ลมพายุโหมกระหน่ำรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนต้นไม้ใหญ่รอบโรงเรียนริโอะเอนลู่ไปตามแรงลม เสียงหวีดหวิวของลมที่พัดผ่านช่องว่างกระทบกับใบหูจนเจ็บปวด ท้องฟ้าเหนือแปลงผักที่เคยเป็นสีครามบัดนี้กลายเป็นสีดำสนิทราวกับถูกกลืนกินโดยความมืดมิด ไร้ซึ่งแสงแดดเหลืออยู่ เก็นยังคงยืนนิ่ง ไม่สะทกสะท้าน แม้จะรับรู้ถึงแรงลมที่พัดปะทะกับใบหน้าจนแสบไปหมด เขากำลังใช้ปลายนิ้วไล้ไปตามสลักที่ซ่อนอยู่บนฝาหีบไม้โบราณที่เปียกชื้นด้วยละอองฝน
"เก็น! พอเถอะ! มันไม่ดีเลยนะ!" ยูเมะ ตะโกนเสียงสั่น พยายามเรียกสติเพื่อน แต่เสียงของเธอแทบจะถูกกลืนหายไปกับเสียงของธรรมชาติที่กำลังโกรธเกรี้ยว ทันใดนั้นเอง... ครืนนนนน! เสียงฟ้าผ่าดังสนั่นกึกก้องจนพื้นดินสะเทือนเลื่อนลั่น แรงสั่นสะเทือนที่รุนแรงทำให้เหล่านักเรียนที่ยืนอยู่ต่างทรุดลงกับพื้นด้วยความตกใจ บางคนถึงกับส่งเสียงกรีดร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว และในวินาทีเดียวกันนั้นเอง... คลิ๊ก! เสียงสลักหีบที่ปลดออกดังขึ้นเบา ๆ ท่ามกลางเสียงฟ้าคำราม เก็นไม่รอช้า เขาออกแรงง้างฝาหีบออกทันที สิ่งที่ทะลักออกมาจากหีบใบนั้น ไม่ใช่สิ่งของหรือสมบัติล้ำค่าใด ๆ แต่เป็น กลุ่มเงาสีดำทมิฬจำนวนนับไม่ถ้วน พวกมันพุ่งทะยานออกมาจากปากหีบด้วยความรุนแรงและรวดเร็วราวกับถูกอัดแน่นมานานนับศตวรรษ แรงดันมหาศาลจากเงาปีศาจที่ถูกปลดปล่อย ทำให้ร่างของ เก็น กระเด็นถอยหลังไปหลายก้าว หีบไม้โบราณหลุดจากมือของเขากระทบลงบนพื้นดินพร้อมกับเสียง 'ปึก' เบา ๆ เงาปีศาจเหล่านั้นพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเสียงหวีดหวิวที่เหมือนเสียงกรีดร้องนับพัน เสียงนั้นเสียดแทงแก้วหูจนทุกคนต้องยกมือขึ้นอุดหูด้วยความเจ็บปวด พวกมันกระจายตัวออกไปทั่วท้องฟ้าที่มืดมิดอย่างรวดเร็ว แปรเปลี่ยนรูปร่างเป็นเงาร่างคล้ายสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่กว่าคนปกติ ดวงตาเรืองแสงสีแดงฉานนับร้อยคู่ปรากฏขึ้นกลางความมืดมิด ราวกับเป็นดวงตาแห่งความชั่วร้ายที่กำลังจ้องมองลงมายังโลกเบื้องล่าง พวกมันไม่ได้ลอยอยู่นิ่ง ๆ แต่กลับกระพือปีกที่มองไม่เห็น ส่งเสียงคำรามในลำคอเบา ๆ ราวกับกำลังเพลิดเพลินกับอิสรภาพที่เพิ่งได้มา ความหวาดกลัวเข้าเกาะกุมจิตใจของนักเรียนทุกคนอย่างฉับพลัน เสียงกรีดร้องดังระงมไปทั่วบริเวณ บางคนถึงกับปล่อยเครื่องมือทำสวนในมือทิ้งลงพื้นและรีบวิ่งไปกอดเพื่อนที่อยู่ใกล้ที่สุดด้วยความตื่นตระหนก ฮารุ ตัวสั่นเทา เธอรีบโผเข้ากอด คาซิมิ แน่น "นี่มันอะไรกัน ฮานะ... ฉันกลัว" บาระ ตัวแข็งทื่อ ดวงตาเบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น "นั่นมัน... นั่นมันตัวอะไรกันน่ะ?" ยูเมะ ถึงกับร้องไห้ออกมา เธอจิกเล็บลงบนแขนของ มายู "ฉันกลัว... ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว!" ฟูมิโกะ พยายามรวบรวมสติ แม้ใบหน้าจะซีดเผือด "พวกมันมาจากไหนกัน..." ไอโกะ เองก็ตกอยู่ในอาการตกตะลึงไม่ต่างกัน ดวงตาของเธอจับจ้องไปยังเงาปีศาจที่กำลังลอยวนอยู่บนท้องฟ้าด้วยความหวาดกลัวสุดขีด "นี่มันคืออะไรกัน..." เสียงของเธอเบาหวิว ราวกับกระซิบกับตัวเอง ทันใดนั้นเอง! เงาปีศาจตัวหนึ่งที่ดูเหมือนจะใหญ่ที่สุดในกลุ่ม มันมีรูปร่างคล้ายสัตว์เลื้อยคลานปีกกว้าง ดวงตาแดงก่ำราวกับเพลิงนรก พุ่งตรงรี่ลงมายังทิศทางที่เหล่านักเรียนยืนอยู่! เป้าหมายของมันคือ ไอโกะ! เก็น ที่เพิ่งจะลุกขึ้นยืนได้อย่างทุลักทุเล เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดในชั่วพริบตาเดียว แววตาของเขาเปลี่ยนจากความตกใจเป็นความเด็ดเดี่ยว เขารีบออกตัววิ่งสุดฝีเท้าไปยังที่ที่ไอโกะยืนอยู่พร้อมกับตะโกนเสียงดัง "ไอโกะ! หลบ!" ในเวลาเดียวกันนั้นเอง เคนตะ ซึ่งมีสายตาไวและสัญชาตญาณดี ก็เห็นเงาปีศาจกำลังพุ่งเข้ามาเช่นกัน เขารีบวิ่งเข้าคว้าแขนไอโกะแล้วกระชากเธอให้ถอยหลังไปพร้อม ๆ กับที่เก็นพุ่งเข้ามาถึงตัวพอดี ร่างของทั้งสามคนจึงล้มลงไปกองอยู่บนพื้นพร้อมกัน หวุดหวิดที่จะถูกเงาปีศาจพุ่งชนไปเพียงเสี้ยววินาที! เงาปีศาจตนนั้นพุ่งผ่านพวกเขาไปกระทบกับพื้นดินด้านหลังจนเกิดเสียง 'ตุ้บ!' ดังสนั่น เศษดินและก้อนกรวดกระเด็นไปทั่ว มันเงยหน้าขึ้นอย่างช้า ๆ ดวงตาแดงก่ำจ้องมองมายังเหล่านักเรียนราวกับกำลังจ้องมองเหยื่อ ความเงียบเข้าปกคลุมชั่วขณะก่อนที่เสียงร้องหวาดกลัวจะดังขึ้นอีกครั้ง โช ที่เป็นนักกีฬาตัวใหญ่ เขารีบวิ่งไปคว้าจอบทำสวนที่วางอยู่ใกล้ ๆ มือ เขากำด้ามจอบแน่น ดวงตาแข็งกร้าวขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน "เฮ้ย! พวกเรามานี่!" โช ตะโกนเสียงดัง เขาหันไปมองเพื่อนนักเรียนชายคนอื่น ๆ โกฮัน รีบวิ่งไปหยิบเสียม โอกิ คว้าพลั่ว เทนชิ คว้ากรรไกรตัดแต่งกิ่งขนาดใหญ่ อิจิ, เคนตะ, เร็น, ไดชิ, คิชิโระ และเก็น ต่างก็พุ่งเข้าหาเครื่องมือทำสวนที่พอจะหยิบฉวยเป็นอาวุธได้ทันที พวกเขาไม่รอช้า รีบวิ่งกลับมายังจุดที่เงาปีศาจยืนอยู่ "พวกผู้หญิงไปหลบข้างหลังพวกเรา!" ไดชิ ตะโกนสั่ง เสียงของเขาแม้จะสั่นเล็กน้อยแต่ก็เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น นักเรียนหญิงทั้งสิบคน ทั้ง ไอโกะ, ฟูมิโกะ, ฮานา, มายู, ยูเมะ, ฮารุ, คาซิมิ, บาระ, ดาอิ, ฮารุกะ ต่างพากันถอยร่นไปยืนอยู่ด้านหลังกลุ่มนักเรียนชายที่กำลังยืนเรียงแถว ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและวิตกกังวล แต่ก็มีความหวังเล็ก ๆ ที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความกล้าหาญของเพื่อนร่วมชั้น เงาปีศาจคำรามต่ำ ๆ ร่างกายของมันเริ่มขยายใหญ่ขึ้นเล็กน้อย มันพุ่งเข้าใส่กลุ่มนักเรียนชายอย่างไม่รีรอ "ลุยเลยพวก!" โช ตะโกนพร้อมกับเงื้อจอบขึ้นฟันไปที่ตัวของเงาปีศาจอย่างสุดแรง ฉัวะ! จอบเหล็กฟันทะลุผ่านร่างของเงาปีศาจไปอย่างง่ายดาย ราวกับว่ามันเป็นเพียงกลุ่มควันสีดำ ไม่มีความรู้สึก ไม่มีความเสียหายใด ๆ เกิดขึ้นกับมัน "อะไรกัน!" เคนตะ อึ้งไปเล็กน้อย เขาก็ลองใช้เสียมแทงเข้าไปบ้าง แต่เสียมก็ทะลุผ่านไปเช่นกัน "มันไม่เป็นไรเลย!" อิจิ ตะโกนอย่างตื่นตระหนก เงาปีศาจไม่สนใจการโจมตีที่ไร้ผลของพวกเขา มันง้างแขนเงาขนาดใหญ่ที่ดูเหมือนกรงเล็บพุ่งเข้าใส่กลุ่มนักเรียนชาย โชรีบใช้จอบปัดป้อง แต่มันกลับทะลุผ่านจอบมาได้! โชพุ่งตัวหลบอย่างหวุดหวิด เกือบจะถูกกรงเล็บนั้นขย้ำ "ถอยก่อนพวก! เราทำอะไรมันไม่ได้!" เก็น ตะโกนสั่ง เขาเห็นแล้วว่าการโจมตีด้วยอาวุธธรรมดาไร้ประโยชน์ และที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้น... เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาโจมตีเงาปีศาจด้วยจอบและเสียม ร่างของมันกลับยิ่งขยายใหญ่ขึ้นกว่าเดิม! จากที่เคยมีขนาดใหญ่กว่าคนเล็กน้อย ตอนนี้มันใหญ่ขึ้นเกือบเท่ารถยนต์คันเล็ก ๆ แล้ว ดวงตาแดงก่ำฉายแววชั่วร้ายมากขึ้น "มันตัวใหญ่ขึ้น!" คิชิโระ ร้องเสียงหลง "วิ่ง! วิ่งเข้าไปในอาคาร!" ไอโกะ ตะโกนสั่งด้วยเสียงที่เฉียบขาด แม้จะยังคงหวาดกลัว แต่เธอก็พยายามรวบรวมสติและมองหาวิธีเอาชีวิตรอด ทุกคนไม่รอช้า พวกเขาทิ้งอาวุธทำสวนลงพื้น หันหลังวิ่งสุดฝีเท้าออกจากแปลงผัก ตรงไปยังอาคารเรียนหลังใหญ่ที่อยู่ใกล้ที่สุด หวังว่ากำแพงคอนกรีตจะสามารถปกป้องพวกเขาจากเงาปีศาจร้ายนี้ได้ เสียงฝีเท้ากระทบพื้นดังระงมผสมกับเสียงหอบหายใจและเสียงกรีดร้องที่ยังไม่จางหายไปจากความหวาดกลัว เงาปีศาจคำรามอย่างเกรี้ยวกราด มันไม่ยอมให้เหยื่อหนีพ้นไปง่าย ๆ ร่างอันมหึมาของมันพุ่งทะยานไล่ตามติด ๆบรรยากาศในห้องเรียนยังคงตึงเครียดอย่างหนัก แม้เสียงคำรามจากปีศาจเงาภายนอกจะเบาลงไปบ้าง แต่ความรู้สึกอึดอัดก็ยังคงคุกคามอยู่ภายในใจของเหล่านักเรียนทุกคน พวกเขายังคงตกตะลึงกับความจริงที่ว่า ลุงภารโรง ไม่ใช่แค่ภารโรงธรรมดา แต่เป็นทายาทของเหล่านักเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ และตอนนี้ เก็น เพื่อนของพวกเขาเองก็มีสายเลือดเวทย์สายขาวไหลเวียนอยู่ในตัวเช่นกันโอกิ ซึ่งเป็นคนเงียบๆ และชอบสังเกตการณ์ ค่อยๆ เอ่ยปากถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสัยระคนประหลาดใจ "งั้นหรือว่าคุณลุง... คุณลุงก็เป็นทายาทนักเวทย์ด้วยอย่างนั้นเหรอครับ?"ลุงภารโรงเงยหน้าขึ้นมองโอกิ ดวงตาของท่านทอประกายบางอย่างที่ลึกล้ำยากจะหยั่งถึง "ใช่แล้ว" ท่านตอบรับอย่างหนักแน่น ไม่มีการลังเลแม้แต่น้อย "ฉันก็คือหนึ่งในทายาทสายเลือดนักเวทย์สายขาว"สิ้นคำตอบของลุงภารโรง เหล่านักเรียนที่ยืนมุงอยู่ต่างก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจ ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ปะปนกัน ทั้งความประหลาดใจ ความไม่เชื่อ และความหวังที่ริบหรี่ แต่ก็มีบางคนอย่าง คิชิโระ ที่แทบจะกระโดดด้วยความตื่นเต้น ราวกับกำลังอยู่ในฉากของภาพยนตร์แอ็คชั่นแฟนตาซี"ไม่จริงน่า!" โช
บรรยากาศในห้องเรียนยังคงอึมครึมภายใต้แสงไฟสลัว ๆ ที่กะพริบไม่หยุด เสียงคำรามของปีศาจเงาจากภายนอกประตูยังคงดังก้องเป็นระยะ ๆ แต่ความสนใจของนักเรียนทุกคนกลับพุ่งตรงไปยัง ลุงภารโรง และเรื่องราวเหนือธรรมชาติที่ท่านเพิ่งเปิดเผย ทุกคนยังคงตกตะลึงกับความจริงที่ว่าโรงเรียนแห่งนี้คือสถานที่แห่งตำนาน และพวกเขาได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของมันโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ในกลุ่มนักเรียนเหล่านั้น มีเพียงคนเดียวที่กำลังจมดิ่งสู่ความรู้สึกผิดอย่างหนัก นั่นคือ เก็น ใบหน้าของเขามีสีหน้าซีดเผือด ดวงตาแดงก่ำจากการข่มความรู้สึกไว้ เขาจ้องมองหีบไม้ที่ลุงภารโรงวางลงบนโต๊ะด้วยความรู้สึกผิดบาป เสียงของลุงภารโรงที่ว่า "พวกเธอได้ไปเปิดหีบต้องสาปเข้าหนะสิ" ยังคงดังก้องอยู่ในหัว ไอโกะ ที่สังเกตเห็นความผิดปกติของรองหัวหน้าห้อง เธอเดินเข้าไปใกล้เก็นอย่างช้าๆ แล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "เก็น... นายเป็นอะไรไป?" เก็นเงยหน้าขึ้น ดวงตาของเขาฉายแววเจ็บปวด "ก็เพราะฉัน... เพราะฉันเปิดหีบใบนั้นออก พวกปีศาจพวกนั้นถึงได้หลุดออกมา..." เสียงของเขาสั่นเครือ น้ำตาคลอเบ้า เขาพยายามข่มอารมณ์ไม่ให้ไหลออกมา ยูเมะ รีบเดินเข้ามาข้าง ๆ ไอโ
ภายในห้องเรียนที่มืดสลัวและเต็มไปด้วยกลิ่นอับชื้นของไม้เก่า ๆ เหล่านักเรียนห้อง ม.5/B ทั้ง 20 คนต่างนั่งเงียบกริบ แสงไฟจากหลอดฟลูออเรสเซนต์ที่กะพริบอยู่ด้านบนยิ่งเพิ่มความลึกลับให้กับบรรยากาศ เสียงคำรามเกรี้ยวกราดของปีศาจเงาที่ยังคงกระทบประตูห้องเป็นระยะ ๆ ราวกับจะย้ำเตือนถึงภัยคุกคามที่อยู่ภายนอก ทว่าตอนนี้ทุกคนต่างจดจ่ออยู่กับชายชราตรงหน้า ลุงภารโรง ผู้ซึ่งกำลังจะเปิดเผยเรื่องราวที่ถูกซ่อนไว้ภายใต้ผนังโรงเรียนแห่งนี้มานานแสนนานลุงภารโรงถอนหายใจยาวเฮือกหนึ่ง ดวงตาของท่านทอดมองไปยังแผ่นยันต์สีแดงสดที่ยังคงติดแน่นอยู่บนประตูห้องอย่างพินิจพิจารณา ราวกับกำลังย้อนนึกถึงเหตุการณ์ในอดีตอันไกลโพ้น "เรื่องมันเริ่มจาก... เมื่อหลายร้อยปีก่อน" ท่านเริ่มเล่าด้วยน้ำเสียงที่เนิบนาบ แต่เต็มไปด้วยความจริงจังและเจ็บปวด"ในยุคสมัยที่เวทมนตร์ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องเล่าในตำนานอย่างทุกวันนี้... มีเหล่านักเวทย์ผู้ชั่วร้ายกลุ่มหนึ่ง พวกเขาหลงมัวเมาในอำนาจมืด และได้ทำความผิดมหันต์" ลุงภารโรงเว้นจังหวะเล็กน้อย ดวงตาของท่านฉายแววหม่นหมอง "พวกเขาได้ประกอบพิธีต้องห้าม อัญเชิญ 'ปีศาจแ
เสียงฝีเท้าของเหล่านักเรียนห้อง ม.5/B ยังคงดังก้องไปทั่วโถงทางเดินของอาคารเรียน พวกเขาวิ่งกันอย่างไม่คิดชีวิต ความหวาดกลัวแผ่ซ่านเข้าสู่ทุกอณูของร่างกาย ไอเย็นยะเยือกของเงาปีศาจยังคงเกาะกุม ภาพของปีศาจเงาที่ไล่ตามมาติด ๆ ยังคงติดตา แม้จะวิ่งเข้ามาในอาคารแล้ว แต่เสียงคำรามของมันก็ยังคงสะท้อนมาจากภายนอก เหมือนจะย้ำเตือนว่าไม่ได้ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ไอโกะ ที่แม้จะขาอ่อนแรงไปหมด ก็พยายามดึงสติกลับคืนมา เธอเร่งฝีเท้าให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ พลางมองหาทางรอด แต่แล้ว ทันใดนั้นเอง..."เด็ก ๆ! ทางนี้!"เสียงทุ้มแหบพร่าที่คุ้นเคยดังขึ้นจากด้านในโถงทางเดิน ทุกคนหันขวับไปมอง และภาพที่เห็นคือ ลุงภารโรง ผู้สูงอายุประจำโรงเรียน ท่านกำลังยืนอยู่หน้าห้องเรียนห้องหนึ่งที่ดูเก่าแก่ผิดปกติ แสงสลัวในโถงทางเดินทำให้เห็นแผ่นยันต์สีแดงสดประหลาดที่ติดอยู่เต็มหน้าประตูห้อง แผ่นยันต์เหล่านั้นมีตัวอักษรโบราณที่ดูแปลกตา สลักด้วยหมึกสีดำเข้ม ลุงภารโรงเปิดประตูห้องนั้นกว้างขึ้นเล็กน้อย ดวงตาของท่านฉายแววกังวล แต่ก็มีความแน่วแน่และมุ่งมั่นซ่อนอยู่"เร็วเข้าเด็ก ๆ! เข้ามาในนี้!" ลุงภารโรงเร่งเร้าทุกคนไม่รอช้า พ
ลมพายุโหมกระหน่ำรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนต้นไม้ใหญ่รอบโรงเรียนริโอะเอนลู่ไปตามแรงลม เสียงหวีดหวิวของลมที่พัดผ่านช่องว่างกระทบกับใบหูจนเจ็บปวด ท้องฟ้าเหนือแปลงผักที่เคยเป็นสีครามบัดนี้กลายเป็นสีดำสนิทราวกับถูกกลืนกินโดยความมืดมิด ไร้ซึ่งแสงแดดเหลืออยู่ เก็นยังคงยืนนิ่ง ไม่สะทกสะท้าน แม้จะรับรู้ถึงแรงลมที่พัดปะทะกับใบหน้าจนแสบไปหมด เขากำลังใช้ปลายนิ้วไล้ไปตามสลักที่ซ่อนอยู่บนฝาหีบไม้โบราณที่เปียกชื้นด้วยละอองฝน"เก็น! พอเถอะ! มันไม่ดีเลยนะ!" ยูเมะ ตะโกนเสียงสั่น พยายามเรียกสติเพื่อน แต่เสียงของเธอแทบจะถูกกลืนหายไปกับเสียงของธรรมชาติที่กำลังโกรธเกรี้ยวทันใดนั้นเอง...ครืนนนนน!เสียงฟ้าผ่าดังสนั่นกึกก้องจนพื้นดินสะเทือนเลื่อนลั่น แรงสั่นสะเทือนที่รุนแรงทำให้เหล่านักเรียนที่ยืนอยู่ต่างทรุดลงกับพื้นด้วยความตกใจ บางคนถึงกับส่งเสียงกรีดร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว และในวินาทีเดียวกันนั้นเอง...คลิ๊ก!เสียงสลักหีบที่ปลดออกดังขึ้นเบา ๆ ท่ามกลางเสียงฟ้าคำราม เก็นไม่รอช้า เขาออกแรงง้างฝาหีบออกทันทีสิ่งที่ทะลักออกมาจากหีบใบนั้น ไม่ใช่สิ่งของหรือสมบัติล้ำค่าใด ๆ แต่เป็น กลุ่มเงาสีดำทมิฬจำนวนนับไม่ถ้วน พ
ตลอดสัปดาห์แรกของช่วงปิดเทอม นักเรียนห้อง ม.5/B ต่างมารวมตัวกันที่แปลงผักของโรงเรียนริโอะในทุก ๆ สี่โมงเย็น เสียงบ่นพึมพำยังคงมีให้ได้ยินเป็นระยะ แต่ทุกคนก็ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเคร่งครัดตามตารางเวรที่ไอโกะเป็นผู้จัดการ ทั้งรดน้ำ พรวนดิน และถอนวัชพืชภายใต้แสงแดดอ่อน ๆ ยามบ่ายคล้อยที่สาดส่องลงมา แต่ถึงอย่างนั้น พวกเขาก็ยังคงได้ยินเสียงบ่นกระปอดกระแปดจาก โช และ เคนตะ เป็นประจำทุกวันวันนี้ บรรยากาศของสวนผักกลับแตกต่างออกไป ลมเย็นเยียบพัดเอื่อย ๆ ผ่านแนวต้นไม้สีขาว จนยอดหญ้าไหวลู่ไปตามแรงลม แสงอาทิตย์ที่เคยสาดส่องเจิดจ้ากลับถูกบดบังด้วยหมู่เมฆทะมึนที่ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นบนท้องฟ้า สีเทาเข้มของเมฆที่ปกคลุมทำให้บรรยากาศโดยรอบดูมืดครึ้มและอึมครึมกว่าทุกวัน ราวกับกำลังจะมีพายุใหญ่ก่อตัวขึ้น"วันนี้รีบทำหน่อยนะเด็ก ๆ" เสียงแหบพร่าของภารโรง ผู้สูงอายุประจำโรงเรียนดังขึ้นข้างหลังพวกเขา ภารโรงในชุดเสื้อเชิ้ตสีซีดมองไปยังท้องฟ้าที่มืดครึ้มด้วยสีหน้าเป็นกังวล ก่อนจะเดินจากไป ทิ้งให้เหล่านักเรียนก้มหน้าก้มตาเร่งมือทำงานของตัวเองให้เสร็จเร็วขึ้น"ลมแรงจัง" ฮารุ เอ่ยขึ้นพลางรวบผมที่ปลิวไสวไปตามแรงลมมาย