LOGINผมโมโหมาก ตั้งแต่เริ่มแดกยันจ่ายเงิน
จนตอนนี้ผมขับรถมาส่งนิ้งที่หน้ามหาลัยก็ยังหงุดหงิดไม่หาย นี่ถ้าไอ้เด็กเสิร์ฟนั่นมันทำมากกว่านั้นนะผมจะไม่ทำอะไรมันหรอก เชื่อดิ แต่จะพังร้านแม่งเลย
คะนิ้งยังมีท่าทางงุนงงไม่หาย ตอนที่เธอลงจากรถแล้วส่งหมวกกันน็อคให้ผม ผมพยายามแล้วที่จะไม่หงุดหงิดใส่เธอ แต่ก็เผลอกระชากหมวกกันน็อคมาอย่างรุนแรงนิดหน่อย นิ้งเซไปนิดๆ แล้วผมก็คว้าเอวเธอไว้อย่างเพิ่งรู้สึกตัว
“เฮ้ย ขอโทษ” เธอทำหน้าเหวอ ส่วนผมก็ได้แต่ขยี้หัวแรงๆ ในขณะที่จะผละมือออกเมื่อเธอทรงตัวได้แล้วร่างเล็กก็ดันมือผมออก “เราโทรไปหาส้มหวานอะไรนั่นของเธอแล้วนะ เดี๋ยวเพื่อนเธอจะตามมาทีหลัง”
ใช่ เพราะโทรศัพท์ของคะนิ้งแบตหมดผมก็เลยอาสาจะโทรหาเพื่อนเธอให้ ถึงแม้ตอนแรกเธอจะมีท่าทีไม่เต็มใจ แต่สุดท้ายเธอก็ไม่มีทางเลือกเลยให้ผมโทรให้อยู่ดี
ถึงผมจะหงุดหงิด แต่เธอก็คือที่หนึ่งในใจผมนะรู้ตัวไว้ซะด้วย
“อะ... โอเค” เธอพยักหน้า “งั้นหนูไปแล้วนะคะ ขอบคุณที่เลี้ยงก๋วยเตี๋ยวค่ะ”
เธอพูดขอบคุณเสร็จก็พร้อมจะหมุนตัวหนีเข้ารั้วมหาลัย แล้ววินาทีนั้นผมก็เห็นว่าผู้ชายที่เดินเข้าออกประตูหน้ามหาลัยเอาแต่มองตัวเล็กๆ ที่สมส่วนของคะนิ้งแบบไม่วางตา ก็เธอสวยแถมยังน่ารัก ความหงุดหงิดของผมก็เลยยิ่งเพิ่มขึ้นไปแบบทวีคูณ
“เดี๋ยว” และพอคิดได้แบบนั้นผมก็คว้าแขนเธอให้คะนิ้งหันมาเผชิญหน้าด้วย เธอเบิกตากว้าง ในขณะที่ผมจะกุมมือเธอไว้แน่น “เราเข้าไปรอด้วยได้มั้ยวะ?”
“หะ... หา”
“เราไม่อยากให้เธอนั่งคนเดียว ผู้ชายไม่น่าไว้ใจเยอะแยะ” ผมตัดสินใจที่จะพูดออกมาด้วยเจตนาตรงๆ ในขณะที่เลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้คะนิ้งที่แทบผงะหนี “พูดง่ายๆ คือเราหวงเธอ”
“...!”
“เราไม่อยากให้ใครจีบเธอทั้งนั้นอ่ะ แค่มองก็ไม่ชอบ”
“...”
“ให้เราไปเฝ้าเธอได้มั้ยวะ เดี๋ยวเย็นนี้เราไปส่งที่หอ สัญญาว่าจะไม่ทำอะไร”
“...”
“สาบานเลยก็ได้”
ผมก็แค่อยากอยู่ใกล้ๆ เธอแค่นั้นว่ะ เอาจริงๆ
[จบพาร์ท : ฉลามดุ]
สุดท้ายฉันก็เลยต้องจำใจให้ฉลามดุมานั่งรอส้มหวานด้วยกัน
ถึงแม้ว่าฉันจะแอบกลัวๆ อยู่บ้าง แต่ฉันเป็นคนไว้ใจคนง่าย ดูแล้วฉลามดุก็แค่ใจร้อนแต่เขาก็ไม่ได้มีพิษมีภัยอะไร ฉันก็เลยพอจะคลายความกลัวลงได้บ้างนิดหน่อย
แต่... แต่ฉันก็ยังไม่ได้ชอบเขาหรอกนะ
“นิ้งนี่เนื้อหอมว่ะ” ฉันสะดุ้งเมื่อนั่งอยู่ด้วยกันดีๆ ฉลามดุก็โพล่งขึ้นมา นานแล้วที่เขาจอดรถแล้วเดินลากฉันเข้ามานั่งด้วยกันที่ม้าหินอ่อนหน้ามหาลัย มีแต่คนมองมาทางนี้ทั้งนั้น เขาก็เลยพูดมันขึ้นมาด้วยสีหน้าหงุดหงิดแบบนี้
“นะ... เนื้อหอม?” ว่าแต่... เขาพูดอะไรอ่ะ เนื้อหอมเหรอ ฉันเนื้อหอมตรงไหน? “ไม่เห็นเนื้อหอมเลย”
“นี่ไม่รู้ตัวเลยเหรอ” เขาหันมาทำสีหน้าไม่พอใจใส่ฉัน แล้วอยู่ๆ ก็ชี้ไปรอบๆ จนคนที่มองเราอยู่ต้องชะงัก “ก็เห็นอยู่ว่าพวกผู้ชายมองแต่เธอ”
“...”
“เราหงุดหงิดจะตายอยู่แล้วเนี่ย” เขาเลื่อนมือข้างนั้นมากอดอก ฉันก็เลยอึดอัดจนไม่รู้จะพูดอะไร ก็เขาอาจจะแค่มองมาทางนี้เฉยๆ ก็ได้นี่นา ก็ฉลามดุน่ะสะดุดตาคนจะตาย ดูเขาเถื่อนๆ แบบนี้แต่เขาก็หน้าตาดีนะ “เธอช่วยน่ารักน้อยลงหน่อยได้ปะ”
“...”
“ช่วยทำตัวให้น่ารักน้อยลงหน่อย คนมอง ไม่ชอบ”
ละ... แล้วจะให้ฉันทำยังไง นี่เขาพูดอะไรเนี่ย
“... ไม่เข้าใจที่คุณพูดเลย”
“ก็เธอน่ารักไง ไม่รู้เหรอ... คนอื่นเขาก็มองเธอไง มองแบบที่เรามองอ่ะ เราไม่ชอบ โคตรไม่ชอบ” ฉันทำสีหน้าตกใจเมื่อเขาพูดยืดยาวใส่ แล้วสีหน้าของฉลามดุก็ดูจะฉุนจัดเอามากๆ “บอกแล้วไงว่าเราหวง ไม่ได้เป็นอะไรก็หวง เข้าใจยัง”
อะ โอ้ย
“ขะ... เข้าใจก็ได้” ฉันแทบจะเบะหน้าอยู่ตรงนั้นเพราะพูดอะไรไม่ออก เขาพูดตรงเกินไปแล้วนะ ฉันทำตัวไม่ถูกอีกแล้วเพราะคำพูดของเขาเนี่ย “เค้าอาจจะมองเฉยๆ ก็ได้นะ ก็คุณ...”
“อะไร”
“ก็คุณ... ก็ไม่ได้แย่ ผู้หญิงก็มองคุณเหมือนกัน... นะ” ท้ายประโยคเสียงฉันเบาลงเพราะจู่ๆ ฉลามดุก็คว้าหมับเข้าที่ต้นแขน แล้วดึงให้เข้ามาใกล้ๆ จนใบหน้าของเขาอยู่ใกล้ปลายจมูกของฉันมาก แล้วร่างสูงก็เริ่มกระซิบ
“หึงเหรอ” ฉันเบิกตากว้างสุดๆ ในขณะที่จะมองไปทางอื่นอย่างเลิ่กลั่ก คนอื่นเค้ามองมาที่เรากันหมดแล้วนะ
“มะ... ไม่ได้หึง”
“แล้วพูดทำไมว่าผู้หญิงมองเยอะ” ฉันทำสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกเมื่อเขาถามออกมาตรงๆ อย่างไม่คิดจะปล่อยคำถามทิ้งง่ายๆ ฉันอ้าปากจะตอบ แต่ต่อมาก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาทางที่นั่งของเราทั้งคู่จนฉันต้องเม้มปากเข้าหากันอย่างตกใจ
เธอเป็นผู้หญิงที่ดูสวยน่ารักมากคนหนึ่ง ฉันจำได้ลางๆ ว่าเธอเป็นดาวคณะนิเทศน์ แต่เธอไม่ได้สนิทกับฉันนี่ เราแทบไม่ได้คุยกันด้วยซ้ำ
“ดีจ้ะ” เธอมองฉลามดุสลับกับฉันแล้วคลี่ยิ้ม
“เอ่อ... ค่ะ” ฉันทำหน้าตื่นเมื่อเธอหันมาทักทายอย่างเป็นกันเอง ก่อนที่ร่างบางจะหันไปอีกฝั่ง เหมือนเธอไม่ได้จงใจจะทักฉันตั้งแต่แรกแล้ว
“ชื่อไรเหรอ” แล้วพูดกับผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างๆ ฉัน วินาทีนั้นเขาคลายมือออก ส่วนฉันก็ดันตัวเองออกไปแล้วนั่งหันหน้าไปอีกทาง ไม่รู้ว่าเขาทำสีหน้าแบบไหน แต่ที่รู้ๆ ก็คือฉลามดุไม่ยอมตอบผู้หญิงคนนั้นกลับไปเลยจนเธอต้องถามย้ำ “นี่ นายอ่ะชื่อไร”
“ฉลามดุ” ฉันได้ยินเสียงเขาตอบสั้นๆ แล้วอยู่ดีๆ ก็รู้สึกแย่ขึ้นมา
ความจริงเขาจีบฉันอยู่ไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมถึงยอมตอบง่ายๆ เลยล่ะ หรือว่าที่เขาจีบฉันอยู่ฉลามดุจะไม่ได้จริงจังกันนะ
แต่ไม่รู้จะคิดเห็นแก่ได้แบบนั้นไปทำไม ยังไงสถานะเราก็เป็นแค่คนรู้จัก อีกอย่างฉันก็กลัวเขามาก ถ้าเขาจะไปคบกับใครคุยกับใคร มันก็ดีไม่ใช่เหรอ
“มีไลน์มั้ย เบอร์ก็ได้ เราชอบลุคนายอ่ะ” ฉันถึงกับเหวอเมื่อเธอพูดออกมาได้ตรงมาก ไม่คิดว่าจะพูดตรงขนาดนี้ แล้วก็ไม่คิดด้วยว่าดาวคณะจะชอบผู้ชายประมาณนี้ จนต้องหันกลับไปมองเธอที่ตอนนี้ก็หันมาจ้องหน้าฉันอยู่เหมือนกัน
ฉันหันไปมองคนตัวสูงข้างตัว แล้วก็เห็นว่าเขากำลังเลิกคิ้ว
“ชอบเหรอ?” เขาทวน “ชอบตรงไหน หน้า? หรือที่สัก?”
“ทุกอย่าง” เธอหันมาตอบเขาในทันที ส่วนฉันก็ตั้งท่าจะลุกหนีออกไปเพราะรู้สึกว่าตัวเองจะค่อนข้างเป็นส่วนเกินในบทสนทนานี้ไปแล้ว
หมับ
แต่ว่า
ฉลามดุกลับคว้าเอวของฉันไว้แล้วดึงให้นั่งลงข้างๆ เขาไหล่ชิดไหล่อย่างทันท่วงที ในขณะที่จะกอดเอวฉันเอาไว้แนบอกท่ามกลางสายตาของทุกคนที่มองมา หรือแม้แต่ผู้หญิงที่ยืนขอเบอร์เขาอยู่ตรงหน้าด้วย
แล้วร่างสูงก็ทำให้ฉันแทบลืมหายใจด้วยประโยคนี้
“แต่เรามีแฟนแล้ว แฟนเราขี้หึงมากด้วย ขอโทษนะ”
“เราชอบกันทั้งคู่ โอเคปะ” ฉันนิ่งไป จนเขาผละมือออก ฉันถึงได้คลี่ยิ้มกว้างออกมา“งั้นเราก็ดีกันแล้วใช่มั้ยอ่ะ”“จำไม่เห็นได้ว่าโกรธเธอตอนไหน” ฉันทำหน้าเอ๋อออกมาทันทีที่ได้ยินคำตอบของเขา “เราก็ไม่ได้ทะเลาะกันปะ”“อะ... แต่ว่าตอนนั้นฉลามไม่คุย...”“มันก็เรื่องตอนนั้น” เขาตัดบททันที แล้วฉันก็เม้มริมฝีปากเพราะพูดไม่ออก จนเขาเริ่มเปลี่ยนเรื่องคุย “แล้วเธอหิวไรปะ?”ฉันสั่นหน้าเบาๆ“... ไม่เลย”“แล้วหิวเราปะ” ฉันทำหน้าตื่นออกมาทันทีที่เห็นว่าถูกฉลามหยอกเล่น แล้วพอเห็นว่าเขายิ้มอยู่ฉันถึงได้ทำหน้ามุ่ย แต่ก็แอบดีใจที่เขากลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว“เล่นแบบนี้ทุกทีเลย”“ก็นะ” เขาไหวไหล่ ดูมีความสุขที่ได้แกล้งฉัน ก่อนที่จะลูบผมฉันแล้วยันตัวลุกขึ้น “ไปอาบน้ำเหอะ เดี๋ยวถึงเวลาเราไปส่ง”ฉันมองเขานิ่ง แล้วฉลามก็หันกลับมามอง เขาเลิกคิ้วถาม “มองทำไม?”ฉันไม่ได้ตอบอะไร แต่ก็ขยับตัวเข้าไปหอมแก้มเขาเบาๆ“ขอบคุณค่ะ” ฉันพูดกับฉลามที่ชะงักไปกับการกระทำนั้นของฉัน ก่อนที่จะค่อยๆ ขยับตัวลงไปจากเตียงเพื่อไปหยิบผ้าเช็ดตัวเพื่อเข้าไปอาบน้ำตามที่เขาบอก“เอาเวลาไปรักมันเหมือนที่ทำอยู่ตอนนี้ดีกว่า”พี่เพทายพูดถูกจริงๆ น
[SALAMDU : SIDE]หลังจากเลิกงานผมก็ตามมานอนห้องนิ้งเหมือนเดิมเห็นเธอกับเจ๊ดูคุยไรกันปกติดีผมก็โล่งหน่อย คิดว่านิ้งจะคิดมากเรื่องหยก แต่ดูแล้วตอนขับมาส่งที่นี่เธอก็คุยกับผมดี ถึงจะดูเกร็งๆ ตอนคุย แต่เซ้นส์ผู้ชายมันบอกว่าเธอไม่ได้โกรธไร ผมเลยนอนห้องเธอได้สบายใจนิ้งหายไปอาบน้ำเพราะเธอรอผมอาบก่อน ผมก็งงๆ เหมือนกัน แต่ช่างแม่ง วันนี้เหนื่อย ผมว่าจะนอนเร็วหน่อยผมพลิกตัวนอนตะแคงตอนที่รู้สึกมึนๆ แต่วันนี้ก็แดกเหล้าไม่เยอะ นิ้งอยู่ อีกอย่างผมต้องขับรถไปส่งเธอ ถ้าขับไปคนเดียวก็ไม่เท่าไหร่ แต่มีนิ้งด้วยผมเลยต้องมีขีดจำกัดของตัวเองผมว่าจะหลับอยู่แล้วว่ะ ถ้าไม่รู้สึกเหมือนมีคนขึ้นเตียงมาคร่อมไว้พอลืมตาขึ้นมามองก็เห็นว่าเป็นนิ้ง แต่ที่ผมตกใจคือพอหรี่ตามองลงไปก็เห็นว่าเธอใส่ชุดผมอยู่ แต่กางเกงไม่ใส่งั้นข้างล่างแม่งก็...“จะนอนแล้วเหรอ” นิ้งถามผม แล้วผมก็จ้องหน้าเธอนิ่ง ก่อนที่จะพยักหน้า“อ่า”“... ทำไมรีบนอนอ่ะ”“เหนื่อยว่ะ” ผมตอบ ก่อนที่จะรู้สึกได้ว่าเสื้อผมมันใส่ทำงานมา เหม็นเหงื่อตายห่า “แล้วใส่เสื้อเราทำไม ไม่เหม็นไง?”เธอสั่นหน้า“สะ... เสื้อของฉลามเราไม่รังเกียจหรอก” ร่างเล็กพูดเสียงเบา
[SALAMDU : SIDE]ผมไม่คิดว่าหยกจะตามมาถึงที่นี่ไอ้พวกรุ่นน้องแม่งก็ปากสว่าง เอาจริงๆ หยกมันสนิทกับไอ้วิน ไอ้เหี้ยนี่กว้างขวางจะตายห่า ที่ผมรู้จักหยกส่วนหนึ่งก็เพราะมัน“อะไรของมึงหยก”นิ้งมองผมหน้าตื่นทันทีตอนที่ผมสวนกลับไปก่อนที่มันจะได้เดินเข้ามา เพราะผมกลัวว่าหยกมันจะทำตัวแบบเมื่อก่อน ที่พอไม่ชอบหน้าใครก็ตบ ผมไม่เคยมีปัญหาเรื่องผู้หญิงเวลาคบกับแฟนคนไหน แต่เธอชอบเอาปัญหาห่าเหวนั่นมาใส่ให้ผมเองผมว่ากลับไปคราวนี้คงได้เคลียร์กับนิ้งยาว ตอนแรกมันกำลังดีๆ“แค่มาหามึงมันต้องมีอะไรด้วยเหรอวะ?”“...”“ถ้ากูไม่ถามไอ้วินคงไม่รู้หรอกว่ามึงอยู่ห้องนี้ มันบอกมึงอยู่กับเมีย” มันพูดอย่างหงุดหงิดแล้วปิดประตู ก่อนที่จะเหลือบมองร่างเล็กที่นั่งข้างๆ ผม “นี่ ออกไปก่อนได้ปะ จะคุยกับผัวเก่า”“หยก” ผมกัดฟันเรียกชื่อเธอ นิสัยไม่เปลี่ยนเลยว่ะ “มึงออกไปคุยกับกูข้างนอกเหอะ”“เดี๋ยวนี้หาได้อย่างนี้เหรอ ผิดกับเมื่อก่อนนะหลาม” มันไม่สนที่ผมพูดแล้วมองนิ้งแล้วฉีกยิ้ม “ไม่เชื่อเลยว่าเคยมาเอากู”“ออกไปคุยกับกูข้างนอก” ผมบีบมือนิ้งที่เริ่มทำหน้าซีดแล้วลุกขึ้นอย่างหงุดหงิด ผมไม่ชอบให้ใครทำท่าทางแบบนี้ใส่นิ้งไง โคตรไ
“เฮ้ย มีคนตามน้องนิ้งมาเหรอวะ”“เออ” ผมตอบสั้นๆ ตอนที่เจ๊ส่งไฟแช็คมาให้ผมต่อบุหรี่ตอนที่ผมล้วงซองมันขึ้นมา ตอนนี้ผมนั่งอยู่ที่บ้านมัน วันนี้มันอยู่คนเดียว ไม่ได้ไปที่อู่ ผมก็รู้อยู่ถึงได้มาที่นี่ ความจริงกะจะมาอยู่แล้ว แต่ติดที่เจอหยกก่อน “แต่กูยังไม่ได้บอกนิ้ง”“เออ อันนี้กูเข้าใจ” มันพยักหน้า “แล้วได้เจอตัวปะ”“ยังว่ะ กูไปดูกล้องวงจรปิดมา แต่ไม่มีใครมีพิรุธ”“...”“กูคิดว่าอย่างน้อยก็ไปนอนห้องนิ้งทุกวันกันไว้ มีกูอยู่ดีกว่า”“อันนั้นก็ใช่” มันพยักหน้าอีก “แล้วงานช่วงดึกทำไง?”“กำลังคิดอยู่” ผมตอบแล้วจุดบุหรี่ดูดเงียบๆ “เอาเค้ามาทำงานด้วยดีมั้ยวะ ไม่อยากให้อยู่ห้องคนเดียว”“ก็ดี เดี๋ยวกูว่างกูจะแวะเข้าไปดูด้วย” มันเห็นด้วยกับความคิดผม “ถ้าน้องง่วงก็นอนที่ห้องพักได้ ถ้าเป็นผับไอ้วินใกล้บ้านกู กูแวะไปได้”“เออ” ผมตอบแค่นั้นพอเห็นว่าได้คำตอบที่พอใจมาง่ายๆ ก่อนที่จะพ่นควันออกมา ผมเห็นว่าเจ๊มองผมอยู่ ก็เลยจ้องกลับไปบ้าง “มองไร”“หัวมึงแตกเหรอวะ” มันถามแล้วมองแผลที่หัวผมที่นิ้งติดพลาสเตอร์ให้ ผมลูบหัวตัวเองนิดหน่อย แล้วครางรับสั้นๆ“ใช่”“เป็นไร? โดนดักตีหัวมาว่างั้น”“เปล่า อันนี้กูหาเรื่
ใจฉันกระตุกไปหมด แล้วก็หน้าแดงก่ำออกมา“อะ... อะไรอ่ะ อื้อ” ฉันสะดุ้งเฮือกตอนที่ถูกจูบอีกครั้ง แต่คราวนี้ลึกซึ้งมากขึ้น ฉลามไล้ริมฝีปากฉันด้วยปากเขา มันเหมือนที่เขาทำในทุกๆ ครั้ง มือของฉันถูกเลื่อนไปจนถึงตรงนั้น ฉันสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง ในขณะที่กำลังถูกฉลามจูบหูฉันอื้อไปหมด ในขณะที่มือของตัวเองจะโดนอะไรตรงนั้น หน้าฉันร้อนจนชา ฉันไม่ได้ซื่อจนไม่รู้ว่ามันเป็นอะไรอีกแล้ว เพราะมันเคยอยู่ในตัวฉัน ฉันจำได้ว่ามันเท่าไหน... และเจ็บแค่ไหนตอนที่อยู่ในนั้น“ถ้ายังไม่ห้าม เธอคงต้องทำให้เราด้วยว่ะ” ฉันสะดุ้งเฮือก เพราะคำพูดของฉลามดูมีความหมายแอบแฝง แต่ครั้งนี้ล่ะที่ฉันไม่รู้เรื่องจริงๆ “แต่ไม่ให้จับเฉยๆ”“...”“จะให้ใช้อย่างอื่น” เขากระซิบเสียงหนักตอนที่ขยับเข้ามาจนชิดกับใบหน้าของฉัน แล้วหรี่ตาลงมอง “อย่างเช่นปากเธอ”“...!”“ลองดูปะ” เขาถาม แล้วฉันก็รู้สึกได้ถึงความไม่ปลอดภัยแปลกๆ“จะ... จะให้เราทำอะไรอ่ะ” ฉันถามไปด้วยใบหน้าแดงก่ำ ฉลามนิ่งไป ก่อนที่เขาแค่นหัวเราะ“เธอไม่รู้เหรอวะ”“...”“ปกติเราใส่ทางนี้ใช่ปะ” เขาเริ่มพูดความหมายแฝงแล้วก้มลงมองที่ตรงนั้นของฉัน ฉันเบิกตากว้างทันที แล้วรีบเอามือ
ฉันไม่รู้ว่าฉลามเป็นอะไร ก็เห็นว่าตอนแรกเขาดูจะไม่อยากมานอนกับฉันนี่นา เห็นบอกว่าอยากให้ฉันโตขึ้นก็เลยจะให้นอนคนเดียวแต่อยู่ดีๆ ก็บอกว่าจะมานอนด้วยกันทุกวันถ้าวันไหนส้มไม่อยู่... บางทีฉันก็ตามอารมณ์เขาไม่ค่อยทันจริงๆ อ่ะตอนนี้ฉันนั่งอยู่บนเตียงภายในห้องนอนของตัวเอง ความจริงตอนแรกว่าจะอ่านหนังสือ แต่พอเห็นว่าฉลามไม่ยอมเข้ามาในห้อง ไม่ยอมอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อ เอาเสื้อพาดไหล่ใส่แค่กางเกงยีนส์อยู่เหมือนเดิมแบบนั้น เขาเอาแต่นั่งแต่ขอบโซฟาแล้วจ้องไปที่บานประตูหน้าห้องเขม็ง ฉันก็เลยถึงได้นั่งมองเขาจากข้างในบ้างฉลามดูแปลกๆ มาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วจริงๆ ฉันก็รู้นะว่าสิ่งที่เขาสอนก่อนหน้านั้นมันแรงมาก มันทำให้ฉันรู้สึกแย่ในตอนนั้น แต่อยู่ดีๆ ก็มีความคิดหนึ่งผุดเข้ามาในหัวฉันว่าฉลามก็เป็นคนแบบนี้อยู่แล้ว เขาแค่สอนฉันในแบบของเขา ฉันไม่ได้ยอมเขาเพราะว่าฉันรักอย่างเดียวนะ แต่เพราะว่าฉันเข้าใจเขา แล้วก็รับรู้ได้จากการกระทำเหล่านั้นว่ามันไม่มีสิ่งใดแอบแฝงนอกจากความเป็นห่วงฉันคิดว่าฉลามจะไม่ทำร้ายฉันแน่นอน... ก็แค่คิดแบบนั้นเท่านั้นเอง สุดท้ายก็เลยไม่คิดมากอะไร“ฉะ... ฉลาม” ร่างสูงหันกลับมามองทันที ฉ







