เข้าสู่ระบบหลายวันต่อมา
ยิ่งใกล้วันสอบเท่าไหร่ฉันก็ยิ่งไม่มีเวลาทำอย่างอื่นเลย เพราะหวังไว้อย่างมากว่าจะต้องเข้ามหาวิทยาลัยนี้ให้ได้มันเลยกลายเป็นแรงกดดันตัวเองให้ทุ่มเทอย่างมาก การได้อยู่มหาวิทยาลัยเดียวกับเฮียเต้คือความฝันอันสูงสุดของฉัน!
จะว่าไปแล้ววันนี้เฮียต้องกลับมาแล้วนี่นา ไม่เห็นรถเลยหรือไม่กลับมาแล้วกันนะนี่มันก็ค่ำมืดมากแล้วด้วยแม่จ๋าก็ไปต่างจังหวัดไม่รู้จะกลับมาตอนไหน
ความคิดถึงของฉันที่มีต่อเฮียมันคงมากมายเหลือเกิน เพราะไม่ทันที่จะได้ตัดความคิดเรื่องเฮียออกไป รถยนต์สีดำคลับที่คุ้นตาก็แล่นมาจอดหน้าบ้านของเฮียทันที
"เฮีย!"
พอวิ่งมาถึงหน้าบ้านเฮียก็เห็นเจ้าตัวเดินโซซัดโซเซเดินเข้าไปก่อนหน้าฉัน นี่เฮียเต้เมามาเหรอ ไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้เลยแสดงว่าเฮียไปงานเลี้ยงรุ่นมาแล้วแน่ๆ
"..."
"ไหวไหมเฮีย มานี่เดี๋ยวชาช่วย" ว่าแล้วก็ยกแขนแข็งแรงขึ้นมาพาเบนบ่าจนเจ้าตัวหยุดเดินแล้วเอียงคอมามองแบบตาปรือๆ
สภาพเฮียตอนนี้ดูไม่ได้เลยสักนิด
"หืม...ไอ้กัญชา มาทำอารายวะ!"
"ใบชาต่างหาก กัญชาบ้านป้าเฮียดิ ไปๆ ขึ้นไปนอนเถอะ ทำไมเมาขนาดนี้เนี่ยโดนสาวๆมอมมาหรือไง" เพราะงานเลี้ยงรุ่นจะมีแต่เพื่อนที่เรียนปีเดียวกันแต่ก็ใช่ว่าจะเป็นเพื่อนกันทั้งหมด ยังมีพวกรุ่นเดียวกันที่แอบปลื้มเฮียอยู่เยอะ เรื่องนี้ฉันแอบสืบรู้มาตั้งแต่เรียนโรงเรียนเดียวกันแล้ว
"จะพาไปไหน..."
"ไปนอนไง"
ปัก
"เบาๆหน่อยเส้!!"
ฉันผลักเฮียลงไปนอนบนเตียง ถอดถุงเท้าถอดเสื้อที่เต็มไปด้วยกลิ่นเครื่องดื่มคละคลุ้ง เจ้าตัวก็เอาแต่หลับตาพริ้มไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น
อยู่ ๆ ความคิดด้านมืดของฉันก็แล่นเร็วจี๋เข้ามา เมาไม่รู้เรื่องแบบนี้ต้องโดนแกล้งสักหน่อยแล้ว
ว่าแล้วก็จัดการถอดเสื้อผ้าของเฮียออกจนหมดเหลือไว้เพียงกางเกงบ็อกเซอร์ขาสั้นเพียงตัวเดียว อยากเมานักก็รับบทสามีชาไปเลยสิเฮีย...
"มานี่ชาเช็ดตัวให้" ว่าแล้วฉันก็เอาผ้าชุบน้ำหมาดๆที่เตรียมมาเช็ดตัวให้เฮียเต้สร่างเมาแต่ดูแล้วเฮียคงอยากโดนฉันแกล้งเต็มทนเพราะนอกจากจะไม่สร่างแล้วยังไม่รู้เนื้อรู้ตัวอีกต่างหาก
ตื่นมาเฮียได้อกแตกตายแน่ ฮ่า ๆ
เช้าวันต่อมา
"ตายแล้ว!!"
เสียงของใครสักคนเรียกให้ฉันค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาทีละนิด ก่อนจะพบว่าตัวเองถูกสวมกอดจากคนที่นอนอยู่เคียงข้างอย่างแนบแน่น เมื่อคืนนอนรอให้เฮียมันตื่นมาตกใจแต่เฮียเต้ก็เมาหนักจนไม่ยอมตื่นมาอีกเลย กลายเป็นฉันที่ผล็อยหลับไปกับเขาแทน
แล้วเมื่อกี้มันเสียงแม่จ๋านี่...
ชิบหายแล้ว!!
"หนูใบชา! มาอยู่ที่นี่ได้ไง" เสียงเข้มป๊าของเฮียดังขึ้นมาอีกคน บอกตามตรงฉันไม่ได้ตั้งใจจะให้มันเป็นแบบนี้นะแค่ตื่นมาแล้วเฮียมันตกใจแค่นั้นก็สนุกแล้ว
ไม่คิดเลยว่าจะกลับมากันพร้อมหน้าขนาดนี้
ตอนนี้มันชักจะไม่ใช่เรื่องสนุกแล้วสิเพราะดูจากสภาพของเฮียที่กอดก่ายฉันไว้มันคิดเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้เลยแถมยังเกือบเปลือยอีกต่างหาก
"เป็นไงเจอลูกฉันไหมไอ้ภณ" นะ...นั่นเสียงพ่อไม่ใช่เหรอ
"คือทุกคนคะ มันไม่ใช่แบบนะ..."
"ใบชา!!!" ขณะที่ฉันกำลังจะพูดแก้ตัวเสียงของพ่อก็ตะโกนลั่น คนที่นอนอยู่ถึงกับเด้งตัวลุกขึ้นมาแล้วขยี้ตามองอย่างงงๆ
"มีอะไรกัน...เฮ้ย!!" เฮียเต้ตกใจสุดขีดเมื่อเห็นสภาพตัวเองและเสื้อผ้าที่ถูกถอดทิ้งเกลื่อนกราดบนพื้น
"พะ...พ่อ คือแบบนี้นะ จริงๆแล้วเฮียกับใบชา..." จะว่าไปแล้วนี่มันโอกาสเหมาะเจาะเลยนะเว้ยที่จะจับเฮียเต้มาเป็นของตัวเองโดยที่ฉันไม่ต้องเสียเหงื่อเลยสักหยด "ฮึก...ฮือ ๆ เมื่อคืนเฮียเต้เมามาก ชาก็เลยพามานอนบนห้อง แล้วเราก็เลยเผลอ..."
เผลอหลับไปด้วยกัน...
"พอเถอะ แกอย่าพูดเลย" สีหน้าของพ่อดูผิดหวังเอามากๆ ท่านปรายตาไปมองพี่ฮ่องเต้ที่อ้าปากค้างคิ้วยุ่งๆเหมือนกำลังคิดทบทวนถึงเรื่องที่ฉันกำลังอธิบาย "เอายังไงฮ่องเต้"
"คือว่าผมนึกไม่ออกเลยว่าทำอะไรแบบนั้น"
"เฮียเขาจำไม่ได้หรอก เมามากใช่ไหมเมื่อคืนน่ะ แต่ไม่เป็นไรหรอกค่ะพ่อ ชาผิดเองที่มาบ้านผู้ชายดึกดื่นอย่าไปโทษเฮียเลย" น้ำตาหยดเล็กๆตกแหมะลงบนที่นอน โฮ่~ สงสารเฮียจับใจ
"ไม่เป็นไรไม่ได้หรอกใบชา พี่อัศเดี๋ยวเราจะรับผิดชอบเรื่องทั้งหมดเองค่ะ คงต้องมาคุยตกลงกัน"
"เฮียทำเธอจริงๆเหรอ?" เฮียเต้ยังคงสับสนมึนงง นั่นอาจเพราะยังไม่ได้รับสติกลับคืนมาแล้วยังมาเจอเรื่องแบบนี้อีก
"ทำไมถามแบบนี้วะเฮีย โคตรแย่เลย" หมายถึงฉันเนี่ย โคตรแย่เลย... ทำร้ายเฮียได้ลงคอ
เอาน่ามันก็ทำให้เราได้ใกล้ชิดกันมากขึ้นเดี๋ยวเฮียก็รักฉันเองแหละเพราะความใกล้ชิดน่ะ
"ฉันจำไม่ได้จริงๆ ว่าเมื่อคืนทำแบบนั้น” เฮียเต้หน้าเครียดบ่นพึมพำแล้วทำท่าครุ่นคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นตอนเมาของเขา แน่ล่ะ เฮียจะไปจำได้ยังไงในเมื่อมันไม่ได้เกิดขึ้นจริงๆ
และนี่คือแหละสาเหตุที่ทำให้ฉันกับเฮียเต้ ต้องตกลงมาแต่งงานกันอันที่จริงฉันไม่ได้หวังให้มันเป็นแบบนี้หรอกแค่อยากแกล้งให้เฮียยอมศิโรราบกับฉันก็เท่านั้น คิดว่าจะใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างขู่เฮียให้ทำตามที่ฉันขอสักหน่อยแต่กลับกลายเป็นผู้ใหญ่รับรู้ด้วยและไม่ยอม
เฮียเต้ก็ไม่รู้ตัวจริงๆว่าคืนนั้นได้ทำอะไรฉันรึเปล่าเพราะเมาจนจำอะไรไม่ได้ เขาจำใจยอมรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเอง (ไม่ได้) ทำพลาด โดยการตกลงแต่งงานกับฉันเพราะกลัวว่าจะมีปัญหากับพ่อของฉันที่ไม่พอใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น
เอาจริงๆก็รู้สึกผิดอยู่หรอกนะ แต่ว่า…นี่มันผลประโยชน์ของฉันทั้งนั้นเลย ไม่ใช่แค่ได้ใกล้ชิดเฮียเต้แต่ได้เป็นทั้งภรรยาของเฮียอีกด้วยใครมันจะไปยอมบอกความจริงกันเล่าว่าเรื่องคืนนั้นน่ะ
เฮียไม่ได้ทำอะไรฉันเลยแม้แต่นิดเดียว
"ไงมึง วางแผนกันดิบดีสุดท้ายก็แพ้เมีย" เสียงของพี่ฮ้องเต้ดังขึ้น น้ำเสียงปนหัวเราะของเขาบ่งบอกว่ากำลังเยาะเย้ยพี่ทศกัณฑ์อยู่ตอนนี้ฉันยืนแอบอยู่ตรงมุมตึกซึ่งอยู่ห่างจากโต๊ะที่พวกเขานั่งไม่กี่เมตร ทำให้ได้ยินบทสนทนาชัดเจน"…" พี่ทศกัณฑ์เงียบกริบไม่รู้ว่าถ้าเขาไม่รู้ว่าฉันยืนอยู่ตรงนี้จะเป็นแบบนี้มั้ยอาจจะคุยโม้ก็ได้ใครจะไปรู้"มึงมันไม่ได้เรื่อง เป็นพี่ว้ากจนน้องปีหนึ่งปีสองกลัวแต่มาแพ้ให้เด็กอักษรคนเดียว เหอะ" พี่คิวพูดออกมาเหมือนเสียอารมณ์เพราะเป็นคนคิดแผนทั้งที"มึงก็รอรับชะตากรรมแบบกูได้เลย" พี่ทศกัณฑ์พูดเสียงเบาหวิว จนฉันแอบสงสารจับใจ"กูไม่มีทางกลัวเมียแบบมึงแน่นอน ผู้หญิงก็แค่ลูกไก่ในกำมือ จะบีบก็ตาย จะคลายก็รอด""มึงไม่กลัวเตยเลยเหรอ" พี่ทศกัณฐ์ถามซ้ำ"กลัวทำไม ยัยนั่นดิต้องกลัวฉันขาดฉันไปซักคนเตยคงอยู่ไม่ได้ ร้องไห้แงๆ"โอ้อวดนักนะ เดี๋ยวโดนดีแน่พี่คิว!"พี่ทศกัณฑ์!" ฉันเดินเข้าไปเงียบๆ แล้วเรียกพี่ทศกัณฑ์เสียงดัง จนพี่ๆ หันมามองกันพรึบ ส่วนพี่นธีขมวดคิ้วมองฉันอย่างไม่เข้าใจ พี่ชายทั้งคนอ่านออกแน่ๆ"ยะ…ญานิน มาได้ไง" เก่งมากคุณแฟน เสียงสั่นแบบไม่ต้องซ้อมมา"เดินมาค่ะ""น้องญาน
"…" เงียบอยู่นั่นแหละไม่คิดจะพูดอะไรเลยใช่มั้ย หรือว่าเขาไม่อยากคบฉันแล้ว แววตาของเขาที่มองเหมือนกำลังลังเลบางอย่างอยู่เลย"นินทำอะไรผิดหรือเปล่า ทำไมพี่ไม่บอกถ้านินผิดก็พร้อมจะแก้ไข แต่พี่ทศกัณฑ์ไม่ให้โอกาสนินได้รับรู้เลย อึก...อยู่ๆ ก็ไม่เห็นค่ากันแบบนี้""ญานิน…" เขาเรียกชื่อฉันเบาๆ ขณะที่ฉันเอาแต่ก้มหน้าร้องไห้"พี่เบื่อนินแล้วใช่มั้ย พี่ทศกัณฐ์ไม่รักนินแล้วใช่มั้ย...ฮึก""ไม่ใช่" เขาตอบแล้วค่อยๆ เอื้อมมือมากุมมือฉันพร้อมกับถอนหายใจเขาดันตัวฉันลงกับเตียงอีกรอบ ใช้นิ้วเรียวยาวลูบปัดน้ำตาออกจากพวงแก้มของฉันอย่างอ่อนโยน"ที่จริงแล้วแค่อยากจะทดสอบ แต่ตอนนี้พี่คงแพ้อีกแล้ว" เขาพูดแล้วจ้องตาฉันนิ่ง"หมายความว่ายังไง" คำพูดนั้นทำให้ดวงตาของฉันเบิกกว้างแล้วเปลี่ยนเป็นขมวดคิ้วชนกัน"…" เขาพ่นลมหายใจออกมาแล้วเบือนหน้าหนีเหมือนกำลังลำบากใจที่จะพูด "เพราะคิดว่าช่วงนี้เราชอบเอาแต่ใจ ก็เลยอยากดัดนิสัยนิดหน่อย จะได้หันมาง้อพี่บ้างไม่ใช่ตัวเองถูกทุกอย่าง" เขาอธิบายแบบเหนี่ยมอายนิดหน่อยนี่มันอะไรกันเนี่ย…"อย่าบอกว่าที่แกล้งยุ่งกับงานก็เพราะอยากลองดูการกระทำของนินด้วย""…" พยักหน้าเป็นคำตอบ"แล้
Tossakan talk"ไอ้เชี่ยมึงใจเย็น นิ่งไว้ๆ""ฮ่าๆ มึงท่องไว้พุทธโธๆ เดี๋ยวแม่งเสียแผนหมด"เสียงของไอ้เต้กับไอ้คิวที่เกลี้ยกล่อมให้ผมใจเย็น ทั้งที่ภาพตรงหน้าคือผู้ชายกำลังเกาะแกะแฟนผมอยู่แล้วพวกมันก็มาฉุดรั้งตัวผมที่แทบจะพุ่งตัวไปหาญานิน ขณะที่ไอ้นธีเอาแต่นั่งยิ้มน้อยๆ มองผมเหมือนดูหนังตลกตลกเชี่ยไรเดี๋ยวเมียมันเจอมั่งจะรู้สึก"ถ้ามึงเข้าไปตอนนี้น้องมันรู้แน่ว่ามึงไม่ได้ยุ่งกับโปรเจ็ค แต่มาตามดูน้องมันอะ" ไอ้คิวบอกแต่กลับยิ้มขำ "แล้วที่มึงทำมาทั้งหมดน้องก็จะคิดว่ามึงโกหก""เออ มึงต้องนั่งดูอย่างใจเย็น"ใจเย็นอะไรของมันวะ ตอนนี้เหมือนกองไฟในอกผมมันกำลังจะปะทุออกมาอยู่แล้ว"มึงจะทำเสียแผนนะเว่ย จากที่จะดัดนิสัยน้องกลายเป็นน้องได้ดัดนิสัยมึงแทน"'แผน' ที่ว่านั้นมันเริ่มจากปัญหาของผมนี่แหละเรื่องมันมีอยู่ว่าอาทิตย์ก่อนเราทะเลาะกันเรื่องญานินลืมมือถือไว้ในห้องก่อนออกไปเรียน โทรหาเท่าไหร่ก็ไม่ยอมรับสาย เราเลยทะเลาะกันใหญ่โตแต่สุดท้ายผมก็เป็นคนง้อญานินเพราะเรื่องมันมักจะจบแบบเดิมคือน้องมันถูกเสมอไม่ว่าเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ คนที่เป็นฝ่ายผิดสุดท้ายแล้วต้องเป็นผมเพราะญานินจะไม่ยอมง้อผมเลย
หลายเดือนต่อมาหลังจากเรื่องวุ่นวายทั้งหมดตอนนั้นจบลง ชีวิตของฉันก็กลับมาสงบสุขและคบกับพี่ทศกัณฐ์อย่างแฮปปี้ใช่ซะที่ไหนกัน!การคบกันมันก็ต้องมีทะเลาะกันเป็นเรื่องธรรมดาและทุกครั้งที่ทะเลาะกันนั้นพี่ทศกัณฐ์มักจะเป็นฝ่ายยอมฉันเสมอไม่เชื่อก็ต้องเชื่อเพราะพี่ทศกัณฐ์รักฉันมากๆ ยังไงล่ะ!"เป็นอะไรหน้าบูดเป็นตูดหมามาเลย" เสียงของนิเนยทักขึ้นตอนที่ฉันกำลังเดินเข้ามาหย่อนตัวนั่งลงกับเก้าอี้ข้างๆ พอใบเฟิร์นได้ยินคำพูดของนิเนยก็เงยหน้าขึ้นมามองด้วยความสนใจตอนนี้เราอยู่ปีสองกันแล้วนะ เป็นรุ่นพี่แล้วและช่วงนี้ก็เป็นช่วงรับน้องทำให้ค่อนข้างเหนื่อยกับการจัดเตรียมกิจกรรมให้น้องๆ ทำส่วนพี่ทศกัณฐ์ก็อยู่ปีสี่แล้วเขาก็วุ่นวายกับการทำโปรเจ็คหลังจากที่เพิ่งฝึกงานสามเดือนจบแล้วก็เหลือเวลาอีกแค่เทอมกว่าในรั้วมหาวิทยาลัยทำให้ช่วงนี้เราแทบจะไม่มีเวลาได้ใกล้ชิดกัน"ไม่มีอะไร" ฉันตอบนิเนยแล้วหยิบเอกสารสำหรับวิชานี้ขึ้นมาเตรียมไว้บนโต๊ะเลคเชอร์"ทะเลาะกับพี่ยักษ์เหรอ" นิเนยถามแล้วกอดอกมองฉัน"..." พยักหน้าเป็นคำตอบ"เรื่อง?""เมื่อวานฉันเข้าคอนโดก่อน เพราะเขาบอกว่าจะเลิกดึก พอถามว่าจะให้ไปนั่งทำงานด้วยมั้ยก็
เช้าวันต่อมา"ได้เรื่องมั้ยครับ"เสียงของพี่ทศกัณฐ์ดังขึ้นจากปลายเตียงเหมือนกำลังคุยโทรศัพท์กับใครซักคนฉันจึงค่อยๆ ขยับเปลือกตาขึ้นมอง"มีหลักฐานครบแล้วใช่มั้ย""ดีเลย งั้นรบกวนคุณลุงจัดการให้ผมหน่อย""น้องดีขึ้นแล้วครับ ตรวจแล้วไม่เป็นอะไร มีรอยช้ำที่โดนตีนั่นแหละ...ผมรู้แล้วน่า ว่าที่หลานสะใภ้ลุงทั้งคนจะไม่ดูแลได้ไง"นี่กำลังพูดถึงฉันอยู่ใช่มั้ย แอบฟังเองก็เขินเองแล้วนะ"ครับ ขอบคุณครับ รอชมผลงานนะแล้วเดี๋ยวผมจะจัดการเรื่องทางนี้เอง" แล้วพี่ทศกัณฐ์ก็กดวางสายก่อนจะหันมามองทางฉันที่แกล้งขยับเปือกตาขึ้นมาเหมือนคนเพิ่งตื่นนอน "เช้าอยู่เลยรีบตื่นทำไม""นินปวดหัวค่ะ" ฉันตอบแล้วค่อยๆ ลุกขึ้นนั่ง "เหมือนจะเป็นไข้""..." พี่ทศกัณฐ์ลุกขึ้นจากปลายเตียงขยับมานั่งขอบเตียงข้างฉันแล้วเอาหลังมือมาอังหน้าผากไว้ "นอนพักก่อนเดี๋ยวกินข้าวกินยา""ค่ะ" ฉันพยักหน้าทำตามคำสั่งแล้วเขาก็หายออกไปจากห้องตอนนั้นทันทีไม่นานนักก็กลับเข้ามาพร้อมกับข้าวต้ม ยาและน้ำเปล่าหนึ่งแก้ว แกล้งป่วยซักเดือนดีมั้ยเนี่ยมีบุรุษพยาบาลส่วนตัวซะด้วย"เมื่อกี้คุยกับใครเหรอ" ฉันเอ่ยปากถามด้วยความสงสัยเพราะนอนคิดคนเดียวก็คงไม่รู้คำตอ
ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว ฉันตรวจ ใส่เฝือกอ่อนที่เท้าและรับยาเสร็จก็มาแจ้งความที่สถานีตำรวจกับพี่เนย์ต่อ มีรุ่นพี่ปีสองและพวกนิเนยอยู่เป็นเพื่อนรอให้พี่ทศกัณฑ์และพี่นธีมารับ"เป็นไงบ้าง" พี่นธีถามทันทีที่มาถึงส่วนพี่ทศกัณฑ์กำลังเดินเข้ามาท่าทางเงียบครึมเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่"ให้รายละเอียดกับตำรวจไว้แล้วค่ะ พรุ่งนี้ต้องมาอีก""เอาเรื่องให้ถึงที่สุดนะเว้ย ต้องไม่ยอมมันรอบนี้ต้องเอาให้มันจมดิน!" ใบเฟิร์นพูดและกำหมัดแน่นหมับ!อยู่ๆ ร่างของฉันถูกดึงไปกอดไว้ในอ้อมแขนขณะที่เจ้าของการกระทำนั้นไม่พูดอะไรเลยซักคำ ท่ามกลางสายตาของเพื่อนและรุ่นพี่รวมไปถึง...พี่เนย์ยังดีที่ตอนนี้นิเนยมันเอาเสื้อผ้ามาให้ฉันเปลี่ยนแล้วไม่อย่างนั้นคงดูตลกน่าดูหนุ่มวิศวะกอดกับหญิงสาวในชุดโบราณ"กลับเลยมั้ย" พี่ทศกัณฑ์ปล่อยฉันออกจากอ้อมแขนแต่ก็ไม่ได้เป็นอิสระซะทีเดียวเขายังโอบฉันไว้อย่างหลวมๆ"ค่ะ อยากอาบน้ำพักผ่อนแล้ว" ฉันพยักหน้าตอบรับแล้วหันไปขอบคุณพี่ๆพี่ทศกัณฐ์อุ้มฉันขึ้นออกมาจากตรงนั้นสีหน้าเขาดูไม่ค่อยดีเลยไม่รู้ว่าทำไม พอมานั่งในรถเขาก็ติดเครื่องแต่ก็ไม่ยอมขับออกไป สายตาของเขาหันไปมองพี่เนย์ที่กำ







