Home / LGBTQ+ / I'm all yours / ฝืน 2

Share

ฝืน 2

Author: smith
last update Huling Na-update: 2025-10-21 11:08:58

เมื่อวานริคกับซูใช้เวลาอยู่ด้วยกันอย่างคนรักตั้งแต่หลังมื้อเที่ยง ซูโทรหาเขาตอนแปดโมงด้วยน้ำเสียงปกติอย่างที่สุด เหมือนที่พวกเขาเคยคุยๆ กันมานับสิบนับร้อยหน ริคเสียอีกที่ตื่นตั้งแต่หกโมงเช้า จดๆ จ้องๆ ที่โทรศัพท์มือถือ ลังเลใจว่าจะโทรหาเธอสักกี่โมงดี ซูคงไม่ตื่นเต้นมากเท่าเขาหรอก เธอก็แค่ตอบรับ แค่ไม่ปฏิเสธเขา ริครู้ตัวว่าเกมนี้เขาเป็นรองซู ซึ่งเขาก็ยินดีอย่างแน่นอนอยู่แล้ว จากนี้ไปก็แค่อย่าทำเสียเรื่อง ซูอ้าแขนรับเขาเข้ามาในอ้อมกอดแล้ว ที่เหลือคือหน้าที่ของเขาที่ต้องทำให้ซูไม่อยากไปไหนจากอ้อมกอดนี้อีกเลย เขายกโต๊ะออก ม้วนผืนพรมเตรียมนำไปไว้นอกบ้าน แล้วค่อยคิดอีกทีว่าจะเอาไปทิ้ง ขายต่อ หรือบริจาคที่ไหนยังไงดี พื้นบ้านบริเวณใต้พรมที่เพิ่งนำออกไปนั้นดูสีด้านกว่าพื้นรอบๆ เล็กน้อย ริคมาสังเกตได้อีกทีก็ตอนเดินกลับเข้ามา หรือเขาหาเรื่องวุ่นวายใส่ตัวอีกล่ะเนี่ย พื้นเงาไม่เท่ากันเป็นด่างๆ  ต้องขัดออกไหม หรือปูพรมผืนใหม่ หรือง่ายที่สุดคือเอาพรมผืนเก่ามาไว้ที่เดิม โวะ!

เขาส่ายหัวให้กับความเงอะงะของตัวเอง ก่อนจะหันไปที่ประตูหน้าโดยสัญชาตญาณเมื่อเสียงกริ่งดังขึ้น เขาสาวเท้าเดินมาที่ประตูแล้วเปิดออกดู

“อ้าว ซู” ริคดวงตาเป็นประกายเมื่อเห็นหน้าเธอ

“เฮ้ หวังว่าคงไม่ได้มาปลุกนะ” ซูเดินเข้าบ้านริคอย่างคุ้นเคย เหมือนเพื่อนเก่าที่ไปมาหาสู่กันเป็นประจำทั้งที่เคยมาไม่กี่ครั้งเท่านั้น

“โอ้ย ผมตื่นแต่เช้าแล้ว คุณน่ะสิ เพิ่งตื่นแหงๆ เลยใช่ไหม” ริคพูดหยอกซูเพราะรู้ดีว่าวันหยุดซูไม่ชอบรีบร้อนไปไหน เธอชอบให้วันหยุดได้เป็นวันหยุดจริงๆ เว้นเสียแต่มีแผนจะไปไหนหรือจะทำอะไรเป็นพิเศษ เหมือนอย่างวันที่เขาและเธอไปเที่ยวด้วยกันพร้อมเพื่อนที่ทำงานอีก 3-4 คนเมื่อเดือนก่อน วันนั้นพวกเขาต้องออกไปต่างเมืองกัน ซูจึงยอมตื่นเช้าเพื่อให้วันนั้นถูกใช้ไปอย่างคุ้มค่า นั่นก็เป็นอีกครั้งที่ซูต้องฝืนใจทำอะไรนอกจากงานปาร์ตีคืนวันศุกร์ที่ริคเจ้ากี้เจ้าการให้เธอลองจัดดูเพื่อทำความรู้จักกับคนในแวดวงทำงานให้มากขึ้น แค่ไปเที่ยวตกปลานั่นก็น่าจะพอแล้วด้วยซ้ำ ยังต้องมาจัดบ้าน เตรียมของกิน ปั้นหน้าคุยกับคนที่เธอแทบไม่อยากเรียกว่าเพื่อน เพราะมันก็แค่เพื่อนร่วมงาน

“ตื่นตั้งแต่เก้าโมงแล้วค่ะ ฉันออกไปวิ่งก่อน กินข้าวอาบน้ำแล้วถึงมาหาคุณ” ซูตอบคำถามเขา แล้วนั่งลงบนโซฟาหน้าโต๊ะกลาง หยิบน้ำมะนาวของริคขึ้นมาจิบ แล้วทำหน้าเหยเก

“น้ำมะนาวสินะ”

“ใช่น่ะสิครับ ทำไมเหรอ”

“เปล่าค่ะ ก็น้ำมะนาว...” ซูวางแก้วลงแล้วทำหน้าตาไม่หือไม่อือ ริคยังไม่พูดอะไรต่อ เขาแปลกใจเล็กน้อยกับท่าทางและคำพูดค้างๆ คาๆ ของซู เธอแปลกไปเล็กน้อยนะวันนี้

“แล้วไปไงมาไงถึงโผล่มาแบบนี้ล่ะ นึกว่าจะโทรหากันก่อน ผมลังเลหนักอยู่นะว่าจะโทรหาคุณดีไหม ตลอดทั้งเช้านี้เลย”

“ทีหลังอยากโทรก็โทรสิ ไม่เห็นต้องคิดอะไรมากเลย” ซูยิ้ม แล้วพูดต่อ “อ้อ ฉันแค่อยากมาเซอร์ไพรส์ คุณต้องชินให้ได้นะ ถ้าจู่ๆ ฉันจะโผล่มาแบบนี้ มันไม่ได้แปลกประหลาดตรงไหนเลย”

“ผมรู้ว่าไม่แปลก แต่ก็... นั่นล่ะ” ริคไม่รู้ว่าจะตอบเธอยังไงจริงๆ เราไม่ควรต้องโทรบอกใครก่อนเหรอเวลาจะไปบ้านเขา เขาคงคิดเยอะไปจริงๆ มั้ง

“เผื่อผมไม่ทันได้ต้อนรับไง ดูผมสิ สวมเสื้อยืด นุ่งกางเกงขาสั้น ผมก็อยากดูดีในสายตาแฟนผมไหมล่ะ” ริคยิ้มหยอก

“ฮ่าๆ ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้มั้งคะ ทำตัวตามสบายเถอะ คนกันเองแล้วนี่” ซูหยิบแก้วน้ำมะนาวขึ้นมาอีกครั้งแล้วเอียงแก้วส่งสัญญาณบอกริค

“อ่อ คุณคอแห้งสินะ” ริคยิ้มแห้งแล้วลุกเดินไปที่ห้องครัว เปิดตู้เย็นมองหาน้ำที่น่าจะถูกใจซูที่สุด ... ซึ่งเขาไม่รู้ว่าน้ำอะไร

“เอาน้ำอะไรดีล่ะซู” เขาตะโกนออกมาจากในครัวแบบสบายๆ แบบที่ซูบอก

“น้ำมะนาวแบบไม่ชืดมีไหม” ซูตะโกนกลับมา ริคเกร็งมุมปาก เขาไม่กล้าบอกว่าน้ำมะนาวแก้วนั้นคุณนายวีเนอร์ชงให้เขาดื่ม ก็ตอนมาถึงซูเล่นจับกระดกหน้าตาเฉยโดยไม่ถามอะไรเลย

“หมดแล้วน่ะ น้ำส้มแทนได้ไหม”

“ได้ค่ะ ส้มคั้นนะ” ริคหยิบขวดน้ำส้มผสมวิตามินซีรินใส่แก้วสองใบแล้วเดินกลับมาที่ห้องรับแขก

“มีแต่น้ำส้มแบบนี้นะ ได้ไหม ผสมวิตามินซีเพิ่มด้วยล่ะ อร่อยดี” ซูยิ้มแล้วรับแก้วจากเขา

“ได้ค่ะ น้ำส้มปลอมก็พอได้” ริคสะดุดเล็กน้อยแล้วขำเบาๆ

“น้ำส้มปลอมเหรอ เพิ่งรู้ว่าน้ำส้มก็มีของปลอมด้วย”

“ก็นี่ไง น้ำส้มปลอม น้ำส้มแท้คือน้ำส้มคั้นที่คั้นจากผล ส่วนนี่มันน้ำส้มสังเคราะห์ ยิ่งบอกผสมโน่นผสมนี่น่ะ ปลอมแท้ๆ” ซูพูดจบก็ดื่มน้ำส้มรวดเดียวครึ่งแก้ว ริคอ้าปากค้าง

“คุณเป็นอะไรไป หงุดหงิดอะไรมารึเปล่าครับ เล่าให้ผมฟังได้นะ” ริคถามเธอด้วยหน้าตาเริ่มไม่ยินดีแล้ว

“ขนาดนั้นเลย”

“อะไรเหรอที่ว่าขนาดนั้น”

“อาการฉันมันฟ้องขนาดนั้นเลยเหรอ”

“ใช่สิ อยู่ๆ คุณก็มา แถมพูดจาแปลกๆ” ทั้งสองสบตากันเงียบๆ ตอนนี้ซูเองก็รู้สึกผิดเล็กน้อย เธอเริ่มรู้สึกตัวว่าพูดจาแย่ๆ ออกไปหลายคำ แค่จู่ๆ โผล่มาเฉยๆ นั่นก็ไม่ควรแต่แรกแล้ว

“ขอโทษค่ะ” เธอขยับตัวเข้าไปนั่งชิดกับริค ริคโอบไหล่เธอ เขาเริ่มผ่อนคลายลง ซูคงไม่พอใจเรื่องอื่นมาจริงๆ ซึ่งเขาก็พร้อมรับฟังหากเธออยากจะพูด เขารออย่างจดจ่อ จนสุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะต้องเป็นฝ่ายถามขึ้นมาเอง

“คุณมีรอบเดือนงั้นเหรอ” เขาถามเธอหน้าซื่อๆ

“ริค!” ซูขึ้นเสียงใส่ เวรแล้วริคเอ๋ย

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • I'm all yours   สรรพเสียงของค่ำคืน 6

    คืนนั้นผ่านพ้นไปจนถึงช่วงสายๆ ของวันต่อมา แคลร์งัวเงียลุกขึ้นจากโซฟา หยิบชุดนอนขึ้นมาสวม เธอเดินไปที่ห้องน้ำ เปิดประตูชะโงกหน้าเข้าไปมองดู แล้วจึงเดินขึ้นชั้นสองไปดูตามห้องต่างๆ ในบ้าน ออสซีกลับไปแล้วงั้นเหรอนี่ เธอกลับเข้าไปในห้องนอน หยิบแว่นตาที่หน้ากระจกโต๊ะเครื่องแป้งขึ้นมาสวม ในห้องมืดสนิทแม้จะสายแล้ว เธอเดินไปอีก 4-5 ก้าวก่อนจะถึงหัวเตียง เธอหยิบมือถือขึ้นมาดู มืออีกข้างชักรอกม่านทึบแสงเปิดออก แดดส่องเข้ามาเต็มที่จนเธอต้องหลับตาหลบแสงจ้า แคลร์นอนแผ่หลาลงบนเตียง เมื่อคืนที่หลับไปบนโซฟาทำให้เธอปวดเมื่อยเนื้อตัวจากการนอนผิดท่า เธอยืดแขนขาจนสุดเหยียดแล้วจึงกดโทรศัพท์ดู มีสายไม่ได้รับห้าสายเป็นสายของแอนนาทั้งหมด เธอรีบโทรกลับทันที “ฮัลโหล แคลร์” แอนนารับสายโดยที่แคลร์ไม่ต้องรอนาน “แอนนา มีอะไรรึเปล่า” แอนนาเงียบไป “ไม่ใช่สิ คือฉันหมายถึงที่โทรมาตั้งห้าสายน่ะ มีเรื่องร้ายแรงอะไรรึเปล่า แล้วเมื่อคืนคุณกลับบ้านปลอดภัยดีใช่ไหม” แคลร์รีบเปลี่ยนคำถามให้เข้าท่าเข้าทางกว่าการถามว่า มีอะไรรึเปล่า พลางส่ายหน้าอย่างรู้สึกไม่ดีที่ถามแบบนั้นออกไป “เมื่อคืนฉ

  • I'm all yours   สรรพเสียงของค่ำคืน 5

    “ใช่ บางทีคนเราก็มีเรื่องมากมายที่เล่าให้ใครฟังไม่ได้ ถึงจะอยากเล่าอยากเอ่ยมากแค่ไหนก็ตาม” เธอจิบวิสกี้ตามปิดท้ายประโยค เวลานี้ออสซีรู้สึกเหมือนแคลร์กำลังแบกอะไรเอาไว้ในอก เขาต้องช่วยแบ่งมันมาไหมนะ อย่าเลยดีกว่า เพราะเขาพยายามมาแต่ไหนแต่ไรแล้วที่จะไม่ให้คนอื่นเข้ามาชิดใกล้เกินไป เงื่อนไขหนึ่งคือต้องไม่รู้ความลับของคนคนนั้นด้วย แคลร์ขยับเข้ามาใกล้เขา เธอซบลงบนไหล่ของออสซี “ไหล่คุณกว้างพอดีตัวฉันเลย ออสซี ดูสิ อบอุ่นสบายดีจัง” แคลร์พูดแล้วแหงนหน้ามาส่งยิ้มให้ คางของเธอยังเกยอยู่ที่ไหล่ของออสซี ออสซีตัวแข็งทื่อ “นั่งดีๆ น่าแคลร์ โซฟาตั้งกว้าง” เขาเบี่ยงตัวพยายายามออกห่าง แต่แคลร์กอดเขาเอาไว้ “ไม่เอาอ่ะ ตรงนี้ล่ะสบายดีแล้ว เรานอนกันตรงนี้เลยดีไหม” แคลร์ถาม “ก็ได้ เอาสิ บ้านคุณนี่นะ” ออสซีตอบ แคลร์ดันตัวออสซีลงนอนบนโซฟาโดยที่ตัวของเธอทับเขาอยู่ด้านบน “อุ้ยแคลร์ นอนดีๆ สิ ขยับไปหน่อย ผมไปนอนโซฟาตัวนู้นก็ได้” แคลร์จูบปากออสซี เขาตกใจมาก “แคลร์ แคลร์” เขาผละตัวเองออก แคลร์ยังไม่หยุด “คุณบอกเองนะว่าบ้านฉัน ฉันก็ถามแล้วว่าเรา

  • I'm all yours   สรรพเสียงของค่ำคืน 4

    “เอาเลย ไม่ต้องเกรงใจ” แคลร์ยกแก้วขึ้นจิบนำ “มาร์ตินี่เผือกเหรอ” ออสซีถาม แคลร์ยกแก้วขึ้นที่ริมฝีปากอีกครั้ง คราวนี้ดื่มเข้าไปเต็มอึก “ลองดูซิว่าใช่ไหม” แคลร์บอก ออสซียกแก้วขึ้นจิบ แล้วทำท่าเหมือนจะสำลัก “อะไรเนี่ย” เขาทำสีหน้าบูดเบี้ยว “ชาทิเบต แอนนากับแซมได้ชิมแล้วนะ เหลือแต่คุณที่ยังไม่ลอง” ออสซีคุ้นๆ ว่าได้ยินแคลร์พูดถึงอยู่เมื่อวันก่อนตอนแซมมาถ่ายงานที่นี่ “ขอโทษนะฮะ รสชาติไม่ได้เรื่อง” เขาบอกแคลร์ไปตรงๆ “มันดึกแล้ว ก็บอกแล้วไงว่าดื่มอะไรกันเบาๆ ดีกว่า ให้ฉันรินอย่างอื่นมาให้เดี๋ยวเกิดเมาแล้วได้กันเองทำไงล่ะ” แคลร์หยอกออสซี ตอนนี้เธอยิ้มออกแล้ว “บ้า” ออสซีเอียงอายสวนกลับไป “นั่นคุณเขินเหรอ” แคลร์ถามเมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของออสซี “ก็คุณพูดบ้าอะไรเล่า” ออสซีหน้าแดง “พูดบ้าอะไร ฉันก็ล้อเล่น ทำเป็นไม่เคยไปได้” แคลร์มองออสซีอย่างประหลาดใจ แต่เธอก็ยังยิ้มให้เขา ออสซีหลบสายตาแซมอย่างชัดเจน เขาลองดื่มชาอีกครั้ง คราวนี้เขาลองดื่มให้เต็มอึก ค่อยๆ กลืนมันลงไป แล้วบอกกับแคลร์ “ไม่ไห

  • I'm all yours   สรรพเสียงของค่ำคืน 3

    “หาห้องนอนเอานะ ของกินเครื่องดื่มมีอยู่ที่โซนครัว บริการตัวเองตามสบาย” แคลร์พูดแบบไม่หันหน้ามามองออสซีเลย จังหวะนี้เขารู้สึกไม่ค่อยดี “ผมกลับไปนอนบ้านตัวเองได้นะ ถ้าคุณไม่สะดวก ไว้เจอกัน” ออสซีรอฟังคำตอบจากแคลร์ แคลร์หันมามองเขา “ขอโทษทีค่ะ ฉันเสียมารยาทไปหน่อย แต่บ้านนี้ต้อนรับคุณเสมออยู่แล้ว ไม่งั้นคงไม่รอให้คุณกลับด้วยกันหรอก นอนนี่แหละ ดึกแล้ว ขอโทษอีกที คราวหน้าฉันเลี้ยงนะ” แคลร์บอกกับออสซี ทั้งที่ทุกครั้งเธอจะเป็นเจ้ามือเกือบจะตลอด ออสซีคลายสีหน้าลง “ครับ” เขาตอบแคลร์สั้นๆ “พรุ่งนี้เช้าเจอกันนะ ราตรีสวัสดิ์” แคลร์ยิ้มอ่อนๆ ให้เขาแล้วชูมือขึ้นมาบอกราตรีสวัสดิ์ตอบ แคลร์เดินขึ้นชั้นสองไป ออสซีทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างเหนื่อยอ่อน แล้วกลับต้องสะดุ้งโหยง “ตาบ้า!” แคลร์ชะโงกหน้ามาเอ็ดเขาจากหัวบันได ออสซีกระเด้งขึ้นมานั่ง หันหน้ามามองตามเสียง “ขึ้นมาชั้นสองสิยะ ห้องหับเยอะแยะ เลือกเอา!” แล้วแคลร์ก็ผลุบหายไปอีก ออสซีไม่ได้ตอบอะไร เขาเหนื่อยใจกับผู้หญิงกลุ่มนี้จริงๆ “ผมว่าจะนั่งพักสักเดี๋ยวนึงก่อนน่ะ ขอบคุณมากนะแคลร์” เขาตะโกนขึ้นไป แ

  • I'm all yours   สรรพเสียงของค่ำคืน 2

    แคลร์มองตามหลังแซมที่เดินออกจากร้านไปอย่างรู้สึกไม่ดี เธอหันมามองแอนนาซึ่งรอสบตากับแคลร์อยู่แล้ว แคลร์เม้มปาก ส่ายหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงไม่เห็นด้วยกับการกระทำ “ให้ฉันลาออกเลยไหม” แอนนาถาม ทุกคนในโต๊ะตึงเครียดไปกันใหญ่แล้ว “เดี๋ยวก่อนแอนนา คุณเป็นอะไรของคุณ ถ้าฉันใช้งานคุณหนักไปก็ขอโทษด้วยนะวันนี้” แคลร์ขอโทษปัดๆ ไปเพื่อไม่ให้บรรยากาศในโต๊ะยิ่งแย่ ออสซีไม่รู้จะพูดอะไร เขาหยิบไหมไทยที่เหลือกระดกลงคอจนหมด แล้วลุกขึ้น “คืนนี้เรากลับกันก่อนแล้วกันนะ ผมไปจ่ายเงินก่อน พวกคุณนั่งคุยกันไป ผมจะไปจ่ายที่เคาน์เตอร์เลย” “เดี๋ยวฉันเคลียร์ให้นะ ออสซี” แคลร์ตะโกนไล่หลังมาแบบไม่ดังมาก “ไม่เป็นไร ผมเลี้ยงเอง มีของแซมที่ช่วยจ่ายมาแล้ววางอยู่บนโต๊ะ ผมเลี้ยงที่เหลือไหวน่า” ออสซียิ้มให้แคลร์แล้วเดินไปที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์ แอนนายังคงนั่งเฉยในท่าไขว่ห้าง “ตกลงยังไง” แอนนาถามแคลร์ “แอนนา ฉันไม่รู้ว่าคุณเป็นอะไรนะวันนี้ แต่รบกวนช่วยให้เกียรติฉันในฐานะนายจ้างด้วย ฉันไม่เคยอยากไล่คุณออก คุณก็รู้นี่ว่าฉันไว้ใจและชอบการทำงานของคุณ แต่นี่อะไร คุณม

  • I'm all yours   สรรพเสียงของค่ำคืน 1

    ดวงไฟประดับห้อยระย้าเป็นแนวระหว่างต้นไม้ในร้าน ตัดกับท้องฟ้ายามกลางคืนที่มืดไร้แสงจันทร์ แซมเงยหน้าขึ้นมองฟ้าอย่างผ่อนคลาย บรรยากาศในร้านยังอบอุ่นไม่เปลี่ยนไป มันยิ่งทรงเสน่ห์มากขึ้นด้วยแสงนวลๆ ของไฟประดับที่โยงเป็นแนวระหว่างต้นไม้สูงแต่ละต้น และไฟดวงที่เล็กกว่าเหมือนหมู่ดาวบนเรือนยอดไม้ ไม่รู้เพราะอะไรแซมถึงชอบเวลากลางคืนนัก มันสงบทั้งที่โดยรอบก็ครึกครื้น มันรู้สึกผ่อนคลายแม้จะมีเสียงพูดคุยจอแจ แม้ว่าบางเสียงจะเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ แซมชอบสีดำ ชอบความมืดของค่ำคืน ชอบความเงียบที่ถูกเสียงต่างๆ สอดแทรกรบกวนอยู่ตลอดจนกว่าจะดึกสงัดจริงๆ ยิ่งมีลมพัดมาเป็นระยะอย่างนี้ เหมือนธรรมชาติที่แฝงตัวอยู่ในเขตเมืองกำลังพยายามปลอบประโลมเธออย่างแผ่วเบาเมื่อสายลมนั้นพัดเข้ามากระทบร่าง แซมสูดหายใจเข้าออกอย่างผ่อนคลาย ลูกค้าหลายๆ โต๊ะในร้านเริ่มเป็นลูกค้าหน้าเดิมๆ ที่มากันตั้งแต่เย็น จนล่วงเลยเวลาของมื้อค่ำกลายมาเป็นชั่วโมงกินดื่มกับกลุ่มสังสรรค์แล้ว โต๊ะของแซมก็เช่นกัน พวกเขายังนั่งอยู่ที่โต๊ะเดิม ยังสั่งอาหารกันเรื่อยๆ สลับกับเครื่องดื่มเป็นระยะ “ทำไมเราไม่ไปไนต์คลับกันซะเลยนะ”

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status