แกนแข็งดีดสะบัด! เฉี่ยวปลายคางยูมิไปไม่ถึงครึ่งมิลลิเมตร ดวงหน้าบ่องแบ๊วเบนหลบทำปากเหยเก แสร้งทำเป็นไม่สนใจ
.
"เรียบร้อยแล้วค่ะคุณหมอ ให้ทำอะไรต่อดีคะ?"
.
"ช่วยเช็คความดันให้ที วัดอัตราการแข็งตัวของเลือดด้วย อ้อ! แล้วก็อย่าลืมจดบันทึกบนหน้าจอไว้ด้วยล่ะ ว่าตอนนี้เจ้าหน้าที่เจฟเฟอร์เขากำลังคิดอะไรอยู่"
.
"ไฮ้! ได้ค่ะหมอ"
.
ในที่สุดเวลานี้ก็มาถึงหลังจากที่ต้องตกระกำลำบากมาหลายตอน เจฟเฟอร์หลุดรอยยิ้มแป้นแล้นออกมา แม้ว่าดวงหน้ากว่าครึ่งจะถูกคลุมทับไว้ด้วยผ้าปิดปาก
.
"ใช้แขนขวานะหมอ เพราะแขนซ้ายผมมันขาดไปแล้ว รีบทำเข้า! ผมจะได้เอาดอกลาเวนเดอร์ขึ้นไปให้บอสซะที "
.
พยาบาลยูมิได้ยินก็แต่เสียงอู้ ๆ อี้ ๆที่ดังรอดผ้าปิดปากออกมา แต่พอเหลือบสายตาไปที่หน้าจอกลับพบว่าสิ่งที่เจ้าหน้าที่เจฟเฟอร์กำลังคิดอยู่ คือภาพเงาดำของผู้หญิงผมยาวคนหนึ่ง ที่กำลังเกลือกกลิ้งอยู่บนโขดหินท่ามกลางการบานสะพรั่งของทุ่งลาเวนเดอร์ ร่างเปลือยบอบบางตูดใหญ่นมบวบเป่ง ขาดแต่เพียงซับไตเติลวิ่งด้านล่าง ไม่งั้นคงไม่ต่างจาก karaoke นู๊ด ในยุค 90 's
.
"ฝันหวานเชียวนะคะเจ้าหน้าที่เจฟเฟอร์ แต่ตอนนี้ขอยูมิขัดจังหวะหน่อยแล้วกัน , ฮึบ!"
.
"แกร็ก ๆ , แกร๊ก ๆ"
ชายหนุ่มเดาว่านั่นคงเป็นเสียงล้อลากจากเครื่องวัดความดัน อีกไม่นานแขนขวาของเขาก็จะถูกยกขึ้นเล็กน้อย แล้วก็จะมีผ้าอะไรสักอย่างเป็นวง ๆ สวมเข้ามา พอกดปุ่มดังปิ๊บ! ไอ้เจ้าผ้านี่ก็จะรัด ๆ ๆ จนแขนบวม ค่าความดันก็จะปรากฏ
.
ซึ่งผิดถนัด! เพราะผู้ช่วยยูมิดันเลือกที่จะใช้ผ้าเป็นวง ๆ ดังกล่าวสวมเข้าที่แท่งควยแทน! เธอรูดมันลงจนมิดด้ามราวกับใส่ถุงยางอนามัยให้ผัว มิหนำซ้ำยังใช้มือนุ่ม ๆ ปาดเอาแพรไหมดกดำของเจฟเฟอร์ให้ลู่ล้มลงด้วย
.
"อดทนหน่อยนะคะ ยูมิคงช่วยอะไรไม่ได้ ในเมื่อคุณหมอเขาสั่งมา.."
.
"ติ๊ด!"
.
"เดินเครื่องค่ะ!"
.
.
"พรืดดดดด! , งึด ๆ ๆ , งึด ๆ ๆ"
.
"อื้ออออ! อู้อี้! อู้อี้ อั๊กกกก!"
ดิ้นกระแด่ว ๆ ทั้งเนื้อทั้งตัวบิดงอเป็นสะพานโค้ง ขาเตียงสั่นพับ ๆ แรงบีบจากเครื่องวัดความดันมหาศาลมาก ดาบซามูไรที่ผ่านมานี่ขี้ไก่ขี้กาไปเลยเมื่อเทียบกับเจ้านี่ ตัวเลขบนเครื่องวิ่งปั่นไปมาด้วยความเร็วสูง ความดันที่ว่าหาใช่ความดันโลหิตจากร่างกายไม่ หากแต่เป็นแรงดันในเส้นเลือดฝอยใต้หำอันเป็นสาเหตุที่ทำให้ควยใหญ่ผิดมนุษย์มนา และโด่ไม่รู้ล้มแบบนี้ต่างหาก
.
มือหนาขยุ้มแผ่นหนังสุดหรูบนเตียงจนขาดวิ่น! เจฟเฟอร์กัดกรามกรอด ๆ ได้แต่เฝ้าภาวนาให้ความทรมานนี้จบลงซะที ดังที่ได้เห็นจากภาพบนหน้าจอโปรเจคเตอร์ ที่ลิงค์สัญญาณมาจากเครื่องรับบนกกหู
.
"อู้หู! คราวนี้เปลี่ยนเป็นถ่ายหนังบู้เหรอค่ะเจ้าหน้าที่เจฟ เงาผู้หญิงแก้ผ้าเมื่อกี้หายไปไหนแล้วล่ะ ทุ่งดอกลาเวนเดอร์กลายเป็นยอดหนามแหลม โขดหินเด่นสง่าก็กลายเป็นเครื่องกิโยตินไว้ตัดคอคนซะแล้ว"
หมอยูมิโกะแทรกขึ้นบ้าง
.
"บันทึกทุกอย่างเอาไว้นะจ๊ะยูมิ จะใช้สายวัดในลิ้นชักหมอก็ได้ ช่วยสังเกตให้หน่อยว่าองคชาติของผู้ป่วยหดตัวลงบ้างรึเปล่า แล้วเดี๋ยวหมอกลับมา"
.
"หมอจะไปไหนค่ะ?"
.
"เอ้า! ยูมิจังนี่ก็ถามแปลก ๆ เธอลืมไปแล้วรึไงว่าตัวเองกำลังงอนหมออยู่ หมอจะเข้าไปข้างหลังม่านเจลเหนียวหนืด ไปเอาร่างของนาริตะจังออกมาข้างนอก"
.
"ตอนปัดกวาดที่นี่ยูมิจังซ่อนศพของน้องไว้ด้านหลังใช่ไหมล่ะ?"
.
"หมอรู้?!"
.
"ก็แน่สิจ๊ะ! ก็ในเมื่อพวกเธอพี่น้องเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่หมอสร้างขึ้นเองกับมือทำไมจะไม่รู้ล่ะ"
.
แล้วหมอยูมิโกะในชุดหนังสีเหลืองสดก็แหวกว่ายเข้าไปในผนังเจลหยุกหยุย ทิ้งให้พยาบาลยูมิอยู่กับเจ้าหน้าที่เจฟเฟอร์ตามลำพังสองต่อสอง
.
"หวังว่าคงไม่นานนะคะหมอ ถึงยูมิจะไม่ใช่คนแต่ยูมิก็มีความเงี่ยน! ดูซิ! คิดได้ไงให้ผู้หญิงอย่างเรามานั่งเฝ้าควยผู้ชาย! หึ๊ยยย!"
สาวเจ้าตัดพ้อ ทั้งที่ดวงตากลมโตยังคงจดจ้องส่วนปลายหัวเห็ดแบบไม่วางตา
.
"เอ๊ะ! คุณเงี่ยนเหรอค่ะ ดูสิน้ำเมือกไหลตลอดเลย ขอยูมิลองแตะ ๆ ดูหน่อยนะ , แตะ ๆ แตะ ๆ"
.
"อุ่นจัง.. ยูมิเคยเอาแค่กับหมอยูมิโกะ ถ้าวันไหนเจ้าหน้าที่เจฟว่าง ๆ ช่วยสอนยูมิโกะเย็ดกับผู้ชายหน่อยนะคะ ยูมิอยากลองอมควยดู"
พูดจบหญิงสาวก็ทอดสายตาไปที่หน้าจอโปรเจคเตอร์ที่เชื่อมต่อกับสมองอีกครั้ง คราวนี้มันไม่ได้ฉายภาพของความเป็นขุมนรกอันแสนเจ็บปวดอีกต่อไป แต่ได้เปลี่ยนเป็นภาพของการร่วมรักกันอย่างบ้าคลั่ง ของพวกเบอร์แบโต้ในห้องอาบน้ำแทน
.
แล้วทันใดนั้นสิ่งที่ยูมิไม่เคยจินตนาการถึงก็บังเกิดขึ้น เมื่อจู่ ๆ ขดผ้าวงกลมจากเครื่องวัดความดันก็ส่งเสียงดังขึ้นมา!
.
"แขวกกก!!!"
.
"ว๊าย! คุณพระช่วยมันใหญ่ขึ้นอีกแล้ว ใหญ่จนผ้าขาดเลย! ต้องรีบใช้สายวัด!"
.
เสียเวลาไปประมาณ 3 วินาที ตัวเลขที่ยูมิจังบันทึกลงไปในสมุดก็คือ 12 นิ้วครึ่ง ซึ่งแม่งยาวกว่าไม้บรรทัดซะอีก! กำลังจะตะแคงข้างเพื่อวัดความอ้วนป้อม แต่ทว่าหมอยูมิโกะก็ดันกลับออกมาจากผนังเจลตึ๋งหนืดซะก่อน ซึ่งสิ่งที่ได้ติดมือกลับมาก็คือร่างอันไร้วิญญาณของนาริตะตามที่ได้สัญญาไว้
.
"หือ..ทำอะไรอยู่จ๊ะยูมิจัง หมอมาขัดจังหวะอะไรรึเปล่า?"
.
เลียริมฝีปากแผลบ! กลิ่นควยยังคละคลุ้งอยู่เต็มโพรงจมูก
.
"อ่ะ! ปะ..เปล่า! ค่ะหมอ ยูมิแค่พยายามที่จะบันทึกข้อมูลตามที่หมอสั่ง ว่าแต่เป็นไงบ้างคะ"
.
"ก็เรียบร้อยดี ขอเก้าอี้ตัวที่มีล้อให้หมอหน่อยสิ ร่างของนาริตะต้องอยู่ในตำแหน่งที่สูงพอ"
.
ยูมิรีบจัดแจงให้ทันควันสลับกับการส่งบันทึกตัวเลขต่าง ๆ ให้หมอพิจารณา ซึ่งแน่นอนว่าการแข็งตัวจนทำให้สายวัดความดันขาดก็มีการบันทึกเอาไว้ด้วย แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้หมอยูมิโกะตกใจสักเท่าไหร่ ตรงกันข้ามคนที่อยู่ในอาการตกใจจนเกือบช๊อคกลับกลายเป็นยูมิแทน
.
"โถน้องนาริตะผู้น่าสงสาร พี่เสียใจที่ช่วยน้องไว้ไม่ทัน เห็นศพน้องในสภาพนี้อารมณ์พีี่ช่างแปรปรวนนัก ฮือ ๆ หึ ฮือ ๆ"
ความกระสันซ่านร่านผสมแรดมลายหายไปสิ้น ยูมิรีบเข็นเก้าอี้ที่มีร่างอันซีดเซียวของน้องมายังข้างเตียง ตรงตำแหน่งที่มีท่อนเอ็นแข็งอยู่
.
"ขอบใจจ๊ะทีนี้ยูมิจังถอยออกไปก่อนนะ ตั้งใจดูล่ะ! จะได้รู้สักทีว่าหมอไม่ได้โกหก!"
.
พยาบาลสาวพยักหน้ารับ แล้วภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าในเสี้ยวอึดใจ ก็คือภาพแห่งความซาดิสต์ที่สุดในชีวิต! เมื่อหมอยูมิโกะเริ่มลงมือถลกแผ่นหนังของนาริตะออก! ร่างที่ถูกฟันขาดสะพายแล่งอยู่แล้วทำให้หมอทำงานง่ายขึ้น ใช้แค่มีดผ่าตัดดวงเล็ก ๆ เฉือนไปบนเนื้อผ้าแล้วกระชากทิ้ง ต่อด้วยการลงน้ำหนักมือให้มากขึ้น จิกมีดลงไปใต้ผิวหนังเลาะเข้าไปถึงกระดูก! ค่อย ๆ ฉึก! ค่อย ๆ เฉือน! ลัดเลาะไปตั้งแต่ไหปลาร้าซ้ายไปจรดหัวไหล่ซีกขวา ลิ่มเลือดแดงฉานนี่ไหลหลากลงมานองพื้น ดีที่ไม่พุ่งเหมือนครั้งแรกแต่ก็ยังนับว่าเป็นเคสที่หนักหนาสาหัส ต่อสภาพจิตใจคนเป็นพี่มากอยู่ดี ยูมิถึงกับสะอึกสะอื้นร่ำไห้
.
"หยุดเถอะหมอ.. หมอต้องการจะสื่ออะไร จะผ่าศพน้องยูมิต่อหน้าต่อตางั้นเหรอคะ?!"
.
"เปล่า! แต่หมอแค่จะทำแบบนี้"
.
ยูมิโกะใช้มือที่สวมถุงมือไว้แล้ว กระชากส่วนศีรษะถึงหัวไหล่ให้ขาดออกจากลำตัวอย่างสยดสยอง! เธอวางหัวของนาริตะลงที่พื้นโดยไม่แยแสนัก ต่อด้วยการชี้นิ้วเข้าไปข้างในเจตนาให้คนเป็นพี่เห็นถึงอวัยวะภายใน
.
"ของเธอเองก็เป็นแบบนี้เหมือนกันยูมิจัง เธอเห็นไหมว่าข้างในมีแต่เหล็ก แม้แต่สีแดง ๆ คล้ายเลือดนี่ก็ไม่ใช่ของจริง หมอสังเคราะห์ขึ้นมาจากฮิโมโกบินของพืชตระกูล Lactuca sativa แล้วเชื่อมต่อมันเข้ากับปั้มลมขนาดเล็กตรงกระดูกเชิงกราน "
.
"เห็นกับตาแบบนี้แล้วจะเชื่อในสิ่งที่หมอพูดได้รึยัง.."
.
"อะ.. อ่ะ.. ค่ะ เชื่อแล้วก็ได้"
ยูมิถึงกับช๊อคตาตั้งมือเธอสั่นจนทำสมุดบันทึกหลุดลงพื้น วินาทีที่ก้มลงไปเก็บแล้วเห็นหัวน้องตัวเองนอนตาค้างอยู่ยิ่งทำให้หลอน หมอยูมิโกะเห็นท่าไม่ดีก็เลยรีบแทรกขึ้น
.
"ไม่ต้องห่วงนะยังไงหมอก็รักยูมิจังเหมือนเดิม เธอคือผู้ช่วยที่เก่งที่สุดของหมอและจะเป็นตลอดไปจ่ะ"
ยิ้มตาหยีหว่านโปรยไปทำให้อะไร ๆ ดูดีขึ้น ซึ่งจะครบถ้วนกระบวนความทันที ถ้าหลังจากนี้พวกเธอทำให้อวัยวะเพศชายของเจฟเฟอร์อ่อนตัวลง
.
"แล้วเราจะทำยังไงกับองคชาติของเจ้าหน้าที่เจฟดีคะหมอ ดูจากหน้าจอแล้วเจ้าตัวคงไม่ยอมหยุดง่าย ๆ "
พยาบาลสาวแสร้งถาม ทั้งที่ลึก ๆ แล้วตัวเธอเองก็ชอบ
.
แพทย์หญิงแห่งฮาราจุกุตอบด้วยการส่ายหน้า ไม่ใช่ไม่รู้แต่เพราะแค่นี้ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเธอต่างหาก!
.
"ก็แค่ต้องเดินสายไฟข้างในใหม่นิดหน่อยแบบนี้.. เอ่ิม.. แล้วก็เอามือทั้งสองข้างของนาริตะจังมาอัง ๆ กับของลับของผู้ป่วยแบบนี้ จัดท่าจัดทางให้ดีกำไว้พอหลวม ๆ "
.
"แล้วก็เริ่มในอีก 5.. 4.. 3.. 2 "
.
"สวิชท์ออน!"
.
.
"ฉึกฉัก ๆ , ฉึกฉัก ๆ , ฉึกฉัก ๆ , ฉึกฉัก ๆ , ฉึกฉัก ๆ !"
โคตรพ่อโคตรแม่งของความครีเอทสร้างสรรค์ ใครจะไปเชื่อว่าร่างเทียมสังเคราะห์หัวขาดจะสามารถนำมาใช้ชักว่าวให้ผู้ชายได้แบบนี้ มือน้อย ๆ ของนาริตะยังทำหน้าที่ของเธอได้ดี ผิวสัมผัสเธอยังคงนุ่มนิ่มเหมือนคนจริง ๆ บางจังหวะนอกจากจะชักขึ้นชักลงตรง ๆ แล้ว ยังมีควงด้วย! เจ้ามือซุกซนหมุนวนขึ้นไปยีที่หัวเห็ด มันทั้งรูด ทั้งขยำ ทั้งขยี้ จนเมือกเปียกไหลซึมลงมาหยาดเยิ้ม เส้นเอ็นบนลำควยปูดโปนออกมาอย่างเห็นได้ชัด กระตุกเสียวเป็นพัก ๆ ด้วยความสะใจ!
.
คนที่ดูจะมีความสุขเป็นที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นเจฟเฟอร์ ในที่สุดโอกาสนี้ก็มาถึงซะที เขาจิกปลายเท้าเกร็งตัวเสียวสะท้าน ปล่อยเสียงห้าวพล่านผ่านไรฟันทั้งที่โดนปิดปากเอาไว้
.
"โอ๊ย.. เสียวมากอ่ะ.. เสียวเหลือเกิน.. ใครกันนะที่ชักว่าวให้เราได้สโตรกรุนแรงขนาดนี้ ซี๊ดดดดดด! , อ๊าา~!"
.
"ผู้ช่วยยูมิรึเปล่านะ? อื้อ.. เสียว"
.
"ต้องใช่แน่เลย โอ้! เยสสสสส ยูมิ~"
.
"อ๊า.. ยูมิจ๋าแบบนั้นล่ะจ๊ะสุดยอดไปเลย อื้อ! ยูมิ เอาอีก! ยูมิ ยูมิ ยูมิ~!"
.
เจฟเฟอร์คิดในใจ แต่ยังไม่ทันไรก็ชักจะรู้ตัวว่าตัวเองคิดผิด!
.
"หมอคะถ้ายูมิเข้าใจไม่ผิด เราต้องรอจนเจ้าหน้าที่เจฟเขาสำเร็จความใคร่เลยใช่ไหมคะ พออสุจิเขาพุ่งออกมายูมิขอเข้าไป "อม!" เอ๊ย! ไม่ใช่! ขอเข้าไปเช็ด แล้วของลับของเขาก็จะค่อย ๆ อ่อนลงจนกลับมาใช้ชีิวิตได้เป็นปกติใช่ไหม?"
.
หมอยูมิโกะรีบหันควับทันที! หลังได้ยินคำถามก่อนจะให้คำตอบกลับไปว่า
.
"ไม่หรอกจ๊ะ ถ้ามันง่ายแบบนั้นเขาจะมาหาหมอทำไม ร่างกายของพวกเจ้าหน้าที่ภาคสนามถูกสร้างมาพิเศษให้แข็งแกร่งต่อทุกสภาพพื้นที่ เพราะฉะนั้นการสำเร็จความใคร่ธรรมดาย่อมใช้การไม่ได้ มันต้องระดับนี้ล่ะ ระดับที่นาริตะกำลังทำอยู่!"
.
ดวงหน้ารูปไข่ค่อย ๆ ก้มลงมากระซิบที่ใบหูผู้ป่วย หมอยูมิโกะกระซิบกระซาบกับเจฟเฟอร์เบา ๆ ราวกับต้องการให้ได้ยินเพียงแค่สองคน
.
"จอมอนิเตอร์ทำให้ฉันรู้ว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่ คิดจะพาคนของฉันไปปี้งั้นเหรอ! ฝันไปเถอะเจ้าคนลามก!"
.
"นี่แหนะ!"
.
ดั่งนรกสาปส่งเพราะจบประโยคดังกล่าว หมอยูมิโกะก็ได้สั่งการให้นาริตะซอยมือเร็วขึ้นเป็นเท่าทวี! เธอกำควยของเจฟเฟอร์แน่นจนห้อเลือด! แล้วทำการสาวแบบถี่ยิบด้วยความเร็วแปดแสน ชัก ๆ ๆ ๆ จนเกิดความร้อนและประกายไฟ! แผ่นหนังที่ทำสังเคราะห์ขึ้นก็เลยเริ่มถลอกเหลือแต่แกนโลหะแข็ง ๆ ทื่อ ๆ
ควยเย็นสิครับทีนี้! แม่งอย่างกับดอกไม้ไฟ ไหนจะการเสียดสีระหว่างเนื้อกับเหล็กอีก จากที่ "เสียว" อยู่ดี ๆ เจฟเฟอร์ก็เลยกลายเป็น "แสบ" แทน ผลที่ตามมาก็เลยทำให้ขนาดของมันค่อย ๆ หดเล็กลง มันสั้นลง ๆ เรื่อย ๆ ตามวัตุประสงค์ที่หมอยูมิโกะตั้งไว้ในตอนแรก
.
"อร๊ากกก! แสบ ๆ ๆ เจ็บชิบหายเลย! หมอยกูไหม้หมดแล้ว มันอะไรกันวะเนี๊ยะ! เมื่อกี้ยังดีอยู่แท้ ๆ โอ๊ย ๆ ๆ อูยยยย!!!"
"ผมขอโทษครับหมอ ผมจะไม่ทำอะไรแบบนั้นแล้วครับ ผมเลิกคิดแล้วครับพอเถอะขอร้องหำผมกลายเป็นหนอนชาเขียวกระทะร้อนแล้วเนี่ยะ.. อื้อ..!!!"
.
หมอยูมิโกะรับรู้ข้อความเหล่านี้ได้จากจอภาพที่แสดง ฉากหนัง AV ระหว่างเจ้าหน้าที่หนุ่มกับผู้ช่วยพยาบาลน่ารักดับฟับ! ลงไปแล้ว ที่เด้งขึ้นมาแทนกลับกลายเป็นภาพของเจฟเฟอร์ที่กำลังนั่งคุกเข่าเหงื่อแตกซิก ก้มลงหมอบกราบขอโทษขอโพย ติดแค่ไม่มีเสียง สร้างความตลกขบขันให้แก่หมอยูมิโกะยิ่งนัก ก็นะเธออยู่คนเดียวของเธอบนชั้น 4 มาตลอด วัน ๆ เจอแต่ผู้ป่วย เจอแต่เลือด เจอแต่น้ำเหลือง อุตส่าห์สรรสร้างร่างเทียมสังเคราะห์ที่สวยน่ารักสมจริงโคตร ๆ ระดับยูมิจังขึ้นมาได้ ใครมันจะยอมยกให้คนอื่นกันเล่า
.
"ฮ่า ๆ ดี! สำนึกผิดแล้วก็ดีค่ะคุณเจ้าหน้าที่ "
.
"แต่อย่าลืมนะคะว่าคุณยังเหลือแขนซ้ายที่ขาดอยู่อีกข้าง! ฉันจะทำอะไรก็ได้สำหรับคนที่กล้ามาลองดีกับยูมิจังของฉัน!"
ชั่วเคี้ยวหมากแหลก หุ่นงามภู่ระหงษ์ของสาวตาคมผมสั้นซอยไสลด์ก็ปรากฏกายขึ้น ยอมรับตามตรงว่าเธอคนนี้เจฟเฟอร์ไม่ได้คัดดีนัก เพราะเจ้าตัวนั้นเงี่ยนซะจนรีบ หล่อนแทบจะโผล่ออกมาด้วยวิธีการสุ่ม ในลักษณะที่ว่าแค่ปาดตาผ่าน ๆ แล้วก็จิ้มเลือกออกมาเลย."ไงคะที่รัก.. อยากให้ครีสช่วย.. อุ๊ย! คุณมีคู่อยู่แล้วนี่"Ai สาวในชุดนุ่งลมห่มฟ้าแสร้งทำเป็นปิดตาไม่อยากมอง แต่ก็เห็นอยู่ดีแหละว่า Emily กำลังนั่งคุกเข่าแล้วก็โดนควยกระแทกหน้าอยู่.เจฟเฟอร์กวักมือเรียก พลางชี้มาที่ฐานหัวนมตัวเอง."มานี่มา.. เธออ่ะ มาเลียหัวนมให้ฉันหน่อย อึ๊ยยย! ฉันอยากเสียวให้มันสุด ๆ ไปเลย".ร่างเปลือยทำตามอย่างว่าง่าย และด้วยความที่เธอเป็น Ai กึ่งโฮโลแกรมเช่นกันกับ Emily จึงทำให้เธอไม่ต้องใช้ฝูงแมลงหนุนที่่ฝ่าเท้า ครีสลอยวาร์ปเข้ามาหาเจฟเฟอร์ในชั่วพริบตา พลางเผยอริมฝีปากดูดหัวนมเม็ดแกร่งเข้าไปดุนกับโคนลิ้น."แผล็บ ๆ แผล็บๆ อืมมม.. ใช่ทำแบบนี้รึเปล่าคะที่รัก แผล็บ ๆ "."คริสทำถูกไหมเอ่ย?"."แล้วอีกข้างล่ะให้คริสทำยังไงกับมันดี..?".เป็นคำถามที่สร้างความฉงนสนเท่ห์ขึ้นมาในชั่วขณะจิต เจฟเฟอร์แปลกใจมากเพราะโดยปกติแล้ว Ai ใน The
ฟองฟดฟอด ๆ ออกมาตามลำควย คราบน้ำลายไหลเยิ้มออกมาตามร่องปาก แต่ครานั้นสาวเจ้าก็ยังดูดซดกลับคืนไปจนหมดเกลี้ยง พลันตะปบฝ่ามือทั้งสองข้างลงบนแก้มก้นของเจฟเฟอร์เสียงดัง!."เปรี๊ยะ!!!".เธอบีบเค้นมันจนสุดแรง มองไม่เห็นหรอกแต่คิดว่าน่าจะเริ่มแดงตอนที่เธอเร่ิมข่วน ในร่างที่ใกล้เคียงกับ ไอซ์ อภิษฎา Emily โคตรจะเร่าร้อน นางแมวยั่วสวาทจิกเล็บคมลงแนบก้น ก่อนจะครูดลงมาพรืดเดียวจนกระทบเข้ากับหนังไข่ เล่นเอาฝ่ายชายถึงกับสะดุ้งตัวเกร็ง! เจฟเฟอร์แยกเขี้ยวกัดกรามแน่น พลางลงน้ำหนักมือกับเผ้าผมเธอมากขึ้น."ซี๊ดดดดด! อ้าาาาา! มันเจ็บนะเว๊ยอีกระหรี่!"."มึงชอบรุนแรงแบบนี้ใช่ไหมล่ะ ห๊ะ! มึงอยากให้กูเย็ดมึงแรง ๆ ใช่ไหม!"."อ่ม..ม..ม อ่ำ..อม..ม..ม".จะให้เธอตอบได้ยังไงในเมื่อลำควยมหึมายังคงคาอยู่เต็มปาก แรงจิกจากฝ่ามืออันรุนแรงรั้งให้ตีนผมของแหม่มสาวถลกขึ้น Emily ตาถลนทึงพลางผงกหัวตามเพื่อลดแรง แล้วก็เป็นวินาทีนั้นเองที่แท่งควยดันเลื่อนหลุดออกมาพอดี."เฮืออออก! ค่ะที่รัก! ฉันอยากเจอ! ฉันอยากโดน! Fuck me please Huney and a hurry up!".ฮวบบบบ! บ๊วบ! บ๊วบ! ๆ ๆ ".อ้าปากกว้างงับเอ็นอุ่นกลับเข้าไปอีกหน คร
ปล่อยผ่านแสร้งทำเป็นไม่สนใจ ในเมื่อคิดแผนไม้ตายขึ้นมาได้ สายลับอันดับหนึ่งแห่ง Parallel อย่างเขาก็ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาดูภาพเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ซาก ๆ นั่นอีกต่อไป เขาปล่อยให้เจ้ายักษ์แซนดี้งอกแขนงอกขาออกมาใหม่ได้ตามอำเภอใจ เพราะตราบใดที่เจ้าตัวยังมีหูฟังของหมอยูมิโกะยัดอยู่ในหูตลอดเวลาแล้วล่ะก็ มันก็ทำอะไรเขาไม่ได้อยู่ดี ตรงกันข้าม! กลับกลายเป็นเขาเองต่างหากที่จะได้เปรียบหากประวิงเวลาไว้ได้นานพอ.เจฟเฟอร์จึงรีบยกมือขึ้นป้องหู พลางกดปุ่มสัญญาณเพื่อที่จะออกคำสั่งต่อไป."ตั้งแนวกำแพงป้องกันค้างไว้ ไม่ว่าจะกรณีใด ๆ อย่าให้ทรายเข้าถึงตัวฉันได้เป็นอันขาด!".ฝูงแมลงบินขึ้นลงหึ่ง ๆ คล้ายกับเป็นการตอบรับ หลังจากนั้นพวกมันเกือบทั้งหมดก็เกาะกลุ่มกันเป็นกำแพงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่โตมโหฬาร ที่ถอดแบบร่างมาจากพิมพ์เขียวของกำแพงเมืองจีนชัด ๆ ทั้งหมดทั้งมวลลอยอยู่กลางอากาศ โอบล้อมเจฟเฟอร์เอาไว้ทุกทิศทุกทาง ดุจดั่งป้อมปราการขององค์จักรพรรดิอหังการจิ๋นซีฮ่องเต้.ชายหนุ่มหันมองซ้ายทีขวาที สลับกับการหลุบตาขึ้นลงมองจากบนลงล่าง พลางพยักหน้าหงึก ๆ พออกพอใจกับสิ่งปลูกสร้างชีวะมวล ที่บรรดาลูกน้องจัดทำให้."เยี่ยมไปเ
"จ้วง!.. จึก!.. จ้วง!.. จึก!.. จ้วง!.. จึก!.. จ้วง!.. จึก!"."เฮืออออกกก!"."โคร่งงงงงง!!!".สโตกสุดท้ายมาพร้อมกับกงเล็บ ฝ่ามือทรายขนาดมหึมายักษาแยกออกเป็นแฉกบดบังดวงตะวันจนเกิดเงามืด มันกำลังจะตะปบลงมาใส่เจฟเฟอร์ ผู้ซึ่งบัดนี้ยังคงง่วนอยู่กับการรักษาแขนไม่จบไม่สิ้น."ไอ้หยา! ทำไมมันมาถึงเร็วจังวะ? แขนกูยังไม่เสร็จเลย เดี๋ยวดิ! อย่าเพิ่ง! อิ๊บก่อน!""ฮึบ!"."วืดดดดดดดด!".จั่วลมไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปด! ลำตัวของแซนดี้แทบจะบิดเป็นเกลียวตามหลักฟิสิกส์โมเมนต์ตัม มันจึงรีบชักแขนกลับพลางรีบยืดช่วงล่างของตัวเองที่ฝังอยู่ใต้ทรายให้สูงขึ้นพ้นจากพื้น จนกลายเป็นอสูรกายบิ๊กเบิ้มในร่างเดิมแบบ Full version ตาต่อตาฟันต่อฟัน สองสิ่งมีชีวิตประจันหน้าเข้าหากันราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ."ฮู่ววว! เกือบหลบไม่พ้นไหมล่ะกู ถ้าไม่มีเจ้าแมลงพวกนี้ล่ะก็.. หึ่ย! ไม่อยากจะคิด!"."หึ่ง ๆ หึ่ง ๆ หึ่ง ๆ หึ่ง ๆ "."รักษาระยะห่างเอาไว้อย่าเข้าไปใกล้มาก ลอยอยู่บนฟ้าให้เท้าพ้นจากพื้นแบบนี้แหละดีแล้ว ส่วนใครที่รักษาอยู่ก็ให้รีบเร่งมือเข้า!"เจฟเฟอร์คิดในใจ ฝั่งฝูงแมลงเองก็ลงมือทำตามอย่างว่าง่าย.ณ ขณะนี้ชายหนุ่มกำลั
กระจัดกระจายจริง ๆ สมกับชื่อบท เพราะนอกจากจะบินเข้ามาโฉบเอาร่างของเจฟเฟอร์เอาไว้ไม่ให้หล่นลงไปตายแล้ว บนฟากฟ้ายังมีพวกมันอีกเป็นโขยง ท้องฟ้าที่เคยสดใสแดดจัด ๆ บัดนี้กลับเต็มไปด้วยฝูงแมลงวันเป็นล้าน ๆ ตัว."อะไรกันพวกแกอีกแล้วหรอ!"."หึ่ง ๆ ๆ ๆ หึ่ง ๆ ๆ ๆ "."ฮู้ววว! ไม่รู้ยังไงเหมือนกันแต่ก็ขอบใจนะที่อุตส่าห์มาช่วย พาฉันลงไปข้างล่างที".กลุ่มก้อนแมลงวันดำขลับเป็นขยุยกระจายตัวไปเกาะตามแขนขาแล้วก็เสื้อผ้า ก่อนจะค่อย ๆ ลดระดับความสูงลงเรื่อย ๆ ตามที่ได้รับคำสั่ง พร้อมกันนั้นไฟสีเขียวในหูฟังก็เริ่มกระพริบปิ๊บ ๆ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่หางตาของเจฟเฟอร์ชำเลืองไปเจอเข้าพอดี เขาก็เลยมีความคิดที่จะดึงมันออกมาเช็ดดู จะได้รู้ว่าเป็นเพราะเจ้านี่รึเปล่าที่เรียกพวกแมลงวันมา แต่ทว่ายังไม่ทันจะทำอะไรเลยจู่ ๆ หมู่ภมรอีกกลุ่มซึ่งอยู่อีกด้านของฟากฟ้าก็ชิงตัดหน้าเขาซะงั้น พวกมันบินโฉบลงมาเป็นก้อนสีดำขนาดเท่าลูกบาส พุ่งมาที่ใบหูแล้วก็ดึงเอาหูฟังออกให้.และพอวัตถุเล็กจิ๋วนั้นถูกส่งถึงฝ่ามือเท่านั้นแหละ ความฉิบหายก็บังเกิดทันที! คุณพระคุณเจ้าเอ๊ยหล่นกระแทกพื้นสิครับจะเหลือเหรอ!."ฟึบบบ! , หึ่ง ๆ ๆ
ไหลพรืด ๆ อย่างกับบันไดเลื่อน ร่างอันอิดโรยของเจฟเฟอร์ไม่อาจต่อต้านเพราะดันเสร่อฝังตัวเองไว้ในทราย เป็นกรรมหรือความโง่ก็ไม่รู้แต่ที่รู้คือเจฟเฟอร์แม่งไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้ชัวร์ ๆ ตัวเขาลอยปลิวไปพร้อมกับทราย โดยมีพิกัดเป้าหมายอยู่ที่อุ้งตีนของเจ้าแซนดี้."อั๊ก! โอ๊ก! อั๊ก! แค็ก ๆ ใครจะไปรู้ว่ะว่ามันทำแบบนี้ได้ด้วย.. อั๊กกก! อึกกก!"."อุตส่าห์คิดว่าหลบพ้นแล้วแท้ ๆ ที่ไหนได้ดันโดนดึงเข้าไปหา อ๊วกกก! อั๊กกก! ตายห่าแน่กู!".หลับตาปี๋พลางรอจังหวะสูดลมหายใจเข้าเป็นระยะ ร่างหนาของเจ้าหน้าที่หนุ่มดำผุดดำว่ายจอมจมอยู่ในกระแสธารแห่งชะตากรรม เขาคาดเดาไม่ได้ว่าแต่นี้ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น เพราะลำพังแค่ประคองตัวไม่ให้สำลักทรายตายไปซะก่อนก็บุญแค่ไหนแล้ว.บางทีสาเหตุของเรื่องอาจเป็นเพราะเจ้าตัวนั้นชะล่าใจเกินไป ก่อนหน้านี้ตอนที่เจฟเฟอร์เพิ่งจะกลบทรายฝังตัวเองใหม่ ๆ เขาก็เอะใจอยู่แล้วเชียวว่าเจ้ายักษ์แซนดี้มันมีท่าทีแปลก ๆ เขาคิดเข้าข้างตัวเองมาตลอดว่ามันคงจะหาเขาไม่เจอ ก็เลยถอดใจก้มหน้าก้มตาเงินงกพลางเอาแขนจุ่มลงไปในพื้นทรายคล้ายกับว่าจะยอมแพ้แต่ที่ไหนได้เจฟเฟอร์ดันคิดผิด! เพราะชั่วพริบตาหลังจา