แชร์

ตอนที่ 5 โอกาสมาถึงครั้งแรก 1

ผู้เขียน: มายารัตติกาล
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-09-08 03:25:52

“พี่ชิงหรงชุดที่พี่ใส่ฉันชอบมากเลยค่ะ” ซุยหลันซีชอบจริงๆ ในยุคสมัยนี้ยังพอมีกี่เพ้าแบบดั้งเดิมให้เห็น นั่นก็คือการปักลวดลายด้วยมือ ไม่เหมือนกับในยุคที่เธอจากมา ลายบนผ้าจะเป็นการใช้เครืองจักรพิมพ์ลาย งานฝีมือแบบดั้งเดิมแทบจะ ไม่มีใครอนุรักษ์แล้ว

“อย่าบอกฉันนะว่าชุดที่พี่ใส่อยู่ตอนนี้ เป็นฝีมือพี่ตัดเอง?” ซุยหลันซีมองสำรวจขึ้นลงชุดที่หลี่ชิงหรงสวมใส่ ชุดนี้ตัดเย็บได้ประณีตมากจริงๆ

“ใช่แล้วล่ะ ชุดนี้พี่ตัดเย็บและปักลายเอง” หลี่ชิงหรงยิ้มอย่างภาคภูมิใจ “พี่ชอบเสื้อผ้ามาก แล้วยังมีความฝันว่าในอนาคตอยากจะมีร้านตัดเย็บเสื้อผ้าเป็นของตัวเอง แต่ตอนนี้ทำได้แค่ฝันไปก่อน”

“ฉันว่าฝีมือการตัดเย็บของพี่ดีมากเลยนะคะ ถ้าฉันมีเงินจะขอเป็นหุ้นส่วนเปิดร้านกับพี่”

ความคิดนี้ผุดขึ้นมาในหัวของซุยหลันซีทันที

ฝีมือตัดเย็บของพี่สาวข้างบ้านดีมากจริงๆ ถ้านำเอาแบบเสื้อผ้าในอีกสี่สิบปีข้างหน้ามาผลิตขาย น่าจะขายดี เพราะแบบเสื้อผ้าแปลกใหม่ดูล้ำสมัยกว่าในตอนนี้

แม้เทคโนโลยีทางด้านเนื้อผ้าและลายผ้าในสมัยนี้คงเทียบไม่ได้กับในอีกหลายสิบปีข้างหน้า แต่จุดเด่นคือในยุคนี้ยังคงงานฝีมือการปักผ้าไว้อยู่

หลี่ชิงหรงฟังความคิดของหญิงสาวตรงหน้าด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม เพราะคิดว่าเป็นไปได้ยากเหลือเกิน แต่ก็ไม่ได้แย้งอะไร

“แต่ละคนมีความถนัดไม่เหมือนกันนี่คะ ว่าแต่... พี่สาวฉันขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ?”

“ได้สิ เธออยากรู้เรื่องอะไรถามมาได้เลย ไม่ต้องเกรงใจ”

ดวงตาของซุยหลันซีเป็นประกาย “ฉันอยากจะทำงานค่ะ แต่ฉันเพิ่งมาถึงที่นี่ ไม่รู้ว่าต้องไปหางานทำที่ไหน พี่พอจะแนะนำฉันหน่อยได้ไหมคะ?”

“เธอทำอะไรเป็นบ้างล่ะ พี่สาวคนนี้จะได้แนะนำได้ถูก”

ซุยหลันซีครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ร่างนี้นอกจากแต่งตัวสวยๆ แล้ว อย่างอื่นก็แทบจะทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง แต่ความที่เธอชอบแต่งตัวกลับส่งผลดี เธอมีความรู้เกี่ยวเรื่องผ้าอย่างไม่น่าเชื่อ

นิสัยของร่างนี้ แม้จะชอบรังแกเหยียดหยามผู้อื่น แต่เธอมีงานอดิเรก ยามว่างเธอศึกษาเรื่องการปักผ้า ฝีมือการปักผ้าของเธอเข้าขั้นมหัศจรรย์ ดูเหมือนเธอจะมีเทคนิควิธีการปักผ้าแบบที่ไม่เหมือนใคร

มาอาศัยอยู่ในร่างนี้ ไม่รู้ว่าตัวเองจะทำได้ดีเหมือนเจ้าของไหม ซุยหลันซีนึกหวั่นใจอยู่เล็กน้อย

“ฉัน... เขียนนิยายได้ วาดรูปเป็น และอาจจะปักผ้าได้อีกนิดหน่อยค่ะ”

“ถ้าอย่างนั้นก็เหมาะเลย ถ้าเธอวาดรูปได้ ตอนนี้อยู่บ้านว่างๆ ไม่ได้ทำอะไร ทำไมไม่ลองออกแบบเสื้อผ้าส่งไปที่ที่โรงงานเฟิงหยุนล่ะ เถ้าแก่เนี้ยของพี่กำลังหานักออกแบบคนใหม่มาทำงานที่โรงงาน”

ได้ยินดังนั้น ซุยหลันซีก็ตาลุกวาวด้วยความสนใจ เธอคลี่ยิ้มกว้างถามหลี่ชิงหรง “จริงเหรอคะ เขามีข้อกำหนดอะไรบ้างไหม?”

“ก็แค่ออกแบบชุดที่คิดว่ามันขายได้ ไม่จำกัดว่าจะเป็นแบบไหนนะ” หลี่ชิงหรงเอียงคอขมวดคิ้วตอบ

“ขอบคุณมากนะคะ พี่ชิงหรง ฉันจะลองดู” ซุยหลันซีรู้สึกตื่นเต้นกับข่าวนี้เป็นอย่างมาก

“ว่าไงเล่อเล่อ ยังกินไม่อิ่มอีกเหรอ” หลี่ชิงหรงเอ่ยถามลูกชายเมื่อเห็นว่าเวลาผ่านไปนานแล้ว

“อิ่มแล้วครับ” เล่อเล่อตอบ มือน้อยๆ ลูบท้องป่องของตัวเอง

“เอาล่ะ วันนี้มารบกวนเธอนานแล้วพี่กลับบ้านก่อนดีกว่า วันนี้พี่หยุดงานเพราะจะไปทำธุระที่อำเภอ ตอนบ่าย วันพรุ่งนี้ก็ต้องกลับไปทำงานแล้ว” พูดจบหลี่ชิงหรงก็ลุกขึ้นยืน

“ระหว่างที่พี่ไปทำงาน ใครดูแลเล่อเล่อเหรอคะ”

“ใกล้ๆ ตึกที่เราอยู่มีศูนย์รับเลี้ยงเด็ก คนที่ดูแลเด็กๆ ชื่อป้าหวัง คู่สามีภรรยาส่วนใหญ่ต้องไปทำงาน จึงเอาลูกไปฝากให้ป้าหวังเลี้ยงเพราะอายุยังไม่ถึงเกณฑ์ที่จะต้องเข้าโรงเรียน”

“เอาแบบนี้ไหมคะ ช่วงนี้ฉันไม่ได้ไปทำงานที่ไหนอยู่บ้านตลอด พี่พาเล่อเล่อมาไว้กับฉันก็ได้ค่ะ” ซุยหลันซีเสนอ ช่วงนี้ออกแบบชุดเพื่อเอาไปเสนอโรงงาน อย่างไรก็ไม่ได้ออกไปไหนอยู่แล้ว พี่สาวข้างบ้านจะได้ประหยัดค่าเลี้ยงดู

“จะดีเหรอ?” หลี่ชิงหรงถามด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจ

“ดีแน่นอนค่ะ เพราะฉันก็เหงาเหมือนกัน ตอนนี้ยังไม่ได้ทำอะไรฉันดูแลเล่อเล่อให้ก่อนก็ได้ค่ะ”

“อย่างนั้นก็ขอบคุณเธอมากนะ” หลี่ชิงหรงยิ้มกว้าง ก่อนจะพาลูกชายกลับบ้าน

ซุยหลันซีส่งทั้งคู่ที่ประตู แล้วกลับมาเก็บล้างถ้วยชาม ในหัวเธอกำลังแล่น เต็มไปด้วยความคิดมากมายที่อยากจะลงมือทำ ความสามารถของเธอจากยุคก่อน สามารถนำมาเริ่มต้นทำได้ แต่ปัญหาคือยุคนี้ไม่มีอินเทอร์เน็ต หากจะเขียนนิยายก็ต้องไปติดต่อสำนักพิมพ์ที่พิมพ์หนังสือพิมพ์ขาย

ความหวังและความตื่นเต้นเริ่มก่อตัวขึ้นในใจ เธอรู้สึกว่าชีวิตใหม่ในเมืองกว่างโจวอาจไม่ได้ยากลำบากอย่างที่คิดไว้ก็เป็นได้

ตอนนี้สิ่งแรกที่ต้องทำคือออกแบบเสื้อผ้าตามที่พี่สาวข้างบ้านแนะนำก่อน จับพลัดจับผลูได้เป็นนักออกแบบก็จะได้มีรายได้ ชีวิตดำรงอยู่ได้ด้วยเงิน เมื่อมีเงินเรื่องอื่นๆ ก็จะง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก

แต่จะออกแบบเสื้อผ้าคงต้องออกไปดูว่าคนในสมัยนี้สวมใส่กันแบบไหน ซุยหลันซีคิดในใจ พลางเลือกชุดที่จะใส่ออกไปข้างนอก เตรียมพร้อมออกสำรวจยุคสมัยที่ยากจะมีใครได้มีโอกาสมาสัมผัสด้วยตาตนเองเหมือนเช่นเธอในเวลานี้

ตอนที่จัดเสื้อผ้าเก็บเข้าตู้ เธอไม่มีเวลามาสนใจชุดเหล่านี้ พอวันนี้ได้มาเห็น ซุยกลันซีอดชมรสนิยมเจ้าของร่างไม่ได้ เสื้อผ้าทุกตัวตัดเย็บอย่างประณีต ลายที่ปักดูมีชีวิตชีวาราวกับของจริง

เธอหยิบกี่เพ้าคอจีนสีชมพูไข่มุก ปักลายดอกเหมยสีแดงเข้ม ผ่าข้างเหนือเข่าเล็กน้อยมาสวม

ซุยหลันซีมองตัวเองในกระจก ใบหน้างดงามผิวขาวเนียนละเอียด เอวคอดกิ่วสะโพกผาย เพิ่งได้เห็นหน้าตาและเรือนร่างนี้ชัดเต็มสองตา เธอถึงกับตกตะลึง ร่างนี้ช่างแตกต่างกับตัวตนของเธออย่างเทียบกันไม่ติด เธอในยุคก่อนหน้าชอบสวมกางเกงย้วยๆ เสื้อยืด เพราะเป็นนักเขียน นักวาด ทำงานอยู่แต่ในบ้าน ไม่ได้ออกไปไหน ไม่รู้ว่าจะต้องแต่งหน้าแต่งตัวไปทำไมให้เสียเวลาวาดรูป เขียนนิยาย

มองตัวเองในกระจกหมุนซ้ายหมุนขวา ก็รู้สึกว่ายังขาดอะไรบางอย่าง เธอไปค้นในกระเป๋าถือ พบลิปสติกสีแดงกับแป้งตลับ หยิบแป้งออกมาทาหน้า และทาลิปสติก ปล่อยผมยาวตรงนุ่มเด้งสยายเต็มแผ่นหลัง ทำให้ใบหน้าที่ดูขาวซีดก่อนหน้านี้มีสีสันขึ้นมา คว้ากระเป๋าถือดูแล้วน่าจะหรูที่สุดในยุคนี้ออกจากบ้าน

ลงมาถึงด้านล่างมองซ้ายขวาก็จนใจ เธอต้องการไปย่านการค้า ที่นั่นน่าจะช่วยให้เธอได้ข้อมูลเพื่อนำมาวาดแบบเสนอโรงงาน แต่ไม่รู้จะไปทางไหน เมื่อกี้ก็ดันลืมถามพี่สาวข้างบ้าน

ถอนหายใจอยู่เฮือกหนึ่ง สุดท้ายก็ถามทางคนที่เดินผ่านมา บอกเธอว่าย่านการค้าที่คนนิยมไปกันมากที่สุดอยู่ที่ถนนเป่ยจิงลู่ อยู่ไม่ไกลเท่าไหร่ นั่งรถสามล้อไปก็ได้

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • Back to 1985 ฉันกลายเป็นคุณหนูตกอับ   ตอนที่ 18 ผู้ชายกินจุ

    เวลาบ่ายสองโมง เสียงเคาะประตูบ้านดังขึ้นทำให้เติ้งเว่ยหมิงรีบวางผ้าเช็ดตัวผืนเล็กลงในกะละมังแล้วลุกไปเปิดประตู ปรากฏว่าหลี่ชิงหรง เพื่อนบ้านยืนยิ้มอยู่ตรงหน้าประตู“อาหมิง หลันหลันอยู่บ้านไหม พี่มีเรื่องจะมาบอก”“อยู่ครับ แต่ว่าตอนนี้หลันหลันน่าจะไม่สะดวกพบพี่นะครับ” เติ้งเว่ยหมิงแจ้งด้วยน้ำเสียงสุภาพ“ไม่สะดวกเจอ หลันหลันเป็นอะไรหรือเปล่า”หลี่ชิงหรงถามกลับด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล“เป็นไข้ครับ ผมเลยให้นอนพัก”“อ้อ อย่างนี้นี่เอง ตอนเช้าพี่มาเคาะประตูรอบหนึ่งแล้ว แต่ไม่มีใครออกมาเปิด เลยมาอีกทีตอนบ่าย พี่อุตส่าห์เตือนแล้วเชียวว่าอย่าหักโหมทำงานหนัก เพิ่งย้ายมาได้ไม่นาน อาจจะยังปรับตัวไม่ค่อยได้ ไม่เป็นไร รอให้หลันหลันหายดีก่อนก็แล้วกัน ฝากบอกหลันหลันด้วยละกันว่าพี่มาหา” หลี่ชิงหรงบ่นอุบอิบถึงเพื่อนบ้านรุ่นน้องที่เธอก็รักไม่ต่างกับน้องสาวตนเองจริงๆ“ครับแล้วผมจะบอกให้ ถ้าหลันหลันค่อยยังชั่วแล้วจะให้ไปหาพี่ชิงหรงนะครับ”“ได้ งั้นพี่กลับบ้านก่อนละกัน”หลี่ชิงหรงกลับไปแล้ว เติ้งเว่ยหมิงจึงปิดประตูเดินกลับเข้าไปในห้องนอน ทรุดตัว

  • Back to 1985 ฉันกลายเป็นคุณหนูตกอับ   ตอนที่ 17 เริ่มต้นกันใหม่ได้ไหม

    เช้าวันรุ่งขึ้นซุยหลันซีตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของเติ้งเว่ยหมิง หญิงสาวถึงกับเขินอายและทำตัวไม่ถูก เธอรีบลุกออกไปจากเตียงเงียบๆ โดยหารู้ไม่ว่าชายหนุ่มผู้ที่ตกลงว่าจะเป็นสามีแต่เพียงในนามของเธอนั้นตื่นก่อนเธอนานแล้ว แต่เพื่อไม่ต้องการให้เกิดความกระอักกระอ่วนใจระหว่างพวกเขา ดังนั้นเขาจึงแสร้งทำเป็นยังไม่ตื่นซุยหลันซีตบหน้าเรียกสติตนเองอยู่สองสามทีก่อนจะทำหน้าที่ของตนเองเหมือนทุกวันที่ผ่านมา นั่นก็คือทำอาหารและเตรียมของให้เติ้งเว่ยหมิงไปทำงานทั้งคู่นั่งกินข้าวเช้าด้วยกัน ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครพูดอะไรออกมา แต่บรรยากาศกลับไม่ได้น่าอึดอัดอย่างที่คิด เติ้งเว่ยหมิงมีรอยยิ้มแต้มมุมปากอยู่ตลอดเวลา ส่วนซุยหลันซีก็ก้มหน้าก้มตากินอาหารเช้าอย่างเงียบๆหลังจากที่ชายหนุ่มออกไปทำงาน ซุยหลันซีถึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วเริ่มลงมือทำงานบ้าน ซักผ้าแล้วไปปลุกเด็กชายเล่อเล่อ ล้างหน้าให้เด็กชาย ดูแลให้เด็กน้อยกินอาหารเช้า เสร็จแล้วก็มานั่งทำงานออกแบบลายผ้าเล่อเล่อนั่งเล่นคนเดียวอย่างเงียบๆ เด็กชายชินแล้ว เขาจะไม่เข้าไปกวนเวลาพี่สาวคนสวยทำงาน เพราะแม่ของเขาสั่งมาว่าห้ามกวนพี่สาวคน

  • Back to 1985 ฉันกลายเป็นคุณหนูตกอับ   ตอนที่ 16 จับผิดภรรยา

    ในเย็นวันเดียวกันนั้น หลังจากที่กินข้าวเสร็จเรียบร้อย เติ้งเว่ยหมิงช่วยซุยหลันซีเก็บจานล้างทำความสะอาด โดยบอกให้เธอไปอาบน้ำส่วนตัวเขานั่งรออยู่บนเตียง ใบหน้าตึงเครียด คิ้วขมวดอยู่ตลอดเวลาหญิงสาวอาบน้ำเสร็จ ออกมาจากห้องน้ำ เดินไปนั่งที่โต๊ะเครื่องแป้ง ใช้สายตามองชายหนุ่มผ่านทางกระจกบรรยากาศช่างน่าอึดอัดและเงียบจนซุยหลันซีรู้สึกไม่สบายใจจึงเป็นฝ่ายเอ่ยปากถาม“พี่เว่ยหมิง พี่เป็นอะไรไปหรือเปล่า? หรือมีปัญหาอะไรที่ทำงานอีกไหม หรือว่าผู้จัดการจางทำอะไรให้พี่ไม่สบายใจ?” ซุยหลันซีหยุดมือที่กำลังหวีผม หันหน้ามาทางเขาที่นั่งอยู่บนเตียง ในแววตาเต็มไปด้วยความสงสัยเติ้งเว่ยหมิงไม่ตอบ เขาเงยหน้าขึ้น จ้องมองหญิงสาวราวกับว่าเธอเป็นคนแปลกหน้าสายตาลุ่มลึกที่มองมาทำให้ซุยหลันซีรู้สึกไม่สบายใจ เธอรู้สึกถึงความผิดปกติ จึงลุกขึ้นเดินไปนั่งข้างๆ ชายหนุ่มก่อนจะร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อเติ้งเว่ยหมิงผลักร่างของซุยหลันซี เธอไม่ทันได้ตั้งตัวล้มลงไปบนเตียงนอนเขาใช้มือข้างหนึ่งจับยึดข้อมือเล็กบางของเธอเอาไว้เหนือศีรษะ มืออีกข้างกดอยู่ที่เอวของเธอ ร่างสูงใหญ่

  • Back to 1985 ฉันกลายเป็นคุณหนูตกอับ   ตอนที่ 15 ข้อเสนอทางการค้า

    อี้ชุนคุ้นเคยกับเติ้งเว่ยหมิงเป็นอย่างดี เพราะเขาเป็นคนรับชายหนุ่มเข้ามาทำงานด้วยตนเองเนื่องจากเติ้งเว่ยหมิงได้มีโอกาสช่วยชีวิตอี้ชุนขณะที่ถูกคนดักปล้น ซึ่งเป็นช่วงที่เติ้งเว่ยหมิงย้ายมาอยู่ที่เมืองนี้ หลังจากช่วยเหลือกันแล้ว อี้ชุนต้องการตอบแทนบุญคุณ แต่เติ้งเว่ยหมิงปฏิเสธหลังจากพูดคุยกันอยู่พักใหญ่อี้ชุนก็รู้ว่าเขาจบการศึกษาวิศวกรรมศาสตร์มา แล้วยังเคยเป็นทหารมาก่อน และตอนนี้กำลังหางานทำ จึงชวนเติ้งเว่ยหมิงมาทำงานคุมเครื่องจักรในโรงงานของตัวเอง จึงนับว่าทั้งคู่ค่อนข้างมีความสนิทสนมกันอยู่พอสมควร“ซุยหลันซี ภรรยาของผมครับ หลันหลัน คนนี้คือคุณอี้ชุนเถ้าแก่เจ้าของโรงงาน”เติ้งเว่ยหมิงเอ่ยแนะนำให้ทั้งสองคนได้รู้จักกันซุยหลันซีจึงค้อมศีรษะลงเล็กน้อยก่อนกล่าวทักทาย“สวัสดีค่ะ เถ้าแก่อี้ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”“ยินดีที่ได้รู้จักครับ อาหมิงฉันไม่คิดว่านายจะปิดบังเรื่องแต่งงานกับฉัน แต่เธอสวยงามและเหมาะสมกับนายมาก” เถ้าแก่อี้ค้อมหัวเล็กน้อยทักทายเธอกลับ แล้วหันไปพูดกับเติ้งเว่ยหมิง ตัดพ้อเขาเล็กน้อย แล้วเอ่ยชมด้วยความจริงใจซุยหลันซ

  • Back to 1985 ฉันกลายเป็นคุณหนูตกอับ   ตอนที่ 14 จางชุน

    ซุยหลันซีมาถึงโรงงานสิ่งทอจินเซิงที่เติ้งเว่ยหมิงทำงานก็เป็นเวลาพักเที่ยงพอดี โรงงานแห่งนี้มีสวัสดิการอาหารกลางวันให้กับพนักงานทุกคนซุยหลันซีเป็นเพียงคนนอกไม่ได้เป็นพนักงานของโรงงาน เมื่อแจ้งความประสงค์ว่าต้องการขอพบสามีแล้วเธอก็เดินออกมาด้านนอก เพื่อหาอาหารกลางวันรับประทาน เพราะต้องรอให้เติ้งเว่ยหมิงกินข้าวกลางวันเสร็จก่อน เสร็จจากมื้อกลางวันก็เดินกลับเข้าไปที่โรงงานอีกครั้งเธอรออยู่ที่ห้องรับรองของโรงงาน ไม่นานเติ้งเว่ยหมิงก็เดินออกมา“พี่เว่ยหมิงมาแล้วเหรอคะ” ซุยหลันซีลุกขึ้นยืนทันทีที่เห็นเขา“ทำไมคุณถึงมานี่นี่ล่ะ? แล้วที่โรงงานเฟิงหยุนเป็นยังไงบ้าง สำเร็จไหม?”เติ้งเว่ยหมิงรู้ว่าวันนี้เธอไปที่โรงงานตัดเย็บผ้าเฟิงหยุนจึงถามเช่นนี้ แต่ที่เขาไม่เข้าใจก็คือทำไมเธอถึงมาหาเขาที่โรงงานหรือว่าเรื่องนี้จะไม่ง่ายขนาดนั้น?เติ้งเว่ยหมิงขมวดคิ้วแน่น“พี่เว่ยหมิง ฝีมือระดับฉันแล้วจะพลาดเหรอคะ ว่าแต่พี่พอจะพาฉันไปพบเถ้าแก่โรงงานของพี่ได้ไหม ฉันมีข้อเสนอเรื่องธุรกิจจะมาคุยกับเขาค่ะ” ซุยหลันซียืดอกขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียง

  • Back to 1985 ฉันกลายเป็นคุณหนูตกอับ   ตอนที่ 13 พันธมิตรคนใหม่

    “คุณซุย ฉันยอมรับว่าชุดที่คุณออกแบบมามันน่าทึ่งมาก คุณสามารถออกแบบชุดเพื่อมาจัดการกับผ้าที่ผลิตผิดพลาดได้ดี ฉันต้องยอมรับในความสามารถของคุณจริงๆ ตั้งแต่ฉันเปิดรับสมัครมาเป็นเวลาสามเดือน มีแบบของคุณซุยนี่แหละที่เข้าตาฉันมากที่สุด” หวงเสี่ยวเหมยเอ่ยขึ้นด้วยความตื่นเต้น“ขอบคุณนะคะที่ชอบชุดของฉัน อันที่จริงที่ฉันทำแบบนี้ก็เพราะต้องการความร่วมมือของคุณค่ะ ฉันใช้ผ้าที่เหลือมาตัดชุดที่ฉันออกแบบ นอกจากชุดที่ฉันตัดมาเป็นตัวอย่างในวันนี้แล้ว ฉันว่าจะออกแบบอีกสักสองสามชุด มีชุดให้ลูกค้าเลือกหลายๆ แบบจะขายได้ง่ายกว่า ร้านค้าส่งที่เป็นคู่ค้าของโรงงานเฟิงหยุนสามารถช่วยขายชุดได้ ฉันเชื่อว่าต้องมีใบสั่งซื้อเพิ่มอีกแน่นอน” ซุยหลันซีโน้มน้าวเถ้าแก่เนี้ยอย่างสุดกำลัง เพราะอยากช่วยแก้ปัญหาให้กับเติ้งเว่ยหมิง นอกจากนี้อาจทำกำไรได้อีกนิดหน่อย“โรงงานเฟิงหยุนยินดีที่จะทำตามที่คุณซุยนำเสนอ แต่ว่าเฟิงหยุนของฉันจะได้อะไรบ้างคะ?” หวงเสี่ยวเหมยแสดงความยินดีที่จะทำตามข้อเสนอของซุยหลันซี แต่ก็ยังคงต่อรองถึงผลประโยชน์ที่จะได้รับ สมกับเป็นเถ้าแก่เนี้ยเจ้าของโรงงานผู้มากประสบการณ์ ที่ไม่เคยเก็บงำเขี้

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status