เมื่อทั้งคู่ถึงคอนโด พวกเขาต่างหิ้วของกินพะรุงพะรัง มีทั้งของทานเล่นและเบียร์ยี่ห้อดังที่แอลกอฮอล์สิบเปอร์เซ็นต์ ทั้งที่ปกติคนอย่างทามไทไม่ค่อยแตะเบียร์สักเท่าไหร่ แต่วันนี้ดูเหมือนเขาจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ
ทั้งคู่ใช้เวลาเสพสุขร่วมกันอีกหลายรอบ ราวกับจะทดแทนเวลาที่ขาดหายไป ก่อนจะหมดแรงหลับใหลไปพร้อมกัน เช้าวันอาทิตย์ เสียงโทรศัพท์ภายในห้องดังขึ้น ทำเอาทามไทที่นอนขี้เซาภายใต้อ้อมกอดกันและกันต้องค่อยๆ ผละตัวออกอย่างแผ่วเบาจากร่างของใครอีกคน ก่อนจะลุกขึ้นไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหูด้วยความไม่เต็มใจเท่าใดนัก เขาได้ยินเสียงมารดาดังมาจากปลายสาย “ทาม วันนี้บ้านเรานัดกับบ้านลลินดาไว้ที่บ้านพักตากอากาศ จำได้ใช่ไหมลูก?” ทามไทถอนหายใจเบาๆ “ครับๆ ไปอยู่แล้ว แต่ผมจะพาเลขาส่วนตัวไปด้วย” “อ้าว พาเลขาไปทำไมลูก นี่มันนัดสังสรรค์กันในครอบครัวนะครับลูก” “เขารู้เรื่องงานมากกว่าผมอีกครับแม่ อีกอย่างเขาก็สนิทกับลลินดาอยู่แล้ว แม่ไม่ต้องห่วงหรอก รับรองแม่เจอเขาก็จะร้องอ๋อ” ทามไทเอ่ยตัดบท บนรถยนต์คันหรูระหว่างทาง “ทาม นายจะให้ผมไปทำไมเนี่ย ผมรู้สึกแปลกๆ นะ” เพทายบ่นพลางขยับเนกไทที่ถูกบังคับให้ใส่ “แปลกอะไร นายก็สนิทกับลลินดาอยู่แล้วนี่ จะได้ไม่ต้องเกร็งไง อีกอย่างนายก็เคยเจอที่บ้านฉันมาแล้ว” “นั่นมันเมื่อ 11 ปีก่อนเลยนะทาม” เพทายหันมามองค้อนอีกฝ่ายก่อนพูดอีกว่า “นายมันพูดง่าย เพราะคนอื่นเขาไม่รู้เรื่องของเราไง… แล้วอีกอย่างผมกับลลินดาก็ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น นายก็รู้” “เอาน่า เดี๋ยวก็ชิน” ทามไทยิ้มกวนๆ ทำให้เพทายได้แต่ถอนหายใจ บ้านพักตากอากาศริมหาด เมื่อมาถึงบ้านพักตากอากาศหรู ทั้งสองครอบครัวก็มารอต้อนรับแล้ว ลลินดาในชุดสบายๆ เดินเข้ามาหาทามไทและเพทายอย่างยิ้มแย้ม “มาช้าจังเลยค่ะทาม… ว้าวเพทายเลขาสุดหล่อก็มาด้วยหรือคะเนี่ย สุดยอดไปเลย” เธอยิ้มพลางทักทายเพทายด้วยน้ำเสียงสนิทสนม “อ้าวลลิน พอดีบอสของผมมันบ้างานน่ะครับ รบเร้าจะให้ผมมาทำหน้าที่จนได้” เพทายเอ่ยขึ้นอย่างหยอกล้อ แต่ในใจก็อดสึกอึดอัดไม่ได้ แม้พวกเขาจะเป็นเพื่อนเก่ากันมาก่อน ลลินดาหันไปมองทามไทพลางยิ้มมุมปาก “อยากพาเพื่อนรักมาด้วยก็ไม่บอก” “อ้าว นี่เพทายเองหรอกหรือนี่ ตัวสูงหล่อขึ้นมากจนแม่จำแทบไม่ได้” ในที่สุดเสียงมารดาของทามไทก็เอ่ยดังขึ้น ก่อนที่พ่อแม่ของหญิงสาวจะหันมายิ้มอย่างเป็นมิตรตามกัน “สวัสดีครับ คุณแม่ สวัสดีครับทุกคน” เพทายยกมือขึ้นไหว้ผู้ใหญ่ทุกคน “นี่นะเพทาย บัดดี้คนสนิทของเจ้าทามเขาแหละ เมื่อก่อนตัวติดกันอย่างกับแฝด” เสียงของมารดาทามไทเอ่ย “จะว่าไปเด็กทั้งสองก็แอบหน้าคล้ายกันเหมือนกันนะคะ” กลับเป็นเสียงของมารดาหญิงสาวที่เป็นคนเอ่ยขึ้นบ้าง เมื่อทุกคนต่างทำความรู้จักกันแล้ว เพทายก็รู้สึกสบายๆ ขึ้นมาก เขาเปลี่ยนเป็นชุดลำลองสำหรับชายหายแบบสบายๆ เสื้อชายหาดแบบติดกระดุมกับกางเกงขาสั้นแบบสามส่วน ชุดเน้นโทนสีฟ้าขาว พวกเขาสวมใส่ชุดเข้าเซ็ตคล้ายๆ กัน ยิ่งทำให้ทั้งคู่ดูน่ามองและชวนหลงใหล “พอดีวันนี้ลลินพารุ่นน้องที่สนิทมาด้วยแหน่ะค่ะ เห็นว่ารู้จักกับพี่เพทายด้วย อีกอย่างเราก็เป็นลูกพี่ลูกน้องกันห่างๆ น่ะค่ะ และพึ่งมารู้ทีหลังว่าทั้งคู่กำลังจะหมั้น” โลกช่างกลมชะมัด สิ้นเสียงคำพูดของหญิงสาว ทำเอาคนร่างสูงที่สุดในกลุ่มถึงกับหน้าเจื่อนไปทันที แต่ก็พยายามเก็บอาการเอาไว้ “อย่าบอกนะครับว่าลลินรู้จักกับอลิส?” เพทายเอ่ยถาม “แน่นอนสิคะ จะว่าไปแล้วอลิสก็เป็นลูกพี่ลูกน้องคนหนึ่งกับลลินเหมือนกันค่ะ เราทั้งคู่รู้จักกันตั้งแต่เด็ก ฉะนั้นมีอะไรก็มักจะปรึกษากันอยู่บ่อยๆ ไม่ดีหรอคะ มากันหลายคน สนุกดีออก อีกอย่างเราจะได้รู้จักกันให้มากขึ้นด้วย ชายหนุ่มยิ้มเจื่อนก่อนเอ่ยออกมาอย่างยากลำบาก “ก็ดีครับ” ไม่นานนักหญิงสาวคนที่ว่าก็มาถึง เธอไม่ได้ตกใจสักเท่าไหร่ คงเป็นเพราะลลินดาบอกกับเธอก่อนหน้านี้แล้ว เด็กๆ ก็พากันจับกลุ่มก้อนของพวกเขา ส่วนผู้ใหญ่ต่างก็พากันคุยเรื่องของผู้ใหญ่ไป ทามไท เพทาย ลลินดา และอลิสหญิงที่อายุน้อยที่สุดในกลุ่ม ส่วนลลินดาแม้ว่าเธอเองจะเคยสงสัยในความสัมพันธ์ของชายหนุ่มทั้งสองที่ดูเกินกว่าเพื่อน ทว่าท้ายที่สุดแล้วกลับยังไม่กล้าฟันธงว่าคนทั้งสองต่างรู้สึกพิเศษต่อกัน เธอคงน่าจะคิดมากไป ท่ามกลางบรรยากาศที่ดูค่อนข้างผ่อนคลายและไม่เร่งรีบ ทุกคนต่างก็สนุกสนานกันในกลุ่มของตัวเอง ทามไทและเพทายพยายามหลีกเลี่ยงการพูดคุยกันเรื่องส่วนตัวมากเกินไป โดยเฉพาะการที่มีอลิสและลลินดาอยู่ใกล้ๆ “ทามคะ เดี๋ยวไปเดินเล่นริมหาดกันไหมคะ? ลมเย็นๆ ช่วงนี้เหมาะมากเลยค่ะ” ลลินดาเอ่ยชวนด้วยน้ำเสียงสดใส ในขณะที่ทามไทมองไปที่เพทายอย่างลังเล “ไปเถอะนะทาม ลลินอยากไปเดินเล่นรับลมกับทาม” หญิงสาวพูดจาเสียงหวานอีกครั้ง ทามไทยิ้มแหยๆ ก่อนจะพยักหน้า “งั้นไปกันเถอะ” ทั้งสองเดินออกไปที่ริมชายหาด ท่ามกลางลมเย็นๆ และเสียงคลื่นที่ซัดขึ้นฝั่ง พวกเขาหยุดยืนที่ริมทะเล ทามไทเหลือบมองเพทายที่เดินอยู่ไม่ไกลนักกับหญิงสาวร่างบอบบางอีกคน ในใจช่างโหวงไหวแปลกๆ การที่ได้เห็นชายที่รักเดินคู่กับหญิงสาวที่ถือว่าเธอใกล้จะได้เป็นคู่หมั้นของเขาอย่างเป็นทางการในอีกไม่ช้า แต่แล้วความคิดนั้นก็สะดุดลง เมื่อใครอีกคนเอ่ยขึ้น “ทามคะ ลลินคุยด้วยตั้งนาน พี่ไม่ได้ฟังลลินเลยหรอคะ!!” หญิงสาวค่อนขอดเขาเบาๆ “ครับ!! เมื่อกี๊ใจลอยไปหน่อย เมื่อกี๊ลลินว่าไงนะครับ? ” “ลลินว่าพวกเขาดูเหมาะสมกันดีนะคะ” ก่อนเธอจะยื่นปากไปอีกฝั่ง จนคนร่างสูงหันตาม ภาพที่เห็นมันเหมือนคนทั้งคู่ยืนจูบกัน ถ้าหากมองจากไกลๆ ทำเอาคนร่างสูงกว่า 190 รู้สึกร้อนวูบวาบขึ้นมาทันที เขาหันขวับก่อนจะเร่งฝีก้าวเดินดุ่มๆ เข้าไปด้านในตัวอาคาร ก่อนจะเดินลัดเลาะไปยังร้านริมหาด มันเป็นร้านแบบ open air มีดนตรีสดอยู่ด้านนอก “เราหาอะไรดื่มกันหน่อยมั้ย? ” ชายหนุ่มเอ่ยถามหญิงสาวที่เดินมานั่งข้างๆ “ก็ได้ค่ะ” เธอเอ่ยพร้อมยิ้มให้เขาพลางคิดไปว่า ถ้าหากคนตรงหน้าเมาแล้วหื่นจับเธอกระทำเรื่องอย่างว่า มันจะเป็นยังไงนะ แม้ทามไทจะไม่เคยขาดเรื่องผู้หญิง แต่ว่าเขากลับไม่เคยให้สถานะกับหญิงสาวที่ที่บ้านหาให้ อีกทั้งเขาก็คิดกับลลินดาเพียงแค่เพื่อนเท่านั้น ชายหนุ่มกลัวว่ามันจะถลำลึกและยากเกินกว่าจะถอนตัว อีกอย่างเขาไม่ได้ต้องการจะหลอกใคร ถ้าอยากก็แค่ซื้อกินและก็จบไป ไม่มีสานต่อ ต่างจากอีกคนที่ยังคงทำตัวดี ไม่เคยนอกลู่นอกทางแม้สักครั้ง เขายังคงเก็บความบริสุทธิ์เอาไว้อยู่เรื่อยมา เพทายกับอลิสคุยกันอย่างถูกคอ จริงๆ แล้วชายหนุ่มก็มองหญิงสาวแบบน้องสาวมาโดยตลอด ซึ่งหญิงสาวเองก็คิดกับเขาเกินคำว่าพี่ชายมาโดยตลอดเช่นกัน ทั้งคู่เดินมาเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงร้านที่คนทั้งสองนั่งอยู่ก่อน “นั่นพี่ทามกับพี่ลลินนี่คะ” แต่แล้วเสียงของลลินดาก็เอ่ยทักคนทั้งคู่ขึ้นมาก่อน “อ้าวเพทาย หนูอลิส เข้ามานั่งด้วยกันสิคะ” ชายหนุ่มต่างสบประสานจ้องมองตากันอย่างขุ่นเคืองน้อยๆ ทามไทไม่เอ่ยพูดอะไร นั่นกลับทำให้เพทายยิ่งอึกอัก “เราจะไม่ไปรบกวนพวกเขาหรอครับน้องอลิส? ” เขาเอ่ยถามหญิงสาวที่กำลังเดินจูงมือเข้าไปโซนด้านในร้าน “ไม่หรอกค่ะ นั่งกันหลายคนสนุกดีออก อบอุ่นด้วย” จากนั้นลลินดาก็ย้ายที่นั่งเปลี่ยนไปนั่งกับคนตัวสูงข้างๆ ก่อนจะให้แขกที่มาใหม่นั่งตรงข้ามกับตัวเอง ตอนนี้ร่างสูงของทั้งสองต่างอยู่ตรงข้ามกัน ในขณะที่อลิสและลลินดาก็นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามด้วยเช่นกันบรรยากาศในร้านริมหาดนั้นเต็มไปด้วยเสียงเพลงของดนตรีสดที่ทำให้ความรู้สึกของทุกคนดูผ่อนคลาย แต่ภายในใจของทามไทและเพทายกลับมีสิ่งที่ซ่อนอยู่มากมาย ทั้งสองนั่งอยู่ตรงข้ามกัน ขณะที่อลิสและลลินดานั่งอยู่ข้างๆ บนโต๊ะไม้สีอ่อนที่ตั้งอยู่ใกล้กับริมทะเล เสียงคลื่นซัดสาดทำให้บรรยากาศดูสงบ แต่ในหัวของทั้งสองกลับเต็มไปด้วยความคิดทามไทมองไปที่เพทายที่นั่งห่างออกไปแค่ไม่กี่ก้าว เขาพยายามเก็บความรู้สึกที่ปั่นป่วนภายในใจเอาไว้ ไม่ให้ใครเห็น เขาสังเกตเห็นว่าเพทายพูดคุยกับอลิสได้อย่างเป็นกันเอง เสียงหัวเราะของทั้งสองเหมือนเสียงของคู่รักที่เพิ่งพบกันไม่นาน มันทำให้ทามไทรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก ทั้งที่เขาก็รู้ดีว่าเพทายและอลิสไม่ได้มีความสัมพันธ์กันเกินกว่าคำว่าพี่น้อง แต่ทำไมลึกๆ เขากลับรู้สึกไม่สบายใจในขณะเดียวกัน เพทายที่นั่งอยู่ข้างๆ อลิสก็รู้สึกถึงสายตาของทามไทที่จ้องมาที่เขาอย่างไม่ค่อยพอใจ เขารู้สึกได้ถึงความตึงเครียดในอากาศ แต่มันกลับเป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถแสดงออกได้ ทุกครั้งที่เขาหันไปมองทามไท ทามไทก็จะทำเพียงแค่ยิ้มให้ แม้ว่าในดวงตาจะมีแววแปลกๆ ที่ทำให้เพทายไม่แน่ใจว่าเขาคิดอะไรอลิสหันไปม
เมื่อทั้งคู่ถึงคอนโด พวกเขาต่างหิ้วของกินพะรุงพะรัง มีทั้งของทานเล่นและเบียร์ยี่ห้อดังที่แอลกอฮอล์สิบเปอร์เซ็นต์ ทั้งที่ปกติคนอย่างทามไทไม่ค่อยแตะเบียร์สักเท่าไหร่ แต่วันนี้ดูเหมือนเขาจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษทั้งคู่ใช้เวลาเสพสุขร่วมกันอีกหลายรอบ ราวกับจะทดแทนเวลาที่ขาดหายไป ก่อนจะหมดแรงหลับใหลไปพร้อมกันเช้าวันอาทิตย์เสียงโทรศัพท์ภายในห้องดังขึ้น ทำเอาทามไทที่นอนขี้เซาภายใต้อ้อมกอดกันและกันต้องค่อยๆ ผละตัวออกอย่างแผ่วเบาจากร่างของใครอีกคน ก่อนจะลุกขึ้นไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหูด้วยความไม่เต็มใจเท่าใดนัก เขาได้ยินเสียงมารดาดังมาจากปลายสาย“ทาม วันนี้บ้านเรานัดกับบ้านลลินดาไว้ที่บ้านพักตากอากาศ จำได้ใช่ไหมลูก?”ทามไทถอนหายใจเบาๆ “ครับๆ ไปอยู่แล้ว แต่ผมจะพาเลขาส่วนตัวไปด้วย”“อ้าว พาเลขาไปทำไมลูก นี่มันนัดสังสรรค์กันในครอบครัวนะครับลูก”“เขารู้เรื่องงานมากกว่าผมอีกครับแม่ อีกอย่างเขาก็สนิทกับลลินดาอยู่แล้ว แม่ไม่ต้องห่วงหรอก รับรองแม่เจอเขาก็จะร้องอ๋อ” ทามไทเอ่ยตัดบทบนรถยนต์คันหรูระหว่างทาง“ทาม นายจะให้ผมไปทำไมเนี่ย ผมรู้สึกแปลกๆ นะ” เพทายบ่นพลางขยับเนกไทที่ถูกบังคับให้ใส่“แปลกอะไร นายก็ส
จู๊ดๆ …เสียงปลดล็อกประตูรถยนต์คันหรูแบบ4 ที่นั่ง วันนี้เขาเลือกเอาคันที่มีขนาดกว้างพิเศษมา ซึ่งปกติแล้วชายหนุ่มมักจะขับสปอร์ตแบบสองที่นั่งซะมากกว่าคนร่างเล็กกำลังจะเอื้อมมือไปเปิดประตูเพื่อขึ้นไปนั่งด้านข้างคนขับ ทว่าเขากลับกระชากร่างบางกว่าเข้าไปยังเบาะด้านหลัง ก่อนจะสั่งการให้เครื่องสตาร์ทด้วยระบบสั่งการด้วยเสียง และปรับระบบแอร์โดยการควบคุมผ่านท่าทาง หรือระบบที่เรียกว่า ‘Gesture Control’ คนร่างสูงควบคุมปรับเบาะ ปรับองศาต่างๆ ผ่านระบบนี้ทั้งหมด“นี่ใช่มั้ยคือสาเหตุที่นายเลือกขับคันนี้มา” เพทายหันมามองก่อนจะเอ่ยขึ้นอีกว่า “นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่นายเลือกจอดมุมนี้”ไม่ว่าจะจอดตรงไหนมุมใดของห้าง มันก็ไม่มีใครเห็นหรอก เพราะนอกจากกระจกที่มืดแล้ว ยังมีม่านทึบที่เขาพึ่งสั่งการให้มันปิดทึบขึ้นอีกชั้น คนตัวสูงกว่า 190 เอาแต่ยกยิ้มในใจ“ฉันยังไม่ได้ปลดปล่อยเลยนะทาย นายจะให้ฉันค้างเติ่งไม่ได้นะ ฉันหิวนายอีกแล้วที่รัก” เสียงแหบพร่าวาบหวามทำเอาใครอีกคนแทบจะกระโดดจ้วงเขาในทันทีคนตัวสูงไม่รอข้ารีบเปลื้องกางเกงด้านล่างของตัวเองออกจนหมด ก่อนจะจับหัวอีกคนกดลงตรงกลางกาย คนถูกกระทำก็อ้าปากงับก่อนจ
(บทนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียน ไม่แนะนำให้ลอกเลียนแบบ)“ไหนนายบอกจะพาผมไปค้างด้วย แล้วนายมาจอดรถบนห้างทำไม นี่คนเยอะแยะนะ ชั้นนี้คนมาดูหนังกันเยอะ”“นายแม่งป้อด”“นายจะไม่ให้ผมพักบ้างรึไงทาม”ชายหนุ่มหัวเราะกับเสียงออดอ้อนของอีกคน“เราไปดูหนังกัน ผมจองไว้แล้ว” ทามไทเอ่ยบอก“นายจองห้องวีไอพีหรอ?”“ถ้าวีไอพี มันจะไปสนุกได้ยังไง”“ไม่เอานะทาม อย่าเล่นแบบนี้ ผมกลัว!!”เมื่อชายหนุ่มเห็นสีหน้าของใครบางคนก็อดที่จะสงสารไม่ได้ เลยเลือกที่จะนั่งกอดซบกันและดูหนังเฉย แต่รับรองว่าหนังจบ เขาจะจัดคนขี้กลัวตรงลานจอดรถในห้างนี่อย่างสาสมพอถึงโรงหนังเพทายก็อ้ำอึ้งเล็กน้อย เพราะที่ทามไทเลือกมันเป็นที่นั่งแบบ sweet seat มันเป็นกึ่ง private ที่เน้นความส่วนตัวพื้นที่กว้างขวางมีพนักพิงกั้นโซนให้ความรู้สึกเป็นพื้นที่เฉพาะ และขณะเดียวกันก็อยู่ด้านบนสุดเพทายหยุดยืนมองเบาะนั่งสวีทซีทที่อยู่ตรงหน้าแล้วหันไปมองทามไทอย่างไม่ไว้ใจ“ทาม..นายจะทำอะไรของนายเนี่ย” น้ำเสียงที่เปล่งออกมาเต็มไปด้วยความหวาดระแวงชายหนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์พร้อมคว้ามืออีกฝ่ายให้เดินตามเข้าไปนั่ง ก่อนจะทิ้งตัวลงบนเบาะโซฟากว้างข้างๆ กัน“ฉันแ
ทันทีที่หญิงสาวเข้ามาด้านในเพื่อหาทามไท เธอก็ต่อว่าเขาไปชุดใหญ่ ก็เมื่อคืนเขาเล่นหนีหายกันทั้งคู่“ทามอ่ะ จะกลับก็ไม่บอกลลิน”“ก็จะไปบอกได้ไงล่ะครับ ก็ลลินเมา พูดจารู้เรื่องกันซะที่ไหน”“แต่ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะค่ะ”หญิงสาวในชุดเดรสสีแดงสด และรองเท้าเข้าเซต พร้อมด้วยกระเป๋าหนังสีแดงใบจิ๋ว ไม่บอกก็รู้ว่าเธอคือเจ้าแม่แห่งวงการแฟชั่นแค่ไหน ไม่นานนักเสียงอินเตอร์คอมก็ถูกกดเข้ามายังห้องของเลขา แน่นอนว่าคนที่อยู่ด้านในต่างได้ยินด้วย“ครับผม” เพทายกดรับและตอบกลับไปในทันที“คุณเพทายคะ คือคุณอลิสให้ถามน่ะค่ะว่าหลังเลิกงานสะดวกคุยไหม พอดีเธอติดต่อคุณไม่ได้น่ะค่ะ เลยให้อรฝากถาม เพราะคืนนี้ผู้ใหญ่มีนัดคุยกันเรื่องหมั้นค่ะ”คนด้านในที่กำลังนั่งอยู่กับหญิงสาว ได้ยินดังนั้นก็ถึงกับหูอื้อตาลาย และเงี่ยหูรอฟังคำตอบ“งั้นบอกเธอให้ผมทีนะครับว่าตอนเย็นเจอกัน พอดีโทรศัพท์ผมแบตหมดน่ะครับ รบกวนคุณอรด้วยนะครับ”“ได้ค่ะ เดี๋ยวอรจะแจ้งให้นะคะ”“ขอบคุณครับ”โทรศัพท์ของชายหนุ่มแบตหมดและก็ลืมเอาที่ชาร์ตมา อีกอย่างว่าจะไปยืมใครอีกคน เขาก็เหมือนจะติดธุระกับแฟนสาวอยู่ ไม่นานหญิงสาวที่อยู่ด้านในก็ออกมาอย่างหน้าตาบึ้งๆ
“ลลินตามหาทามตั้งนาน แล้วนี่เลขาสุดหล่อของนายล่ะ? ” หญิงสาวเอ่ยแหย่เพื่อนชายอีกคนพอได้ยินคำว่าสุดหล่อก็ตงิดๆ อยู่ไม่หาย แต่ถึงอย่างนั้นก็คงต้องกลั้นใจตอบ อีกอย่างเขารู้ว่าลลินคงแค่แหย่โดยไม่คิดอะไร เธอคงแค่เย้าแหย่เหมือนที่ผ่านมา“เห็นไปรับลมแถวๆ สระหน่ะ นี่ลลิลเมาหรอครับ หน้าแดงเชียว? ”ที่ถามเพราะใบหน้าเธอแดงก่ำมากจริงๆ และตอนนี้นี่เองที่หญิงสาวก็ถือวิสาสะเข้าไปจุ๊บที่ปากของชายหนุ่มอย่างเผลอไผล ทันใดนั้นเองเขาก็มองเห็นว่ามีใครอีกคนคอยจ้องมองคนทั้งคู่อยู่ ชายหนุ่มจึงรีบผลักหญิงสาวออกอย่างไว ก่อนจะตรงดิ่งมายังบุรุษที่กำลังหน้าบึ้ง“มันไม่ใช่อย่างที่นายคิดนะ”แต่แล้วใครอีกคนกลับไม่พูดอะไร“นายอย่าเงียบแบบนี้สิ ฉันไม่ชอบ”“ก็ผมไม่ได้บอกให้คุณต้องชอบ คุณจะจูบหรืออะไรกับใคร มันเกี่ยวอะไรกับผมด้วย .. ผมเหนื่อย ง่วงแล้ว จะกลับ”‘โกรธทีไร สรรพนามแทนตัวเองเปลี่ยนทุกครั้งเลยนะ’ คนตัวสูงคิดคนแอบงอแงก็แอบวีนใส่ร่างสูงอย่างไม่รู้ตัว“งั้นกลับด้วยกัน”“ได้ไง นี่วันเกิดแฟนนายนะ อีกอย่างผมโอเค”ทามไทไม่ฟังอะไรทั้งนั้น เขาฝากบอกเพื่อนของลลินดาว่าเมามาก ขอตัวกลับก่อน ก่อนจะดึงกระชากลากถูชายหนุ่มอีกค
สองหนุ่มในชุดสูทสีดำกับเสื้อเชิตตัวในสีขาวแบบฉบับเท่หรู มันเป็นการแต่งสูทแบบเรียบๆ ที่ไม่เน้นเนกไท หรือโบว์อะไรมาผูกติด พวกเขาเดินเข้ามาในงานพร้อมกัน แน่นอนว่าเรื่องความหล่อ ไม่มีใครกินขาดทันทีที่ลลินดามองเห็นดอกไม้ช่อใหญ่สีแดงกับ paper bag สีดำ งานถูกจัดที่เอ็กซ์บาร์ มันเป็นร้านสไตล์ยุโรปแบบ outdoor แขกเหรื่อที่มาในงานมีแต่แบบเอ็กซ์คลูซีฟลลินดาในธีมชุดราตรีสีแดง ให้เข้ากับธีมงานในสีแดงดำ รูปร่างเพรียวระหง ตอนนี้ในมือของหญิงสาวถือดอกไม้สีแดงช่อใหญ่กับกระดาษห่อสีดำเคลือบทอง มันเป็นอะไรที่สวยสะดุดตาและเข้ากับชุดของเธอแบบสุดๆ ด้วยเช่นกันชายหนุ่มอีกคนยืนมองร่างสูงกำลังเดินควงสาวสวยไปต่อหน้า จู่ๆ อาการมันก็หึงหวงออกมาแปลกๆ ทว่ายังไม่ทันที่จะได้คิดอะไร เพื่อนๆ ของหญิงสาวก็กรูกันเข้ามาทักทายเพทายกันใหญ่ เพราะคนที่สูงถึง 187 ก็หน้าตาดีใช่ย่อย ไหนจะหุ่นล่ำแบบนายแบบทามไทเองก็หันชำเลืองมองมายังอีกฝ่ายอยู่บ่อยๆ ไม่ต่างกัน“ทามว่ามั้ย ทายนี่เสน่ห์แรงไม่เบา ดูเพื่อนๆ ของลลินสิ เล่นรุมหน้าล้อมหลังจนเขาจะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว”คนพูดถึงกับกลั้นขำไว้ไม่อยู่ ต่างจากอีกคนที่เอาแต่นั่งหน้าบึ้ง“เฮ้!! ทา
“อ้าว อลิส นี่บังเอิญจังนะ”กลับเป็นหญิงสาวอีกคนเอ่ยทักขึ้นแน่นอนว่าพวกเขาต่างคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว“มานั่งกับพวกพี่สิ” ลลินดาเอ่ยบอกกับหญิงสาวขณะที่คนทั้งสามก็ยืนคุยทักทายกันสักครู่ ทว่าหญิงสาวติดลูกค้าคนสำคัญ เธอจึงมาร่วมนั่งรับประทานอาหารด้วยไม่ได้“พอดีอลิสติดธุระน่ะค่ะ ไว้ค่อยคุยกันนะคะ”เธอพูดพร้อมส่งสายตามายังเพทายเป็นพิเศษ“นี่อย่าบอกนะว่า พวกนาย …”ทามไทเอ่ยถามอย่างพอจะรู้ในคำตอบเพทายหันมามองก่อนจะค่อยๆ หลับตาลงช้าๆ พยักหน้าน้อยๆ นั่นถือว่าเป็นคำตอบ“นายก็รู้ว่าที่บ้านของผมกับเธอเชียร์ให้พวกเราคบกันตั้งแต่เรียนอยู่ม.6”“นี่นายจะบอกว่า พวกนายคบกันแล้ว?”“อืมม ว่าที่คู่หมั้นผมน่ะ แต่ก็… ทานข้าวกันเถอะ”แต่แล้วเสียงของหญิงสาวที่นั่งเงียบอยู่นานก็เอ่ยดังขึ้น“โห!! นี่อลิสกับทายจะหมั้นกันแล้วหรอคะเนี่ย!!”สองหนุ่มหันมามองหญิงสาวด้วยท่าทีแปลกๆ เพราะเหมือนเธอจะสนิทกับอลิสอย่างไรอย่างนั้น เห็นดังนั้นเธอจึงรีบชิ่งตอบก่อน“จริงๆ ลลินกับอลิสเป็นลูกพี่ลูกน้องกันน่ะค่ะ ทามขา ดูเพื่อนเลขาสุดหล่อของคุณสิคะ กำลังจะหมั้น แล้วเมื่อไหร่จะเป็นคิวของเราบ้างละค๊าาาทาม …”พูดไปก็อ้อนไปมือไม้เกาะแ
“นายอย่าตื่นเต้นสิ ปล่อยตัวจอยๆ สบายๆ มันจะเจ็บแป๊บเดียว” คนร่างสูงกว่า 190 เอ่ยบอกกับคนตัวสูง 187“แต่ผมยังไม่ได้แตกใส่ปากนายเลยนะ นี่นายจะมาเล่นขี้โกงไม่ได้นะ” เขาเอ่ยทวงได้ฟังดังนั้นร่างหนาก็พลิกร่างบางให้หันมาด้านหน้า เขานั่งคุกเข่าอีกรอบ ก่อนที่ปากหนาร้อนจะตวัดจ้วงลงลิ้นอุ่นๆ ดูดดื่มเจ้าไซซ์ 58 อย่างถี่ระรัว ทำเอาอีกคนไม่ได้เอื้อนเอ่ยอะไร เพราะตอนนี้มีแค่เสียงครางอย่างลุ่มหลงเพียงเท่านั้น“ซี้ดดดด อื้มมม …. ผมเริ่มจะไม่ไหวแล้วนะทาม”“นายเงี่ยนใช่มั้ย บอกฉันสิ”ร่างหนาบังคับให้คนร่างบางกว่าเอ่ยพูด“ใช่”“ใช่อะไร? ”“อื้มม ผมเงี่ยน พอใจนายยัง ผมเงี่ยนมาก”ยิ่งเขาพูด ทามไทก็ยิ่งเร่งฝีปาก มือหนาก็บี้เขี่ยหัวนมชมพูน้อยๆ ของอีกคนไปด้วยอื้อออ …. อ๊าาาา …..ผู้ถูกกระทำต่างร้องครางอย่างทรมานและสุขสม เพทายหูอื้อตาลายไปหมด ได้ยินคือเสียงฉ่ำแฉะน้ำลายของอีกฝ่ายที่งับเจ้าแก่นกายอย่างคนกระสัน ชายหนุ่มร่างสูงจับเจ้าไซซ์ 58 ถอนออกจากโพรงปากอย่างช้าๆ ก่อนจะฟาดเข้ากับเรียวปากของตนเองไปหลายที จากนั้นก็งับมันเข้าอุ้งปากใหม่ด้วยความหื่นกระหาย“ทาม…. ผมไม่ไหว…”ยิ่งได้ยินดังนั้นนิ้วร้านก็พยายามแหย่ตร