เจนจิราอยู่กับแม่เพียงแค่สองคน พ่อเสียชีวิตตั้งแต่เธอยังเป็นเด็ก แม่เปิดร้านขายของชำเลี้ยงดูหญิงสาวตั้งแต่เล็กจนโต จนกระทั่งเรียนจบได้งานทำที่บริษัทแห่งนี้ ทีแรกเธอเป็นห่วงแม่ ไม่อยากให้อยู่คนเดียว จึงชักชวนให้แม่ขายบ้านมาอยู่ด้วยกัน
“แม่ขออยู่ที่เดิมดีกว่าเจน อย่างน้อยอยู่บ้านยังทำงานขายของได้เจอได้พูดคุยกับคนอื่นบ้าง ย้ายมาอยู่แถวนี้แม่ก็ไม่รู้จักใคร อยู่ตรงโน้นยังมีญาติพี่น้องให้ได้พึ่งพาอาศัยบ้าง”
“แต่เจนเป็นห่วงแม่นี่นา อยากให้แม่มาอยู่ใกล้ๆ”
แม่ของเจนจิราหัวเราะ
“อย่ามาทำพูดประจบหน่อยเลย เช้าขึ้นแกก็ไปทำงาน ทิ้งให้อยู่คนเดียวมากกว่า แม่ขออยู่ที่ร้านนี่แหละ เจนก็แค่แวะมาหาแม่บ่อยๆ ก็แล้วกัน”
เจนจิรามาหาหอพักอยู่แถวบริษัท อย่างน้อยเธอจะได้ไม่ต้องเหนื่อยกับการเดินทางมากนัก และการมาอยู่หอพักแห่งนี้ ทำให้เจนจิราได้มาพบกับกรณ์...แฟนหนุ่มที่อายุอ่อนกว่าเจนจิราถึงเจ็ดปี
เจนจิราและกรณ์เจอกันเมื่อวันที่เจนจิรามาหาหอพัก เดิมทีกรณ์พักอยู่ที่นี่ เขาเห็นว่าราคาไม่แพงจึงแนะนำให้หญิงสาวมาพัก นั่นทำให้เจนจิรารู้สึกซาบซึ้งใจในตัวกรณ์ ทั้งๆ ที่ตอนนั้นเขา
นิรมลตื่นขึ้นมาตอนเช้าด้วยความไม่สดชื่น เพราะมัวแต่คิดถึงเหตุการณ์ที่เห็นจากข่าวเมื่อคืนนี้ หญิงสาวรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาผู้ชายคนที่เกิดอุบัติเหตุแต่กลับนึกไม่ออกว่าเป็นใคร แล้วความคิดของเธอกลับต้องสะดุดเมื่อมีข้อความส่งมาจากเอกภพ‘วันนี้กลับบ้านหรือเปล่า’นิรมลมองปฏิทิน จริงสินะ วันนี้วันเสาร์นี่นา เธอจึงพิมพ์ข้อความกลับไป‘กลับสิ บีมีอะไรหรือเปล่า’‘บีไปบ้านจิ๋วด้วยได้ไหม เมื่อวานนี้ไม่ได้เล่าให้ฟังว่าวันนี้แม่ไปเข้าวัดถือศีลปฏิบัติธรรมเจ็ดวัน ส่วนสองกับเล็กก็ไปเข้าค่ายกันหมด บีก็เลยอยู่บ้านคนเดียว’นิรมลยิ้มให้กับโทรศัพท์ด้วยความดีใจ นานแล้วที่เอกภพไม่ได้ไปบ้านของเธอ ถ้าพ่อแม่ที่บ้านรู้เข้าคงดีใจมากทีเดียว‘ถ้าอย่างนั้นอีกครึ่งชั่วโมงเจอกันนะ’............................................เอกภพขับรถยนต์ของนิรมลมาตามทางเรื่อยๆ นิรมลดูยิ้มแย้มแจ่มใส ถึงแม้ว่าบางครั้งจะเห็น ‘บางสิ่งบางอย่าง’ ตามทางอยู่บ้าง แต่เธอก็เลือกที่จะทำเป็นมองไม่เห็น และชวนเอกภพคุยเพื่อไม่ให้เขารู้สึกง่วงนอนระหว่างขับรถ“น
ทั้งสองคนรีบเข้าไปทำงาน ต่างฝ่ายต่างมีงานยุ่งจนลืมเรื่องของเจนจิราไปเสียสนิท นิรมลนึกขึ้นได้อีกทีคือตอนเช้าของอีกวัน หญิงสาวยังไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าบ้านแม่ของเจนจิราอยู่ที่ไหน เธอบ่นให้เอกภพฟัง“จิ๋วลืมถามที่อยู่บ้านแม่พี่เจน ทำไงดีล่ะบี”“ไปถามฝ่ายบุคคลสิ หนึ่งว่าน่าจะมีที่อยู่นะ”นิรมลพยักหน้า จริงด้วยสิ เธอลืมไปเสียสนิท“ถ้าอย่างนั้นตอนกลางวันหนึ่งไปกับนิวหน่อยนะ จะได้ไปจดที่อยู่บ้านพี่เจนด้วยกัน”ตอนกลางวัน หลังจากที่รับประทานอาหารกลางวันกันเสร็จแล้ว นิรมลแวะไปที่ฝ่ายบุคคลเพื่อขอที่อยู่บ้านแม่ของเจนจิรา ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดที่พวกเธอเคยไปมากนัก นิรมลตัดสินใจทันที“ถ้าอย่างนั้นเย็นนี้เราไปหาแม่ของพี่เจนกัน บีไปเป็นเพื่อนจิ๋วได้ไหม”“ไปสิจิ๋ว แต่คงไม่ได้อยู่ฟังสวดงานศพด้วยนะ บีต้องรีบไปรีบกลับ”เย็นวันนั้น เอกภพและนิรมลออกจากบริษัทเวลาสี่โมงเย็น พวกเขาขับรถยนต์ไปที่บ้านแม่เจนจิรา โดยมีนิรมลช่วยดูทางให้ บ้านเดิมของเจนจิราหรือพูดให้ถูกคือร้านขายของชำที่หาไม่ยาก ร้านอยู่ติดถนนในซอย มีผู้คนผ่านไปมามากมายเอกภพจอด
“นิวคุยกับใครเหรอ”เสียงเอกภพทักถาม เขาออกมาจากห้องน้ำแล้วเห็นหญิงสาวยืนคุยอยู่คนเดียวมาสักพักแล้ว นิรมลสะดุ้ง พอดีกับที่พี่อีกคนออกมาจากห้องน้ำ หญิงสาวหันหน้าไปมองทั้งสองคน แล้วหันกลับมามองรอบตัวอีกครั้ง วิญญาณของเจนจิราไม่อยู่แถวนั้นแล้ว เธอจึงพูดตัดบท“รีบไปกันเถอะ”นิรมลรีบออกไปจากวัด จนลืมนึกไปว่าเธอยังไม่รู้จักบ้านแม่ของเจนจิราเลย หญิงสาวลืมถามทางไปเสียสนิทนิรมลนั่งนิ่งเงียบตลอดทางกลับบ้าน รวมทั้งเอกภพ เขาคิดถึงเรื่องที่ได้ยินหญิงสาวพูดคุยคนเดียว นึกถึงนิรมลที่เคยพูดไว้ว่าเธอเห็น ‘บางสิ่งบางอย่าง’“เมื่อกี้ที่จิ๋วพูดอยู่คนเดียว อย่าบอกนะว่าจิ๋วเห็นพี่เจน”นิรมลพยักหน้ารับ ในใจกำลังนั่งคิดถึงการเข้าไปเอาของในห้องพักของเจนจิราว่าจะทำอย่างไร เธอมัวแต่ตกอยู่ในความคิดของตัวเอง จนรู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อเอกภพจอดรถ นั่งมองหน้าเธออยู่เงียบๆ ด้วยสีหน้าเรียบเฉยจนต้องถาม“บีเป็นอะไรหรือเปล่า”“บีสิต้องเป็นฝ่ายถาม ตั้งแต่ขึ้นรถมาจิ๋วก็นั่งเงียบมาตลอดทาง ว่าแต่...จิ๋วคุยอะไรกับพี่เจนล่ะ ต้องทำอะไรหรือเปล่า”นิรมลถอนหายใจก่
เจนจิราอยู่กับแม่เพียงแค่สองคน พ่อเสียชีวิตตั้งแต่เธอยังเป็นเด็ก แม่เปิดร้านขายของชำเลี้ยงดูหญิงสาวตั้งแต่เล็กจนโต จนกระทั่งเรียนจบได้งานทำที่บริษัทแห่งนี้ ทีแรกเธอเป็นห่วงแม่ ไม่อยากให้อยู่คนเดียว จึงชักชวนให้แม่ขายบ้านมาอยู่ด้วยกัน“แม่ขออยู่ที่เดิมดีกว่าเจน อย่างน้อยอยู่บ้านยังทำงานขายของได้เจอได้พูดคุยกับคนอื่นบ้าง ย้ายมาอยู่แถวนี้แม่ก็ไม่รู้จักใคร อยู่ตรงโน้นยังมีญาติพี่น้องให้ได้พึ่งพาอาศัยบ้าง”“แต่เจนเป็นห่วงแม่นี่นา อยากให้แม่มาอยู่ใกล้ๆ”แม่ของเจนจิราหัวเราะ“อย่ามาทำพูดประจบหน่อยเลย เช้าขึ้นแกก็ไปทำงาน ทิ้งให้อยู่คนเดียวมากกว่า แม่ขออยู่ที่ร้านนี่แหละ เจนก็แค่แวะมาหาแม่บ่อยๆ ก็แล้วกัน”เจนจิรามาหาหอพักอยู่แถวบริษัท อย่างน้อยเธอจะได้ไม่ต้องเหนื่อยกับการเดินทางมากนัก และการมาอยู่หอพักแห่งนี้ ทำให้เจนจิราได้มาพบกับกรณ์...แฟนหนุ่มที่อายุอ่อนกว่าเจนจิราถึงเจ็ดปีเจนจิราและกรณ์เจอกันเมื่อวันที่เจนจิรามาหาหอพัก เดิมทีกรณ์พักอยู่ที่นี่ เขาเห็นว่าราคาไม่แพงจึงแนะนำให้หญิงสาวมาพัก นั่นทำให้เจนจิรารู้สึกซาบซึ้งใจในตัวกรณ์ ทั้งๆ ที่ตอนนั้นเขา
เช้าวันรุ่งขึ้น ทุกคนมาทำงานตามปกติ ยกเว้นเจนจิราที่ไม่ได้มาทำงานโดยไม่ทราบสาเหตุ เมื่อหัวหน้างานหรือฝ่ายบุคคลโทรศัพท์ติดต่อ กลับไม่สามารถติดต่อได้“พี่นิวคะ ตอนที่พี่ไปทำงานด้วยกัน พี่เจนมีอาการอะไรแปลกๆ หรือเปล่าคะ”“อาการแปลกๆ นี่มันคือยังไงเหรอ พี่ไม่เข้าใจ”ผู้ถามเป็นน้องคนหนึ่งที่สนิทกับเจนจิรา ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงถามด้วยความเป็นห่วง“หนูรู้ว่าพี่เจนเป็นภูมิแพ้ค่ะ ก็เลยนึกสงสัยว่าตอนไปที่โน่น พี่เจนมีอาการกำเริบไหม”“ปกติทุกอย่าง เออ...พี่เจนอยู่หอพักไม่ใช่เหรอ หนูรู้จักหอพักของพี่เจนไหม”น้องพยักหน้าแล้วโทรศัพท์ไปหาเจ้าของหอพัก เธอสนิทกับเจนจิรา เคยไปหอพักและคุ้นเคยกันอยู่บ้าง หญิงสาวนั่งรออยู่ครู่หนึ่ง ทางด้านโน้นก็รับสายโทรศัพท์“สวัสดีค่ะ หนูมีเรื่องจะรบกวน ขอให้พี่ไปดูห้องพักพี่เจน วันนี้พี่เขาไม่ได้มาทำงาน ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ”“เขาว่ายังไงบ้างล่ะ”พี่คนหนึ่งถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง น้องถอนหายใจก่อนจะตอบ“เดี๋ยวพี่เจ้าของหอเข้าไปดูให้ค่ะ เขาบอกมาว่าเมื่อวานข้างห้องยังได้ยินเสียงกุกกักดังอยู่ในห้อง นึ
ในวันแรกยังไม่มีอะไรมากนัก ลูกค้าเพียงแค่แนะนำสถานที่ว่าจะสามารถใช้ห้องตรงไหนได้บ้าง โชคดีที่นิรมลเตรียมแผ่นพับและตัวอย่างสินค้าอาหารเสริมติดมาด้วย เธอจึงนำเสนอสินค้าให้ฟัง ลูกค้าที่ได้ฟังก็เกิดความสนใจ“ผมว่าน่าสนใจมากนะครับ วันพรุ่งนี้ผมนัดลูกค้าไว้ให้แล้ว รับรองว่ามีคนสนใจซื้อแน่ครับ”หลังจากนั้น ทุกคนกลับมาบ้านเช่าและเตรียมสิ่งของที่จะใช้ในการทำงานวันรุ่งขึ้น กว่าจะเสร็จก็เป็นเวลาสองทุ่มเศษแล้ว บรรยากาศรอบข้างเงียบสงบสมกับเป็นต่างจังหวัด“ไปอาบน้ำพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้านะ”หัวหน้าพูดและเดินขึ้นไปอาบน้ำก่อน เจนจิราและนิรมลมองหน้ากัน“ถ้าอย่างนั้นนิวขอขึ้นไปจัดของก่อนนะคะ ยังไม่ได้เอาเสื้อผ้าออกจากกระเป๋าเลย”“ไปสิ พี่ก็เหมือนกัน”เจนจิราและนิรมลเดินขึ้นไปข้างบน เจนจิราจัดเสื้อผ้าเข้าตู้เสื้อผ้าก่อน ในระหว่างที่กำลังเก็บเสื้อผ้ากันอยู่นั้น หญิงสาวมองเตียงแล้วพูดเปิดประเด็นกับอีกฝ่ายก่อน“พี่ขอนอนเตียงล่างนะ มันสะดวกดี อีกอย่างน้ำหนักอย่างพี่ขึ้นไปนอนข้างบนคงไม่เหมาะแน่ น้องนิวคงจะนอนระแวงทั้งคืน”นิรมลยิ้ม