Share

6

Author: smith
last update Huling Na-update: 2025-11-06 11:24:28

          “สวัสดีค่ะคุณผู้หญิง” ลินดากล่าวทักทายหญิงวัยกลางคนคนหนึ่งที่เดินตรงเข้ามาที่เคาน์เตอร์ลงทะเบียน

          “มาหาหมอ” ผู้หญิงคนนั้นตอบลินดาสั้นๆ ด้วยน้ำเสียงห้วนๆ ลินดาพยักหน้าตอบรับด้วยท่าทีนอบน้อมเช่นทุกวัน

          “ค่ะ ไม่ทราบเคยมารักษาที่นี่ไหมคะ”

          “ไม่เคย”

          “งั้นรบกวนคุณผู้หญิงช่วยกรอกเอกสารก่อนนะคะ และขอบัตรประจำตัวด้วยค่ะ” ลินดาหยิบแบบฟอร์มมาหนีบเข้ากับคลิปบอร์ดแล้วส่งให้เธอ เธอรับไปดู

          “มีภาษาอังกฤษไหม” เธอถามลินดากลับมา

          “อ้อ มีค่ะ สักครู่นะคะ” ลินดารีบหยิบแบบฟอร์มภาษาอังกฤษมาสลับเปลี่ยนให้เธอใช้กรอก เธอส่งใบขับขี่กลับมาให้ลินดา

          “คุณผู้หญิงสามารถนั่งกรอกเอกสารสบายๆ ที่โซฟาได้นะคะ”

          “กรอกตรงนี้ล่ะ นั่งไหนก็ไม่สบายหรอก เพราะฉันไม่สบาย” เธอเริ่มกรอกรายละเอียด ลินดารับใบขับขี่จากเธอมาถ่ายเอกสาร เธอแอบเหลือบไปเห็นว่าพี่แอน รุ่นพี่ในแผนกกำลังมองเธออยู่ ลินดาอมยิ้มให้พี่แอนเล็กน้อยแล้วหันกลับมารีบถ่ายเอกสารให้เสร็จ

          “คนไข้เป็นอะไรมา” พี่แอนเดินเข้ามาถามเธอเงียบๆ

          “หนูยังไม่ได้ถามเลยค่ะ”

          “เอ้า แล้วทำไมไม่ถาม จะทำใบส่งตัวยังไงล่ะ” พี่แอนเริ่มขึ้นเสียง

          “หนูให้เขากรอกรายละเอียดอยู่ค่ะ เขายังไม่เคยมีประวัติกับทางเราเลย”

          “โอ๊ะ แทนที่จะถามก่อนแล้วทำเอกสารทีเดียว ไหนใครบอกว่าเก่งไง” พี่แอนเดินกลับเข้าไปด้านใน ปากก็พร่ำบ่นสารพัดไปเรื่อย ลินดาได้แต่ก้มหน้าถ่ายเอกสารต่อไป ทำยังไงได้ เธอเพิ่งเข้ามาได้ไม่กี่เดือนแล้วดันมาเงินเดือนเยอะกว่าเขาเพราะได้ค่าภาษาต่างหากนี่นะ

          พอเธอหันกลับมาที่เคาน์เตอร์ คนไข้ก็ยืนรออยู่แล้ว เธอกรอกเอกสารทุกช่องจนครบหมด ลินดารับแบบฟอร์มกลับมาเพื่อคีย์ข้อมูลเข้าระบบ

          “ปกติมันช้าอย่างนี้ทุกครั้งไหม” คนไข้ถามเธอด้วยน้ำเสียงเย็นชา

          “จะช้าเฉพาะครั้งแรกค่ะ เพราะต้องทำประวัติคนไข้ในรายที่ไม่เคยมารักษากับเรา”

          “ถ้าเป็นเคสฉุกเฉินใกล้จะตายล่ะ” เธอหรี่ตาเลิกคิ้ว สีหน้าแลดูยียวน

          “ถ้าเป็นเคสฉุกเฉินจะมีเจ้าหน้าที่ตามไปทำประวัติที่แผนกฉุกเฉินค่ะ คนไข้จะไม่ต้องกรอกเอกสารเอง นอกจากเซ็นชื่อเท่านั้น ถ้ามีสติและเซ็นได้” ลินดาอธิบายขั้นตอนการทำงาน

          “รู้งี้ฉันป่วยหนักเข้ามาดีกว่าเนอะ” ลินดารีบคีย์ประวัติของเธอเข้าระบบให้เร็วที่สุดเพื่อจะออกใบส่งตัวไปยังแผนก

          “เอ่อ ขออภัยค่ะ ไม่ทราบคุณผู้หญิงอาการเป็นยังไงคะ”

          “นั่นน่ะสิ นึกว่าต้องเป็นคำถามแรกที่เธอต้องถามซะอีก” ลินดาลดสายตาลงต่ำ มันก็เป็นความผิดพลาดของเธอจริงๆ

          “ขอประทานโทษด้วยค่ะคุณผู้หญิง ไม่ทราบอาการเป็นยังไงคะ”

          “จะขอพบหมอสูฯ เดี๋ยวไปบอกกับหมอเองว่าเป็นอะไร” เธอพูดจบก็กลอกตาหนึ่งรอบ

          “ได้ค่ะ จะรีบทำใบส่งตัวให้นะคะ” ลินดาส่งใบขับขี่จากแคนาดาคืนให้เธอไป มิน่าล่ะถึงได้ขอแบบฟอร์มภาษาอังกฤษ คงจะพูดไทยได้ แต่อ่านไทยไม่ออก หน้าตาดูไม่เหมือนชาวต่างชาติเลยนี่นะ ลินดารีบปรินท์ใบส่งตัวแล้วยื่นให้เธอ

          “นี่ค่ะ รบกวนคุณผู้หญิงไปที่ชั้นสามนะคะ ออกจากลิฟต์เลี้ยวซ้ายก็จะเจอแผนกสูฯ เลยค่ะ” คนไข้รับใบส่งตัวมาโดยไม่กล่าวขอบคุณเธอแม้แต่คำเดียว เธอหันกลับเข้าไปมองดูด้านในของแผนกเวชระเบียนที่พี่แอนเดินกลับเข้าไป ทั้งพี่แอนและพนักงานอีกสองสามคนที่เธอก็รู้จักทั้งหมดกำลังมองดูเธออยู่อย่างไม่ละสายตา ทั้งหมดหันไปยิ้มให้กันเมื่อลินดาหันมาสบตาเข้า

          ลินดายืนรับคนไข้อยู่นานจนได้เวลาพักเที่ยง เธอเดินเข้ามาหยิบกระเป๋าในห้องพักโดยไม่ได้ทักทายกับใครเลย

          “ลงเวรแล้วเหรอ” เสียงหนึ่งถามขึ้น

          “ลงแล้วค่ะ วันนี้เวรหกโมงถึงบ่ายสอง” ลินดาชะงักไปเมื่อนึกขึ้นได้เรื่องเวลา จึงหันไปแก้คำตอบกับเขา

          “เอ้ย ไม่ใช่สิ ยังไม่ลงค่ะ แค่พักกินข้าวเที่ยง เบลอไปหน่อย ยังไม่กลับหรอกค่ะ มาเอากระเป๋าสตางค์เฉยๆ” เธอตอบไป พี่แก๊ปวางกระเป๋าลงแล้วยิ้มให้เธอ

          “พี่ไปกินข้าวด้วยได้ไหม” ลินดาพยักหน้าให้กับเขา

          “วันนี้เวรพี่แก๊ปเหรอ ทำไมหนูไม่เห็นในตารางเลย” ลินดาถามเขา

          “พี่แลกเวรกับศร พอดีวันเวรพี่ติดธุระนิดหนึ่งน่ะ จะไปกินข้าวที่ไหนล่ะ

          “ก็คงแคนทีนชั้นสองนี่ล่ะค่ะ ขี้เกียจออกไปข้างนอก ร้อน”

          “ร้อนจริงเหรอ นี่หน้าหนาวนะ”

          “สำหรับหนูมันหนาวไม่พอค่ะ อยากได้แบบปีที่แล้วน่ะ”

          “โอ้โห หวังสูง” พี่แก๊ปทำหน้าตาล้อเลียนลินดา เธอยิ้มกว้างออกมา ทั้งคู่เดินขึ้นบันไดเลื่อนในโรงพยาบาลไปชั้นสองด้วยกัน

          เมื่อได้อาหารกันแล้ว ลินดาและแก๊ปจึงหาที่นั่ง ลินดาไม่รอช้า เธอถามคำถามกับเขาทันที

          “ก่อนหนูจะมาทำงานที่นี่ เด็กใหม่ออกบ่อยไหมคะ”

          “บ่อยเป็นนิจ พี่ก็รู้ก็เห็นนะว่าบรรยากาศมันเป็นยังไง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ พี่ก็พนักงานเหมือนๆ กัน แล้วทำไมถามงี้ล่ะ อยากออกแล้วเหรอ”

          “อยากมากค่ะ ทั้งเรื่องเวรไม่เป็นเวลา ทั้งคนไข้ ไหนจะเพื่อนร่วมงานอีก”

          “น่าเสียดาย เพิ่งจะผ่านโปรมาแท้ๆ” พี่แก๊ปจ้องหน้าลินดา เธอเองก็แปลกใจที่พี่แก๊ปพูดขึ้น คนอื่นก็รู้ก็เห็นแต่ทำอะไรไม่ได้เหรอ คงแปลว่าเธอจะต้องทนต่อไปจนกว่าพวกนั้นจะลาออกหรือตายจากใช่ไหมล่ะนี่ ก่อนนี้ลินดาไม่เคยคิดอยากจะระบายอะไรให้คนที่ทำงานฟัง เพราะสิ่งที่อยากบ่นนอกจากเรื่องเวร มันก็เรื่อง คน ด้วยกันนี่ล่ะ

          “มีดูๆ ที่อื่นไว้บ้างรึยังล่ะ” ลินดาหลบสายตาเขา ทำไมพี่แก๊ปถามเหมือนจะรู้

          “ยังเลยค่ะ” เธอตอบไปแล้วตักข้าวเข้าปาก

          “จ้ะ” เขาตอบลินดาสั้นๆ โดยไม่มองหน้า พี่แก๊ปอมยิ้มอย่างรู้ทันเธอ แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ

          “เอ้อ ถ้าพี่แลกเวรกับพี่ศร พี่ก็ต้องขึ้นเวรต่อหนูสิ หนูลงบ่ายสองนะวันนี้ ทำไมมาเร็วล่ะคะ” ลินดาถามด้วยความสงสัยจากใจจริง

          “อยากมาเร็ว ว่าจะมากินข้าวกับเรานี่ล่ะ” เขาตอบแล้วมองตาเธอไม่กระพริบ ลินดาเริ่มหน้าแดง

          “ทำไมหน้าแดงๆ ล่ะ ในนี้เปิดแอร์นะ อย่าบอกว่าร้อนให้ได้ยินเชียว” ลินดาเริ่มไปต่อไม่ถูก

          “ไม่รู้เหมือนกันค่ะ” พี่แก๊ปหัวเราะออกมา ลินดากินข้าวต่อไปจนหมด ทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไรกันอีกจนใกล้ถึงเวลาที่เธอต้องกลับมาทำงานต่อแล้ว

          “เวรหกโมงเช้า พักเที่ยงแค่ครึ่งชั่วโมง มันน่าเบื่อไหมล่ะพี่ว่า” ลินดาพูดกับเขาขณะลงบันไดเลื่อนมาด้วยกัน สาวๆ ที่แผนกมองดูทั้งคู่พูดคุยกันจนลงมาถึงชั้นหนึ่ง

          “แล้วพี่ๆ เขามองอะไรหนูกัน”

          “หนูสวยมั้ง” พี่แก๊ปตอบ ลินดาหน้าแดงอีกแล้ว พี่แก๊ปหัวเราะออกมา

          “ทำงานต่อเถอะ เดี๋ยวพี่อยู่ช่วยถึงบ่ายสองเลย” พี่แก๊ปบอกกับลินดาเมื่อเดินมาด้วยกันจนถึงแผนก ทุกสายตาเริ่มลดละที่จะคอยจับจ้องกันไปทีละคนสองคน

          ลินดาเบื่อสุดขีด ไม่กี่เดือนที่ต้องอยู่กับงานที่ไม่ได้รัก ที่ทั้งบั่นทอนสุขภาพกายและใจด้วยเรื่องเวลา เนื้องาน และผู้คน เธอยืนเหม่อรอรับคนไข้ที่จะวอล์คอินเข้ามาตรงเคาน์เตอร์เดิมที่ยืนขาแข็งมาตั้งแต่เช้า จะนั่งลงก็ไม่ได้ เพราะนั่นเป็นที่ที่ต้องสงวนไว้ให้รุ่นพี่ได้นั่งเท่านั้น

          “สวัสดีค่ะ คุณผู้ชาย มีอะไรให้ช่วยไหมคะ” เธอถามผู้ชายอีกคนที่เดินเข้ามา

          “มาเยี่ยมไข้ครับ”

          “ค่ะ ขอทราบชื่อและนามสกุลคนไข้ด้วยนะคะ”

          “แรนดอนครับ” ลินดารีบเสิร์ชชื่อในระบบแต่ไม่เจอ เธอเริ่มหันรีหันขวาง พี่แก๊ปที่มองดูอยู่ตลอดรีบเข้ามาช่วยทันทีเมื่อเห็นลินดาเริ่มเลิ่กลั่ก

          “รบกวนขอชื่อนามสกุลคนไข้อีกทีนะครับ” เขาพูดกับผู้ชายที่ลินดารับเคสอยู่

          “ปาร์คเกอร์ แรนดอน พอล” ครับ เขาบอกกับแก๊ปอย่างช้าๆ ชัดๆ ลินดายืนดูพี่แก๊ปค้นหาชื่อผู้ป่วยในระบบ ไม่ถึงวินาที ระบบก็แจ้งชื่อที่อยู่ หมายเลขประจำตัวคนไข้ และห้องพักที่คนไข้พักรักษาตัวขึ้นมาที่หน้าจอ

          “ห้อง 1410 ชั้นสี่ครับ” แก๊ปบอกกับเขา

          “ขอบคุณครับ” เขายิ้มให้ทั้งแก๊ปและลินดาแล้วหันหลังเดินไป

          “เมื่อกี้เขาให้แค่ชื่อกลางหนูมานี่”

          “หนูก็ต้องถามนามสกุลต่อด้วยสิ” ลินดาผิดอีกแล้ว เธอคงไม่เหมาะกับงานนี้จริงๆ

          “ก็ปกติเสิร์ชแค่นามสกุลมันก็เจอแล้วถ้าเป็นฝรั่ง”

          “หนูก็บอกเองว่าเขาให้ชื่อกลางมา แถมยังเป็นไปได้อีกว่าคนที่ลงทะเบียนไว้ในคราวแรกกรอกผิดช่อง ชื่อกลาง ชื่อต้น ฉะนั้นก็ต้องถามมาให้ครบ แล้วมาสลับช่องใส่เอา” ลินดารู้สึกเหมือนตัวเองช่างไม่รู้อะไรเลยจริงๆ

          “หนูออกดีไหมคะ” ลินดาถามพี่แก๊ปด้วยสีหน้าน้อยใจ

          “นี่ เราน่ะเป็นคนเก่ง จะมาท้ออะไรกับเรื่องแค่นี้ พี่รู้แค่เพราะพี่ก็เคยเจอแบบนี้ มันแค่ประสบการณ์น่ะ งานไหนๆ ก็ต้องอาศัยจุดนี้นะ” ลินดาฟังพี่แก๊ปสอน แต่เธอก็ยังมีสีหน้าอย่างเดิม

          “เอาเถอะ เดี๋ยวก็บ่ายสองแล้ว ลงเวรแล้วไปกินอะไรกันไหม”

          “ก็พี่ต้องขึ้นเวรต่อหนู แล้วจะไปกินอะไรกันได้ไงล่ะ”

          “เออใช่ ลืมไป ฮ่าๆ” พี่แก๊ปหัวเราะ ลินดาไม่กล้าคิดอย่างคนหลงตัวเองว่าพี่แก๊ปจะชอบเธอหรอก เขาคงแค่สงสารในความเหรอหราและไม่เป็นที่รักของใครๆ ในที่ทำงานของเธอก็เท่านั้น

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • Like the Deserts Miss the Rain ไออุ่นรัก   13

    ราวห้านาทีต่อมาลินดาจึงรู้สึกได้ว่าคุณเบนกำลังลุกขึ้น แม้แต่ชายเสื้อของเขาก็ยังอยู่ในความสนใจของเธอตอนนี้ หน้าตาของเบนก็ละม้ายคล้ายกับเบลอยู่มาก วันก่อนตอนสัมภาษณ์งานกับเบล เธอยังจับจ้องทุกอย่างของเบลได้โดยไม่ต้องกลัวว่าเขาจะรู้ตัว ลินดายังจำได้ว่าเธอสังเกตเห็นนิ้วมือของเบลที่เรียวยาวสวย ซึ่งก็ไม่ได้ต่างอะไรกับเบนด้วยความเป็นพี่น้องท้องเดียวกัน แต่มันมีอะไรสักอย่างในตัวเบนที่ต่างออกไป ใจเธอจึงได้เต้นแรงอย่างนี้เมื่อได้อยู่ใกล้เขา แม้แต่เสียงลมหายใจของเขาก็ยังทำให้เธอว้าวุ่น ตอนนี้เบนลุกออกจากห้องไปแล้ว แล้วเมื่อห้านาทีก่อนหน้านี้ล่ะ เขายังนั่งทำอะไรต่อหลังจากคุยกับเธอเสร็จเรียบร้อยแล้ว ลินดาไม่กล้าหันกลับไปมองในระหว่างนั้นเพราะกลัวว่าจะต้องสบตากัน เธอกลัวว่าเจ้านายจะรู้ว่าใจเธอคิดอะไรอยู่ ห้านาทีก่อนหน้านี้ที่เธอกลับมาดูรายละเอียดในหนังสือเล่มเดิมนั้น มันยังไม่มีอะไรผ่านหัวสมองของเธอเลย นอกจากเสียงของคุณเบนเวลาที่เขาขยับตัวอยู่บนโซฟาแม้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ลินดากลับมาตั้งสติและมีสมาธิกับสิ่งที่กำลังทำอยู่ได้อีกครั้ง เธอนำเอารายละเอียดที่โน้ตไว้ในสมุดมาเริ่มเรียบเร

  • Like the Deserts Miss the Rain ไออุ่นรัก   12

    ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ลินดาใช้ช้อนตักน้ำซุปที่เหลือในชามซดเข้าปากจดหมด โฟล์คยิ้มกว้างเมื่อเห็นลินดากินก๋วยเตี๋ยวร้านที่เขาแนะนำอย่างเอร็ดอร่อยจนไม่เหลืออะไรเลยนอกจากตะเกียบและช้อนในชาม “บอกแล้ว อร่อยเด็ด” โฟล์คพูดพลางดูดน้ำจากแก้วที่จวนจะเหลือแต่น้ำแข็งแล้ว “เด็ดจริง ฉันยอมเลย” ลินดาดูนาฬิกาที่ข้อมือ “กลับเลยไหม ไว้ว่างๆ หลังเลิกงาน คุณค่อยมาเซอร์เวย์ดูของกินอย่างอื่น นี่วันแรก อย่าให้เลยเวลาพักเที่ยงเลย” “ก็ไหนคุณบอกว่าไม่ซีเรียสเรื่องเวลาเพราะเป็นโฮมออฟฟิศไง” ลินดาท้วง “ผมหมายถึงผม แต่ถ้าคุณจะทำเหมือนที่ผมทำ ผมไม่รับรองนะว่าจะไม่โดนใครดุว่าอะไร” “โอเค งั้นกลับกันเลยดีกว่า โธ่ แล้วมาหลอกให้ดีใจ” ลินดาลุกขึ้นไปจ่ายเงิน “ก็บอกแล้วว่าตำแหน่งคุณมันต้องรับโทรศัพท์” โฟล์คบ่นพึมพำระหว่างที่เดินตามมาจ่ายเงินพร้อมกัน ลินดาหันมาเห็นสีหน้ารู้สึกผิดจากโฟล์คแล้วก็ต้องรีบอธิบาย “เฮ้ย ฉันไม่ได้ว่าอะไร แค่เข้าใจผิดไปเองน่ะ” “อื้อ” โฟล์คตอบเธอด้วยการส่งเสียงออกมาสั้นๆ ลินดาคิดอยู่ในใจว่าโฟล์คดูเป็นคนจ

  • Like the Deserts Miss the Rain ไออุ่นรัก   11

    “หวัดดีครับ เป็นไงบ้าง น้องใหม่ โดนโฟล์คแกล้งรึเปล่า” เบนโผล่หน้าเข้ามาถามไถ่ทั้งคู่อย่างเป็นกันเอง โฟล์คทักทายคุณเบนกลับไปอย่างอ่อนน้อม ลินดาได้แต่พนมมือไหว้เขา “แคปฟุตที่มาเลย์อยู่ใช่ไหม” คุณเบนเดินเข้ามาในห้องโดยเปิดประตูคาไว้ เป็นสัญญาณบอกว่าเขาคงจะไม่อยู่ในห้องนี้นานนัก เขายืนดูฟุตเทจปัจจุบันจากเทปเบต้าม้วนที่กำลังเล่นอยู่โดยใช้สองฝ่ามือเท้าลงบนโต๊ะตรงหน้าจอคอมพิวเตอร์ ลินดามองดูเขาจากด้านหลัง “ครับคุณเบน อีกไม่กี่ม้วนก็หมดแล้ว” โฟล์คตอบ “อื้ม ดีละ” คุณเบนยืดตัวขึ้นยืนตรง แล้วหันหน้ามาทางลินดา “เบลบอกรายละเอียดงานให้บ้างแล้วใช่ไหมครับ เช่นว่าบริษัทเราทำอะไร แล้วหน้าที่คุณคืออะไร” เบนถามกับลินดา “เอ่อ... บอกแล้วค่ะ” ลินดาไม่ทันตั้งตัว จู่ๆ เบนก็เล่นหันมาหาเธออย่างกะทันหันในระหว่างที่เธอกำลังมองดูไรจอนผมของเขา เนื้อเสียงคุณเบนนุ่ม หวาน และน่าฟังมาก ถึงแม้โทนเสียงจะฟังดูจริงจังอยู่ในทีแต่ลินดาฟังแล้วก็ไม่รู้สึกไม่ติดขัดตรงไหนเลย “ดีครับ แล้วนั่นอ่านอะไรอยู่” “หนังสือเกี่ยวกับประเภทจอร์แดนค่ะ คุณเบลให้ทำส

  • Like the Deserts Miss the Rain ไออุ่นรัก   10

    ลินดานิ่งไปเล็กน้อยเมื่อเบลอธิบายถึงเนื้องานที่เธอต้องรับผิดชอบ ทำเอกสารอะไรน่ะไม่มีปัญหา แต่ต้องไปต่างประเทศเนี่ยสิ ไปประสานงานกองเชียวเหรอ มันฟังดูสลักสำคัญเกินไปไหมสำหรับเด็กใหม่อย่างเธอ “ได้ค่ะ” เธอตอบไปอย่างมั่นใจแม้ข้างในจะเป็นตรงกันข้าม “ไม่ทราบมีพาสปอร์ตรึยังครับ” เบลถามต่อ “ยังเลยค่ะ” “งั้นวันสองวันนี้ไปทำไว้เลยนะ” ลินดาพยักหน้า เธอเริ่มหวั่นๆ อยู่ในใจ แม้จะเชื่อมั่นว่าตัวเธอมีศักยภาพเพียงพอ แต่ดูอะไรๆ มันดำเนินไปไวเหลือเกินสำหรับวันแรกในที่ทำงาน นี่ก็ต้องไปทำพาสปอร์ตรอไว้แล้ว “ได้ค่ะ ไปในเวลางานเลยเหรอคะ” ลินดาถามเบล “ใช่ครับ ไปได้ ไม่มีปัญหา ผมเป็นคนอนุญาต” “ค่ะ” “วันนั้นตอนเห็นหน้าผม คุณดูชะงักไป มีอะไรรึเปล่า” เบลถามเธอด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “เปล่าหรอกค่ะ พอดีวันนั้นโฟล์คบอกว่าคุณเบลจะเป็นคนสัมภาษณ์ เห็นว่าชื่อเบลฉันก็นึกว่าคุณจะเป็นผู้หญิง พอเจอตัวจริงก็เลยแปลกใจนิดหน่อย นิดเดียวจริงๆ ค่ะ” ลินดากางนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ให้อยู่ห่างกันให้น้อยที่สุดเพื่อประกอบการอธิบาย “ชื่

  • Like the Deserts Miss the Rain ไออุ่นรัก   9

    “จริงๆ ชั้นสองนี้เราไม่ค่อยได้ขึ้นมาใช้งานเท่าไรหรอก แต่ผมพามาดูจะได้รู้เผื่อเจ้านายให้ขึ้นมาหยิบอะไรเล็กๆ น้อยๆ ให้ บางทีเขาลืมเอกสารไว้บนโต๊ะแล้วเผอิญติดสายอยู่อะไรทำนองนั้น” โฟล์คอธิบายระหว่างที่ทั้งคู่เดินขึ้นบันไดมาชั้นสองด้วยกัน “แล้วปกติคุณเบนกับคุณเบลเขาไม่ได้อยู่ที่นี่เหรอ” ลินดาถามเมื่อเห็นว่าคราวก่อนคุณเบลมาถึงทีหลังเธอและยังต้องเอารถไปจอด ส่วนคุณเบน โฟล์คก็บอกว่าวันนี้เขายังไม่มา “ครับ พอเริ่มโต เริ่มทำงาน เขาก็ออกไปอยู่คอนโดกัน สไตล์คนหนุ่มน่ะ ต้นตระกูลคุณพ่อของเจ้านายเราเป็นมหาดเล็กเก่าในวังตั้งแต่สมัยไหนก็ไม่รู้ คงมีเงินทุนเตรียมไว้ให้ลูกๆ ทำธุรกิจตอนเรียนจบ อันนี้คุณยายเคยเล่าให้ฟังตอนทานข้าวด้วยกัน แต่ผมก็จำรายละเอียดไม่ค่อยได้” ลินดาฟังเขาเล่าเรื่องราวของบ้านเจ้านายเหมือนกำลังฟังเรื่องเล่าจากผู้เฒ่าผู้แก่ โฟล์คอมยิ้มเมื่อเห็นเธอยืนฟังตาแป๋ว เขาพาเธอเดินไปดูห้องทำงานของคุณเบนซึ่งอยู่ด้านในสุด ถัดมาจึงเป็นห้องของคุณเบล “มันเคยเป็นห้องนอนเขานั่นล่ะครับ พอย้ายไปอยู่คอนโด ก็ใช้ห้องนอนเป็นห้องทำงานแทน” โฟล์คเปิดประตูให้เธอได้เห็นข้าง

  • Like the Deserts Miss the Rain ไออุ่นรัก   8

    ฟ้ายังคงมืดสนิทแม้ใกล้จะหกโมงเช้าแล้ว ตามธรรมดาของฤดูหนาวที่ช่วงเวลากลางคืนจะยาวนานกว่าเวลากลางวัน พระอาทิตย์วันนี้คงจะโผล่พ้นขอบฟ้าในอีกไม่ช้า ผิดกับลินดาที่ตื่นขึ้นพร้อมรับวันใหม่ตั้งแต่ตีห้าเศษๆ เพื่อจะเริ่มงานวันแรกในที่ทำงานใหม่ซึ่งเธอดีใจเหลือเกิน ลินดาเปิดตู้เย็นเพื่อจะหาอะไรเบาๆ กินรองท้องก่อนออกจากบ้าน ถุงบะหมี่ที่ซื้อมาเมื่อวานซืนยังอยู่ดีไม่มีทีท่าว่าจะเน่าบูด แต่ลินดาก็เลือกที่จะทิ้งมันไป แล้วหยิบถ้วยโยเกิร์ตมาเปิดกินแทน เมื่อฟ้าข้างนอกเริ่มสว่างได้ที่ ลินดาจึงปิดไฟในห้องเมื่อเห็นว่าแสงเทียมๆ จากหลอดไฟนั้นไม่จำเป็นอีกต่อไป เธอเดินไปที่ริมหน้าต่างพร้อมถ้วยโยเกิร์ตในมือแล้วนั่งลงที่ขอบหน้าต่าง มองลงมาที่ถนนในซอยห้องพักแล้วกินโยเกิร์ตต่อจนหมดถ้วยอย่างสบายใจ ไม่รู้ทำไมเธอถึงได้ชอบที่นี่นัก มันเงียบสงบแบบไม่รู้จักเหงา ผู้คนบางตาแต่ก็มากพอให้รู้สึกถึงความเป็นชุมชน เธออยู่ที่นี่มาตั้งแต่สมัยเรียน รู้จักคุณเชอร์รีเจ้าของที่พักมาได้ก็หลายปีตั้งแต่เริ่มเข้ามาอยู่ แต่ก็ไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับตัวเธอมากไปกว่าชื่อและหน้าตาของเธอ ส่วนคุณเชอร์รีก็ไม่เคยถามอะไรซอกแซกเกี่

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status