LOGINผ้าที่เปียกน้ำหมาดๆถูกลากไปตามผิวที่ร้อนระอุของเธออยู่หลายนาที สายตาคมของคนตัวสูงได้แต่จ้องมองอย่างไม่รู้ความรู้สึก
"ทำไมกูต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วยว่ะ! ตัวนี้ก็แม่งเมื่อไรจะหายร้อนว่ะ" เสียงสบถออกมาอยากหัวเสียของโซ่ดังขึ้น "เลิกบ่นได้แล้วมึงจะกลับก็ได้นะเดี๋ยวกูดูเอง"ไนท์ที่ถือถาดใส่ถ้วยข้าวต้มและยาเข้ามาเอ่ยขึ้นก่อนจะวางมันลงและหย่อนก้นนั่งข้างๆคนตัวเล็กที่หลับอยู่ "กลับไปตอนนี้ก็โดนป๊ากูบ่นรำคาญว่ะ! ทำไมเราต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วยว่ะ"เขาเอ่ยขึ้นก่อนจะตั้งคำถามที่แม้แต่เพื่อนเขาก็ไม่รู้ด้วยซ้ำ "กูก็ไม่รู้ คงเป็นสัญชาตญาณมั้งเวลาน้องกูไม่สบาย กูก็ต้องดูแล"ประโยคที่เขาเอ่ยขึ้นทำเอาคนที่กำลังจะเช็ดตัวให้เธอต่อกลับหยุดชะงัก "งั้นหรอ?และมึงก็ต้องมาดูแลน้องสาวของคนที่ทำให้น้องมึงต้องตายครอบครัวที่ไร้ความรับผิดชอบมีเงินทองสนใจแค่หน้าตาของวงศ์ตระกูลน่ะหรอ กูไม่เข้าใจมึงว่ะไอไนท์ทั้งที่เราเป็นฝ่ายสูญเสียแต่กลับให้ความสนใจเด็กนี่!" จบประโยคของโซ่ผ้าผืนเล็กที่ถือก็ถูกปาใส่อกของเพื่อนสนิททันที "กูไม่เข้าใจว่ะ!" เขาเอ่ยก่อนจะเดินออกจากห้องไป อยู่ๆเขาก็เงียบและหันไปมองใบหน้าที่หลับอยู่ เขาไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันแต่ก่อนหน้านี้เวลาที่เขาได้เข้าใกล้เธอมันทำให้เขารู้สึกสบายใจทั้งที่เขาวางแผนทั้งหมดมาแล้วแท้ๆ แต่ยิ่งได้รู้จักก็รู้สึกว่าเธอไม่ใช่คนที่เลวร้ายอะไรแต่แค่อ่อนแอเกินไปถ้าเขาทำให้เธอเจ็บครอบครัวเขาก็จะเจ็บ มันจะเป็นแบบนั้นใช่มั้ยนะ? ย้อนกลับไปเมื่อสองเดือนที่แล้ว "นั่นน้องสาวไอคิง เห็นเขาว่าบ้านมันอ่ะมีน้องสาวทั้งหมดห้าคน คนเนี้ยคนเล็กสุด ที่คนละนามสกุลเพราะคนละพ่อแม่เดียวกันแต่ทุกคนรักกันดีและไม่สนว่าใครจะพูดยังไง รู้สึกว่าในบรรดาน้องสาวไอคิงห่วงคนนี้มากที่สุด!"เสียงเข้มของโจเพื่อนสนิทอีกคนของพวกเขาเอ่ยขึ้น "ห่วงที่สุดหรอ? งั้นแสดงว่าทั้งบ้านคงจะรักและหวงคนเล็กมากซินะ!"เสียงทุ้มต่ำของโซ่เอ่ยขึ้น หลังจากนั้นพวกเขาก็เริ่มตามเพื่อทำให้ดูเหมือนเป็นเหตุบังเอิญหรือเวลาที่เธอต้องการความช่วยเหลือก็จะมีพวกเขาคอยทำตัวเป็นฮีโร่อยู่เสมอความใกล้ชิดความรู้สึกที่เริ่มก่อตัวขึ้นในหัวใจดวงน้อยของเธอมันเริ่มพองตัว ความเชื่อใจไว้ใจ คำบอกรักและการสารภาพว่าชอบเธอจากพวกเขามันเป็นเพียงเกมในหมากกระดานของพวกเขาก็เท่านั้น! อึก! ฮึก! "พี่ร้องไห้ทำไมคะ? เป็นอะไรรึเปล่า"เสียงแหบพร่าเอ่ยถามเมื่อรู้สึกตัว เห็นอย่างนั้นมือหนารีบยกขึ้นปาดน้ำตาของตัวเองทันที "ไม่ต้องมาเสือกยุ่งกับกูตื่นแล้วมึงก็กินข้าวกินยาซะเพราะมันยังไม่ถึงเวลาที่มึงต้องตาย!"จบคำพูดร้ายๆร่างหนาก็รีบเดินออกจากห้องทันที คนตัวเล็กเริ่มสำรวจตัวเอง ร่างกายถูกสวมใส่เสื้อผ้าของเขา ข้างๆเตียงมีถ้วยข้าวต้มและยาวางไว้ซึ่งหนึ่งในเม็ดยาก็ไม่ขาดยาคุมที่เธอต้องกินและเมื่อนึกได้ว่านี้ก็ดึกมากแล้วเธอต้องรีบกลับบ้านเธอไม่รีรอรีบลุกเดินออกจากห้องทันที แต่ยังไม่ถึงประตูก็ถูกเสียงเข้มของเขาเอ่ยขึ้น "จะไปไหน? กูถามว่ามึงจะไปไหน!"ไนท์เอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ "คะ...คือหนูจะกลับบ้านค่ะ มันดึกแล้วไม่ได้บอกคนที่บ้านไว้ด้วย"เธอตอบกลับอย่างกล้าๆกลัวๆ "แล้วมึงกินข้าวกินยารึยัง?"เขาถามกลับ "ยังค่ะ"คำตอบของเธอทำเอาเขาอยากจะด่าออกไปแรงๆแต่กลับกันดวงตาเล็กทำให้ใจเขามันอ่อนลงอย่างห้ามไม่ได้ "ไปกินข้าวกินยาซะเดี๋ยวกูไปส่ง"จบประโยคร่างหนาก็เดินมาคว้าข้อมือเล็กเดินกลับเข้าไปในห้องทันที ร่างเล็กทำตามอย่างว่าง่ายเธอนั่งทานข้าวต้มเงียบๆ โดยมีเขานั่งคุมอยู่ข้างๆ "พี่ทำเองหรอคะ?" เสียงหวานปนแหบเอ่ยถามก่อนจะผ่ายยิ้มบางๆออกไป "ทำไม? มันไม่ถูกปากลูกคุณหนูอย่างมึงรึไง!"เขาเอ่ยกลับไปอย่างไม่เข้าใจเพราะฝีมือการทำอาหารของเขาก็ไม่ได้แย่สักหน่อย "ปะ..เปล่านะคะ เดลจะบอกว่ามันอร่อยต่างหาก พี่ทำอร่อยมากเลยค่ะ"เธอตอบกลับไปด้วยสีหน้าที่ดูสดใสถึงแม้จะดูไม่จืดเลยก็ตาม "พูดมากรีบๆกินซะ ถ้ามึงยังช้าอยู่กูจะไม่ให้มึงกลับ"ประโยคของเขาทำเอาคนตัวเล็กตักข้าวต้มในถ้วยทานจนหมดก่อนจะทานยาตาม "มึงจะไปสภาพนี้จริงๆหรอ?" คำถามของเขาทำเอานตัวเล็กยิ้มออกมาเจือนๆ "คงไม่เป็นอะไรหรอกค่ะเวลานี้ที่บ้านคงหลับกันหมดแล้ว" เขาพยักหน้าแทนคำตอบก่อนที่ทั้งคู่จะตามกันลงมาขึ้นรถทันที ระหว่างทางภายในรถมันช่างเงียบสงัดและมันทำให้เธอกลับอึดอัดสุดๆ แอร์ในรถเย็นจนทำให้เธอเริ่มยกมือขึ้นมากอดตัวเองแต่มันไม่ได้ช่วยอะไรเลย พรึ่บ! ผ้าห่มผืนขนาดพอเหมาะถูกหยิบมาจากหลังรถโดยเขาก่อนจะโยนใส่ตักเล็กของเธอ ใบหน้าเล็กได้แต่เม้มปากเป็นเส้นตรงเมื่อเห็นใบหน้านิ่งๆของเขา "ขอบคุณนะคะ" เธอเอ่ยออกไปเบาๆก่อนจะคลี่ผ้าห่มจัดการคลุมมันลงมาที่ร่างกายของเธอ และพล้อยหลับไป "นี่ๆๆ เดลตื่น!" เสียงปลุกเรียกคนตัวเล็ก ดวงตาที่ปิดสนิทค่อยๆเปิดขึ้นภาพตรงหน้ามันพร่ามัวก่อนจะชัดเจนขึ้น ใบหน้าหล่อของเขาดวงตาที่ดูเหมือนจะห่วงใยทำให้ใจเธอมันสั่นไหวอย่างบอกไม่ถูก คิ้วหนาขมวดแน่นก่อนจะผละตัวออกจากเธอ "คิดว่ามึงตายซะแล้ว เรียกตั้งนานถึงบ้านมึงแล้วลงซะ!" เสียงเข้มเอ่ยขึ้นด้วยถ่อยคำหยาบคายและทำร้ายจิตใจเธอเสมอ "พี่รู้จักบ้านหนูได้ยังไงคะ?"เธอเอ่ยถามด้วยใบหน้าสงสัย "มีอะไรที่กูไม่รู้บ้างงั้นหรอ? เลิกถามและลงไปซะ"เขาตอบก่อนจะเอ่ยไล่เธอ "ขอบคุณนะคะที่มาส่ง พี่ไม่ต้องห่วงหรอกนะว่าหนูจะตายก่อน หนูจะไม่ตายจนกว่าพี่จะพอใจ หนูตายยากค่ะ"เธอเอ่ยด้วยรอยยิ้มแต่แววตาที่ดูเศร้าคำพูดของเธอกลับทำใจเขาเจ็บแปลบ ก่อนที่เธอจะลงจากรถและเดินเข้าบ้านไปทันที เท้าเล็กก้าวเข้าบ้านด้วยใจที่เหม่อลอย เธอไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงพูดประโยคแบบนั้นออกไป นัยย์ตาเล็กเริ่มคลอไปด้วยน้ำตาเธอหยุดมองขึ้นไปมองดาวบนฟ้าก่อนจะเอ่ยประโยคที่เจ็บช้ำออกไป "ถ้าทุกอย่างฟ้ากำหนดไว้หมดแล้ว หนูก็คงหนีไม่พ้นใช่ไหมคะ ฮึก! อย่าใจร้ายกับหนูนักได้ไหมคะ หนูเจ็บมากเกินไปแล้ว" ในระหว่างนั้นดวงตาคมของคนที่ยืนมองอยู่บนระเบียงก็หลี่ลงอย่างสงสัยน้องสาวของเขาเป็นอะไรทำไมถึงได้พูดแบบนั้นก่อนที่เขาจะเดินกลับเข้าไป ในห้องของตนเองก่อนจะเดินออกไปดูและไม่นานเขาก็ไปยืนอยู่ด้านหลังของน้องสาวตัวเอง "ตัวเล็กหนูเป็นอะไรไปคะ บอกเฮียได้นะ"เสียงเข้มที่ดูห่วงใยเอ่ยขึ้นทำให้คนตัวเล็กสะดุ้งโหยงก่อนจะรีบปาดเช็ดน้ำตาบนใบหน้าตัวเองอย่างลวกๆ "เฮียเวย์น้องตกใจหมดเลยค่ะ"เธอตอบก่อนจะทำตัวปกติ "ตัวเล็กบอกเฮียมาว่าหนูเป็นอะไร ใครทำอะไรทำไม่หน้าซีดแบบนี้ ตัวร้อนด้วย!"เขาเอ่ยพูดหลังจากได้เห็นและถูกตัวเธอ "น้องแค่ไม่สบายน่ะค่ะเมื่อวานเดินตากฝนด้วย วันนี้ก็ทะเลาะกับเพื่อนเรื่องที่ไม่เข้าใจกันนิดหน่อยเองคะ ขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะ"จบประโยคร่างเล็กถูกสวมกอดอย่างอบอุ่น เธอรู้ดีว่าทุกคนรักและเป็นห่วงเธอ และนั้นทำให้เธอรู้สึกผิดมากกว่าเดิมที่ไม่กล้าแม้แต่จะพูดความจริงออกไป "เข้าบ้านไปพักผ่อนเถอะคะได้พักผ่อนตากน้ำค้างนานๆจะเป็นหนักเข้าไปใหญ่"จบประโยคทั้งสองก็พากันเข้าบ้านทันที เมื่อร่างเล็กถึงห้องนอนก็ล้มตัวลงบนเตียงทันที เธอไม่รู้หรอกว่าพรุ่งนี้จะและวันต่อๆไปจะเป็นอย่างไรแต่ทุกอย่างเธอจะต้องรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ได้แม้ว่าตัวเองจะต้องเจ็บก็ตาม (พี่ไม่ต้องห่วงหรอกนะว่าหนูจะตายก่อน หนูจะไม่ตายจนกว่าพี่จะพอใจ หนูตายยากค่ะ) ประโยคของเธอคอยวนเวียนอยู่ในหัวเขาตลอดเวลาหลังจากกลับมา ร่างหนาลุกขึ้นไปยืนสูบบุหรี่นอกระเบียงก่อนจะนึกถึงคำพูดและแววตาของเธอ "เหอะ! พูดอะไรออกมา คนที่ควรตายคือพี่ชายเธอต่างหาก!"ผ่านมาหลายอาทิตย์อาการของเธอมันไม่ได้ดีขึ้นเลยแม้แต่น้อยกลับยิ่งแย่ลงทานอะไรไม่ค่อยได้ถ้าไม่ใช่ของที่อยากจริงๆ ง่วงนอนหนักกว่าปกติ เพลียตลอดเวลา หลายวันมานี้เธอแทบไม่อยากทำอะไรแม้แต่น้อยนอกเสียจากคำว่านอน จนคนเป็นแม่เริ่มสงสัยจึงคิดที่อยากจะมาคุยกับลูกสาวของตัวเองแต่คำว่าแม่ของมินตราซึ่งเธอเคยผ่านอะไรมาก่อนเยอะมากจึงคิดว่ามันต้องเป็นแบบที่เธอคิดหรือถ้าไม่ก็ดีต่อตัวของลูกสาวเธอ เธอตรงไปซูเปอร์มาร์เก๊ตเพื่อซื้อของบางอย่าง เธอไม่รู้ว่าลูกสาวมีแฟนรึเปล่าแต่ทุกๆคืนจะเห็นมีผู้ชายมาส่งตลอด แต่เธอก็ไม่อยากวุ่นวายกับลูกมากจนเกินไปรอให้พร้อมเมื่อไหร่ลูกคงมาบอกกับเธอเอง เมื่อกลับมาถึงมินตราจึงตรงขึ้นไปบนห้องลูกสาวทันทีวันนี้คงจะสะดวกที่จะคุยกันเพียงแค่สองคนเพราะคนอื่นๆไม่อยู่บ้าน ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!มือบางเคาะประตูห้องนอนของลูกสาวอยู่ครู่หนึ่งประตูห้องนอนก็เปิดออกพร้อมกับรอยยิ้มที่ดูฝืนๆของลูกสาวเธอ คนตัวเล็กเดินนำแม่เข้าไปในห้องก่อนจะหย่อนตัวลงนอนบนเตียงเหมือนเคย"อาการเป็นยังไงบ้างลูกไม่ดีขึ้นเลยหรอคะ" เสียงหวานปนห่วงใยของผู้เป็นแม่เอ่ยถามลูกสาวก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งข้างๆก่อนที่มือเล็กจะยื่นไปลูบ
อื้อ! อื้มส์!เสียงครางระงมประสานกันภายในห้องนอนที่ดำสไตล์ยุโรปเตียงนอนขนาดหกฟุตถูกสองร่างบดเบียดกันอยู่หลังจากที่เขากำลังจะพาเธอกลับแต่แล้วความรู้สึกของทั้งคู่ก็พากันมายังบ้านของโซ่ สายตาทั้งสองประสานกันปากหนาชกชิมรสชาติแสนหวานจากริมฝีปากสีเชอร์รี่ มือหนาข้างหนึ่งบีบเค้นเต้าอวบ ส่วนอีกข้างกำลังหยอกเย้ากับร่องกลีบที่ชุ่มไปด้วยน้ำใคร่สีใสที่ไหลผ่านออกมาเมื่อนิ้วร้ายแทรกเข้าไป เอวเล็กบิดส่ายไปมาเพราะความเสียวซ่านกำลังแล่นผ่านก่อนจะกระตุกเกร็งปลดปล่อยความใคร่ออกมา ปากหนายกยิ้มขึ้นด้วยความพึงพอใจ ใบหน้าหล่อก้มลงไปกดจูบลงยังหน้าผากมน"ต่อไปเธอช่วยพี่บ้างสิ" เสียงแหบพร่าเอ่ยกระซิบข้างใบหูขาวก่อนจะรั้งร่างเล็กให้ลุกขึ้นนั่ง ใบหน้าหวานขบเม้มปากแน่นด้วยอาการเคอะเขินกับคำพูดของเขา ร่างเล็กขยับตัวนั่งคุกเข่าอยู่ระหว่างขาทั้งสองข้างของชายหนุ่ม มือเล็กเอื้อมไปจับลำใหญ่ที่กำลังพองโตอยู่ไม่น้อย ใบหน้าสวยค่อยๆก้มลงไปก่อนจะใช้ลิ้นเล็กแตะเลียที่ส่วนปลายหัวหยักและค่อยๆกดลงไปจนคลุมมิดลำ ศีรษะทุยขยับโยกตามความยาวของเอ็นแกร่งจนทังลำเริ่มแวววาวด้วยน้ำลายของเธอบ๊วบ! บ๊วบ! แผล่บ! จ๊วบ!"อ๊าส์ แบบนั้นแหละค่ะค
แกร๊ก! เสียงเปิดประตูห้องนอนดังขึ้นสายตาคมของร่างสูงกวาดมองไปทั่วบริเวณห้องของน้องสาวก่อนจะก้าวเดินไปยังเตียงนอนสีหวาน เขายืนมองร่างเล็กทั้งสองที่นอนกอดกันกลม เดลและยูริเป็นภาพที่เขาเห็นจนชินตา เด็กทั้งสองโตมาด้วยกันสนิทกันมากจนเขาคิดว่าน้องสาวของตัวเองนั้นไม่ชอบผู้ชาย รอยยิ้มเอ็นดูเผยขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาของเขา ก่อนที่สายตานั้นจะไปหยุดที่ใบหน้าของเด็กสาวหน้าหมวยอย่างยูริ ใบหน้ากลมแก้มเยอะอมชมพู ปากเล็กสีหวาน มันทำใจเขาเต้นไม่เป็นจังหวะ รันเวย์หนุ่มขี้เล่นทะเล้น เจ้าชู้ หล่อเลือกได้แบบเขาจะมาใจเต้นกับเพื่อนน้องสาวที่เขาไม่ค่อยจะได้ข้องเกี่ยวเนี้ยนะ! "อะ อ้าว เฮียรันมาทำอะไรที่ห้องน้องคะ?" เสียงหวานงัวเงียของเดลดังขึ้นก่อนที่ร่างเล็กกำลังลุกขึ้นนั่งมาจ้องหน้าพี่ชายตัวเอง"เอ่อ..คือเฮียจะมาปลุกน้องกับยูริลงไปทานข้าวน่ะค่ะ แต่ขึ้นมาแล้วเห็นยังไม่ตื่นก็เลยว่าจะปล่อยให้นอนต่อ วันนี้หยุดเรียนก็ได้นะเดี๋ยวเฮียบอกแม่ให้"เสียงทุ้มเข้มของพี่ชายเอ่ยบอกน้องสาว"ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ เที่ยวได้ก็ต้องเรียนได้ วันนี้น้องมีเรียนช่วงบ่ายค่ะเดี๋ยวเฮียลงไปรอข้างล่างก่อนก็ได้นะคะเดี่ยวน้องตามลงไปค่ะ"เธอเอ่ย
แววตาซุกซนไล่มองข้อความที่เพื่อนสาวคนสนิทอย่างยูริส่งมาหาและในข้อความนั่นทำให้คนตัวเล็กถึงกับยิ้มเจือนๆ ในใจยิ่งคิดหนัก YURI:ยู้หู้วสาวน้อย!! YURI:วันนี้เพื่อนเบื่อมากเลย😔 YURI:ไปเที่ยวกันมั้ย😁 MODEL:ที่ไหน??? YURI:ผับบีบาร์เลด😘 MODEL:มารับด้วยนะ😊 YURI:จัดไปโลดดด YURI:แต่งตัวแซ่บๆถ้าไม่มีโปรดรอฉัน👌 __________สิ้นสุดการสนทนา_________ ใบหน้าเล็กส่ายไปมาก่อนจะยิ้มเล็กน้อยให้กับความทะเล้นของเพื่อนสาวที่สนิทกันมากตั้งแต่เด็กๆแต่กลับเรียนคนละที่กับเธอมันปรับตัวยากมากกว่าจะสนิทกับเพื่อนกลุ่มใหม่ แต่เธอรู้สึกอยากลองทำอะไรใหม่ๆบ้างจะได้ไม่จำเจ อีกอย่างชีวิตวัยรุ่นมันต้องออกเผชิญโลกข้างนอกบ้างจะได้รู้ว่าจริงแล้ว ชีวิตของพวกเขามันเป็นอย่างไร.. "อีกตั้งสี่ชั่วโมงขอนอนก่อนแล้วกัน เฮ้อ!"เสียงพึมพำเล็กน้อยดังออกมาตามด้วยเสียงถอนหายใจเบาๆ เมื่อใกล้จะถึงเวลานัดคนตัวเล็กก็วิ่งไปหาพี่สาวคนโตอย่างควีนทันที ร่างเล็กกระโดดขึ้นไปนั่งบนเตียง และทำตาปริบๆก่อนจะส่งยิ้มหวานให้ พี่สาวหรี่ตามองคนน้องตรงหน้าก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ "มีอะไรรึเปล่า จะให้พี่ทำอะไร" เสียงหวานเอ่ยถามน้องสาว "คือ..
กางเกงขาสั้นถูกถอดออกพร้อมกับชั้นในสีขาว เผยให้เห็นกลีบงามแดงที่ขมิบรัว ก่อนที่มือหนาจะคว้ายกร่างเล็กขึ้นมานั่งบนตักแกร่งของเขา ใบหน้าเล็กหลบหนีเพราะความเขินอาย มือหนาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตตัวบางออกและเปิดมันเพียงให้เห็นเนื้ออกแน่น บราเซียถูกดึงล้นลงมาไว้ใต้ราวนม นิ้วร้ายเขี่ยเล่นกับยอดประทุมสีหวาน ใบหน้าหล่อซุกลงที่ซอกคอขาว กลิ่นหอมอ่อนๆของแป้งเด็กผสมกับโลชั่นอ่อนๆ ลิ้นสากไล่เลีย ริมฝีปากหนาก็ดูดขบเม้มจนเนื้อขาวเกิดรอยแดงเป็นจ้ำ มือหนาเค้นบีบสะโพกกลม ริมฝีปากหยักครอบงำยอดประทุมทั้งสองไม่หยุดหย่อน ลิ้นหนาไล่เลียตวัดชกชิมความหวานจากเต้าอวบก่อนจะปล่อยปากออก ใบหน้าหล่อผละขึ้นมาฉกชิมรสจูบที่กลีบปากเล็กอีกครั้ง มือหนาประคองลูบใบหน้าของเธออย่างอ่อนโยน อื้มส์~ จุ๊บ! มือหนาชัดรูดลำใหญ่สองสามครั้งก่อนจะไปจ่อหัวหยักที่รูแคบ แท่งเอ็นที่ผงาดค่อยๆหายเข้าไปช้าๆในร่องเล็กแคบที่ขมิบตอดไม่หยุด"อื้อ~ จะ...จุกค่ะ อ๊ะ!" เสียงหวานครางออกมาก่อนจะซุกใบหนาเล็กลงที่ไหล่กว้าง จมูกคมกดลงมายังแก้มนวลเบาๆ "ขยับหน่อยค่ะ ถ้าพี่ทำหนูจุกนะ" เสียงแหบพร่าของร่างสูงเอ่ยกระซิบบอกด้วยน้ำเสียงแผ่ว ไม่มีเสียงตอบกลับมามีเพีย
[ไนท์]เคร้ง! เสียงกระทบกันของผิวแก้วใสที่ด้านในมีน้ำสีอำพันแกว่งไปมา มือหนายกขึ้นดื่มมันลงคอความร้อนแล่นเข้าไปภายในตัวเขา แววตาของเขามันมีเรื่องให้คิดมากมายทั้งที่เขาไม่ควรจะมาคิดเรื่องพวกนี้ด้วยซ้ำ เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำลงไปนั้นมันเป็นการแก้แค้นเพื่อความสะใจของพวกเขาหรือเพื่อต้องการที่สนองกันแน่ จะรักก็ไม่ใช่ จะเกลียดก็ไม่เชิง..."ไนท์เป็นอะไรไปรึเปล่าคะ? แพมเห็นไนท์เหม่อๆ"เสียงหวานของร่างบางในชุดเดรสเซ็กซี่ มือเล็กค่อยๆลูบไล้ตามแผงอกกว้างของเขา ตาเล็กหรี่มองด้วยความสงสัย"เปล่าน่ะ ไนท์แค่เหนื่อยช่วงนี้มีอะไรหลายอย่างให้คิดตลอด แพมอย่าสนใจเลยนะถ้าจะกลับบอกไนท์นะ"เสียงเข้มตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ดูอ่อนโยนสำหรับคนรักของเขา แต่ยิ่งมองใบหน้าสวยของเธอเขากลับรู้สึกแปลกๆในใจ ทำไมเขาต้องรู้สึกผิดต่อเธอกันนะ"โอ๊ย! กูเบื่อพวกมีความรักว่ะ แดกเหล้าไอสัส! ถ้ามึงจะแดกกันเชิญกลับบ้านครับ" ประโยคพูดเชิงหยอกดังขึ้นจากวายเพื่อนหนุ่มหน้าหวานของพวกเขา"เออเขาว่าที่นี่เป็นบ้านไอคิง รู้สึกว่าจะเป็นของพ่อมันที่เป็นหมอนะ" ประโยคของโจเอ่ยขึ้นทำให้ทุกคนต่างหันมามองหน้ากัน"ทำไมมึงไม่บอกให้เร็วกว่านี้ว่ะ







