9
ยกเลิกการหมั้น
หลังจากที่มลชญาบอกกับแม่ของเธอเรื่องยกเลิกการหมั้นหมายพ่อกับแม่ของเธอก็ได้มาที่บ้านของออสตินเพื่อพูดคุยกับพ่อแม่ออสตินเรื่องยกเลิกการหมั้นหมาย
“อ้าว!!! ลักขณามีอะไรทำไมได้มาเร่งด่วนอย่างนี้ล่ะ” ละอองถามเธอขึ้นมาเพราะเห็นโทรมาเร่งด่วนแล้วก็มาถึงในเวลาไม่นาน
“ก็มีเรื่องด่วนที่เราสองคนต้องได้พูดคุยกันเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของลูกเราสองคนที่ต้องให้ความาสำคัญมากๆ” ลักขณาพร้อมด้วยบุรินทร์สามีของเธอก็เดินเข้าไปในบ้านทันที
“ต้องเป็นเรื่องหมั้นแน่ๆ เลย” ละอองพูดขึ้นด้วยความดีใจเพราะคิดว่าทั้งสองจะมาเลื่อนให้เร็วขึ้น บุรินทร์พยักหน้าให้กับเพื่อนของภรรยา
“ไปนั่งคุยกันดีกว่าละออง เรื่องมันยาว” ลักขณาพูดจบละอองจึงเดินพาทั้งสองไปที่ห้องรับแขก
“วันนี้แฟรงค์ไม่อยู่นะพึ่งบินเมื่อวานเห็นบอกว่าพี่ชายไม่ค่อยสบาย” ละอองพูดขึ้นมาก่อนจะนั่งลงแล้วก็เรียกให้เด็กนำน้ำมาเสิร์ฟ
“ละอองฉันขอเข้าเรื่องเลยนะ” ลักขณายากที่จะเอ่ยมันขึ้นมาเพราะเธอไม่ได้อยากทำให้เรื่องราวมันเป็นอย่างนี้อีกอย่างเธอก็รู้ว่าลูกสาวของเธอก็ไม่ได้อยากให้เรื่องมันเป็นอย่างนี้แต่เป็นเพราะออสตินที่ทำให้เรื่องทุกอย่างมันต้องจบลงอย่างกระทันหันแต่ลักขณาก็ไม่ได้มองว่าเป็นความผิดของออสติน
“พูดมาเลยอยากเลื่อนให้เร็วขึ้นใช่มั้ยล่ะ” ละอองที่คิดเองเออเองแล้วก็พูดออกมาเองโดยที่ยังไม่มีใครพูดเรื่องที่จะเลื่อนการหมั้นเข้ามา “เปล่าไม่ใช่อย่างนั้นหรอกละออง พอดีฉันจะมายกเลิกการหมั้นครั้งนี้เพราะโมเดลแกไม่อยากบังคับออสตินเพราะดูท่าทางของออสตินจะไม่ได้เต็มใจด้วย” ลักขณาได้พูดออกมาเธอก็โล่งใจเพราะมันคือความต้องการของลูกสาวของเธอ
“ผมหวังว่าคุณกับคุณแฟรงค์จะเข้าใจเรานะ ลูกสาวของเราพร้อมมากเพราะโมเดลแอบรักออสตินมานานหลายปีแต่ออสตินไม่ได้รักโมเดลเพราะอย่างนี้แล้วเด็กทั้งสองก็ไม่ควรที่จะได้หมั้นหมายกัน
“แต่เรื่องนี้ละอองได้คุยกับออสตินแล้วนะ”
“เมื่อสองวันก่อนโมเดลร้องไห้ตาบวมมาจากมหาวิทยาลัยก็ได้ความว่าโมเดลเอาของไปให้ออสตินแล้วออสตินก็ตะคอกต่อว่าโมเดลแล้วก็ไม่รับของที่โมเดลให้แค่นี้มันคงมากพอที่เราสองครอบครัวต้องยอมรับความจริงว่าออสตินไม่ได้รักโมเดลและน่าจะไม่สามารถรักโมเดลได้” ลักขณาพูดขึ้นมาละอองก็เข้าใจหัวอกของคนเป็นแม่ที่ไม่อยากให้ลูกสาวเสียใจ ละอองจึงต้องเริ่มแผนการใหม่ด้วยการกดดันให้ออสตินหลงรักโมเดลให้ได้
“ถ้าเด็กสองคนรักกันทุกอย่างก็จะสวยงาม ถ้าอย่างนั้นเรื่องนั้นเดี๋ยวฉันจัดการเองชักขณารับรองว่าเราได้เป็นดองกันแน่ๆ ไม่นานเกินรอแน่นอน” ละอองพูดขึ้นมาพร้อมกับมองไปข้างหน้าด้วยท่าทีที่ทั้งโกรธลูกชายและพร้อมที่จะทำให้ลูกชายของเธอรักมลชญาให้ได้
วันต่อมาละอองมาหาออสตินที่คอนโดมิเนียมสุดหรูที่มีราคาหลักหลายล้านแต่มันเป็นชื่อของละอองไม่ใช่ชื่อของออสติน
ละอองเข้ามานั่งข้างในห้องของออสตินที่ถูกตกแต่งโดยออสติน ละอองนั่งมองไปรอบๆ ห้องด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียดมากๆ
“แม่ดูหน้าเครียดๆ แม่มีอะไรหรือเปล่า” ออสตินที่เห็นแม่นั่งหน้านิ่งๆ และค่อนข้างซีเรียสเพราะโดยปกติแล้วเธอเป็นคนที่เข้ามาต้องพูดๆ ไม่ให้เขาได้พักหูอย่างแน่นอน
“มีแล้วก็เป็นเรื่องที่ซีเรียสมาก” ละอองเปล่งเสียงออกมาด้วยเสียงที่ค่อนข้างเครียด
“แม่มีเรื่องอะไรทำไมต้องพูดเสียงน่ากลัวอย่างนั้นด้วย” ออสตินพูดขึ้นมาพร้อมกับมองหน้าของแม่แล้วก็นั่งลงข้างๆ แม่ของเธอ
“ออสตินไปทำอะไรให้โมเดลโกรธจนมาขอยกเลิกการหมั้น” ละอองพูดขึ้นมาพร้อมกับจ้องมองออสตินตาไม่กระพริบ
“ผมไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย โมเดลไม่อยากหมั้นก็คือเขาโมเดลไม่อยากหมั้นไม่เห็นมีอะไรซับซ้อนเลย” ออสตินเอ่ยออกมาอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวทั้งๆ ที่เขารู้ดีแก่ใจว่าเขาได้พูดได้ทำอะไรกับเธอไว้บ้าง
“อย่ามาโกหกแม่ได้มั้ยออสติน แม่รู้จักนิสัยของแกดี โมเดลรักแกแต่แกมันไม่รักดีมั่วผู้หญิงไปทั่วคนดีๆ อย่างโมเดลแกจะไปหาได้ที่ไหน” ละอองพูดขึ้นมาพร้อมกับมองหน้าของเขาอย่างเอาเรื่องเพราะเธอรู้ทุกเรื่องมาหมดแล้ว
“ก็ผมไม่ชอบก็คือไม่ชอบทำไมแม่ต้องบังคับให้ผมไปรักคนที่ผมไม่ได้รักด้วยล่ะ แล้วแม่รู้ได้ยังไงว่าโมเดลเป็นคนดีมันจะไม่ใช่อย่างที่แม่เห็นก็ได้” ออสตินพูดขึ้นมาเพราะอยากให้แม่ได้รู้อย่างที่เขารู้แม้ว่าสิ่งที่เขารู้มันจะไม่ได้เป็นความจริงแต่เป็นความเชื่อของเขาเอง
“แม่ก็ไม่ชอบที่แกไปยุ่งกับผู้หญิงหลายๆ คนอย่างนั้น แกไม่ต้องพูดอะไรให้มันมากความ แกต้องไปง้อโมเดลจนกว่าโมเดลจะยอมกลับมาหมั้นกับแก ไม่อย่างนั้นแกก็อย่าหาว่าแม่ไม่เตือน สิ่งที่แม่ทำอยู่ตอนนี้คือความหวังดี” ละอองบอกกับลูกชายของเธอด้วยความหวังดีที่เธอมีต่อลูกชายแต่มันไม่ใช่ความต้องการของลูกชายของเธอเลยสักนิด
“แม่หวังดีแต่แม่ได้เข้าใจผมเลย” ออสตินพูดขึ้นมาแล้วก็เดินไปที่ห้องนอน
“แล้วที่แกกำลังทำแกเคยเข้าใจแม่บ้างมั้ยว่าความเป็นห่วงที่แม่มีมันมากแค่ไหน” ละอองพูดตามหลังลูกชายของเธอเพื่อให้ลูกชายของเธอนำมันไปคิดเพราะการใช้ชีวิตของออสตินมันไม่ได้ดีต่อตัวของเขาเลย
ออสตินเข้าไปในห้องเขานอนมองเพดานแล้วก็คิดทบทวนเรื่องราวต่างๆ จนเผลอคิดไปถึงเรื่องราวของเธอกับโมเดลในตอนที่ทั้งสองเป็นวัยรุ่นต้อนต้นอายุประมาณ 13 ปี และเป็นช่วงแรกที่ทั้งสองได้ทำความรู้จักกัน
10ความทรงจำอันเลวร้าย เมื่อ 9 ปีก่อนตอนที่ออสตินกลับมาจากต่างประเทศเพื่อย้ายมาอยู่ที่ประเทศไทยและเป็นครั้งแรกที่ออสตินได้เจอกับมลชญาที่สนามบินเพราะครอบครัวของเธอมาต้อนรับการกลับมาของครอบครัวออสติน ทั้งสองครอบครัวทักทายกันอย่างเป็นมิตรด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส ครอบครัวของทั้งสองก็ได้ไปกินข้าวด้วยกันหลังจากออกจากสนามบินซึ่งในตอนนั้นออสตินที่ได้เห็นมลชญาครั้งแรกและได้ทำความรู้จักกันผ่านพ่อกับแม่ของพวกเขาทั้งสองคน “ออสตินนี่โมเดลที่แม่เคยบอกว่าออสตินต้องไปเรียนที่เดียวกันกับโมเดล” ละอองแนะนำมลชญาให้กับออสติน ออสตินมองหน้าของโมเดลเขาก็รู้สึกเขินๆ เธอแต่เขาก็ยื่นมือของเขาออกไปจะจับทักทายกับโมเดลเพื่อทำความรู้จัก “ไม่แม่ไม่ให้จับมือกับผู้ชายแปลกหน้า” มลชญาพูดออกมาพร้อมกับมองหน้าของออสตินแต่ผู้ใหญ่ทั้งสี่คนก็หัวเราะให้กับความน่ารักไร้เดียงสาของมลชญา “ไม่ได้แปลกหน้าสักหน่อยแม่ก็แนะนำให้รู้จักอยู่นี่ไง” ออสตินที่เห็นว่ามลชญาน่ารักแต่พอเธอพูดออกมาอย่างนั้นเขาก็เริ่มไม่ชอบนิสัยของมลชญา “ไม่เป็นไรจ๊ะ
9ยกเลิกการหมั้น หลังจากที่มลชญาบอกกับแม่ของเธอเรื่องยกเลิกการหมั้นหมายพ่อกับแม่ของเธอก็ได้มาที่บ้านของออสตินเพื่อพูดคุยกับพ่อแม่ออสตินเรื่องยกเลิกการหมั้นหมาย “อ้าว!!! ลักขณามีอะไรทำไมได้มาเร่งด่วนอย่างนี้ล่ะ” ละอองถามเธอขึ้นมาเพราะเห็นโทรมาเร่งด่วนแล้วก็มาถึงในเวลาไม่นาน “ก็มีเรื่องด่วนที่เราสองคนต้องได้พูดคุยกันเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของลูกเราสองคนที่ต้องให้ความาสำคัญมากๆ” ลักขณาพร้อมด้วยบุรินทร์สามีของเธอก็เดินเข้าไปในบ้านทันที “ต้องเป็นเรื่องหมั้นแน่ๆ เลย” ละอองพูดขึ้นด้วยความดีใจเพราะคิดว่าทั้งสองจะมาเลื่อนให้เร็วขึ้น บุรินทร์พยักหน้าให้กับเพื่อนของภรรยา “ไปนั่งคุยกันดีกว่าละออง เรื่องมันยาว” ลักขณาพูดจบละอองจึงเดินพาทั้งสองไปที่ห้องรับแขก “วันนี้แฟรงค์ไม่อยู่นะพึ่งบินเมื่อวานเห็นบอกว่าพี่ชายไม่ค่อยสบาย” ละอองพูดขึ้นมาก่อนจะนั่งลงแล้วก็เรียกให้เด็กนำน้ำมาเสิร์ฟ “ละอองฉันขอเข้าเรื่องเลยนะ” ลักขณายากที่จะเอ่ยมันขึ้นมาเพราะเธอไม่ได้อยากทำให้เรื่องราวมันเป็นอย่างนี้อีกอย่างเธอก็รู้ว่าลูกสาวของเธอก็ไม่ไ
8เราผิดอะไร มลชญาให้คนรถที่บ้านมารับชลธิชาที่บ้านของเธอแล้วทั้งสองก็ไปที่ร้านเหล้าประจำเป็นร้านเล็กๆ ไม่ใหญ่มาก ซึ่งทั้งสองก็ชอบมานั่งชิลล์ที่ร้านนี้เป็นประจำ “อ้าว!!! น้องโมเดลน้องมัดหมี่ไม่ได้เจอกันนานเลย มาๆ เข้าร้านก่อนวันนี้ทางร้านจัดส่วนลดให้ด้วยนะ” พี่เจ้าของร้านที่เป็นรุ่นพี่ของทั้งสองและพึ่งเรียนจบมาได้ไม่กี่ปี “ได้ค่ะ เอาที่เดิมนะคะว่างหรือเปล่า พอดีอย่างนั่งดื่มชิลล์ๆ หน่อยค่ะ” ชลธิชาพูดขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้มที่เปื้อนหน้าของเธอ “ได้สิ สำหรับคนพิเศษของพี่ทั้งสองพี่จัดให้ได้อยู่แล้วมาทางนี้เลย” พี่เจ้าของร้านเดินนำทั้งสองไปเพื่อพาทั้งสองไปที่โต๊ะที่ทั้งสองคนต้องการ ร้านเหล้าเป็นร้านเล็กๆ เป็นร้านแบบเปิดไม่ได้มีผู้คนมากมายเหมือนสถานบันเทิงใหญ่แต่มานั่งดื่มชิลล์ก็ได้บรรยากาศเย็นๆ ดีเหมือนกัน นานๆ ทีที่มลชญากับชลธิชาจะได้มา พี่เจ้าของร้านพาทั้งสองมานั่งที่ดต๊ะประจำที่ทั้งสองนั่งมาตั้งแต่ปีสองจนตอนนี้สองสาวเพื่อนซี้จะเรียนจบชั้นปีที่สี่แล้ว “ตามสบายนะอยากได้อะไรบอกน้องๆ เลยแล้วก็ถ้าต้องการตัวพี
7ฉันรักนายออสติน ในขณะที่ชลธิชาชวนให้มลชญาไปจากตรงนั้นและออสตินเองก็กำลังจะเดินไปจากตรงนั้นแต่มลชญากลับไม่ยอมไปจากตรงนั้นและไม่ยอมให้ออสตินไปจากตรงนั้น “ออสตินอย่าพึ่งไป” มลชญาเดินไปหาออสตินแล้วก็จับที่ไหล่ของออสตินให้หันมามองหน้าของเธอ “อะไรของเธออีกเนี่ยฉันไม่มีเวลามาคุยกับเธอหรอกนะแต่ถ้าเธออยากได้ฉันมากเธอก็ไปขอให้แม่ของเธอมาขอฉันแต่งงานเลยสิ” ออสตินพูดขึ้นมาอย่างเลือดเย็นอีกครั้ง “นายคิดว่าฉันอยากมารบกวนนายอย่างนี้หรือไง ฉันก็ไม่ได้อยากทำอย่างนี้หรอกนะ แต่หัวใจของฉัน หัวใจที่มันไม่รักดีของฉันมันสั่งให้ฉันหน้าด้านมาทำอะไรอย่างนี้ทั้งๆ ที่รู้ว่านายไม่แม้จะอยากมองอยากคุยกับฉันเลยสักนิด” มลชญาเอ่ยออกมาทั้งน้ำตาจนชลธิชาเองก็แทบจะร้องไห้ตามมลชญาเพราะเธอรู้ดีว่าเพื่อนของเธอรักและคลั่งออสตินแค่ไหน “เธออย่ามาบีบน้ำตาหน่อยได้มั้ย รำคาญแล้วก็ไม่ต้องมาพูดอะไรอย่างนี้ตรงนี้ได้มั้ย” ออสตินยังคงเลือดเย็นกับเธอไม่เลิกเพราะความเข้าใจที่เขามีต่อเธอมันไปในทางที่ไม่ดี “ฉันไม่ได้บีบน้ำตาแต่ฉันอยากให้นายที่เกลียดฉันไม่ชอบฉันฟังไว้ว่าที่ฉันทำไป
6ทำเพราะรัก มลชญาที่เห็นออสตินมากับผู้หญิงเธอก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเพราะเธอมั่นใจว่าสักวันเขาก็ต้องมาเป็นของเธอและมาเป็นของเธออย่างเต็มใจ มลชญากลับมาที่บ้านเธอก็คิดเรื่องออสตินว่าเธอจะทำอย่างไรให้ออสตินสนใจในตัวของเธอและทำให้ออสตินรู้สึกว่าเธอดีกับเขาจนหันมามองเธอให้ได้ แต่มลชญาไม่รู้เลยว่าตอนนี้ออสตินไม่ได้มองความรักจากใครอีกต่อไปแม้แต่จากเธอ “ซื้อขนมไปฝากออสตินดีกว่า ออสตินชอบกินอะไรนะ ตอนนั้นที่เคยเจอกันที่งานวันเกิดเห็นออสตินชอบกินช็อคโกแลต” มลชญาพูดขึ้นมายิ้มๆ แล้ววิ่งลงไปข้างล่างรีบหยิบกุญแจรถขึ้นมาแล้ววิ่งไปที่รถทันทีเพื่อที่จะไปเหมาช็อคโกแลตไปให้ออสติน มลชญาไปที่ห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อช็อคโกแลตแต่เมื่อเธอเห็นขนมอื่นๆ ก็หยิบมันไปด้วยเพื่อนำไปให้ออสติน แล้วเธอก็เดินไปเห็นรองเท้าแบรนด์ดังแบรนด์หนึ่งเธอจึงไปเลือกซื้อรองเท้าให้กับเขาด้วยที่เธอรู้ว่าเขาใส่รองเท้าเบอร์ไหนเพราะเธอรู้ทุกเรื่องของออสตินไม่ว่าเธออยากรู้อะไรเกี่ยวกับออสตินเธอแค่โทรหาน้องสาวของออสตินแค่นั้นเธอก็รู้ทุกเรื่องแล้ว เช้าวันใหม่ที่แสนสดใสของมลชญาเพราะวันนี้มันเป็นวันพิเศษที่เธอจะมีของฝากไปให้ออสตินจริงๆ สัก
5แอบรักแอบชอบ มลชญาไปมหาวิทยาลัยด้วยความตื่นเต้นเพราะเธออยากเล่าเรื่องนี้ให้กับชลธิชาฟังเรื่องที่เธอจะได้หมั้นหมายกับออสตินเพราะเพื่อนของเธอก็รู้ดีว่าเธอแอบรักแอบชอบออสติน “โมเดลวันนี้ทำไมแกถึงได้ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างนี้ฉันเห็นแกตั้งแต่ในห้องเรียนแล้วนะ” ชลธิชาพูดขึ้นมาในขณะที่กำลังเดินไปที่โรงอาหารของมหาวิทยาลัย “ก็ฉันอารมณ์ดีฉันมีเรื่องดีๆ ในชีวิตที่ฉันรอคอยมาตลอดชีวิตของฉัน” มลชญาพูดขึ้นมาพร้อมกับมองหน้าของชลธิชาอย่างอารมณ์ดีแต่ก็ยังไม่ได้บอกชลธิชาว่าเรื่องอะไรที่เป็นเรื่องดีๆ ในชีวิตของเธอ “เรื่องอะไรทำไมแกไม่พูดออกมาล่ะ โมเดลแกพูดอย่างนี้ยิ่งทำให้ฉันอยากรู้” ชลิชาพูดขึ้นมาพร้อมกับมองหน้าของเพื่อนที่เดินยิ้มไม่พูดไม่จาจนทั้งสองมาถึงโรงอาหารของมหาวิทยาลัย ชลธิชาสั่งอาหารเสร็จเธอมานั่งรออาหารก็เริ่มยิงคำถามกับมลชญาทันที “โมเดลเล่าสักทีฉันอยากรู้แทบทนไม่ไหวแล้ว” ชลธิชาพูดขึ้นมาด้วยความอยากรู้ “ฉันกำลังจะได้หมั้นกับออสติน” มลชญาพูดขึ้นมาเขินๆ แต่คนฟังอย่างชลธิชาที่ตกใจเผลอกรี๊ดออกมาเสียงดั