Share

บทที่ 218

Author: อี้ซัวเยียนอวี่
ไม่นาน หมัวมัวที่รับผิดชอบตรวจร่างกายก็มารายงานในท้องพระโรงว่า

“ฝ่าบาท ตรงท้องของผู้หญิงคนนั้นมีบาดแผลจากมีด ซึ่งเป็นแผลเพิ่งเกิดขึ้น ยังมีร่องรอยพิษด้วย อีกอย่าง ได้ค้นเจอคำสั่งทหารในตัวนาง”

คำสั่งทหาร โดยเฉพาะป้ายคำสั่งอินทรีเหินนั่น เพียงพอที่จะยืนยันสถานะของเฉียวม่อ

หากเมิ่งสิงโจวตัวจริงยังอยู่ หรือเมิ่งฉวีสั่งให้ผู้คนปลอมตัวเป็นลูกชายตนเอง ก็ไม่มีทางที่จะนำคำสั่งทหารอันเป็นสิ่งของที่สำคัญเช่นนี้ให้กับเฉียวม่อ

ผลที่ออกมาเป็นแบบนี้ ต่อให้ผู้คนไม่อยากยอมรับก็ต้องยอมรับ

เหลียนซวงยืนคอยปรนนิบัติอยู่ข้างหลังเฟิ่งจิ่วเหยียน

นางเป็นหนึ่งในคนจำนวนน้อยที่รู้เรื่อง เวลานี้ก็ค่อนข้างแปลกประหลาดใจ

แม่นางเฉียวม่อคนนั้น ทำได้เด็ดขาดจริงๆ แม้แต่บาดแผลก็สามารถปลอมขึ้นมาได้

แต่หากเรื่องเป็นเช่นนี้ ฝ่าบาทก็จะไม่เอาเรื่องต่อไป ฮองเฮาก็จะปลอดภัยแล้ว

แต่ไม่รู้ทำไม สีหน้าของฮองเฮาแลดูค่อนข้างย่ำแย่

เฟิ่งจิ่วเหยียนเป็นเหมือนเพียงผู้ชมตั้งแต่ต้นจนจบ มองดูหน้ากากเฉียวม่อตกลงพื้น แล้วก็มองดูผลการตรวจร่างกายของเฉียวม่อ

มีเพียงตัวนางเองที่รู้ดี มีความจริงบางอย่าง กำลังจะเปิดเผยออกมา

แต่นั่นก็เป็น
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (9)
goodnovel comment avatar
Atitan Srikul
ตอนไหนจะรักซะที
goodnovel comment avatar
Sawarost Sontijai
ว่าแล้วคิดไม่ผิดจริงจริง
goodnovel comment avatar
FF
เหมือนวางแผนไว้หมดแล้วให้ศิษย์พี่ตัวเองกลับมาอยู่ในตำแหน่งฮองเฮาไม่ให้ไปยุ่งกับสงครามเพราะตัวเองอยากเป็นแทน
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1318

    “ทางตำหนักฉือหนิงเกิดอะไรขึ้น?” เฟิ่งจิ่วเหยียนนึกถึงองค์หญิงใหญ่สีหน้าของเซียวอวี้เคร่งขรึม“วันนี้เซียวฉีไปอธิบายกับไทเฮา ไทเฮาทนแรงกระทบเทือนมิได้ โมโหจนเกือบหมดสติไป”“เราจึง รีบออกจากวังมาบอกเรื่องนี้กับเจ้า”เฟิ่งจิ่วเหยียน: ...หากไทเฮามีเรื่องอะไรจริง ๆ ส่งคนมาแจ้งก็พอแล้ว ไฉนจำเป็นต้องให้เขามาเองเช่นนี้ดูเหมือนว่าน่าจะไม่มีอะไรมากแล้วเซียวอวี้เห็นนางไม่ตอบ ทั้งยังไม่แสดงท่าทีใด ๆ จึงทำเป็นถามอย่างกังวล“พวกเราควรจะไปเยี่ยมไทเฮาหรือไม่? แม้นคนจะไม่ได้ไป ก็ควรจะส่งของไปหน่อยก็ยังดี เพื่อปลอบใจคนแก่ชราอย่างนาง เจ้าคิดว่าอย่างไรบ้าง?”เฟิ่งจิ่วเหยียนปรายตามองเขา“ท่านยังคิดว่าวุ่นวายไม่พออีกหรือ?”เซียวอวี้โอบเอวของนาง วางคางลงบนไหล่ของนางอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ต่างอะไรกับหมาป่ากำลังส่ายหางออดอ้อน“นั่นสินะ ทำไมเราคิดไม่ได้ เรื่องของสองแม่ลูกอย่างไทเฮากับเซียวฉี ให้พวกนางจัดการเองก็พอ”เฟิ่งจิ่วเหยียนผลักเขาออกด้วยสีหน้าจริงจัง“เมื่อวานก็ได้มีฏีกาค้างเป็นกองแล้วกระมัง“แล้ว วันนี้ยังคิดจะเกียจคร้านต่อหรือ?”แม้นสามีภรรยาจะรักกันมากเพียงใด ก็ไม่ควรปล่อยให้งานสำคัญ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1317

    จื้อจ้ายจวีเซียวอวี้อยู่ที่นี่ไม่ยอมไป เฟิ่งจิ่วเหยียนจะไล่อย่างไรก็ไร้ประโยชน์เขายังใช้ลูกมาเป็นไม้กันหมา“อาหลิ่นกับอาลี่ไม่อยากให้เสด็จพ่อไป”ใช่ว่าเฟิ่งจิ่วเหยียนใจไม้ไส้ระกำ นางเป็นห่วงว่าเขาจะไม่สนใจเรื่องบ้านเมืองยามค่ำ เซียวอวี้ค้างแรมที่จื้อจ้ายจวีเฟิ่งจิ่วเหยียนเห็นเขาแล้วรำคาญ“ในฐานะฮ่องเต้ผู้นำแคว้น จะเอาแต่ใจเช่นนี้ได้อย่างไร?”เซียวอวี้โน้มเข้ามาใกล้ อุ้มนางเอาไว้บนตัก“ข้าเองก็เป็นเพียงชายทั่วไป ต้องการภรรยาและลูกอยู่เคียงข้าง เล่าเรื่องเมื่อกลางวันมาสิ เซียวฉีพูดอะไรกับเจ้า? สีหน้าเจ้าตอนกลับมาไม่สู้ดีนัก?”เฟิ่งจิ่วเหยียนครุ่นคิดแล้วกล่าว“เรื่องของจั่วเฟิงไม่แน่นอนสักที หม่อมฉันกลัวจะมีการเปลี่ยนแปลง”เซียวอวี้ทำหน้าไม่ใส่ใจ“แต่งตั้งรองหัวหน้าไว้ล่วงหน้า เมื่อใดที่จั่วเฟิงไม่อาจไปหนานเจียง ก็เลื่อนตำแหน่งรองหัวหน้า”เฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้า“นี่เป็นวิธีที่ดี”“แต่น่าเสียดายจั่วเฟิง”สุดท้ายแล้ว นางก็ยังทำใจไม่ได้ใช่ว่าใครก็เป็นนักรบอัจฉริยะเซียวอวี้เห็นนางขมวดคิ้ว จึงถามอย่างห่วงใย“หากเจ้าอยากเก็บจั่วเฟิงไว้จริง พรุ่งนี้ข้าจะส่งคนไปตำหนักฉื

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1316

    องค์หญิงใหญ่มีสนมชายมากมาย แต่กลับไม่มีสักคนที่นางรักอย่างแท้จริงแต่นางไม่สนใจสิ่งที่นางต้องการคือไม่รู้สึกผิดต่อตัวเอง“ข้าอยากดีกับตัวเอง” องค์หญิงใหญ่ดื่มน้ำชาหนึ่งคำ ในแววตาเผยความโศกเศร้าเล็กน้อยเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่พูดแทรก ฟังอยู่เงียบ ๆ“ตอนนั้น ฮ่องเต้เพิ่งขึ้นครองราชย์ ศัตรูมารุกราน ข้าทำเพื่อแคว้นหนานฉี อภิเษกเชื่อมสัมพันธ์กับแคว้นต้าเซี่ย”“หลายปีที่อยู่ในแคว้นต้าเซี่ย ข้าราวกับศพเดินได้”“จนกระทั่งข้าได้พบท่าน นั่นเป็นครั้งแรกที่ข้าหวั่นไหวเพราะชายหนุ่มคนหนึ่ง”องค์หญิงใหญ่จ้องมองฮองเฮาตรงหน้า สายตาราวกับทะลุผ่านมิติเวลา กลับไปตอนที่เพิ่งพบกันครั้งแรกสายตาเฟิ่งจิ่วเหยียนซื่อตรง“เรื่องนี้เป็นความผิดของข้า”มุมปากองค์หญิงใหญ่ยกขึ้น“ท่านไม่ต้องรู้สึกผิด ข้าปล่อยวางนานแล้ว”“ตั้งแต่รู้ว่าท่านเป็นสตรี ข้าก็ไม่เคยคิดเกินเลย”“ยิ่งไปกว่านั้น ตอนแรกที่ได้พบกัน เกิดขึ้นภายใต้ความตื่นตระหนกของข้า แล้วท่านปรากฏตัวพอดี จึงทำให้เกิดความสับสน”“ตอนนี้เมื่อคิดดู ความจริงหากเปลี่ยนเป็นใครสักคน บางทีข้าก็อาจหวั่นไหวเหมือนกัน”เฟิ่งจิ่วเหยียนเห็นด้วยกับคำพูดนี้“เป็นเช่นน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1315

    หลังเซียวอวี้เข้ามา ฮูหยินเมิ่งขอตัวออกไปเฟิ่งจิ่วเหยียนเหลือบมองเซียวอวี้แวบหนึ่ง“ข้ากับท่านแม่กำลังคุยกัน ทำไมฝ่าบาทจึงมากะทันหัน?”ต่อมานางถามสีหน้าจริงจัง “หรือเกิดเรื่องใดขึ้นหรือ?”เซียวอวี้กลับโอบนางเข้ามากอดอย่างทนไม่ไหว“ในวังว่างเปล่า ในใจข้าเองก็ว่างเปล่า จึงอยากมาเยี่ยมพวกเจ้า”บนเตียงเล็ก เด็กน้อยสองคนยื่นหัวออกมา จ้องมองเสด็จพ่อเซียวอวี้ใจอ่อนยวบ รีบไปอุ้มพวกเขาทันที“อาหลิ่น อาลี่ คิดถึงเสด็จพ่อหรือไม่?”เฟิ่งจิ่วเหยียนมองดูภาพนี้ ราวกับเด็กสองคนได้กลายเป็นยาวิเศษของเขาไปแล้ว“ฝ่าบาทควรรีบกลับวังก่อน” นางเอ่ยเตือนเซียวอวี้อุ้มเด็กน้อยสองคนเอาไว้ ทำเหมือนไม่ได้ยิน“ฎีกาจัดการเสร็จหมดแล้ว ในวังไม่มีธุระใด”เขากำลังโกหกเฟิ่งจิ่วเหยียนเองก็รู้อยู่แก่ใจเมื่อเห็นเขาคิดถึงลูกมากขนาดนี้ จึงอนุญาตให้เขาอยู่ต่ออีกสักครู่เพียงไม่นาน นอกเรือนมีคนรายงาน“พระนาง ในวังมีคนมาแจ้งข่าว องค์หญิงใหญ่มีธุระกับท่านเพคะ”เซียวอวี้ที่กำลังกล่อมลูกชะงัก หันมองเฟิ่งจิ่วเหยียน“เซียวฉีหาเจ้า น่าจะเป็นเรื่องของจั่วเฟิง”หลังเฟิ่งจิ่วเหยียนออกจากวัง โดยไม่รู้เรื่องราวหลังจ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1314

    “เจ้ามีหญิงที่พึงใจอยู่หรือไม่ ไม่มีความจำเป็นต้องบอกข้า” องค์หญิงใหญ่หันหลังเดินไปอุทยานหลวงต่อจั่วเฟิงตามอยู่ด้านหลังนาง เหยียบเงาของนางเป็นบางครั้งเขาพูดโกหกไปเพราะเขาได้ยินว่าองค์หญิงใหญ่มักมากในกาม เขากลัวถูกนางหมายตาเมื่อถึงอุทยานหลวง องค์หญิงใหญ่นั่งลงภายในศาลา“ฤดูใบไม้ร่วงแล้ว ดอกไม้ร่วงไปนานแล้ว ช่างน่าเบื่อสิ้นดี”ในสายตาของนาง จั่วเฟิงผู้นี้ก็เหมือนดอกไม้ที่โรยราส่วนพวกที่อยู่ในจวนของนาง บางคนเป็นดอกตูมยังไม่บาน บางคนงดงามเย้ายวน มีผู้ใดที่สู้เขาไม่ได้?เสด็จแม่เองก็เหลือเกิน คำโกหกที่ชัดเจนเช่นนี้ก็แยกแยะไม่ออกขอเพียงเสด็จแม่ใส่ใจสายตาในการเลือกชายหนุ่มของนาง คงไม่คิดว่านางจะชอบจั่วเฟิงจริงๆจั่วเฟิงยืนอยู่นอกศาลา ไม่คิดจะลามปามเขายืนอยู่ข้างนอก ดูเหมือนองครักษ์ขององค์หญิงขณะนี้ ภายในตำหนักฉือหนิงวันนี้เชิญคนตระกูลจั่วเข้าวัง เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างองค์หญิงใหญ่และจั่วเฟิงตั้งแต่เข้าวังมาเมื่อวาน คนของตระกูลจั่วก็คิดตกแล้วพวกเขามีจั่วเฟิงเป็นลูกชายเพียงคนเดียว เมื่อก่อนไม่อยากให้เขาเป็นทหาร แต่เขาก็เป็นแล้วต่อมา ฮูหยินจั่วข่มขู่ด้วยชีวิต

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1313

    ภายในตำหนักฉือหนิง คนที่ควรมาล้วนมาถึงแล้วใบหน้าไทเฮามีแต่รอยยิ้ม หันมององค์หญิงใหญ่“ฉีเอ๋อร์ รีบนั่งลง”เด็กคนนี้ ดีใจจนอึ้งไปแล้วหรือช่างไม่รู้เลย องค์หญิงใหญ่ตกใจจนอึ้งต่างหากนี่เสด็จแม่บังคับให้แต่งงานหรือ?นางหันมองจั่วเฟิง จั่วเฟิงสวมชุดลำลอง สีหน้าไม่แสดงความรู้สึกใด สายตามองอิฐเบื้องหน้า ไม่มองนางสักนิดทำราวกับนางไม่มีตัวตนองค์หญิงใหญ่ยืนแข็งทื่ออยู่ตรงนั้นอย่าเห็นว่าอยู่ต่อหน้าผู้อื่นนางดูสูงส่ง แต่อยู่ต่อหน้าเสด็จแม่ นางคือเด็กคนหนึ่งตลอดไปเป็นเด็กที่ทำความผิดแล้วร้อนตัวปฏิกิริยาตอบโต้ของนาง คือการหนี!“เสด็จแม่ หม่อมฉันไปตำหนักหย่งเหอก่อนเพคะ!”พูดจบ ไม่รอให้ไทเฮาคัดค้าน รีบก้าวจากไปทันที……เดิมองค์หญิงใหญ่คิดจะไปหลบที่ตำหนักหย่งเหอเมื่อไปถึงกลับถูกแจ้งว่าฮองเฮาไม่อยู่ตำหนักหย่งเหอ วันนี้พาองค์ชายทั้งสองออกจากวังไปตั้งแต่เช้านางกำนัลคนนั้นสนิทกับองค์หญิงใหญ่ จึงพูดให้ฟังอีก“ฮ่องเต้อยู่ด้านใน องค์หญิงใหญ่จะพบฮ่องเต้หรือไม่เพคะ?”ในหัวองค์หญิงใหญ่มีคำพูดหลายคำผุดขึ้น รักษาม้าตายเหมือนม้าเป็นไม่ต้องสงสัย เซียวอวี้คือม้าตายตัวนั้นนางไม่หวังให้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status