- ช่วงเย็นของวัน - “ น้ำมนต์แพรกลับก่อนนะได้เวลานัดแล้ว ” ใบหน้าสวยก้มลงไปมองนาฬิกาข้อมือราคาแพงที่สวมใส่อยู่ก่อนจะเอ่ยบอกเพื่อนออกไป “ อือ! ขอบใจนะจ๊ะที่อยู่คุยกับน้ำมนต์ทั้งวันเลย ” “ จ๊ะ…แพรไปก่อนดูแลรักษาตัวเองจากพ่อหนุ่มขั้วโลกเหนือให้ดีนะ คนอะไรนั่งหน้านิ่งได้ทั้งวัน ” แพรว่าเอ่ยกระซิบกระซาบต่อว่าดินแดนให้เพื่อนฟัง “ ไปละ บ๊ายนะเจอกันวันมะรืนที่มหาลัย ” “ ฝากน้ำมนต์ด้วยนะคะคุณดินแดน สวัสดีค่ะ ” แพรว่าเอ่ยบอกดินแดนก่อนจะยกมือไหว้อย่างมีมารยาทและเดินออกจากห้องไป ภายในห้องตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง แกร๊ก…. เสียงประตูเปิดเข้ามาหมอธันเดินยิ้มหล่อเข้ามาจนดินแดนที่รอยยิ้มนั้นนึกอยากถีบยอดหน้าไอ้หมอหนุ่มขึ้นมาทันที “ เหอะ ! “ เสียงดินแดนหัวเราะเบาๆในลำคอให้กับหมอก่อนจะปรายตามองอย่างผู้ชนะเพราะต่อให้มันจะแสนดีแค่ไหนยังไงน้ำมนต์ก็ต้องแต่งงานกับเขาอยู่ดี “ น้องน้ำมนต์อาการดีขึ้นมากแล้วกลับไปพักต่อที่บ้านได้แล้วนะครับ ” หมอธันเอ่ยบอกเมื่อวัดอุณภูมิของคนไข้เสร็จ “ ขอบคุณนะคะ น้ำมนต์ก็เบื่อที่นี่แล้วเหมือนกัน ” น้ำมนต์เอ่ยบอกพลางยู่หน้าอย่างไม่จริงจังนักแต่มันกลับน่ารั
- 11:20 น. - ดินแดนที่นอนอยู่บนโซฟาตื่นขึ้นเพราะแสงแดดในเวลาใกล้เที่ยงสาดส่องมาแยงตาเขาจนนอนต่อไม่ได้ทั้งที่ความเป็นจริงเขาสุดแสนจะง่วง ร่างหนาลุกขึ้นนั่งก่อนจะสะบัดใบหน้าไล่อาการงัวเงียออกไปตาคมมองไปยังน้ำมนต์ที่นั่งนิ่งอยู่บนเตียง กรที่มาเยี่ยมน้องตั้งแต่เช้าก็กลับไปทำงานแล้ว หมอธันมาตรวจน้ำมนต์เดินเข้าเดินออกในห้องพักไปหลายรอบแต่ดินแดนก็ยังหลับไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับใคร “ พี่ดินแดนไปนอนต่อในห้องพักญาติก็ได้นะคะ ” น้ำมนต์เอ่ยบอก ดินแดนก็นิ่งไปทันทีและนึกไปว่าทำไมเขาไม่ไปนอนในห้องพักญาติจะมานอนเหนื่อยที่โซฟาทำไมวะ “ ถ้าไม่นอนไปล้างหน้าสิค่ะ น้ำมนต์สั่งข้าวมาให้แล้ว ” นิ้วเรียวชี้ไปยังถุงอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะ พรึบ! ร่างหนายืนขึ้นเต็มความสูงก่อนจะหยิบเสื้อยืดราคาแพงของตัวเองที่แขวนอยู่เดินเข้าห้องน้ำไปโดยที่เขาไม่พูดอะไรกับน้ำมนต์เลยสักคำทั้งที่คนป่วยอุสาห์สั่งข้าวมาให้เพราะกลัวว่าอีกคนจะตื่นมาแล้วโมโหหิวใส่เธออีก Rrrrr..Rrrrr ระหว่างที่น้ำมนต์กำลังนั่งคิดอะไรเพลินๆเสียงมือถือราคาแพงที่วางอยู่ก็ดังขึ้น สายเรียกเข้า แพรวา… “ แพรว่าไงคิดถึงน้ำมนต์เหรอ อิอิ
- อีกด้าน - น้ำมนต์ที่ได้ยาลดไข้ไปอุณหภูมิที่สูงในตอนแรกก็ลดลงกระบอกตาสวยก็ค่อยๆตื่นลืมตาขึ้นมาก่อนจะกวาดสายตามองหาคนใจร้ายแต่ทว่ากลับเป็นคุณหมอหนุ่มนั่งพิงโซฟาหลับอยู่ ร่างบางค่อยๆลุกออกจากเตียงเพื่อเดินไปห้องน้ำ “ น้องน้ำมนต์ ” หมอธันเอ่ยเรียกเมื่อเห็นคนป่วยลงจากเตียงมา “ ค่ะ พี่หมอมานอนทำไมในนี้คะ ” เสียงใสเอ่ยถามและเอียงคอมองอย่างน่ารักจนหมอธันชะงักนิ่งไป พรึบ! “ พี่เข้ามาเห็นน้ำมนต์มีไข้สูงเลยฉีดยาให้และไอ้ดินมันไม่อยู่พี่เลยเฝ้าน้ำมนต์แทนครับจะเข้าห้องน้ำเหรอ “ ร่างหนายืนขึ้นเต็มความสูงเดินเข้าไปหาน้ำมนต์ ” ค่ะ แต่น้ำมนต์เข้าเองได้พี่หมอนอนต่อก็ได้นะคะ” น้ำมนต์เอ่ยบอกเมื่อมองดูเวลาแล้วเพิ่งจะตี 4 กว่าๆ จ๊อก! จ๊อก! เสียงท้องคนป่วยร้องดังจนหมอหนุ่มที่ยืนอยู่ได้ยิน “ หิวข้าวใช่ไหมพี่เห็นถาดข้าวยังวางอยู่ที่เดิม รีบไปเข้าห้องน้ำเดี๋ยวพี่ไปซื้อข้าวมาให้ ” “ คือ… ” “ อย่าดื้อสิ ป่วยอยู่นะ ” มือหนาจูงน้ำมนต์ไปส่งในห้องน้ำแล้วเดินออกมาทันที ไม่นานน้ำมนต์ก็ทำธุระส่วนตัวเสร็จ “ นอนรอก่อนนะเดี๋ยวพี่รีบไปรีบกลับ ” หมอธันพาคนป่วยมาส
- ช่วงค่ำของวัน - น้ำมนต์ยังนอนหลับไม่ยอมตื่นพยาบาลถืออาหารมื้อเย็นมาวางไว้ให้จนเย็นชืดดินแดนก็ไม่คิดที่จะปลุกให้อีกคนตื่นขึ้นมากินข้าว ร่างหนาเอาแต่นั่งอ่านงานในมือเงียบๆเพราะความรู้สึกเบื่อที่จะต้องมานั่งเฝ้าไข้อยู่เฉยๆเลยโทรบอกให้เลขาเอางานมาส่งให้ที่โรงพยาบาล… Rrrrr…Rrrrr เสียงมือถือราคาแพงดังขึ้นดินแดนหยิบมันมาดูพบว่าเป็นเพื่อนสนิทของเขาเอง สายเรียกเข้า คราม “ อืม…ว่า ” “ มึงออกมาไหมคืนนี้กูกับไอ้ราชันย์กำลังไปส่วนไอ้เหี้ยอเล็กซ์ไปคั่วสาวรออยู่แล้ว “ ครามเอ่ยบอกเพื่อนในขณะที่เขากำลังเดินทางไปดื่มที่ร้านประจำ ” ….. “ ดินแดนเงียบไปทันทีก่อนจะปรายตาไปมองยังน้ำมนต์ที่หลับอยู่บนเตียง พรึบ! ” อืม…เดี๋ยวกูตามไป “ ดินแดนเอ่ยบอกและตัดสายเพื่อนไปทันที มือหนาเก็บเอกสารต่างๆกลับเข้าแฟ้มก่อนจะยืนขึ้นเต็มความสูงและสาวเท้าเดินออกจากห้องพักผู้ป่วยทิ้งน้ำมนต์ไปอย่างไม่คิดใยดี ” เห้ย! ไอ้ดินมึงไปไหนวะ “ หมอธันที่กำลังจะเดินเข้าห้องผ่าตัดเอ่ยถามเพื่อนเมื่อเห็นเพื่อนเดินผ่านไปคิ้วคมเลิกขึ้นอย่างต้องการคำตอบเวลานี้มันควรอยู่เฝ้าคนป่วยไหม ” ไม่ใช่เรื่องของมึง “ ดินแดนเอ่ย
- ภายในห้องพักฟื้น - ร่างบางนอนใบหน้าซี๊ดเซียวอยู่บนเตียงโดยมีท่านธีระ คุณหญิงและดินแดนนั่งเฝ้าน้ำมนต์อยู่ไม่ห่าง มีเพียงดินแดนที่นั่งทำหน้าหมดอาลัยตายอยากอยู่ตลอด “ ทำหน้าให้มันดีๆหน่อยสิวะ นั่นว่าที่เมียแกนะดิน ” ท่านธีระเอ่ยต่อว่าลูกชายออกไป “ ก็เพราะเป็นยัยนั่นไงครับ พ่อยกเลิกงานแต่งได้ไหมครับให้เธอเป็นน้องผมก็ได้ ส่วนเมียผมขอหาเอง ” ดินแดนเอ่ยบอกผู้เป็นพ่อออกไป เขารู้สึกไม่ชอบที่จะต้องโดนจับแต่งงานกับคนที่เขาไม่ถูกใจ “ ไม่ ยังไงลูกสะใภ้ฉันก็ต้องเป็นหนูน้ำมนต์เท่านั้นถ้ารอให้แกหาเองก็คงได้อย่างเด็กนั่นเมื่อกี้ ชอบเหรอไอ้ผู้หญิงที่ไม่ให้เกียรติแม้กระทั่งแม่ของแก ผู้หญิงที่หวังแค่เงินของแก ไม่มีใครเหมาะสมกับแกเท่าหนูน้ำมนต์แล้วดิน ” “ งั้นก็รีบเลยครับไม่ต้องหาหรอกไอฤกษ์ดีอะไรนั่น วันไหนก็ได้แต่งให้มันจบๆไปซะผมก็เบื่อเรื่องนี้เต็มทีแล้วเหมือนกัน ” ดินแดนเอ่ยขึ้นเขาไม่แคร์ว่าจะต้องใช้ฤกษ์ใช้ยามแต่งซะให้มันจบ “ แกจะบ้ารึไงแต่งงานไม่หาฤกษ์ใครที่ไหนเขาทำกัน ” ผู้เป็นแม่ที่นั่งเฝ้าว่าที่ลูกสะใภ้อยู่เอ่ยขึ้นดินแดนก็เงียบใส่ทันทีเมื่อตัวเองเถียงสู้ไม่ได้ แค่ก! แค่ก! คนป
เอี๊ยด! รถตู้ขับเข้ามาจอดที่จุดส่งผู้ป่วยอย่างรวดเร็ว ดินแดนอุ้มน้ำมนต์ไปวางบนเตียงบุรุษพยาบาลรีบเข็นร่างบางเข้าห้องฉุกเฉินไปด้วยความรวดเร็ว “ ผมกลับนะครับ ” ติดแดนเอ่ยขึ้นตั้งท่าจะหันหลังกลับก็ต้องชะงัก.. “ แกต้องอยู่เฝ้าน้องจนกว่าน้องจะหาย ” เสียงเข้มของท่านธีระเอ่ยบอกลูกชายหัวดื้อดวงตาจ้องมองลูกชายอย่างเอาเรื่อง “ พ่อ ! ครอบครัวเธอก็มีไหม พี่ชายเธอก็มี ผมไม่มีเวลามานั่งเฝ้ายัยนั่นหรอกครับ ” ดินแดนเอ่ยแย้งขึ้นทันที “ แกต้องเฝ้า ถ้าแกกลับมีปัญหากับฉันแน่ไอ้ดิน ” ผู้เป็นพ่อชี้หน้าลูกชายอย่างเอาเรื่องก่อนจะเดินเข้าไปในอาคารของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง ร่างหนาจำต้องเดินตามพ่อกับแม่เข้ามาอย่างไม่เต็มใจนักจนมาถึงบริเวณเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ “ คุณดินแดน ! ” เสียงหญิงสาวเอ่ยเรียกดินแดนก่อนจะรีบวิ่งมาคล้องเข้าที่แขนแกร่งของดินแดนอย่างสนิทสนม ท่านธีระกับคุณหญิงกาญจนาหยุดฝีเท้าของตัวเองลงและหันไปมองยังลูกชายตัวดี “ คุณดินแดนมาทำอะไรที่นี่เหรอคะ ” สาวสวยเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มดีใจที่ได้เจอเขาอีกครั้ง “ ….. ” “ ทำไมไม่พูดกับวิวละค่ะ คืนนั้นคุณยัง..” “ หุบปากเน่าๆของเธอซะแล้ว