วันต่อมา...
@มหาวิทยาลัย
"เลิกทำหน้าบูดได้แล้วน่า" เสียงวีนัสเอ่ยบอกเพื่อนตัวเล็กที่เอาแต่ทำหน้ายู่ออกมาไม่หยุด
"ปะป๊าใจร้ายอะ ปะป๊าไม่เข้าใจเรา" เรียวปากเล็กพึมพำบอก
"ก็เพราะพ่อเธอเป็นห่วงเธอไงไลลา" ปลายฟ้าที่นั่งอยู่มองหน้าบอกเพื่อนตัวเล็กขึ้นมาอีกคน
"เฮ้อ แต่เราอยากอยู่คอนโดเหมือนเธอสองคนนี่..." ไลลายังคงพึมพำด้วยความเอาแต่ใจก่อนจะก้มหน้าลงฟุบไปกับโต๊ะเบะปากงอแงตามประสาลูกสาวคนเดียวของนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ตระกูลดังผู้ทรงอิทธิพลอันดับต้น ๆ ของประเทศ โดยทางครอบครัวของไลลานั้นได้ทำธุรกิจเกี่ยวกับการขายโครงการที่อยู่อาศัยที่ไม่ว่าจะเป็นแบบคอนโดมิเนียมหรือบ้านจัดสรรรวมไปถึงการซื้อ-ขายที่ดินที่จะสามารถเพิ่มมูลค่ากำไรให้แก่บริษัทมาเป็นเวลานานหลายรุ่นส่งต่อกันมาจนถึงพ่อของเธอ ทว่าบางคนอาจจะเข้าใจผิดคิดว่าเธอเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของบ้าน เธอไม่ใช่ลูกสาวเพียงคนเดียวอย่างที่หลายคนเข้าใจ เธอมีพี่ชายและน้องชายแท้ ๆ ที่เกิดจากพ่อแม่เดียวกันก็คือ แทนไทและไทก้า และด้วยเพราะทั้งสองเป็นผู้ชายทำให้ลูกสาวอย่างไลลามักจะโดนทุกคนตามใจจนกลายเป็นคนชอบงอแงเวลาที่โดนขัดใจอย่างเช่นตอนนี้ที่พ่อของเธอไม่ยอมให้เธอย้ายไปอยู่คอนโดเพียงลำพัง
"ฉันเข้าใจพ่อเธอนะ เธอดูบอบบางเกินกว่าที่จะอยู่คนเดียวได้อะ" วีนัสพูดขึ้น
"จริง" ปลายฟ้ารีบหันไปเสริมวีนัสอย่างเห็นด้วย
"อะไร เราหนักตั้งห้าสิบนะ บอบบางอะไร" ไลลาเงยหน้าขึ้นตอบกลับเพื่อน
"ฉันไม่ได้หมายถึงน้ำหนักขนาดตัว หมายถึงนิสัยเธอต่างหาก" วีนัสเอ่ย
"เราก็สู้คนนะ"
"เหรอออ แรงเธอไม่ได้มีเยอะเลยไลลา หนักห้าสิบแต่สูงร้อยห้าสิบกว่าก็ไม่ได้ช่วยอะไรนะ ขาโต๊ะที่เรานั่งยังยาวกว่าตัวเธอทั้งตัวอีก"
"วีนัส!"
"ฮ่า ๆ"
"ขำอะไร เราสูงตั้งร้อยห้าสิบเก้านะ อีกเซนเดียวก็จะร้อยหกสิบแล้ว" ปากเล็กขมุบขมิบบอกด้วยท่าทีน่ารักน่าเอ็นดู
"โอเค ถ้าเธอสบายใจที่จะคิดแบบนั้น ฉันก็เข้าใจ" วีนัสยังคงแกล้งพูดใส่เพื่อนตัวเล็ก
"ชิ! เราไม่คุยกับวีนัสแล้ว! งอแงต่อดีกว่า ฮืออ ปะป๊าใจร้าย~" ว่าแล้วคนตัวเล็กก็ทำเสียงงอแงออกมาต่อฟุบหน้าลงไปนอนยังโต๊ะที่นั่งอยู่อีกครั้ง โดยมีสายตาของวีนัสกับปลายฟ้าที่ได้แต่หัวเราะยิ้มออกมากับความน่ารักเป็นธรรมชาติของเพื่อนตัวเล็กที่เป็นเจ้าของฉายา"บาร์บี้แห่งคอสตัน" เนื่องจากไลลานั้นมีใบหน้าเรียวใสดวงตากลมโตราวกับตุ๊กตาแถมยังมีรอยยิ้มสดใสที่ทำเอาหลายคนต่างตกหลุมรักไปกับความสดใสเหมือนตุ๊กตามีชีวิต ทุกคนจึงขนานนามตั้งฉายาว่าบาร์บี้ให้แก่คนตัวเล็ก ซึ่งแห่งคอสตันก็คือชื่อมหา’ลัยเอกชนชื่อดังที่พวกเธอกำลังศึกษาอยู่ โดยทั้งสามสาวนั้นเรียนอยู่คณะนิเทศศาสตร์ สาขาวิชาการแสดงและศิลปะการแสดงปีสอง ไลลาชื่นชอบที่จะเรียนในคณะและสาขานี้เป็นอย่างมาก แน่นอนว่าพ่อแม่ของเธอก็สนับสนุนอย่างเต็มที่ในเรื่องนี้รวมถึงพี่ชายและน้องชายของเธอด้วยเช่นกัน
"เอ่อ ว่าแต่ปีนี้เราจะเอาใครมาแสดงละครเวทีของพวกเราดีอะ" เสียงปลายฟ้าพูดขึ้นทำให้ไลลาที่ฟุบหน้างอแงอยู่เงยหน้าขึ้นมา
"นั่นสิ" คนตัวเล็กปรับอารมณ์เอ่ยออกมาด้วยสีหน้าจริงจังเมื่อนึกถึงงานใหญ่ที่ได้รับมอบหมายจากอาจารย์ในคณะ
"ถ้าแสดงกันเอง ทีมงานไม่พอแน่ ๆ" ปลายฟ้าบอก ไลลาก็พยักหน้าตอบอย่างเห็นด้วย
"ใช่ ไม่น่าพอ"
"งั้น..." อยู่ ๆ ปลายฟ้าก็หันไปมองหน้าไลลาที่นั่งอยู่
"...ทำไมไม่ลองชวนพี่ชายไม่ก็น้องชายเธอดูล่ะไลลา สองคนนั้นหน้าตากินขาด รับบทนำได้สบาย" สิ้นเสียงปลายฟ้าเอ่ย ไลลาก็ส่ายหัวออกมาทันที
"เฮ้อ ถ้าถามเรานะ ไทก้ายังพอมีหวัง แต่พี่แทนไทนี่...ฝันเอาได้เลย รายนั้นไม่มีทางมาทำอะไรแบบนี้แน่ ๆ"
"งั้นก็ไม่ต้องถึงมือพี่ชายหรือน้องชายไลลาหรอก" วีนัสยิ้มเอ่ย ทำให้ปลายฟ้ากับไลลาหันมองหน้าคนเป็นเพื่อนสีหน้าสงสัย
"ฉันเตรียมนักแสดงหลักไว้แล้ว รับรองว่า..."
"...พวกเธอจะต้องเซอร์ไพรส์แน่ ๆ" ทันทีที่พูดจบ วีนัสก็นั่งยิ้มออกมาไม่หยุดด้วยท่าทีดูภูมิใจกับผลงานของตัวเอง ต่างจากไลลากับปลายฟ้าที่ได้แต่มองท่าทีของเพื่อนแววตายังคงมีความงุนงงอยู่อย่างนั้น
ครืดดด ~
"โอ๊ะ พี่เขาโทรมาพอดีเลย เดี๋ยวแป๊บนะ" วีนัสหันเอ่ยบอกเพื่อนทั้งสองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ราคาแพงขึ้นมากดรับสายคนที่โทรเข้ามา
"สวัสดีค่ะ ถึงแล้วเหรอพี่"
"อ่อ จอดตรงนั้นได้เลยค่ะ"
"ให้วีกับเพื่อนเดินไปรับไหม"
"ไปได้ค่ะ นั่งอยู่ไม่ไกลจากลานจอดรถ"
"ไม่ต้องเกรงใจเลยพี่ วีสิต้องเกรงใจ รบกวนพี่มา"
"เดี๋ยววีเดินไปหาดีกว่าค่ะ เดี๋ยวมีคนเจอพี่แล้วจะวุ่นวายเอาได้"
"โอเคค่ะ พี่รออยู่ตรงนั้นก็ได้"
"ค่ะ รถสปอร์ตสีดำด้าน ทะเบียนxxxนะคะ...โอเคค่ะ เดี๋ยววีกับเพื่อนเดินไปนะคะ" หลังจากที่คุยโทรศัพท์เสร็จ วีนัสก็กดวางสายพร้อมกับหันไปยังเพื่อนทั้งสองที่นั่งทำหน้างงอยู่
"ไปกัน"
"ฮ ฮะ...ไปไหน" ไลลาถามตาแป๋วแววตาเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ
"ไปรับคนที่จะมาแสดงละครเวทีให้เราไง" วีนัสตอบ ทว่าไลลาก็ยังคงทำหน้างุนงงเช่นเดิม
"หื้อ?"
"โอ๊ย เลิกทำหน้าแบบนั้นสักที ถ้าอยากรู้...ก็รีบเดินไปด้วยกันสิ" สิ้นเสียงวีนัสเอ่ยบอก ไลลาก็หันมองหน้าอยู่กับปลายฟ้าก่อนที่ทั้งสองจะรีบสาวเท้าเดินตามวีนัสที่เดินนำออกไปด้วยความเร่งรีบอยากรู้
ตึก
ตึก
"ช่วยกันมองหารถสปอร์ตสีดำด้าน ทะเบียน..." ยังไม่ทันที่วีนัสจะพูดจบ
"ใช่คันนั้นหรือเปล่า" ไลลาเอ่ยพร้อมกับชี้ไปยังรถสปอร์ตราคาแพงที่จอดเด่นอยู่
"ทะเบียนxxx ใช่! คันนั้นแหละ" วีนัสบอกก่อนจะสาวเท้าหมายจะเดินตรงไปยังรถหรูที่จอดอยู่ ทว่ายังไม่ทันที่จะเดินเข้าไปจนถึงตัวรถ เสียงประตูฝั่งข้างคนขับของรถสปอร์ตก็ถูกเปิดออกเผยให้เห็นหญิงสาวหุ่นดีในชุดเดรสใส่แว่นดำปกปิดใบหน้าแต่ก็ยังคงมีความสวยที่โดดเด่นออกมาอยู่ดี
"พะ พี่มาร์..." เสียงปลายฟ้าเอ่ยออกมาด้วยความตกใจ แต่ยังไม่ทันที่จะได้ทักทายอะไรกัน
พรึบ
เสียงประตูรถอีกข้างถูกเปิดออกดังขึ้นเผยให้เห็นร่างสูงเจ้าของความสูงร้อยเก้าสิบเซนติเมตรเดินลงตามมา โดยใบหน้าหล่อเย็นชานั้นทำเอาไลลาที่ยืนอยู่ชะงักนิ่งไป...
"...เริ่มเลย" ทันทีที่เรียวปากหนาพูดจบ มือบางก็จัดการผลักร่างแกร่งของสามีให้ล้มลงนอนบนเตียงขนาดใหญ่ก่อนที่เธอจะรีบกระโดดเข้าไปขึ้นคร่อมร่างหนา ไม่รอช้าที่จะก้มลงไปซุกไซ้เข้าที่ซอกคอสามีพร้อมทั้งใช้มือที่ว่างอยู่จัดการถอดเสื้อผ้าของคนใต้ร่างออก คามิลที่นอนมองการกระทำของหญิงสาวก็อดที่จะรู้สึกวูบวาบพอใจไม่ได้ เพราะไลลาไม่เคยแสดงความร้อนแรงแบบนี้ใส่เขามาก่อน พอได้เห็นภรรยาตัวเล็กที่หน้าตาไม่ต่างจากบาร์บี้มีชีวิตทำ ความพลุ่งพล่านก็ปะทุอยู่ในร่างกายของหมอมาเฟียอย่างไม่น่าเชื่อลิ้นเล็กสอดแทรกเข้ามายังปากหนาของสามีตัวสูงพร้อมกับซุกซนจนคนที่นอนอยู่ทนไม่ไหวต้องจูบตอบกลับด้วยความเร่าร้อนหนักหน่วง"อื้อออ~" ทั้งสองต่างแลกลิ้นกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ก่อนที่ไลลาจะรู้สึกได้ความแข็งตึงจากอะไรบางอย่างที่เธอกำลังนั่งทับอยู่ตรงนั้นของเขายังคงไวต่อความรู้สึกเหมือนเคย..."ถอดกางเกงให้พี่หน่อย" เจ้าของใบหน้าหล่อเอ่ยบอกภรรยาน้ำเสียงกระเส่า ซึ่งมือเล็กก็ทำตามอย่างที่พ่อของลูกบอกทันที โดยขณะที่หญิงสาวกำลังใช้มือถอดกางเกงที่อีกคนสวมใส่อยู่ มือหนาของอีกคนที่นอนอยู่ก็เคลื่อนเข้ามาลูบยังหน้าท้องแบนราบของร่างเล็ก
@อิตาลีครืดดด ~เสียงโทรศัพท์ที่วางอยู่ไม่ไกลดังขึ้นทำให้เจ้าของใบหน้าหล่อที่เพิ่งกลับมาจากการประชุมงานเดินเข้าไปหยิบขึ้นมากดรับสายติ้ด(ไงคะพี่คามิล เลี้ยงลูกได้ไหม) เสียงหวานจากปลายสายเอ่ยถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง หลังจากตกลงกันว่าคามิลจะพาไลลากับลูกน้อยมาคุยงานด้วยที่อิตาลีเพื่อเป็นการพักผ่อนไปด้วยในตัว วันนี้คนตัวสูงจึงปล่อยให้แม่ของลูกได้ออกไปเที่ยวเล่นช็อปปิงตามประสา โดยมีเขาเป็นคนอาสาที่จะเลี้ยงลูกน้อยแทนเอง"เลี้ยงได้" เจ้าของใบหน้าหล่อเอ่ยพร้อมกับอุ้มลูกน้อยวัยทารกที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้ไม่กี่เดือนขึ้นมาอุ้มไว้แนบอกแกร่ง(จริงนะ ให้ไลลารีบกลับไปช่วยดูไหม)"ไม่เป็นไร หาความสุขใส่ตัวไปเถอะ เรื่องลูกไม่ต้องห่วง พี่เลี้ยงได้" เรียวปากหนากรอกเสียงบอกปลายสาย(โอเค แต่ถ้ามีอะไรหรือเลี้ยงไม่ไหว โทรหาไลลาได้ตลอดเลยนะคะ)"อืม"(งั้นไลลาขอไปช็อปปิงต่อก่อนน้าาา~)"..." ร่างสูงเผลอยิ้มออกมากับเสียงใสที่ยังคงสดใสอยู่ตลอดเวลาของภรรยา นิ้วแกร่งกดตัดสายไปก่อนจะก้มลงเล่นกับลูกชายตัวเองที่นอนกินนมอยู่บนอ้อมแขนหนาของเขาเด็กน้อยนอนมองหน้าคนเป็นพ่อตาใสไม่รู้เรื่องพร้อมกับปากที่ยังคงดูดกินขวดนมอย่าง
หนึ่งปีผ่านไป...ตึกตึกเสียงสองเท้าหนักของหมอหนุ่มในชุดสูทสุขุมเดินตรงออกไปจากบริเวณคลินิกของตัวเองด้วยสีหน้าเรียบนิ่งท่ามกลางเหล่าพยาบาล พนักงานในคลินิกที่ต่างผงกหัวทักทายเจ้านายสุดหล่อเจ้าของใบหน้าเย็นชา ทว่าในตอนนั้นเองครืดดด ~ โทรศัพท์ราคาแพงของร่างสูงดังขึ้นขณะที่เขากำลังเดินอยู่ทำให้ดวงตาคมก้มลงไปมองธนาติ้ด"อืม"(คุณคามิลครับ จะแวะเข้ามาตรวจสอบความเรียบร้อยเลยไหมครับ)"อืม เดี๋ยวเข้าไป"(ครับ) หลังจากที่คุยกับลูกน้องคนสนิทเสร็จ หมอหนุ่มก็ไม่รอช้าที่จะเดินตรงไปยังรถสปอร์ตราคาแพงของตัวเองขับเคลื่อนออกไปด้วยความรวดเร็วเอี๊ยด!ไม่นานสปอร์ตสีเทาดำคันใหม่ที่เพิ่งถอยออกมาได้ไม่นานก็ถูกขับเข้ามาจอดยังบริเวณใต้ตึกอาคารขนาดใหญ่พร้อมกับมีเหล่าการ์ดมากมายที่ยืนเฝ้าอยู่ด้านหน้าประตูรีบก้มหัวทักทายแก่เจ้านายตัวสูงที่เพิ่งมาถึง"สวัสดีครับคุณคามิล" เสียงธนาเดินเข้ามาทักทายเจ้านายอีกครั้ง"..." คามิลก็พยักหน้ารับรู้ใช้มือหนาเลื่อนลงไปติดกระดุมเสื้อสูทของตัวเองด้วยสีหน้าเรียบนิ่งเดินตรงเข้าไปยังด้านในตึกอาคารขนาดใหญ่ที่เป็นอีกหนึ่งธุรกิจของเขา ทว่าธุรกิจนี้มันไม่ได้ใสสะอาดอย่างที่หลายคนรู
สองเดือนผ่านไป..."มึนหัวจัง..." เสียงหวานของร่างเล็กพึมพำออกมาขณะที่กำลังยืนทำอาหารอยู่ภายในห้องครัวขนาดใหญ่ ไลลามีสีหน้าที่รู้สึกไม่ดีบอกไม่ถูกกับอาการบางอย่างที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ภายในร่างกายของตัวเอง ช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้ หญิงสาวมักจะมีอาการมึนหัว รวมถึง..."ทำไมวันนี้กลิ่นอาหารไม่ค่อยดีเลย" เรียวปากบางอมชมพูเอ่ยก่อนจะรู้สึกทนไม่ไหวรีบสาวเท้าเดินไปยังห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกลเพื่อที่จะอาเจียนออกมาด้วยสีหน้าซีดเซียวหมดแรง"ปะ...เป็นอะไรไปเนี่ย" เจ้าของใบหน้าเรียวใสเอ่ยออกมาด้วยความรู้สึกไม่ดี ทว่าในตอนนั้นเอง"ลลิดา" เสียงทุ้มคุ้นเคยของใครบางคนดังขึ้นทำให้คนตัวเล็กพยายามทำตัวเป็นปกติพยุงร่างไร้เรี่ยวแรงของตัวเองลุกขึ้นปรับสีหน้าให้ดูยิ้มแย้มอย่างเคยเดินออกจากห้องน้ำคอนโดหรู"กลับมาแล้วเหรอคะ" ร่างบางเดินยิ้มหวานเข้าไปเอ่ยถามยังสามีป้ายแดงของเธอหลังจากที่แต่งงานกันมาได้เข้าเดือนที่สอง"อืม พี่เข้ามาเห็นแก๊สเปิดอยู่แต่ไม่เจอเธอเลยเรียกหาดู""ไลลาอยากเข้าห้องน้ำกะทันหันน่ะค่ะ""..." คามิลพยักหน้ารับรู้พร้อมกับมองหน้าภรรยาตัวเล็กนิ่ง"พะ พี่คามิลมีอะไรหรือเปล่า""ทำไมวันนี้หน้าซีด ๆ " เจ
หนึ่งเดือนต่อมา...หมับ!เสียงมือเล็กแอบย่องเข้าไปสวมกอดเข้าที่เอวหนาของแฟนหนุ่มรุ่นพี่ที่กำลังยืนทำอาหารเช้าอยู่ด้วยรอยยิ้มหวานสดใส"เอ๊ะโอ~ วันนี้คุณพ่อบ้านทำอะไรให้หมูน้อยทานคะ" เรียวปากบางอมชมพูเอ่ยถาม"ข้าวผัดปูกับไข่เจียวหมูสับ""ว้าว รู้ใจจังเลย รู้ได้ไงคะว่าไลลาอยากกิน""เธอละเมองอแงใส่พี่มั้ง" เจ้าของใบหน้าหล่อตอบกลับอย่างประชดใส่คนตัวเล็ก เพราะเมื่อคืนก่อนนอน ร่างบางเอาแต่พูดกรอกหูเขาว่าอยากจะกินข้าวผัดปูกับไข่เจียวหมูสับ"ชิ!" คนตัวเล็กทำหน้ายู่ออกมาพร้อมกับผละมือเล็กออกจากเอวแกร่ง เดินตรงเข้าไปยังบริเวณที่มีแซนด์วิชหน้าตาน่ากินวางอยู่ มือบางไม่รอช้าที่จะหยิบแซนด์วิชนั้นขึ้นมากัดกินด้วยสีหน้ามีความสุข คามิลที่กำลังยืนทำอาหารอยู่ก็ได้แต่ลอบยิ้มออกมากับความน่ารักของแฟนตัวเล็กที่ทุกครั้งไม่ว่าจะกินอะไรก็จะยิ้มหวานตาหยีมีความสุขอยู่ตลอด รวมถึงแซนด์วิชที่เขาตั้งใจทำไว้เพื่อให้คนตัวเล็กได้หยิบกินระหว่างรออาหารหลักจากเขาอยู่ใช้เวลาไม่นาน นักศึกษาแพทย์หนุ่มก็ทำอาหารทุกอย่างเสร็จนำลงไปใส่จานเดินเข้าไปวางไว้ให้ร่างเล็กอย่างที่มักจะทำให้อยู่เป็นประจำ ทว่า..."ทำไมวันนี้เสื้อถึงได้รัด
@โรงแรมเมื่อกินอาหารเสร็จ ทุกคนก็ต่างพากันแยกย้ายกลับมายังห้องพักของตัวเอง โดยไลลาเองก็รีบเดินเข้าไปจัดการอาบน้ำชำระล้างความเหนียวตัวอยู่พอสมควรจากอากาศร้อนที่อบอ้าวอยู่ไม่น้อย ซึ่งใช้เวลาไม่นาน สองเท้าเล็กก็เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสีหน้าท่าทีสบายตัวในชุดนอนสีหวานตัวเก่ง ทว่าเดินออกมาได้ไม่นาน ดวงตากลมโตก็ต้องชะงักไปหลังจากที่เหลือบไปเห็นแฟนหนุ่มร่างสูงกำลังนั่งไขว่ห้างจ้องมองหน้าเธอนิ่ง สวมใส่เพียงแค่กางเกงสแล็กส์สีดำเผยให้เห็นหน้าท้องกำยำไร้สิ่งปกปิด"พี่คามิล ถอดเสื้อทำไมคะ แอร์เย็นนะ เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก" เรียวปากเล็กเอ่ยถามขึ้นอย่างคนไม่รู้เรื่องในเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นกับตัวเอง ร่างเล็กสาวเท้าเดินตรงเข้าไปยังบริเวณโต๊ะเครื่องแป้งหมายจะทาครีมราคาแพงลงบนใบหน้าใส แต่แล้วก็ต้องถูกมือหนาของคนที่นั่งอยู่เอื้อมเข้าไปคว้าร่างเล็กเข้าหาตัว"อ๊ะ...อะไรคะเนี่ย" ดวงตากลมโตมองหน้าถามแฟนตัวสูงขึ้นสีหน้างุนงงสงสัย"ลืมจริง หรือแกล้งเนียน""คะ?" ไลลาถามด้วยสีหน้าไม่เข้าใจกว่าเดิม เพราะวันนี้เธอมัวแต่มีความสุขไปกับการกิน การทำนั่นทำนี่ จนลืมบางอย่างไปเสียสนิท"ลืมจริงสินะ" คามิลเอ่ยพึมพำขึ้น