แชร์

บทที่ 5

ผู้เขียน: ACHICHI
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-12 17:35:31

CRUSH ON YOU

CHAPTER 5

ตกเย็น

หลังจากเมื่อเช้าทำอาหารให้ไทกินเสร็จ เด็กนั่นก็ไม่ได้มาก่อกวนอะไรกลับเข้าบ้านไปเงียบเชียบเหมือนว่าจะไปนอน เพราะคืนนี้จะออกไปเที่ยวกับเพื่อน ส่วนฉันเองก็ทำกิจกรรมที่ตัวเองตั้งใจไว้จนเสร็จ แต่พอจะอาบน้ำเตรียมตัวนอนก็มีสายเรียกเข้าหน้าจอโชว์เบอร์ที่ระบุว่าเป็นแฟนของฉันเอง

“อือ”

‘วันนี้เจ๊ว่างไหม?’

“ก็ว่างจนจะหมดวันแล้วเนี่ย” ฉันหัวเราะออกมาเบา ๆ ปลายสายเองก็หัวเราะเหมือนกัน

‘เพื่อนผมอยากเจอ ออกมาเที่ยวได้ไหม?’

“…” ฉันเม้มริมฝีปากคิดหนัก เพื่อนเขาก็คือแก๊งที่เที่ยว ๆ กันอยู่ทุกคืนนั่นไง

‘เจ๊ไม่เคยออกมาเที่ยวกับผมเลย ลองมาไหม?’

“แต่ว่าเจ๊…”

‘มาเถอะน่า… เปิดหูเปิดตา’

“พรุ่งนี้เจ๊ทำงานนะ”

‘อืม… เที่ยงคืนกลับก็ได้’

“เอาจริงเหรอ? เจ๊ไม่มีชุดแบบนั้นเลย” ฉันถอนหายใจเบา ๆ เพราะรู้ดีอยู่แล้วว่าการไปเที่ยวกลางคืนจะให้ใส่เสื้อผ้าเป็นแม่ชีแบบที่ฉันมีก็กระไรอยู่

‘ไม่เป็นไรหรอกมาเถอะ ผมอยากเจอด้วย’

“…”

‘นะ ๆ ๆ ๆ ๆ’

“อือ จะมารับกี่โมง?”

22.00 น.

และฉัน… ก็รู้สึกพลาดมากที่ยอมออกมากับบาส เสียงเพลงจังหวะเร้าใจกับเสียงจอแจของผู้คนประกอบกับเพื่อน ๆ ของบาสที่มีแฟนนั่งควงกันอยู่ในท่าทางที่เรียกได้ว่าแนบสนิทกัน ทำให้ฉันอดที่จะประหม่าขึ้นมาไม่ได้

และในขณะที่สาว ๆ คนอื่นแต่งตัวเผ็ดชนิดยกพริกมาทั้งสวน แต่ฉันกลับอยู่ในชุดเดรสแขนตุ๊กตาธรรมดาแสนเรียบร้อย ในขณะที่คนอื่นกำลังนั่งหัวเราะกระดกแก้วดื่มกัน ฉันก็ทำได้เพียงนั่งอยู่ข้าง ๆ บาส ดูไม่เข้าพวกอย่างเห็นได้ชัด

“เจ๊… ดื่มได้ไม่เป็นไรหรอก” คนข้าง ๆ หันมาคะยั้นคะยออีกครั้งพร้อมส่งแก้วมาให้

“พรุ่งนี้…”

“ผมรู้แล้ว ๆ ว่าเจ๊ต้องทำงาน… แต่นี่แค่นิดเดียวเอง” ดวงหน้าหล่อยิ้มหวานคว้ามือฉันไปถือแก้วที่ว่า

“หมดแก้ว! หมดแก้ว! หมดแก้ว!”

“…”

ดูเหมือนฉันจะปฏิเสธไม่ได้แล้วเมื่อเพื่อนของเขาพากันหันมาส่งเสียงเชียร์ พยักหน้าให้ฉันรับคำท้า และเพราะไม่อยากจะทำให้คนอื่นหมดสนุกฉันก็ตัดสินใจกรอกของเหลวเย็น ๆ ลงปากจนหยดสุดท้าย รสชาติขมไหลผ่านลำคอจนรู้สึกอยากจะอาเจียนออกมา แต่ก็ทำได้เพียงหลับตากลืนมันลงไป

“เจ๊น่ารักที่สุดเลย!” บาสขยับเข้ามากอดกันแล้วหอมแก้มฉันแรง ๆ ท่ามกลางสายตาเพื่อน ๆ ที่พากันมองมาแล้วหันไปพยักหน้าให้กันเอง

พอนั่งไปได้สักพักจากหนึ่งแก้ว ก็กลายเป็นสอง จากสองก็กลายเป็นสาม… ฉันรู้สึกเหมือนเริ่มจะเมาตอนแก้วที่เท่าไรไม่อาจนับได้ถูกยื่นมาตรงหน้า บาสหันมาพยักหน้าให้อีกครั้งรอยยิ้มกว้างยังคงอารมณ์ดีเหมือนเดิม

“เจ๊ไม่ไหวแล้ว” ฉันพยายามส่งสัญญาณบอก เพราะไม่อยากจะเมามากนัก

“แก้วสุดท้ายก็ได้”

“…”

สุดท้ายแล้วฉันก็ตัดสินใจรับมันมาแล้วกระดกดื่มจนหมด เสียงคนอื่นพากันพูดคุยเสียงดังเพราะต้องแข่งกับเสียงเพลง เมื่อเห็นว่าไม่มีใครหันมาสนใจกันแล้วก็เลยทิ้งหลังพิงโซฟา บาสกำลังลุกขึ้นโยกตัวกับเพื่อนเขาที่ตอนนี้ก็ดูจะเมากันได้ที่ สาว ๆ พวกนั้นก็เหมือนกัน…

คงมีแค่ฉันที่กำลังนั่งมึน ๆ และจังหวะนั้นเองสายตาก็บังเอิญมองไปเห็นร่างสูงคุ้นตาของใครบางคนที่อยู่ห่างออกไปไม่เท่าไร ดวงหน้าหล่อจัดท่ามกลางฝูงชนกำลังมองมาทางนี้ และเพราะเห็นว่าเป็นใครฉันที่กำลังนั่งหมดท่าอยู่ถึงกับต้องขยับตัวนั่งหลังตรง

ไทยังคงมองมา เขาอยู่กับกลุ่มเพื่อนที่ก็หน้าตาดีไม่แพ้กัน

และเพราะคนอื่น ๆ ทั้งกลุ่มที่ฉันร่วมวงอยู่ และเพื่อนไทเองก็ด้วย ไม่มีใครได้หันมาสนใจ ก็เลยไม่มีใครเห็น… ฉันสะดุ้งนิด ๆ ตอนที่แจ้งเตือนแชตไลน์ในมือถือดังขึ้น

TAI: นาเมารึเปล่า?

NA: ไม่ได้เมา

TAI: สภาพแบบนั้นไทเรียกว่าเมา

NA: เดี๋ยวบาสไปส่ง

TAI: ไหนมัน?

ฉันขมวดคิ้วนิด ๆ เมื่อได้อ่านสิ่งที่ไทพิมพ์มา แล้วเงยหน้าขึ้นมองข้างตัว ก็พบว่าตอนนี้คนเป็นแฟนหายไปไหนไม่รู้ แถมยังไม่บอกกันอีกต่างหาก ฉันลดโทรศัพท์ที่ถืออยู่ลง พยายามสอดส่องสายตาหาเจ้าตัว

แต่เพราะมันมืดแถมคนยังเยอะ มองหายังไงก็ไม่เจอ…

“หมดแก้ว!”

ฉันต้องละสายตากลับมา เพราะหนึ่งในแฟนเพื่อนของบาสเดินมาทิ้งตัวนั่งลงข้าง ๆ ยกแก้วขึ้นมาชวนให้ชน แม้ว่าจะไม่อยากดื่มต่อแล้ว

แต่ในสถานการณ์แบบนี้ฉันก็เข้าใจดีว่าตัวเองจะต้องเข้าสังคมเลยจำใจต้องยกแก้วดื่มอีกครั้งอย่างช่วยไม่ได้

คนที่มาชวนให้ดื่มชวนคุยต่อทำให้ฉันลืมเรื่องไทไปเลย มีก็แต่รับแก้วมาดื่มชนิดที่ว่าแทบจะดื่มเป็นน้ำเปล่า รู้ตัวอีกทีก็มึนหัวหนักจนแทบจะคุยต่อไม่รู้เรื่อง และพอน้องมันลุกไปเต้นกับคนอื่น ๆ ฉันก็ตัดสินใจว่าจะไปเข้าห้องน้ำเพื่อตรวจเช็กระดับความเมาของตัวเอง รวมถึงจะไปโทรหาบาสด้วย

หลังจากผละออกมาเข้าห้องน้ำ และกระหน่ำโทรหาคนที่ต้องการจะให้พากลับบ้านอยู่นานร่วมสิบนาที แต่ก็ดูไม่เป็นผล ไม่รู้ว่าบาสไปไหนอีกแล้ว และไม่ยอมรับสายอีกแล้วด้วย

ฉันเริ่มรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมานิด ๆ กะว่าจะเดินกลับไปดูที่โต๊ะอีกรอบ แต่ถ้ารอบนี้ไม่เจอก็จะเรียกแท็กซี่กลับเองให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย เพราะคงนั่งดื่มต่อไม่ไหวแน่ ๆ แค่นี้ก็ตาลายแล้ว

“นา”

“…”

แต่แค่ฉันเดินเลี้ยวมุมออกมาจากห้องน้ำก็ถูกร่างสูงของใครคนหนึ่งคว้าแขนเอาไว้ ไทก้มลงมามองหน้ากันโดยที่ไม่ได้พูดอะไร ราวกับจะดูว่าฉันเมาแค่ไหน… เป็นฉันเองที่พยายามจะหลบสายตาเพราะรู้ดีว่าตอนนี้ตัวเองหน้าแดง แถมตายังลอย ๆ อีกด้วย

“นาเมาแล้ว”

“อือ เดี๋ยวจะไปบอกบาสให้พากลับแล้ว”

“…”

“ไท?”

ฉันเลื่อนคิ้วเข้าหากันเมื่อคนตรงหน้าไม่ยอมปล่อยให้เดินไป ไทเลียริมฝีปากมองกันอยู่อึดใจเหมือนกำลังชั่งใจอะไรบางอย่างก่อนจะเอ่ยต่อ

“มันไม่ได้อยู่ที่โต๊ะ”

“…”

“นาไม่ต้องรอหรอก เดี๋ยวไทพากลับเอง”

“แต่…”

“ถ้ากลับไปเดี๋ยวก็โดนชวนให้ดื่มอีก”

“…”

และฉันก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ เพราะสิ่งที่ไทพูดก็เป็นเรื่องจริง ถ้าเดินกลับไปนั่งเดี๋ยวคนนู้นคนนี้ก็พากันมาคะยั้นคะยอให้ดื่มอีกจนได้นั่นแหละ และบาสก็ดูท่าจะไม่อยู่ที่โต๊ะแบบที่ไทบอกจริง ๆ ไม่รู้ว่าหายไปไหน

มันก็น่าหงุดหงิดใจที่เจ้าตัวทำตัวแปลก ๆ อยู่เรื่อย จากที่ไม่เคยคิดอะไร แต่พักหลังมาฉันก็แอบคิดอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน…

“กลับเถอะ เมามากแล้วอันตราย” ไทไม่พูดเปล่าแต่ดึงแขนฉันให้เดินตามตัวเอง และฉันที่เมาจนแทบจะเดินให้ตรงไม่ได้ก็ไม่มีทางเลือกนอกจากเดินตามไทออกไป

ไม่ใช่ว่าไม่อยากจะรอบาส แต่เพราะมันมีแนวโน้มว่าเด็กนั่นจะทิ้งฉันไว้คนเดียวแบบที่ไทว่าจริง สุดท้ายฉันก็ต้องเลือกที่จะเซฟตัวเอง

และแน่นอนว่าไม่พอใจกับสิ่งที่คนเป็นแฟนทำเหมือนกัน

หนึ่งชั่วโมงต่อมา

เขาว่ากันว่าถ้าออกมาจากสถานที่ปิด หรือได้นั่งพักสักครู่จะสร่างเมา… แต่ดูเหมือนมันจะใช้ไม่ได้กับฉัน ตอนนี้ฉันกำลังโก่งคออาเจียนอยู่หน้าบ้านตัวเองโดยมีไทยืนลูบหลังให้

น่าทุเรศจริง ๆ

“นาเข้าบ้านไหวไหม?”

“ไหวสิ”

หลังจากใช้น้ำเปล่ากลั้วล้างปากเสร็จแล้วฉันก็ยืดตัวขึ้นยืนเต็มความสูง ร่างกายโงนเงนเล็กน้อย แต่กลับพยักหน้าทำมือเป็นรูปโอเคส่งให้คนที่ยืนอยู่ข้างกัน ไทส่ายหัวไปมาแล้วถอนหายใจ

“เดี๋ยวไทพาไปส่งที่ห้อง เดี๋ยวได้ตกบันไดกันบ้างแหละยืนให้ตรงยังไม่ได้เลย”

“เจ๊ไหวน่า…”

“อย่าดื้อ”

คนตัวโตไม่ฟังเสียง แต่พาฉันเดินเข้าบ้านด้วยการประคองเดินไป

ฉันเถียงอะไรไม่ได้นอกจากเกาะแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของไทเอาไว้ เพราะฉันก็ยืนให้ตรงแทบจะไม่อยู่แบบที่น้องมันบอกจริง ๆ

“นา”

“อือ”

“กุญแจ?”

“ก็อยู่ในกระเป๋าไง”

“ไหนกระเป๋า?”

“…”

ฉันเงยหน้าขึ้นมองไทช้า ๆ ก่อนจะเบิกตาโตเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตัวเองน่าจะลืมหยิบกระเป๋ามาจากโต๊ะที่ผับ ไทที่แค่เห็นอาการกันก็หัวเราะออกมาเบา ๆ โดยที่ไม่ต้องอธิบายอะไรด้วยซ้ำ

เพราะก่อนออกไปฉันลืมล็อกประตูรั้ว ล็อกก็แค่ประตูตัวบ้านเท่านั้นเมื่อกี้เลยไม่ทันได้สังเกต แต่ตอนนี้ก็ชัดแล้วว่านอกจากโทรศัพท์ที่ตอนนี้อยู่ในกางเกงยีนของคนตรงหน้า ที่ตัวฉันก็ไม่มีอะไรเลย

“ทะ… ทำไงดี?” ฉันพูดเสียงอ้อแอ้เริ่มรู้สึกเป็นกังวลขึ้นมา

“ขอโทรศัพท์เจ๊หน่อย”

“…” ไทไม่ได้ตอบ แต่เอาโทรศัพท์ออกมาส่งให้เหมือนจะรู้ว่าฉันจะโทรหาใคร

และใช่… คนเดียวที่มีกุญแจบ้านก็คือไนน์… ที่ตอนนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไปเมาอยู่ที่ไหน และไม่ว่าจะโทรออกกี่สายต่อกี่สายก็ต่อไม่ติด ฉันเงยหน้ามองไทอีกครั้งพร้อมทั้งเม้มปากอย่างคิดไม่ตก

“นอนบ้านไทก็ได้” เสียงเรื่อย ๆ เอ่ยบอก สีหน้าดูเต็มใจ

“แต่ว่า…”

“นาก็นอนบนห้องไท เดี๋ยวไทลงไปนอนโซฟาเอง”

“…”

ความเงียบเข้าปกคลุมบรรยากาศ เราสบตากันอีกครั้งเหมือนจะรู้กัน… ว่าระหว่างเราต้องมีระยะห่าง เพราะก็โต ๆ กันแล้วมันคงไม่ดีเท่าไรถ้าดึก ๆ ดื่น ๆ คนที่มีแฟนแล้วแบบฉันจะไปอยู่กับอีกคนในห้องนอนเดียวกัน ไทไม่พูดอะไรอีก แต่ตัดสินใจให้ด้วยการดึงตัวฉันเดินย้อนกลับไปที่บ้านตัวเองแทน

ถึงแม้จะเป็นกังวลเล็กน้อย… แต่ฉันคิดว่าไทไว้ใจได้ ไม่น่าจะคิดอะไรไม่ดี...

ห้านาทีต่อมา

“อันนี้เสื้อไท นาใส่ได้”

“อือ”

“แล้วถ้ามีอะไรก็เรียก ไทไม่ได้ออกไปไหนแล้ว”

“อือ”

“นอนได้ใช่ไหม?”

“อือ”

ฉันนั่งพยักหน้าอย่างว่าง่ายอยู่ที่ขอบเตียง ไทย่อตัวลงเงยหน้าขึ้นมองมาด้วยสายตาเป็นกังวล และเพราะเจ้าของห้องไม่ยอมออกไปสักทีฉันเลยเอ่ยปากถาม

“มีอะไร?”

“แฟนนามันโทรกลับมารึยัง?”

“…ยัง”

“ให้ไทไปจัดการให้ไหม?”

“จะบ้าเหรอ?” ฉันทำตาโตเมื่อเห็นว่าไอ้เด็กบ้าทำหน้าเหมือนเอาจริงขึ้นมา

ฉันรู้ว่าไทคงจะไม่พอใจที่เห็นว่าฉันถูกปล่อยทิ้งเอาไว้คนเดียวท่ามกลางคนเมาเป็นร้อย และคิดจะออกตัวแทน แต่ถึงงั้นฉันก็ยังไม่ได้คุยกับบาสเลย เขาอาจจะมีเหตุผลก็ได้ แม้มันชักจะแปลกหนักขึ้นทุกทีก็เถอะ

พูดกันตรง ๆ ฉันเองก็เริ่มไม่ไว้ใจในแต่ละเรื่องที่คนเป็นแฟนทำแต่ละอย่างในพักหลัง ๆ มันแค่… ระแวง… แต่ก็ยังไม่สามารถฟันธงอะไรออกมาได้จริงจังขนาดนั้น… แต่เรื่องวันนี้มันน่าโกรธจริง ๆ

“นาใจดีเกินไป”

“…” ฉันช้อนสายตามองหน้าไทอีกครั้งก่อนจะเสมองไปทางอื่นเพราะโดนคนตรงหน้าจับนิสัยกันได้

“ถ้ามันทำอะไรไม่ดีก็อย่าไปยอม แบบนั้นมันจะยิ่งได้ใจ เมื่อวานก็เทนา วันนี้ก็หายหัว…”

“มะ… ไม่เป็นไรหรอก”

“ไม่เป็นไรได้ไง? นาเป็นผู้หญิง”

“…”

ไทพ่นลมหายใจยาวแล้วผุดตัวลุกขึ้นยืน เราจ้องกันเงียบ ๆ อีกครู่หนึ่ง ไทก็ยกมือยอมแพ้แล้วเดินผละออกจากห้องไปโดยที่ไม่พูดอะไรอีก ในขณะที่ฉันนั่งนิ่งอยู่ที่เดิมเหมือนคนโง่

ไม่ใช่ว่าคิดไม่ได้ในเรื่องที่เขาพูดหรอก เพราะมันคิดได้นี่แหละ… ถึงได้กำลังนั่งวิตกอยู่นี่ไง…

โอเค… ถึงตอนนี้คงต้องยอมรับแล้วว่าในเรื่องอย่างนี้ฉันแทบไม่มีภูมิคุ้มกันอะไรเลย ไม่เคยเจอกับปัญหาแบบนี้ และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะต้องจัดการยังไง ยิ่งไทพูดมาให้คิดมันก็ยิ่งต้องคิด…

ให้ตายสิ… มันน่าโมโหตัวเองจริง ๆ

ฉันสะบัดหน้าไล่ความเครียดออกไปแล้วลุกขึ้นเดินไปที่ประตูห้องเพื่อกดล็อกลูกบิดก่อนที่จะมาเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่แค่เดินไปเห็นลูกบิดอะลูมิเนียมก็ต้องอดที่จะแปลกใจไม่ได้เมื่อเห็นว่ามันล็อกอยู่ก่อนแล้ว

คนที่เพิ่งเดินออกไปเป็นคนล็อกให้ไม่ต้องสงสัยเลย…
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • CRUSH ON YOU พี่สาวครับ   บทที่ 91

    CRUSH ON YOUตอนพิเศษ 2 3 ไอ้ไนน์เรียกไปเล่นเกมที่บ้าน… เพราะไม่มีอะไรให้ทำ ผมก็สะบัดตัวออกจากผ้าห่มเดินออกไปที่ระเบียงเพื่อที่จะใช้วิธีปีนระเบียงข้ามไปบ้านข้าง ๆ แบบที่ชอบทำเป็นประจำ ก็ขี้เกียจจะไปเข้าทางประตูหน้ารั้วนั่นแหละ และเพราะทำแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร… คน

  • CRUSH ON YOU พี่สาวครับ   บทที่ 90

    CRUSH ON YOUตอนพิเศษ 1เจ็ดปีก่อน 1 “แดกข้าวยัง?” “ยัง แม่ไม่อยู่” “เจ๊นาทำข้าวเช้าไว้ให้ มึงเข้ามากินก่อนดิ” “…” ผมชะงักไปเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้แสดงอะไรออกไปมากกว่าการเดินตามคนที่เป็นเพื่อนสนิทมาตั้งแต่เด็กแบบไอ้ไนน์เข้าบ้านหลังที่อยู่ติดกันกับบ้

  • CRUSH ON YOU พี่สาวครับ   บทที่ 89

    “อืม… เดี๋ยวไว้กินข้าวเสร็จไปดูด้วยกันก็ได้” ฉันชำเลืองมองไทอย่างแปลกใจว่าทำไมตัวฉันถึงจะต้องไปดูด้วย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เรากินข้าวกันไปคุยกันไปเหมือนทุกวันไม่ได้มีอะไรต่างจากตอนที่ยังไม่แต่งงานเท่าไร แต่ที่ต่างคงเป็นเรื่องหัวข้อในการสนทนาเปลี่ยนเป็นอะไรที่โตขึ้นไม่ใช่แค่เร

  • CRUSH ON YOU พี่สาวครับ   บทที่ 88

    CRUSH ON YOUตอนที่ 44 สองปีต่อมา เราแต่งงานกันแล้ว… ตอนนี้ฉันกับไทแต่งงานกันได้ปีกว่าแล้ว และมีลูกด้วยกันหนึ่งคน แต่คนตั้งชื่อลูกกลับไม่ใช่ฉันหรือไทหรอก เป็นไนน์ต่างหาก… คุณป้าสมรกับคุณลุงรัตน์ย้ายไปอยู่บ้านที่เพิ่งซื้อมาเมื่อปีกลายได้สักพักแล้ว ตอนแรกก็ดูเหมือนว

  • CRUSH ON YOU พี่สาวครับ   บทที่ 87

    ไทหันมาเห็นกันก็ผุดตัวลุกขึ้นยืน เพราะต้องขับรถออกไปส่งกันเหมือนทุกวัน ไนน์มองมาเล็กน้อยแล้วก็หันกลับไป “แม่มาถึงกี่โมงอะเจ๊?” “เย็น ๆ นั่นแหละ ไม่ต้องออกไปไหนอีกล่ะ” “รู้แล้วน่า” “แล้วคุณลุงคุณป้ามาถึงวันนี้ไหม?” ฉันหันกลับมาถามอีกคนที่เดินนำออกไปนอกตัวบ

  • CRUSH ON YOU พี่สาวครับ   บทที่ 86

    CRUSH ON YOUตอนที่ 43 หลายเดือนต่อมา ในขณะที่ฉันกำลังงัวเงียตื่นเพราะถูกคนบางคนกวน แต่คนกวนดูเหมือนจะตื่นเต็มตามานานแล้ว เพราะนัยน์ตาสดใสที่กำลังเงยมองกันอยู่เป็นประกายวาววับ ผ้าห่มผืนหนาถูกสะบัดออกทันทีที่ฉันลืมตาขึ้นมอง ไทที่กำลังลากลิ้นเลียตรงกึ่งกลางร่างกายยังคงทำสิ่ง

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status