช้หลังนิ้วเคาะที่จมูกเชิดรั้นไปหนึ่งทีระบายความมันเขี้ยวที่มี"งั้นไปที่นี่กันมั้ย รอดูน้ำพุด้วย" เธอเปิดรูปในมือถือให้ผมดูสถานที่ที่เธออยากไป"อืม"ผมและเธอเลือกใช้บริการรถไฟฟ้าเพื่อเดินทางไปห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลเพราะเธออยากไปขอพรที่น้ำพุแห่งความมั่งคั่งและรอดูการแสดงน้ำพุประกอบแสงเลเซอร์และเสียงเพลงอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่เธอไม่อยากพลาดกลัวจะมาไม่ถึง"ลุง รออยู่ตรงนี้นะ" หลังจากเดินขอพรครบสามรอบ เราก็พากันมาหาที่นั่งในคาเฟ่ ซึ่งผมเลือกนั่งมุมริมกระจกจะได้มองเห็นวิวด้านนอกมาก็หลายครั้งแล้ว แต่ผมยังไม่รู้สึกเบื่อเลยสักนิด อาจเป็นเพราะครั้งนี้มีเด็กช่างพูดอยู่เป็นเพื่อน มองอะไรก็เธอก็พาผมตื่นเต้นไปด้วยทุกอย่าง ชักอยากจะพาเธอใส่กระเป๋าไปกับผมทุกที่แล้วละซิ..."แล้วเธอ?""จะไปซื้อของฝากให้พี่แพทหน่ะ""อืม เอาบัตรไป
"จะไปไหน""ห้องน้ำ"เสียงทุ้มงัวเงียถามคนในอ้อมกอดที่ค่อยๆ ขยับตัวออกจากอ้อมแขน ก่อนจะยอมปล่อยให้เธอไปทำธุระส่วนตัว ส่วนเขาก็นอนรออยู่ที่เดิมรอเธอกลับมานอนกอดกันต่อ เพราะทั้งเขาและเธอพึ่งพากันนอนเมื่อตอนแสงพระอาทิตย์ส่องผ่านผ้าม่านมาให้เห็น"ไปคุยงานกี่โมง""สิบโมง"คนตัวเล็กกลับมามุดผ้าห่มผืนเดียวกับเขาอีกครั้ง ส่วนเขาจากที่นอนคว่ำหน้าก็พลิกตัวตะแคงเลื่อนตัวลงไปซบหน้าอกนุ่มนิ่มของคนน้องแบบที่ชอบพาดแขนแกร่งกอดเอวบางไว้แน่นมีมือเล็กคอยลูบผมเขาเล่นเพลินๆ พากันเคลิ้มจนหลับสนิท"จะออกไปเดินเล่นรึป่าว" ผมหันไปถามเด็กดื้อที่นั่งมองผมแต่งตัวตาแป๋ว"อืม ว่าไปถ่ายรูปนะ" "รอสักสองชั่วโมงได้มั้ย" เพราะผมตั้งใจว่าพอประชุมเสร็จก็จะหนีกลับมาพาเธอไปเดินเที่ยว"รอทำไมอะ" มองหน้ากวนๆ แบบนี้ คงไม่พ้นจะปั่นประสาทให้ผมหัวหมุนแน่ มีเมียเด็กทำไมมันเหนื่อยจังวะ? "ก็อยากไปถ่ายรูป?" "อ่าฮะ" เด็กแสบพยักหน้าอมยิ้ม"แล้วจะให้ใครถ่ายให้" ผมยืนท้าวเอวถามมองเธอหน้านิ่ง เล่นเป็นเพื่อนซะหน่อย ดูซิ จะยั่วโมโหอะไรอีก"ก็ต้องมีหนุ่มๆ แถวนั้นถ่ายให้บ้างละ" ลอยหน้าลอยตาพูดสุดๆ ถ้าไม่ติดว่าใกล้ถึงเวลาประชุม เธอโดนเล่น
"ไปถ่ายแบบมาเป็นยังไงบ้าง" หลังจากจบคลาสฉันกับเพื่อนสนิทอย่างแองจี้ก็พากันมานั่งกินก๋วยเตี๋ยวเรือหลังมหาวิทยาลัย เพราะฉันอยากกินกากหมูเจียว"สนุกมาก แต่ฉันคงต้องรับงานให้เยอะกว่านี้แล้วแหละ" "ทำไม แกไปทำรถเขาเป็นรอย?" สมกับเป็นเพื่อนรักของฉันซะจริง"บ้าหรอ ฉันอยากได้รถสวยๆ แบบนั้นบ้างต่างหาก""หาแฟนรวยง่ายกว่า" ก็จริงนะ! แต่จะหาจากไหนละ คนรวยเขาก็มีชอบนางเอกแถวหน้ากันทั้งนั้นแหละ ใครจะมามองนางแบบตัวเล็กตัวน้อยอย่างเรากัน"หรือมีแล้ว?""มะ มีอะไร ไม่มี" ไม่ดูมีพิรุธใช่มั้ยนะ"หรือจะเป็นนายแบบที่ถ่ายกับแก ได้ข่าวว่าโปรไฟล์เริ่ดไม่ใช่?" ทำไมวันนี้แองจี้พูดเยอะจังนะ"เฉยๆ นะ" ก็ไม่ได้เริ่ดอะไรมาก แค่มีซิกแพคแน่นๆ ผิวขาวใสเหมือนอาบน้ำวันละสิบรอบจมูกโด่งเป็นสัน ขนตางอนยาวเป็นแพร เป็นเจ้าของธุรกิจมากมายและขับรถหรู เท่านั้นเองคุณลุง : ได้ยินตายแล้ว! ฉันลืมไปเลยว่าค้างสายตาลุงไว้ตั้งแต่ในคลาสก็ตั้งแต่เช้านั่นแหละ เพราะเขาบินไปสิงคโปร์ด่วนตั้งแต่เมื่อวาน มาวันนี้ก็โทรมาปลุกฉันแต่เช้าและไม่ยอมวางอีกเลย จนฉันต้องเปิดบลูทูธเชื่อมต่อกับแอร์พอดแล้วเก็บมือถือไว้ในกระเป๋าสะพาย มารู้ตัวอีกทีก็ตอนท
"หืม ใครอะ" ตัวเล็กยืนเอนไปเอียงมาจนเขาต้องโอบเอวบางไว้แน่นจนใกล้กันมากพอให้เธอยกมือมาดึงแก้มสากให้ยืดออกเหมือนเป็นพิซซ่าขอบชีส พยายามปรือตามองหน้าอย่างสงสัย"ผัวมั้ง" ส่วนเขาก็เหล่ตามองตัวเล็กพร้อมกับตอบทีเล่นทีจริง อยากรู้ว่าเด็กขี้เมาจะโวยวายหรือจะยอมรับเขาง่ายๆ"ผัวหรอ" นิ้วสวยๆ เคาะลงบนแก้มสากของเขาเบาเบาอย่างใช้ความคิด เหมือนจะใช่คนนี้หรือว่าไม่ใช่กัน"อืม" "มั่วๆๆๆ ผัวฉันหล่อกว่านี้" จะมีใครหล่อกว่านี้อีกวะ? มือเล็กโบกตรงหน้าไปมาปฏิเสธสถานะที่เขายัดเยียดให้ แล้วผละตัวออกทำเหมือนเขาเป็นคนแปลกหน้า มือใหญ่เลยต้องรีบคว้าเอวบางเข้ามาใกล้จนอะไรต่อมิอะไรของเขาและเธอแนบแน่น และใช้แขนแกร่งอีกข้างล็อคสะโพกมนเอาไว้ไม่ให้เธอดิ้นจนเซล้ม"มีผัวแล้ว? " คิ้วเข้มขมวดเป็นปมกัดฟันแน่น ไม่เคยมีใครทำเขาหงุดหงิดได้เท่านี้มาก่อน"ช่ายยย" "ผัวชื่ออะไร" จะลองให้โอกาสอีกครั้ง ถ้าตอบได้ดีเขาก็จะไม่ทำโทษเธอที่ทำให้เขาโมโหมาค่อนวัน"ลุง ฟิล์ม" หน้าสวยซบลงแนบอกแกร่งตอบคำถามอย่างแผ่วเบา แต่เขาได้ยินชื่อคุ้นหูนี้ชัดเจนติ๊ง! ผมย่อตัวช้อนร่างบางขึ้นในท่าเจ้าสาวออกจากลิฟต์เมื่อถึงชั้นบนสุดคอนโดของผม ก่อนจะ
หลังจากทีมงานเตรียมความพร้อมด้านนอกเรียบร้อยแล้ว ก็ส่งสัญญาณผ่านเลขาไอ้ติณให้ผมกับเพื่อนเดินออกไป แน่นอนว่าใครบางคนที่อยู่ห้องข้างๆ ก็กำลังเปิดประตูออกมาเหมือนกัน และที่ทำให้ผมหัวร้อนขึ้นมาจนแทบจะเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่ก็เพราะชุดเดรสหนังเงาๆ สีดำที่มันรัดคนตัวเล็กซะจนผมหายใจไม่ออกสายก็เส้นเล็กไหนจะก้อนกลมๆ ที่โผล่พ้นขึ้นมาให้เห็นอีก เดินทีซิปแทบจะปริอยู่แล้ว"ร้อนหรอวะ""อืม" ไอ้ติณถามเพราะเห็นหน้าบึ้งตึงของผม จนทีมงานไม่กล้าเข้ามาใกล้"โทษทีหว่ะ กูขอสามรูปสวยๆ พอ" เพื่อนถึงกับตบไหล่ผมเบาเบาให้ผมใจเย็น และหันไปบรีฟทีมงานให้รีบถ่ายให้เสร็จ พร้อมกับให้เลขาเอาร่มมากางและพัดลมมาเป่าให้ผม"อืม"เพื่อให้งานของเพื่อนราบรื่น ผมพยายามปรับอารมณ์และสีหน้าเป็นปกติที่สุด เดินไปยืนรอที่รถสีเมทัลลิครอร่างบางที่กำลังเดินตามมาฟังบรีฟจากทีมงานอีกครั้ง"น้องฝันขา พี่ขอพริกสิบเม็ดเลยนะคะ""ได้ค่ะ"'อะไรคือพริกสิบเม็ดวะ' คำถามที่เกิดขึ้นในหัวถูกตอบเป็นท่าโพสต์โดยที่ผมไม่ทันได้ตั้งตัว คนที่ทำให้ผมหงุดหงิดก็จัดแจงจัดท่าทางให้ผมยืนพิงกระโปรงรถก้าวเข้ามายืนตรงหน้า โพสต์ท่าเหมือนกำลังถอดแจ๊คเก็ตหนังของผมแล้วหันไป
"ลุงจะกลับเลยมั้ย""ไล่?" เป็นคนแก่ขี้งอนอย่างแท้ทรู"ไม่ได้ไล่ วันนี้ฉันมีถ่ายงานทั้งวัน""...""หรือจะไปส่ง" นี่ฉันง้อแล้วนะ เห็นแก่คนแก่นั่งหน้างอตาดำดำ"วันนี้ฉันมีธุระ" เขาพูดเท่านั้นก็ลุกจากที่นอนพาร่างสูงเปลือยเปล่าเดินเข้าห้องน้ำหน้าตาเฉย ทำฉันที่ยืนอยู่หน้ากระจกร้อนวูบวาบจนแก้มเปลี่ยนสีทั้งที่ยังไม่ได้ปัดบลัชออน หลังจากที่ฉันกับเขาสั่งของมากินรองท้องเบาเบาของเขาเป็นอเมริกาโน่เย็นกับครัวซองค์แฮมชีส ส่วนของฉันเป็นมัทฉะเย็นกับเบเกิ้ลแสนอร่อย เราสองคนก็ต่างคนต่างแยกย้ายไปทำธุระของตัวเอง และนัดกลับมาเจอกันที่คอนโดทำมื้อเย็นง่ายๆ กินด้วยกัน บอกตามตรงฉันติดใจฝีมือทำอาหารของเขาเข้าอย่างจัง"น้องฝัน วันนี้เป็นงานคู่นะคะ" พี่แพทถือร่มยืนรอเตรียมบรีฟงานให้ฟังทันทีที่ฉันลงจากรถ"งานคู่? ไม่เห็นบอกกันก่อนเลยค่ะ" "ทางลูกค้าพึ่งส่งบรีฟมาให้พี่เมื่อคืนเองค่ะ""คู่กับใคร พี่แพทรู้มั้ยคะ""เหมือนจะเป็นนักธุรกิจหนุ่มเพื่อนของคุณตริติณนะคะ""โห ฝันเริ่มเกร็งแล้วสิ" ลำพังถ้าเป็นคนในอาชีพเดียวกันฉันคงไม่ต้องกังวลอะไรมาก"พี่เชื่อว่า คุณน้องทำได้ค่ะ"งานในวันนี้เป็นงานถ่ายแบบคู่กับรถหรูราคาหลายสิ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก"เธอ รอแป็บนะ" ผมบอกคนในสายที่กำลังนั่งตาปรืออยู่คุยเป็นเพื่อนผม"อืม"เขาวางแมคบุ๊คลงบนที่นอน และพาร่างสูงเหมือนนายแบบเดินไปส่องตาแมวที่ประตูห้องพักด้วยความสงสัย เพราะเขาไม่ได้โทรไปสั่งอาหารหรือของแต่อย่างใด จะว่าเลขา รายนั้นก็พึ่งส่งข้อความมาบอกว่าขอออกไปช้อปปิ้งเมื่อครู่"สวัสดีค่ะ คุณฟิล์ม" คนตรงหน้าสร้างความแปลกใจให้ผมไม่น้อย เพราะเธอเป็นคู่แข่งทางธุรกิจที่เดินทางมางานเดียวกัน เคยพบปะพูดคุยกันตามงานโดยไม่มีอะไรเกินเลย ถึงแม้ว่าเธอจะพยายามส่งสายตาอยู่หลายครั้งก็ตาม เธอสวยแต่บอกเลยว่าไม่ใช่สเปคผมรู้จักห้องผมได้ยังไงวะ? "ครับ" ร่างสูงตอบรับด้วยสีหน้านิ่งเฉย ไม่มีแม้แต่รอยยิ้มใดๆ "เมลพักอยู่ห้องข้างๆ นี่แหละค่ะ" "อ่อ ครับ" โลกกลมเกินไปมั้ง"คือเมลอยากชวนคุณฟิล์มไปดินเนอร์ด้วยกันค่ะ" "คือ ผมติดประชุม วันนี้คงไม่สะดวก" ผมคิดว่าการตอบปฏิเสธแบบนี้ดูสุภาพมากที่สุด เพราะคงต้องเจอกันอีกหลายงาน"งั้น ไว้พรุ่งนี้ก็ได้ค่ะ ห้ามปฏิเสธกันนะคะ" "อะ เอ่อ..." "จุ๊บ บายค่ะ" เธอคนนั้นกระโดดเข้ามากดจูบที่แก้มสากโดยที่ผมไม่ทันตั้งตัว ก่อนจะเดินกลับห้องตัวเองที่อยู่ข้างกัน แต่ย
"น้องฝัน หนูได้งานนี้นะคะ" วันนี้พี่แพทขับรถมารับฉันไปทำทรีทเมนต์หน้าที่คลินิกซึ่งฉันเพิ่งเซ็นต์สัญญาไปเมื่อวันก่อนและมีคิวถ่ายรูปโปรโมทในเดือนหน้า เลยต้องมาเตรียมความพร้อมให้ผิวกันสักหน่อย"งานไหนคะพี่แพท" เพราะพี่แพทส่งโปรไฟล์ของฉันไปหลายงานมาก "ก็งานพรีเซ็นเตอร์รถหรูไงคะ" "จริงหรอคะ ดีใจจัง" เป็นอีกหนึ่งงานที่เหมือนเป็นความฝันของฉันเลยนะ ไม่คิดว่านางแบบน้องใหม่อย่างฉันจะได้งานนี้กับเขาด้วย"ดีใจ แต่หน้าหงอยมากค่ะลูกสาวแม่" หงอยหรอ? ฉันว่าปกตินะ"สรุปว่าดีใจหรือไม่ดีใจคะ" "ต้องดีใจสิคะ ดีใจม๊ากมากค่ะ" ฉันหันไปยิ้มจนตาหยีให้ผู้จัดการส่วนตัวเชื่อในคำตอบของฉันก่อนจะแยกกันไปทำทรีทเมนต์คนละห้อง เพราะพี่แพทนางอยากเติมตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อยให้ใบหน้าดูมีมิติมากขึ้น ส่วนฉันขอแค่บำรุงผิวเติมวิตามินแค่นั้นพอ เดี๋ยวใครบางคนกลับมาจะจำกันไม่ได้ ไม่รู้ว่าป่านนี้นอนฝันหวานไปถึงไหน"พี่แพท ไปหาที่ถ่ายรูปกันมั้ยคะ" ไหนๆ วันนี้ก็แต่งตัวน่ารักๆ ออกมาแล้ว ขอทำคอนเทนต์นิดนึงแล้วกัน"อารมณ์ไหนคะ""อารมณ์คนเหงามั้งคะ" "ถ้าน้องฝันลองเปิดใจคุยกับหนุ่มๆ ที่ไดเรคมาหาทุกวัน ก็ไม่เหงาแล้วค่ะ""ไม่
เหมือนว่าข้อตกลงระหว่างเธอกับผมมันมีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไปนิดหน่อยจากความเนียนของผมเองนี่แหละ เนียนเสียจนเด็กแสบไม่รู้ตัวหรือว่าอาจจะรู้แต่ทำเป็นไม่สนใจ ผมก็เดาใจเธอไม่ถูกเหมือนกัน อย่างที่บอก วาดฝันไม่เหมือนคนอื่นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปที่ว่าก็คือ จากที่ตกลงกันไว้ว่าผมกับเธอจะนอนด้วยกันสัปดาห์ละสี่วัน มาวันนี้เป็นวันที่ห้าของสัปดาห์ที่ผมอยู่ที่คอนโดเด็กแสบ เพราะสัปดาห์หน้าผมต้องบินไปดูงานต่างประเทศหลายวัน นั่นแหละเหตุผลที่ใช้เป็นข้ออ้างบอกเธอ"สวัสดีครับ คุณตริติณ" หลังจากส่งเด็กแสบที่มหาวิทยาลัยเรียบร้อย ผมก็ขับรถเลยมาคุยธุระกับเพื่อนรักก่อนไปสนามบินสักหน่อย"..." เพื่อนมาหาทั้งที แต่เจ้าของบริษัทนำเข้ารถหรูกลับต้อนรับโดยการกลอกตาบนใส่ดูเหนื่อยหน่ายที่ได้เห็นหน้าผม"หาพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ได้ยังวะ" ที่ผมมาก็เพราะไอ้ติณแชทไปปรึกษาให้ผมมาช่วยเลือกนางแบบ บอกตามตรงมันเป็นงานที่ทำให้ผมลำบากใจไม่น้อย "ยังหว่ะ""น้องกูไง" ตัวเลือกนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นในหัวไอ้คนขี้หวงอย่างไอ้ติณแน่นอน"ไม่""มินิน" "ไม่" เป็นอีกหนึ่งชื่อที่ถูกคุณบอสใหญ่ปัดตก เพราะตอนที่มินินเป็นพรีเซ็นเตอร์ ไอ้ติณถึงขนาด