เกิดอะไรขึ้นฟร้ะ?!! พอฉันตอบออกไปว่าเป็นฉันเอง ชีต้าก็ดึงฉันเข้าไปกอดทันที ทำให้ฉันได้แต่นั่งตัวแข็งทื่อไม่กล้าขยับตัวแม้แต่น้อย
“ปล่อยนะเว้ย ทำบ้าอะไร” ฉันพูดเบาๆแต่ไม่กล้าผลักเขาออกอย่างตอนแรกอีกเพราะรู้สึกเหมือนตัวเขาจะสั่นๆ อย่าบอกนะว่ากลัวขนาดนี้เลยอะหรือฉันแกล้งเขาแรงไป? แอบรู้สึกผิดแล้วนะเนี้ย!!
“พี่ตาร์คนจริง ตัวสั่นเชียว หึหึ” ฉันอดไม่ได้ที่จะพูดจากวนตีนกลับไป แต่พอพูดจบฉันก็ลูบหลังเขาเบาๆ เพราะแอบสงสารปนรู้สึกผิดเล็กๆ หมอนี่ทำตัวเหมือนลูกแมวขวัญหายที่เพิ่งโดนหมาบ้าไล่ฟัดมาไม่มีผิด เอ๊ะ!! ไม่สิไม่ใช่หมาบ้า แต่อย่างฉันต้องเป็นหมาป่าสุดสวยเท่านั้นอิอิ
“แก”
“หื้ออ อะไร”
“แกตายยยยยยย”
“ย้ากกกกก เจ็บๆๆๆ ปล่อยนะเว้ยยยยย” ไอ้บ้าชีต้า พอเขาพูดจบก็ฝั่งเขี้ยวเข้าตรงไหล่ข้างซ้ายฉันทันที หมาบ้าเข้าสิงแกหรือไงวะ นี่ฉันอุตส่าห์กอดปลอบแกอยู่นะเว้ย!! เมื่อกี้ยังเป็นลูกแมวขวัญหายอยู่เลย ไอ้บ้านี่นิ!!
“สมน้ำหน้า ใครใช้ให้แกแกล้งฉัน!!” ชีต้าพูดพร้อมกับลุก
“ที่รัก ที่มาช้าเพราะแอบไปซนที่ไหนมาก่อนใช่ไหม?” ชีต้าที่ยังคงเกาะติดฉันไม่ไปไหนถามขึ้นพร้อมกับลูบหัวฉันไปมา หมอนี่ก็อีกคน นอกจากจะรู้ทันฉันแล้ว ยังทำเหมือนฉันเป็นหมาไปได้ ขยี้หัวฉันแรงๆเดี๋ยววิกหลุดขึ้นมาคนได้กรี๊ดกันทั้งสนามนะ!!“ถ้าไม่ซนอีกไม่เกินชั่วโมงพวกนายได้วิ่งเข้าห้องน้ำกันอีกแน่ๆฮ่ะๆๆๆ” ฉันพูดพร้อมกับหัวเราะสะใจที่จะได้เห็นไอ้พวกบ้านั้นวิ่งเข้าห้องน้ำกันแทนพวกฉัน ให้มันรู้ซะบ้างว่าเล่นกับใคร“อย่าซนแรงนักละ คนเขาเป็นห่วงรู้ไหมครับ” ชีต้าพูดพร้อมกับส่งยิ้มน่าฟัดนั้นมาให้อีกแล้ว คนอะไรขี้อ่อยเป็นบ้า“เลิกยิ้มให้ฉันได้แล้ว!! ไอ้บ้า!!” พูดจบฉันก็แกล้งทำหน้าหัวเสียใส่ชีต้าซะเลย“ไม่ยิ้มให้แฟนแล้วจะยิ้มให้ใคร” โอ๊ย!! นี่ฉันกรี๊ดใส่หน้าเขาตรงนี้จะได้ไหมห้ะ!! ยิ่งพูดยิ่งทำนักนะ!!“รู้นะว่าชอบอะ หึหึหึ”“อะแฮ่ม!! เกินหน้าเกินตาไปแล้วนะครับ” ฉันไม่ทันที่ฉันจะได้โวยวายใส่ชีต้าอีกรอบก็มีเสียงของติวเตอร์ตัดแทรกขึ้นมาซะก่อน“ใช่ๆๆ จะมาหวานอะไรกันนัก
พี่แสบโดนชีฟองตีที่เอวไปทีหนึ่งแต่คู่นี้ก็ยังคงกอดกันไม่เลิก ฉันเห็นหน้าชีฟองแดงก่ำเลย น่าหยิกชะมัด ฉันมัวแต่จ้องคู่ชีฟองจนไม่ทันได้ระวังตัวรู้ตัวอีกทีก็โดนดึงเข้าปะทะกับอกแข็งๆบ้างแล้ว ตาบ้านี้!! ชอบเล่นทีเผลอนะ“จะไปอิจฉาคนอื่นทำไมที่รัก มากอดเค้านี้สิครับ”“ไม่ได้อิจฉาใครสักหน่อย!! ปล่อยเลยนะ คนอยู่เยอะแยะ” ฉันดิ้นออกจากอกชีต้าเบาๆพอเป็นพิธี หุหุหุ ใจจริงก็อยากจะกอดให้เต็มรัก รัดให้ตายกันไปข้างเลยละ แต่แหม่ มันก็ต้องเล่นตัวบ้างสิ อิอิ“อยากจะกอดก็กอดสิ จะเล่นตัวไปทำไมนักนะ”“ทำไมต้องรู้ทันฉันด้วยนะ!!” ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองคนตัวสูงที่บังอาจรู้ทันฉันตาเขียว แต่พอเห็นรอยยิ้มที่เขาส่งกลับมาให้นั้นทำเอาเปลี่ยนเป็นเขินไปเลยทีเดียว บ้าจริง!! ฉันต้องการวัคซีนต้านรอยยิ้มไวรัสนี้!!!! กรี๊ดดด ฉันได้แต่กรีดร้องในใจ คนบ้าอะไรขี้อ่อยชะมัด รู้ทันฉันไปหมดทุกเรื่อง รู้ว่าฉันชอบยิ้มแบบนี้หมอนี่ก็ย
ฉันแอบฟังอีกสักพักเมื่อเห็นว่าเสียงมันเงียบไปแล้วพวกนั้นคงจะออกไปกันหมดแล้วสินะ คงเหลือก็แต่คนที่ชื่อเกมที่ไปเข้าห้องน้ำอยู่ ฉันค่อยๆโผล่หน้าออกมาจากตู้ล็อกเกอร์เมื่อเห็นว่าไม่มีใครแล้วจึงรีบออกมาจากไอ้ตู้เหม็นอับทันที เห้อ!! เกือบตาย!! ไอ้คนที่ชื่อกันไม่ได้เอาถุงที่ใส่น้ำวางยาไปด้วย แต่ใช้ให้คนที่ชื่อเกมถือตามไป และคนที่ชื่อเกมก็ยังไม่ได้ไปไหน หึหึหึ สวยสิงานนี้!! ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว ให้ยาถ่ายแก่ท่าน เอาไปแดกเองสิครับ! มีถุงวางอยู่บนพื้นฉันลองลื้อๆดูมีน้ำเปล่าอยู่ประมาณ 9-10 ขวด แต่ละขวดก็มีรอยเข็มเจาะเล็กๆอยู่ด้วย ถ้าไม่ได้สักเกตุดีๆก็คงจะไม่เห็นแน่นอนร้ายจริงๆไอ้พวกบ้านี้เสร็จโจร!! ฉันไปเปิดดูน้ำในถัง ซึ่งมีน้ำแข็งและขวดน้ำยี่ห้อเดียวกันกับขวดที่มันใส่ยาแช่อยู่ฉันเลยถือโอกาส สลับเอาขวดที่ใส่ยาแช่ลงไปแล้วเอาขวดปกติมาใส่ถุงไว้ แล้วรีบวิ่งออกจากห้องทันที ตายแน่ไอ้พวกบ้
BASKETBALL 42กริ๊ก!! สำเร็จ!! ฉันใช้เวลากว่าห้านาทีในการงัดประตูบานนี้ เสียเวลาจริงๆเลย เมื่อสะเดาะกลอนได้แล้วฉันจึงค่อยๆเลื่อนเปิดประตูทีละนิดๆ เสียงที่ทะเลาะกันอยู่ภายในก็ดังขึ้นเรื่อยๆเหมือนจะทวีความรุนแรงขึ้น ฉันค่อยๆชะโงกหน้าเข้าไปดูปรากฏว่าไม่มีใครอยู่ภายในส่วนห้องกลางจริงๆด้วย เสียงนั้นดังมาจากส่วนของห้องน้ำที่ปิดประตูไว้อีกทอดหนึ่ง เมื่อทางสะดวกฉันจึงแทรกตัวเข้ามาในห้องของพวกบ้านี่โดยที่ไม่ลืมที่จะล็อกประตูไว้ให้เหมือนเดิม จากนั้นฉันจึงค่อยๆเดินเข้าไปเอาหูจ่อประตูห้องน้ำเพื่อแอบฟังว่าพวกนั้นทะเลาะอะไรกันแต่ฉันไม่ทันได้ยินเสียงอะไรก็มีเสียงเคาะประตูบานที่ฉันงัดเข้ามาซะก่อนทำให้ฉันสะดุ้งสุดตัว งานเข้าแล้วไง!!ปังๆๆๆ“เปิดประตูดิ จะล็อกไว้ทำไมวะ!!”ปังๆๆๆ ฉิบหายละใครมันบังอาจมาตอนนี้วะเนี้ย ฉันหันซ้ายแลขวา มองหาทางหนีทีไล่ เอาไงด
ฉันหันไปมองเจ้าของเสียงตรงหน้าประตูทันทีไม่รู้ว่าเสียงไอ้บ้าที่ไหนมาเสียงเดียวแต่เล่นยกมาทั้ง ทีมเลย!! อะไรกันเนี่ย“พี่แสบตัวจริงกำลังเดินมา โอ้ ในระยะอีกห้าก้าวถึงนะครับพี่ซ่าส์” บีเอ็มพูดแล้วหันมาทำหน้าล้อเลียนฉัน“ถ้าพี่แสบเห็นฉากเมื่อกี้จะเป็นยังไงน้าาา” เสริมทัพด้วยเสียงใครไม่ได้นอกจากกองทัพ ไอ้พวกนี้มันกวนส้นตีนดีจริงๆเลย“หุบปากไปเลย” ฉันพูดพร้อมทำหน้าเอือมระอาใส่ไอ้สองตัวนี้ ส่วนคนอื่นๆก็ทยอยเดินเข้าห้องกันหมดแล้ว ฉันเลยเข้ามานั่งรวมกลุ่มด้วย และพี่แสบผู้ที่มาคนสุดท้ายก็เดินหน้าแป้นมานั่งลงข้างๆฉัน พร้อมทั้งเอาแขนพาดบ่าฉันไว้อีกข้างที่นั่งถัดจากฉันเป็นใครไม่ได้นอกจากชีต้าที่นั่งหน้าบูดเพราะถูกขัดจังหวัะ จากห้องที่ฉันคิดว่าใหญ่ๆกลายเป็นเล็กและดูน่าอึดอัดลงไปในพริบตาที่พวกนี้ผู้ชายตัวใหญ่ๆเข้ามานั่งเบียดกันอยู่ถึงสิบกว่าคน วันรวมญาติอีกแล้วหรือยังไงเนี่ย“พวกนายเสนอหน้ามาทำไมกันครบทีมเลยห้ะ”“ก็แค่เสนอหน้ามาส่งยัยปากเสียอย่างเธอแค่นั้นเอง” เป็นทอร์ที่พ่นวาจาห่ามๆแบบนั่นออกมาพร้อมยกม
กรรม!! นี่ฉันลืมไปได้ยังไงว่ายังมีโค้ชยืนอยู่ที่โรงยิมด้วย!! กรี๊ดดด!! กัดลิ้นตายทันไหม!! ขืนปล่อยให้โค้ชสั่งลงโทษก็มีแต่ตายกับตายเหมือนกัน!!“เอ่อ..โค้ช...คือว่าเรื่องทั้งหมดมัน..เอ่อ...”“เอาเถอะไม่ต้องอธิบายอะไรหรอก ฉันรู้เรื่องพวกนี้มาสักพักแล้วละ จะโกรธก็โกรธไม่ลง เห็นแก่ฝีมือของเธอนะซาส์ไม่งั้นทีมพวกเราคงเหนื่อยกันมากกว่านี้ อีกอย่างที่เธอทำไปก็ไม่ได้มีเจตนาอะไรที่ไม่ดีต่อโรงเรียนและต่อทีม เอาละๆ วันนี้เหนื่อยมามากแล้วแยกย้ายไปพักผ่อน ส่วนเรื่องซ่าส์กับแสบจะจัดการกันยังไงก็มาบอกด้วยแล้วกัน ฉันในสิทธิ์พวกนายไปตัดสินกันเต็มที่” พูดจบโค้ชก็เดินออกจากโรงยิมไปเลยทิ้งฉันยืนมึนกับคำพูดเมื่อครู่ โค้ชบอกว่ารู้มาสักพักแล้วหมายความว่าไงฟร้ะเห้ย!! รู้ว่าฉันเป็นผู้หญิง? แล้วที่ผ่านมานี่คืออะไร ฝึกโหดๆกับผู้หญิงแบบนี้อะเหรอโค้ช!! เอาคืนได้แสบมากเลยนะ แถมยังเล่นละครได้เก่งมากอีกต่างหาก!! เชื่อแกเลย“น้องรักพี่ชายสุดหล่อ