แชร์

บทที่ 04 นักธุรกิจไฟแรง

ผู้เขียน: ดาวแคระ (miss.mk)
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-08-25 21:47:35

ฉันทำงานล่วงเลยมาจนถึงเวลาหนึ่งทุ่ม อ่า…นี่แค่วันแรกก็เหนื่อยสุดๆ แล้วแฮะ บิดไล่ความเหนื่อยล้าชั่วครู่ก็รีบเก็บของใส่กระเป๋ากลับคอนโด วันนี้อารมณ์อยากทำอาหารง่ายๆ ทานเองก็มา ยัยพะพายเลยต้องแปลงโฉมจากผู้บริหารสุดเฟียต เป็นแม่บ้านแม่เรือนสะแล้วสิ

ฉันเดินเลือกซื้อของในซูเปอร์มาร์เก็ตราวกับคนจะทานด้วยกันสิบคน การทำอาหารเหมือนได้ระบายความเครียดเลย ยิ่งเวลาได้ช็อปปิ้ง เพลินจนลืมความทุกข์ในตอนเช้าไปเลย

ครืดดดดด!

ในระหว่างที่กำลังทานข้าวอยู่ๆ เสียงแจ้งเตือนก็ดังขึ้น ฉันรีบเปิดมาดูเล่น ขมวดคิ้วเล่นน้อยกับชื่อไลน์ที่ฉันไม่ค่อยคุ้นชื่อ

LINE(NANONT)

คุณนนท์ : วันนี้ไม่มาทานข้าวเย็นที่ร้านเหรอครับ?

รูปโปรไฟล์และข้อความทำให้ฉันนึกขึ้นได้ว่าเขาคือใคร เจ้าของร้านอาหารคนนั้น

ฉัน : วันนี้คงไม่แล้วค่ะ พอดีฉันพึ่งเลิกงาน

คุณนนท์ : วันนี้ผมคงรอเก้อเลยนะครับ

ฉัน : คุณนนท์รอฉันเหรอคะ?

คุณนนท์ : ครับ

ฉัน : ไว้โอกาสหน้าฉันจะไม่พลาดค่ะ

คุณนนท์ : ได้ครับ เจอกันครับ

ฉันกดออกจากห้องสนทนาของคุณนนท์ นี่เขาดูชัดเจนมากเลยว่าจะจีบฉัน ส่วนฉันอาการตื่นเต้นที่ได้เห็นข้อความจากเขากลับไม่มีเลย แตกต่างจากเขาคนนั้นที่แค่เห็นหน้าใจฉันก็เต้นตึกตึกระรัว

ตอนเช้า

เช้าวันสดใสวันที่สองที่ฉันจะต้องไปทำงาน แต่ก่อนไปอาบน้ำขอออกไปยืนรับลมจากระเบียงก่อนแล้วกัน ฉันยืนบิดขี้เกียจแล้วสูดอากาศข้างนอกลงปอด ดวงตามองไปทางท้องถนนที่เห็นการจราจรติดขัดในกรุงเทพความรู้สึกสดชื่นก็หายไปในทันที

เฮ้อ…ชีวิตในกรุงน่าเบื่อจัง

บ่นไปก็เท่านั้นสุดท้ายก็ต้องไปทำงานอยู่ดี ฉันที่กำลังจะก้าวเข้าไปในห้องนอนชะงักกับระเบียงห้องที่อยู่ตรงข้าม เห็นแก้วกาแฟวางไว้บนโต๊ะข้างนอกสงสัยเขาคงจะออกมารับลมเหมือนกัน อยากอยู่รอทักทายนะ แต่ถ้าช้ากว่านี้ฉันอาจจะไปทำงานสายได้

"วันนี้มีออกไปพบลูกค้าเวลาสิบเอ็ดโมงแล้วก็ต้องเซ็นเอกสารนิดหน่อยค่ะ" พี่นุ่นรายงานตารางวันนี้ให้ฉันฟัง ฉันพยักหน้าเข้าใจแล้วก้มลงอ่านรายละเอียดที่ต้องไปคุยกับลูกค้า บริษัทฉันเป็นบริษัทเกี่ยวกับการนำเข้าเครื่องเพชร พลอย อัญมณีต่างๆ ฉันต้องศึกษาไว้มากๆ เพราะลูกค้ารายใหญ่ไม่ใช่ย่อยเลย

.

.

"ทางเรายินดีที่ได้ร่วมงานกับคนเก่งๆ อย่างคุณพะพายนะคะ" การเจรจาธุรกิจกับลูกค้าลุล่วงไปอย่างไม่น่าเชื่อ ผลลัพธ์เป็นไปตามที่ฉันคาด เพราะฉันมั่นใจว่าฉันศึกษาลูกค้าคนนี้มาเยอะพอสมควร งานแรกฉันไม่ควรพลาด

"ขอบคุณนะคะที่ไว้ใจบริษัทเรา" ฉันก้มหัวเล็กน้อยเพื่อขอบคุณลูกค้า แล้วหันไปยิ้มให้พี่นุ่นที่นั่งอยู่ข้างๆ พี่นุ่นก็ยิ้มกลับให้ จากนั้นเราก็ทานอาหารด้วยกันแล้วกลับมาทำงานต่อ

.

.

ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์กับการทำงาน และแล้ววันนี้ก็เป็นวันหยุดของฉัน ฉันนอนกลิ้งอยู่บนที่นอนอย่างสบายใจเฉิ่ม ไม่ได้นอนตื่นสายมาหนึ่งสัปดาห์เต็มแล้ว มันสบายแบบนี้นี่เอง

แต่ตามตารางวันนี้ฉันนัดเพื่อนไว้ ต้องรีบลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว เพราะเรานัดกันจะไปร้านน้ำฟ้า ตั้งแต่เพื่อนเปิดร้านยังไม่ได้ไปแสดงความยินดีเลย

@ร้านคาเฟ่ 'สายน้ำ'

"อ้าว…พะพายมาแล้วเหรอ มานั่งๆ" น้ำฟ้าเดินมาทางฉัน แล้วลากมือให้ฉันลงนั่งที่เก้าอี้ของร้าน ฉันกวาดสายตามองบรรยากาศการตกแต่งร้านโทนสบายตา สวยมากสมกับเป็นร้านในฝันของเธอเลย

"ร้านสวยจังน้ำฟ้า" ฉันเอ่ยชมน้ำฟ้า ที่แววตาดูมีความสุขมากเมื่อมองดูร้านตัวเอง

"ขอบคุณนะ พะพายทานอะไรเดี๋ยวน้ำฟ้าไปทำให้"

"เอาสตอเบอร์รี่ปั่นกับเค้กชาเขียว" ว่าจบเพื่อนตัวเล็กก็รีบเดินไป ตามด้วยเสียงอันเสียงดังของเพื่อนที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นใคร เพราะเสียงดังก่อนเจ้าตัวจะมาถึงเสียอีก

"ฮายค่า…คุณเพื่อน" ยัยเกรซคนดีคนเดิม มาพร้อมกับเพียงขวัญที่กลอกตาใส่ด้วยความเอือมระอา

"มึงเบาๆ หน่อยได้ไหมเกรซ เดี๋ยวลูกค้าร้านน้ำฟ้าก็หายหมดหรอก" ทันทีที่เกรซนั่งลงข้างๆ ฉันก็พูดขึ้นทันที

"เวอร์ไปพาย น้ำฟ้าอะ"

"นู้น…ทำน้ำให้กูอยู่ มึงเดินไปสั่งดิ" ฉันชี้ไปทางน้ำฟ้าที่กำลังทำน้ำสตอเบอร์รี่ปั่นให้ พร้อมกับลูกน้องในร้านสองสามคน

"มึงน้องว่าน้องน้ำฟ้าหล่อปะ" ยัยเกรซพูดขึ้น แต่สายตายังคงจับจ้องน้องน้ำหนาวอยู่

"ให้น้องเขาไปมีอนาคตที่ดีเหอะเกรซ" เพียงขวัญพูดขัดขึ้นทำให้ยัยเกรซหันขวับมามองแล้วทำตาขวางใส่เพียงขวัญเลย

"ฮ่าๆ…เออกูเห็นด้วย" แล้วฉันกับเพียงขวัญก็หัวเราะออกมาโดยที่มียัยเกรซคอยทำตาขวางใส่พวกเราไม่เลิก แต่ฉันกับเพียงขวัญก็ทำเป็นไม่สนใจ

พวกเรานั่งเม้ามอย ถ่ายรูปกันสักพัก โดยที่น้ำฟ้าเดินมาคุยบ้างเป็นบางช่วง สลับกับรับลูกค้าบ้าง แล้วแยกย้ายกันกลับ ฉันว่าจะกลับไปหาม้าสักหน่อย รับปากไว้ว่าจะกลับบ่อยๆ ถ้าไม่โผล่หน้าคงด่าเจ็ดวันแปดวัน

"เป็นไงคะลูกสาว ทำงานได้ไหม" ผู้เป็นแม่เดินมานั่งด้านข้างแล้วลูบหัวถาม

"ได้ค่ะม้า ลูกสาวม้าอะเก่งอยู่แล้ว" ฉันบอกม้าพร้อมกับยิ้มตาหยีให้

"ดีแล้วแหละ งั้นวันนี้อยู่ทานข้าวเเย็นกับม้านะ" พูดจบม้าก็เดินเข้าไปในครัว ส่วนฉันก็เล่นโทรศัพท์ฆ่าเวลาสลับกับเดินเข้าไปช่วยในครัวบ้างเป็นบางครั้ง

"ทำงานเป็นยังไงบ้างพะพาย ช่วงนี้มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?" หัวโต๊ะพูดเสียงเข้มแล้วปรายตามองฉันในระหว่างทานข้าว

"ไม่มีค่ะป๊า"

"เอ่อ…ป๊าคะ"

"??"

"บริษัทเรามีผู้ถือหุ้นคนใหม่เหรอคะ?" ฉันตัดสินใจถามในสิ่งที่ยังค้างคาในใจ แล้วอยากรู้คำตอบด้วยว่าเขาเป็นมาตั้งแต่เมื่อไหร่

"อืม คุณคมสันพึ่งขายหุ้นเพราะธุรกิจล้มละลาย ป๊าตั้งใจจะซื้อต่อ แต่ก็มีคนมาตกลงซื้อก่อนป๊า นักธุรกิจหน้าใหม่ไฟแรงไว้ใจได้ แถมเรายังรู้จักเขาอย่างดี ก็เลยไม่ได้ขัดอะไร ลูกมีอะไรหรือเปล่า?"

"เปล่าค่ะ"

ฉันคิดถึงเรื่องนี้มาตลอดทาง ถ้าเป็นผู้ถือหุ้นจริงจังงั้นแสดงว่าฉันต้องเจอกันตลอดงั้นเหรอ?

ครืดดดดดด!

LINE(NANONT)

พี่นนท์ : วันนี้เหงาแย่เลย พายไม่มาทานข้าวที่ร้าน

ฉัน : เดี่ยวพรุ่งนี้เข้าไปค่า

พี่นนท์ : โอเคครับ งั้นเราไปนอนเถอะ ฝันดีครับ

ฉัน : ฝันดีค่ะ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • FORCED LOVE มาเฟียร้ายพ่ายรัก   บทพิเศษ 03 ครอบครัว

    เจ็ดปีผ่านไปเวลาผ่านไปประมาณเจ็ดปีแล้วลูกคนเล็กของฉันเป็นลูกสาวค่ะ สมใจคุณพ่อเขาแล้วมีทั้งผู้หญิงแล้วก็ผู้ชาย ฉันเลยปิดอู่เลยค่ะ มีแค่สามคนก็พอแล้ว ตอนนี้เจ้าแฝดก็สิบขวบแล้ว ส่วนลูกสาวฉันก็เกือบจะหกขวบแล้วค่ะ"หม่ามี๊ขา หนูอยากไปดูเฮียฝึกค่ะ" พรีมลูกสาวคนสุดท้องวัยหกขวบหน้าตาจิ้มลิ้มถอดแบบฉันเดินมาหาแล้วพูดขึ้น ตอนนี้บรรดาเฮียเขากำลังฝึกพร้อมกับลูกของพี่ไลอ้อน กับพี่วินอยู่หลังบ้าน พากันยกโขยงไปหมดทำเอาลูกสาวฉันนั่งหงอยอยู่คนเดียวเลย"ไม่ได้ค่ะ เดี๋ยวเฮียก็เสร็จกันแล้ว" ฉันเอ่ยบอกลูกสาวเพราะไม่อยากให้เขายุ่งกับเรื่องของผู้ชาย ยังไงเฮียๆ เขาก็ดูแลน้องได้อยู่แล้ว"ก็ได้ค่ะ" พรีมลุกมานั่งข้างฉันพร้อมกับหยิบของเล่นมานั่งเล่นด้วย จนเวลาผ่านไปไม่นานเด็กหนุ่มสี่ห้าคนก็เดินเสียงดังเข้ามาในบ้านพร้อมกัน"เสร็จกันแล้วเหรอเด็กๆ หิวไหมแม่ทำกับข้าวรอไว้แล้ว" ฉันถามบรรดาลูกและหลานเมื่อเดินมานั่งสมทบฉันกับพรีมที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว"รอทานพร้อมป๊าก็ได้ครับ" มีเหตุผลเช่นนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากคีรัน ตอนเด็กน้อยเป็นผู้ใหญ่ยังไงตอนโตก็ไม่ต่างกันเลย สุขุม และเป็นเด็กน่าเชื่อถือมาตลอด"เฮียริวขา พรีมอยากนั

  • FORCED LOVE มาเฟียร้ายพ่ายรัก   บทพิเศษ 02 ทะเล

    @ทะเล~"หม่ามี๊ค้าบ ริวอยากไปเล่นน้ำ" คีริวพูดขึ้นทันทีที่เดินลงมาจากรถ พวกเราเลือกที่จะพักเป็นบ้านตากอากาศของพี่คีรินที่อยู่ติดกับทะเลสองหลังติดกัน แยกระหว่างผู้ใหญ่กับพวกเพื่อนๆ ฉันและเพื่อนพี่คีรินพอดีเลย"ค่อยเล่นก็ได้ครับ ตอนนี้อากาศร้อนมากเลย เย็นๆ ค่อยเล่นเนอะ" ฉันเอ่ยกับคีริวเพราะตอนนี้พึ่งจะบ่ายโมงเอง ลูกชายฉันตื่นเต้นยังกะไม่เคยมาทะเลจริงๆ"ป๊าครับรันครับ ริวอยากเล่นน้ำ" ในเมื่อขอฉันไม่สำเร็จเลยหันไปขอคนที่ชอบตามใจเขาอีกสองคน จนฉันหันไปมองคนที่ต้องให้คำตอบด้วยสายตาเรียบนิ่ง พี่คีรินและคีรันก็รีบพูดทันที"ริวมันร้อนค่อยไปเล่นตอนเย็นก็ได้" คีริวที่ทำหน้ามุ่ยเพราะโดนขัดใจ"ป๊าก็เห็นด้วย ไว้ตอนเย็นค่อยไปเล่นนะ" และยิ่งแล้วใหญ่เมื่อพี่คีรินตอบสมทบไปอีกคน"ก็ได้ครับ" จึงต้องยอมขึ้นห้องไปโดยดีเพราะเถียงยังไงก็ไม่ชนะ สามเสียงขาดลอยขนาดนี้เด็กเอาแต่ใจก็คอตกต้องเข้าไปในบ้านแต่โดยดีเราสี่คนมายังห้องนอนใหญ่ของบ้าน นอนสี่คนพร้อมกันหมดเลย นานๆ ทีที่จะนอนด้วยกัน คุณพ่อเขาเลยจัดการให้นอนด้วยกันทั้งหมด"พายนอนพักก่อนก็ได้พี่ดูลูกเอง""ไหวเหรอคะ?""สบายมากครับ" ดีเหมือนกันเพราะตอนนี้มาเจอกับ

  • FORCED LOVE มาเฟียร้ายพ่ายรัก   บทพิเศษ 01 ลูกแฝด

    ตอนนี้ฉันคลอดลูกแฝดแล้ว อายุได้สามขวบเป็นผู้ชายทั้งคู่ ฉันเลี้ยงลูกโดยที่มีพี่เลี้ยงช่วยอีกหนึ่งคนเพราะถ้าให้ฉันเลี้ยงเด็กผู้ชายเองทั้งสองคน มีหวังฉันได้หัวฟูไม่ต้องทำอะไรแน่ๆ"หม่ามี๊ค้าบ" เสียงลูกชายคนเล็กของฉันดังลั่นขึ้นโดยที่ยังไม่เห็นเจ้าตัว พี่นธีพึ่งไปรับกลับมาจากโรงเรียน มาถึงก็วิ่งเข้ามาหาฉันเลย นิสัยขี้อ้อนเหมือนกับป๊าของเขานั้นแหละ วิ่งหน้าตื่นมาแบบนี้ต้องมาขออะไรฉันแน่ๆ"ว่าไงครับ?" ฉันย่อตัวเสมอกับลูกชายแล้วถามต่อ แล้วตามด้วยลูกชายคนโตคลอดก่อนคนแรกไม่ถึงห้านาทีที่เดินตามน้องมาอย่างใจเย็นตอนนี้ฉันทำกับข้าวในครัวพร้อมกับแม่บ้านรอคุณสามีกลับมาจากทำงาน ฉันทำเก่งขึ้นเยอะเลยแหละเพราะได้สูตรจากป้าแพรมาเยอะ"ริวอยากไปทะเลค้าบ หม่ามี๊พาริวไปทะเลหน่อยนะค้าบ" นั้นไงผิดอย่างที่ฉันบอกที่ไหน คนเล็กชื่อคีริวนิสัยได้ปาป๊าเขามาหมด ลูกชายคนนี้ถ้าอยากได้อะไรขึ้นมาก็เสียงอ่อนเสียงหวาน"ได้สิครับ แล้วพี่รันล่ะอยากไปไหม?" ในขณะที่ลูกชายคนโตของฉันอีกคนที่ยืนกอดอกมองเราสองคนนิ่งๆ ชื่อคีรันนิสัยต่างกับคนเล็กสุดขั้ว นิ่งๆ ไม่ค่อยพูดมาก และมีเหตุผลมากกว่าเด็กคนอื่นทั่วไป"ผมแล้วแต่น้องครับ" คีรัน

  • FORCED LOVE มาเฟียร้ายพ่ายรัก   บทที่ 30 รักเท่าชีวิต NC++ (END)

    สามเดือนผ่านไปฉันท้องเข้าสัปดาห์ที่ยี่สิบแล้ว อาการแพ้ท้องหายไปเมื่อสองสัปดาห์ก่อน เล่นเอาฉันเพลียไปนานเลยแหละ ขนาดยังไม่ออกมายังรู้เลยว่าคงจะแสบขนาดไหน ถ้าคลอดออกมาคงแสบน่าดูเลยเจ้าก้อน พรุ่งนี้ถึงเวลาอัลตราซาวด์รู้เพศลูกแล้ว คนที่เป็นว่าที่คุณพ่อมือใหม่ตื่นเต้นจนรีบกลับบ้านเร็วกว่าปกติเลย"ทำไมกลับเร็วจังคะ?" ฉันถอดเสื้อสูทของพี่คีรินนำมาถือไว้ หลังจากที่เขาลงมานั่งที่โซฟาห้องรับแขกข้างๆ ฉัน ตามด้วยแม่บ้านที่เอาน้ำมาเสิร์ฟให้คนที่พึ่งกลับจากการทำงาน"พี่ตื่นเต้นจังพาย" พี่คีรินจับมือฉันแน่น ถึงแม้ฉันจะท้องผ่านไปแล้วราวๆ ห้าเดือน แต่คุณพ่อก็ยังคงตื่นเต้นไม่เคยเปลี่ยน ไปโรงพยาบาลกับฉันทุกครั้ง ตั้งใจฟังผลตรวจจำแม่นมากกว่าฉันที่เป็นคนท้องเสียเองอีก"ที่รีบกลับเพราะตื่นเต้นเหรอคะ?" ฉันเอียงคอถาม"วันนี้ไม่มีงานด่วนอะไรพี่เลยรีบกลับไงครับ""งัั้นไปอาบน้ำนะคะ จะได้หายเหนื่อย" ฉันถือสูธของพี่คีริน พลางขึ้นไปยังห้องนอนพร้อมกันโดยที่มีร่างสูงเดินประกบไม่ห่างอาบน้ำอะไรเสร็จก็พากันเข้านอนเพื่อไปโรงพยาบาลในพรุ่งนี้เช้าตัดภาพมาที่อีกวันคุณพ่อคุณแม่มือใหม่อย่างเราก็มานั่งอยู่ตรงหน้าหมอฮาน่าแล้

  • FORCED LOVE มาเฟียร้ายพ่ายรัก   บทที่ 29 เสน่ห์ปลายจวัก

    "ป๊าหม่าม้าสวัสดีครับ/ค่ะ" ฉันและพี่คีรินเดินเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ของป๊าและหม่าม้าพี่คีรินพร้อมกัน หย่อนตัวนั่งลงบนโซฟาโดยที่มีผู้ใหญ่สองคนนั่งรออยู่ก่อนแล้ว"ไงลูกชาย ได้แผลกลับมาด้วยนี่" ลุงคิณเอ่ยถาม"นิดหน่อยป๊า ช่วงนี้คาสิโนกำลังรุ่ง คู่แข่งเยอะนิดหน่อย""เฮ้อ…ม้าว่าเพลาๆ ความเสี่ยงบ้างก็ได้นะคีริน แฟนก็มีแล้ว บ้านก็ไม่ได้จนอยากจะรวยล้นฟ้าไปถึงไหน?" ป้าแพรบ่นต่อ ซึ่งฉันเห็นด้วยมากๆ งานคาสิโนของเขาถึงจะถูกกฏหมายของต่างประเทศ แต่มันเสี่ยงมากๆ เลย"คุณอย่าไปห้าม ปกติของคนที่อยู่ในช่วงกำลังสร้างตัวสร้างฐานะ ถ้ามีลูกก็ยิ่งทำงานหาความมั่นคงหนักกว่านี้อีก" ลุงคิณรีบพูดขัดความคิดตรงข้ามกัน ตอนนี้คงไม่ใช่แค่ถ้ามีลูกแล้ว…มีแล้วต่างหากละ ว่าที่คุณพ่อถึงได้ขยันขันแข็งขนาดนี้"หม่าม้าเลิกบ่นก่อน วันนี้ผมตั้งใจจะมาบอกข่าวดีครับ" พี่คีรินเปิดประเด็นคำพูดกับป้าแพรและลุงคิณ ส่วนฉันได้แต่จับมือพี่คีรินแน่น ลุ้นไปกับเขาที่กำลังจะเอ่ยบอกถึงหลานคนแรกของตระกูล"ว่าไงคีรินหม่าม้ารอฟังอยู่" ป้าแพรพูดขึ้นต่อแล้ว รอลุ้นกับคำพูดของพี่คีรินที่มีชั้นเชิงไม่ยอมพูดออกมาเสียที"พะพายท้องแล้ว หม่าม้ากับป๊าจะมีหลา

  • FORCED LOVE มาเฟียร้ายพ่ายรัก   บทที่ 29 เสน่ห์ปลายจวัก

    "ป๊าหม่าม้าสวัสดีครับ/ค่ะ" ฉันและพี่คีรินเดินเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ของป๊าและหม่าม้าพี่คีรินพร้อมกัน หย่อนตัวนั่งลงบนโซฟาโดยที่มีผู้ใหญ่สองคนนั่งรออยู่ก่อนแล้ว"ไงลูกชาย ได้แผลกลับมาด้วยนี่" ลุงคิณเอ่ยถาม"นิดหน่อยป๊า ช่วงนี้คาสิโนกำลังรุ่ง คู่แข่งเยอะนิดหน่อย""เฮ้อ…ม้าว่าเพลาๆ ความเสี่ยงบ้างก็ได้นะคีริน แฟนก็มีแล้ว บ้านก็ไม่ได้จนอยากจะรวยล้นฟ้าไปถึงไหน?" ป้าแพรบ่นต่อ ซึ่งฉันเห็นด้วยมากๆ งานคาสิโนของเขาถึงจะถูกกฏหมายของต่างประเทศ แต่มันเสี่ยงมากๆ เลย"คุณอย่าไปห้าม ปกติของคนที่อยู่ในช่วงกำลังสร้างตัวสร้างฐานะ ถ้ามีลูกก็ยิ่งทำงานหาความมั่นคงหนักกว่านี้อีก" ลุงคิณรีบพูดขัดความคิดตรงข้ามกัน ตอนนี้คงไม่ใช่แค่ถ้ามีลูกแล้ว…มีแล้วต่างหากละ ว่าที่คุณพ่อถึงได้ขยันขันแข็งขนาดนี้"หม่าม้าเลิกบ่นก่อน วันนี้ผมตั้งใจจะมาบอกข่าวดีครับ" พี่คีรินเปิดประเด็นคำพูดกับป้าแพรและลุงคิณ ส่วนฉันได้แต่จับมือพี่คีรินแน่น ลุ้นไปกับเขาที่กำลังจะเอ่ยบอกถึงหลานคนแรกของตระกูล"ว่าไงคีรินหม่าม้ารอฟังอยู่" ป้าแพรพูดขึ้นต่อแล้ว รอลุ้นกับคำพูดของพี่คีรินที่มีชั้นเชิงไม่ยอมพูดออกมาเสียที"พะพายท้องแล้ว หม่าม้ากับป๊าจะมีหลา

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status