Share

สันติภาพ

last update Last Updated: 2025-09-30 21:46:45

หลังจากที่พิธีสืบทอดตำแหน่งเสร็จสิ้น ไคลด์ก็กลายเป็นผู้พิทักษ์แห่งเกาะแสงอรุณอย่างเป็นทางการ แต่ภัยคุกคามจากชนเผ่าแห่งเงาก็ยังคงเป็นบาดแผลฉกรรจ์ ไดชิ ดาอิ และไคลด์ต่างเห็นพ้องต้องกันว่า การเจรจาคือหนทางเดียวที่จะนำความสงบสุขที่แท้จริงมาสู่เกาะนี้

พวกเขาตัดสินใจเดินทางไปยัง ป่าสนทมิฬ อีกครั้ง สถานที่ที่พวกเขาเคยถูกซุ่มโจมตี โดยมี ปู่เฒ่าดาฟ ร่วมเดินทางไปด้วยในฐานะตัวแทนของชาวเกาะ

"การเจรจานี้อันตรายยิ่งกว่าการต่อสู้กับปีศาจ" ปู่เฒ่าดาฟกล่าวขณะเดินนำ "ความบาดหมางระหว่างเรากับชนเผ่าแห่งเงาฝังรากลึกมาตั้งแต่สมัย จอมเวทแห่งเงามืด ยังเป็นมนุษย์"

"ท่านปู่ ช่วยเล่าเรื่องราวความบาดหมางนั้นให้พวกเราฟังได้ไหมครับ" ไดชิถาม

"ได้สิ..." ปู่เฒ่าดาฟเริ่มเล่าด้วยน้ำเสียงที่เศร้าสร้อย "ในอดีต จอมเวทที่ทรยศนั้นเคยเป็นหัวหน้ากลุ่มนักเวทที่แข็งแกร่งที่สุดบนเกาะ แต่เขามองว่าชาวเกาะธรรมดาและชนเผ่าแห่งเงาที่อาศัยอยู่ในป่าลึกเป็นเพียง เครื่องมือ และ พลังงาน ที่ไร้ค่า เขาต้องการให้ทุกคนกราบไหว้บูชาเขาเพียงผู้เดียว"

"แล้วชนเผ่าแห่งเงาเกี่ยวข้องอย่างไรคะ" ดาอิถาม

"ชนเผ่าเหล่านั้นเป็นกลุ่มคนที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายในป่าลึก พวกเขาบูชาพลังของ เงาและราตรี โดยเชื่อว่ามันคือส่วนหนึ่งของสมดุล จอมเวทแห่งเงามืดได้ปลุกปั่นให้พวกเขาเชื่อว่า ความสว่างคือศัตรู และยุยงให้พวกเขาโจมตีเราที่เป็นกลุ่มคนที่บูชาแสงสว่างและธรรมชาติ ในขณะที่จอมเวทก็ใช้ทั้งสองฝ่ายเป็นสนามรบ เพื่อให้เขาได้รวบรวมพลังอาคมจากความตายและความเกลียดชัง"

"พวกเขากลายเป็นเหยื่อของการหลอกลวง" ไคลด์สรุปด้วยน้ำเสียงเย็นชา "และเมื่อความมืดมิดที่พวกเขาสะสมหายไป พวกเขาก็รู้สึกเหมือนโลกกำลังถล่มลง และเชื่อว่าพวกเราคือคนที่ขโมยพลังงานของพวกเขาไป"

การเผชิญหน้า ณ เส้นแบ่งเขต

เมื่อมาถึงลานหินขนาดใหญ่ใจกลางป่า ซึ่งเป็นเส้นแบ่งเขตระหว่างหมู่บ้านกับอาณาเขตของชนเผ่าแห่งเงา หัวหน้าเผ่าร่างใหญ่สวมหน้ากากกระดูกก็ปรากฏตัวขึ้น พร้อมนักรบอีกหกคนที่ถือหอกและธนูอาบพิษ

หัวหน้าเผ่า (สึนะ): "ข้าไม่คิดว่าพวกแกจะกล้ากลับมาที่นี่อีก! พวกแกมาพร้อมกับผู้อ่อนแอ...และมาพร้อมกับ ผู้ทรยศ ที่บัดนี้สวมชุดของผู้พิทักษ์แล้ว!" เขาชี้หอกไปที่ไคลด์อย่างกราดเกรี้ยว

ไคลด์: (ก้าวออกมาข้างหน้าอย่างสงบ แม้จะยังคงมีรอยแผลเป็นจากการต่อสู้) "ข้าไม่ได้ทรยศใคร สึนะ ข้าเพียงแค่ปฏิเสธที่จะเชื่อในความมืดที่ไร้สติ ที่ทำให้ผู้คนต้องเจ็บปวด"

ไดชิ: (ก้าวไปยืนข้างไคลด์) "เรามาที่นี่เพื่อเจรจา เราไม่ได้ต้องการสู้กับพวกท่าน"

สึนะ: (หัวเราะเยาะ) "เจรจางั้นรึ! พวกแกขโมยพลังของเราไป! พวกแกทำให้ราตรีของเรามืดมิด! ลูกหลานของเราต้องเติบโตโดยไม่มีพลังเงาให้บูชา! ความบาดหมางนี้จะจบลงได้ก็ต่อเมื่อพวกแกมอบ ผ้ายันต์ ทั้งหมดให้เรา!"

ปู่เฒ่าดาฟ: (ก้าวไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ ด้วยไม้เท้า) "สึนะ...หยุดเสียที! ผ้ายันต์ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง มันคือสมดุลของเกาะนี้"

สึนะ: "เจ้าคนแก่ที่หลงแสง! พวกแกทำให้ข้าต้องสูญเสียพี่ชายไป! พี่ชายของข้าตายในสนามรบที่จอมเวทแห่งเงามืดสร้างขึ้น! พวกแกต่างหากที่ทำให้เขาต้องสู้กับพวกเรา!"

ปู่เฒ่าดาฟ: "ข้าเสียใจกับเรื่องพี่ชายของเจ้า สึนะ...แต่เราทุกคนต่างตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงของจอมเวทคนนั้น! เขาโกหกข้า! เขาโกหกบรรพบุรุษของเจ้า! เขาทำลายทุกอย่างเพื่อพลังของตัวเอง!"

ดาอิ: (เดินออกมาตรงกลาง เปล่งพลังอาคมแห่งความหวังสีเขียวนวลออกมาอย่างอ่อนโยน) "พวกเราเข้าใจความเจ็บปวดของท่าน แต่ความจริงก็คือ พลังที่ท่านบูชาไม่ได้หายไปไหน"

สึนะ: "โกหก! พลังเงาถูกดูดซับไปพร้อมกับดวงวิญญาณปีศาจทั้งหมด! มันถูกทำลายไปแล้ว!"

ดาอิ: "ไม่จริง! พลังเงาคือส่วนหนึ่งของสมดุลแห่งการสร้างสรรค์ ต่างหาก! เมื่อเราทำลายความมืดมิดที่บิดเบือนไป พลังที่แท้จริงของ 'ราตรี' ก็กลับคืนสู่ธรรมชาติ เพียงแต่พวกท่านไม่สามารถสัมผัสได้เพราะจิตใจยังเต็มไปด้วยความแค้น"

ไคลด์: (ก้าวไปข้างหน้า ประจันหน้ากับสึนะในระยะประชิด) "ข้าเคยอยู่ในความมืดมิดเหมือนเจ้า สึนะ ข้าเคยเห็นความว่างเปล่าของการบูชาพลังทำลายล้าง แต่ดาอิใช้พลังแห่งความหวังรักษาบาดแผลที่ฝังลึกในตัวข้าได้"

ไคลด์ค่อย ๆ ปลดผ้าพันแผลออก เผยให้เห็นรอยแผลจากการถูกศรอาบพิษ แต่บาดแผลนั้นกลับหายสนิทอย่างไม่น่าเชื่อ

ไคลด์: "พลังที่บริสุทธิ์ของเกาะนี้คือ การเยียวยา ไม่ใช่การทำลายล้าง หากเจ้ายังคงยึดติดกับความแค้น...เกาะนี้ก็จะกลับไปสู่ความมืดมิดอีกครั้ง และคราวนี้...พวกเจ้าก็จะถูกกลืนกินไปพร้อมกัน"

ทางเลือกสุดท้าย

สึนะเงียบไป เขาจ้องมองบาดแผลที่หายสนิทของไคลด์ และมองไปยังแสงสว่างที่อ่อนโยนจากผืนป่าที่กลับมาเขียวขจี เขาเห็นความลังเลในแววตาของนักรบที่ติดตามมา

สึนะ: "ถ้าสิ่งที่แกพูดเป็นความจริง...แล้วพวกเราจะกลับมาสัมผัสพลังที่แท้จริงของราตรีได้อย่างไร!?"

ไดชิ: (ยิ้มอย่างอ่อนโยน) "ท่านสามารถทำได้โดย ร่วมมือ กับพวกเรา พวกเราจะนำทางท่านไปสู่แหล่งพลังงานอาคมแห่งเงาที่แท้จริงที่ซ่อนอยู่ใต้เกาะ ซึ่งเป็นที่ที่พลังของชนเผ่าของท่านไม่เคยถูกทำลายไปไหน แต่ถูกผนึกไว้โดยผู้พิทักษ์รุ่นก่อนเพื่อรอวันที่ความแค้นจะถูกปลดปล่อย"

ปู่เฒ่าดาฟ: "เราจะลืมความบาดหมางในอดีตทั้งหมด และเริ่มต้นใหม่ในฐานะคนบนเกาะเดียวกัน หากเจ้าเต็มใจที่จะละทิ้งความแค้น สึนะ"

สึนะเงียบไปครู่หนึ่ง เขายกหอกขึ้น และสั่งให้นักรบถอยห่างออกไป

สึนะ: "ข้า...ข้าเหนื่อยกับการต่อสู้แล้ว ข้าเหนื่อยกับการหลบซ่อนตัวอยู่ในเงามืด...แต่ข้าก็ไม่อาจเชื่อใจพวกแกได้ทั้งหมด" เขาจ้องไปที่ไคลด์

สึนะ: "ไคลด์...ในฐานะผู้พิทักษ์คนใหม่ ข้าขอท้าเจ้า! หากเจ้าสามารถนำทางเราไปสู่แหล่งพลังงานที่แท้จริงของชนเผ่าได้ และพิสูจน์ว่าพวกเราไม่ได้ถูกหลอก...ข้าจะยอมรับเจ้าในฐานะผู้พิทักษ์ และยอมรับสันติภาพ!"

ไคลด์พยักหน้าอย่างไม่ลังเล "ข้ายอมรับการท้านั้น! เราจะนำทางพวกเจ้าไปสู่แหล่งพลังเงาที่แท้จริง...ที่ซึ่งความสงบสุขที่แท้จริงรออยู่!"

การเจรจาจบลงด้วยการยอมรับความท้าทายครั้งใหม่ ที่จะเป็นการเริ่มต้นสันติภาพครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของเกาะแสงอรุณ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • 5/B เกาะร้างต้องคำสาป   ความลับ

    หลังจากทำข้อตกลงกับหัวหน้าเผ่าสึนะ ไคลด์ ไดชิ และดาอิ ก็เริ่มต้นภารกิจที่อันตรายที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยเผชิญมา การเดินทางสู่ แหล่งพลังอาคมแห่งเงาที่แท้จริง ซึ่งซ่อนอยู่ลึกใต้เกาะแสงอรุณ มีเพียงไคลด์เท่านั้นที่รู้ทางเข้า ซึ่งต้องเดินทางผ่านทางน้ำใต้ดินที่ซับซ้อน"พวกเราทุกคนต้องรู้ว่าความมืดมิดที่พวกเจ้าเคยทำลายไปนั้น...เป็นแค่ เปลือกนอก ของพลังงานทั้งหมด" ไคลด์กล่าวขณะนำทางพวกเขาไปยังปากถ้ำที่ถูกซ่อนไว้ใต้รากต้นไม้ใหญ่ริมทะเลสาบ "พลังเงาที่แท้จริงไม่ได้มีไว้เพื่อทำลายล้าง แต่มีไว้เพื่อ รักษาสมดุลของผืนดิน เมื่อหลายศตวรรษก่อน ผู้พิทักษ์รุ่นก่อนได้ผนึกมันไว้ไม่ให้ถูกผู้ใดครอบครอง"ปากทางสู่ความมืดปากถ้ำนั้นแคบและมืดมิด มีเพียงแสงจากตะเกียงอาคมที่ดาอิสร้างขึ้นเท่านั้นที่ช่วยให้พวกเขามองเห็นได้ ไคลด์ลงไปในน้ำก่อน ตามมาด้วยไดชิและดาอิ พวกเขาต้องว่ายน้ำตามกระแสน้ำใต้ดินที่เย็นเฉียบและมืดสนิทไปนานหลายนาทีเมื่อกระแสน้ำสงบลง พวกเขาก็พบว่าตัวเองอยู่ใน อุโมงค์หินขนาดใหญ่ ที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำค้างและเสียงสะท้อนที่น่าขนลุก พื้นผิวของผนังถ้ำเต็มไปด้วย คริสตัลเงาสีดำ ที่ส่องแสงสลัว ๆ บ่งบอกถึงความหน

  • 5/B เกาะร้างต้องคำสาป   สันติภาพ

    หลังจากที่พิธีสืบทอดตำแหน่งเสร็จสิ้น ไคลด์ก็กลายเป็นผู้พิทักษ์แห่งเกาะแสงอรุณอย่างเป็นทางการ แต่ภัยคุกคามจากชนเผ่าแห่งเงาก็ยังคงเป็นบาดแผลฉกรรจ์ ไดชิ ดาอิ และไคลด์ต่างเห็นพ้องต้องกันว่า การเจรจาคือหนทางเดียวที่จะนำความสงบสุขที่แท้จริงมาสู่เกาะนี้พวกเขาตัดสินใจเดินทางไปยัง ป่าสนทมิฬ อีกครั้ง สถานที่ที่พวกเขาเคยถูกซุ่มโจมตี โดยมี ปู่เฒ่าดาฟ ร่วมเดินทางไปด้วยในฐานะตัวแทนของชาวเกาะ"การเจรจานี้อันตรายยิ่งกว่าการต่อสู้กับปีศาจ" ปู่เฒ่าดาฟกล่าวขณะเดินนำ "ความบาดหมางระหว่างเรากับชนเผ่าแห่งเงาฝังรากลึกมาตั้งแต่สมัย จอมเวทแห่งเงามืด ยังเป็นมนุษย์""ท่านปู่ ช่วยเล่าเรื่องราวความบาดหมางนั้นให้พวกเราฟังได้ไหมครับ" ไดชิถาม"ได้สิ..." ปู่เฒ่าดาฟเริ่มเล่าด้วยน้ำเสียงที่เศร้าสร้อย "ในอดีต จอมเวทที่ทรยศนั้นเคยเป็นหัวหน้ากลุ่มนักเวทที่แข็งแกร่งที่สุดบนเกาะ แต่เขามองว่าชาวเกาะธรรมดาและชนเผ่าแห่งเงาที่อาศัยอยู่ในป่าลึกเป็นเพียง เครื่องมือ และ พลังงาน ที่ไร้ค่า เขาต้องการให้ทุกคนกราบไหว้บูชาเขาเพียงผู้เดียว""แล้วชนเผ่าแห่งเงาเกี่ยวข้องอย่างไรคะ" ดาอิถาม"ชนเผ่าเหล่านั้นเป็นกลุ่มคนที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่

  • 5/B เกาะร้างต้องคำสาป   การรับตำแหน่ง

    หมู่บ้านแสงอรุณกลับมาสู่ความสงบเงียบอีกครั้ง แต่ความเงียบสงบในครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อน ๆ มันคือความสงบที่มาพร้อมกับความตึงเครียดและความเตรียมพร้อม ชาวบ้านช่วยกันพาไดชิ ดาอิ และไคลด์ไปที่วิหารเก่า ซึ่งถูกใช้เป็นสถานที่รักษาพยาบาลชั่วคราวบาดแผลและการเยียวยาไคลด์มีอาการหนักที่สุด พิษจากศรของชนเผ่าแห่งเงาได้เริ่มซึมซาบเข้าสู่กระแสเลือดของเขา แม้ร่างกายจะแข็งแกร่งดุจหินผา แต่พิษร้ายก็ทำให้เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้สะดวก"นี่มันพิษจาก พฤกษามรณะ" ปู่เฒ่าดาฟกล่าวขณะที่กำลังทำความสะอาดบาดแผลอย่างระมัดระวัง "ชนเผ่าแห่งเงาใช้สารนี้มาตั้งแต่สมัยโบราณเพื่อทำให้เหยื่ออ่อนแรง...แต่ดีที่เจ้าเป็นบุตรแห่งทะเล ร่างกายจึงต้านทานได้ดีกว่าคนอื่น"ดาอิที่เฝ้าดูอาการของไคลด์อยู่ไม่ห่างรู้สึกผิดที่เธอไม่สามารถปกป้องเขาได้ เธอจึงตัดสินใจใช้พลังอาคมของตนเองเข้าช่วยในการรักษา ไดชิที่ถูกชนเผ่าทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่แขนและขา ก็พยุงตัวเองมานั่งข้าง ๆ น้องสาว"ดาอิ...บาดแผลของนาย" ไดชิกล่าวด้วยความเป็นห่วง"ฉันไม่เป็นไรหรอกพี่ไดชิ" ดาอิส่ายหน้า เธอจ้องมองไปที่บาดแผลของไคลด์อย่างตั้งใจ ก่อนจะหลับตาลงเพื่

  • 5/B เกาะร้างต้องคำสาป   เพลิงแค้นของชนเผ่า

    การเดินทางกลับหมู่บ้านเริ่มต้นขึ้นพร้อมกับ ไคลด์ ผู้พิทักษ์แห่งท้องทะเล ชายหนุ่มลึกลับคนนี้ยังคงเดินนำหน้าอย่างเงียบ ๆ ร่างกายของเขาสง่างามและเต็มไปด้วยความแข็งแกร่ง ราวกับว่าเขาไม่ได้เดินอยู่บนพื้นดิน แต่กำลังล่องลอยไปตามกระแสลม ไดชิและดาอิเดินตามหลังเขาไปอย่างเงียบ ๆ ด้วยความตื่นเต้นและกังวลใจ"ไคลด์..." ไดชิเริ่มต้นบทสนทนาหลังจากที่เดินทางมาได้พักใหญ่ "นายช่วยบอกเราได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นที่ทะเลเมื่อวานนี้ คลื่นนั่นมันไม่ใช่คลื่นธรรมชาติใช่ไหม"ไคลด์ไม่หยุดเดิน แต่ตอบด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉยแต่แฝงด้วยความหนักแน่น "คลื่นนั้นคือ การปฏิเสธของจิตวิญญาณแห่งทะเล พวกมันไม่ยอมรับผู้ที่ไม่ได้มาจากท้องทะเลให้เข้าใกล้พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ แต่เมื่อเห็นว่าพวกเจ้าไม่ยอมแพ้...พวกมันจึงอนุญาตให้ข้าช่วยนำทางพวกเจ้ากลับมา""แล้วศรเพลิงที่ช่วยเราจากอสูรหินล่ะ" ดาอิถามอย่างกระตือรือร้น "นั่นเป็นของนายใช่ไหม"ไคลด์หันมามองพวกเขาเล็กน้อย ดวงตาสีน้ำทะเลนั้นสบตาไดชิและดาอิอย่างช้า ๆ "ศรนั่นทำจาก ไม้แห่งภูเขาไฟ ที่ไม่ไหม้ไฟ และอาบด้วยพิษแห่งความมืดที่สามารถทำลายสิ่งมีชีวิตที่เกิดจากพลังตกค้างได้...นั่นคือสิ่งที

  • 5/B เกาะร้างต้องคำสาป   ร่องรอย

    หลังจากที่เรือกลับถึงฝั่งอย่างปลอดภัย ไดชิและดาอิรีบวิ่งขึ้นจากหาดทรายทันที หัวใจของพวกเขายังเต้นรัวจากความตื่นเต้นและความฉงนสนเท่ห์ที่ได้เห็นชายหนุ่มลึกลับคนนั้น ชายที่สามารถควบคุมพลังของทะเลและซ่อมแซมเรือได้ในพริบตา"เขา...เขาต้องเป็นผู้พิทักษ์คนต่อไปที่เราตามหาแน่ ๆ!" ดาอิกล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นสุดขีด"ใช่" ไดชิพยักหน้าอย่างเห็นด้วย "แต่เขาไม่ได้อยากให้เราเจอเลย และการที่เขาพาเรือเรากลับเข้าฝั่งอย่างรวดเร็วขนาดนี้ หมายความว่าเขาอาจจะมุ่งหน้าสู่ใจกลางเกาะแล้ว"สองพี่น้องตัดสินใจเริ่มต้นการตามล่าทันที โดยมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่พวกเขาเชื่อว่าจะเป็นเส้นทางที่สั้นที่สุดสู่ถ้ำของปู่เฒ่าดาฟและหมู่บ้าน ซึ่งพวกเขาเดาว่าชายหนุ่มคนนั้นน่าจะไปที่นั่นก่อนเพื่อพบกับผู้อาวุโสอุปสรรคแรก: ลานหินอัปลักษณ์พวกเขาต้องผ่าน ลานหินอัปลักษณ์ ที่เต็มไปด้วยก้อนหินแหลมคมและเศษซากของต้นไม้ที่ตายแล้ว ซึ่งเคยเป็นอาณาเขตของปีศาจหินก่อนที่เกาะจะฟื้นฟู พวกเขาต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเพราะพื้นผิวที่ลื่นและไม่มั่นคง"ดาอิ ระวังให้ดี" ไดชิเตือนขณะที่ใช้มือจับดาบอาคม "พลังงานมืดที่นี่จางหายไปแล้ว แต่พลังอาคมของธาตุหิน

  • 5/B เกาะร้างต้องคำสาป   คลื่นคำราม

    หลังจากผ่านบททดสอบที่โหดร้ายทั้งสองครั้ง ไดชิและดาอิก็เข้าใจแล้วว่าการค้นหาผู้พิทักษ์ที่แท้จริงไม่ใช่แค่การต่อสู้ แต่เป็นการ ทดสอบปัญญาและจิตวิญญาณ ของผู้ถูกเลือก ไดชิและดาอิใช้เวลาในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนที่สามในการฝึกฝนร่างกายและจิตใจอย่างหนักหน่วง พวกเขาตระหนักว่าอาคมของพวกเขาจำเป็นต้องผสานเข้ากับธรรมชาติอย่างแท้จริงตามคำแนะนำของปู่เฒ่าดาฟและรูฟ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านทะเลของเกาะ พวกเขาจึงตัดสินใจพาเรือเล็กออกไปฝึกฝนกลางมหาสมุทร"ท่านปู่บอกว่าพลังที่แท้จริงของเกาะแสงอรุณไม่ได้อยู่บนพื้นดินเท่านั้น แต่อยู่ใน ท้องทะเลที่ลึกที่สุด ด้วย" ดาอิกล่าว ขณะที่เธอกำลังตรวจสอบผืนผ้าใบเรือที่ถูกเย็บอย่างแข็งแรง"ใช่" ไดชิกล่าวพร้อมกับดึงเชือกใบเรือให้ตึง ใบหน้าของเขาเปื้อนไปด้วยเหงื่อ "ที่นี่คือสถานที่ที่ไม่มีกำแพงและไม่มีภาพลวงตา มีเพียงพลังงานบริสุทธิ์ของคลื่นและลมเท่านั้น"พวกเขาแล่นเรือออกไปไกลจากชายฝั่งหลายชั่วโมงจนมองไม่เห็นเกาะแล้ว มีเพียงผืนน้ำสีครามที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ไดชิปิดตาลง พยายามใช้จิตสัมผัสถึงพลังอาคมที่แผ่กระจายอยู่ใต้น้ำ ในขณะที่ดาอิฝึกร่ายคาถาควบคุมสายลม เพื่อให้เรือ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status