ทันทีที่หญิงสาวเข้ามาด้านในเพื่อหาทามไท เธอก็ต่อว่าเขาไปชุดใหญ่ ก็เมื่อคืนเขาเล่นหนีหายกันทั้งคู่
“ทามอ่ะ จะกลับก็ไม่บอกลลิน” “ก็จะไปบอกได้ไงล่ะครับ ก็ลลินเมา พูดจารู้เรื่องกันซะที่ไหน” “แต่ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะค่ะ” หญิงสาวในชุดเดรสสีแดงสด และรองเท้าเข้าเซต พร้อมด้วยกระเป๋าหนังสีแดงใบจิ๋ว ไม่บอกก็รู้ว่าเธอคือเจ้าแม่แห่งวงการแฟชั่นแค่ไหน ไม่นานนักเสียงอินเตอร์คอมก็ถูกกดเข้ามายังห้องของเลขา แน่นอนว่าคนที่อยู่ด้านในต่างได้ยินด้วย “ครับผม” เพทายกดรับและตอบกลับไปในทันที “คุณเพทายคะ คือคุณอลิสให้ถามน่ะค่ะว่าหลังเลิกงานสะดวกคุยไหม พอดีเธอติดต่อคุณไม่ได้น่ะค่ะ เลยให้อรฝากถาม เพราะคืนนี้ผู้ใหญ่มีนัดคุยกันเรื่องหมั้นค่ะ” คนด้านในที่กำลังนั่งอยู่กับหญิงสาว ได้ยินดังนั้นก็ถึงกับหูอื้อตาลาย และเงี่ยหูรอฟังคำตอบ “งั้นบอกเธอให้ผมทีนะครับว่าตอนเย็นเจอกัน พอดีโทรศัพท์ผมแบตหมดน่ะครับ รบกวนคุณอรด้วยนะครับ” “ได้ค่ะ เดี๋ยวอรจะแจ้งให้นะคะ” “ขอบคุณครับ” โทรศัพท์ของชายหนุ่มแบตหมดและก็ลืมเอาที่ชาร์ตมา อีกอย่างว่าจะไปยืมใครอีกคน เขาก็เหมือนจะติดธุระกับแฟนสาวอยู่ ไม่นานหญิงสาวที่อยู่ด้านในก็ออกมาอย่างหน้าตาบึ้งๆ “กลับก่อนนะคะคุณเลขาสุดหล่อ พอดีเจ้านายของคุณอารมณ์เสียอะไรก็ไม่รู้ค่ะ อย่างกับไปกินรังแตนมา แล้วนี่ทายไปยังไงมายังไงถึงได้มาทำงานกับทามได้ล่ะเนี่ย นี่ลลินนึกว่าพวกเราจะไม่ได้เจอกันแล้วซะอีกนะ” คืนนั้นพวกเขายังไม่ได้ถามกันดี เพราะเอาแต่เมา “เราพึ่งกลับจากไต้หวันเมื่อไม่นานมานี้เอง ลลินล่ะไปอยู่ไหน หรือทำงานที่ไทยล่ะ?” “อ้อ ลลินก็ไปๆ กลับๆ ไทย-อิงแลนด์แหน่ะ” “จบดร.แล้วสินะ” “อื้ม เราคงจะรับปริญญาดุษฎีบัณฑิตเร็วๆ นี้แหละ ยังไงถ้าว่างก็อยากให้นายไปด้วยกันกับทามนะ” “อืม ถ้าไปได้เราก็จะไป” คนทั้งสองต่างก็ทักทายตามประสาเพื่อนเก่า ทว่าใครอีกคนแอบยืนฟังตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ คนร่างสูง 187 จะรู้ตัวอีกทีก็ต่อเมื่อประตูห้องถูกปิดลง ร่างสูงก็มายืนตระหง่านอยู่ตรงหน้ากันซะแล้ว คนที่กำลังนั่งพิมพ์เอกสารอย่างตั้งอกตั้งใจก็ต้องตกใจเมื่อจู่ๆ เสียงรีโมทที่ปิดล็อกห้องก็ดังขึ้นมาอีกจนได้ ติ๊ด… ‘เหมือนเราจะแอบกังวลตลอดเมื่อได้ยินเสียงล็อกประตูนี่ทีไร’ เพทายเงยหน้าขึ้นไปมองคนที่ยืนพิงประตูแก้วสีขุ่น เขายืนกอดอกเอาหลังพิงประตู และหันมาทางนี้ สายตาบ่งบอกได้ว่าพร้อมจะมีเรื่องขั้นสุด บุรุษร่างสูง 187 เลิกคิ้วสูงด้วยความสงสัย ก่อนจะหันหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้คว่ำลง “นายอยากพูดเรื่องที่ผมจะไปคุยเรื่องหมั้นใช่มั้ย? ” คนฟังถึงกับเม้มริมฝีปากไว้แน่นจนเป็นเส้นตรง “อืมมม” ตอบพร้อมพยักหน้า ก่อนพูดอีกว่า “นายก็รู้ว่าตัวเองแอนตี้ผู้หญิง แล้วนายยังจะหมั้นทำไม อย่าบอกนะว่านายชอบอลิสนั่นจริงๆ ?” “เปล่าหรอก ผมไม่ได้ชอบเธอแบบนั้น นายก็น่าจะรู้ว่าผมไม่ชอบผู้หญิง” “ถ้ารู้ ทำไมนายถึงไม่บอกเธอ นายจะให้เธอมาเสียเวลากับนายทำไม? ” บอสขี้หึงก็เริ่มมีคำถามมากมาย ทั้งๆ ที่อลิสต่างก็เป็นแค่ว่าที่คู่หมั้นที่ทางบ้านของเพทายแนะนำให้ก็เท่านั้น “แล้วเราล่ะ เราจะเสียเวลากันไปถึงไหน?” จู่ๆ เพทายก็พูดขึ้นมาซะอย่างนั้น “นี่นายคิดว่าการคบกับฉันมันเสียเวลานักหรอ!!” คนร่างสูงก็เริ่มทนไม่ได้เช่นกัน “แล้วนายว่าที่เป็นอยู่แบบนี้ เรื่องของเรามันเป็นไปได้นักรึไง? ” “งั้นฉันจะป่าวประกาศให้ทุกคนรู้ไปเลย ว่านายคือแฟนของฉัน” คนหัวร้อนกำลังจะกดรีโมทปลดล็อกห้อง ทว่าฝ่ามือหนาของใครอีกคนก็รีบคว้าห้ามเอาไว้ “ทาม!! นายช่วยใจเย็นๆ หน่อยได้มั้ย!!” เขาหันมามองคนที่ถามอย่างอยากทราบในคำตอบ “ใจเย็นๆ นายบอกให้ฉันใจเย็นๆ ทั้งๆ ที่นายกำลังจะหมั้นเนี่ยนะ หึ แม่งบ้าไปแล้ว!!” “แล้วนายจะให้ผมทำยังไง จะให้ถอนหมั้นงั้นหรอ?” “ก็ใช่ หรือว่านายไม่กล้าล่ะทาย!!” “แล้วทีนายยังคบกับลลินเลยล่ะทาม นายยังมีคนอื่น” “อ๋อ นี่คือที่จะหมั้นเพราะเห็นว่าผมก็มีคนอื่น อย่างนั้นใช่มั้ย? … ได้ งั้นฉันจะโทรไปบอกเลิกลลินเดี๋ยวนี้!!” คนทั้งคู่ที่เริ่มมีปากมีเสียง คนตัวสูงกว่า 190 หยิบโทรศัพท์สมาร์ทโฟนขึ้นมาก่อนจะกดไปยังปลายสาย ทว่าใครอีกคนก็มายื้อรั้งเอาไว้ไม่ให้กดโทรออก “หยุดเดี๋ยวนี้นะทาม นายจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ ทำไมใจร้อนแบบนี้ ลลินเธอไม่ได้ผิดอะไร!!” “งั้นนายจะเอายังไงทาย นายจะเอายังไงกับฉัน!!” ทั้งคู่ดึงทึ้งยื้อแย่งโทรศัพท์กันไปมา จนในที่สุดเขาก็กดร่างบางเข้ากับโต๊ะทำงาน คนทั้งคู่ที่ล้มทาบทับกัน จนใบหน้าอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ ความรู้สึกปรี๊ดปร๊าดอย่างกับกระแสไฟฟ้าช็อตก็วิ่งท้่วร่างกายอีกครั้ง พวกเขาใกล้กันทีไรเป็นต้องได้เรื่อง ไม่รอช้าร่างหนาที่คร่อมร่างที่บอบบางกว่า ก็จับยึดท้ายทอยของคนใต้ร่างเอาไว้แน่น ก่อนจะกระแทกริมฝีปากลงมาบดขยี้กลีบปากของใครอีกคนด้วยความไว เขาป่าเถื่อน ดุเดือดเป็นที่สุด มือหนาดึงทึ้งกระชากเสื้อของคนใต้ร่างจนขาดวิ่นมันหลุดลุ่ยไปหมด เสียงหายใจหอบกระหายสั่นพร่าอย่างน้ำเดือดปุด เขาซุกไซร้ดูดดื่มไปตามซอกคอหอมๆ มือสองข้างทึ้งรั้งแขนของคนใต้ร่างไม่ให้ขยับขืน หืดด หาดด หืด หาด … เสียงของลมหายใจติดๆ ขัดๆ และขาดช่วงเป็นระยะๆ เขาปาดละเลียดเลียตรงจุกนมซ้ายขวาก่อนจะขบดูดจนเกิดเสียง คนใต้ร่างที่ตอนแรกมีท่าทีว่าจะขัดขืน แต่ตอนนี้กลับตัวอ่อนปวกเปียกปานขี้ผึ้งลนไฟ กรี้งงงง …. กรี้งงงง …. เขาไม่สนแม้กระทั่งเสียงอินเตอร์คอมที่ดัง ปากหยักหนายังคงไล้ชิมทุกส่วนของร่างกาย มือหนาถอดกางเกงของอีกคนออกอย่างกระเสือกกระสน “นายอย่าบอกนะ ว่านายไม่ต้องการฉัน ดูเจ้านั่นของนายสิ ทั้งแข็ง ทั้งเยิ้ม” คนร่างหนาเอื้อนเอ่ย เขาถอดกางเกงตัวเองออกอย่างไว ก่อนจะเหวี่ยงมันไปพาดกับเก้าอี้บาร์ที่วางอยู่ด้านข้าง เขาจับกดร่างน้อยให้นั่งคุกเข่า ก่อนจะทึ้งท้ายทอยเสยเงยหน้าขึ้นมา มือหนางัดเอาแท่งเอ็นอุ่นร้อนของตัวเองออกมา ก่อนจับปากใครอีกคนให้อ้ากว้าง เขาจับมันยัดเข้าด้านในโพรงปากนุ่มนิ่มจนเต็มอุ้งปาก คนด้านล่างก็ตวัดเกี่ยวเอาหัวหยักบานสีแดงช้ำเข้าโพรงปากอย่างไว มืออีกข้างก็ช่วยชักรูดเข้าออก ร่างสูงต้องการปราบพยศร่างที่เล็กกว่า แต่ทว่าตอนนี้กลับไม่รู้ว่าใครจะปราบพยศใคร เพทายดูดดื่มกับลำเอ็นอย่างดื่มด่ำด้วยความเต็มใจเสมอมา ความใหญ่ยาวของมันทำเอาลำเอ็นกระทุ้งจนแทบทะลักกระพุ้งแก้ม อ้อคค … คนที่เผลอกดหัวใครอีกคนจนเกินไป ทำเอาลึกสุดคอ จนใครอีกคนแทบอ้วก “ขอโทษ … ฉันมีอารมณ์มากไปหน่อย นายทำให้ฉันควบคุมตัวเองแทบไม่ได้” เขาถอนแก่นกายออกจากปากของอีกคน ก่อนจะแหย่หัวแม่มือกดลงเกลียวลิ้นกระทั่งมันเปียกเยิ้มไปด้วยน้ำลาย จากนั้นเขาก็ยกนิ้วนั้นขึ้นมาดูดต่อ ชายหนุ่มอุ้มคนร่างบางเข้าไปด้านใน เขาปวดร้าวแก่นกายแทบปริแตก มันแน่นตึงจนเจ็บไปทั่วโคนขา “ฉันเงี่ยน อยากจะตอกก้นนาย จะตอกจนนายสำนึกว่านายคือของฉัน และห้ามไปมีคนอื่น” ยิ่งเขาพูดก็ยิ่งปลุกเร้าอารมณ์เจ้าแท่งเอ็นอุ่นก็ค่อยๆ ผงาดขยายขึ้นมากกว่าเก่า มันกระดกหัวดิ๊กๆ เขาจับมันฟาดเข้าที่ก้นงอนของคนร่างบางจนดังเพี๊ยะ “ฉันอยากให้นายดูจนแตก.. ได้มั้ย … วันนี้อยากแตกคาปากนาย แล้วฉันจะจัดตูดนายต่อ” พูดเสร็จเขาก็เดินต้อนให้ใครอีกคนไปยังเตียงนอนด้านใน ก่อนจะจับถ่างร่างบางให้นั่งลง เขายืนจับเจ้าแท่งเอ็นให้ใครอีกคนเม้มดูด เพทายก็ทำตามอย่างว่าง่าย ก็คนมันรักไปแล้ว จะว่ายังไง จะทำอะไรแบบไหนเขาก็ยอม เขาปล่อยให้ชายหนุ่มกระทุ้งกระแทกตอกอัดใส่ปากอย่างตามใจ เอื้ออออ …. อื้มมมม …. “นายนี่มันปากดีชะมัด ฉันนี่เงี่ยนคูณสิบ” ชายหนุ่มพูดสบถไป เสียงก็ขาดๆ หายๆ ไปตามแรงอารมณ์ “อ่าาาห์ ทาย … นายนี่มันพ่อมดชัดๆ ทำฉันแทบคลั่ง แบบนั้นแหละทาย อื้มมม… ดูดเก่งจังที่รัก ดูดเน้นๆ อีก ตวัดลิ้นตรงปลายหัวให้หน่อยสิ อื้มมม แบบนั้นแหละที่รัก” อ๊าาาาา ห์ ทามไทฉุดกระชากร่างบางให้มานั่งลงบนตัก เขาเสียวซ่านแต่ก็เก็บอาการเอาไว้ “ฉันยังไม่อยากแตก ขอเอาก้นนายก่อน ฉันชอบเวลาที่ของนายมันตอดรัดของฉัน” ยิ่งเขาตอกอัดแท่นกายไซซ์ 60 เข้าทางด้านหลัง น้ำเยิ้มก็ยิ่งเฉอะแฉะออกมาเรื่อยๆ ด้วยแรงอารมณ์ ร่างบางเริ่มตัวชาเพราะแรงกระแทกที่อัดแน่นมาอย่างยาวนาน “ทาม ผมแสบ” “จะเสร็จแล้วที่รัก” โอ้ววว ซี้ดดดด … ชายหนุ่มปล่อยน้ำสีขุ่นอุ่นร้อนให้สาดพุ่งเข้าสู่ด้านใน ก่อนจะจับงัดมันมาชักต่อที่โพรงปากนุ่ม ชายหนุ่มปล่อยให้น้ำที่สาดใส่เข้ามาไหลเลอะจนเปรอะมุมปากอย่างไม่ได้ตั้งใจ ทามไทดึงร่างบางให้ลุกขึ้น ก่อนจะค่อยๆ ตวัดลิ้นเลียตรงมุมปากที่เลอะเปื้อน ก่อนจะจะสอดลิ้นเข้าไปด้านใน และตวัดเรียวปากดูดดื่มหมุนพันลิ้นไปมาจนเป็นเกลียวกลั้วรัวในริมฝีปาก เขาป้อนจูบที่แสนหวานผสมผสานกับรสจูบอันร้อนแรง ลิ้นตวัดเกี่ยวพันอย่างไม่ขาดจังหวะ คนที่ยังไม่ถูกปลดปล่อย ก็ยิ่งปวดหนึบทรมาน ร่างบางจับชายร่างหนานอนทาบลงไปบนเตียง ก่อนที่ตัวเองจะขึ้นคร่อม เพทายเอานิ้วชี้เข้าวนกลั้วในอุ้งปากชอนไชควานเอาน้ำลายจนชุ่มแฉะ ก่อนจะปาดลงตรงรูคับแคบของตนเอง จากนั้นก็นั่งเขย่งขึ้นคร่อมร่างหนา เขาจับงัดไซซ์ 60 ที่ตอนนี้มันโตผงาดพร้อมเข้าสำรวจด้านในอีกรอบแล้ว มือเรียวหนาค่อยๆ จับมันกดยัดเข้าด้านใน ขาเขย่ง เอวขยับซ้ายขวาจนเข้าที่ คนใต้ร่างก็กระแทกสวนเข้ามาทีเดียวอย่างเร็วปรี่จนมิดลำ สวบ!! อื๊อออ!!! “เจ็บ …” “เจ็บหรือเสียว? หืม … ที่รัก” “ทำไมนายปากหวานจังล่ะทาม? ” “อย่างอื่นก็หวานนะครับเมีย … หิว… เงี่ยน … คืนนี้นายไปนอนกับฉันได้มั้ย?” ปึก ปึก ปึก “อ๊ะ!! เบาๆ หน่อย ไม่ไหว ผมเสียว ทาม ผมเสียว ไม่ไหว” พับ พับ พับ “จะแตกแล้วทาม ผมจะแตกแล้วทาม” “เรียกฉันว่าผัวสิ … เร็วเข้า” “จะแตกแล้วที่รัก …. อ๊าาาห์ ….” “ให้เรียกอีกรอบ” “จะแตกแล้วครับ ผัว…” คนด้านบนที่ถูกชายหนุ่มยัดจนเสร็จจากทางด้านหลัง ส่วนตัวเองก็น้ำพุ่งแตกด้วยความเสียวกระสันอย่างห้ามไม่ได้ คนทั้งคู่เล่นบทรักในออฟฟิศอย่างดุเดือดบ้าคลั่ง เสร็จสมไปถึงสามน้ำ แต่ทว่าใครอีกคนยังคงเรียกร้องให้คนร่างสูงกว่า 187 ไปนอนด้วยกันต่อในคืนนี้ “นี่นายไปเก็บแรงมาจากไหนเยอะแยะ อย่างกับ 11 ปีที่ผ่านมาไม่เคยปลดปล่อย” “ฉันก็ไม่ได้ปลดปล่อยแบบสะใจแบบนี้นี่ อยากเก็บไว้ทำกับนายแค่คนเดียว เราหาเวลาไปพักร้อนกันดีมั้ย ฉันอยากเปลี่ยนบรรยากาศ ยิ่งหนาวๆ แบบนี้ ฉันอยากแอบไปเอากันในที่สาธารณะน่ะ” “ทาม!! นายนี่มันโรคจิต!!” “หรือว่านายจะไม่ไป? ” “ไม่ไปก็บ้าแล้ว …”(บทนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียน ไม่แนะนำให้ลอกเลียนแบบ)“ไหนนายบอกจะพาผมไปค้างด้วย แล้วนายมาจอดรถบนห้างทำไม นี่คนเยอะแยะนะ ชั้นนี้คนมาดูหนังกันเยอะ”“นายแม่งป้อด”“นายจะไม่ให้ผมพักบ้างรึไงทาม”ชายหนุ่มหัวเราะกับเสียงออดอ้อนของอีกคน“เราไปดูหนังกัน ผมจองไว้แล้ว” ทามไทเอ่ยบอก“นายจองห้องวีไอพีหรอ?”“ถ้าวีไอพี มันจะไปสนุกได้ยังไง”“ไม่เอานะทาม อย่าเล่นแบบนี้ ผมกลัว!!”เมื่อชายหนุ่มเห็นสีหน้าของใครบางคนก็อดที่จะสงสารไม่ได้ เลยเลือกที่จะนั่งกอดซบกันและดูหนังเฉย แต่รับรองว่าหนังจบ เขาจะจัดคนขี้กลัวตรงลานจอดรถในห้างนี่อย่างสาสมพอถึงโรงหนังเพทายก็อ้ำอึ้งเล็กน้อย เพราะที่ทามไทเลือกมันเป็นที่นั่งแบบ sweet seat มันเป็นกึ่ง private ที่เน้นความส่วนตัวพื้นที่กว้างขวางมีพนักพิงกั้นโซนให้ความรู้สึกเป็นพื้นที่เฉพาะ และขณะเดียวกันก็อยู่ด้านบนสุดเพทายหยุดยืนมองเบาะนั่งสวีทซีทที่อยู่ตรงหน้าแล้วหันไปมองทามไทอย่างไม่ไว้ใจ“ทาม..นายจะทำอะไรของนายเนี่ย” น้ำเสียงที่เปล่งออกมาเต็มไปด้วยความหวาดระแวงชายหนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์พร้อมคว้ามืออีกฝ่ายให้เดินตามเข้าไปนั่ง ก่อนจะทิ้งตัวลงบนเบาะโซฟากว้างข้างๆ กัน“ฉันแ
จู๊ดๆ …เสียงปลดล็อกประตูรถยนต์คันหรูแบบ4 ที่นั่ง วันนี้เขาเลือกเอาคันที่มีขนาดกว้างพิเศษมา ซึ่งปกติแล้วชายหนุ่มมักจะขับสปอร์ตแบบสองที่นั่งซะมากกว่าคนร่างเล็กกำลังจะเอื้อมมือไปเปิดประตูเพื่อขึ้นไปนั่งด้านข้างคนขับ ทว่าเขากลับกระชากร่างบางกว่าเข้าไปยังเบาะด้านหลัง ก่อนจะสั่งการให้เครื่องสตาร์ทด้วยระบบสั่งการด้วยเสียง และปรับระบบแอร์โดยการควบคุมผ่านท่าทาง หรือระบบที่เรียกว่า ‘Gesture Control’ คนร่างสูงควบคุมปรับเบาะ ปรับองศาต่างๆ ผ่านระบบนี้ทั้งหมด“นี่ใช่มั้ยคือสาเหตุที่นายเลือกขับคันนี้มา” เพทายหันมามองก่อนจะเอ่ยขึ้นอีกว่า “นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่นายเลือกจอดมุมนี้”ไม่ว่าจะจอดตรงไหนมุมใดของห้าง มันก็ไม่มีใครเห็นหรอก เพราะนอกจากกระจกที่มืดแล้ว ยังมีม่านทึบที่เขาพึ่งสั่งการให้มันปิดทึบขึ้นอีกชั้น คนตัวสูงกว่า 190 เอาแต่ยกยิ้มในใจ“ฉันยังไม่ได้ปลดปล่อยเลยนะทาย นายจะให้ฉันค้างเติ่งไม่ได้นะ ฉันหิวนายอีกแล้วที่รัก” เสียงแหบพร่าวาบหวามทำเอาใครอีกคนแทบจะกระโดดจ้วงเขาในทันทีคนตัวสูงไม่รอข้ารีบเปลื้องกางเกงด้านล่างของตัวเองออกจนหมด ก่อนจะจับหัวอีกคนกดลงตรงกลางกาย คนถูกกระทำก็อ้าปากงับก่อนจ
เมื่อทั้งคู่ถึงคอนโด พวกเขาต่างหิ้วของกินพะรุงพะรัง มีทั้งของทานเล่นและเบียร์ยี่ห้อดังที่แอลกอฮอล์สิบเปอร์เซ็นต์ ทั้งที่ปกติคนอย่างทามไทไม่ค่อยแตะเบียร์สักเท่าไหร่ แต่วันนี้ดูเหมือนเขาจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษทั้งคู่ใช้เวลาเสพสุขร่วมกันอีกหลายรอบ ราวกับจะทดแทนเวลาที่ขาดหายไป ก่อนจะหมดแรงหลับใหลไปพร้อมกันเช้าวันอาทิตย์เสียงโทรศัพท์ภายในห้องดังขึ้น ทำเอาทามไทที่นอนขี้เซาภายใต้อ้อมกอดกันและกันต้องค่อยๆ ผละตัวออกอย่างแผ่วเบาจากร่างของใครอีกคน ก่อนจะลุกขึ้นไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหูด้วยความไม่เต็มใจเท่าใดนัก เขาได้ยินเสียงมารดาดังมาจากปลายสาย“ทาม วันนี้บ้านเรานัดกับบ้านลลินดาไว้ที่บ้านพักตากอากาศ จำได้ใช่ไหมลูก?”ทามไทถอนหายใจเบาๆ “ครับๆ ไปอยู่แล้ว แต่ผมจะพาเลขาส่วนตัวไปด้วย”“อ้าว พาเลขาไปทำไมลูก นี่มันนัดสังสรรค์กันในครอบครัวนะครับลูก”“เขารู้เรื่องงานมากกว่าผมอีกครับแม่ อีกอย่างเขาก็สนิทกับลลินดาอยู่แล้ว แม่ไม่ต้องห่วงหรอก รับรองแม่เจอเขาก็จะร้องอ๋อ” ทามไทเอ่ยตัดบทบนรถยนต์คันหรูระหว่างทาง“ทาม นายจะให้ผมไปทำไมเนี่ย ผมรู้สึกแปลกๆ นะ” เพทายบ่นพลางขยับเนกไทที่ถูกบังคับให้ใส่“แปลกอะไร นายก็ส
บนเครื่องบินผู้โดยสารชั้นเฟิร์สคลาสที่กำลังถูกให้บริการทั้งอาหารและเครื่องดื่ม ชายหนุ่มที่เดินทางจากเที่ยวบินตรงจากมิลานอิตาลีมายังสุวรรณภูมิ หยิบรับเอาแก้วไวน์ขึ้นกระดกดื่ม ไฟล์ทนี้คงอีกราวๆ 10 กว่าชั่วโมงก่อนจะถึง เขาปลดเข็มขัดทันทีที่ไฟสัญญาณดับลง แล้วนั่งดื่มหันหน้ามองออกไปด้านนอกหน้าต่างด้านหน้าตอนนี้ยังคงเห็นวิวเมืองที่เครื่องพึ่งจะเทคออฟไปเมื่อครู่ ก่อนที่มันจะค่อยๆ หายเข้ากลีบมวลเมฆที่เห็นเป็นแค่สีขาว เขาเดินทางไฟล์ทเช้า กะว่าถึงกรุงเทพก็ดึกจะได้เข้านอนเก็บแรงไว้ไปงานวันเกิดของลลินดาต่อในวันรุ่งขึ้น หญิงสาวที่ทางครอบครัวเลือกสรรให้ และลลินดาก็เป็นหญิงสาวเพียงคนเดียวในกลุ่มของเขากับเพทาย เมื่อสมัยเรียนมหาลัยเอกชนชื่อดังด้วยกันที่เมืองไทย พ่อแม่ของพวกเขาต่างเป็นคนรุ่นใหม่ แต่ในแง่ธุรกิจบางทีก็คงเลี่ยงไม่ได้ที่จะให้สองครอบครัวอยากเป็นปึกแผ่นเดียวกันคิดเรื่องนี้ทีไร ชายหนุ่มก็ข่มตาลงอย่างช้าๆ อีกทั้งตอนนี้ทามไทเอง ก็ไม่มีท่าทีว่าจะอยากลงหลักปักฐานกับใครเป็นตัวเป็นตนจริงๆ จังๆ สักที เขาไม่เคยพาใครเข้าบ้านทั้งๆ ตอนนี้อายุอานามก็ไม่ใช่น้อยๆ แล้ว ปีนี้เขา 34 แล้ว“สเต๊กริบอายรมควัน
บริษัทในเครืออุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนอะไหล่และไมโครชิฟเกี่ยวกับอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ในประเทศที่มีผู้ถือหุ้นมากกว่า 15 ประเทศทั่วโลกเพทาย ฝีมือฉมังเรื่องอิเล็กทรอนิกส์ ก็คงไม่แปลกที่จะถูกคัดเลือกให้เป็นผู้ช่วยหน้าใหม่ไฟแรง เขากำลังรอการกลับมาของนักบริหารหนุ่มเพื่อมารับตำแหน่งที่นี่ แม้ว่าพวกเขาจะสนิทกันมากในเมื่อครั้งอดีต แต่เมื่อเวลาล่วงเลยไป ใครเล่าจะไปรู้ได้ว่าตอนนี้พวกเขาจะยังสนิทกันเหมือนเดิมอยู่หรือเปล่าทามไทเป็นคนติดดิน อยู่ง่ายกินง่าย ใช้รถยุโรปรุ่นธรรมดา จบปริญญาตรีในไทย จากนั้นบิดามารดาก็พาเขากลับอิตาลีเพื่อไปเรียนต่อโท และต่อเอกที่สหรัฐอเมริกา การใช้ชีวิตของเขาจึงผ่านเรื่องราวต่างๆ มามากมายในขณะที่อีกคนก็เรียนต่อด้านไมโครชิฟที่ไต้หวัน เพราะไต้หวันเองก็เป็นประเทศที่เก่งด้านไมโครชิฟรองลงมาจากค่ายยักษ์ใหญ่ที่อเมริกา ด้วยฐานะทางบ้านของเพทายก็ถือว่าดีในระดับหนึ่งแต่ถ้าเทียบแล้วก็ถือว่าสู้ใครอีกคนไม่ได้“คุณเพทาย สวัสดีค่ะ”ทันทีที่สาวสวยฝ่ายการตลาดอย่างพินทุอรเห็นชายหนุ่มหุ่นล่ำเนื้อแน่นตัวสูงราว 187 เซนติเมตรเดินเข้ามาบริษัทแต่เช้า แม้เวลาเข้างานจะ 8:30 น. ทว่าผู้คนเริ่มทยอยมาส
อีกแล้วเหรอเพทายเดินเข้าไปและยื่นมือไปเปิดประตูออกมาช้าๆ ทว่าทามไทกลับไวกว่า เขารีบดึงมือชายหนุ่มอีกคนเข้าไปด้านในอย่างไวคนทั้งคู่จ้องมองตากัน ตอนนี้พวกเขาแทบจะหยุดหายใจก็ว่าได้ เมื่อจู่ๆ ก็นึกถึงเรื่องที่ทั้งคู่ต่างก็เคยเป็นครั้งแรกของกันและกันย้อนกลับไปสมัยมหาลัย (11 ปีก่อน)“นายอยากลองจริงๆ หรอทาม?”เสียงของเพทายเอ่ยถามเพื่อนสนิท ที่คิดไม่ซื่อ เมื่อครั้งนั้นพวกเขาต่างได้ย้ายมาอยู่คอนโดด้วยกัน ด้วยเหตุผลที่ว่า หอพักของเพทายต้องถูกรื้อทำใหม่ และช่วงนั้นเขาก็หาที่พักไม่ทัน เพราะมันปุบปับมาก ทามไทจึงเสนอให้มาพักกับตนเอง ตอนนี้ก็เรียนอยู่ปีสี่แล้ว ถ้าจะมีปัญหามันก็ใกล้จะจบ อีกทั้งที่เพทายไม่อยากจะสุงสิงกับทามไทเท่าไหร่ เพราะเวลาใกล้กัน ชายหนุ่มกลับรู้สึกเหมือนโดนไฟช็อตเขารู้สึกอยากถูกเนื้อต้องตัวของเจ้าของคอนโด อยากอยู่ใกล้ๆ และหลายต่อหลายครั้งที่ก็เผลอลอบมองริมฝีปากปากของอีกฝ่าย และก็ลอบกลืนน้ำลายอยู่บ่อยๆ“ก็ที่นายเอาแต่จ้องฉัน ก็ไม่ใช่อยากจะลองรึไง”เสียงของทามไทเอ่ยตอบแต่แล้วมีหรือที่อีกฝ่ายจะหนีพ้น เพราะตอนนี้นอกจากพวกเขาจะเมาแล้ว ก็ยังอยากเล่นอะไรกันห่ามๆ นั่นก็คือเกมเจ้าปัญห
“นายอย่าตื่นเต้นสิ ปล่อยตัวจอยๆ สบายๆ มันจะเจ็บแป๊บเดียว” คนร่างสูงกว่า 190 เอ่ยบอกกับคนตัวสูง 187“แต่ผมยังไม่ได้แตกใส่ปากนายเลยนะ นี่นายจะมาเล่นขี้โกงไม่ได้นะ” เขาเอ่ยทวงได้ฟังดังนั้นร่างหนาก็พลิกร่างบางให้หันมาด้านหน้า เขานั่งคุกเข่าอีกรอบ ก่อนที่ปากหนาร้อนจะตวัดจ้วงลงลิ้นอุ่นๆ ดูดดื่มเจ้าไซซ์ 58 อย่างถี่ระรัว ทำเอาอีกคนไม่ได้เอื้อนเอ่ยอะไร เพราะตอนนี้มีแค่เสียงครางอย่างลุ่มหลงเพียงเท่านั้น“ซี้ดดดด อื้มมม …. ผมเริ่มจะไม่ไหวแล้วนะทาม”“นายเงี่ยนใช่มั้ย บอกฉันสิ”ร่างหนาบังคับให้คนร่างบางกว่าเอ่ยพูด“ใช่”“ใช่อะไร? ”“อื้มม ผมเงี่ยน พอใจนายยัง ผมเงี่ยนมาก”ยิ่งเขาพูด ทามไทก็ยิ่งเร่งฝีปาก มือหนาก็บี้เขี่ยหัวนมชมพูน้อยๆ ของอีกคนไปด้วยอื้อออ …. อ๊าาาา …..ผู้ถูกกระทำต่างร้องครางอย่างทรมานและสุขสม เพทายหูอื้อตาลายไปหมด ได้ยินคือเสียงฉ่ำแฉะน้ำลายของอีกฝ่ายที่งับเจ้าแก่นกายอย่างคนกระสัน ชายหนุ่มร่างสูงจับเจ้าไซซ์ 58 ถอนออกจากโพรงปากอย่างช้าๆ ก่อนจะฟาดเข้ากับเรียวปากของตนเองไปหลายที จากนั้นก็งับมันเข้าอุ้งปากใหม่ด้วยความหื่นกระหาย“ทาม…. ผมไม่ไหว…”ยิ่งได้ยินดังนั้นนิ้วร้านก็พยายามแหย่ตร
“อ้าว อลิส นี่บังเอิญจังนะ”กลับเป็นหญิงสาวอีกคนเอ่ยทักขึ้นแน่นอนว่าพวกเขาต่างคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว“มานั่งกับพวกพี่สิ” ลลินดาเอ่ยบอกกับหญิงสาวขณะที่คนทั้งสามก็ยืนคุยทักทายกันสักครู่ ทว่าหญิงสาวติดลูกค้าคนสำคัญ เธอจึงมาร่วมนั่งรับประทานอาหารด้วยไม่ได้“พอดีอลิสติดธุระน่ะค่ะ ไว้ค่อยคุยกันนะคะ”เธอพูดพร้อมส่งสายตามายังเพทายเป็นพิเศษ“นี่อย่าบอกนะว่า พวกนาย …”ทามไทเอ่ยถามอย่างพอจะรู้ในคำตอบเพทายหันมามองก่อนจะค่อยๆ หลับตาลงช้าๆ พยักหน้าน้อยๆ นั่นถือว่าเป็นคำตอบ“นายก็รู้ว่าที่บ้านของผมกับเธอเชียร์ให้พวกเราคบกันตั้งแต่เรียนอยู่ม.6”“นี่นายจะบอกว่า พวกนายคบกันแล้ว?”“อืมม ว่าที่คู่หมั้นผมน่ะ แต่ก็… ทานข้าวกันเถอะ”แต่แล้วเสียงของหญิงสาวที่นั่งเงียบอยู่นานก็เอ่ยดังขึ้น“โห!! นี่อลิสกับทายจะหมั้นกันแล้วหรอคะเนี่ย!!”สองหนุ่มหันมามองหญิงสาวด้วยท่าทีแปลกๆ เพราะเหมือนเธอจะสนิทกับอลิสอย่างไรอย่างนั้น เห็นดังนั้นเธอจึงรีบชิ่งตอบก่อน“จริงๆ ลลินกับอลิสเป็นลูกพี่ลูกน้องกันน่ะค่ะ ทามขา ดูเพื่อนเลขาสุดหล่อของคุณสิคะ กำลังจะหมั้น แล้วเมื่อไหร่จะเป็นคิวของเราบ้างละค๊าาาทาม …”พูดไปก็อ้อนไปมือไม้เกาะแ
เมื่อทั้งคู่ถึงคอนโด พวกเขาต่างหิ้วของกินพะรุงพะรัง มีทั้งของทานเล่นและเบียร์ยี่ห้อดังที่แอลกอฮอล์สิบเปอร์เซ็นต์ ทั้งที่ปกติคนอย่างทามไทไม่ค่อยแตะเบียร์สักเท่าไหร่ แต่วันนี้ดูเหมือนเขาจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษทั้งคู่ใช้เวลาเสพสุขร่วมกันอีกหลายรอบ ราวกับจะทดแทนเวลาที่ขาดหายไป ก่อนจะหมดแรงหลับใหลไปพร้อมกันเช้าวันอาทิตย์เสียงโทรศัพท์ภายในห้องดังขึ้น ทำเอาทามไทที่นอนขี้เซาภายใต้อ้อมกอดกันและกันต้องค่อยๆ ผละตัวออกอย่างแผ่วเบาจากร่างของใครอีกคน ก่อนจะลุกขึ้นไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหูด้วยความไม่เต็มใจเท่าใดนัก เขาได้ยินเสียงมารดาดังมาจากปลายสาย“ทาม วันนี้บ้านเรานัดกับบ้านลลินดาไว้ที่บ้านพักตากอากาศ จำได้ใช่ไหมลูก?”ทามไทถอนหายใจเบาๆ “ครับๆ ไปอยู่แล้ว แต่ผมจะพาเลขาส่วนตัวไปด้วย”“อ้าว พาเลขาไปทำไมลูก นี่มันนัดสังสรรค์กันในครอบครัวนะครับลูก”“เขารู้เรื่องงานมากกว่าผมอีกครับแม่ อีกอย่างเขาก็สนิทกับลลินดาอยู่แล้ว แม่ไม่ต้องห่วงหรอก รับรองแม่เจอเขาก็จะร้องอ๋อ” ทามไทเอ่ยตัดบทบนรถยนต์คันหรูระหว่างทาง“ทาม นายจะให้ผมไปทำไมเนี่ย ผมรู้สึกแปลกๆ นะ” เพทายบ่นพลางขยับเนกไทที่ถูกบังคับให้ใส่“แปลกอะไร นายก็ส
จู๊ดๆ …เสียงปลดล็อกประตูรถยนต์คันหรูแบบ4 ที่นั่ง วันนี้เขาเลือกเอาคันที่มีขนาดกว้างพิเศษมา ซึ่งปกติแล้วชายหนุ่มมักจะขับสปอร์ตแบบสองที่นั่งซะมากกว่าคนร่างเล็กกำลังจะเอื้อมมือไปเปิดประตูเพื่อขึ้นไปนั่งด้านข้างคนขับ ทว่าเขากลับกระชากร่างบางกว่าเข้าไปยังเบาะด้านหลัง ก่อนจะสั่งการให้เครื่องสตาร์ทด้วยระบบสั่งการด้วยเสียง และปรับระบบแอร์โดยการควบคุมผ่านท่าทาง หรือระบบที่เรียกว่า ‘Gesture Control’ คนร่างสูงควบคุมปรับเบาะ ปรับองศาต่างๆ ผ่านระบบนี้ทั้งหมด“นี่ใช่มั้ยคือสาเหตุที่นายเลือกขับคันนี้มา” เพทายหันมามองก่อนจะเอ่ยขึ้นอีกว่า “นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่นายเลือกจอดมุมนี้”ไม่ว่าจะจอดตรงไหนมุมใดของห้าง มันก็ไม่มีใครเห็นหรอก เพราะนอกจากกระจกที่มืดแล้ว ยังมีม่านทึบที่เขาพึ่งสั่งการให้มันปิดทึบขึ้นอีกชั้น คนตัวสูงกว่า 190 เอาแต่ยกยิ้มในใจ“ฉันยังไม่ได้ปลดปล่อยเลยนะทาย นายจะให้ฉันค้างเติ่งไม่ได้นะ ฉันหิวนายอีกแล้วที่รัก” เสียงแหบพร่าวาบหวามทำเอาใครอีกคนแทบจะกระโดดจ้วงเขาในทันทีคนตัวสูงไม่รอข้ารีบเปลื้องกางเกงด้านล่างของตัวเองออกจนหมด ก่อนจะจับหัวอีกคนกดลงตรงกลางกาย คนถูกกระทำก็อ้าปากงับก่อนจ
(บทนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียน ไม่แนะนำให้ลอกเลียนแบบ)“ไหนนายบอกจะพาผมไปค้างด้วย แล้วนายมาจอดรถบนห้างทำไม นี่คนเยอะแยะนะ ชั้นนี้คนมาดูหนังกันเยอะ”“นายแม่งป้อด”“นายจะไม่ให้ผมพักบ้างรึไงทาม”ชายหนุ่มหัวเราะกับเสียงออดอ้อนของอีกคน“เราไปดูหนังกัน ผมจองไว้แล้ว” ทามไทเอ่ยบอก“นายจองห้องวีไอพีหรอ?”“ถ้าวีไอพี มันจะไปสนุกได้ยังไง”“ไม่เอานะทาม อย่าเล่นแบบนี้ ผมกลัว!!”เมื่อชายหนุ่มเห็นสีหน้าของใครบางคนก็อดที่จะสงสารไม่ได้ เลยเลือกที่จะนั่งกอดซบกันและดูหนังเฉย แต่รับรองว่าหนังจบ เขาจะจัดคนขี้กลัวตรงลานจอดรถในห้างนี่อย่างสาสมพอถึงโรงหนังเพทายก็อ้ำอึ้งเล็กน้อย เพราะที่ทามไทเลือกมันเป็นที่นั่งแบบ sweet seat มันเป็นกึ่ง private ที่เน้นความส่วนตัวพื้นที่กว้างขวางมีพนักพิงกั้นโซนให้ความรู้สึกเป็นพื้นที่เฉพาะ และขณะเดียวกันก็อยู่ด้านบนสุดเพทายหยุดยืนมองเบาะนั่งสวีทซีทที่อยู่ตรงหน้าแล้วหันไปมองทามไทอย่างไม่ไว้ใจ“ทาม..นายจะทำอะไรของนายเนี่ย” น้ำเสียงที่เปล่งออกมาเต็มไปด้วยความหวาดระแวงชายหนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์พร้อมคว้ามืออีกฝ่ายให้เดินตามเข้าไปนั่ง ก่อนจะทิ้งตัวลงบนเบาะโซฟากว้างข้างๆ กัน“ฉันแ
ทันทีที่หญิงสาวเข้ามาด้านในเพื่อหาทามไท เธอก็ต่อว่าเขาไปชุดใหญ่ ก็เมื่อคืนเขาเล่นหนีหายกันทั้งคู่“ทามอ่ะ จะกลับก็ไม่บอกลลิน”“ก็จะไปบอกได้ไงล่ะครับ ก็ลลินเมา พูดจารู้เรื่องกันซะที่ไหน”“แต่ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะค่ะ”หญิงสาวในชุดเดรสสีแดงสด และรองเท้าเข้าเซต พร้อมด้วยกระเป๋าหนังสีแดงใบจิ๋ว ไม่บอกก็รู้ว่าเธอคือเจ้าแม่แห่งวงการแฟชั่นแค่ไหน ไม่นานนักเสียงอินเตอร์คอมก็ถูกกดเข้ามายังห้องของเลขา แน่นอนว่าคนที่อยู่ด้านในต่างได้ยินด้วย“ครับผม” เพทายกดรับและตอบกลับไปในทันที“คุณเพทายคะ คือคุณอลิสให้ถามน่ะค่ะว่าหลังเลิกงานสะดวกคุยไหม พอดีเธอติดต่อคุณไม่ได้น่ะค่ะ เลยให้อรฝากถาม เพราะคืนนี้ผู้ใหญ่มีนัดคุยกันเรื่องหมั้นค่ะ”คนด้านในที่กำลังนั่งอยู่กับหญิงสาว ได้ยินดังนั้นก็ถึงกับหูอื้อตาลาย และเงี่ยหูรอฟังคำตอบ“งั้นบอกเธอให้ผมทีนะครับว่าตอนเย็นเจอกัน พอดีโทรศัพท์ผมแบตหมดน่ะครับ รบกวนคุณอรด้วยนะครับ”“ได้ค่ะ เดี๋ยวอรจะแจ้งให้นะคะ”“ขอบคุณครับ”โทรศัพท์ของชายหนุ่มแบตหมดและก็ลืมเอาที่ชาร์ตมา อีกอย่างว่าจะไปยืมใครอีกคน เขาก็เหมือนจะติดธุระกับแฟนสาวอยู่ ไม่นานหญิงสาวที่อยู่ด้านในก็ออกมาอย่างหน้าตาบึ้งๆ
“ลลินตามหาทามตั้งนาน แล้วนี่เลขาสุดหล่อของนายล่ะ? ” หญิงสาวเอ่ยแหย่เพื่อนชายอีกคนพอได้ยินคำว่าสุดหล่อก็ตงิดๆ อยู่ไม่หาย แต่ถึงอย่างนั้นก็คงต้องกลั้นใจตอบ อีกอย่างเขารู้ว่าลลินคงแค่แหย่โดยไม่คิดอะไร เธอคงแค่เย้าแหย่เหมือนที่ผ่านมา“เห็นไปรับลมแถวๆ สระหน่ะ นี่ลลิลเมาหรอครับ หน้าแดงเชียว? ”ที่ถามเพราะใบหน้าเธอแดงก่ำมากจริงๆ และตอนนี้นี่เองที่หญิงสาวก็ถือวิสาสะเข้าไปจุ๊บที่ปากของชายหนุ่มอย่างเผลอไผล ทันใดนั้นเองเขาก็มองเห็นว่ามีใครอีกคนคอยจ้องมองคนทั้งคู่อยู่ ชายหนุ่มจึงรีบผลักหญิงสาวออกอย่างไว ก่อนจะตรงดิ่งมายังบุรุษที่กำลังหน้าบึ้ง“มันไม่ใช่อย่างที่นายคิดนะ”แต่แล้วใครอีกคนกลับไม่พูดอะไร“นายอย่าเงียบแบบนี้สิ ฉันไม่ชอบ”“ก็ผมไม่ได้บอกให้คุณต้องชอบ คุณจะจูบหรืออะไรกับใคร มันเกี่ยวอะไรกับผมด้วย .. ผมเหนื่อย ง่วงแล้ว จะกลับ”‘โกรธทีไร สรรพนามแทนตัวเองเปลี่ยนทุกครั้งเลยนะ’ คนตัวสูงคิดคนแอบงอแงก็แอบวีนใส่ร่างสูงอย่างไม่รู้ตัว“งั้นกลับด้วยกัน”“ได้ไง นี่วันเกิดแฟนนายนะ อีกอย่างผมโอเค”ทามไทไม่ฟังอะไรทั้งนั้น เขาฝากบอกเพื่อนของลลินดาว่าเมามาก ขอตัวกลับก่อน ก่อนจะดึงกระชากลากถูชายหนุ่มอีกค
สองหนุ่มในชุดสูทสีดำกับเสื้อเชิตตัวในสีขาวแบบฉบับเท่หรู มันเป็นการแต่งสูทแบบเรียบๆ ที่ไม่เน้นเนกไท หรือโบว์อะไรมาผูกติด พวกเขาเดินเข้ามาในงานพร้อมกัน แน่นอนว่าเรื่องความหล่อ ไม่มีใครกินขาดทันทีที่ลลินดามองเห็นดอกไม้ช่อใหญ่สีแดงกับ paper bag สีดำ งานถูกจัดที่เอ็กซ์บาร์ มันเป็นร้านสไตล์ยุโรปแบบ outdoor แขกเหรื่อที่มาในงานมีแต่แบบเอ็กซ์คลูซีฟลลินดาในธีมชุดราตรีสีแดง ให้เข้ากับธีมงานในสีแดงดำ รูปร่างเพรียวระหง ตอนนี้ในมือของหญิงสาวถือดอกไม้สีแดงช่อใหญ่กับกระดาษห่อสีดำเคลือบทอง มันเป็นอะไรที่สวยสะดุดตาและเข้ากับชุดของเธอแบบสุดๆ ด้วยเช่นกันชายหนุ่มอีกคนยืนมองร่างสูงกำลังเดินควงสาวสวยไปต่อหน้า จู่ๆ อาการมันก็หึงหวงออกมาแปลกๆ ทว่ายังไม่ทันที่จะได้คิดอะไร เพื่อนๆ ของหญิงสาวก็กรูกันเข้ามาทักทายเพทายกันใหญ่ เพราะคนที่สูงถึง 187 ก็หน้าตาดีใช่ย่อย ไหนจะหุ่นล่ำแบบนายแบบทามไทเองก็หันชำเลืองมองมายังอีกฝ่ายอยู่บ่อยๆ ไม่ต่างกัน“ทามว่ามั้ย ทายนี่เสน่ห์แรงไม่เบา ดูเพื่อนๆ ของลลินสิ เล่นรุมหน้าล้อมหลังจนเขาจะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว”คนพูดถึงกับกลั้นขำไว้ไม่อยู่ ต่างจากอีกคนที่เอาแต่นั่งหน้าบึ้ง“เฮ้!! ทา
“อ้าว อลิส นี่บังเอิญจังนะ”กลับเป็นหญิงสาวอีกคนเอ่ยทักขึ้นแน่นอนว่าพวกเขาต่างคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว“มานั่งกับพวกพี่สิ” ลลินดาเอ่ยบอกกับหญิงสาวขณะที่คนทั้งสามก็ยืนคุยทักทายกันสักครู่ ทว่าหญิงสาวติดลูกค้าคนสำคัญ เธอจึงมาร่วมนั่งรับประทานอาหารด้วยไม่ได้“พอดีอลิสติดธุระน่ะค่ะ ไว้ค่อยคุยกันนะคะ”เธอพูดพร้อมส่งสายตามายังเพทายเป็นพิเศษ“นี่อย่าบอกนะว่า พวกนาย …”ทามไทเอ่ยถามอย่างพอจะรู้ในคำตอบเพทายหันมามองก่อนจะค่อยๆ หลับตาลงช้าๆ พยักหน้าน้อยๆ นั่นถือว่าเป็นคำตอบ“นายก็รู้ว่าที่บ้านของผมกับเธอเชียร์ให้พวกเราคบกันตั้งแต่เรียนอยู่ม.6”“นี่นายจะบอกว่า พวกนายคบกันแล้ว?”“อืมม ว่าที่คู่หมั้นผมน่ะ แต่ก็… ทานข้าวกันเถอะ”แต่แล้วเสียงของหญิงสาวที่นั่งเงียบอยู่นานก็เอ่ยดังขึ้น“โห!! นี่อลิสกับทายจะหมั้นกันแล้วหรอคะเนี่ย!!”สองหนุ่มหันมามองหญิงสาวด้วยท่าทีแปลกๆ เพราะเหมือนเธอจะสนิทกับอลิสอย่างไรอย่างนั้น เห็นดังนั้นเธอจึงรีบชิ่งตอบก่อน“จริงๆ ลลินกับอลิสเป็นลูกพี่ลูกน้องกันน่ะค่ะ ทามขา ดูเพื่อนเลขาสุดหล่อของคุณสิคะ กำลังจะหมั้น แล้วเมื่อไหร่จะเป็นคิวของเราบ้างละค๊าาาทาม …”พูดไปก็อ้อนไปมือไม้เกาะแ
“นายอย่าตื่นเต้นสิ ปล่อยตัวจอยๆ สบายๆ มันจะเจ็บแป๊บเดียว” คนร่างสูงกว่า 190 เอ่ยบอกกับคนตัวสูง 187“แต่ผมยังไม่ได้แตกใส่ปากนายเลยนะ นี่นายจะมาเล่นขี้โกงไม่ได้นะ” เขาเอ่ยทวงได้ฟังดังนั้นร่างหนาก็พลิกร่างบางให้หันมาด้านหน้า เขานั่งคุกเข่าอีกรอบ ก่อนที่ปากหนาร้อนจะตวัดจ้วงลงลิ้นอุ่นๆ ดูดดื่มเจ้าไซซ์ 58 อย่างถี่ระรัว ทำเอาอีกคนไม่ได้เอื้อนเอ่ยอะไร เพราะตอนนี้มีแค่เสียงครางอย่างลุ่มหลงเพียงเท่านั้น“ซี้ดดดด อื้มมม …. ผมเริ่มจะไม่ไหวแล้วนะทาม”“นายเงี่ยนใช่มั้ย บอกฉันสิ”ร่างหนาบังคับให้คนร่างบางกว่าเอ่ยพูด“ใช่”“ใช่อะไร? ”“อื้มม ผมเงี่ยน พอใจนายยัง ผมเงี่ยนมาก”ยิ่งเขาพูด ทามไทก็ยิ่งเร่งฝีปาก มือหนาก็บี้เขี่ยหัวนมชมพูน้อยๆ ของอีกคนไปด้วยอื้อออ …. อ๊าาาา …..ผู้ถูกกระทำต่างร้องครางอย่างทรมานและสุขสม เพทายหูอื้อตาลายไปหมด ได้ยินคือเสียงฉ่ำแฉะน้ำลายของอีกฝ่ายที่งับเจ้าแก่นกายอย่างคนกระสัน ชายหนุ่มร่างสูงจับเจ้าไซซ์ 58 ถอนออกจากโพรงปากอย่างช้าๆ ก่อนจะฟาดเข้ากับเรียวปากของตนเองไปหลายที จากนั้นก็งับมันเข้าอุ้งปากใหม่ด้วยความหื่นกระหาย“ทาม…. ผมไม่ไหว…”ยิ่งได้ยินดังนั้นนิ้วร้านก็พยายามแหย่ตร
อีกแล้วเหรอเพทายเดินเข้าไปและยื่นมือไปเปิดประตูออกมาช้าๆ ทว่าทามไทกลับไวกว่า เขารีบดึงมือชายหนุ่มอีกคนเข้าไปด้านในอย่างไวคนทั้งคู่จ้องมองตากัน ตอนนี้พวกเขาแทบจะหยุดหายใจก็ว่าได้ เมื่อจู่ๆ ก็นึกถึงเรื่องที่ทั้งคู่ต่างก็เคยเป็นครั้งแรกของกันและกันย้อนกลับไปสมัยมหาลัย (11 ปีก่อน)“นายอยากลองจริงๆ หรอทาม?”เสียงของเพทายเอ่ยถามเพื่อนสนิท ที่คิดไม่ซื่อ เมื่อครั้งนั้นพวกเขาต่างได้ย้ายมาอยู่คอนโดด้วยกัน ด้วยเหตุผลที่ว่า หอพักของเพทายต้องถูกรื้อทำใหม่ และช่วงนั้นเขาก็หาที่พักไม่ทัน เพราะมันปุบปับมาก ทามไทจึงเสนอให้มาพักกับตนเอง ตอนนี้ก็เรียนอยู่ปีสี่แล้ว ถ้าจะมีปัญหามันก็ใกล้จะจบ อีกทั้งที่เพทายไม่อยากจะสุงสิงกับทามไทเท่าไหร่ เพราะเวลาใกล้กัน ชายหนุ่มกลับรู้สึกเหมือนโดนไฟช็อตเขารู้สึกอยากถูกเนื้อต้องตัวของเจ้าของคอนโด อยากอยู่ใกล้ๆ และหลายต่อหลายครั้งที่ก็เผลอลอบมองริมฝีปากปากของอีกฝ่าย และก็ลอบกลืนน้ำลายอยู่บ่อยๆ“ก็ที่นายเอาแต่จ้องฉัน ก็ไม่ใช่อยากจะลองรึไง”เสียงของทามไทเอ่ยตอบแต่แล้วมีหรือที่อีกฝ่ายจะหนีพ้น เพราะตอนนี้นอกจากพวกเขาจะเมาแล้ว ก็ยังอยากเล่นอะไรกันห่ามๆ นั่นก็คือเกมเจ้าปัญห