แชร์

บทที่ 6

ผู้เขียน: ดาวแคระ (miss.mk)
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-09-15 23:42:14

"นี่เหรอที่แกบอกตัดสินใจได้แล้ว..." ผู้จัดการสาวเอ่ยถามกับร่างบางที่นั่งฝั่งตรงข้ามพลางถอนหายใจพรืดใหญ่ด้วยความปลง

"ใช่ดิเจ๊...ไม่เคยได้ยินเหรอว่าชาบูจะเยียวยาทุกสิ่งฮ่าๆ" ใช่แล้วหลังจากที่ร่างบางนั่งเครียดอยู่นานเธอก็นึกขึ้นได้ว่าการเครียดนั้นไม่ได้ช่วยทำให้อะไรดีขึ้นเลย ก่อนที่จะลากรุ่นพี่ผู้จัดการมายังห้างหรูแล้วมุ่งตรงไปที่ร้านชาบูเจ้าโปรดของเธอทันที

"โอ้ยย...ยัยเด็กนี่!" ว่าแล้วมิกิก็มองหน้าคาดโทษเธอด้วยท่าทีที่ไม่จริงจัง ผิดกับเธอที่นั่งยิ้มพึงพอใจไปกับอาหารที่วางเรียงรายอยู่ตรงหน้า

"ขอกินก่อน เดี๋ยวก็นึกออกเองแหละ" ปากเล็กขยับบอกก่อนที่จะตักอาหารมื้อโปรดอย่างไม่สนใจคำบ่นของรุ่นพี่ผู้จัดการ

"อร่อยชะมัด" ท่าทางของเธอทำให้รุ่นพี่สาวนั้นมองดูด้วยความเอ็นดู

.

.

"อิ่มแล้วก็ต้องไปช็อปปิ้งต่อ" ว่าแล้วเสียงใสก็ลุกขึ้นพรวดเดินออกาจากร้านด้วยท่าทีสบายใจมากขึ้นโดยที่มีมิกิคอยส่ายหัวให้การกระทำของเธอ การแสดงออกถึงความสดใสร่าเริงของเธอ นั้นแหละคือการบดบังความเศร้าเอาไว้ ซึ่งมิกิก็รู้นิสัยข้อนี้ของเธอดี

"อีเจ๊!...นั้นมันคอลเลคชั่นใหม่ ต้องโดน..." นิ้วมือเรียวชี้ไปทางร้านกระเป๋าแบรนด์เนมชื่อดังก่อนที่จะลากรุ่นพี่สาวไปยังสิ่งของที่เธอต้องการด้วยแววตาที่แพรวพราว แน่นอนว่าสาวแฟชั่นอย่างเธอคงไม่ยอมพลาดให้กับของชิ้นนี้แน่...

"เฮ้อ...ฉันล่ะเหนื่อยกับแกจริงๆ" ถึงแม้จะบ่นแค่ไหนแต่รุ่นพี่สาวนั้นก็ยอมโดนลากเดินตามแรงของเธอไปโดยดี

"น้องคะ...ขอดูใบนี้ค่ะ" เสียงใสบอกพนักงานก่อนที่เจ้าตัวนั้นจะหันมาชื่นชมกับกระเป๋าใบนั้นด้วยความถูกอกถูกใจเป็นที่สุด

พรึ่บ!

และแล้วกระเป๋าใบนั้นก็ถูกยื้อแย่งจากมือพนักงานสาวไปต่อหน้าต่อตาทำให้เจ้าของร่างสวยที่ยืนยิ้มในตอนแรกหุนหันไปทางอีกคนทันที

"เอ่อ...ขอโทษนะคะคุณลูกค้า พอดีว่าลูกค้าท่านนี้เขามาก่อนนะคะ" พนักงานสาวเอ่ยบอกกับหญิงสาวที่แย่งกระเป๋าไปจากมือเธอนั้นด้วยท่าทางกระอักกระอ่วนใจที่จะพูด โดยที่มีสายตาของเกรซและมิกิมองไปยังเธอนิ่ง

"แต่ฉันสนใจใบนี้..." หญิงสาวที่มาใหม่ในชุดเดรสสั้นสีแดงตอบอย่างไม่สนใจในคำร้องขอของพนักงานก่อนที่จะหันมาเบะปากให้เธอด้วยท่าทีเหยียดหยามแล้วชื่นชมกระเป๋าใบนั้นอย่างไม่ได้แคร์สายตาของเธอสักนิด

"เอ่อ...คุณลูกค้าคะ" พนักงานที่หันไปเห็นสีหน้าเรียบนิ่งของเกรซจึงพยายามที่จะเอ่ยอธิบายกับเธอด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยสู้ดี...

"ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าเขาดูอยากได้แล้วแสดงถึงความไม่มีมารยาทขนาดนี้ก็ให้เขาไปเถอะค่ะ ฉันไม่ถือ" เสียงใสของเกรซตอบด้วยสีหน้าเรียบนิ่งก่อนที่จะฉายรอยยิ้มบางๆ ออกมาเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนั้นหันมาหาเธอด้วยความขุ่นเคือง ซึ่งนั้นแหละคือสิ่งที่เธอต้องการ

"นี่แกว่าฉันไม่มีมารยาทเหรอ!?" ริมฝีปากที่ถูกเคลือบด้วยลิปสติกสีแดงสดของอีกฝ่ายขึ้นเสียงถามเธอด้วยสีหน้าเอาเรื่อง ผิดกับทั้งสองคนที่ยังคงฉายรอยยิ้มบางๆ เมื่อเห็นว่าเธอกำลังเดือดไปกับประโยคประชดประชันของเธอ

"แล้วคุณมีหรือเปล่าคะ...มารยาทน่ะ ถ้าไม่มีก็คงรวมไปถึงคุณด้วยละมั้งคะ" เกรซตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบไม่แสดงถึงความเกรงกลัวอะไรผิดกับหญิงสาวตรงข้ามที่เริ่มไม่พอใจกับประโยคนั้นของเธอ

"แต่ถ้าตามความคิดของฉัน มันดูไม่มีมารยาทเอาสะเลย" มิกิกล่าวเสริมไปกับรุ่นน้องสาวของเธอก่อนที่จะเบะปากแสดงถึงความไม่ชอบอย่างเต็มที่

"ฮ่าๆ ฉันก็ว่างั้นแหละ ไปกันเถอะเจ๊" เจ้าของร่างสวยหุ่นดีก็หัวเราะชอบใจก่อนที่จะควงแขนรุ่นพี่ผู้จัดการหมายจะเดินออกจากร้านไป

"นี่!...แกคิดว่าแกด่าฉันแล้วจะหนีไปง่ายๆ เหรอ" แต่แล้วเท้าเรียวของทั้งสองคนก็ต้องชะงักไปเมื่อเจ้าของประโยคนั้นเดินมาขวางทางเธอไว้ แล้วนั้นไม่ได้ทำให้ทั้งสองคนเกรงกลัวขึ้นมาสักนิด การที่ได้เจอคนแบบนี้สำหรับเธอทั้งสองนับว่าเป็นเรื่องปกติมากและเธอก็ไม่คงลดตัวลงไปใช้กำลังกับคนแบบนี้สักครั้ง...เพราะสำหรับเธอแล้วมันดูสิ้นคิดสิ้นดี

"ต้องตีลังกาเดินออกไปเหรอถึงจะยากแล้วสามารถเดินออกไปได้" ก่อนที่ริมฝีบางบางได้รูปจะเอ่ยตอบด้วยท่าทียียวยกวนประสาท

"ฮ่าๆ ชอบวะ" มิกิก็หัวเราะร่าชอบใจ

"กรี๊ดดด...แก!..." เสียงแหลมกรีดร้องอย่างไม่อายใครก่อนที่มือบางของอีกคนเตรียมง้างมือหมายจะฟาดลงที่ใบหน้าเรียวของเธอ

หมับ! แต่คงไม่ทันความไวของมือเธอเพราะร่างบางตรงหน้านั้นยกขึ้นมาจับมือเธอไว้ทันด้วยความรู้ทันไปในความคิดของเธอก่อนที่จะผลักเธอจนล้มลงไปกับพื้นของร้านแบรนด์เนมชื่อดังแห่งนี้ ท่ามกลางสีหน้าตกใจของพนักงานในร้านโดยที่ไม่มีใครกล้าเข้ามาห้าม

"ขอโทษทีว่าจะเอามือเธอออกแต่ใช้แรงเยอะไปหน่อย" เกรซตอบกลับด้วยรอยยิ้มพึงพอใจไปในฝีมือของตัวเองซึ่งคำว่าขอโทษของเธอนั้นไม่มีความสำนึกผิดจริงๆ สักนิด

"เกิดอะไรขึ้น!" แต่แล้วเสียงทุ้มจากนอกร้านก็ดังขึ้นก่อนที่จะมีร่างสูงโปร่งเจ้าของเสียงเดินเข้ามาทันทีที่เห็นคู่ควงนั่งอยู่กับพื้นเขาก็รีบนั่งยองลงไปช่วยอีกคนทันที

"โอ้ยย...พี่ไลอ้อนขาโมเจ็บจังค่ะ" เจ้าของร่างบางที่ล้มอยู่กับพื้นเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มนั้นรีบรัดเดินเข้ามาช่วยก็แสดงท่าทีออดอ้อนออเซาะขึ้นมาทันทีโดยที่มีร่างบางของเกรซและมิกิที่ยืนเบะปากใช้สายตามองทั้งสองนิ่ง

"คู่หมั้นหล่อนใช่ปะ" มิกิจึงหันไปกระซิบกระซาบกับรุ่นน้องสาวด้วยความไม่แน่ใจ

"อีเจ๊...มันใช้เวลามาสงสัยไหมเนี่ย" เธอรีบตอบกลับทันที

"นี่มันเกิดอะไรขึ้น เธอทำเกินไปหรือเปล่า..." ร่างหนาที่พยุงคนที่ล้มขึ้นมาได้รีบหันมาถามเธอทันทีก่อนที่สายตาคมจะชะงักไปชั่วครู่เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้านั้นเป็น...คู่หมั้นของเขาเอง

"พึ่งจะเดินเข้ามาแต่ดันมาบอกว่าทำเกินไปไม่ตลกไปหน่อยเหรอคะ" เธอก็ตอบกลับคู่หมั้นราวกับว่าทั้งสองคนนั้นไม่ได้รู้จักกัน ซึ่งแน่นอนว่าเธอตั้งใจที่จะแสดงออกแบบนั้นอยู่แล้ว โดยที่ทั้งสองคนนั้นก็จ้องหน้ากันนิ่งอย่างไม่มีใครยอมใคร

"พี่ไลอ้อนคะ โมเจ็บแขน..." เสียงแหลมของหญิงสาวในอ้อมกอดก็ดังขึ้นทำให้เจ้าของร่างสูงโปร่งต้องชะงักจากสายตาคู่หวานแล้วหันมาสนใจเสียงนั้นทันที

"เจ๊...กลับเถอะ น่ารำคาญวะ" ปากเล็กขยับบอกกับรุ่นพี่สาวตรงไปตรงมาเมื่อนึกรำคาญกับฝ่ายตรงข้ามเต็มที เธอไม่เคยต้องมานั่งมีเรื่องกับใครนานเท่านี้มาก่อนด้วยซ้ำ

"ฉันก็ว่างั้น" นี่แหละคือความเข้าขาของเธอทั้งสองคน เพราะความมีนิสัยที่คล้ายกันทำให้ทั้งสองนั้นต่างสนิทกันและเข้าขากันง่ายเป็นที่สุด ก่อนที่สองเท้าเรียวจะสาวเท้าเดินเบี่ยงออกจากร้านไป

"เดี๋ยว...เธอต้องมาโทษฉันก่อน" ร่างหุ่นดีปากแดงพูดก่อนที่จะกระชากแขนเรียวของเธออย่างแรงทำให้ร่างเล็กที่ไม่ทันจะได้ตั้งตัวนั้นขยับไปตามแรงดึงของเธอเซไปมาแต่โชคดีที่ได้แขนเรียวของรุ่นพี่ผู้จัดการนั้นประคองร่างเธอไว้ทำให้ร่างบางทรงตัวได้ในจังหวะต่อมา

"..." เธอหันไปมองเจ้าของมือนั้นนิ่งเริ่มรู้สึกถึงความรำคาญและหงุดหงิดเต็มทน

"ถ้าคิดว่าดูแลแฟนของตัวเองไม่ได้ก็อย่าปล่อยให้เดินออกมาเพ่นพ่านเที่ยวกัดคนอื่นไปทั่ว มันน่ารำคาญ!" ร่างเล็กตอบอย่างท่าทีที่เก็บอารมณ์ก่อนที่จะฉายสีหน้าแววตาเรียบนิ่งแล้วเน้นคำสุดท้ายใส่หน้าหญิงสาวคนดังกล่าวเสียงดังกว่าเดิม แล้วหันหลังเดิินออกจากร้านด้วยท่าทางฉุนเฉียวและเสียอารมณ์ทันทีเมื่อเห็นว่าเธอเริ่มตกเป็นจุดที่น่าสนใจมากขึ้น

"เริ่ดค่ะลูกสาว เอาสะว่าที่เจ้าบ่าวยืนนิ่งไปเลย" ตามด้วยเสียงของมิกิที่เดินสับเท้าตามเธอออกมา แต่นั้นคงไม่สำคัญเท่ากับประโยคของเธอที่ทำให้หญิงสาวที่กำลังหงุดหงิดหันมามองด้วยสีหน้าเอาเรื่อง

"..."

"อ่ะโอเค ไม่เล่น" มิกิเม้มปากเข้าหากันแน่นก่อนที่จะเผยยิ้มหวานออกมาแทน

"หงุดหงิดเป็นบ้าเลย วันซวยอะไรวะ" เธอเอ่ยบ่นตามประสากระฟัดกระเฟียดแล้วเท้าเรียวก็สับเท้าเดินตรงออกไปยังลานจอดรถให้เร็วที่สุด

"แล้วไม่ช็อปปิ้งแล้วเหรอ" มิกิถาม

"ไม่มีอารมณ์!"
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • FORCED LOVE สยบ(รัก)สิงห์   บทที่ 97

    "มามี๊!..." เสียงเล็กของเด็กวัยสิบขวบวิ่งลงมาจากชั้นสองของบ้านด้วยท่าทีลนลานก่อนที่เธอจะตะโกนเรียกคนเป็นแม่เสียงดังลั่นบ้าน"ลิลินหนูวิ่งตะโกนเสียงดังอีกแล้วนะคะ มามี๊เคยบอกว่ายังไงคะ?..." ก่อนที่เกวลินที่นั่งอยู่ในโซนของห้องรับแขกจะฉายสีหน้าคาดโทษลูกสาวจอมแก่นที่ยิ่งโตมาเธอก็ยิ่งได้รับความแสบซนมากจ

  • FORCED LOVE สยบ(รัก)สิงห์   บทที่ 96

    "คืนนี้หนูจะตอบแทนพี่ให้คุ้มค่าเลยค่ะ..." ริมฝีปากเล็กขยับบอกเสียงกระเส่าพร้อมกับปลดเปลื้องผ้าเช็ดตัวออกจากเรือนร่างกำยำก่อนที่จะโยนมันทิ้งไปบนพื้นอย่างไม่ใยดี ดวงตากลมโตเลื่อนไปมองยังแก่นกายยักษ์ที่กำลังตั้งท่าเตรียมพร้อมจะรบเต็มที่ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ไม่เขินอายเหมือนแต่ก่อน เธอจับจ

  • FORCED LOVE สยบ(รัก)สิงห์   บทที่ 95

    "ทำไมถึงเงียบไปล่ะ" บรรยากาศในรถสปอร์ตหรูเต็มไปด้วยความเงียบสงบไม่มีเสียงเจื้อยแจ้วที่หลุดออกจากร่างบางของคนด้านข้างเพราะเอาแต่เม้มปากมองยังวิวทิวทัศน์ด้านนอกโดยที่ในใจยังคงคิดถึงประโยคคำพูดที่ได้ยินเมื่อครู่ที่ยังคงวนเวียนอยู่แต่ในหัวไม่สามารถที่จะปัดมันออกได้เลย"เปล่าค่ะ...ช็อปปิ้งจนเหนื่อยมั้งคะ

  • FORCED LOVE สยบ(รัก)สิงห์   บทที่ 94

    "ใช่ค่ะ มาตอนเช้าแล้วก็กลับไปแล้วค่ะ...""ทำไมหนูไม่ปลุกพี่ล่ะครับ มันมาทำไม""ใครจะกล้าปลุกล่ะคะ เมื่อคืนกว่าพี่จะได้นอนก็เล่นกับลูกยันเช้าเลยไม่ใช่เหรอคะ...เสือแค่มาเล่นกับหลานเองค่ะไม่ได้มีธุระสำคัญอะไร""อืม...งั้นเดี๋ยวพี่อาบน้ำเสร็จแล้วออกไปครับ""ไปกันค่าตัวแสบของมามี๊..." ก่อนที่ร่างเล็กของส

  • FORCED LOVE สยบ(รัก)สิงห์   บทที่ 93

    "คิคิ...เอาแบบนั้นเลยเหรอคะ""ปาป๊า...ปาป๊า~""ถ้าปาป๊าจับได้ขึ้นมา หนูต้องช่วยมามี๊ด้วยนะ...โอเคไหมคะ" สิ้นเสียงหวานเอ่ยบอก ร่างเล็กของสองแม่ลูกก็นั่งลงด้านข้างของคนตัวสูงที่ยังคงนอนหลับสนิทไม่รู้เรื่องอยู่บนเตียงนอนกว้างขวาง ก่อนที่เธอจะจัดการยัดแท่งปากกาใส่ของมือเล็กของลูกสาวตัวน้อยแล้วละเลงทำตัว

  • FORCED LOVE สยบ(รัก)สิงห์   บทที่ 92

    "พี่สิงห์!...อย่าวอแวสิคะ เดี๋ยวยัยหนูก็ตื่นเอาหรอก" ใบหน้าสวยของคนตัวเล็กที่กำลังอุ้มเด็กน้อยวัยสิบเดือนที่กำลังหลับตาพริ้มในอ้อมอกของเธอ ดวงตากลมโต จมูกทรงสวย และสีผิวขาวนวลละเอียดที่ได้จากผู้เป็นแม่มาเต็มๆ ทำให้เด็กน้อยดูน่ารักและน่าเอ็นดูไปหมด ก่อนที่เธอจะเลื่อนสายตาหันไปดุผู้เป็นสามีเล็กน้อยเมื

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status