แกนแข็งดีดสะบัด! เฉี่ยวปลายคางยูมิไปไม่ถึงครึ่งมิลลิเมตร ดวงหน้าบ่องแบ๊วเบนหลบทำปากเหยเก แสร้งทำเป็นไม่สนใจ
.
"เรียบร้อยแล้วค่ะคุณหมอ ให้ทำอะไรต่อดีคะ?"
.
"ช่วยเช็คความดันให้ที วัดอัตราการแข็งตัวของเลือดด้วย อ้อ! แล้วก็อย่าลืมจดบันทึกบนหน้าจอไว้ด้วยล่ะ ว่าตอนนี้เจ้าหน้าที่เจฟเฟอร์เขากำลังคิดอะไรอยู่"
.
"ไฮ้! ได้ค่ะหมอ"
.
ในที่สุดเวลานี้ก็มาถึงหลังจากที่ต้องตกระกำลำบากมาหลายตอน เจฟเฟอร์หลุดรอยยิ้มแป้นแล้นออกมา แม้ว่าดวงหน้ากว่าครึ่งจะถูกคลุมทับไว้ด้วยผ้าปิดปาก
.
"ใช้แขนขวานะหมอ เพราะแขนซ้ายผมมันขาดไปแล้ว รีบทำเข้า! ผมจะได้เอาดอกลาเวนเดอร์ขึ้นไปให้บอสซะที "
.
พยาบาลยูมิได้ยินก็แต่เสียงอู้ ๆ อี้ ๆที่ดังรอดผ้าปิดปากออกมา แต่พอเหลือบสายตาไปที่หน้าจอกลับพบว่าสิ่งที่เจ้าหน้าที่เจฟเฟอร์กำลังคิดอยู่ คือภาพเงาดำของผู้หญิงผมยาวคนหนึ่ง ที่กำลังเกลือกกลิ้งอยู่บนโขดหินท่ามกลางการบานสะพรั่งของทุ่งลาเวนเดอร์ ร่างเปลือยบอบบางตูดใหญ่นมบวบเป่ง ขาดแต่เพียงซับไตเติลวิ่งด้านล่าง ไม่งั้นคงไม่ต่างจาก karaoke นู๊ด ในยุค 90 's
.
"ฝันหวานเชียวนะคะเจ้าหน้าที่เจฟเฟอร์ แต่ตอนนี้ขอยูมิขัดจังหวะหน่อยแล้วกัน , ฮึบ!"
.
"แกร็ก ๆ , แกร๊ก ๆ"
ชายหนุ่มเดาว่านั่นคงเป็นเสียงล้อลากจากเครื่องวัดความดัน อีกไม่นานแขนขวาของเขาก็จะถูกยกขึ้นเล็กน้อย แล้วก็จะมีผ้าอะไรสักอย่างเป็นวง ๆ สวมเข้ามา พอกดปุ่มดังปิ๊บ! ไอ้เจ้าผ้านี่ก็จะรัด ๆ ๆ จนแขนบวม ค่าความดันก็จะปรากฏ
.
ซึ่งผิดถนัด! เพราะผู้ช่วยยูมิดันเลือกที่จะใช้ผ้าเป็นวง ๆ ดังกล่าวสวมเข้าที่แท่งควยแทน! เธอรูดมันลงจนมิดด้ามราวกับใส่ถุงยางอนามัยให้ผัว มิหนำซ้ำยังใช้มือนุ่ม ๆ ปาดเอาแพรไหมดกดำของเจฟเฟอร์ให้ลู่ล้มลงด้วย
.
"อดทนหน่อยนะคะ ยูมิคงช่วยอะไรไม่ได้ ในเมื่อคุณหมอเขาสั่งมา.."
.
"ติ๊ด!"
.
"เดินเครื่องค่ะ!"
.
.
"พรืดดดดด! , งึด ๆ ๆ , งึด ๆ ๆ"
.
"อื้ออออ! อู้อี้! อู้อี้ อั๊กกกก!"
ดิ้นกระแด่ว ๆ ทั้งเนื้อทั้งตัวบิดงอเป็นสะพานโค้ง ขาเตียงสั่นพับ ๆ แรงบีบจากเครื่องวัดความดันมหาศาลมาก ดาบซามูไรที่ผ่านมานี่ขี้ไก่ขี้กาไปเลยเมื่อเทียบกับเจ้านี่ ตัวเลขบนเครื่องวิ่งปั่นไปมาด้วยความเร็วสูง ความดันที่ว่าหาใช่ความดันโลหิตจากร่างกายไม่ หากแต่เป็นแรงดันในเส้นเลือดฝอยใต้หำอันเป็นสาเหตุที่ทำให้ควยใหญ่ผิดมนุษย์มนา และโด่ไม่รู้ล้มแบบนี้ต่างหาก
.
มือหนาขยุ้มแผ่นหนังสุดหรูบนเตียงจนขาดวิ่น! เจฟเฟอร์กัดกรามกรอด ๆ ได้แต่เฝ้าภาวนาให้ความทรมานนี้จบลงซะที ดังที่ได้เห็นจากภาพบนหน้าจอโปรเจคเตอร์ ที่ลิงค์สัญญาณมาจากเครื่องรับบนกกหู
.
"อู้หู! คราวนี้เปลี่ยนเป็นถ่ายหนังบู้เหรอค่ะเจ้าหน้าที่เจฟ เงาผู้หญิงแก้ผ้าเมื่อกี้หายไปไหนแล้วล่ะ ทุ่งดอกลาเวนเดอร์กลายเป็นยอดหนามแหลม โขดหินเด่นสง่าก็กลายเป็นเครื่องกิโยตินไว้ตัดคอคนซะแล้ว"
หมอยูมิโกะแทรกขึ้นบ้าง
.
"บันทึกทุกอย่างเอาไว้นะจ๊ะยูมิ จะใช้สายวัดในลิ้นชักหมอก็ได้ ช่วยสังเกตให้หน่อยว่าองคชาติของผู้ป่วยหดตัวลงบ้างรึเปล่า แล้วเดี๋ยวหมอกลับมา"
.
"หมอจะไปไหนค่ะ?"
.
"เอ้า! ยูมิจังนี่ก็ถามแปลก ๆ เธอลืมไปแล้วรึไงว่าตัวเองกำลังงอนหมออยู่ หมอจะเข้าไปข้างหลังม่านเจลเหนียวหนืด ไปเอาร่างของนาริตะจังออกมาข้างนอก"
.
"ตอนปัดกวาดที่นี่ยูมิจังซ่อนศพของน้องไว้ด้านหลังใช่ไหมล่ะ?"
.
"หมอรู้?!"
.
"ก็แน่สิจ๊ะ! ก็ในเมื่อพวกเธอพี่น้องเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่หมอสร้างขึ้นเองกับมือทำไมจะไม่รู้ล่ะ"
.
แล้วหมอยูมิโกะในชุดหนังสีเหลืองสดก็แหวกว่ายเข้าไปในผนังเจลหยุกหยุย ทิ้งให้พยาบาลยูมิอยู่กับเจ้าหน้าที่เจฟเฟอร์ตามลำพังสองต่อสอง
.
"หวังว่าคงไม่นานนะคะหมอ ถึงยูมิจะไม่ใช่คนแต่ยูมิก็มีความเงี่ยน! ดูซิ! คิดได้ไงให้ผู้หญิงอย่างเรามานั่งเฝ้าควยผู้ชาย! หึ๊ยยย!"
สาวเจ้าตัดพ้อ ทั้งที่ดวงตากลมโตยังคงจดจ้องส่วนปลายหัวเห็ดแบบไม่วางตา
.
"เอ๊ะ! คุณเงี่ยนเหรอค่ะ ดูสิน้ำเมือกไหลตลอดเลย ขอยูมิลองแตะ ๆ ดูหน่อยนะ , แตะ ๆ แตะ ๆ"
.
"อุ่นจัง.. ยูมิเคยเอาแค่กับหมอยูมิโกะ ถ้าวันไหนเจ้าหน้าที่เจฟว่าง ๆ ช่วยสอนยูมิโกะเย็ดกับผู้ชายหน่อยนะคะ ยูมิอยากลองอมควยดู"
พูดจบหญิงสาวก็ทอดสายตาไปที่หน้าจอโปรเจคเตอร์ที่เชื่อมต่อกับสมองอีกครั้ง คราวนี้มันไม่ได้ฉายภาพของความเป็นขุมนรกอันแสนเจ็บปวดอีกต่อไป แต่ได้เปลี่ยนเป็นภาพของการร่วมรักกันอย่างบ้าคลั่ง ของพวกเบอร์แบโต้ในห้องอาบน้ำแทน
.
แล้วทันใดนั้นสิ่งที่ยูมิไม่เคยจินตนาการถึงก็บังเกิดขึ้น เมื่อจู่ ๆ ขดผ้าวงกลมจากเครื่องวัดความดันก็ส่งเสียงดังขึ้นมา!
.
"แขวกกก!!!"
.
"ว๊าย! คุณพระช่วยมันใหญ่ขึ้นอีกแล้ว ใหญ่จนผ้าขาดเลย! ต้องรีบใช้สายวัด!"
.
เสียเวลาไปประมาณ 3 วินาที ตัวเลขที่ยูมิจังบันทึกลงไปในสมุดก็คือ 12 นิ้วครึ่ง ซึ่งแม่งยาวกว่าไม้บรรทัดซะอีก! กำลังจะตะแคงข้างเพื่อวัดความอ้วนป้อม แต่ทว่าหมอยูมิโกะก็ดันกลับออกมาจากผนังเจลตึ๋งหนืดซะก่อน ซึ่งสิ่งที่ได้ติดมือกลับมาก็คือร่างอันไร้วิญญาณของนาริตะตามที่ได้สัญญาไว้
.
"หือ..ทำอะไรอยู่จ๊ะยูมิจัง หมอมาขัดจังหวะอะไรรึเปล่า?"
.
เลียริมฝีปากแผลบ! กลิ่นควยยังคละคลุ้งอยู่เต็มโพรงจมูก
.
"อ่ะ! ปะ..เปล่า! ค่ะหมอ ยูมิแค่พยายามที่จะบันทึกข้อมูลตามที่หมอสั่ง ว่าแต่เป็นไงบ้างคะ"
.
"ก็เรียบร้อยดี ขอเก้าอี้ตัวที่มีล้อให้หมอหน่อยสิ ร่างของนาริตะต้องอยู่ในตำแหน่งที่สูงพอ"
.
ยูมิรีบจัดแจงให้ทันควันสลับกับการส่งบันทึกตัวเลขต่าง ๆ ให้หมอพิจารณา ซึ่งแน่นอนว่าการแข็งตัวจนทำให้สายวัดความดันขาดก็มีการบันทึกเอาไว้ด้วย แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้หมอยูมิโกะตกใจสักเท่าไหร่ ตรงกันข้ามคนที่อยู่ในอาการตกใจจนเกือบช๊อคกลับกลายเป็นยูมิแทน
.
"โถน้องนาริตะผู้น่าสงสาร พี่เสียใจที่ช่วยน้องไว้ไม่ทัน เห็นศพน้องในสภาพนี้อารมณ์พีี่ช่างแปรปรวนนัก ฮือ ๆ หึ ฮือ ๆ"
ความกระสันซ่านร่านผสมแรดมลายหายไปสิ้น ยูมิรีบเข็นเก้าอี้ที่มีร่างอันซีดเซียวของน้องมายังข้างเตียง ตรงตำแหน่งที่มีท่อนเอ็นแข็งอยู่
.
"ขอบใจจ๊ะทีนี้ยูมิจังถอยออกไปก่อนนะ ตั้งใจดูล่ะ! จะได้รู้สักทีว่าหมอไม่ได้โกหก!"
.
พยาบาลสาวพยักหน้ารับ แล้วภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าในเสี้ยวอึดใจ ก็คือภาพแห่งความซาดิสต์ที่สุดในชีวิต! เมื่อหมอยูมิโกะเริ่มลงมือถลกแผ่นหนังของนาริตะออก! ร่างที่ถูกฟันขาดสะพายแล่งอยู่แล้วทำให้หมอทำงานง่ายขึ้น ใช้แค่มีดผ่าตัดดวงเล็ก ๆ เฉือนไปบนเนื้อผ้าแล้วกระชากทิ้ง ต่อด้วยการลงน้ำหนักมือให้มากขึ้น จิกมีดลงไปใต้ผิวหนังเลาะเข้าไปถึงกระดูก! ค่อย ๆ ฉึก! ค่อย ๆ เฉือน! ลัดเลาะไปตั้งแต่ไหปลาร้าซ้ายไปจรดหัวไหล่ซีกขวา ลิ่มเลือดแดงฉานนี่ไหลหลากลงมานองพื้น ดีที่ไม่พุ่งเหมือนครั้งแรกแต่ก็ยังนับว่าเป็นเคสที่หนักหนาสาหัส ต่อสภาพจิตใจคนเป็นพี่มากอยู่ดี ยูมิถึงกับสะอึกสะอื้นร่ำไห้
.
"หยุดเถอะหมอ.. หมอต้องการจะสื่ออะไร จะผ่าศพน้องยูมิต่อหน้าต่อตางั้นเหรอคะ?!"
.
"เปล่า! แต่หมอแค่จะทำแบบนี้"
.
ยูมิโกะใช้มือที่สวมถุงมือไว้แล้ว กระชากส่วนศีรษะถึงหัวไหล่ให้ขาดออกจากลำตัวอย่างสยดสยอง! เธอวางหัวของนาริตะลงที่พื้นโดยไม่แยแสนัก ต่อด้วยการชี้นิ้วเข้าไปข้างในเจตนาให้คนเป็นพี่เห็นถึงอวัยวะภายใน
.
"ของเธอเองก็เป็นแบบนี้เหมือนกันยูมิจัง เธอเห็นไหมว่าข้างในมีแต่เหล็ก แม้แต่สีแดง ๆ คล้ายเลือดนี่ก็ไม่ใช่ของจริง หมอสังเคราะห์ขึ้นมาจากฮิโมโกบินของพืชตระกูล Lactuca sativa แล้วเชื่อมต่อมันเข้ากับปั้มลมขนาดเล็กตรงกระดูกเชิงกราน "
.
"เห็นกับตาแบบนี้แล้วจะเชื่อในสิ่งที่หมอพูดได้รึยัง.."
.
"อะ.. อ่ะ.. ค่ะ เชื่อแล้วก็ได้"
ยูมิถึงกับช๊อคตาตั้งมือเธอสั่นจนทำสมุดบันทึกหลุดลงพื้น วินาทีที่ก้มลงไปเก็บแล้วเห็นหัวน้องตัวเองนอนตาค้างอยู่ยิ่งทำให้หลอน หมอยูมิโกะเห็นท่าไม่ดีก็เลยรีบแทรกขึ้น
.
"ไม่ต้องห่วงนะยังไงหมอก็รักยูมิจังเหมือนเดิม เธอคือผู้ช่วยที่เก่งที่สุดของหมอและจะเป็นตลอดไปจ่ะ"
ยิ้มตาหยีหว่านโปรยไปทำให้อะไร ๆ ดูดีขึ้น ซึ่งจะครบถ้วนกระบวนความทันที ถ้าหลังจากนี้พวกเธอทำให้อวัยวะเพศชายของเจฟเฟอร์อ่อนตัวลง
.
"แล้วเราจะทำยังไงกับองคชาติของเจ้าหน้าที่เจฟดีคะหมอ ดูจากหน้าจอแล้วเจ้าตัวคงไม่ยอมหยุดง่าย ๆ "
พยาบาลสาวแสร้งถาม ทั้งที่ลึก ๆ แล้วตัวเธอเองก็ชอบ
.
แพทย์หญิงแห่งฮาราจุกุตอบด้วยการส่ายหน้า ไม่ใช่ไม่รู้แต่เพราะแค่นี้ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเธอต่างหาก!
.
"ก็แค่ต้องเดินสายไฟข้างในใหม่นิดหน่อยแบบนี้.. เอ่ิม.. แล้วก็เอามือทั้งสองข้างของนาริตะจังมาอัง ๆ กับของลับของผู้ป่วยแบบนี้ จัดท่าจัดทางให้ดีกำไว้พอหลวม ๆ "
.
"แล้วก็เริ่มในอีก 5.. 4.. 3.. 2 "
.
"สวิชท์ออน!"
.
.
"ฉึกฉัก ๆ , ฉึกฉัก ๆ , ฉึกฉัก ๆ , ฉึกฉัก ๆ , ฉึกฉัก ๆ !"
โคตรพ่อโคตรแม่งของความครีเอทสร้างสรรค์ ใครจะไปเชื่อว่าร่างเทียมสังเคราะห์หัวขาดจะสามารถนำมาใช้ชักว่าวให้ผู้ชายได้แบบนี้ มือน้อย ๆ ของนาริตะยังทำหน้าที่ของเธอได้ดี ผิวสัมผัสเธอยังคงนุ่มนิ่มเหมือนคนจริง ๆ บางจังหวะนอกจากจะชักขึ้นชักลงตรง ๆ แล้ว ยังมีควงด้วย! เจ้ามือซุกซนหมุนวนขึ้นไปยีที่หัวเห็ด มันทั้งรูด ทั้งขยำ ทั้งขยี้ จนเมือกเปียกไหลซึมลงมาหยาดเยิ้ม เส้นเอ็นบนลำควยปูดโปนออกมาอย่างเห็นได้ชัด กระตุกเสียวเป็นพัก ๆ ด้วยความสะใจ!
.
คนที่ดูจะมีความสุขเป็นที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นเจฟเฟอร์ ในที่สุดโอกาสนี้ก็มาถึงซะที เขาจิกปลายเท้าเกร็งตัวเสียวสะท้าน ปล่อยเสียงห้าวพล่านผ่านไรฟันทั้งที่โดนปิดปากเอาไว้
.
"โอ๊ย.. เสียวมากอ่ะ.. เสียวเหลือเกิน.. ใครกันนะที่ชักว่าวให้เราได้สโตรกรุนแรงขนาดนี้ ซี๊ดดดดดด! , อ๊าา~!"
.
"ผู้ช่วยยูมิรึเปล่านะ? อื้อ.. เสียว"
.
"ต้องใช่แน่เลย โอ้! เยสสสสส ยูมิ~"
.
"อ๊า.. ยูมิจ๋าแบบนั้นล่ะจ๊ะสุดยอดไปเลย อื้อ! ยูมิ เอาอีก! ยูมิ ยูมิ ยูมิ~!"
.
เจฟเฟอร์คิดในใจ แต่ยังไม่ทันไรก็ชักจะรู้ตัวว่าตัวเองคิดผิด!
.
"หมอคะถ้ายูมิเข้าใจไม่ผิด เราต้องรอจนเจ้าหน้าที่เจฟเขาสำเร็จความใคร่เลยใช่ไหมคะ พออสุจิเขาพุ่งออกมายูมิขอเข้าไป "อม!" เอ๊ย! ไม่ใช่! ขอเข้าไปเช็ด แล้วของลับของเขาก็จะค่อย ๆ อ่อนลงจนกลับมาใช้ชีิวิตได้เป็นปกติใช่ไหม?"
.
หมอยูมิโกะรีบหันควับทันที! หลังได้ยินคำถามก่อนจะให้คำตอบกลับไปว่า
.
"ไม่หรอกจ๊ะ ถ้ามันง่ายแบบนั้นเขาจะมาหาหมอทำไม ร่างกายของพวกเจ้าหน้าที่ภาคสนามถูกสร้างมาพิเศษให้แข็งแกร่งต่อทุกสภาพพื้นที่ เพราะฉะนั้นการสำเร็จความใคร่ธรรมดาย่อมใช้การไม่ได้ มันต้องระดับนี้ล่ะ ระดับที่นาริตะกำลังทำอยู่!"
.
ดวงหน้ารูปไข่ค่อย ๆ ก้มลงมากระซิบที่ใบหูผู้ป่วย หมอยูมิโกะกระซิบกระซาบกับเจฟเฟอร์เบา ๆ ราวกับต้องการให้ได้ยินเพียงแค่สองคน
.
"จอมอนิเตอร์ทำให้ฉันรู้ว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่ คิดจะพาคนของฉันไปปี้งั้นเหรอ! ฝันไปเถอะเจ้าคนลามก!"
.
"นี่แหนะ!"
.
ดั่งนรกสาปส่งเพราะจบประโยคดังกล่าว หมอยูมิโกะก็ได้สั่งการให้นาริตะซอยมือเร็วขึ้นเป็นเท่าทวี! เธอกำควยของเจฟเฟอร์แน่นจนห้อเลือด! แล้วทำการสาวแบบถี่ยิบด้วยความเร็วแปดแสน ชัก ๆ ๆ ๆ จนเกิดความร้อนและประกายไฟ! แผ่นหนังที่ทำสังเคราะห์ขึ้นก็เลยเริ่มถลอกเหลือแต่แกนโลหะแข็ง ๆ ทื่อ ๆ
ควยเย็นสิครับทีนี้! แม่งอย่างกับดอกไม้ไฟ ไหนจะการเสียดสีระหว่างเนื้อกับเหล็กอีก จากที่ "เสียว" อยู่ดี ๆ เจฟเฟอร์ก็เลยกลายเป็น "แสบ" แทน ผลที่ตามมาก็เลยทำให้ขนาดของมันค่อย ๆ หดเล็กลง มันสั้นลง ๆ เรื่อย ๆ ตามวัตุประสงค์ที่หมอยูมิโกะตั้งไว้ในตอนแรก
.
"อร๊ากกก! แสบ ๆ ๆ เจ็บชิบหายเลย! หมอยกูไหม้หมดแล้ว มันอะไรกันวะเนี๊ยะ! เมื่อกี้ยังดีอยู่แท้ ๆ โอ๊ย ๆ ๆ อูยยยย!!!"
"ผมขอโทษครับหมอ ผมจะไม่ทำอะไรแบบนั้นแล้วครับ ผมเลิกคิดแล้วครับพอเถอะขอร้องหำผมกลายเป็นหนอนชาเขียวกระทะร้อนแล้วเนี่ยะ.. อื้อ..!!!"
.
หมอยูมิโกะรับรู้ข้อความเหล่านี้ได้จากจอภาพที่แสดง ฉากหนัง AV ระหว่างเจ้าหน้าที่หนุ่มกับผู้ช่วยพยาบาลน่ารักดับฟับ! ลงไปแล้ว ที่เด้งขึ้นมาแทนกลับกลายเป็นภาพของเจฟเฟอร์ที่กำลังนั่งคุกเข่าเหงื่อแตกซิก ก้มลงหมอบกราบขอโทษขอโพย ติดแค่ไม่มีเสียง สร้างความตลกขบขันให้แก่หมอยูมิโกะยิ่งนัก ก็นะเธออยู่คนเดียวของเธอบนชั้น 4 มาตลอด วัน ๆ เจอแต่ผู้ป่วย เจอแต่เลือด เจอแต่น้ำเหลือง อุตส่าห์สรรสร้างร่างเทียมสังเคราะห์ที่สวยน่ารักสมจริงโคตร ๆ ระดับยูมิจังขึ้นมาได้ ใครมันจะยอมยกให้คนอื่นกันเล่า
.
"ฮ่า ๆ ดี! สำนึกผิดแล้วก็ดีค่ะคุณเจ้าหน้าที่ "
.
"แต่อย่าลืมนะคะว่าคุณยังเหลือแขนซ้ายที่ขาดอยู่อีกข้าง! ฉันจะทำอะไรก็ได้สำหรับคนที่กล้ามาลองดีกับยูมิจังของฉัน!"
หน้าอกจุกเสียดแน่นท้องหายใจก็ไม่ค่อยจะออก อย่าว่าแต่การเค้นพลังลมปราณจากอวัยวะสืบพันธุ์เลย โดนสิบล้อทับทั้งคันอยู่แบบนี้แม้แต่ตัวเองยังเอาตัวไม่รอด เขาเจ็บแค่ไหนนาตาชาเจ็บกว่า เขาดิ้นทุรนทุรายนาตาชาชักเกร็งจะเป็นจะตายเหมือนจะขาดใจตายอยู่รอน ๆ.ร่างกายเธอกำลังขาดเลือด อาการที่เห็นคือสภาวะช็อคอันเกิดจากการมีปัญหาที่ระดับความดันโลหิต เมื่อรวมเข้ากับน้ำหนักตัวที่กดทับลงมาของโรบอทซอมบี้แล้วไซร้ อะไรต่อมิอะไรจึงดำเนินไปในแง่ลบ เธอได้ตายจริง ๆ แน่หากบุรุษหนุ่มผู้จมอยู่ใต้ดอกยางไม่ตระหง่านออกมาช่วย."อั๊ก.. อ๊ะ.. อั๊ก.. ก.. ก.. ฮึบ! ดีนะที่แขนยังพอขยับได้อยู่".เจฟเฟอร์พยายามอย่างสุดกำลังรวบรวมพลังไว้ที่ปลายนิ้ว เรียกได้ว่าเค้นออกมาทุกหยดจะลมตดหรือติ่งเล็บตีน ขอแค่เปลี่ยนเป็น Energy ได้เขาไม่เกี่ยง หน้าจอในมุมมองบุคคลที่หนึ่งมองเห็นเคอร์เซอร์วิ่งติ๊ก ๆ ๆ พลันล็อคเป้าหมายไว้ที่โรบอทซอมบี้ตัวที่กำลังง้างกงเล็บ เตรียมจะฟาดฟันใส่องค์หญิง."งับ!"."โอ๊ย! ไอ้เหี๊ยะเอ๊ย! ขากู! ยิ่งเพิ่งต่อมาใหม่ ๆ อยู่ พวกมึงก็ให้เวลากูหน่อยเป็นไร อ๊ากกก! เจ็บ ๆ เจ็บโว๊ย! อูยยย~!".โดยไม่ทันระวังตัว เพราะในระห
ปลายนิ้วชี้มือขวาควันขึ้นโขมง หงายฝ่ามือขึ้นดูเจฟเฟอร์เห็นแต่รอยเขม่าไหม้อันแสนดำขลับ ความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ก็คือเขาได้ทำเต็มที่ขี้เต็มกางเกงแล้ว เลเซอร์สังหารจากปลายนิ้วคืออาวุธชิ้นเดียวที่เขามี แม้ว่าเจ้าตัวจะลองนั่งคุกเข่าลง แล้วก็เล็งยิงเข้าใส่เป้าหมายเดิมไปอีกหลายชุด ด้วยท่าเบสิคสัด ๆ ตัดท่ายากลีลาเยอะออกไปก็ยังไม่ได้ผล กระสุนเรืองแสงหลายสิบนัดกระทบชิ่งลำตัวของพวกมันออกไป ราวกับถูกปัดด้วยดาบไลซ์เซเบอร์ของอัศวินเจได."เป๊ง! , เป้ง! , เป๊ง! , เป้ง!".แน่นอนว่าพอไม่ได้ผลก็เหมือนเป็นการเปิดช่องให้จักรกลซอมบี้ทั้งกลุ่มเร่ิมรู้สึกตัว พวกมันไม่ได้แค่มองแล้วในตอนนี้ แต่มันเล่นทิ้งร่างเปลือยของนาตาชาไว้ในการดูแลของไอ้ตัวที่ควักเต้านมอยู่เพียงลำพังแบบโดด ๆ ที่เหลืออีกสาม ประกอบด้วยไอ้ตัวเบื้องซ้าย , เบื้องขวา , แล้วก็ไอ้ตัวที่ใหญ่ที่สุด ได้เริ่มลุกขึ้นยืนพลางสาวเท้าโทง ๆ วิ่งเข้าหาเจฟเฟอร์ในทันทีทันใด."ตุ๊ด! , ตุ๊ด! , ตุ๊ด! , ตุ๊ด! ๆ ๆ ".ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าแปลว่าอะไร แค่เห็นการกระโจนพรวดเข้ามาพร้อมกันแบบนั้น เจฟเฟอร์ก็รู้แล้วล่ะว่าชะตาตัวเองกำลังจะขาด ดูเหมือนเจ้าตัวจะทำพลาดมหันต์
แพลนกล้องกลับมายังทิศใต้ ณ จุดที่ห่างออกไปจากจุดที่เกิดเหตุเซ็กส์อนาฏกรรม ของคนและเครื่องจักร เขายังคงยืนเด่นเป็นสง่าถ่างขาจังก้าอยู่แบนแผ่น jumper board ที่ลอยสูงเหนือหัวกลุ่มซอมบี้โลหะเป็นแสน ๆ พวกมันทำอะไรเขาไม่ได้ อย่างเก่งก็ได้แค่กระโดดเหยง ๆ ชูไม้ชูมือ ป่ายปัดโดนขอบ ๆ ริม ๆ ของแผ่น jumper board เท่านั้น."เออ.. น่ะ ใจเย็น ๆ ไม่ต้องคลั่งกูขนาดนั้นก็ได้ ไอ้พวกนี้เดี๋ยวบัด! เหวอ ๆ ฮึบ! เห็นไหมล่ะ! บอกแล้วว่าเดี๋ยวมันตก แผ่นบอร์ดคว่ำไปมีหวังศพไม่สวยแน่กู.. ฮู่วววว!"เจฟเฟอร์ตวาดเสียงดังพลางชะโงกหน้าลงมาดูการเคลื่อนไหวเบื้องล่าง ก่อนหน้านี้เจ้าตัวดันหมดเวลาไปกับการใช้ออฟติคอลซูมซะเยอะ สายตาก็เลยล้าไปหมด มิหนำซ้ำผลพวงจากการถ้ำมองที่ไกลที่สุดจนเป็นสถิติโลกครั้งนี้ ยังทำให้อวัยวะส่วนตัวของเขาผงาดง้ำขึ้นมาอีกหน.หลังจากจัดระเบียบสังคมให้กับน้องชายผู้ซุกซนของตัวเองเสร็จ เจฟเฟอร์ก็กลับมามีสมาธิิอีกครั้ง เขาทิ้งฝูงซอมบี้สนิมเขรอะไว้เบื้องหลัง แล้วหันมาโฟกัสที่ภารกิจของตัวเองแทน ภารกิจติดตามองค์หญิงแห่งอลาลัสงั้นเหรอ หึ! ภารกิจช่วยให้นาตาชาหนีรอดจากการถูกข่มขืน? รึก็ไม่! เพราะแท้จริงแล้ว ส
ร่างเปลือยนอนชูขาอ่อนล้าเรี่ยวแรง นาตาชาไม่เหลือแม้แต่กำลังจะดีดดิ้นพลิกตัวหลบหนีจากการย่ำยีทางเพศ เอาจริง ๆ แล้วหล่อนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกมันเป็นตัวอะไร เพราะเสื้อเกาะอกที่เคยอำพรางพวงเต้าให้อูมกระชับได้รูปนั้น บัดนี้ก็ได้ถูกถลกขึ้นมาปิดตาเอาไว้จนมองอะไรไม่เห็นซะแล้ว สิ่งเดียวที่สาวเจ้ารับรู้จึงมีเพียงสัมผัสอันแปลกประหลาด ที่สากราวกับกระดาษทราย.อย่าเรียกว่าไซ้เพราะแม่งคือการแสครชเห็น ๆ นาตาชาแสบซอกคอไปหมด หลังจากโดนโรบอทตัวหนึ่งดอมดมด้วยความรุนแรง เสียงอืดดด.. อ๊าดดด กึกกัก ๆ ๆ ที่มันเปล่งออกมา ประดุจว่าแม่เทพธิดากำลังจะได้ผัวเป็นเครื่องถ่ายเอกสาร รับประกันได้เลยมันจะไม่แค่ "ก็อป" เพราะมันจะ "ปี้" เธอแน่ ๆ หากยังยอมนอนให้กดอยู่เช่นนี้."อ๊อย! เจ็บจังเลย.. อื้อ! อื้อ! ขยับตัวก็ไม่ได้! อย่านะ อย่าทำแบบนั้นตรงหูมัน.. อร๊อยยย~!".ธิดาแห่งอลาลัสผู้โฉมหน้าคร่าตาคล้ายกับเทย์เลอร์ สวิฟต์ เบี่ยงหน้าหลบแบบสุดแรงเกิด แม้จะทำได้เพียงน้อยนิดแต่ก็ยังดีกว่าปล่อยให้จุดที่เสียวที่สุดถูกไอ้หุ่นสนิมเขรอะตัวนี้ล่วงล้ำเอาชัย แพรผมสีบลอนด์ทองถึงกับแตกกระพือ มันคลี่ตัวออกคลุกกับเศษดินขุยขยะจนไม่เหลือเค้า
"หยุดตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้วางกำลังล้อมที่นี่ไว้หมดแล้ว!".เห็นจะจริงถ้าหากว่านี่เป็นหนังไทยสมัย "จารุณี" แสดงเป็นพจมาน ตรงกันข้ามเมื่อประโยคแสนเชยดังกล่าวคงจะใช้กับสถานการณ์จริงที่เป็นอยู่ ณ ขณะนี้ไม่ได้ ตำรวจห่าเหวอะไรล่ะ มองไปทางไหนก็มีแต่ซอมบี้เชียงกงล้อมหน้าล้อมหลังอยู่เต็มไปหมด เจฟเฟอร์กับกลุ่มคนใช้่มีดคงสุดจะต้านทานแล้ว สังเกตได้จากการถอยร่นเอาหลังพิงกันทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน มิหนำซ้ำกางเกงผ้ายืดเจ้ากรรมก็ดันมาพันควยพันหำจนเกือบจะล้มคะมำเสียหลัก."โอ๊ย! เอ๊ย! อุ๊ย! เดี๋ยวก่อนเซ้! อย่าเพิ่งกูยังไม่พร้อม อย่าเพิ่งบุกเข้ามาตอนนี้ไอ้พวกหุ่นสารเลว!"สายลับหนุ่มขึ้นเสียงพลางกระโดดเหยง ๆ เซถลาออกจากตำแหน่ง สีข้างเขาครูดเข้ากับเศษตัวถังยานที่ลักพาตัวองค์หญิงนาตาชามา โดยสันนิษฐานคร่าว ๆ ได้ว่า ยานลำนี้น่าจะโดนยิงร่วงก่อนหน้า Gravitybike ของเขาเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น เพราะไอร้อนจากเครื่องยนต์ยังคงอุ่น ๆ อยู่ ทำให้เจฟเฟอร์เกิดปิ้งไอเดียบางอย่างขึ้นมา ก่อนจะหลุบสายตาลงมามองลำควยกับลำขาทีี่พันกันอิรุงตุงนังของตนเอง แล้วก็บ่นขมุบขมิบ."ชิ! ไอ้ควยระยำนี่ก็ช่างแข็งถึกแข็งทนเหลือเก
สอดท่อนแขนอันกำยำเข้าโอบเอว ตวัดดึงเอาร่างอันผอมเพรียวเข้ามาแนบไว้ในวงแขน พลันกระโดดม้วนตัวเอาส่วนหนารับกงเล็บของเครื่องจักรสังหาร!."เอือกกก!"เจฟเฟอร์ร้องอุทานลั่น เขากัดฟันเม้มมุมปากในเสี้ยววินาทีต่อมาเมื่อพบว่าองค์หญิงนาตาชากำลังจ้องมองอยู่ หน้าตาเธอบิดเบี้ยวขยะแขยง หัวคิ้วลู่เข้าหากันก่อนจะกลั้นใจซุกหน้าคมสวยที่คล้ายกับเทรเลอร์สวิฟ ลงมาซบเข้าที่ซอกคอของเจฟเฟอร์."ไม่ต้องกลัวนะครับผมมาช่วย ผมเป็นสุภาพบุรุษ ผมเกิดมาเพื่อคุณ""เอื้อกกก! อื้อหือ! อื้อออ! อ๊าาา!".แม่งแสบหลังก็แสบแต่แสบหูมากกว่าที่ต้องมาฟังอะไรแบบนี้ ระหว่างที่เจฟเฟอร์ได้ใช้ความพยายามในการปกป้ององค์หญิงอย่างเต็มความสามารถ พวกจักรกลซอมบี้ก็ทำอะไรองค์หญิงไม่ได้เลย มันทำได้เพียงตะปบกรงเล็บใส่หลังเขาแบบโหมกระหน่ำ และช่่วงเวลาที่เกร็งตัวป้องกันอยู่นั้น จู่ ๆ ริมฝีปากของนาตาชาก็ได้เผยอขึ้นเครือครางขมุบขมิบ เข้าใจว่าเธอคงจะกลัวมาก ยิ่งเป็นตอนที่เธอเผลอซีดปากและพ่นลมหายใจออกมา ยิ่งทำให้อารมณ์กำหนัดของเจฟเฟอร์พลุ่งพล่านมากยิ่งขึ้น."กอดผมเอาไว้ครับ ผมจะไม่ให้องค์หญิงเป็นอะไรผมสัญญา"."อือ.. อืม.. แต่คุณคะ! ขืนเป็นแบบนี้".