เสียงฝีเท้าของเหล่านักเรียนห้อง ม.5/B ยังคงดังก้องไปทั่วโถงทางเดินของอาคารเรียน พวกเขาวิ่งกันอย่างไม่คิดชีวิต ความหวาดกลัวแผ่ซ่านเข้าสู่ทุกอณูของร่างกาย ไอเย็นยะเยือกของเงาปีศาจยังคงเกาะกุม ภาพของปีศาจเงาที่ไล่ตามมาติด ๆ ยังคงติดตา แม้จะวิ่งเข้ามาในอาคารแล้ว แต่เสียงคำรามของมันก็ยังคงสะท้อนมาจากภายนอก เหมือนจะย้ำเตือนว่าไม่ได้ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์
ไอโกะ ที่แม้จะขาอ่อนแรงไปหมด ก็พยายามดึงสติกลับคืนมา เธอเร่งฝีเท้าให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ พลางมองหาทางรอด แต่แล้ว ทันใดนั้นเอง... "เด็ก ๆ! ทางนี้!" เสียงทุ้มแหบพร่าที่คุ้นเคยดังขึ้นจากด้านในโถงทางเดิน ทุกคนหันขวับไปมอง และภาพที่เห็นคือ ลุงภารโรง ผู้สูงอายุประจำโรงเรียน ท่านกำลังยืนอยู่หน้าห้องเรียนห้องหนึ่งที่ดูเก่าแก่ผิดปกติ แสงสลัวในโถงทางเดินทำให้เห็นแผ่นยันต์สีแดงสดประหลาดที่ติดอยู่เต็มหน้าประตูห้อง แผ่นยันต์เหล่านั้นมีตัวอักษรโบราณที่ดูแปลกตา สลักด้วยหมึกสีดำเข้ม ลุงภารโรงเปิดประตูห้องนั้นกว้างขึ้นเล็กน้อย ดวงตาของท่านฉายแววกังวล แต่ก็มีความแน่วแน่และมุ่งมั่นซ่อนอยู่ "เร็วเข้าเด็ก ๆ! เข้ามาในนี้!" ลุงภารโรงเร่งเร้า ทุกคนไม่รอช้า พวกเขาพุ่งตัวเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว เบียดเสียดกันจนแทบจะล้มทับกันไปหมด เสียงหอบหายใจดังระงมผสมกับเสียงหัวใจที่เต้นรัวระส่ำ ในวินาทีที่ ฮารุกะ ซึ่งเป็นคนสุดท้ายก้าวขาพ้นธรณีประตูเข้าไปได้พอดี ลุงภารโรงก็ปิดประตูไม้บานหนาลงทันที พร้อมเสียง 'ปัง!' ที่ดังสนั่นก้องไปทั่วห้อง กรี๊ดดดดดดดดด! เสียงกรีดร้องอันน่าสะพรึงกลัวดังมาจากภายนอกห้องเรียน เงาปีศาจขนาดมหึมากำลังทุบเข้าที่ประตูห้องอย่างรุนแรง เสียง 'โครมมมมมมมมมมมม!' ดังสนั่นหวั่นไหวราวกับแผ่นดินจะถล่ม แต่ประตูบานนั้นก็ยังคงต้านทานไว้ได้อย่างน่าอัศจรรย์ ท่ามกลางเสียงกรีดร้องที่โหยหวนของมัน นักเรียนทุกคนยืนเบียดเสียดกันอยู่ภายในห้อง หายใจติดขัดด้วยความหวาดกลัว บางคนถึงกับตัวสั่นงันงกจนยืนแทบไม่ไหว "ทำไม... ทำไมมันถึงเข้ามาในห้องนี้ไม่ได้เหรอคะ!?" ไอโกะ รวบรวมความกล้า เอ่ยถามลุงภารโรงด้วยน้ำเสียงที่สั่นพร่า ดวงตาของเธอยังคงจ้องมองไปที่ประตูห้องที่กำลังถูกกระแทกอย่างบ้าคลั่ง ลุงภารโรงถอนหายใจยาว พลางใช้มือลูบเคราขาวของตัวเองอย่างครุ่นคิด "เพราะห้องนี้... แปะยันต์ลงอาคมไว้ยังไงล่ะ" ท่านพูดด้วยน้ำเสียงที่เนิบนาบ แต่ก็เต็มไปด้วยความจริงจังเกินกว่าที่ทุกคนเคยได้ยินจากชายชราคนนี้ คำตอบของลุงภารโรงยิ่งทำให้ทุกคนงุนงงไปกันใหญ่ "ยันต์อาคมเหรอครับ?" เก็น เอ่ยถามด้วยความสงสัย แม้จะยังคงหวาดกลัว แต่ความอยากรู้ก็เข้าครอบงำเขาไม่น้อย "นี่มันเรื่องอะไรกันครับ ลุง... ไอ้เงาปีศาจพวกนั้นมันคืออะไรกันแน่?" ยูเมะ ที่เพิ่งจะหยุดร้องไห้ได้ รีบเสริม "ใช่ค่ะ! แล้วทำไมมันถึงมาปรากฏตัวที่โรงเรียนของเราได้ล่ะคะ?" ลุงภารโรงเหลือบมองไปยังหีบไม้เก่าแก่ที่หล่นอยู่ที่สวน ใบหน้าของท่านฉายแววหนักใจและเหนื่อยอ่อน "ก็เพราะพวกเธอ... ได้ไปเปิด หีบต้องสาป เข้าหนะสิ" คำพูดของลุงภารโรงดังก้องไปทั่วห้อง สร้างความตกตะลึงให้กับเหล่านักเรียนที่ยืนฟังอยู่ ทุกคนมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ใบหน้าซีดเผือดราวกับเจอผีหลอก "หีบต้องสาป!!" เสียงอุทานดังขึ้นพร้อมกันจากปากของนักเรียนทั้งยี่สิบคน โช ถึงกับผงะ "ลุงครับ! ลุงหมายความว่ายังไงกันครับ?" ฟูมิโกะ หน้าซีดเผือด "หีบที่เราเจอ... มันคือสิ่งที่ปลดปล่อยพวกมันออกมาเหรอคะ?" ลุงภารโรงพยักหน้าช้า ๆ "เห้อ... ดูท่าว่าคงต้องเล่าให้ฟังแล้วสินะ" ท่านถอนหายใจเฮือกใหญ่ คล้ายกับกำลังปลงตกกับชะตากรรมที่มาเยือน พร้อมกับเดินไปทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ไม้เก่า ๆ ที่ตั้งอยู่มุมห้อง ดวงตาของท่านทอดมองไปยังแผ่นยันต์บนประตูอย่างพินิจพิจารณา ราวกับกำลังย้อนนึกไปถึงเรื่องราวในอดีต เหล่านักเรียนที่เพิ่งรอดตายจากเงาปีศาจ ต่างพากันไปมุงล้อมรอบลุงภารโรง ทุกคนมีสีหน้าตั้งใจฟังอย่างจริงจัง แววตาเต็มไปด้วยคำถามนับร้อย และความปรารถนาที่จะรู้ความจริงที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ประหลาดเหนือธรรมชาติที่กำลังเกิดขึ้นกับพวกเขา "เรื่องมันเริ่มจาก..." ลุงภารโรงเริ่มเปิดปากเล่า เสียงของท่านแหบพร่าแต่ชัดเจน ท่ามกลางความเงียบงันที่เข้าปกคลุมห้องเรียน ความเงียบที่บ่งบอกถึงความคาดหวังและความหวาดกลัวที่ผสมปนเปกันอยู่ภายในใจของเหล่านักเรียนห้อง ม.5/B ทุกคนต่างตั้งใจฟัง ราวกับว่าชีวิตของพวกเขาในตอนนี้ขึ้นอยู่กับเรื่องเล่าจากชายชราตรงหน้าเพียงคนเดียวบรรยากาศในห้องเรียนยังคงตึงเครียดอย่างหนัก แม้เสียงคำรามจากปีศาจเงาภายนอกจะเบาลงไปบ้าง แต่ความรู้สึกอึดอัดก็ยังคงคุกคามอยู่ภายในใจของเหล่านักเรียนทุกคน พวกเขายังคงตกตะลึงกับความจริงที่ว่า ลุงภารโรง ไม่ใช่แค่ภารโรงธรรมดา แต่เป็นทายาทของเหล่านักเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ และตอนนี้ เก็น เพื่อนของพวกเขาเองก็มีสายเลือดเวทย์สายขาวไหลเวียนอยู่ในตัวเช่นกันโอกิ ซึ่งเป็นคนเงียบๆ และชอบสังเกตการณ์ ค่อยๆ เอ่ยปากถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสัยระคนประหลาดใจ "งั้นหรือว่าคุณลุง... คุณลุงก็เป็นทายาทนักเวทย์ด้วยอย่างนั้นเหรอครับ?"ลุงภารโรงเงยหน้าขึ้นมองโอกิ ดวงตาของท่านทอประกายบางอย่างที่ลึกล้ำยากจะหยั่งถึง "ใช่แล้ว" ท่านตอบรับอย่างหนักแน่น ไม่มีการลังเลแม้แต่น้อย "ฉันก็คือหนึ่งในทายาทสายเลือดนักเวทย์สายขาว"สิ้นคำตอบของลุงภารโรง เหล่านักเรียนที่ยืนมุงอยู่ต่างก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจ ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ปะปนกัน ทั้งความประหลาดใจ ความไม่เชื่อ และความหวังที่ริบหรี่ แต่ก็มีบางคนอย่าง คิชิโระ ที่แทบจะกระโดดด้วยความตื่นเต้น ราวกับกำลังอยู่ในฉากของภาพยนตร์แอ็คชั่นแฟนตาซี"ไม่จริงน่า!" โช
บรรยากาศในห้องเรียนยังคงอึมครึมภายใต้แสงไฟสลัว ๆ ที่กะพริบไม่หยุด เสียงคำรามของปีศาจเงาจากภายนอกประตูยังคงดังก้องเป็นระยะ ๆ แต่ความสนใจของนักเรียนทุกคนกลับพุ่งตรงไปยัง ลุงภารโรง และเรื่องราวเหนือธรรมชาติที่ท่านเพิ่งเปิดเผย ทุกคนยังคงตกตะลึงกับความจริงที่ว่าโรงเรียนแห่งนี้คือสถานที่แห่งตำนาน และพวกเขาได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของมันโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ในกลุ่มนักเรียนเหล่านั้น มีเพียงคนเดียวที่กำลังจมดิ่งสู่ความรู้สึกผิดอย่างหนัก นั่นคือ เก็น ใบหน้าของเขามีสีหน้าซีดเผือด ดวงตาแดงก่ำจากการข่มความรู้สึกไว้ เขาจ้องมองหีบไม้ที่ลุงภารโรงวางลงบนโต๊ะด้วยความรู้สึกผิดบาป เสียงของลุงภารโรงที่ว่า "พวกเธอได้ไปเปิดหีบต้องสาปเข้าหนะสิ" ยังคงดังก้องอยู่ในหัว ไอโกะ ที่สังเกตเห็นความผิดปกติของรองหัวหน้าห้อง เธอเดินเข้าไปใกล้เก็นอย่างช้าๆ แล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "เก็น... นายเป็นอะไรไป?" เก็นเงยหน้าขึ้น ดวงตาของเขาฉายแววเจ็บปวด "ก็เพราะฉัน... เพราะฉันเปิดหีบใบนั้นออก พวกปีศาจพวกนั้นถึงได้หลุดออกมา..." เสียงของเขาสั่นเครือ น้ำตาคลอเบ้า เขาพยายามข่มอารมณ์ไม่ให้ไหลออกมา ยูเมะ รีบเดินเข้ามาข้าง ๆ ไอโ
ภายในห้องเรียนที่มืดสลัวและเต็มไปด้วยกลิ่นอับชื้นของไม้เก่า ๆ เหล่านักเรียนห้อง ม.5/B ทั้ง 20 คนต่างนั่งเงียบกริบ แสงไฟจากหลอดฟลูออเรสเซนต์ที่กะพริบอยู่ด้านบนยิ่งเพิ่มความลึกลับให้กับบรรยากาศ เสียงคำรามเกรี้ยวกราดของปีศาจเงาที่ยังคงกระทบประตูห้องเป็นระยะ ๆ ราวกับจะย้ำเตือนถึงภัยคุกคามที่อยู่ภายนอก ทว่าตอนนี้ทุกคนต่างจดจ่ออยู่กับชายชราตรงหน้า ลุงภารโรง ผู้ซึ่งกำลังจะเปิดเผยเรื่องราวที่ถูกซ่อนไว้ภายใต้ผนังโรงเรียนแห่งนี้มานานแสนนานลุงภารโรงถอนหายใจยาวเฮือกหนึ่ง ดวงตาของท่านทอดมองไปยังแผ่นยันต์สีแดงสดที่ยังคงติดแน่นอยู่บนประตูห้องอย่างพินิจพิจารณา ราวกับกำลังย้อนนึกถึงเหตุการณ์ในอดีตอันไกลโพ้น "เรื่องมันเริ่มจาก... เมื่อหลายร้อยปีก่อน" ท่านเริ่มเล่าด้วยน้ำเสียงที่เนิบนาบ แต่เต็มไปด้วยความจริงจังและเจ็บปวด"ในยุคสมัยที่เวทมนตร์ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องเล่าในตำนานอย่างทุกวันนี้... มีเหล่านักเวทย์ผู้ชั่วร้ายกลุ่มหนึ่ง พวกเขาหลงมัวเมาในอำนาจมืด และได้ทำความผิดมหันต์" ลุงภารโรงเว้นจังหวะเล็กน้อย ดวงตาของท่านฉายแววหม่นหมอง "พวกเขาได้ประกอบพิธีต้องห้าม อัญเชิญ 'ปีศาจแ
เสียงฝีเท้าของเหล่านักเรียนห้อง ม.5/B ยังคงดังก้องไปทั่วโถงทางเดินของอาคารเรียน พวกเขาวิ่งกันอย่างไม่คิดชีวิต ความหวาดกลัวแผ่ซ่านเข้าสู่ทุกอณูของร่างกาย ไอเย็นยะเยือกของเงาปีศาจยังคงเกาะกุม ภาพของปีศาจเงาที่ไล่ตามมาติด ๆ ยังคงติดตา แม้จะวิ่งเข้ามาในอาคารแล้ว แต่เสียงคำรามของมันก็ยังคงสะท้อนมาจากภายนอก เหมือนจะย้ำเตือนว่าไม่ได้ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ไอโกะ ที่แม้จะขาอ่อนแรงไปหมด ก็พยายามดึงสติกลับคืนมา เธอเร่งฝีเท้าให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ พลางมองหาทางรอด แต่แล้ว ทันใดนั้นเอง..."เด็ก ๆ! ทางนี้!"เสียงทุ้มแหบพร่าที่คุ้นเคยดังขึ้นจากด้านในโถงทางเดิน ทุกคนหันขวับไปมอง และภาพที่เห็นคือ ลุงภารโรง ผู้สูงอายุประจำโรงเรียน ท่านกำลังยืนอยู่หน้าห้องเรียนห้องหนึ่งที่ดูเก่าแก่ผิดปกติ แสงสลัวในโถงทางเดินทำให้เห็นแผ่นยันต์สีแดงสดประหลาดที่ติดอยู่เต็มหน้าประตูห้อง แผ่นยันต์เหล่านั้นมีตัวอักษรโบราณที่ดูแปลกตา สลักด้วยหมึกสีดำเข้ม ลุงภารโรงเปิดประตูห้องนั้นกว้างขึ้นเล็กน้อย ดวงตาของท่านฉายแววกังวล แต่ก็มีความแน่วแน่และมุ่งมั่นซ่อนอยู่"เร็วเข้าเด็ก ๆ! เข้ามาในนี้!" ลุงภารโรงเร่งเร้าทุกคนไม่รอช้า พ
ลมพายุโหมกระหน่ำรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนต้นไม้ใหญ่รอบโรงเรียนริโอะเอนลู่ไปตามแรงลม เสียงหวีดหวิวของลมที่พัดผ่านช่องว่างกระทบกับใบหูจนเจ็บปวด ท้องฟ้าเหนือแปลงผักที่เคยเป็นสีครามบัดนี้กลายเป็นสีดำสนิทราวกับถูกกลืนกินโดยความมืดมิด ไร้ซึ่งแสงแดดเหลืออยู่ เก็นยังคงยืนนิ่ง ไม่สะทกสะท้าน แม้จะรับรู้ถึงแรงลมที่พัดปะทะกับใบหน้าจนแสบไปหมด เขากำลังใช้ปลายนิ้วไล้ไปตามสลักที่ซ่อนอยู่บนฝาหีบไม้โบราณที่เปียกชื้นด้วยละอองฝน"เก็น! พอเถอะ! มันไม่ดีเลยนะ!" ยูเมะ ตะโกนเสียงสั่น พยายามเรียกสติเพื่อน แต่เสียงของเธอแทบจะถูกกลืนหายไปกับเสียงของธรรมชาติที่กำลังโกรธเกรี้ยวทันใดนั้นเอง...ครืนนนนน!เสียงฟ้าผ่าดังสนั่นกึกก้องจนพื้นดินสะเทือนเลื่อนลั่น แรงสั่นสะเทือนที่รุนแรงทำให้เหล่านักเรียนที่ยืนอยู่ต่างทรุดลงกับพื้นด้วยความตกใจ บางคนถึงกับส่งเสียงกรีดร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว และในวินาทีเดียวกันนั้นเอง...คลิ๊ก!เสียงสลักหีบที่ปลดออกดังขึ้นเบา ๆ ท่ามกลางเสียงฟ้าคำราม เก็นไม่รอช้า เขาออกแรงง้างฝาหีบออกทันทีสิ่งที่ทะลักออกมาจากหีบใบนั้น ไม่ใช่สิ่งของหรือสมบัติล้ำค่าใด ๆ แต่เป็น กลุ่มเงาสีดำทมิฬจำนวนนับไม่ถ้วน พ
ตลอดสัปดาห์แรกของช่วงปิดเทอม นักเรียนห้อง ม.5/B ต่างมารวมตัวกันที่แปลงผักของโรงเรียนริโอะในทุก ๆ สี่โมงเย็น เสียงบ่นพึมพำยังคงมีให้ได้ยินเป็นระยะ แต่ทุกคนก็ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเคร่งครัดตามตารางเวรที่ไอโกะเป็นผู้จัดการ ทั้งรดน้ำ พรวนดิน และถอนวัชพืชภายใต้แสงแดดอ่อน ๆ ยามบ่ายคล้อยที่สาดส่องลงมา แต่ถึงอย่างนั้น พวกเขาก็ยังคงได้ยินเสียงบ่นกระปอดกระแปดจาก โช และ เคนตะ เป็นประจำทุกวันวันนี้ บรรยากาศของสวนผักกลับแตกต่างออกไป ลมเย็นเยียบพัดเอื่อย ๆ ผ่านแนวต้นไม้สีขาว จนยอดหญ้าไหวลู่ไปตามแรงลม แสงอาทิตย์ที่เคยสาดส่องเจิดจ้ากลับถูกบดบังด้วยหมู่เมฆทะมึนที่ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นบนท้องฟ้า สีเทาเข้มของเมฆที่ปกคลุมทำให้บรรยากาศโดยรอบดูมืดครึ้มและอึมครึมกว่าทุกวัน ราวกับกำลังจะมีพายุใหญ่ก่อตัวขึ้น"วันนี้รีบทำหน่อยนะเด็ก ๆ" เสียงแหบพร่าของภารโรง ผู้สูงอายุประจำโรงเรียนดังขึ้นข้างหลังพวกเขา ภารโรงในชุดเสื้อเชิ้ตสีซีดมองไปยังท้องฟ้าที่มืดครึ้มด้วยสีหน้าเป็นกังวล ก่อนจะเดินจากไป ทิ้งให้เหล่านักเรียนก้มหน้าก้มตาเร่งมือทำงานของตัวเองให้เสร็จเร็วขึ้น"ลมแรงจัง" ฮารุ เอ่ยขึ้นพลางรวบผมที่ปลิวไสวไปตามแรงลมมาย