ลมกระโชกแรงยามค่ำคืนพัดพาเสียงหวีดหวิว ราวกับเสียงร้องของวิญญาณที่ถูกรบกวน สงครามที่ปะทุขึ้นในสี่ทิศทางทั่วเมืองริโอะเอนยังคงดำเนินไปอย่างดุเดือด เหล่าทายาทนักเวทย์สายขาวและผู้ปกครองต่างเผชิญหน้ากับปีศาจเงาที่กระหายวิญญาณ ม่านพลังคุ้มกันที่โรงเรียนริโอะเอนยังคงเรืองรองในความมืด เป็นประภาคารแห่งความหวังเดียวท่ามกลางความโกลาหล
สมรภูมิตะวันออก: การต่อสู้ในสวนสาธารณะโบราณ ทีมทิศตะวันออก นำโดย คาชิมิ (ผู้ปกป้องธรรมชาติและผู้ชำระล้างจิตวิญญาณ), เคนตะ (ผู้สยบพลังงานและผู้พิทักษ์มิติ), บาระ (ผู้รักษากฎและผู้พิพากษา), เร็น (ผู้ชี้ชะตาและผู้ควบคุมโชคชะตา) และผู้ปกครองของพวกเขา ต่างมุ่งหน้าสู่ทิศตะวันออกที่เข็มนาฬิกาอาคมของเคนตะสั่นสะเทือนอย่างบ้าคลั่ง แสงสีเงินวาวบนหน้าปัดเต้นระริกบ่งบอกถึงการบิดเบือนพลังงานที่รุนแรง จนกระทั่งพวกเขามาหยุดอยู่ที่หน้า สวนสาธารณะโบราณ ที่เงียบสงัด ต้นไม้ใหญ่อายุหลายร้อยปีทอดเงาปริศนาปกคลุมทั่วบริเวณ เสียงโหยหวนของวิญญาณต้นไม้และสัตว์ต่างๆ ดังแว่วออกมาจากความมืดมิด "ปีศาจมันกัดกินธรรมชาติแถวนี้!" คาชิมิกล่าวเสียงแผ่ว ใบหน้าของเธอซีดเผือดด้วยความเจ็บปวด เธอสัมผัสได้ถึงความทุกข์ทรมานของสิ่งมีชีวิตรอบข้าง "พลังงานของต้นไม้... มันกำลังถูกดูดกลืนไป!" "เตรียมพร้อม!" เคนตะสั่งเสียงกร้าว พลังงานรอบตัวเขาเริ่มปั่นป่วนเล็กน้อยอย่างควบคุมได้ "พวกมันคงต้องการแหล่งพลังงานจากธรรมชาติ!" ภายในสวนสาธารณะ บรรยากาศหนักอึ้งด้วยพลังงานมืด ต้นไม้ใหญ่หลายต้นเริ่มเหี่ยวเฉา ใบไม้ร่วงหล่นอย่างผิดธรรมชาติ ดอกไม้ที่เคยบานสะพรั่งตอนนี้กลับเหี่ยวแห้งตายสนิท เสียงครวญครางของเหล่าพฤกษาดังระงมไปทั่ว ทันทีที่พวกเขาเข้ามา ปีศาจเงาขนาดใหญ่รูปร่างคล้ายเถาวัลย์สีดำทมิฬนับสิบตัวก็พุ่งเข้าโจมตีทันที พวกมันมีกิ่งก้านหนามแหลมคม พยายามจะพันธนาการและดูดกลืนพลังชีวิตจากพวกเขา "ระวังตัว! พวกมันโจมตีด้วยการดูดกลืนพลังชีวิต!" พ่อของคาชิมิร้องเตือนพร้อมกับสร้างโล่ป้องกันขึ้นมา คาชิมิ ไม่รอช้า เธอยกมือขึ้นร่ายคาถา ดวงตาของเธอเปล่งประกายสีเขียวมรกต "พลังแห่งพฤกษา! ชำระล้าง!" เกิดเป็นกระแสพลังงานสีเขียวบริสุทธิ์พุ่งออกจากมือของเธอเข้าปะทะกับปีศาจเงาเถาวัลย์ ทำให้มันสั่นสะเทือนและค่อยๆ สลายไปเป็นละอองสีดำ "พวกมันอ่อนแอลงเมื่อโดนพลังงานบริสุทธิ์!" แม่ของเคนตะกล่าวขึ้น เคนตะ พุ่งทะยานไปข้างหน้า เขาสัมผัสได้ถึงพลังงานที่บิดเบี้ยวรอบตัว เขากำหมัดแน่นและปล่อยคลื่นพลังงานสีเงินเข้าสยบการเคลื่อนไหวของปีศาจเงา "หยุดอยู่ตรงนั้น! คาถาหยุดพลังงาน!" ปีศาจเงาเถาวัลย์หลายตัวหยุดนิ่งกลางอากาศราวกับถูกแช่แข็งชั่วคราว "ดีมากเคนตะ! เปิดทางให้ฉัน!" บาระตะโกน เธอรวบรวมพลังเวทย์ไว้ที่ฝ่ามือ และร่ายคาถา "กฎแห่งพันธนาการ!" เกิดเป็นโซ่ตรวนแสงสีทองพุ่งเข้าพันธนาการปีศาจที่ถูกเคนตะหยุดไว้แน่นหนา ทำให้พวกมันไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อีก "เหลือตัวที่แข็งแกร่งที่สุด!" พ่อของเร็นกล่าว "มันอยู่ตรงกลาง!" เร็น หลับตาลง เขาพยายามมองเห็นเส้นใยแห่งโชคชะตาที่เชื่อมโยงกับปีศาจ "มันมีจุดอ่อนที่ลำต้น! มันพยายามจะซ่อนมันไว้ภายใต้เถาวัลย์!" ทุกคนพุ่งตรงไปยังใจกลางสวนสาธารณะ ที่ซึ่งปีศาจเงาขนาดมหึมาตนหนึ่งกำลังยืนตระหง่าน ร่างของมันดูเหมือนต้นไม้โบราณที่บิดเบี้ยว ปกคลุมด้วยหนามแหลมคมนับพันดวงตาของมันเปล่งประกายสีม่วงชั่วร้าย มันกำลังดูดกลืนพลังชีวิตจากต้นไม้ใหญ่รอบๆ ตัวมัน ทำให้ป่าไม้รอบข้างเริ่มเหี่ยวเฉาอย่างรวดเร็ว "นั่นคือหัวหน้าของพวกมัน!" คุณปู่ของเร็นคำราม "มันกำลังทำลายธรรมชาติ!" "เราต้องหยุดมัน!" คาชิมิตะโกน เธอรวบรวมพลังทั้งหมดที่เหลืออยู่ไว้ที่ฝ่ามือ "ชำระล้างแห่งพฤกษา!" คลื่นพลังงานสีเขียวมรกตพุ่งเข้าใส่ปีศาจเงาตัวมหึมาอย่างจัง เกิดเสียงกรีดร้องอันน่าขนลุกจากปีศาจ ร่างของมันเริ่มมีรอยร้าวและปล่อยควันสีดำออกมา เคนตะไม่รอช้า เขาสยบพลังงานรอบตัวปีศาจเพื่อลดการป้องกันของมัน บาระใช้กฎแห่งพันธนาการผูกมัดลำต้นของมันไว้ไม่ให้เคลื่อนไหว เร็นมองเห็นช่องโหว่และชี้นำการโจมตีไปที่ลำต้นที่อ่อนแอที่สุด ในที่สุด หลังจากผ่านการต่อสู้อันดุเดือดและใช้พลังทั้งหมด บาระก็สามารถใช้คาถากฎแห่งการพิพากษาเข้าใส่ลำต้นของปีศาจอย่างรุนแรง ทำให้ร่างของมันเริ่มแตกเป็นเสี่ยงๆ และสลายไปในอากาศ "สำเร็จแล้ว!" พ่อของบาระร้องขึ้นด้วยความเหนื่อยหอบ แต่แล้ว... สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น! เมื่อปีศาจเงาตัวสุดท้ายสลายไป วิญญาณดวงสุดท้าย ที่ดูดซับพลังงานทั้งหมดของปีศาจไว้ กลับไม่สลายตามไปด้วย มันเรืองแสงสีม่วงดำขนาดเท่าลูกบอลพุ่งออกมาจากจุดที่ปีศาจสลายไป แทนที่จะลอยลงสู่พื้นดิน หรือกลับคืนสู่โลกวิญญาณอย่างที่ควรจะเป็น มันกลับพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างรวดเร็วราวกับมีเจตจำนงของตัวเอง ทิ้งไว้เพียงความตกตะลึงให้กับทีมทิศตะวันออก "อะไรกันน่ะ!?" เคนตะอุทานด้วยความตกใจ เขาวิ่งตามออกไปมองดูวิญญาณดวงนั้นที่พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งมันหายลับไปในความมืดมิด "มัน... มันกำลังมุ่งหน้าไปทางใจกลางเมือง..." คาชิมิกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ใบหน้าของเธอซีดเผือด "จุดรวมพลังงานหลัก... พวกมันกำลังรวมตัวกัน!" สมรภูมิตะวันตก: การบุกรุกศูนย์วิจัยร้าง ทีมทิศตะวันตก นำโดย ดาอิ (ผู้รังสรรค์มิติ) และ ไดชิ (ผู้ควบคุมกาลเวลา), ฮารุกะ (ผู้ร่ายรำพลังและผู้ขับไล่วิญญาณ), คิชิโระ (ผู้ถักทอโชคลาภและผู้ทำลายคำสาป) และผู้ปกครองของพวกเขา ต่างมุ่งหน้าสู่ทิศตะวันตกที่เข็มนาฬิกาอาคมของดาอิและไดชิสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง แสงสีม่วงเรืองรองบนหน้าปัดเต้นระริก บ่งบอกถึงการบิดเบือนมิติและเวลาที่ผิดปกติ จนกระทั่งพวกเขามาหยุดอยู่ที่หน้า ศูนย์วิจัยร้างแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่กลางทุ่งกว้าง บรรยากาศโดยรอบเงียบสงัดและเต็มไปด้วยความอึมครึม "ที่นี่แหละ..." ดาอิกล่าวเสียงแผ่ว "ฉันรู้สึกได้ถึงรอยรั่วของมิติเล็กๆ... พวกมันกำลังพยายามเปิดประตูเชื่อมต่อจากอีกมิติหนึ่ง" "พวกมันคงต้องการที่จะนำกำลังเสริมเข้ามา!" ไดชิเสริม "เราต้องหยุดพวกมันก่อนที่พวกมันจะทำสำเร็จ!" ภายในศูนย์วิจัยร้าง บรรยากาศมืดมิดและเย็นยะเยือก กลิ่นอับชื้นและกลิ่นคาวเลือดจางๆ ลอยคละคลุ้งไปทั่ว ห้องทดลองที่เคยเต็มไปด้วยอุปกรณ์ทันสมัยตอนนี้กลับพังทลายเสียหาย มีรอยร้าวบนผนังหลายจุดที่ดูเหมือนจะเชื่อมโยงกับมิติอื่น ทันทีที่พวกเขาเข้ามา ปีศาจเงาขนาดใหญ่รูปร่างคล้ายแมงมุมยักษ์นับสิบตัวก็พุ่งเข้าโจมตี พวกมันมีขาเรียวยาวแหลมคม เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและพยายามจะฉีกกระชากม่านมิติรอบตัวออก "ระวัง! พวกมันพยายามจะทำลายเกราะป้องกันมิติ!" พ่อของดาอิและไดชิร้องเตือนพร้อมกับสร้างโล่ป้องกันขึ้นมา ดาอิ และ ไดชิ ไม่รอช้า พวกเขารวบรวมพลังเวทย์และประสานมือกัน "มิติแห่งกาลเวลา! ตรึง!" เกิดเป็นม่านพลังสีม่วงเรืองรองพุ่งเข้าตรึงการเคลื่อนไหวของปีศาจแมงมุมเอาไว้ ทำให้พวกมันหยุดนิ่งไปชั่วขณะ ฮารุกะ พุ่งไปข้างหน้าอย่างสง่างาม เธอเริ่มร่ายรำอย่างอ่อนช้อยงดงาม ปล่อยกระแสพลังงานบริสุทธิ์ออกมา "ร่ายรำขับไล่วิญญาณ!" ลำแสงสีขาวบริสุทธิ์พุ่งเข้าใส่ปีศาจแมงมุมที่ถูกตรึงไว้ ทำให้ร่างของพวกมันเริ่มสั่นคลอนและส่งเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด คิชิโระ ยกมือขึ้น ดวงตาของเขาส่องประกายสีทอง "พรแห่งโชคลาภ! และคำสาปกลับคืน!" เกิดเป็นกระแสพลังงานสีทองพุ่งเข้าใส่ปีศาจแมงมุม ทำให้การโจมตีของพวกมันกลายเป็นโจมตีใส่กันเอง และบางตัวก็พลังงานอ่อนแอลงอย่างไม่ทราบสาเหตุ "พวกมันกำลังพยายามจะเปิดประตูมิติขนาดใหญ่ที่ห้องทดลองกลาง!" คุณย่าของคิชิโระกล่าว "เราต้องหยุดมัน!" ทุกคนพุ่งตรงไปยังห้องทดลองกลาง ที่ซึ่งปีศาจเงาขนาดมหึมาตนหนึ่งกำลังยืนอยู่ตรงกลางห้อง ร่างของมันมีรูปร่างคล้ายอสูรแปดกร มีดวงตาสีแดงฉานนับร้อยดวงที่เปล่งประกายชั่วร้าย มันกำลังใช้พลังทั้งหมดในการฉีกกระชากมิติให้ขาดสะบั้น สร้างรอยแยกขนาดใหญ่บนอากาศที่ส่งเสียงครางน่ากลัว "นั่นคือหัวหน้าของพวกมัน!" พ่อของฮารุกะคำราม "มันกำลังจะเปิดประตูมิติเต็มรูปแบบ!" "เราต้องหยุดมันให้ได้!" ดาอิและไดชิกล่าวพร้อมกัน พวกเขารวบรวมพลังทั้งหมดที่เหลืออยู่ไว้ที่มือ "มิติแห่งพันธนาการ! กาลเวลาหยุดนิ่ง!" เกิดเป็นกระแสพลังงานสีม่วงขนาดใหญ่พุ่งเข้าโอบล้อมปีศาจอสูรแปดกรเอาไว้ ทำให้มันหยุดนิ่งไปชั่วขณะ และรอยแยกของมิติก็หยุดขยายตัว ฮารุกะไม่รอช้า เธอร่ายรำอย่างรุนแรงและขับร้องบทเพลงศักดิ์สิทธิ์ที่เต็มไปด้วยพลัง "บทเพลงแห่งการชำระล้าง!" เกิดเป็นคลื่นเสียงที่ทรงพลังพุ่งเข้าใส่ปีศาจ ทำให้ร่างของมันเริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง คิชิโระใช้พลังถักทอโชคลาภ ทำให้การโจมตีของฮารุกะแม่นยำและรุนแรงขึ้นเป็นเท่าตัว และใช้พลังทำลายคำสาป เพื่อทำให้เกราะป้องกันของปีศาจอ่อนแอลง ในที่สุด หลังจากผ่านการต่อสู้อันดุเดือด ดาอิและไดชิก็สามารถประสานพลังครั้งสุดท้ายเข้าใส่แกนกลางของปีศาจ ทำให้ร่างของมันเริ่มแตกสลายและหายไปในอากาศ "สำเร็จแล้ว!" คิชิโระร้องขึ้นด้วยความเหนื่อยหอบ แต่แล้ว... สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น! เมื่อปีศาจเงาตัวสุดท้ายสลายไป วิญญาณดวงสุดท้าย ที่ดูดซับพลังงานทั้งหมดของปีศาจไว้ กลับไม่สลายตามไปด้วย มันเรืองแสงสีม่วงดำขนาดเท่าลูกบอลพุ่งออกมาจากจุดที่ปีศาจสลายไป แทนที่จะลอยลงสู่พื้นดิน หรือกลับคืนสู่โลกวิญญาณอย่างที่ควรจะเป็น มันกลับพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างรวดเร็วราวกับมีเจตจำนงของตัวเอง ทิ้งไว้เพียงความตกตะลึงให้กับทีมทิศตะวันตก "มัน... มันเกิดอะไรขึ้นน่ะ!" ฮารุกะอุทานด้วยความตกใจ เธอมองดูวิญญาณดวงนั้นที่พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งมันหายลับไปในความมืดมิด "มันกำลังมุ่งหน้าไปทางใจกลางเมือง..." ดาอิกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความหวาดกลัว "จุดรวมพลังงานหลัก... พวกมันกำลังรวมตัวกัน!" เสียงลมที่พัดผ่านความว่างเปล่า ทิ้งไว้เพียงความเงียบงันที่น่าขนลุก... ความสำเร็จในการต่อสู้ของทั้งสี่ทีมกลับนำมาซึ่งคำถามและความหวาดกลัวครั้งใหม่ วิญญาณปีศาจทั้งสี่ดวงที่หลุดลอยไปอย่างมีเจตนา กำลังมุ่งหน้าสู่ใจกลางเมือง ซึ่งเป็นจุดนัดหมายแห่งการรวมพลังครั้งใหญ่ของปีศาจเงา และเป็นที่ตั้งของโรงเรียนริโอะเอน... ที่ซึ่งสงครามครั้งสุดท้ายกำลังจะอุบัติขึ้นเสียงร้องโหยหวนของปีศาจที่พ่ายแพ้ในทิศทั้งสี่ไม่ได้นำมาซึ่งความสงบสุขอย่างที่คาดหวัง ตรงกันข้าม... มันกลับเป็นสัญญาณเตือนถึงภัยคุกคามที่ใหญ่หลวงกว่าเดิม วิญญาณปีศาจทั้งสี่ดวงที่หลุดรอดไปต่างมุ่งหน้าสู่ใจกลางเมืองอย่างมีเจตนา เพื่อรวมตัวและก่อกำเนิดเป็นบางสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าเดิม เหล่าทายาทนักเวทย์สายขาวและผู้ปกครองที่เพิ่งเสร็จสิ้นจากการต่อสู้กับปีศาจเงาต่างรับรู้ถึงสัญญาณอันตราย และรีบมุ่งหน้ากลับไปยังที่มั่นสุดท้าย ณ โรงเรียนริโอะเอน[ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอน ยามราตรีลึก]ลมหายใจหอบถี่ของเหล่านักเรียนและผู้ปกครองดังขึ้นระงมขณะที่พวกเขาวิ่งกลับมายังโรงเรียน แสงสีเงินของม่านพลังคุ้มกันที่ลุงภารโรงและผู้ปกครองคนอื่นๆ สร้างขึ้นยังคงส่องสว่าง แต่บัดนี้มันกลับถูกบดบังด้วยเงาทะมึนขนาดมหึมาที่กำลังก่อตัวขึ้นเหนือท้องฟ้าใจกลางเมือง"นั่นมันอะไรน่ะ!?" โกฮัน อุทานด้วยความตกตะลึง ดวงตาเบิกกว้างมองไปยังเงาขนาดมหึมาที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่เหนือโรงเรียนเมื่อพวกเขาเข้ามาใกล้ขึ้น ภาพที่ปรากฏยิ่งน่าขนลุก ปีศาจเงาขนาดมหึมา ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของวิญญาณปีศาจทั้งสี่ดวงที่หลุดรอดมา กำลังก่อตัว
ลมกระโชกแรงยามค่ำคืนพัดพาเสียงหวีดหวิว ราวกับเสียงร้องของวิญญาณที่ถูกรบกวน สงครามที่ปะทุขึ้นในสี่ทิศทางทั่วเมืองริโอะเอนยังคงดำเนินไปอย่างดุเดือด เหล่าทายาทนักเวทย์สายขาวและผู้ปกครองต่างเผชิญหน้ากับปีศาจเงาที่กระหายวิญญาณ ม่านพลังคุ้มกันที่โรงเรียนริโอะเอนยังคงเรืองรองในความมืด เป็นประภาคารแห่งความหวังเดียวท่ามกลางความโกลาหลสมรภูมิตะวันออก: การต่อสู้ในสวนสาธารณะโบราณทีมทิศตะวันออก นำโดย คาชิมิ (ผู้ปกป้องธรรมชาติและผู้ชำระล้างจิตวิญญาณ), เคนตะ (ผู้สยบพลังงานและผู้พิทักษ์มิติ), บาระ (ผู้รักษากฎและผู้พิพากษา), เร็น (ผู้ชี้ชะตาและผู้ควบคุมโชคชะตา) และผู้ปกครองของพวกเขา ต่างมุ่งหน้าสู่ทิศตะวันออกที่เข็มนาฬิกาอาคมของเคนตะสั่นสะเทือนอย่างบ้าคลั่ง แสงสีเงินวาวบนหน้าปัดเต้นระริกบ่งบอกถึงการบิดเบือนพลังงานที่รุนแรง จนกระทั่งพวกเขามาหยุดอยู่ที่หน้า สวนสาธารณะโบราณ ที่เงียบสงัด ต้นไม้ใหญ่อายุหลายร้อยปีทอดเงาปริศนาปกคลุมทั่วบริเวณ เสียงโหยหวนของวิญญาณต้นไม้และสัตว์ต่างๆ ดังแว่วออกมาจากความมืดมิด"ปีศาจมันกัดกินธรรมชาติแถวนี้!" คาชิมิกล่าวเสียงแผ่ว ใบหน้าของเธอซีดเผือดด้วยความเจ็บปวด เธอสัมผัสได้
ราตรีนี้ไม่ได้นำมาซึ่งความเงียบสงบ แต่กลับเป็นพยานแห่งสงครามที่อุบัติขึ้นในสี่ทิศทางทั่วเมืองริโอะเอน เหล่าทายาทนักเวทย์สายขาวและผู้ปกครองของพวกเขาต่างแยกย้ายกันไปเผชิญหน้ากับปีศาจเงาที่กำลังพยายามกลืนกินวิญญาณสิ่งมีชีวิตเพื่อเพิ่มพูนพลัง ม่านพลังคุ้มกันที่โรงเรียนริโอะเอนส่องสว่างเรืองรองในความมืดมิด เป็นเพียงสัญญาณแห่งความหวังเดียวท่ามกลางสมรภูมิที่กำลังปะทุขึ้นสมรภูมิเหนือ: การเผชิญหน้าในโรงพยาบาลร้างทีมทิศเหนือ นำโดย ฮานา (ผู้เชื่อมโยงและทำนาย), โกฮัน (ผู้นำทัพและผู้ทำลายล้าง), มายู (ผู้บันทึกและถ่ายทอด), โอกิ (ผู้โจมตีระยะไกล) และผู้ปกครองของพวกเขา ต่างมุ่งหน้าสู่ทิศเหนือที่เข็มนาฬิกาอาคมของฮานาชี้ไปอย่างไม่หยุดยั้ง แสงสีเขียวมรกตบนหน้าปัดเต้นระริก บอกถึงกระแสพลังงานปีศาจที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งพวกเขามาหยุดอยู่ที่หน้า โรงพยาบาลร้างแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางความมืดมิด เสียงกรีดร้องโหยหวนของวิญญาณที่ถูกรบกวนดังแว่วออกมาจากภายใน"ที่นี่แหละ..." ฮานากล่าวเสียงแผ่ว ใบหน้าซีดเผือด "พลังงานมันเข้มข้นมาก... ปีศาจเงาอยู่ข้างในนี้เยอะแยะเลย""เตรียมพร้อม!" โกฮันสั่งเสี
ความมืดของราตรีทอดยาวปกคลุมเมือง บรรยากาศเงียบงันผิดปกติ ชวนให้ใจหวั่น ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอนที่เคยเป็นศูนย์รวมของความวุ่นวายเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความเงียบงันและกลุ่มผู้ปกครองที่กำลังร่วมกันร่ายคาถาเพื่อสร้างม่านพลังคุ้มกันขนาดใหญ่ที่เรืองรองอยู่รอบรั้วโรงเรียน พวกเขามุ่งมั่นที่จะปกป้องสถานที่แห่งนี้ให้เป็นที่มั่นสุดท้ายเมื่อม่านพลังก่อตัวขึ้นอย่างสมบูรณ์ แสงเรืองรองสีเงินอ่อนๆ ก็แผ่กระจายไปทั่วบริเวณ ให้ความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย ทว่า... ความปลอดภัยนั้นกลับแฝงด้วยความผิดปกติ[ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอน ยามราตรี]เสียงบทสวดมนต์ของเหล่าผู้ปกครองค่อยๆ แผ่วลง เมื่อม่านพลังคุ้มกันปรากฏขึ้นเป็นรูปทรงโดมขนาดใหญ่ ครอบคลุมโรงเรียนเอาไว้ แสงสีเงินวูบไหวราวกับเกราะป้องกันที่มองไม่เห็น ผู้ปกครองหลายคนถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่บางคนกลับรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่ผิดแปลกไป"ฉันว่ามันแปลกๆ แล้วนะครับ..." ผู้ปกครองคนหนึ่ง (พ่อของโอกิ) เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ดวงตาจับจ้องไปยังท้องฟ้าที่มืดมิดไร้แสงจันทร์ "ไร้วี่แววของปีศาจเงาเลย... ทั้งๆ ที่เมื่อคืนพวกมันอาละวาดหน
แสงอาทิตย์ยามบ่ายค่อยๆ เลือนหายไปจากขอบฟ้า เหลือเพียงความมืดมิดที่เริ่มคืบคลานเข้ามาปกคลุมเมือง ความหวาดหวั่นปะปนกับความมุ่งมั่นในใจของเหล่านักเรียนที่เพิ่งรับรู้ถึงพลังและภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่ของตระกูลตนเอง เรื่องเล่าจากบรรพบุรุษที่ถูกส่งต่อมาหลายชั่วอายุคนได้ปลุกจิตวิญญาณแห่งนักเวทย์สายขาวให้ตื่นขึ้นอย่างสมบูรณ์ พวกเขาต่างรู้สึกตกตะลึงกับความสามารถที่ซ่อนเร้น แต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจและพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับชะตากรรมที่รออยู่เมื่อความมืดของราตรีเริ่มปกคลุม ทุกครอบครัวต่างเดินทางมารวมตัวกันที่ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอน อันเป็นจุดนัดหมายและเป็นที่ตั้งของม่านพลังคุ้มกันที่แข็งแกร่งที่สุด[ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอน ยามสนธยา]ลมเย็นยามค่ำพัดเอื่อยๆ พากลิ่นดอกไม้ป่าผสมกับความชื้นของดินชวนให้ใจสงบ แต่บรรยากาศโดยรอบกลับเต็มไปด้วยความตึงเครียด แสงไฟสลัวๆ จากโคมไฟหน้าโรงเรียนส่องกระทบใบหน้าของเหล่านักเรียนและผู้ปกครองที่ยืนรอคอยกันอย่างเงียบงันลุงภารโรง ยืนอยู่ตรงกลางลาน สายตาคมกริบกวาดมองไปรอบๆ ราวกับกำลังสำรวจสิ่งผิดปกติที่ซ่อนอยู่ในเงามืด เขาดูสุขุมกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาในช
บ้านของฮารุกะ: ตำนานแห่งผู้ร่ายรำพลังและผู้ขับไล่วิญญาณฮารุกะ ก้าวเข้ามาในบ้านด้วยความเหนื่อยล้าพร้อมกับคุณพ่อและคุณแม่ ทันทีที่ประตูเปิดออก คุณตา และ คุณยาย ของเธอก็รีบเข้ามาสวมกอดหลานสาวด้วยความโล่งใจและน้ำตาคลอเบ้า"ฮารุกะ! หลานรักของตา! ไม่เป็นอะไรใช่ไหมลูก?" คุณตาถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ พลางลูบผมของฮารุกะเบาๆคุณยายพยักหน้าเห็นด้วย "ยายเป็นห่วงแทบแย่เลยลูก! เมื่อคืนได้ยินเสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปหมด! ใจจะขาด!"ฮารุกะรู้สึกอบอุ่นในอ้อมกอดของท่านทั้งสอง เธอผละออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยคำถาม "ตาคะ... ยายคะ... พ่อคะ... แม่คะ... เรื่องเมื่อคืนนี้... ปีศาจเงา... แล้วก็พลังที่เรามีกัน... มันคืออะไรกันแน่คะ? หนูอยากรู้เรื่องทั้งหมดค่ะ"คุณตาของฮารุกะถอนหายใจช้าๆ ท่านพาฮารุกะไปนั่งที่เก้าอี้ไม้แกะสลักตัวเก่าแก่ในห้องนั่งเล่น ก่อนจะเริ่มต้นเล่าด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำแต่เต็มไปด้วยพลังแห่งความเชื่อมั่นในอดีต"เรื่องนี้มันถูกเล่าสืบต่อกันมาในตระกูลของเรา ตั้งแต่สมัยทวดของทวดของตาเลยนะฮารุกะ" คุณตาเริ่มต้น "ในสมัยที่ปีศาจเงาออกอาละวาดอย่างหนักนั้น พวกมันไม่ได้เพียง