Share

ตอนที่ 6 อ้อมกอดที่อบอุ่น

Auteur: DARINRAT
last update Dernière mise à jour: 2025-11-03 16:34:06

หนึ่งสัปดาห์ต่อมา…

“ก็ยังเงียบอยู่เหมือนเดิมสินะ”

ละอองฟองพึมพำกับตัวเองเสียงแผ่ว หลังจากเรียนคาบสุดท้ายของวันนี้เสร็จ เธอก็เอ่ยลาพระเพลงเพื่อนสาวคนสนิท แล้วรีบเดินตรงไปยังที่จอดรถ

เธอเปิดประตูขึ้นนั่งบนเบาะคนขับ ก่อนจะถอนหายใจออกมาพรืดยาว มือเรียวเอื้อมไปล้วงหยิบโทรศัพท์ภายในกระเป๋าขึ้นมาเปิดเช็กกล่องข้อความราวกับยังมีความหวังลึก ๆ แต่สิ่งที่เจอกลับเป็นเพียงหน้าจอว่างเปล่า ไม่มีแม้แต่การแจ้งเตือนจากคนที่เธออยากให้ส่งมามากที่สุด

ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา นับตั้งแต่วันที่เขาเดินออกจากห้องเธอไป เราทั้งคู่ก็ไม่เคยพูดคุยกันอีกเลย แม้จะบังเอิญเดินสวนกันในมหาวิทยาลัย หรือเจอกันในสถานการณ์ที่เลี่ยงไม่ได้ เขาก็เลือกที่จะทำเหมือนเธอเป็นเพียงอากาศ มองผ่านไปด้วยสายตาเฉยชา

และเธอก็ทำได้เพียงยอมรับมัน เพราะเราไม่ได้รักกัน เธอไม่ได้เป็นคนสำคัญของเขา เธอจึงไม่มีสิทธิ์เรียกร้องอะไรทั้งนั้น

แต่ถึงปากจะบอกตัวเองว่าไม่เป็นไร แต่ในใจกลับเจ็บหน่วงราวมีบางอย่างกดทับอยู่ตลอดเวลา และทุกครั้งที่ได้อยู่เพียงลำพัง น้ำตาก็มักจะไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ราวกับหัวใจไม่ยอมทำตามเหตุผลที่สมองพยายามบอกเลยสักนิด

“พอ ๆ หยุดร้อง” ละอองฟองพยายามควบคุมให้ตัวเองหยุด

แต่มันก็ทำได้ยากมาก หญิงสาวจึงยื่นมือไปหยิบทิชชูขึ้นมาเช็ดพอลวก ๆ หลังจากนั้นก็ขับรถออกมาจากมหาวิทยาลัย มุ่งตรงสู่คอนโดมิเนียมของตัวเอง

เปรี้ยง!

แต่ในขณะที่เธอกำลังนั่งรอรถติดไฟแดง เสียงฟ้าร้องกึกก้องดังขึ้นอย่างฉับพลัน ราวกับจะสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งตัวรถ ละอองฟองเผลอ

กำพวงมาลัยไว้แน่น ร่างกายเกร็งโดยไม่รู้ตัว หัวใจเต้นแรงขึ้นทุกที ความรู้สึกตื่นตระหนกค่อย ๆ แทรกซึมเข้ามา เพราะเธอเป็นคนที่กลัวเสียงฟ้าอย่างฝังลึก

ความกลัวนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเพราะความตกใจธรรมดา แต่มันเป็นบาดแผลเก่าที่ฝังอยู่ในใจมาตั้งแต่ยังเด็ก

ในความทรงจำอันเลือนรางแต่เจ็บปวด วันนั้นฝนตกหนักจนท้องฟ้ามืดมิด เสียงฟ้าผ่าดังสนั่นไม่หยุด พ่อได้ลงโทษเธอเพราะเข้าใจว่าเธอทำให้พี่สาวเกือบจมน้ำ ทั้งที่ความจริงมันเป็นเพียงอุบัติเหตุ เราไปพายเรือเล่นกัน แต่พี่สาวเธอดันลุกขึ้นเต้นจนทำให้เรือที่พายล่ม เธอพยายามอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว แต่พ่อกลับไม่ฟัง กลับขังเธอไว้ในห้องมืดเพียงลำพัง

ฟ้าร้องครั้งแล้วครั้งเล่า แสงฟ้าแลบสว่างวาบลอดผ่านช่องหน้าต่างเข้ามา เสียงฝนกระหน่ำใส่หลังคาไม่หยุด เธอตะโกนร้องไห้ขอให้พ่อเปิดประตู แต่สิ่งที่ได้กลับมามีเพียงความเงียบและเสียงฟ้าผ่าที่ดังราวกับจะแหวกหัวใจให้ขาดออกเป็นเสี่ยง ๆ

คืนนั้นทั้งคืนเธอนั่งตัวสั่นกอดเข่าตัวเองอยู่มุมห้อง รอให้ฝนหยุด รอให้เสียงฟ้าสงบ แต่เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าเกินกว่าที่หัวใจดวงเล็ก ๆ จะทนไหว เหตุการณ์นั้นฝังลึกจนกลายเป็นบาดแผลที่ไม่เคยจาง และตั้งแต่นั้นมาทุกครั้งที่ฟ้าร้อง หัวใจเธอก็ยังสั่นไหวเหมือนตอนนั้นไม่มีผิด

ตอนนี้ในรถท่ามกลางสี่แยก เสียงฟ้าผ่าดังอีกครั้ง ละอองฟองเผลอหลับตาแน่น พยายามสูดหายใจลึกเพื่อปลอบตัวเอง แต่ความรู้สึกหวาดกลัวก็ยังไล่ตามราวเงาดำในอดีตที่ไม่มีวันหายไป

ปี๊ด! ปี๊ด!

เสียงบีบแตรรถดังลั่นปลุกให้ละอองฟองสะดุ้งสุดตัว ร่างกายที่กำลังนั่งตัวสั่นเพราะความกลัวยิ่งเกร็งแน่นขึ้น เธอเงยหน้าขึ้นอย่างตื่นตกใจ ก่อนจะพบว่าไฟจราจรได้เปลี่ยนเป็นสีเขียวไปแล้ว และรถของเธอก็จอดอยู่ในตำแหน่งคันแรกที่ขวางทางทุกคันด้านหลัง

หัวใจเธอเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ ละอองฟองรีบเหยียบคันเร่งขับรถออกมาอย่างช้า ๆ แต่ความรู้สึกกลัวและความสั่นในมือยังไม่หายไปแม้แต่น้อย เธอพยายามสูดลมหายใจลึก ๆ แต่ก็เหมือนอากาศรอบตัวจะไม่พอ จึงตัดสินใจเลี้ยวจอดชิดข้างฟุตพาท

“ทำยังไงดี ไม่อยากอยู่ตรงนี้” เธอพึมพำเสียงสั่น ทั้งตัวร้อนผ่าวเหมือนจะร้องไห้ออกมาได้ทุกวินาที เธอไม่อยากนั่งอยู่ตรงนี้คนเดียว

ไม่อยากฟังเสียงฟ้าร้องอีกแม้แต่วินาทีเดียว แต่ร่างกายก็ไม่มีแรงจะขับรถต่อให้ถึงห้อง

ปึก! ปึก!

เสียงเคาะกระจกดังขึ้นสองครั้ง ละอองฟองสะดุ้งหันไปตามเสียง และหัวใจก็เต้นแรงด้วยความตกใจปนโล่งใจเมื่อเห็นว่าเป็นคินที่อยู่ข้างรถที่เธอนั่งอยู่ โดยตัวเขาเปียกฝนเล็กน้อย สีหน้าเขายังคงเรียบนิ่งเช่นเคย ซึ่งเธอเห็นแบบนั้นก็รีบเอื้อมมือไปปลดล็อกประตูทันที

“พะ…พี่คิน” ละอองฟองเอ่ยด้วยเสียงสั่นกลัว

“กลัวใช่ไหม”

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาจากเขา อบอุ่นและมั่นคงจนหัวใจเธอเหมือนถูกโอบกอดไว้ ความรู้สึกดีค่อย ๆ แผ่ซ่านไปทั่วร่าง แต่ละอองฟองก็ยังคงเลือกที่จะไม่เอ่ยคำใดออกมา เพียงแค่พยักหน้ารับเบา ๆ ทั้งที่ดวงตาเริ่มเอ่อคลอด้วยน้ำตา

“ลุกขึ้นไปนั่งเบาะข้าง เดี๋ยวฉันขับให้”

เธอทำตามโดยไม่คิดอะไร ปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วค่อย ๆ ก้าวข้ามมานั่งที่นั่งฝั่งข้างคนขับ ขณะที่คินลงมานั่งตำแหน่งคนขับแทน ก่อนจะถอดเสื้อช็อปของเขาออกมาคลุมตัวเธออย่างเบามือ

“ถ้ากลัวก็หลับตา เดี๋ยวฉันจะไปส่งที่ห้อง”

“พะ…พี่คิน หนูขอโทษ” เสียงเธอสั่นทั้งจากความกลัวและความรู้สึกผิดที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้

“คลุมเอาไว้” เขาตอบสั้น ๆ แต่สายตานั้นเต็มไปด้วยความอ่อนโยน

ละอองฟองดึงเสื้อช็อปคลุมหัวตัวเอง ปิดกั้นทั้งเสียงฟ้าและภาพรอบตัว ก่อนจะค่อย ๆ หลับตาลง ขณะที่คินเหลือบมองเธอเป็นระยะ ใบหน้าของหญิงสาวที่กำลังนั่งตัวสั่นทำให้หัวใจของเขาหนักอึ้ง

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้เห็นเธออยู่ในสภาพเช่นนี้ และเขาเอง

ก็ไม่อาจนับได้แล้วว่ามันเป็นครั้งที่เท่าไร ทุกครั้งที่ภาพนั้นปรากฏต่อสายตา ความรู้สึกสงสารและห่วงใยก็เอ่อท่วมในใจเขาเสมอ ราวกับอยาก จะปกป้องเธอจากทุกสิ่งที่ทำให้หวาดกลัว

“ละอองฟอง”

หลังจากขับรถเข้ามาจอดที่ลานจอดรถใต้คอนโดฯของเธอ คินหันมาเรียกชื่อหญิงสาวที่ยังนั่งสั่นกลัวอยู่เบา ๆ

ละอองฟองก็ค่อย ๆ ดึงเสื้อช็อปที่คลุมหัวออก แล้วเงยหน้าจ้องมองเขาด้วยสายตาไม่มั่นคง

“เป็นยังไงบ้าง” เขาถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

“.....” เธอยังคงนิ่งไม่ตอบอะไรออกมา

“ทำไมไม่พูดล่ะ” เขาถามอีกครั้ง เพราะเห็นว่าเธอเพียงแค่มองเขาอย่างเงียบ ๆ

“ทำไมพี่ถึงรู้ว่าหนูอยู่ตรงนั้นคะ”

“บังเอิญขับรถผ่าน เห็นพอดีก็เลยแวะไปดู”

คินเอ่ยโกหกออกไป เพราะความจริงแล้วเขาเห็นเธอขับรถออกจากมหาวิทยาลัยตอนที่กำลังนั่งคุยกับเพื่อนอยู่ที่หน้าคณะตัวเอง และเมื่อเห็นท้องฟ้าครึ้มฝนและบรรยากาศแปลก ๆ ชายหนุ่มจึงวานให้เสือเพื่อนสนิทตัวเองขับรถพามาดูเผื่อเธอจะเกิดอาการที่เคยเป็น แล้วมันก็เป็นจริงด้วยตามที่เขาคิด

“.....” ละอองฟองก้มหน้าลง น้ำเสียงอ่อนลง “งั้นก็ขอบคุณมากเลยนะคะที่มาส่ง ถ้าไม่ได้พี่ หนูคงขับกลับเองไม่ได้แน่ ๆ”

“ไม่เป็นไร” เขาเอ่ยตอบกลับ

“งั้นหนูไปก่อนนะคะ ส่วนรถนี่พี่ขับกลับคอนโดฯ ไปเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้หนูจะไปเอาเอง”

“.....” คินเลิกคิ้วก่อนจะเอ่ยขึ้น “เธอจะไม่ชวนฉันขึ้นห้องเธอหรือไง”

“ตะ...แต่ว่าเราสองคนคะ... (ละอองฟอง) / ตราบใดที่ฉันยังไม่ได้หมั้นกับพี่สาวเธอ ฉันก็ไม่มีพันธะอะไรทั้งนั้น (คิน)”

ละอองฟองที่ยังพูดไม่ทันจบประโยคก็หยุดชะงักไปชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยเสียงเบา ๆ “ทำไมพี่ถึงเห็นแก่ตัวจังเลยคะ”

“ฉันก็เป็นของฉันแบบนี้แหละ”

คินหันกลับมาแล้วยิ้มมุมปากอย่างไม่สะทกสะท้าน พร้อมเดินสาวเท้าตรงไปยังลิฟต์

ซึ่งละอองฝนที่มองอยู่ก็รีบวิ่งตามเขามายังหน้าลิฟต์ติด ๆ “พี่คิน~!”

“หยุดพูดได้แล้วน่า” เขาตัดบทเสียงเข้ม แต่ในน้ำเสียงนั้นยังแฝงความห่วงใยอยู่

“แต่ว่าถ้าพี่ฝนจับได้”

“ฉันจะจัดการเอง ฉันจะไม่ทำให้เธอเดือดร้อนเด็ดขาด”

พอประตูลิฟต์เปิดออก ชายหนุ่มรีบยื่นมือออกมาจับมือเธอไว้แน่น ก่อนจะดึงให้เดินเข้ามาในลิฟต์ด้วยกัน

ละอองฟองก็ไม่ขัดขืน ยอมเดินตามอย่างว่าง่าย เธอรู้สึกถึงความอบอุ่นและมั่นใจจากสัมผัสนั้น แม้ใจจะยังมีความลังเล แต่สายตาของเขาที่ส่งมาเป็นเสมือนคำสัญญาที่ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น

“ขอบคุณมากนะคะ”

“เธอขอบคุณฉันมาหลายรอบแล้ว” คินพูดพลางมองเธอนิ่ง ๆ

“หนูคิดถึงพี่มากเลย”

ละอองฟองพูดก่อนจะขยับเข้าไปโอบกอดชายหนุ่มไว้แน่น ราวกับกลัวว่าเขาจะหายไปจากอ้อมแขน ซึ่งอีกฝ่ายก็ยืนนิ่งให้เธอกอดโดยไม่ได้ผลักไส

“ในนี้มีกล้องนะ ไม่กลัวหรือไง” เขาเอ่ยเตือนเสียงเรียบ

“หนูรู้ว่าพี่คินไม่ยอมให้มันหลุดออกไปหรอก”

“มั่นใจอะไรขนาดนั้น ฉันอาจจะแกล้งโดยการให้คนไปปล่อยคลิปก็ได้”

“คิดถึงมากเลย”

เธอไม่ตอบคำถามเขา แต่กลับเอ่ยย้ำความรู้สึกของตัวเองแทน เพราะตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา เธอไม่ได้กอดเขาเลยสักครั้ง เธอโหยหาอ้อมกอดอบอุ่นนี้อย่างที่สุด

“.....” คินเงียบ ไม่พูดอะไรออกมาเลย เอาแต่ก้มมองคนที่กอดตัวเองอยู่

“ทำไมไม่มาหาหนูเลยคะ แถมเวลาเจอกันก็รีบหันหน้าหนี หมางเมินกันมาก” เธอพูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจ

“ก็เธอบอกว่าไม่อยากอยู่ในความสัมพันธ์แบบที่เราเป็นกัน ฉันก็คิดว่าเธอไม่อยากเจอฉันแล้ว ฉันก็เลยไม่ให้เธอเจอไง เธอจะได้พอใจ”

“หนูขอโทษ หนูแค่น้อยใจ”

“.....” เขายังเงียบ

“หนูรู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์อะไรทั้งนั้น แต่มันก็อดคิดน้อยใจไม่ได้ หนูขอโทษค่ะ”

“พอแล้ว ไม่ต้องขอโทษแล้ว ไปกัน”

เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก คินก็จูงมือเธอออกไปตรงห้องพัก เขาหยิบคีย์การ์ดที่อยู่ในมือเสียบเปิดประตูอย่างเคยชิน แล้วเดินเข้าไปก่อนจะเลื่อนปิดม่านหน้าต่างให้สนิท ก่อนจะกลับมาหาละอองฟองที่นั่งนิ่งอยู่บนโซฟาหน้าโทรทัศน์

“ยังกลัวอยู่ไหม” เขาถามเสียงเรียบ

“มะ...ไม่ได้กลัวละ...”

เปรี้ยง!

แต่หญิงสาวยังพูดไม่จบประโยค เสียงฟ้าผ่าก็ดังสนั่นจนเธอที่นั่งอยู่สะดุ้ง

คินที่มองอยู่ก็ก้าวเข้าไปกอดคนตัวเล็กเอาไว้แน่น มือใหญ่ลูบหลังเธอเบา ๆ ราวกับจะปลอบประโลม

“ไม่ต้องกลัว ฉันอยู่นี่ อยู่กับเธอ” คินเอ่ยเสียงทุ้ม พลางกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น

“วันนี้พี่คินจะอยู่กับหนูไหมคะ” ละอองฟองเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

“เอ่อ...คือ” คินชะงักเล็กน้อย แววตาเขามีแววลังเล เพราะช่วงค่ำนี้เขามีนัดกินข้าวกับละอองฝน พี่สาวของคนที่เขากอดอยู่

“ไม่ว่างเหรอคะ”

“อืม ฉันมีนัดกินข้าวกับพี่สาวเธอ”

เพียงแค่ได้ยินคำตอบนั้น หัวใจของละอองฟองก็สั่นระรัว แต่เธอก็ยังพยายามฝืนยิ้ม พยักหน้ารับทั้งที่ในอกมันเจ็บร้าว

“ไปเถอะค่ะ หนูอยู่คนเดียวได้”

“.....” คินมองสีหน้าเธอแล้วเอ่ยเบา ๆ ออกไป “ฉันจะรีบไปรีบมานะ”

“ไม่ต้องรีบหรอก หนูอยู่ได้”

“อยู่ได้แล้วเมื่อกี้ใครมันร้องลั่นห้อง” เขาหรี่ตามองอย่างจับผิด

“นะ...หนูแค่ตกใจ”

เธอตอบอู้อี้ในลำคอ ก่อนจะขยับตัวมานั่งเกยตักเขาแทน แขนเรียวเล็กโอบรอบเอวเขาแล้วซุกหน้าลงที่อกอย่างต้องการความอบอุ่น

คินถอนหายใจออกมาเบา ๆ ยอมปล่อยให้เธอซบอยู่อย่างนั้น มือใหญ่ลูบศีรษะเธอช้า ๆ ราวกับกำลังกล่อมให้หัวใจของเธอสงบลง ทั้งที่ตัวเขาเองก็รู้ดีว่าคืนนี้เขาอาจจะกลับมาช้ากว่าที่พูดไว้

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • Cold Guy ตกอยู่ในอ้อมกอดวิศวะคนเย็นชา   ตอนพิเศษที่ 5 โอบรั้งร่างไว้แน่น (ตอนจบ)

    หลังจากหญิงสาวปลดปล่อยคราบคาวรักออกมา จนถึงกับหอบหายใจถี่ คินก็พลันปาดลิ้นโลมเลียไปทั่วกลีบดอกไม้ เพื่อกลืนกินน้ำหวานทั้งหมดของเธอแน่นอนว่าในจังหวะนั้น ร่างกายของเธอก็พลันสั่นกระตุกอีกครั้งคล้ายคนจวนจะเสร็จสม ทั้งเสียวซ่าน ทรมานและรู้สึกสุขสมอารมณ์ไปพร้อมกัน“อึก...อื้อ พี่คิน พอแล้ว นะ...หนูเสร็จแล้ว อือ...”เธอเอ่ยเสียงสั่นพลางพยายามดันใบหน้าของชายหนุ่มอีกห่างจากตัวเอง เพราะแค่ถูกเขาสัมผัสเพียงเล็กน้อย เธอก็เสียวซ่านจนใจแทบจะขาดเสียให้ได้ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอจะถูกเขากินในห้องครัวแทนข้าวแบบนี้“หนูเสร็จแล้ว แต่พี่ยังไม่เสร็จนี่” ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมาตอบเสียงเรียบ ๆ แบบไม่อายปาก“พะ...พี่ยังไม่เสร็จแล้วจะให้หนูทำยังไงเล่า”ละอองฟองเอ่ยตอบทั้งที่หน้าแดงก่ำ ไม่กล้าสบตากับอีกฝ่าย แถมยังเริ่มรู้สึกเขินอายขึ้นมานิด ๆ จนต้องยกมือขึ้นปิดหน้าอก พลางหุบขาเข้าหากันอีกครั้งทว่าคินกลับเร็วกว่า เขาคว้าวงแขนเรียวทั้งสองข้างเอาไว้ ก่อนจะซุกหน้าเข้าหาเต้าอวบที่ชูช่อเต่งตึงล่อใจอยู่ตรงหน้า พลางอ้าปากงับด้วยท่าทางหิวโหย“อ๊ะ! อะไรกัน พี่คิน อื้ออ กินไปรอบหนึ่งแล้วนี่นา อ๊า”ละอองฟองแกล้งโวยวายเบา

  • Cold Guy ตกอยู่ในอ้อมกอดวิศวะคนเย็นชา   ตอนพิเศษที่ 4 ปรนเปรอให้อย่างถึงอกถึงใจ

    คินเดินเข้ามาในบ้านด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม อารมณ์ดีตั้งแต่ยังไม่ก้าวพ้นประตู เพราะเพียงแค่คิดว่าภรรยาสาวกำลังลงมือทำอาหารรอเขาอยู่ ความเหนื่อยล้าจากการทำงานทั้งวันก็พลันสลายไปในพริบตาโดยทันทีที่เสียงประตูบ้านปิดลง ภาพที่ปรากฏตรงหน้าก็ทำเอาหัวใจของเขาเต้นแรงกว่าเดิม เพราะตอนนี้ภรรยาสาวกำลังยืนอยู่หน้าเตาในครัว ร่างบอบบางสวมผ้ากันเปื้อนพิมพ์ลายน่ารัก ผมยาวถูกรวบขึ้นลวก ๆ ให้พ้นใบหน้า เผยลำคอระหงขาวนวล ขณะที่มือเล็กกำลังขยับปรุงอาหารอย่างคล่องแคล่วเธอกำลังฮัมเพลงเบา ๆ ไปตามจังหวะดนตรีที่เปิดคลออยู่ เสียงหวานนั้นกลมกล่อมพอ ๆ กับกลิ่นหอมจากหม้อแกงที่ลอยอบอวลไปทั่วห้องครัวคินหยุดยืนมองอยู่ตรงนั้นครู่หนึ่งโดยไม่เอ่ยอะไร แววตาคมเต็มไปด้วยความละมุน ราวกับต้องมนตร์สะกด เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าความสุขของตัวเองจะเรียบง่ายเพียงเท่านี้ การได้กลับบ้านมาเจอผู้หญิงคนนี้ที่ยืนรออยู่ในครัวริมฝีปากหยักยกยิ้มกว้างขึ้นอีกนิด ก่อนที่เขาจะเดินย่องเข้าไปข้างหลังเธออย่างเงียบเชียบ พลางยกแขนกว้างโอบเอวบางจากด้านหลังแนบแน่น ก้มหน้าซุกลงที่ไหล่ขาวพร้อมสูดกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของเธออย่างเต็มปอด“หอมทั้งกับข้าว หอมทั้ง

  • Cold Guy ตกอยู่ในอ้อมกอดวิศวะคนเย็นชา   ตอนพิเศษที่ 3 มีความสุขด้วยกัน

    “คุณหนู”ทันทีที่ร่างบางก้าวลงจากรถ เหล่าแม่บ้านต่างก็รีบวิ่งกรูเข้ามาหาด้วยสีหน้าดีใจที่ได้เห็นเจ้านายสาวกลับมา หญิงสาวเห็นดังนั้นก็รีบยกมือไหว้อย่างนอบน้อม“สวัสดีค่ะ ช่วยเอาของหลังรถเข้าไปในบ้านให้หน่อยนะคะ วันนี้หนูแวะซื้อของมาเยอะเลย” เธอกล่าวเสียงอ่อนหวาน ก่อนจะยิ้มบาง “มีขนมครกด้วยนะ เอาไปแบ่งกันกินได้เลยค่ะ”“ขอบคุณค่ะคุณหนู” เสียงแม่บ้านตอบพร้อมรอยยิ้มกว้าง ต่างช่วยกันขนของเข้าไปอย่างขะมักเขม้น“แล้วนี่คุณพ่อกับคุณแม่อยู่ไหนเหรอคะ” เธอหันไปถามแม่นมที่คอยเดินตามไม่ห่าง“คุณผู้หญิงกับคุณผู้ชายกำลังนั่งดื่มชาที่หลังบ้านค่ะ”“อ๋อ งั้นหนูไปหาคุณพ่อคุณแม่ก่อนนะคะ แม่นมไปนั่งพัก กินขนมกับพี่ ๆ เขาได้เลย”“ได้ค่ะคุณหนู” แม่นมพยักหน้า ยิ้มอย่างเอ็นดู ก่อนจะถอยออกไปหญิงสาวเดินตรงไปยังสวนด้านหลังบ้านอย่างคุ้นเคย กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกมะลิที่ปลูกเรียงรายตามทางเดินโชยมาตามสายลมอ่อน ๆ จนทำให้เธอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัวพอมาถึงหลังบ้าน ก็พบว่าคุณพ่อกับคุณแม่กำลังนั่งจิบชากันอยู่ที่ศาลากลางสวน บรรยากาศร่มรื่นจนชวนให้รู้สึกอบอุ่นใจ“คุณพ่อ คุณแม่ สวัสดีค่ะ” เธอรีบยกมือไหว้ด้วยความนอบน้อมทันทีที่

  • Cold Guy ตกอยู่ในอ้อมกอดวิศวะคนเย็นชา   ตอนพิเศษที่ 2 บรรยากาศครอบครัวที่อบอุ่น

    “สวัสดีค่ะคุณพ่อคุณแม่”ทันทีที่รถจอดสนิท ละอองฟองก็รีบเปิดประตูลงจากรถ ก่อนจะเดินจูงมือสามีหนุ่มตรงเข้าไปในตัวบ้านด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความคิดถึงคนบ้านหลังนี้เมื่อก้าวเข้ามาด้านในแล้ว เธอก็พบกับคุณพ่อคุณแม่ของคินที่กำลังนั่งเล่นอยู่กับหลานชายตัวน้อยวัยสองขวบ ลูกชายคนเล็กของคิมน้องชายฝาแฝดของสามี ซึ่งทันทีที่ทั้งสองท่านเห็นเธอเดินเข้ามา ก็ยิ้มกว้างพลางกวักมือเรียก ละอองฟองจึงรีบเดินเข้าไปกอดท่านทั้งคู่ด้วยความรักและผูกพัน“คิดถึงจังเลยลูก ตอนพี่คินโทรมาบอกว่าหนูมาหาที่บริษัท แม่ก็ตกใจนะ เพราะเมื่อวานยังคุยกันอยู่ ไม่เห็นบอกอะไรเลย”“ถ้าบอกก่อน งั้นก็ไม่เซอร์ไพรส์สิคะ” ละอองฟองยิ้มสดใส ก่อนจะหันไปโบกมือทักหลานชายตัวน้อยที่นั่งเล่นอยู่ “ตัวเล็กน่ารักจังเลยค่ะแม่”“จริงจ้ะ น่ารักมากเลย”ละอองฟองมองเด็กน้อยด้วยสายตาอบอุ่น ก่อนจะหันกลับมาถาม “แล้วพ่อแม่ของหลานไปไหนกันคะ”“พ่อแม่เขาพาเจ้าแฝดไปซื้อชุดนักเรียนน่ะลูก เปลี่ยนชั้นเรียนแล้ว ชุดมันคับก็เลยต้องไปซื้อใหม่”“อ๋อ อย่างนี้นี่เอง”ละอองฟองพยักหน้าเข้าใจ คุณแม่ก็ไม่รอช้า จูงมือเธอไปนั่งลงที่โซฟาตัวว่าง โดยมีพี่คินนั่งลงเคียงข้างไม่ห่าง

  • Cold Guy ตกอยู่ในอ้อมกอดวิศวะคนเย็นชา   ตอนพิเศษที่ 1 เซอร์ไพรส์

    ห้าปีต่อมา...“ถ้าทำมาแล้วได้แค่นี้ ทีหลังก็ลาออกไปซะ ฉันจะได้หาคนใหม่มาทำแทน” คินตวาดเสียงเข้ม พลางโยนเอกสารในมือลงกระแทกโต๊ะอย่างแรง เสียงกระดาษกระจายไปทั่วห้องประชุมจนพนักงานหลายคนสะดุ้งเฮือก หน้าซีดเผือด ต่างก้มหน้างุดไม่กล้าแม้แต่จะสบตา“วันนี้ประชุมแค่นี้ สัปดาห์หน้าหวังว่าจะไม่เป็นแบบนี้อีก ไม่อย่างนั้น เตรียมหางานใหม่ยกทีมได้เลย”น้ำเสียงเย็นเยียบของเขากระแทกลงกลางใจคนฟัง ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นเดินออกจากห้องประชุมด้วยสีหน้าตึงเครียด ขณะที่บรรยากาศหนักอึ้งยังคงคลุ้งอยู่อย่างนั้น“ท่านรองจะรับกาแฟอีกไหมครับ ผมจะได้ไปจัดการให้” ศักดนัย เลขาฯ คู่ใจที่เดินตามหลังเอ่ยขึ้นอย่างเกรงใจ“ไม่ต้อง เอางานค้างทั้งหมดเข้ามา ฉันจะเคลียร์ให้เสร็จเอง”คินถอนหายใจแรงราวกับระบายความหงุดหงิด ก่อนจะเปิดประตูห้องทำงานเข้าไป แต่พอเข้ามาด้านใน กลับมีบางสิ่งทำให้เขาชะงัก กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของน้ำหอมที่เขาคุ้นเคย กลิ่นที่ละอองฟองชอบใช้เสมอ มันอบอวลจนหัวใจเขาเผลอสั่นไหว“นี่กูคิดถึงเมียจนเพี้ยนไปแล้วเหรอเนี่ย”เขาพึมพำกับตัวเองพลางทิ้งตัวลงบนเก้าอี้หนัง ยื่นมือไปหยิบเอกสารตรงหน้าขึ้นมาพลิกดูพอให้จิตใจได้จดจ่อก

  • Cold Guy ตกอยู่ในอ้อมกอดวิศวะคนเย็นชา   ตอนที่ 45 รักคนนี้ที่สุด (ตอนจบ)

    หลายวันต่อมา...“วันนี้หนูแต่งตัวเป็นยังไง สวยไหมคะ” เสียงหวานเอ่ยถามพร้อมกับหันไปทำตาแป๋วมองคนข้าง ๆ“สวย” คินตอบสั้น ๆ แต่สายตาคมยังคงจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าเธอไม่วางตา “แต่ว่าฉันว่าแก้มมันแดงไปหน่อยนะ”ละอองฟองรีบยกมือขึ้นจับแก้มตัวเองทันที “ไม่แดงหรอก แบบนี้แหละ เทรนกำลังมา” น้ำเสียงของเธอเจือความมั่นใจปนขี้เล่นเล็ก ๆคินส่ายหน้าเบา ๆ แต่รอยยิ้มมุมปากกลับปรากฏขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่ “ตามใจ” เขาพูดช้า ๆ ราวกับจะยอมแพ้ให้กับความดื้อรั้นของคนตัวเล็ก “วันนี้วันสุดท้ายแล้ว ตั้งใจสอบให้ดี ถ้าเทอมนี้เกรดออกมาสวย อยากได้อะไรก็จะซื้อให้”น้ำเสียงทุ้มต่ำที่ดังอยู่ในรถทำให้บรรยากาศอบอุ่นขึ้นทันที แม้จะเป็นประโยคธรรมดา แต่ละอองฟองกลับยิ้มกว้างเหมือนเด็กที่ได้ยินสัญญาจากผู้ใหญ่ใจดี“จริงเหรอคะ พูดแล้วห้ามคืนคำนะ” เธอเงยหน้าขึ้นมามองทันที “อืม” เขาพยักหน้ารับสั้น ๆ “งั้นหนูอยากได้รถใหม่ เอาแบบแพง ๆ เลยนะ” เธอพูดพลางยิ้มกวน ความจริงไม่ได้อยากได้สักหน่อย แค่อยากลองเชิงเขาดูว่าถ้าเป็นของชิ้นใหญ่ขนาดนี้ เขาจะยังตามใจเธออยู่หรือเปล่าคินเหลือบตาไปมองนิดหนึ่ง ก่อนจะตอบเรียบ ๆ แต่แฝงความมั่นคงในน้ำเสียง“

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status