แชร์

ใบไม้ - ไม่หิวข้าว แต่หิว....

ผู้เขียน: โนเนจัง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-18 02:44:28

กูแทบจะปาโทรศัพท์ทิ้ง หน้านี่ชาไปครึ่งซีก ส่งผิด! ส่งผิด! ถ้าไม่ส่งให้ฉันมันตั้งใจจะส่งให้ใคร อย่าบอกนะ ว่าอินังสายหมอยนั่น

              แม่งเอ้ย! ฉันปลดล็อคโทรศัพท์เปิดไลน์อ่านทันที ไลน์บอกว่าคิดถึง แล้วอีกห้านาทีบอกว่าส่งผิด มึงบ้าไหม!

            LINE | KAI

            [KAI: ส่งผิด]

              [BAIMAI: 🦶🏻(เอาบาทากูไป)]

              [KAI: ดุจังป้า ฉีดยารึยัง? ^^]

              ทำไมตอบเร็วนักล่ะ !!! อ่านปุ๊บปับอย่างกับเขาแนบโทรศัพท์ไว้ข้างหัว

              [BAIMAI: นายนั่นแหละ ฉีดยาต้านเอดส์รึยัง? -_-]

              [KAI: ไม่ รอเอาไปติดป้าก่อน ^^]

             

              อิไคล์! ฉันกำหมัดแน่น อยากกรี๊ดมาก และตอนนี้ความโมโหก็ทำมือฉันสั่น จนพิมพ์ตอบเขาไม่ได้ ฉันจึงรีบขับรถกลับคอนโดไปสงบสติอารมณ์

              แต่รู้อะไรไหม ฉันดันอยู่คอนโดเดียวกันกับไคล์! ตอนนั้นฉันบ้าไคล์มาก บ้าขนาดขอซื้อคอนโดแยกจากเจ๊ปลายฟ้า มาอยู่ใกล้ ๆ เขา

              โอ้ย! กูอยากจะเทขายห้องละสองบาทตอนนี้เลย

              ฉันเดินตึงตังไปกดลิฟต์ ระหว่างรอก็มองซ้ายมองขวาอย่างหวาดระแวง เพราะไคล์เขารู้ว่าฉันอยู่ที่นี่ แต่ฉันยังไม่ชวนเขาเข้าห้องนะ ฉันยังไม่ว่างแว๊กซ์ขนหน้าแข้ง

              พอ ๆ ช่างมันเถอะ กวนตีนแบบนี้ฉันไม่อยากนึกถึง รอใจเย็นลงแป๊บนึง แต่จะใจเย็นได้ไงวะ เข้ามาให้ห้องก็... ควาย ควาย ควาย ตอกย้ำกูชัด ๆ

              เตะแม่ง! โอ้ย! ไม่เอา! หงุดหงิดฉิบ หงุดหงิดจนไม่รู้จะลงกับอะไร ฉันจึงมองไปที่ระเบียงอย่างหัวเสีย ก่อนจะรีบเปิดประตูกระจกเดินออกไป

              ยืนกำมือสองข้าง เชิดหน้าขึ้น...

              “อิไคล์ อิดอก...” เหลือเชื่อ... ฉันรู้สึกโล่งมาก ห้องข้าง ๆ จะด่าพ่อด่าแม่ก็เรื่องของมัน แต่ที่ฉันแหกปากเมื่อกี้มันได้ผลจริง ๆ ตอนนี้ฉันยืนมองรถมองถนนนิ่ง ๆ ไม่รู้ว่าตัวเองจะรู้สึกยังไงต่อดี อยากเลิกชอบ แต่ก็ทำไม่ได้

              ฉันจึงเดินไปรินไวน์มานั่งจิบเงียบ ๆ จนค่ำ รถบนท้องถนนเริ่มเปิดไฟเป็นดวง ๆ และติดแจบนทางด่วน เออ... คนไทยแม่งทนเก่งว่ะ รถติดจะตายยังขับรถส่วนตัวไปทำงานกัน แต่ก็นะ มันสบายกว่ารถสาธารณะนี่หว่า

              ก็เหมือนฉันที่ชอบไคล์ ชอบมานาน ฉันมีความสุขที่ได้ชอบเขา ถึงแม้มันจะเป็นแบบเดิมซ้ำ ๆ อย่างน้อยชีวิตก็มีสีสันกับความมโนของตัวเอง เฮ้อ... มันไม่เกี่ยวกับรถติดหรอก แต่กูไม่รู้จะเปรียบอะไรดี ให้ตัวเองเป็นคนโง่ที่มีสมองคิดกับเขา

              เซ็ง... สมแล้วที่ไคล์ให้ควายกูมาหลายตัว

              ฉันดื่มไวน์เมาได้ที่ก็อาบน้ำนอน พรุ่งนี้มีประชุมแรกและประชุมเช้า เฮ้อ... ควายไคล์ ฉันขอกำลังใจหน่อยสิ

              ฉันดึงตุ๊กตาควายบนเตียงมากอดแนบอก ตั้งแต่เขาให้ฉันมา ถึงมันจะเน่าแค่ไหนฉันก็ไม่กล้าซัก เพราะฉันชินกับกลิ่นควายพวกนี้แล้ว มันคล้ายกับกลิ่นไคล์

              ตื่นเช้ามาฉันก็รีบลุกขึ้นไปอาบน้ำ ชีวิตน่าเบื่อมาก ฉันไม่ชอบงานที่พ่อให้ทำ เรียนมาก็เหนื่อยแล้ว แม่งต้องมาทำงานงก ๆ อีก ฉันอยากไปเที่ยวสักสิบปี มีผัวเป็นกัปตันพร้อมตั๋วฟรีทุกเดือน

              จริง ๆ ไม่ได้หวังอะไรเรื่องตั๋วหรอก แค่อยากมีผัวเป็นกัปตัน

              เห็นไหม! ฉันควรไปพบจิตแพทย์ เมื่อวานโดนไคล์กวนบาทามาแท้ ๆ อีกวันมากูก็พร่ำถึงเขาแล้ว

              เรื่องจิตแพทย์เอาไว้ทีหลัง เพราะตอนนี้ถึงบริษัท ฉันก็ตรงดิ่งเข้าห้องประชุมทันที ก่อนที่จะเห็นทุกคนเตรียมพร้อมกันหมดแล้ว ทั้งฝ่ายไอที การเงิน PR บลา ๆ ฉันเองก็จำไม่หมดหรอก ประชุมครั้งแรกนี่หว่า

              “สวัสดีค่ะคุณใบไม้ มาทันเวลาพอดีเลยนะคะ” ฉันเป็นผู้บริหารที่เด็กไปสินะ พนักงานอาวุโสถึงได้ถามคำถาม เชิงประชดประชันใส่

              “ดีกว่าสาย คุณมีปัญหาอะไรกับฉันไหม?” เงียบ เลขาพี่เจที่เดินตามหลัง เธอวางแฟ้มรายละเอียดการประชุมให้ฉันทันที ก่อนที่ฉันจะเลื่อนเก้าอี้นั่งมองหน้าทุกคน

              “แผนกไหนพร้อม?” แผนกไอทียกมือขึ้น ส่วนคนอื่นนั่งอ่านเอกสารตัวเอง แม่งเหมือนไม่เตรียมพร้อมกันเลย

              “ไอทีครับ”

              “งั้น... แผนกไอทีทีหลัง เชิญการเงิน”

              “คะ? กะ การเงินเหรอคะ?”

              “ใช่ ต้องให้ฉันเชิญคุณอีกกี่ครั้ง?” ป้าอาวุโสบ่นอุบอิบเบา ๆ จนเจ๊ฝ่ายการเงินเธอลุกขึ้น เดินกอดแฟ้มไปที่โปรเจคเตอร์

              พ่อรับคนเข้าทำงานประสาอะไรวะ เฉื่อยฉิบหาย

              ดูดิ แต่ละคนท่าทางไม่ได้เรื่องสักคน จะเข้าไปชุมแล้วแท้ ๆ ยังไม่พร้อม เอกสารกูว่าพิมพ์เมื่อเช้าแน่นอน เดินผ่านทีกลิ่นหมึกยังใหม่อยู่เลย

              “สวัสดีค่ะ สักครู่นะคะ” เธอเปิดแฟ้มพรึบพับอย่างลุกลี้ลุกลน อะไรวะ! นี่มันพรีเซนโครงงานของเด็กประถมเหรอ!

              “คุณเป็นผู้จัดการแผนกได้ยังไง?” ฉันถามและอ่านชื่อในแฟ้มไปด้วย ‘รษา’

              “คะ? คุณบอสเลื่อนตำแหน่งให้ เมื่อสองเดือนที่แล้วค่ะ ขอโทษนะคะที่ยัง...” ฉันยกมือขึ้น สั่งให้เงียบ

              “ฉันขอดูรายงานการเงินและการบัญชีประจำเดือน เดือนสาม เดือนสี่ เดือนห้า ก่อนหน้าที่คุณจะเลื่อนตำแหน่งขึ้นมา”

              “คะ คือฉันไม่ได้สรุปมาน่ะค่ะ เป็นของผู้จัดการคนเก่า มีแค่เดือนที่แล้วค่ะ นึกว่าหัวข้อประชุมคือยอดทั้งหมดของเดือนที่แล้ว”

              “คุณเพิ่งเป็นผู้จัดการฝ่ายการเงิน แต่ไม่มีข้อมูลยอดสรุปของผู้จัดการคนเก่าเข้าประชุมด้วย คุณทำงานได้ยังไง?”

              “คือ...”

              “หน้าที่คุณคืออะไร? รับผิดชอบอะไร? หน้าที่คุณแค่โชว์ตารางขึ้นโปรเจคเตอร์และอ่านงั้นเหรอ?”

              “คุณใบไม้คะ รษายังใหม่ค่ะ” พนักงานคนอื่นเริ่มออกปากช่วยเธอ แต่พอฉันหันไปมองก็เงียบกริบ

              “คุณไม่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้ ไปทำตัวเองให้พร้อม แล้วฉันจะพิจารณาอีกที”

              “จะลดตำแหน่งพนักงาน คุณใบไม้ต้องปรึกษาคุณบอสก่อนนะคะ” ป้าอาวุโสรีบพูดขึ้นมา

              “ปรึกษาทำไม? จะเรียกคะแนนให้พ่อฉันสงสารงั้นเหรอ ฝ่ายไอทีเชิญ ฉันไม่อยากเสียเวลา”

              ฝ่ายไอทีลุกขึ้นเสียบแฟลชไดร์ฟทันที แผนกนี้เป็นแผนกที่มีแต่ผู้ชาย ไม่จุกจิกและไม่มีทีท่าทำปากมุบมิบใส่ฉัน

              “นี่คือเว็บหลัก หน้าบ้านของบริษัทxx ตามด้วยระบบการชำระเงินที่มีความปลอดภัยสูงสุด ทางเราจะส่งมอบอาทิตย์หน้าครับ”

              ฉันมองตามเมาส์และพยักหน้าเบา ๆ

              “ส่งมอบอาทิตย์หน้า ระบบแอดมินเรียบร้อยรึยัง?”

              “เรียบร้อยครับ ตอนนี้กำลังให้ฝ่ายความปลอดภัยลองตรวจสอบ”

              “ไม่ต้อง เดี๋ยวฉันลองแฮ็กเอง ไว้เจอช่องโหว่ฉันจะเขียนรายงานไป มีรายละเอียดงานที่จะส่งอีกไหม?”

              “มีครับ... ของบริษัทนำเข้า”

              “อืม พูดมา”

              ฉันนั่งฟังแต่ละแผนก สรุปรายงานเดือนที่ผ่านมา ทั้งรู้สึกดีและไม่ดี รู้สึกดีคือผู้จัดการบางคน กระตือรือร้นที่จะตอบคำถาม และนำเสนองานตัวเอง แต่ไม่รู้สึกดีคือ ป้าแก่ ๆ ที่อยู่มารุ่นพ่อแม่ แกชอบขัดฉัน คิดว่าฉันเป็นเด็กที่ต้องฟังผู้ใหญ่

              ออกจากห้องประชุม ฉันก็เดินไปเข้าห้องน้ำ แต่ระหว่างที่ฉันก้นแตะชักโครกเล่นโทรศัพท์ เสียงหมามันก็เห่าขึ้นมาใกล้ ๆ

              “ประชุมเมื่อกี้เป็นอะไรที่เชี่ยมาก” เสียงรษาที่พยายามกระซิบบอกใครสักคน ฉันได้ยินชัดมาก

              “เออ อยู่ ๆเด็กเมื่อวานซืนก็มาลดตำแหน่งกู ไม่เห็นใจดีเหมือนเจ้านายเก่าเลยว่ะ เออ เหมือนเด็กเก็บกด ยิ้มก็ไม่ยิ้ม โคตรเกลียดคนบ้าอำนาจ”

              บ้าเอ้ย! ฉันถอนหายใจเสียงดังแล้วกดชักโครกทันที ก่อนที่จะเดินออกไปยืนพิงอ่างล้างหน้า กอดอกรอ

              “แค่นี้นะ ไปเป็นขี้ข้าเหมือนเดิมละ” ขี้ข้า... เหอะ!

              ฉันกระตุกริมฝีปากเบา ๆ อย่างสมเพช จนผู้หญิงคนนั้นที่ฉันคิดว่าเป็นผู้จัดการฝ่ายการเงิน เธอเปิดประตูห้องน้ำออกมา

              เธอเงยหน้ามองฉันตกใจมาก และพยายามก้มหน้าก้มตาเดินไปล้างมือ ไกล ๆ

              “อีขี้ข้า”

              “คะ? พูดกับดิฉันเหรอคะ”

              “ใช่...” ฉันหันไปมองรษา ที่ทำหน้าตกใจเบิกตากว้าง เธอพยายามกำมือที่เปียกๆสองข้างไว้ เพื่อสงบสติอารมณ์ อะไรของมึง กูต่างหากที่ต้องสงบสติอารมณ์!

              “ทำไมคุณใบไม้เรียกรษาแบบนั้นล่ะคะ”

              “เธอพูดเองนี่ ว่าเธอเป็น ขี้ข้า” เท่านั้นแหละ รษาเธอรีบเดินมาหาฉันทันที แต่ฉันถอยไปยืนอีกฝั่งและมองเธอหัวจรดเท้า

              “คุณใบไม้คะ คือ... รษาไม่ได้ตั้งใจค่ะ รษาแค่รู้สึกแย่ที่ถูกลดตำแหน่ง เลยพูดไปไม่คิด”

              “ฉันไม่ว่า ถ้าเธอจะด่าว่าฉันยังไง แต่จำใส่หัวด้วย ว่าที่เหยียบอยู่...มันบริษัทฉัน”

              พนักงานคนอื่นที่จะเข้าห้องน้ำ ถึงกลับรีบเบรกกะทันหัน พวกเขายืนมองฉันกับรษา จนเธอพยายามหันหน้าไปทางอื่นอาย ๆ

              “คือ...”

              “สงสัยฉันต้องเข้าห้องน้ำพนักงานบ่อย ๆ จะได้กำจัดพวกมารหัวขนทิ้ง ๆ ให้หมด ไง... ที่ยืน ๆ ฟัง มีใครอยู่แผนก HR ไหม”

              พนักงานคนนึงยกมือขึ้นอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ

              “ดิฉันค่ะ”

              “ฝากจัดการให้ฉันด้วย เอาขี้ข้าคนนนี้ออกไป” รษายืนอ้าปากค้าง และหายใจฟึดฟัดกระทืบเท้าใส่ แต่ฉันไม่สนใจ เดินออกไปผ่านพนักงานที่แหวกทางให้ กลับห้องตัวเอง

              เรื่องนี้ฉันไม่อยากคุยกับใคร เพราะฉันไม่ได้รู้สึกดีที่ได้ไล่ใครออก แต่ถ้าเขาไม่รักบริษัท ไม่รักที่จะทำงานที่นี่ ก็ออกไปเถอะ อยู่ไปก็เท่านั้น

              พอฉันมาถึงหน้าห้องทำงาน พี่เจเลขาก็ยืนขึ้นทันที ก่อนที่เธอจะทำหน้าตกใจ และชี้นิ้วที่ประตูห้องฉัน

              “อะไรคะพี่เจ?” พี่เจเลขาเธอยิ้ม แล้วก้มหน้าลง เหมือนจะเขินหรือกลัวฉันก็ไม่แน่ใจ สงสัยพ่อมาโวยฉันแน่เลย

              ฉันจึงรีบดันประตูเปิดเข้าไป จนฉันเห็นเก้าอี้ทำงานตัวเองหันหลัง และหมุนไปหมุนมาอยู่ที่โต๊ะทำงาน

              “ข่าวไวนะคะ ถามจริง ๆ เถอะ พ่อรับคนทำงานด้วยอะไร ผลงาน ความขยัน หรือนม?”

              “นม” ห้ะ! ไม่ใช่เสียงพ่อ แต่เป็นเสียง...

               อิไคล์!

              จริง ๆ ด้วย เขาหมุนเก้าอี้กลับมามองฉัน พร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ แล้วมีสิทธิ์อะไรมานั่งที่โต๊ะทำงานฉัน! อยากเป็นผัวฉันนักเหรอ?

              แม่ง... ได้เป็นจริง ๆ แล้วจะหนาว!

              “มาทำไม”

              “อยากมา” ฉันเดินไปหาเขาที่โต๊ะทำงาน แล้วกอดอกจ้องเขาแทน

              “มา ทำ ไม!” เมื่อฉันถามย้ำ เขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ก้าวมาชิดตัวฉันทันที

              ตอนนี้หน้าเราห่างกันไม่ถึงคืบ ฉันได้กลิ่นตัวหอม ๆ เขา และรู้สึกถึงลมหายใจอุ่น ๆ ของเขา

              “อยาก... มา”

              “ไคล์ ออกไปห่าง ๆ”

              “ทุกวันนี้ก็ห่างจะตายอยู่แล้ว ไม่อยากห่างเลย” เขาจับผมฉันขึ้นไปดมแล้วยิ้มจนตาหยี โอ้ย! แกจะมาไม้ไหนอีก! ดมผมขนาดนี้ กอดกูเลยสิ คืนนี้จะได้ไม่ต้องอาบน้ำ

              “อย่ามาล้อเล่นไคล์ มาทำอะไร”

              “เรื่องเว็บ แบรนด์เสื้อผ้าแม่” เออ กว่าจะพูดได้ มโนไปถึงดาวอังคารแล้วกู

              “นั่งสิ...”

              “ไม่ดีกว่า ป้ากินอะไรรึยัง? เที่ยงแล้ว ไปกินข้าวและคุยกันข้างนอกไหม” เขาล้วงกระเป๋ากางเกงถามฉัน มึง... ริมฝีปากสวย ๆ เขาไม่หุบยิ้มเลย

              ตอนนี้กูไม่หิวข้าวแล้ว กูหิวเด็ก

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • Final Call ประกาศครั้งสุดท้าย...อย่าท้าทายกัปตัน   ตอนพิเศษ | ไทเป - จบ

    ฉันขยับตัวซ้ายทีขวาทีบนโซฟา ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ที่เพิ่งวางหมาดๆ ขึ้นมากดโทรหาพี่เชนอีกครั้งแต่โทรเท่าไหร่พี่เชนก็ไม่รับ แถมสายหลังๆยังปิดเครื่องอีกต่างหากเขาขับรถอยู่ ติดประชุม หรือยุ่ง? ทำไมไม่บอกฉันบ้าง นี่จะมืดค่ำแล้วนะฉันเป็นห่วง และท้องฉันก็แก่มากด้วย ทำไมพี่เชนกล้าทิ้งฉันไว้แบบนี้ตุบๆฉันคลำท้องป่องๆที่โดนลูกถีบทันที ตอนนี้ฉันลุกขึ้นแทบจะไม่ไหวแล้ว อยู่ๆก็เริ่มหน่วงไปทั่วเชิงกราน ปวดมากๆอยู่เป็นระยะๆ"โอ๊ะ โอ้ยยยย...ปวดท้อง พี่เชน พี่เชนอยู่ไหน!"ใจเย็นๆลูก ทำไมต้องปวดวันที่พ่อไม่อยู่ด้วย!"พี่เชนนนนนน"ฉันไม่รู้จะทำยังไง จะเอื้อมหยิบโทรศัพท์กดโทรอีกครั้งก็ไม่ได้ ได้แต่ร้องเรียกกระวนกระวายบนโซฟาร้องจนน้ำตาไหลอาบแก้มร้องจนตัวเองเหนื่อย และนอนซมเม็ดเหงื่อที่เกาะไปตามใบหน้าไม่ไหวแล้ว...ตายแน่ๆ ฉันตายแน่ๆ เจ้าแฝดไม่ใจเย็นช่วยฉันเลยกริ่ง~ กริ่ง กริ่ง~เสียงกริ่งที่ดังขึ้นหน้าประตู ทำร่างที่ไร้เรี่ยวแรงของฉันฟื้นกลับมา ฉันลืมตาที่ปรืออยู่เบิกกว้าง และเมื่อหันขวับมองไปที่ประตูก็เห็นเงาร่างโตของใครยืนอยู่ตรงนั้นพอดี"ช่วยด้วย ! ชะ..ช่วยด้วยค่ะ!"'ส่งพัสดุครับ!' รู้แล้วคุณบุรุษไ

  • Final Call ประกาศครั้งสุดท้าย...อย่าท้าทายกัปตัน   ตอนพิเศษ | ไทเป - ความสุขสุดพิเศษ

    เรื่องท้องไม่ท้อง..คงต้องเอาไว้ก่อน เพราะตอนนี้ฉันกับพี่เชนถูกดึงกลับไปนั่งร่วมโต๊ะกับผู้ใหญ่แล้ว และทุกคนก็พูดเป็นเสียงเดียวว่าฉันควรมีลูกแฝด มีแข่งกับพี่เจแปนไปเลย"ไม่ไหวครับๆ คนเดียวก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่?^^" พี่เชนตอบยิ้มๆแล้วตักนู่นตักนี่ให้ฉันกิน"ไม่ไหว? เออๆเดี๋ยวยกโซลให้ไปเลี้ยงหนึ่งวัน คงไม่อยากมีลูกไปเลย" พี่กัปตันพูดนิ่งๆ..แต่ชวนทุกคนขำกลิ้งทั้งโต๊ะ แต่มีคนทำหน้าไม่พอใจคือหลานชายตัวแสบ ที่นั่งมองหน้าพ่อและเคาะช้อนพลาสติกลงจาน แกร้กๆ~โวยวายเสียงแจ๋นลั่นร้าน"แอ๊ แอ้~!""เอาเข้าไปๆ จะทำสงครามกับพ่ออีกแล้วโซล^^""แสบจริงๆหลานลุง แสบเหมือนใคร^^" พี่ฮาวายจิ้มแก้มโซลจนแก้มป่องๆยุบลง บอกเลยใครๆก็หมั่นเขี้ยวเจ้าแสบจนพี่เจแปนก้มลงถามลูก.."แสบเหมือนพ่อใช่ไหมโซล?^^""แอ้~~^^" เห็นมั้ย..โซลตอบแม่ทันที น่ารักน่าตี จนถูกพ่อกับแม่รุมหอมแก้มหอมหัวหลังจากกินข้าวงานเลี้ยงเล็กๆง่ายๆ..เราก็แยกย้ายกันกลับ พ่อแม่พี่เชนนอนโรงแรมที่สนามบินกลับกันพรุ่งนี้เช้า ส่วนฉันกับสามีกลับคอนโดนอน และแน่นอนมีฉลองกันเล็กๆในห้อง..ก็คือการปั๊มลูก เราจัดกันทันทีที่มาถึง กินหัวกินหางกินกลางตลอดตัวจนหมดแรง..."จ

  • Final Call ประกาศครั้งสุดท้าย...อย่าท้าทายกัปตัน   ตอนพิเศษ | ไทเป - วันของฉัน..

    เปิดออกมาก็เห็นลูกโป่งอัดแก๊สสีชมพู ผูกกับกระถางต้นไม้มุมระเบียง และบนผนังมีริบบิ้นหลากสีติดเป็นลูกศรชี้ลงไปข้างล่าง...ฉันจึงรีบเดินไปเกาะราวระเบียงชะเง้อมองตาม สอดส่องสายตาลงไปตามลูกศรบนผนัง..จนเห็นคนคุ้นเคยคนนึงยืนอยู่ข้างล่าง ข้างๆสระว่ายน้ำส่วนกลางของคอนโด ก่อนเขาจะเงยขึ้นเมื่อเห็นฉันยืนอยู่..และป้องปากตะโกนว่า"กลับมาแล้วค้าบบบบบบ!!^[]^"ฉันยิ้มทั้งน้ำตา..ที่เริ่มคลอออกมาสองข้าง อยากจะตะโกนกลับแต่กลัวห้องอื่นรำคาญ จึงตัดสินใจเดินกลับเข้าห้องไปหยิบโทรศัพท์ ออกมาโทรหาพี่เชนแทนฉันยกโทรศัพท์แนบหนูก้มมองคนข้างล่างยิ้มแป้น ...ห้องฉันอยู่ชั้นห้า ถึงจะเห็นหน้าเขาไม่ค่อยชัด แต่ฉันเห็นรอยยิ้มกว้างๆเขาชัดแจ๋วCalling P'Chain"ฮัลโหล..กลับมาแล้วเหรอคะ?^^" พี่เชนยิ้มแล้วโบกมือให้ฉัน ก่อนจะพูดตอบกลับมาว่า(กลับมาแล้ว..ไม่ไปไหนแล้ว ทนไม่ไหว..คิดถึงใจจะขาด)บ้าๆฉันเขินนะ หยุดเขินไม่ได้เลย>\\พี่เชนอ่ะ แล้วนี่ให้ไทเปใส่เวลส์เจ้าสาวทำไมคะ...แค่กลับมาเอง^^" ฉันทำถาม ถึงจะรู้ลึกๆว่า..เขาน่าจะเซอร์ไพรส์ขอแต่งงาน(อ้าวไม่เซอร์ไพรส์เหรอ? เฮ้อ..นี่พี่เซอร์ไพรส์ไม่เก่งใช่ไหม?)ฉันยิ้มมองคนล่างตัดเพ้

  • Final Call ประกาศครั้งสุดท้าย...อย่าท้าทายกัปตัน   ตอนพิเศษ | ไทเป - ลุ้น

    "ข้ามขั้นเลยเหรอ^^?""ข้ามเลยค่ะ ถ้าเทกันอีกอย่างน้อยไทเปก็ต้องได้อะไรบ้าง ว่าไงคะ..กล้าเทกันไหมคะ^^"พี่เชนดึงจมูกฉันทีนึงแล้วอมยิ้ม"หมั่นเขี้ยวจริงๆไม่กล้าครับ งั้นพรุ่งนี้ไปอำเภอกันเลยนะ^^"ฉันพยักหน้าหงึกๆแล้วกอดคอพี่เชนทันที ก่อนที่จะดันโน๊ตบุ๊คเขาไปห่างๆ..แล้วเอนตัวนอนราบลงโซฟา ไม่ต้องเดาว่าเกิดอะไรขึ้น ข้าวไม่ต้องกินแล้ว..ให้พี่เชนบริหารลิ้น บริหารนิ้ว บริหารเอวก่อนอิ่มกันจุกๆฉันกับพี่เชนก็ปรึกษาหารือกันเรื่องวีซ่า โดยพี่เชนให้ความเห็นว่า เราจดทะเบียนสมรสก่อนค่อยขอวีซ่ากัน และพี่เชนจะสปอนเซอร์ค่าใช้จ่ายให้ทุกอย่างเพราะฉันมันคงว่างงานไม่มีอาชีพจากนั้นหลังเรียนจบ..เราจะกลับมาจัดงานแต่งเล็กๆกันที่ประเทศไทย เพราะพี่เชนเขาไม่อยากทำงานที่อเมริกาและอยู่ที่นั่น เขาคิดถึงส้มตำปูปลาร้าร้านหน้าปากซอยที่เขากินประจำ พูดถึงก็ทำหน้าเศร้า..ทำหน้าตาน่าสงสารใส่ฉัน-_-หลังจากบริหารช่วงล่างกันทั้งคืน เช้าวันต่อมาฉันกับพี่เชนก็ไปจดทะเบียนสมรสกัน เราจดไม่ถึงชั่วโมงก็เสร็จ ได้ทะเบียนมาฉันก็เช็คและแปลเอกสาร เพื่อเตรียมยื่นวีซ่าขอติดตามสามี อุ๊ย..สามี สามี เขินจัง..สามีภรรยาถูกต้องตามกฏหมายด้วยนะ"อ

  • Final Call ประกาศครั้งสุดท้าย...อย่าท้าทายกัปตัน   ตอนพิเศษ | ไทเป - ตัดสินใจ

    สองเต้าหยุดชะงัก พร้อมกับฉันที่ค่อยๆเบิกตากว้างแล้วหันไปมองเจ้าของคำหวาน"พี่เชน...0//0""พี่รักไทเป พี่รู้แล้วว่าพี่รักไทเปจริงๆ" ได้ยินอีกครั้งน้ำตาฉันก็หยดเพาะลงแก้มขาว ก่อนฉันจะจ้องเขาน้ำตา..และค่อยๆก้มลงจุมพิตที่ริมฝีปากคู่สวยนั่น มันเป็นจุมพิตที่เนิ่นนาน นานจนวงแขนกว้างสวมกอดฉัน และดันจนเราแนบชิดกัน"รักแล้วยังไงคะ..รักแล้วจะแช่ของพี่เชนไว้แบบนี้เหรอ?.." ฉันถอนจูบประคองแก้มเขาถามเบาๆ และจ้องตาเป็นประกายของเขาไปด้วย ฉันไม่อยากร้องไห้เลย แต่ทำไมน้ำตาไหลก็ไม่รู้"ทำไม..แช่ไว้ไม่ได้เหรอ? คลอเคลียแบบนี้พี่ว่า..พี่คงได้เสียตัวอีก^^" ฉันปาดน้ำตาแล้วตีแขนพี่เชนดังเพียะ..จนเขารีบกระชับกอดและจับฉันลงไปนอนบนเตียงทันทีจากนั้นร่างใหญ่ก็ค่อยๆขยับถอดแก่นกายเปียกๆออกมา เขาขยับถูไถกับกลีบกุหลาบช้าๆจนมันผงาดขึ้นอีกครั้ง..."พะ..พี่เชน อื้ม~~ ไหวเหรอคะ?""พี่ตุนไว้เพียบ...แต่รอบนี้นานหน่อยนะ"และฉันก็เสียตัวอีกรอบ ไม่สิพี่เชนเสียตัวต่างหาก ไอ้เค้กช็อคโกแล็ตกับข้าวเหล้าไวน์ พี่เชนไม่ได้กินไม่ได้แตะหรอก เรามีอะไรกันจนสลบเหมือบกันทั้งคู่ รู้สึกตัวตื่นอีกทีก็เช้าตรู่อิ่มจนจุกกันไปเลยเช้า..ฉันนอนคว่ำ

  • Final Call ประกาศครั้งสุดท้าย...อย่าท้าทายกัปตัน   ตอนพิเศษ | ไทเป - ลอง

    "ฉันขอเวลาคิด ถึงฉันอยากกลับไปแค่ไหน เธอต้องเข้าใจฉันนะพิมดาว..ว่าฉันต้องเซฟตัวเองด้วย คนเคยเจ็บมา คนเคยถูกทิ้งมา..ฉันใช้เวลาไม่น้อยเลยนะกว่าจะยืนด้วยขาตัวเองได้"ฉันพูดทั้งน้ำตาและมองพิมดาวไปด้วย จนมือที่จับมือฉันค่อยๆคลาย..และแตะเบาๆ"โอเคๆฉันเข้าใจ แต่อย่าเผลอใจให้คนอื่นนะ ถ้าเรื่องนี้เธอดึงคนอื่นเข้ามา มันจะวุ่นวายไปใหญ่ ให้มันมีแค่เธอกับพี่เชนก็พอ ฉันเป็นกำลังใจให้เธอนะไทเป..ทุกๆเรื่องเลยสู้ๆ"ฉันพยักหน้าหงึกๆเหมือนเด็กสามขวบที่โดนโอ๋ จนพิมดาวลุกขึ้นมากอดและลูบหลังฉัน เธอลูบเบาๆแต่เหมือนฉันได้กำลังใจมหาศาล จนสักพัก..ฉันหยุดร้องไห้ ปาดน้ำหูน้ำตาที่ไหลเงยหน้าขึ้นมองเธอ"ฉันจะลองดู..แต่เธออย่าบอกเขาได้ไหม ว่าฉันรู้สึกยังไง""โถ่ไทเป..ไม่บอกพี่เชนก็รู้ กับพี่เชนเธอเคยห้ามใจตัวเองได้เหรอ? แววตาเธอมันฟ้องจะตาย " ฉันเงียบกริบเม้มปากนิดๆคิดตามคำพูดพิมดาวก็จริง..พิมดาวพูดถูก ฉันควบคุมไม่ได้เลย ยิ่งเจอเขาความต้องการฉันยิ่งมาก ฉันต้องการเขา อยากกอดเขา อยากทุกๆอย่าง และเมื่อวานฉันพยายามสุดๆที่จะไม่กระโจนใส่เขาคุยกับพิมดาวเสร็จฉันก็กลับคอนโดนอน ฉันไม่อยากไปไหนแล้วจริงๆ อยู่ๆก็อยากกลับห้องมา

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status