เสียงร้องโหยหวนของปีศาจที่พ่ายแพ้ในทิศทั้งสี่ไม่ได้นำมาซึ่งความสงบสุขอย่างที่คาดหวัง ตรงกันข้าม... มันกลับเป็นสัญญาณเตือนถึงภัยคุกคามที่ใหญ่หลวงกว่าเดิม วิญญาณปีศาจทั้งสี่ดวงที่หลุดรอดไปต่างมุ่งหน้าสู่ใจกลางเมืองอย่างมีเจตนา เพื่อรวมตัวและก่อกำเนิดเป็นบางสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าเดิม เหล่าทายาทนักเวทย์สายขาวและผู้ปกครองที่เพิ่งเสร็จสิ้นจากการต่อสู้กับปีศาจเงาต่างรับรู้ถึงสัญญาณอันตราย และรีบมุ่งหน้ากลับไปยังที่มั่นสุดท้าย ณ โรงเรียนริโอะเอน
[ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอน ยามราตรีลึก] ลมหายใจหอบถี่ของเหล่านักเรียนและผู้ปกครองดังขึ้นระงมขณะที่พวกเขาวิ่งกลับมายังโรงเรียน แสงสีเงินของม่านพลังคุ้มกันที่ลุงภารโรงและผู้ปกครองคนอื่นๆ สร้างขึ้นยังคงส่องสว่าง แต่บัดนี้มันกลับถูกบดบังด้วยเงาทะมึนขนาดมหึมาที่กำลังก่อตัวขึ้นเหนือท้องฟ้าใจกลางเมือง "นั่นมันอะไรน่ะ!?" โกฮัน อุทานด้วยความตกตะลึง ดวงตาเบิกกว้างมองไปยังเงาขนาดมหึมาที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่เหนือโรงเรียน เมื่อพวกเขาเข้ามาใกล้ขึ้น ภาพที่ปรากฏยิ่งน่าขนลุก ปีศาจเงาขนาดมหึมา ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของวิญญาณปีศาจทั้งสี่ดวงที่หลุดรอดมา กำลังก่อตัวขึ้นเป็นรูปร่างคล้ายอสูรกายไร้รูปร่างขนาดใหญ่ ร่างกายของมันขยับยุกยิกราวกับควันสีดำที่อัดแน่นไปด้วยพลังงานชั่วร้าย เสียงคำรามที่รุนแรงของมันสั่นสะเทือนไปทั่วเมือง และมันกำลังใช้กรงเล็บขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยพลังงานมืด โจมตีเข้าที่ม่านพลังคุ้มกันของโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง! เสียงการปะทะดังสนั่นหวั่นไหว แสงสีเงินของม่านพลังสั่นระริกราวกับจะแตกหักได้ทุกเมื่อ แรงปะทะทำให้พื้นดินสั่นสะเทือนไปทั่ว "ลุง! พวกเรามาแล้ว!" ฟูมิโกะ ตะโกนเสียงดัง เธอและเพื่อนๆ ที่เหลือรีบวิ่งเข้าสู่ม่านพลังคุ้มกันอย่างรวดเร็ว "แย่แล้ว! พวกมันกำลังรวบรวมพลังเพื่อทำลายอาคมของเรา!" ลุงภารโรงกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เหงื่อผุดพรายบนใบหน้าของเขา เขากำลังยืนอยู่หน้าม่านพลัง คอยเสริมพลังให้มันอย่างสุดความสามารถ "ทุกคน! รวมพลัง!" พ่อของโกฮันตะโกนสั่ง เหล่านักเรียนและผู้ปกครองที่เพิ่งกลับมาถึงต่างรีบวิ่งไปยืนเรียงกันอยู่หลังลุงภารโรง แต่ละคนรวบรวมพลังเวทย์ที่เหลืออยู่ทั้งหมดในตัว แม้จะอ่อนล้าจากการต่อสู้ครั้งก่อน แต่ทุกคนต่างรู้ดีว่านี่คือการต่อสู้เพื่ออนาคตของเมือง "พลังแห่งธรรมชาติ!" คาชิมิ ร่ายคาถา พลังงานสีเขียวบริสุทธิ์พุ่งออกมาจากเธอ "พลังแห่งการทำลายล้าง!" โกฮัน ปล่อยคลื่นพลังสีแดงเข้ม "พลังแห่งการเชื่อมโยง!" ฮานา ส่องประกายแสงสีเขียวมรกต "พลังแห่งการควบคุม!" เคนตะ ปล่อยกระแสพลังงานสีเงิน พลังเวทย์หลากหลายรูปแบบจากทายาทสายขาวทั้งสิบสองคนพุ่งออกมา ผสมผสานรวมเข้ากับพลังของผู้ปกครองที่ร่วมสมทบ กลายเป็นลำแสงสีขาวบริสุทธิ์ขนาดมหึมา พุ่งเข้าปะทะกับปีศาจเงารวมร่างที่กำลังโจมตีม่านพลังอยู่ ตูมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม! เกิดระเบิดพลังงานครั้งใหญ่ แสงสว่างจ้าสาดส่องไปทั่วท้องฟ้า เสียงกรีดร้องอันโหยหวนของปีศาจดังไปทั่วทิศทาง ร่างอันมหึมาของมันสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง และค่อยๆ สลายตัวลงไปเป็นกลุ่มควันสีดำจำนวนมหาศาล ที่พุ่งกระจายออกไปทั่วท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะหายลับไปในความมืดมิด ทุกคนหอบหายใจด้วยความโล่งอก แต่ก็เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า พลังงานที่ใช้ไปเมื่อครู่ดูดกลืนแรงกายและแรงใจของพวกเขาไปจนหมดสิ้น "แย่แล้ว!" เสียงของลุงภารโรงดังขึ้นด้วยความตกใจ เขาจ้องมองไปยังท้องฟ้าที่ว่างเปล่าด้วยสีหน้าซีดเผือด "มันกำลังกระจายตัวไปที่อื่นรึคะ?" ผู้ปกครองคนหนึ่ง (แม่ของฟูมิโกะ) ถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "ใช่... พวกมันไม่ได้สลายไปอย่างสมบูรณ์" ลุงภารโรงกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง "พวกมันใช้พลังเฮือกสุดท้ายในการแบ่งแยกตัวเองออกไป เพื่อหาแหล่งพลังงานใหม่... และมันกระจายตัวไปทั่วเมือง... ทั่วประเทศ... ทั่วโลก... มันกระจายไปไกลกว่าที่เราจะตามไปได้ทันด้วยวิธีปกติ" ความตกใจและความสิ้นหวังเริ่มแผ่ซ่านเข้ามาในหมู่ผู้ปกครองและนักเรียน "แล้วจะทำยังไงกันดีล่ะครับ!?" ผู้ปกครองคนหนึ่ง (พ่อของบาระ) ถามด้วยน้ำเสียงสิ้นหวัง "ก็มีทางเดียวเท่านั้น..." ลุงภารโรงกล่าวขึ้นช้าๆ น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความหนักแน่นและเด็ดขาด "พวกเจ้าทุกคน... จงตามข้ามา!" เขาเดินนำทุกคนออกไปจากลานกว้างหน้าโรงเรียน มุ่งหน้าไปยังมุมหนึ่งของบริเวณโรงเรียน ที่ซึ่งมีประตูไม้บานเก่าๆ ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ ทุกคนต่างเดินตามลุงภารโรงไปอย่างเงียบๆ ด้วยความสงสัยและคาดหวัง เมื่อเขาเปิดประตูออก ภาพที่ปรากฏตรงหน้าทำให้ทุกคนต้องเบิกตากว้างด้วยความตื่นตาตื่นใจ ภายในนั้นคือ บ้านของลุงภารโรง... แต่มันไม่ใช่บ้านธรรมดา! ผนังทุกด้านเต็มไปด้วยชั้นวางหนังสือโบราณที่สูงจรดเพดาน มีม้วนคัมภีร์เก่าแก่แขวนอยู่เต็มไปหมด เครื่องมือเวทมนตร์รูปทรงแปลกตา คริสตัลสีสันต่างๆ และวัตถุโบราณนับพันชิ้นวางเรียงรายอยู่ทั่วทุกมุมห้อง ราวกับเป็นพิพิธภัณฑ์เวทมนตร์ขนาดย่อม กลิ่นอายของพลังเวทย์โบราณลอยคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ให้ความรู้สึกศักดิ์สิทธิ์และน่าเกรงขาม "บ้านของลุง... น่าทึ่งมากครับ!" ไดชิ อุทานด้วยความประหลาดใจ สายตาของเขากวาดมองไปทั่วห้องอย่างไม่วางตา "นี่คือห้องสมบัติของตระกูลข้า... และเป็นที่เก็บรวบรวมความรู้เวทมนตร์ของบรรพบุรุษนักเวทย์สายขาวมานับพันปี" ลุงภารโรงกล่าวพร้อมกับเดินเข้าไปยังใจกลางห้อง ที่ซึ่งมีแท่นหินโบราณตั้งอยู่ บนแท่นนั้นมี ลูกแก้วคริสตัลขนาดใหญ่ ที่มีผ้าคลุมสีดำสนิทคลุมไว้ ลุงภารโรงค่อยๆ เปิดผ้าคลุมออก ลูกแก้วคริสตัลนั้นเปล่งแสงออกมาอย่างเจิดจ้า ทันใดนั้น แสงที่เปล่งออกมาจากลูกแก้วก็ฉายภาพของโลกทั้งใบขึ้นมากลางอากาศ และบนภาพนั้นปรากฏ จุดสีดำเล็กๆ นับร้อยจุด กระจายไปทั่วทุกมุมโลก โดยเฉพาะในจุดที่มีแหล่งพลังงานสำคัญหรือมีผู้คนอาศัยอยู่หนาแน่น "นี่พวกมันกระจายตัวกันไปไวขนาดนี้เลยหรอ!?" ผู้ปกครองคนหนึ่ง (พ่อของคิชิโระ) อุทานด้วยความตกใจเมื่อเห็นภาพนั้น "มันกระจายตัวไปไกลขนาดนี้... เราจะตามไปจัดการพวกมันทั้งหมดได้ยังไง!?" ลุงภารโรงถอนหายใจช้าๆ "เราคงไม่มีทางเลือก... นอกจากต้อง เปิดประตูมิติทั้งสิบจุดนี้" เขาชี้ไปยังจุดสีดำขนาดใหญ่สิบจุดบนแผนที่โลกในลูกแก้ว ซึ่งเป็นจุดที่ปีศาจเงากระจุกตัวอยู่มากที่สุด พวกผู้ปกครองหันมามองหน้ากัน ด้วยสีหน้าครุ่นคิดและหนักใจ ก่อนจะหันมาบอกเหล่านักเรียนด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจและเจ็บปวด "ต่อไป... คงต้องฝากให้เป็นหน้าที่ของพวกลูกด้วยนะ..." แม่ของฮานากล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา "หมายความว่ายังไงครับ?" เร็น ถามด้วยความสงสัย "การเปิดประตูมิติทั้งสิบจุดพร้อมกันนั้น... ต้องใช้พลังเวทย์ที่มหาศาลเกินกว่าที่คนคนเดียวจะทำได้" ลุงภารโรงอธิบาย "พวกพ่อแม่จะต้องร่วมกันร่ายอาคมเปิดประตูมิติทั้งสิบแห่งนี้... และเมื่อประตูเปิดออก... พวกเจ้า... เหล่านักเรียน... คือผู้ที่ต้องเข้าไปจัดการกับปีศาจเงาที่นั่น" ทุกคนในกลุ่มนักเรียนต่างตกตะลึงกับข่าวที่ได้รับ "แต่... พวกเรายังเด็กเกินไปนะครับ!" อิจิ อุทาน "ไม่! พลังของพวกเจ้าได้ตื่นขึ้นอย่างสมบูรณ์แล้ว" ลุงภารโรงกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "พวกเจ้าคือทายาทสายเลือดบริสุทธิ์ที่มีพลังกล้าแข็งที่สุดในยุคนี้ และพวกเจ้าได้เรียนรู้เรื่องราวและภาระหน้าที่ของตระกูลตัวเองแล้ว" "แต่ตอนนี้เรามีแค่นาฬิกาอาคมแค่ 4 อันนะครับลุง!" ฮานา กล่าว "ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น" ลุงภารโรงกล่าวพร้อมกับเดินไปยังโต๊ะไม้ขนาดใหญ่ที่มีเครื่องมือโบราณวางอยู่ "เดี๋ยวฉันจะทำนาฬิกาอาคมขึ้นมาอีก 6 เรือน... ให้ครบ 10 อันพอดีกับการเปิดประตูมิติทั้ง 10 จุด ตอนนี้พวกเธอก็... สอนวิชาที่แท้จริงของตระกูลให้พวกเด็กๆ สะ... เวลาของเราเหลือน้อยเต็มทีแล้ว" บรรดาผู้ปกครองพยักหน้าเข้าใจ พวกเขาเดินเข้าไปหาลูกๆ ของตนเอง เตรียมพร้อมที่จะถ่ายทอดวิชาความรู้และพลังที่แท้จริงของตระกูลที่ถูกเก็บงำมานานหลายชั่วอายุคน ให้กับทายาทรุ่นเยาว์เหล่านี้ เวลาล่วงเลยไปนับวัน โรงเรียนริโอะเอนกลับกลายเป็นสถานที่ฝึกฝนเวทมนตร์อย่างเข้มข้น เสียงบทสวด คลื่นพลังงานที่ปะทะกัน และเสียงหัวเราะของเด็กๆ ที่เริ่มคุ้นชินกับพลังของตนเอง ดังระงมไปทั่ว ผู้ปกครองแต่ละคนต่างทุ่มเทสอนวิชาที่สำคัญที่สุดให้กับลูกหลานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เตรียมพร้อมสำหรับภารกิจที่ใหญ่หลวงที่สุดในชีวิตของพวกเขา เมื่อเวลาที่กำหนดมาถึง ทุกคนก็กลับมารวมตัวกันที่บ้านของลุงภารโรงอีกครั้ง บรรยากาศเต็มไปด้วยความจริงจังและมุ่งมั่น ใบหน้าของเหล่านักเรียนแต่ละคนฉายแววเติบโตและแข็งแกร่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ลุงภารโรงเดินออกมาจากมุมมืดของห้อง ถือถาดไม้ที่วาง นาฬิกาอาคมทั้งสิบอัน ที่เปล่งแสงเรืองรองออกมาอย่างน่าอัศจรรย์ พร้อมกับมีดอาคมและขวดแก้วขนาดเล็กสำหรับกักเก็บวิญญาณวางอยู่ข้างๆ "เอาล่ะ... พวกเธอทั้งหมด" ลุงภารโรงเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ทรงพลัง "ข้าได้แบ่งคู่กันไปยังสิบสถานที่สำคัญที่พวกปีศาจเงากำลังรวมตัวอยู่แล้ว แต่ละสถานที่ถูกเลือกมาอย่างพิถีพิถัน โดยคำนึงถึงความสามารถของพวกเจ้าแต่ละคน" เขาเริ่มเอ่ยชื่อและมอบภารกิจ "สำหรับ โรงเรียนต้องสาป... ที่ซึ่งมีพลังงานมืดสะสมอยู่มากที่สุด ให้เป็นหน้าที่ของ ไอโกะ (ผู้ควบคุมจิตวิญญาณ) และ โช (ผู้รักษาสมดุล) พวกเจ้าจะต้องใช้พลังของจิตใจที่แข็งแกร่งและสมดุล เพื่อชำระล้างความชั่วร้ายที่ฝังลึกในสถานที่แห่งนั้น" "ที่ โรงพยาบาลร้าง... ที่ซึ่งวิญญาณจำนวนมากถูกรบกวน ให้เป็นหน้าที่ของ ฟูมิโกะ (ผู้เยียวยา) และ เก็น (ผู้มีสัมผัสพิเศษ) พวกเจ้าจะต้องเยียวยาดวงวิญญาณที่ทุกข์ทรมาน และชำระล้างความแปดเปื้อนในสถานที่แห่งนั้น" "ที่ สวนสนุกต้องสาป... ที่ซึ่งปีศาจอาจใช้ภาพลวงตาเพื่อล่อหลอก ให้เป็นหน้าที่ของ ฮานา (ผู้เชื่อมโยงและทำนาย) และ โกฮัน (ผู้นำทัพและผู้ทำลายล้าง) ฮานาจะต้องใช้ญาณหยั่งรู้เพื่อเปิดเผยความจริง และโกฮันจะนำทางในการทำลายล้างปีศาจ" "ใน ป่าต้องสาป... ที่ซึ่งธรรมชาติถูกกัดกิน ให้เป็นหน้าที่ของ มายู (ผู้บันทึกและถ่ายทอด) และ โอกิ (ผู้โจมตีระยะไกล) มายูจะต้องบันทึกข้อมูลเพื่อหาจุดอ่อน และโอกิจะใช้การโจมตีจากระยะไกลเพื่อปกป้องธรรมชาติ" "ที่ สุสานมรณะ... ที่ซึ่งเป็นแหล่งรวมวิญญาณ ให้เป็นหน้าที่ของ ยูเมะ (ผู้เบิกเนตรและผู้ชี้นำ) และ เทนชิ (ผู้รังสรรค์และผู้สร้างภาพมายา) ยูเมะจะเบิกเนตรเพื่อมองเห็นวิญญาณที่ถูกรบกวน และเทนชิจะใช้ภาพมายาเพื่อช่วยควบคุมสถานการณ์" "ใน เมืองร้าง... ที่ซึ่งไร้ซึ่งชีวิตชีวา ให้เป็นหน้าที่ของ ฮารุ (ผู้เยียวยา) และ อิจิ (ผู้ปกป้องความทรงจำและผู้เฝ้าระวัง) ฮารุจะเยียวยาจิตวิญญาณที่แตกสลาย และอิจิจะปกป้องความทรงจำที่สำคัญของสถานที่แห่งนั้น" "ที่ ห้างร้าง... ที่ซึ่งเต็มไปด้วยพลังงานที่เคยเป็นของมนุษย์ ให้เป็นหน้าที่ของ คาชิมิ (ผู้ปกป้องธรรมชาติและผู้ชำระล้างจิตวิญญาณ) และ เคนตะ (ผู้สยบพลังงานและผู้พิทักษ์มิติ) คาชิมิจะชำระล้างพลังงานแปดเปื้อน และเคนตะจะสยบพลังงานที่ปั่นป่วน" "ที่ ปราสาทร้าง... ที่ซึ่งมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ให้เป็นหน้าที่ของ บาระ (ผู้รักษากฎและผู้พิพากษา) และ เร็น (ผู้ชี้ชะตาและผู้ควบคุมโชคชะตา) บาระจะใช้กฎแห่งเวทมนตร์เพื่อควบคุมปีศาจ และเร็นจะชี้ชะตาแห่งชัยชนะ" "ที่ เกาะร้าง... ที่ซึ่งอยู่ห่างไกลและโดดเดี่ยว ให้เป็นหน้าที่ของ ดาอิ (ผู้รังสรรค์มิติ) และ ไดชิ (ผู้ควบคุมกาลเวลา) พวกเจ้าจะต้องใช้พลังแห่งมิติและกาลเวลา เพื่อหยุดยั้งการเคลื่อนไหวของปีศาจในสถานที่แห่งนั้น" "และสุดท้าย... ที่ เหมืองร้าง... ที่ซึ่งพลังงานใต้พิภพซ่อนอยู่ ให้เป็นหน้าที่ของ ฮารุกะ (ผู้ร่ายรำพลังและผู้ขับไล่วิญญาณ) และ คิชิโระ (ผู้ถักทอโชคลาภและผู้ทำลายคำสาป) ฮารุกะจะร่ายรำเพื่อขับไล่วิญญาณชั่วร้าย และคิชิโระจะนำพาโชคดีมาสู่การต่อสู้" ทุกคนพยักหน้าด้วยความมุ่งมั่น ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความกล้าหาญและพร้อมที่จะรับภารกิจอันยิ่งใหญ่นี้ พวกเขาเดินออกมาจากกลุ่มผู้ปกครอง และเดินมารับ มีดอาคม ที่ส่องแสงระยิบระยับ, ขวดแก้วสำหรับกักเก็บวิญญาณ ที่มีอักขระโบราณ และ นาฬิกาอาคม ที่เปล่งแสงเฉพาะตัวตามสายเลือดของแต่ละคน ในขณะที่เหล่านักเรียนเตรียมพร้อม ผู้ปกครองทั้งหมดก็ประสานมือกัน ยืนล้อมรอบแท่นหินโบราณที่ลูกแก้วคริสตัลตั้งอยู่ ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและเจ็บปวดในเวลาเดียวกัน พวกเขาเริ่มร่ายคาถาบทสวดโบราณ... เพื่อ สร้างประตูมิติทั้งสิบแห่ง ที่จะนำพาบุตรหลานของพวกเขาเข้าสู่สมรภูมิแห่งแสงและความมืดครั้งสุดท้าย... สมรภูมิที่จะตัดสินชะตากรรมของโลกทั้งใบ -จบ-เสียงร้องโหยหวนของปีศาจที่พ่ายแพ้ในทิศทั้งสี่ไม่ได้นำมาซึ่งความสงบสุขอย่างที่คาดหวัง ตรงกันข้าม... มันกลับเป็นสัญญาณเตือนถึงภัยคุกคามที่ใหญ่หลวงกว่าเดิม วิญญาณปีศาจทั้งสี่ดวงที่หลุดรอดไปต่างมุ่งหน้าสู่ใจกลางเมืองอย่างมีเจตนา เพื่อรวมตัวและก่อกำเนิดเป็นบางสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าเดิม เหล่าทายาทนักเวทย์สายขาวและผู้ปกครองที่เพิ่งเสร็จสิ้นจากการต่อสู้กับปีศาจเงาต่างรับรู้ถึงสัญญาณอันตราย และรีบมุ่งหน้ากลับไปยังที่มั่นสุดท้าย ณ โรงเรียนริโอะเอน[ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอน ยามราตรีลึก]ลมหายใจหอบถี่ของเหล่านักเรียนและผู้ปกครองดังขึ้นระงมขณะที่พวกเขาวิ่งกลับมายังโรงเรียน แสงสีเงินของม่านพลังคุ้มกันที่ลุงภารโรงและผู้ปกครองคนอื่นๆ สร้างขึ้นยังคงส่องสว่าง แต่บัดนี้มันกลับถูกบดบังด้วยเงาทะมึนขนาดมหึมาที่กำลังก่อตัวขึ้นเหนือท้องฟ้าใจกลางเมือง"นั่นมันอะไรน่ะ!?" โกฮัน อุทานด้วยความตกตะลึง ดวงตาเบิกกว้างมองไปยังเงาขนาดมหึมาที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่เหนือโรงเรียนเมื่อพวกเขาเข้ามาใกล้ขึ้น ภาพที่ปรากฏยิ่งน่าขนลุก ปีศาจเงาขนาดมหึมา ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของวิญญาณปีศาจทั้งสี่ดวงที่หลุดรอดมา กำลังก่อตัว
ลมกระโชกแรงยามค่ำคืนพัดพาเสียงหวีดหวิว ราวกับเสียงร้องของวิญญาณที่ถูกรบกวน สงครามที่ปะทุขึ้นในสี่ทิศทางทั่วเมืองริโอะเอนยังคงดำเนินไปอย่างดุเดือด เหล่าทายาทนักเวทย์สายขาวและผู้ปกครองต่างเผชิญหน้ากับปีศาจเงาที่กระหายวิญญาณ ม่านพลังคุ้มกันที่โรงเรียนริโอะเอนยังคงเรืองรองในความมืด เป็นประภาคารแห่งความหวังเดียวท่ามกลางความโกลาหลสมรภูมิตะวันออก: การต่อสู้ในสวนสาธารณะโบราณทีมทิศตะวันออก นำโดย คาชิมิ (ผู้ปกป้องธรรมชาติและผู้ชำระล้างจิตวิญญาณ), เคนตะ (ผู้สยบพลังงานและผู้พิทักษ์มิติ), บาระ (ผู้รักษากฎและผู้พิพากษา), เร็น (ผู้ชี้ชะตาและผู้ควบคุมโชคชะตา) และผู้ปกครองของพวกเขา ต่างมุ่งหน้าสู่ทิศตะวันออกที่เข็มนาฬิกาอาคมของเคนตะสั่นสะเทือนอย่างบ้าคลั่ง แสงสีเงินวาวบนหน้าปัดเต้นระริกบ่งบอกถึงการบิดเบือนพลังงานที่รุนแรง จนกระทั่งพวกเขามาหยุดอยู่ที่หน้า สวนสาธารณะโบราณ ที่เงียบสงัด ต้นไม้ใหญ่อายุหลายร้อยปีทอดเงาปริศนาปกคลุมทั่วบริเวณ เสียงโหยหวนของวิญญาณต้นไม้และสัตว์ต่างๆ ดังแว่วออกมาจากความมืดมิด"ปีศาจมันกัดกินธรรมชาติแถวนี้!" คาชิมิกล่าวเสียงแผ่ว ใบหน้าของเธอซีดเผือดด้วยความเจ็บปวด เธอสัมผัสได้
ราตรีนี้ไม่ได้นำมาซึ่งความเงียบสงบ แต่กลับเป็นพยานแห่งสงครามที่อุบัติขึ้นในสี่ทิศทางทั่วเมืองริโอะเอน เหล่าทายาทนักเวทย์สายขาวและผู้ปกครองของพวกเขาต่างแยกย้ายกันไปเผชิญหน้ากับปีศาจเงาที่กำลังพยายามกลืนกินวิญญาณสิ่งมีชีวิตเพื่อเพิ่มพูนพลัง ม่านพลังคุ้มกันที่โรงเรียนริโอะเอนส่องสว่างเรืองรองในความมืดมิด เป็นเพียงสัญญาณแห่งความหวังเดียวท่ามกลางสมรภูมิที่กำลังปะทุขึ้นสมรภูมิเหนือ: การเผชิญหน้าในโรงพยาบาลร้างทีมทิศเหนือ นำโดย ฮานา (ผู้เชื่อมโยงและทำนาย), โกฮัน (ผู้นำทัพและผู้ทำลายล้าง), มายู (ผู้บันทึกและถ่ายทอด), โอกิ (ผู้โจมตีระยะไกล) และผู้ปกครองของพวกเขา ต่างมุ่งหน้าสู่ทิศเหนือที่เข็มนาฬิกาอาคมของฮานาชี้ไปอย่างไม่หยุดยั้ง แสงสีเขียวมรกตบนหน้าปัดเต้นระริก บอกถึงกระแสพลังงานปีศาจที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งพวกเขามาหยุดอยู่ที่หน้า โรงพยาบาลร้างแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางความมืดมิด เสียงกรีดร้องโหยหวนของวิญญาณที่ถูกรบกวนดังแว่วออกมาจากภายใน"ที่นี่แหละ..." ฮานากล่าวเสียงแผ่ว ใบหน้าซีดเผือด "พลังงานมันเข้มข้นมาก... ปีศาจเงาอยู่ข้างในนี้เยอะแยะเลย""เตรียมพร้อม!" โกฮันสั่งเสี
ความมืดของราตรีทอดยาวปกคลุมเมือง บรรยากาศเงียบงันผิดปกติ ชวนให้ใจหวั่น ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอนที่เคยเป็นศูนย์รวมของความวุ่นวายเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความเงียบงันและกลุ่มผู้ปกครองที่กำลังร่วมกันร่ายคาถาเพื่อสร้างม่านพลังคุ้มกันขนาดใหญ่ที่เรืองรองอยู่รอบรั้วโรงเรียน พวกเขามุ่งมั่นที่จะปกป้องสถานที่แห่งนี้ให้เป็นที่มั่นสุดท้ายเมื่อม่านพลังก่อตัวขึ้นอย่างสมบูรณ์ แสงเรืองรองสีเงินอ่อนๆ ก็แผ่กระจายไปทั่วบริเวณ ให้ความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย ทว่า... ความปลอดภัยนั้นกลับแฝงด้วยความผิดปกติ[ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอน ยามราตรี]เสียงบทสวดมนต์ของเหล่าผู้ปกครองค่อยๆ แผ่วลง เมื่อม่านพลังคุ้มกันปรากฏขึ้นเป็นรูปทรงโดมขนาดใหญ่ ครอบคลุมโรงเรียนเอาไว้ แสงสีเงินวูบไหวราวกับเกราะป้องกันที่มองไม่เห็น ผู้ปกครองหลายคนถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่บางคนกลับรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่ผิดแปลกไป"ฉันว่ามันแปลกๆ แล้วนะครับ..." ผู้ปกครองคนหนึ่ง (พ่อของโอกิ) เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ดวงตาจับจ้องไปยังท้องฟ้าที่มืดมิดไร้แสงจันทร์ "ไร้วี่แววของปีศาจเงาเลย... ทั้งๆ ที่เมื่อคืนพวกมันอาละวาดหน
แสงอาทิตย์ยามบ่ายค่อยๆ เลือนหายไปจากขอบฟ้า เหลือเพียงความมืดมิดที่เริ่มคืบคลานเข้ามาปกคลุมเมือง ความหวาดหวั่นปะปนกับความมุ่งมั่นในใจของเหล่านักเรียนที่เพิ่งรับรู้ถึงพลังและภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่ของตระกูลตนเอง เรื่องเล่าจากบรรพบุรุษที่ถูกส่งต่อมาหลายชั่วอายุคนได้ปลุกจิตวิญญาณแห่งนักเวทย์สายขาวให้ตื่นขึ้นอย่างสมบูรณ์ พวกเขาต่างรู้สึกตกตะลึงกับความสามารถที่ซ่อนเร้น แต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจและพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับชะตากรรมที่รออยู่เมื่อความมืดของราตรีเริ่มปกคลุม ทุกครอบครัวต่างเดินทางมารวมตัวกันที่ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอน อันเป็นจุดนัดหมายและเป็นที่ตั้งของม่านพลังคุ้มกันที่แข็งแกร่งที่สุด[ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอน ยามสนธยา]ลมเย็นยามค่ำพัดเอื่อยๆ พากลิ่นดอกไม้ป่าผสมกับความชื้นของดินชวนให้ใจสงบ แต่บรรยากาศโดยรอบกลับเต็มไปด้วยความตึงเครียด แสงไฟสลัวๆ จากโคมไฟหน้าโรงเรียนส่องกระทบใบหน้าของเหล่านักเรียนและผู้ปกครองที่ยืนรอคอยกันอย่างเงียบงันลุงภารโรง ยืนอยู่ตรงกลางลาน สายตาคมกริบกวาดมองไปรอบๆ ราวกับกำลังสำรวจสิ่งผิดปกติที่ซ่อนอยู่ในเงามืด เขาดูสุขุมกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาในช
บ้านของฮารุกะ: ตำนานแห่งผู้ร่ายรำพลังและผู้ขับไล่วิญญาณฮารุกะ ก้าวเข้ามาในบ้านด้วยความเหนื่อยล้าพร้อมกับคุณพ่อและคุณแม่ ทันทีที่ประตูเปิดออก คุณตา และ คุณยาย ของเธอก็รีบเข้ามาสวมกอดหลานสาวด้วยความโล่งใจและน้ำตาคลอเบ้า"ฮารุกะ! หลานรักของตา! ไม่เป็นอะไรใช่ไหมลูก?" คุณตาถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ พลางลูบผมของฮารุกะเบาๆคุณยายพยักหน้าเห็นด้วย "ยายเป็นห่วงแทบแย่เลยลูก! เมื่อคืนได้ยินเสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปหมด! ใจจะขาด!"ฮารุกะรู้สึกอบอุ่นในอ้อมกอดของท่านทั้งสอง เธอผละออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยคำถาม "ตาคะ... ยายคะ... พ่อคะ... แม่คะ... เรื่องเมื่อคืนนี้... ปีศาจเงา... แล้วก็พลังที่เรามีกัน... มันคืออะไรกันแน่คะ? หนูอยากรู้เรื่องทั้งหมดค่ะ"คุณตาของฮารุกะถอนหายใจช้าๆ ท่านพาฮารุกะไปนั่งที่เก้าอี้ไม้แกะสลักตัวเก่าแก่ในห้องนั่งเล่น ก่อนจะเริ่มต้นเล่าด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำแต่เต็มไปด้วยพลังแห่งความเชื่อมั่นในอดีต"เรื่องนี้มันถูกเล่าสืบต่อกันมาในตระกูลของเรา ตั้งแต่สมัยทวดของทวดของตาเลยนะฮารุกะ" คุณตาเริ่มต้น "ในสมัยที่ปีศาจเงาออกอาละวาดอย่างหนักนั้น พวกมันไม่ได้เพียง