แกนแข็งดีดสะบัด! เฉี่ยวปลายคางยูมิไปไม่ถึงครึ่งมิลลิเมตร ดวงหน้าบ่องแบ๊วเบนหลบทำปากเหยเก แสร้งทำเป็นไม่สนใจ
.
"เรียบร้อยแล้วค่ะคุณหมอ ให้ทำอะไรต่อดีคะ?"
.
"ช่วยเช็คความดันให้ที วัดอัตราการแข็งตัวของเลือดด้วย อ้อ! แล้วก็อย่าลืมจดบันทึกบนหน้าจอไว้ด้วยล่ะ ว่าตอนนี้เจ้าหน้าที่เจฟเฟอร์เขากำลังคิดอะไรอยู่"
.
"ไฮ้! ได้ค่ะหมอ"
.
ในที่สุดเวลานี้ก็มาถึงหลังจากที่ต้องตกระกำลำบากมาหลายตอน เจฟเฟอร์หลุดรอยยิ้มแป้นแล้นออกมา แม้ว่าดวงหน้ากว่าครึ่งจะถูกคลุมทับไว้ด้วยผ้าปิดปาก
.
"ใช้แขนขวานะหมอ เพราะแขนซ้ายผมมันขาดไปแล้ว รีบทำเข้า! ผมจะได้เอาดอกลาเวนเดอร์ขึ้นไปให้บอสซะที "
.
พยาบาลยูมิได้ยินก็แต่เสียงอู้ ๆ อี้ ๆที่ดังรอดผ้าปิดปากออกมา แต่พอเหลือบสายตาไปที่หน้าจอกลับพบว่าสิ่งที่เจ้าหน้าที่เจฟเฟอร์กำลังคิดอยู่ คือภาพเงาดำของผู้หญิงผมยาวคนหนึ่ง ที่กำลังเกลือกกลิ้งอยู่บนโขดหินท่ามกลางการบานสะพรั่งของทุ่งลาเวนเดอร์ ร่างเปลือยบอบบางตูดใหญ่นมบวบเป่ง ขาดแต่เพียงซับไตเติลวิ่งด้านล่าง ไม่งั้นคงไม่ต่างจาก karaoke นู๊ด ในยุค 90 's
.
"ฝันหวานเชียวนะคะเจ้าหน้าที่เจฟเฟอร์ แต่ตอนนี้ขอยูมิขัดจังหวะหน่อยแล้วกัน , ฮึบ!"
.
"แกร็ก ๆ , แกร๊ก ๆ"
ชายหนุ่มเดาว่านั่นคงเป็นเสียงล้อลากจากเครื่องวัดความดัน อีกไม่นานแขนขวาของเขาก็จะถูกยกขึ้นเล็กน้อย แล้วก็จะมีผ้าอะไรสักอย่างเป็นวง ๆ สวมเข้ามา พอกดปุ่มดังปิ๊บ! ไอ้เจ้าผ้านี่ก็จะรัด ๆ ๆ จนแขนบวม ค่าความดันก็จะปรากฏ
.
ซึ่งผิดถนัด! เพราะผู้ช่วยยูมิดันเลือกที่จะใช้ผ้าเป็นวง ๆ ดังกล่าวสวมเข้าที่แท่งควยแทน! เธอรูดมันลงจนมิดด้ามราวกับใส่ถุงยางอนามัยให้ผัว มิหนำซ้ำยังใช้มือนุ่ม ๆ ปาดเอาแพรไหมดกดำของเจฟเฟอร์ให้ลู่ล้มลงด้วย
.
"อดทนหน่อยนะคะ ยูมิคงช่วยอะไรไม่ได้ ในเมื่อคุณหมอเขาสั่งมา.."
.
"ติ๊ด!"
.
"เดินเครื่องค่ะ!"
.
.
"พรืดดดดด! , งึด ๆ ๆ , งึด ๆ ๆ"
.
"อื้ออออ! อู้อี้! อู้อี้ อั๊กกกก!"
ดิ้นกระแด่ว ๆ ทั้งเนื้อทั้งตัวบิดงอเป็นสะพานโค้ง ขาเตียงสั่นพับ ๆ แรงบีบจากเครื่องวัดความดันมหาศาลมาก ดาบซามูไรที่ผ่านมานี่ขี้ไก่ขี้กาไปเลยเมื่อเทียบกับเจ้านี่ ตัวเลขบนเครื่องวิ่งปั่นไปมาด้วยความเร็วสูง ความดันที่ว่าหาใช่ความดันโลหิตจากร่างกายไม่ หากแต่เป็นแรงดันในเส้นเลือดฝอยใต้หำอันเป็นสาเหตุที่ทำให้ควยใหญ่ผิดมนุษย์มนา และโด่ไม่รู้ล้มแบบนี้ต่างหาก
.
มือหนาขยุ้มแผ่นหนังสุดหรูบนเตียงจนขาดวิ่น! เจฟเฟอร์กัดกรามกรอด ๆ ได้แต่เฝ้าภาวนาให้ความทรมานนี้จบลงซะที ดังที่ได้เห็นจากภาพบนหน้าจอโปรเจคเตอร์ ที่ลิงค์สัญญาณมาจากเครื่องรับบนกกหู
.
"อู้หู! คราวนี้เปลี่ยนเป็นถ่ายหนังบู้เหรอค่ะเจ้าหน้าที่เจฟ เงาผู้หญิงแก้ผ้าเมื่อกี้หายไปไหนแล้วล่ะ ทุ่งดอกลาเวนเดอร์กลายเป็นยอดหนามแหลม โขดหินเด่นสง่าก็กลายเป็นเครื่องกิโยตินไว้ตัดคอคนซะแล้ว"
หมอยูมิโกะแทรกขึ้นบ้าง
.
"บันทึกทุกอย่างเอาไว้นะจ๊ะยูมิ จะใช้สายวัดในลิ้นชักหมอก็ได้ ช่วยสังเกตให้หน่อยว่าองคชาติของผู้ป่วยหดตัวลงบ้างรึเปล่า แล้วเดี๋ยวหมอกลับมา"
.
"หมอจะไปไหนค่ะ?"
.
"เอ้า! ยูมิจังนี่ก็ถามแปลก ๆ เธอลืมไปแล้วรึไงว่าตัวเองกำลังงอนหมออยู่ หมอจะเข้าไปข้างหลังม่านเจลเหนียวหนืด ไปเอาร่างของนาริตะจังออกมาข้างนอก"
.
"ตอนปัดกวาดที่นี่ยูมิจังซ่อนศพของน้องไว้ด้านหลังใช่ไหมล่ะ?"
.
"หมอรู้?!"
.
"ก็แน่สิจ๊ะ! ก็ในเมื่อพวกเธอพี่น้องเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่หมอสร้างขึ้นเองกับมือทำไมจะไม่รู้ล่ะ"
.
แล้วหมอยูมิโกะในชุดหนังสีเหลืองสดก็แหวกว่ายเข้าไปในผนังเจลหยุกหยุย ทิ้งให้พยาบาลยูมิอยู่กับเจ้าหน้าที่เจฟเฟอร์ตามลำพังสองต่อสอง
.
"หวังว่าคงไม่นานนะคะหมอ ถึงยูมิจะไม่ใช่คนแต่ยูมิก็มีความเงี่ยน! ดูซิ! คิดได้ไงให้ผู้หญิงอย่างเรามานั่งเฝ้าควยผู้ชาย! หึ๊ยยย!"
สาวเจ้าตัดพ้อ ทั้งที่ดวงตากลมโตยังคงจดจ้องส่วนปลายหัวเห็ดแบบไม่วางตา
.
"เอ๊ะ! คุณเงี่ยนเหรอค่ะ ดูสิน้ำเมือกไหลตลอดเลย ขอยูมิลองแตะ ๆ ดูหน่อยนะ , แตะ ๆ แตะ ๆ"
.
"อุ่นจัง.. ยูมิเคยเอาแค่กับหมอยูมิโกะ ถ้าวันไหนเจ้าหน้าที่เจฟว่าง ๆ ช่วยสอนยูมิโกะเย็ดกับผู้ชายหน่อยนะคะ ยูมิอยากลองอมควยดู"
พูดจบหญิงสาวก็ทอดสายตาไปที่หน้าจอโปรเจคเตอร์ที่เชื่อมต่อกับสมองอีกครั้ง คราวนี้มันไม่ได้ฉายภาพของความเป็นขุมนรกอันแสนเจ็บปวดอีกต่อไป แต่ได้เปลี่ยนเป็นภาพของการร่วมรักกันอย่างบ้าคลั่ง ของพวกเบอร์แบโต้ในห้องอาบน้ำแทน
.
แล้วทันใดนั้นสิ่งที่ยูมิไม่เคยจินตนาการถึงก็บังเกิดขึ้น เมื่อจู่ ๆ ขดผ้าวงกลมจากเครื่องวัดความดันก็ส่งเสียงดังขึ้นมา!
.
"แขวกกก!!!"
.
"ว๊าย! คุณพระช่วยมันใหญ่ขึ้นอีกแล้ว ใหญ่จนผ้าขาดเลย! ต้องรีบใช้สายวัด!"
.
เสียเวลาไปประมาณ 3 วินาที ตัวเลขที่ยูมิจังบันทึกลงไปในสมุดก็คือ 12 นิ้วครึ่ง ซึ่งแม่งยาวกว่าไม้บรรทัดซะอีก! กำลังจะตะแคงข้างเพื่อวัดความอ้วนป้อม แต่ทว่าหมอยูมิโกะก็ดันกลับออกมาจากผนังเจลตึ๋งหนืดซะก่อน ซึ่งสิ่งที่ได้ติดมือกลับมาก็คือร่างอันไร้วิญญาณของนาริตะตามที่ได้สัญญาไว้
.
"หือ..ทำอะไรอยู่จ๊ะยูมิจัง หมอมาขัดจังหวะอะไรรึเปล่า?"
.
เลียริมฝีปากแผลบ! กลิ่นควยยังคละคลุ้งอยู่เต็มโพรงจมูก
.
"อ่ะ! ปะ..เปล่า! ค่ะหมอ ยูมิแค่พยายามที่จะบันทึกข้อมูลตามที่หมอสั่ง ว่าแต่เป็นไงบ้างคะ"
.
"ก็เรียบร้อยดี ขอเก้าอี้ตัวที่มีล้อให้หมอหน่อยสิ ร่างของนาริตะต้องอยู่ในตำแหน่งที่สูงพอ"
.
ยูมิรีบจัดแจงให้ทันควันสลับกับการส่งบันทึกตัวเลขต่าง ๆ ให้หมอพิจารณา ซึ่งแน่นอนว่าการแข็งตัวจนทำให้สายวัดความดันขาดก็มีการบันทึกเอาไว้ด้วย แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้หมอยูมิโกะตกใจสักเท่าไหร่ ตรงกันข้ามคนที่อยู่ในอาการตกใจจนเกือบช๊อคกลับกลายเป็นยูมิแทน
.
"โถน้องนาริตะผู้น่าสงสาร พี่เสียใจที่ช่วยน้องไว้ไม่ทัน เห็นศพน้องในสภาพนี้อารมณ์พีี่ช่างแปรปรวนนัก ฮือ ๆ หึ ฮือ ๆ"
ความกระสันซ่านร่านผสมแรดมลายหายไปสิ้น ยูมิรีบเข็นเก้าอี้ที่มีร่างอันซีดเซียวของน้องมายังข้างเตียง ตรงตำแหน่งที่มีท่อนเอ็นแข็งอยู่
.
"ขอบใจจ๊ะทีนี้ยูมิจังถอยออกไปก่อนนะ ตั้งใจดูล่ะ! จะได้รู้สักทีว่าหมอไม่ได้โกหก!"
.
พยาบาลสาวพยักหน้ารับ แล้วภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าในเสี้ยวอึดใจ ก็คือภาพแห่งความซาดิสต์ที่สุดในชีวิต! เมื่อหมอยูมิโกะเริ่มลงมือถลกแผ่นหนังของนาริตะออก! ร่างที่ถูกฟันขาดสะพายแล่งอยู่แล้วทำให้หมอทำงานง่ายขึ้น ใช้แค่มีดผ่าตัดดวงเล็ก ๆ เฉือนไปบนเนื้อผ้าแล้วกระชากทิ้ง ต่อด้วยการลงน้ำหนักมือให้มากขึ้น จิกมีดลงไปใต้ผิวหนังเลาะเข้าไปถึงกระดูก! ค่อย ๆ ฉึก! ค่อย ๆ เฉือน! ลัดเลาะไปตั้งแต่ไหปลาร้าซ้ายไปจรดหัวไหล่ซีกขวา ลิ่มเลือดแดงฉานนี่ไหลหลากลงมานองพื้น ดีที่ไม่พุ่งเหมือนครั้งแรกแต่ก็ยังนับว่าเป็นเคสที่หนักหนาสาหัส ต่อสภาพจิตใจคนเป็นพี่มากอยู่ดี ยูมิถึงกับสะอึกสะอื้นร่ำไห้
.
"หยุดเถอะหมอ.. หมอต้องการจะสื่ออะไร จะผ่าศพน้องยูมิต่อหน้าต่อตางั้นเหรอคะ?!"
.
"เปล่า! แต่หมอแค่จะทำแบบนี้"
.
ยูมิโกะใช้มือที่สวมถุงมือไว้แล้ว กระชากส่วนศีรษะถึงหัวไหล่ให้ขาดออกจากลำตัวอย่างสยดสยอง! เธอวางหัวของนาริตะลงที่พื้นโดยไม่แยแสนัก ต่อด้วยการชี้นิ้วเข้าไปข้างในเจตนาให้คนเป็นพี่เห็นถึงอวัยวะภายใน
.
"ของเธอเองก็เป็นแบบนี้เหมือนกันยูมิจัง เธอเห็นไหมว่าข้างในมีแต่เหล็ก แม้แต่สีแดง ๆ คล้ายเลือดนี่ก็ไม่ใช่ของจริง หมอสังเคราะห์ขึ้นมาจากฮิโมโกบินของพืชตระกูล Lactuca sativa แล้วเชื่อมต่อมันเข้ากับปั้มลมขนาดเล็กตรงกระดูกเชิงกราน "
.
"เห็นกับตาแบบนี้แล้วจะเชื่อในสิ่งที่หมอพูดได้รึยัง.."
.
"อะ.. อ่ะ.. ค่ะ เชื่อแล้วก็ได้"
ยูมิถึงกับช๊อคตาตั้งมือเธอสั่นจนทำสมุดบันทึกหลุดลงพื้น วินาทีที่ก้มลงไปเก็บแล้วเห็นหัวน้องตัวเองนอนตาค้างอยู่ยิ่งทำให้หลอน หมอยูมิโกะเห็นท่าไม่ดีก็เลยรีบแทรกขึ้น
.
"ไม่ต้องห่วงนะยังไงหมอก็รักยูมิจังเหมือนเดิม เธอคือผู้ช่วยที่เก่งที่สุดของหมอและจะเป็นตลอดไปจ่ะ"
ยิ้มตาหยีหว่านโปรยไปทำให้อะไร ๆ ดูดีขึ้น ซึ่งจะครบถ้วนกระบวนความทันที ถ้าหลังจากนี้พวกเธอทำให้อวัยวะเพศชายของเจฟเฟอร์อ่อนตัวลง
.
"แล้วเราจะทำยังไงกับองคชาติของเจ้าหน้าที่เจฟดีคะหมอ ดูจากหน้าจอแล้วเจ้าตัวคงไม่ยอมหยุดง่าย ๆ "
พยาบาลสาวแสร้งถาม ทั้งที่ลึก ๆ แล้วตัวเธอเองก็ชอบ
.
แพทย์หญิงแห่งฮาราจุกุตอบด้วยการส่ายหน้า ไม่ใช่ไม่รู้แต่เพราะแค่นี้ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเธอต่างหาก!
.
"ก็แค่ต้องเดินสายไฟข้างในใหม่นิดหน่อยแบบนี้.. เอ่ิม.. แล้วก็เอามือทั้งสองข้างของนาริตะจังมาอัง ๆ กับของลับของผู้ป่วยแบบนี้ จัดท่าจัดทางให้ดีกำไว้พอหลวม ๆ "
.
"แล้วก็เริ่มในอีก 5.. 4.. 3.. 2 "
.
"สวิชท์ออน!"
.
.
"ฉึกฉัก ๆ , ฉึกฉัก ๆ , ฉึกฉัก ๆ , ฉึกฉัก ๆ , ฉึกฉัก ๆ !"
โคตรพ่อโคตรแม่งของความครีเอทสร้างสรรค์ ใครจะไปเชื่อว่าร่างเทียมสังเคราะห์หัวขาดจะสามารถนำมาใช้ชักว่าวให้ผู้ชายได้แบบนี้ มือน้อย ๆ ของนาริตะยังทำหน้าที่ของเธอได้ดี ผิวสัมผัสเธอยังคงนุ่มนิ่มเหมือนคนจริง ๆ บางจังหวะนอกจากจะชักขึ้นชักลงตรง ๆ แล้ว ยังมีควงด้วย! เจ้ามือซุกซนหมุนวนขึ้นไปยีที่หัวเห็ด มันทั้งรูด ทั้งขยำ ทั้งขยี้ จนเมือกเปียกไหลซึมลงมาหยาดเยิ้ม เส้นเอ็นบนลำควยปูดโปนออกมาอย่างเห็นได้ชัด กระตุกเสียวเป็นพัก ๆ ด้วยความสะใจ!
.
คนที่ดูจะมีความสุขเป็นที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นเจฟเฟอร์ ในที่สุดโอกาสนี้ก็มาถึงซะที เขาจิกปลายเท้าเกร็งตัวเสียวสะท้าน ปล่อยเสียงห้าวพล่านผ่านไรฟันทั้งที่โดนปิดปากเอาไว้
.
"โอ๊ย.. เสียวมากอ่ะ.. เสียวเหลือเกิน.. ใครกันนะที่ชักว่าวให้เราได้สโตรกรุนแรงขนาดนี้ ซี๊ดดดดดด! , อ๊าา~!"
.
"ผู้ช่วยยูมิรึเปล่านะ? อื้อ.. เสียว"
.
"ต้องใช่แน่เลย โอ้! เยสสสสส ยูมิ~"
.
"อ๊า.. ยูมิจ๋าแบบนั้นล่ะจ๊ะสุดยอดไปเลย อื้อ! ยูมิ เอาอีก! ยูมิ ยูมิ ยูมิ~!"
.
เจฟเฟอร์คิดในใจ แต่ยังไม่ทันไรก็ชักจะรู้ตัวว่าตัวเองคิดผิด!
.
"หมอคะถ้ายูมิเข้าใจไม่ผิด เราต้องรอจนเจ้าหน้าที่เจฟเขาสำเร็จความใคร่เลยใช่ไหมคะ พออสุจิเขาพุ่งออกมายูมิขอเข้าไป "อม!" เอ๊ย! ไม่ใช่! ขอเข้าไปเช็ด แล้วของลับของเขาก็จะค่อย ๆ อ่อนลงจนกลับมาใช้ชีิวิตได้เป็นปกติใช่ไหม?"
.
หมอยูมิโกะรีบหันควับทันที! หลังได้ยินคำถามก่อนจะให้คำตอบกลับไปว่า
.
"ไม่หรอกจ๊ะ ถ้ามันง่ายแบบนั้นเขาจะมาหาหมอทำไม ร่างกายของพวกเจ้าหน้าที่ภาคสนามถูกสร้างมาพิเศษให้แข็งแกร่งต่อทุกสภาพพื้นที่ เพราะฉะนั้นการสำเร็จความใคร่ธรรมดาย่อมใช้การไม่ได้ มันต้องระดับนี้ล่ะ ระดับที่นาริตะกำลังทำอยู่!"
.
ดวงหน้ารูปไข่ค่อย ๆ ก้มลงมากระซิบที่ใบหูผู้ป่วย หมอยูมิโกะกระซิบกระซาบกับเจฟเฟอร์เบา ๆ ราวกับต้องการให้ได้ยินเพียงแค่สองคน
.
"จอมอนิเตอร์ทำให้ฉันรู้ว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่ คิดจะพาคนของฉันไปปี้งั้นเหรอ! ฝันไปเถอะเจ้าคนลามก!"
.
"นี่แหนะ!"
.
ดั่งนรกสาปส่งเพราะจบประโยคดังกล่าว หมอยูมิโกะก็ได้สั่งการให้นาริตะซอยมือเร็วขึ้นเป็นเท่าทวี! เธอกำควยของเจฟเฟอร์แน่นจนห้อเลือด! แล้วทำการสาวแบบถี่ยิบด้วยความเร็วแปดแสน ชัก ๆ ๆ ๆ จนเกิดความร้อนและประกายไฟ! แผ่นหนังที่ทำสังเคราะห์ขึ้นก็เลยเริ่มถลอกเหลือแต่แกนโลหะแข็ง ๆ ทื่อ ๆ
ควยเย็นสิครับทีนี้! แม่งอย่างกับดอกไม้ไฟ ไหนจะการเสียดสีระหว่างเนื้อกับเหล็กอีก จากที่ "เสียว" อยู่ดี ๆ เจฟเฟอร์ก็เลยกลายเป็น "แสบ" แทน ผลที่ตามมาก็เลยทำให้ขนาดของมันค่อย ๆ หดเล็กลง มันสั้นลง ๆ เรื่อย ๆ ตามวัตุประสงค์ที่หมอยูมิโกะตั้งไว้ในตอนแรก
.
"อร๊ากกก! แสบ ๆ ๆ เจ็บชิบหายเลย! หมอยกูไหม้หมดแล้ว มันอะไรกันวะเนี๊ยะ! เมื่อกี้ยังดีอยู่แท้ ๆ โอ๊ย ๆ ๆ อูยยยย!!!"
"ผมขอโทษครับหมอ ผมจะไม่ทำอะไรแบบนั้นแล้วครับ ผมเลิกคิดแล้วครับพอเถอะขอร้องหำผมกลายเป็นหนอนชาเขียวกระทะร้อนแล้วเนี่ยะ.. อื้อ..!!!"
.
หมอยูมิโกะรับรู้ข้อความเหล่านี้ได้จากจอภาพที่แสดง ฉากหนัง AV ระหว่างเจ้าหน้าที่หนุ่มกับผู้ช่วยพยาบาลน่ารักดับฟับ! ลงไปแล้ว ที่เด้งขึ้นมาแทนกลับกลายเป็นภาพของเจฟเฟอร์ที่กำลังนั่งคุกเข่าเหงื่อแตกซิก ก้มลงหมอบกราบขอโทษขอโพย ติดแค่ไม่มีเสียง สร้างความตลกขบขันให้แก่หมอยูมิโกะยิ่งนัก ก็นะเธออยู่คนเดียวของเธอบนชั้น 4 มาตลอด วัน ๆ เจอแต่ผู้ป่วย เจอแต่เลือด เจอแต่น้ำเหลือง อุตส่าห์สรรสร้างร่างเทียมสังเคราะห์ที่สวยน่ารักสมจริงโคตร ๆ ระดับยูมิจังขึ้นมาได้ ใครมันจะยอมยกให้คนอื่นกันเล่า
.
"ฮ่า ๆ ดี! สำนึกผิดแล้วก็ดีค่ะคุณเจ้าหน้าที่ "
.
"แต่อย่าลืมนะคะว่าคุณยังเหลือแขนซ้ายที่ขาดอยู่อีกข้าง! ฉันจะทำอะไรก็ได้สำหรับคนที่กล้ามาลองดีกับยูมิจังของฉัน!"
สายลับบางคนเก่งเรื่องข้อมูลบางคนเก่งเรื่องความขยัน แต่สำหรับเจฟเฟอร์นั้นแม่ง "พรสวรรค์ล้วน ๆ " ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้สัก 30 ตอน หากยังจำกันได้เกี่ยวกับเหตุการณ์นองเลือดในเมืองยอร์คชิน ที่สถานที่การประชุมพรบ. ฟรีเซ็กส์ถูกโจมตีจนเละเทะ ในครั้งนั้นมีบุคคลระดับ V.I.P ถูกฆ่าตายเป็นจำนวนมาก แม้แต่ปิเก้เพื่อนสายลับที่สนิทที่สุดในองค์กรก็ยังเอาตัวไม่รอด แต่เจฟเฟอร์ของเรากลับใช้พรสวรรค์ของตัวเองแกะรอยตามหาองค์หญิงนาตาชาจนเจอด้วยการดมกลิ่น.ยีนเด่นในร่างกายทำให้จมูกเขาดีกว่าคนปกติ มันน่าจะดีกว่าสุนัข K - 9 ของตำรวจหลายสิบเท่า แถมยังสามารถบันทึกข้อมูลรูปพรรณสัณฐานเอาไว้ในคลังความจำได้อีกต่างหาก เสียอย่างเดียวตรงที่ค่อนข้างมีข้อจำกัดในการใช้อยู่ กล่าวคือเจฟเฟอร์ไม่ชอบที่จะใช้มันนัก มันทำให้บุคลิกเขาดูแย่ ปีกจมูกจะต้องเผยอฟุดฟิด ๆ หัวก็ต้องสั่นดุ๊กดิ๊ก ๆ ไม่ต่างจากหมาน้อยตัวหนึ่ง ใช้โหมดนี้ทีไรจึงมักหลงคิดว่าตัวเองเป็น "ไอ้หน้าหมา" ทั้งที่ความจริงแล้วเขาคือ "ไอ้หน้าม่อ" ผู้ชอบจัดช่อสาว ๆ คราวละหลาย ๆ ดอกซะมากกว่า.แต่ก็อีกนั่นแหละในเมื่อความจริงก็คือความจริง พอหมดหนทางไปต่อ ๆ ให้ไม่หล่อยังไงฟังค์
"อยากไปที่ไหน? หมายความว่าไง? ก็เห็น ๆ กันอยู่ว่าเปิดออกไปมันคือหุบเหวนรก!".เด็กหนุ่มหัวไหมพรมส่ายหน้า เขาก้มลงมองสมุดปกหนังที่ถืออยู่ในมือพลางคลี่มันออกช้า ๆ เผยให้เห็นแผ่นสไลด์สีน้ำตาลหลายแผ่นสอดอยู่ข้างใน ลักษณะมันคล้ายกับอัลบั้มรูปภาพที่เด็กสมัยนี้ไม่ค่อยมีใครได้เห็นกันแล้ว.ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่เจฟเฟอร์เริ่มนึกย้อนถึงความหลัง ก่อนหน้านี้ราว 1 - 2 ชั่วโมง เขาจำได้แม่นว่าองค์หญิงนาตาชาเองก็เคยใช้ประตูลักษณะนี้มาก่อน ใช่แล้วประตูห้องส้วมสาธารณะนั่นไงเล่า! มันคือประตูแบบเดียวกันที่พาเขาวาร์ปลงมายังฐานที่มั่นของกลุ่มอันเดอร์กราวน์ที่อยู่เบื้องล่างตรงนี้."เอาสิครับรีบบอกมาเร็วเข้าผมจะได้แสดงให้ดู คุณอยู่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะถ้าใช้ประตูไม่เป็น จะได้ลบความทรงจำเกี่ยวกับแม่ให้ผมซะที ยิ่งต้องมาสอนคุณแบบนี้ผมยิ่งรู้สึกผิดต่อคุณไนฟ์"."พรึบ! , พรึบ! , พรึบ!".เสียงหน้าอัลบั้มแผ่นแล้วแผ่นเล่าพลิกตัวผ่านไปขณะรอฟังคำตอบ ทำเอาเจฟเฟอร์ถึงกับเหงื่อตกต้องเกร็งคอตวาดเสียงดัง เพราะรำคาญท่าทางยียวนของไอ้หนุ่มอันเดอร์กราวน์รายนี้เต็มที."ชิ! เวรเอ๊ยกดดันกูชะมัด!""ไปทะเลเอ้า! กูเลือกได้แล้วไป
หากเป็นเมื่อก่อนฉากนี้คงต้องพรรณนาว่า เกิดลมหมุนมหาศาลดูดสารพัดสิ่งอย่างเข้ามาในฝ่ามือ แต่ครั้งนี้ไม่เจฟเฟอร์ไม่ต้องการใช้มุกเดิมอีกแล้ว ประกอบกับเขาเองก็ต้องการที่จะแสดงกล้ามดาก ให้ไอ้หนุ่มข้างหลังเห็นว่าเขาคือของจริง กระบวนท่าทำลายล้างแบบใหม่จึงถูกสถาปนาขึ้น.เริ่มจากสอดแขนขวาที่ถนัดทะลุช่องว่างลูกกรงออกไป กัดฟันกลั้นใจอยู่ชั่วอึดใจหนึ่งสักพักท่อนแขนส่วนล่างไล่จากข้อศอกลงไปถึงข้อมือ ก็เริ่มส่งเสียงสนั่นดัง เปรี๊ยะ ๆ เปรี๊ยะ ๆ มันแตกร้าวลงมาเป็นแถบตรงราว 7 - 8 เส้น อ้อมท่อนแขนจรดข้อมือ มิหนำซ้ำยังแพลมแสงสีขาวพุ่งออกมาเป็นริ้ว ๆ ราวกับหุ่นยนต์ที่กำลังเปลี่ยนร่าง."เฮือกกก.. นี่คุณจะทำอะไรน่ะ? คุณเป็นตัวอะไรกันแน่? ผมแสบตาไปหมดแล้ว! , อ๊าาาา!"หรี่ตาเหยเกพิงหลังใส่กำแพง ถามไปก็เท่านั้นในเมื่อเจฟเฟอร์เลือกที่จะไม่ตอบ.สายลับหนุ่มแค่หันมาพยักหน้าให้ แล้วทันใดนั้นเองเนื้อแขนของเขาก็ฉีกตัวออก มันเด้งง้างขึ้นตามแนวขอบแสงเป็นซี่ ๆ ทีละชิ้น ๆ จากหนึ่งเป็นสอง , จากสองเป็นสาม , จากสามเป็นสี่ , ไล่ไปจนครบรอบวงแขน จนมีลักษณะคล้ายกับก้านร่มที่ไม่มีผ้าใบ ซี่ชิ้นส่วนที่ง้างตัวขึ้นมาเหล่านั้นคลี่ต
ดวงหน้าแปดเปื้อนพรายน้ำตาเละเทะ สวนทางกับเจฟเฟอร์ที่อยากฟังต่อใจจะขาด เขาไม่อยากทรยศการแข็งตัวของควยตัวเองเลย เพราะอุตส่าห์ได้รับโหวตจากอารมณ์เงี่ยนในร่างกายให้ชูชันขึ้นมาแล้วแท้ ๆ จะมาถูกเชิญออกจากหว่างขาเหมือน สส. บางคนในสภาฯ มันก็น่าเสียดาย."ไม่เป็นไรครับคุณผมยังไหวอยู่ ผมขอเล่าต่อเลยนะ"."อืม.. เอ้อ!"."แม่คุกเข่าลงที่เตียงพลางโน้มตัวลงมาคร่อมร่างผม ในจังหวะนั้นผมรับรู้ได้ถึงน้ำหนักของแม่ที่กดเตียงนอนให้จมลงเป็นหลุม ด้วยความสัตย์จริงผมขยับไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว เหมือนร่างกายนั้นแหวกว่ายอยู่ในบ่ออารมณ์เสพสมบ่มีสมที่แม่สถาปนาขึ้น เอวผม , สะโพกผม , แล้วก็ตูด จมยุบลงไป มิหนำซ้ำแผ่นหลังยังโค้งเป็นคันศรด้วยฤทธาจากที่นอนซึ่งต่างระดับ"."โดนขนาดนี้แต่คุณรู้อะไรไหมว่าไอ้นั่นของผม ยังคงโด่ต่อหน้าแม่ได้อย่างไม่สะทบสะท้าน ที่ใต้ผ้าห่มซุ่มเสียงจากสาวคนรักยังคงรุกเร้าผมด้วยความเร้าใจ หล่อนไม่เปิดช่องให้ผมได้อธิบายอะไรเลย แท่งควยป้อม ๆ ในวัย 17 ก็เลยเสยเนื้อผ้าในองศาที่สูงขึ้น ให้ตายเถอะผมกำลังมีอารมณ์อยู่กับสาวที่ไม่เห็นหน้าทางโทรศัพท์แท้ ๆ แต่ไอ้จ้อนใต้ผ้ามันดันโก่งขึ้น! โก่งขึ้น! แล้วก็
ได้ยินแบบนั้นเจฟเฟอร์ก็อึ้งกิมกี่พลันรีบนึกย้อนกลับไปยังภาพทรงจำ ที่ตัวเองเพิ่งหลุดพ้นออกมา."ผู้หญิงผมยาวท่าทางใจดีคนนั้นอ่ะนะ.. ที่คิดจะทำมิดีมิร้ายมึง! เหอะ! กูเชื่อมึงกูก็ปัญญาอ่อนแล้วล่ะ!"."ไม่ต้องเชื่อผมก็ได้ครับเพราะฟังดูแล้วมันก็ยากที่จะเชื่อจริง ๆ แม่เวอร์ชั่นปกติน่ะใช่! แต่ถ้าเป็นแม่ที่สวาปามยาอลาลัสเปี้ยนส์เข้าไปแล้วล่ะก็ มันก็คนล่ะเรื่อง!""แล้วผมก็ไม่ได้บอกสักหน่อยว่าผมยินยอม.. ผมดิ้นสุดกู่ผมสู้สุดใจ แต่เป็นแม่ต่างหากที่ "ข่มขืน" ผม! ย้ำว่าแม่ "ข่มขืน" ผม!".อารมณ์มาคุเกาะกินหัวใจ เด็กหนุ่มกระชับฝ่ามือกำลูกกรงแน่น พลันเขย่า ๆ ๆ จนฝ่ามือช้ำเป็นเปื้อน ๆ."บัดโถ่เอ๊ย! ตอนนั้นผมอายุ 17 เองผมยังซิงอยู่เลย! คนเหี้ยอะไรเสียซิงให้แม่ตัวเอง! เหี้ย! ทุเรศชะมัด! คิดขึ้นมาทีไรผมล่ะแค้นใจชิบหาย ราชาเด็มบ้าบาเพราะท่านแท้ ๆ ที่ทำให้ผมต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้ , หึ๊ยยย!".เห็นท่าไม่ดีจึงรีบปรี่เข้าไปขวาง สายลับหนุ่มขยุ้มคอเสื้อกระชากเขาเอาไว้."เฮ๊ย! ใจเย็นก่อนไอ้หนุ่ม สงบจิตสงบใจลงหน่อยเถอะวะ สนิมมันจะซึมเข้ามือมึงเอานะมึงนั่งลงก่อน เหมือนอยากจะระบายอะไรใช่ไหมกูรู้สึกได้?".เจฟเฟ
"แม่ครับแม่! แม่จะพาผมไปไหนเหรอครับ ขาผมสั้นผมก้าวไม่ทัน".จู่ ๆ ซุ่มเสียงของเจฟเฟอร์ก็เปลี่ยนคีย์ไปในบัดดล ไม่เฉพาะแค่รูปร่างบุคลิกแล้วที่เปลี่ยน มาตอนนี้สายลับอย่างเขารับรู้ได้เลยว่าทุกอย่างรอบตัว แม้แต่ชีวิตจิตใจก็คงเข้ามาสิงสู่อยู่ในร่างของเจ้าของเรื่องแล้วอย่างสมบูรณ์แบบ เขาคอนโทรลตัวเองไม่ได้ ใจจะเลี้ยวไปทางขวาขามันก็ก้าวไปทางซ้าย พอตั้งใจจะหยุดก็โดนหญิงวัยกลางคนที่เรียกตนเองว่าแม่ยื้อยุดฉุดกระชาก แม้แต่คำพูดคำจาที่ตั้งใจจะพูดอีกอย่างก็กลายเป็นอีกอย่าง.เหมือนกับว่าสิ่งเดียวที่อนุญาตให้เจฟเฟอร์ทำได้ ในโลกแห่งความทรงจำนี้คือการมองเห็น เขากำลังเห็นในสิ่งเดียวกับที่หนูน้อยวัย 10 ขวบเห็น มันคือประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่งของอลาลัสที่ไม่ได้โชกชุ่มไปด้วยน้ำกาม แต่อิ่มพลีไปด้วยคาวเลือด แอ่งโลหิตแห่งความอัปรีย์ของสตรีผู้อยู่ในฐานันดรสูงสุด."ก็ไปดูองค์ราชินีเสด็จไงลูก พระองค์กับบรมวงศานุวงศ์ทั้งหมดจะเสด็จเยี่ยมราษฎรณ์พร้อมกันเชียวนะ นาน ๆ จะมีโอกาสแบบนี้สักครั้ง ไม่งั้นคนไม่เต็มถนนแบบนี้หรอกลูกรัก รู้สึกจะขาดแค่ราชาองค์เดียว"."ราชาเด็มบ้าบา! เอ๋? ทำไมท่านไม่มาล่ะครับ?"ขยับปากถามไปเอง