เธออยู่ว่างๆ แบบนี้มาเกือบเดือนแล้วนะ.. วันๆ เธอก็ไม่ได้ทำอะไรเลยสักอย่างนอกจากตื่นนอน ทำกับข้าว กินข้าว อาบน้ำ ล้างจาน มีบ้างที่จะต้องซักผ้ารีดผ้าให้คุณชายท่าน.. ตอนนี้เธอเริ่มรู้ตัวแล้วว่าเธอแต่งงานกับเขาและฐานะของเธอคือคนใช้.. ถามว่าเธอชอบทำไม.. มันก็ไม่ได้ว่าเกลียดแต่ก็ไม่ได้ถึงกับชอบ เพราะเรื่องแบบนี้มันคือสิ่งที่เธอต้องทำประจำอยู่แล้วตอนที่เธอใช้ชีวิตอยู่สวิตเซอร์แลนด์คนเดียวเธอก็ต้องทำเองทุกอย่างอยู่แล้วสำหรับเธอมันเลยไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไรเลย..
“ว่าไงคะคุณเหมียว…”
“ว่างป่ะไปหาขนมกินกัน..”
“แกว่างเหรอ?”
“ว่างค่ะคุณนาย.. เร็วๆ จะให้ไปรับไหม..”
“ไม่ต้องๆ เดี๋ยวนั่งบีทีเอไป”
สามสิบนาทีต่อมา…
“มิ้นท์.. ทางนี้..”
^_^
ตึกตึกตึก..
หมับ…
“คิดถึงจัง..”
“งั้นเราไปหาของอร่อยๆ กินดีกว่า…อากาศร้อนๆ แบบนี้.. ไอศกรีมกัน”
อือ..
บทสนทนาระหว่างเธอและเหมียวดังขึ้นเรื่อยๆ .. พวกเราไม่ได้เจอกันตั้งแต่กี่ปีแล้วนะ.. มันคงไม่แปลกถ้าพวกเราจะคิดถึงกันมาก เสียงหัวเราะและการพูดคุยของพวกเรามันทำให้เราคิดถึงวันเก่าๆ ตอนที่พวกเรายังเรียนอยู่ด้วยกัน… ตอนนั้นมันสนุกมากๆ ช่วงวัยเรียนเป็นอะไรที่ดีที่สุด พวกเราทุกคนไม่จำเป็นต้องมากังวลว่าพรุ่งนี้จะมีเงินกินข้าวไหม พรุ่งนี้งานจะเยอะรึเปล่า ช่วยวัยเรียนเป็นอะไรที่สบายสมองที่สุด.. แต่เมื่อพวกเราก้าวผ่านช่วงวันเรียนและเข้าสู้วัยทำงาน.. เป็นอะไรที่เหนื่อยมาก เหนื่อยสุดๆ ตอนนี้แหละพวกเราได้เรียนรู้ว่าชีวิตในวัยผู้ใหญ่มันไม่ง่ายเลย คนรอบข้าง สิ่งรอบตัว เพื่อนในที่ทำงาน ทุกคนต่างมาจากที่ที่แตกต่างกันไป ครอบครัวของแต่ละคนก็ต่างกันออกไปอีก ดังนั้นการจะทำอะไรมันเลยทำให้พวกเราต้องระวังและคิดให้ดี…
“คิดถึงนิว..”
“อย่าไปคิดถึงมัน… มันไปติดผู้ชายอยู่ในป่า…”
ฮ่าๆๆ
“เหมียว.. ก็พูดไปเรื่อยๆ ..”
“นี้.. พูดจริงนะตามตัวยากมาก~~ คงจะต้องไปหามันที่บ้านแหละ.. รอให้ฉันหยุดก่อนเดี๋ยวพวกเราไปหานิวเออใช่สิ.. ลืมไปเลย.. มิ้นท์แต่งงานแล้วนี่นา.. คงจะไปยากสินะ…”
“ถ้าฉันอยากไปฉันก็จะไป…” ไม่มีใครที่จะบังคับเธอได้.. เธออยากจะทำอะไรเธอก็จะขอทำ.. เธออยากใช้ชีวิตในแบบที่เธอเคยทำมาก่อน…
“ดีมากค่ะ ทำถึง…”
“ฉันว่าจะหาสมัครงานดู..”
“เอาสิ ฉันสนับสนุน ใครไม่สนับสนุนก็คือปัญหาของคนพวกนั้นค้า….”
^_^
“ว่าแต่.. เงินที่แกทำงานและเก็บมาตลอดล่ะ?”
“ก็อยู่กับพ่อไง ฉันกำชับพ่อเอาไว้ว่าช่วยเก็บเงินตรงนี้ส่วนหนึ่งเอาไว้เพราะฉันจะเอาไปทำบ้านพักคนชรา.. ฉันอยากให้พ่อไปช่วยน่ะ ท่านน่าจะมีเพื่อนเยอะ..”
“ดีๆ เดี๋ยวฉันจะไปช่วยงานด้วย ฉันจะไปเอ็นเตอร์เทนให้คุณตาคุณยายทั้งหลาย แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว..”
“อือๆ ดีๆ พวกเราจะช่วยกันนะ…”
……..
“ไปไหน? กับใคร?”
“ไปเดินห้างครับ แล้วก็ไปกับเพื่อน.. คนนี้…”
เขาดูรูปที่ทัตส่งมาให้ดูเขาไม่รู้หรอกว่าเมียในนามของเขาไม่รู้สิตอนนี้เขายังไม่รู้เลยว่าจะทำยังไงต่อไปดี.. การที่เด็กคนนั้นมาป้วนเปี้ยนในคอนโดของเขาอยู่มันเป็นอะไรที่โคตรน่ารำคาญเลย… เขาอุตส่าห์กดดันไม่ให้เงินเธอใช้แต่เหมือนว่าเจ้าตัวจะไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลยสักนิด..
“ใคร?”
“น่าจะเป็นเพื่อนครับ…”
“ไปตามสืบมาต้องได้ข้อมูลในวันพรุ่งนี้ไม่สิ.. เย็นนี้..”
“คุณไคล์ ถ้ารีบทำเองเถอะครับ ผมมีงานอื่นจะต้องทำนะ หรือไม่ก็จ้างนักสืบเอาสิเงินก็มีทำไมไม่เอาไปใช้ให้เป็นประโยชน์ ผมทำทุกอย่างให้คุณไคล์แต่ไม่ได้เงินเพิ่ม.. เหนื่อยนะครับ แฟนก็ไม่มีเมียก็ไม่มีแต่คุณไคล์ชิ่งหนีไปมีเมียก่อนผม.. โคตรไม่แฟร์เลย…”
“ไอ้ทัต… มึงเป็นห่าอะไรกูถามจริง มึงอยากได้กูเป็นผัวเหรอ?”
แหวะ…
“พูดทุเรศนะครับ ผู้ชายแบบคุณไคล์ใครได้ไปเป็นผัวคือแบบ.. ดวงตกไปสามล้านชาติเลยครับ.. ที่ผมบ่นนะ ผมหมายถึงผมเหนื่อยครับ ทำงานตั้งแต่เช้าจนเช้าของอีกวัน เรื่องส่วนตัวทำเองบ้างก็ได้นะครับแล้วยิ่งเรื่องผัวๆ เมียๆ ด้วย.. ผมไม่อยากยุ่งไม่อยากกินอาหารหมา.. ไปนะครับ..”
ตึกตึกตึก..
ปัง..
“โอ้.. ไอ้เวร.. เมื่อก่อนกำพร้าเดี๋ยวนี้กำแหง.. จะว่ากำพร้าก็ไม่ถูกเพราะมันมีพ่อและแม่.. จะเปรียบเทียบยังไงดีวะ…”
~~~~~~~~
วันนี้อากาศดีสุดๆ ไปเลยว่าไหม… สิ่งที่เธอชอบที่สุดในวันนี้เธอก็ได้ทำแล้ว.. ตอนนี้เธอมีงานแล้ว ตอนแรกเธอก็ไม่แน่ใจหรอกว่าเธอจะได้งานรึเปล่า แต่โชคดีของเธอก็คือ.. บ้านพักคนชราแห่งนี้เปิดใหม่และต้องการพนักงานต่างๆ และพยาบาลเยอะเธอเลยลองยื่นใบสมัครพร้อมกับประวัติการทำงานของเธอแนบไปด้วย.. ผ่านไปไม่นานไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ทางนั้นก็ติดต่อมาหาเธอและให้เธอมาทำงานทันที… แต่เธอได้ขอร้องเอาไว้ก่อนว่าเธอขอเวลาสักสองวันแล้วเธอจะเริ่มงานทันที…
“สวัสดีค่ะ..”
“อ้าวสวัสดีค่ะ.. ผู้ช่วยพยาบาลคนใหม่ใช่ไหมคะ? มาค่ะ มาเลย มาเริ่มงานกันเดี๋ยวค่อยแนะนำตัวเนอะ..”
“ได้ค่ะ…”
ที่นี่ใหม่หมด กลิ่นสียังใหม่อยู่เลยแต่จะว่าไป.. ทุกอย่างทำออกมาดีนะ มันไม่ได้เหมือนโรงพยาบาล แต่มันคล้ายหมู่บ้านหรือโอมสเตย์ที่สามารถให้ครอบครัวมาพักผ่อนได้.. คนทำที่นี่เก่งนะ ทำยังไงไม่ให้ที่นี่ดูเหมือนโรงพยาบาล.. แต่ยังไงเธอก็ขอดูไปเรื่อยๆ ก่อน เธอฝันเอาไว้ว่าเธอเองก็อยากจะทำแบบนี้เหมือนกัน..
“เป็นไง.. พอไหวไหม?”
“ไหวค่ะ สบายมาก..”
“งั้น..”
“ออมิ้นท์ค่ะ ชื่อมิ้นท์ค่ะ..”
“งั้นมิ้นท์ดูแลส่วนบีหนึ่งไปนะ พี่ชื่อเจี๊ยบ พี่ดูแลส่วนบีสองไม่ไกลกันมาก ที่นี่ยังใหม่พวกเราเลยมีคุณตาคุณยายที่น่ารักไม่ค่อยเยอะ แต่ไม่เป็นไรถ้าลองได้ทำการตลาดโฆษณาออกไปว่ามีพยาบาลสวยๆ แบบมิ้นท์.. รับรองว่าหนุ่มๆ จะรีบพากันเอาคุณพ่อคุณแม่มาฝากแน่นอน…”
“แต่มิ้นท์ไม่อยากให้เป็นแบบนั้นเลยค่ะ.. มิ้นท์อยากให้ทุกคนได้ดูแลพ่อแม่ของพวกเขา…”
“เรื่องนั้นพี่เข้าใจ.. แต่การที่ลูกๆ ออกไปทำงานและต้องให้พ่อหรือแม่อยู่บ้านคนเดียวเหงาๆ ไม่สู้เอาพ่อแม่มาฝากไว้ตอนเช้าและมารับตอนเย็น.. แบบไหนจะดีกว่ากัน.. อย่างน้อยพวกท่านก็ได้มีเพื่อนในวัยเดียวกันด้วย.. พี่ว่าแบบนี้น่าจะดีกับพวกท่านนะ…”
“อืม.. นั่นสิคะ ที่นี่ไม่ได้รับแค่รายเดือนเหรอคะ?”
“ไม่ๆ พวกเรามีแพ็กเกจรายวันและรายสัปดาห์ด้วย.. เพราะลูกค้าบางท่านก็อยากจะอยู่กับพ่อแม่ในตอนเย็นแต่แค่พวกเขาไม่มีเวลาดูแลท่านในตอนที่พวกเขาต้องออกไปทำงานน่ะ..”
“อ๋อ.. แบบนี้นี่เอง.. งั้นมิ้นท์จะทำให้สุดความสามารถนะคะ…”
“ไป.. งั้น…สู้ๆ นะ..”
“ค้า…”
……
หมดไปแล้วหนึ่งวัน.. วันแรกของการทำงานเหนื่อยแต่สนุกมาก คุณตาคุณยายที่นี่น่ารักสุดๆ ทุกท่านใจดีที่สุด.. แค่คิดเธอก็นึกถึงคุณตาคุณยายของเธอจัง.. พวกท่านเป็นยังไงบ้างนะ สบายดีรึเปล่า ตั้งแต่ที่แม่ของเธอจากไปพวกท่านก็ไม่ติดต่อมาหาเธออีกเลย.. พวกท่านลืมเธอแล้วอย่างนั้นเหรอ? แต่ไม่เป็นไร สักวันเธอจะแวะไปหาพวกท่าน.. คุณตาคุณยายเป็นญาติฝั่งแม่แค่สองท่านที่เหลือของเธอในตอนนี้..
แกร๊ก…
“ไปไหนมา..”
“เชี้ย..”
“อะไร? เมื่อกี้เธอพูดอะไรออกมา…”
“ตกใจค่ะ..”
ตึกตึกตึก…
“ฉันถามว่าไปไหนมา…”
“ไปทำงานค่ะ”
“ทำงาน? เธอเนี่ยนะ?”
“ค่ะ.. ทำไมเหรอคะ?”
“ลูกคุณหนูแบบเธอเนี่ยนะทำงาน? แล้วทำงานอะไร ที่ไหนยังไง?”
“ไม่ขอตอบค่ะ มันคือเรื่องส่วนตัว ขอตัวนะคะ…”
หมับ…
“เดี๋ยว.. ผู้ใหญ่พูดด้วย.. ทำไมเธอถึงทำตัวไม่มีมารยาทแบบนี้? แล้วเธอได้ขออนุญาตจากฉันรึยัง? ที่นี่คอนโดฉันนะไม่ใช่โรงแรมที่เธอนึกอยากจะเข้าก็เข้าหรือนึกอยากจะออกก็ออก…”
“ข้อแรกนะคะ.. ดิฉันไม่จำเป็นต้องขอบคุณค่ะ อย่างที่สอง ถ้าคุณไม่พอใจให้ฉันอยู่ที่นี่ฉันก็ยินดีย้ายออกไปทันทีค่ะ เพราะอันที่จริงดิฉันเองก็ไม่ได้อยากจะอยู่ที่นี่ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว..”
ปีกกล้าขาแข็งเหรอ? หรือว่ากำลังทำตัวหยิ่งผยอง..
“หึ.. เก่งนิ ตัวแค่นี้แต่ฝีปากของเธอช่างไม่เป็นรองเหมือนขนาดตัว..”
“ขอโทษนะคะ.. เรื่องฝีปากและขนาดตัวมันคนละเรื่องกัน.. ดิฉันเข้าใจได้ว่าคุณเองก็ไม่ได้ปรารถนาที่จะแต่งงานกับดิฉัน… ดิฉันเองก็เช่นกันค่ะ เพราะคุณเองไม่ได้อยู่แผนชีวิตของดิฉันเลยแม้แต่น้อย.. ดิฉันยังอยากจะทำงานและทำในสิ่งที่ฉันรัก.. ถ้าไม่ติดอะไรดิฉันจะย้ายออกพรุ่งนี้เลยค่ะ…”
“เอาสิ ฉันไม่ติด สิ่งที่เธอพูดมามันก็ถูกนะ ฉันไม่ได้อยากแต่งงานกับคนแบบเธอ.. คนแบบเธอไม่คู่ควรและสมควรที่จะมายืนเคียงข้างฉันเลยสักนิด.. ฉันหวังว่าเธอจะไม่ร้อนรนหรือพยายามดิ้นรนกลับมาหาฉันนะ.. เพราะถ้าเธอกลับมาเมื่อไหร่.. ฉันจะจับเธอโยนออกไปทันที.. แล้วที่สำคัญห้ามเที่ยวไปป่าวประกาศกว่าฉันกับเธอเป็นอะไรกัน..”
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงค่ะเพราะการแต่งงานกับคุณมันคือความอัปยศที่สุดในชีวิตของฉันค่ะ.. การแต่งงานที่ถูกบังคับ การแต่งงานด้วยความชิงชัง.. มันน่าสมเพชมากๆ สำหรับฉัน.. ขอบคุณอิสระที่คุณมอบให้นะคะ..”
ตึกตึกตึก..
ปัง..
ความอัปยศเหรอ? นี่.. ยัยเด็กนั่นบอกว่า.. การแต่งงานกับฉันคือความอัปยศอย่างนั้นเหรอ? กล้ามาก… ยัยเด็กคนนี้คงไม่อยากตายดีสินะถึงกล้าพูดออกมาแบบนี้… คอยดูเถอะแล้วเราจะได้เห็นดีกันว่าใครกันแน่ที่เป็นตัวอัปยศและนำพาความอัปยศนี้…
เสียงคลื่นทะเลที่ซัดสาดเข้ามาที่ชายฝั่งพร้อมกับลมที่พัดพากลิ่นทะเลอันหอมสดชื่นทำให้ใครก็ตามที่ได้มาเที่ยวทะเลต่างก็ต้องชื่นชอบและผ่อนคลาย.. ตอนนี้เธอพาทุกคนมาเที่ยวทะเลจะว่าเธอพามาก็ไม่ถูก ต้องบอกว่ากั๊ฟพามามากกว่า.. กั๊ฟมาครอบครัวเขาและครอบครัวเธอมาเที่ยวทะเลตามที่เขาสัญญาเอาไว้… กั๊ฟเลือกเช่าบ้านพักตากอากาศริมชายหาดและมีพื้นที่ใช้สอยส่วนตัวสำหรับพวกเราเอาไว้ด้วย.. แม่แป้งบอกว่าจะออกไปซื้ออาหารทะเลกับพ่อของเธอ.. เพราะว่าพ่อน่าจะมีความรู้เกี่ยวกับการเลือกซื้อมากกว่าแม่แป้ง แม่แป้งทำอาหารเป็นแต่เลือกซื้อของไม่เป็นดังนั้นหน้าที่ในการเลือกซื้อก็เลยตกเป็นของพ่อเธอ…^_^“ว่าไงคะคนสวยของแม่… น่ารักเชียว.. กั๊ฟ.. ให้น้องอ้ายเดินเองบ้าง.. น้องอ้ายน่าจะชอบ..”“อีฟ.. เรากลัวเปลือกหอยจะบาดเท้าลูกนี่นา..”“แล้วยังไงกัน บาดก็บาดสิ มันคือเรื่องธรรมชาติที่เราเองก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้.. ให้ลูกได้ทำในสิ่งที่เจ้าตัวไม่เคยทำบ้างก็ได้เราจะคอยตามโอ๋ลูกไปตลอดไม่ได้นะกั๊ฟ…”“แต่เราเลือกที่จะหลีกเลี่ยงได้นิอีฟ…”เฮ้อ.. ก็เป็นซะแบบนี้ไง.. เวลาเธอจะทำอะไรเธอก็ต้องแอบอยู่เสมอ.. กั๊ฟน่ะหวงลูกมากเกินไป หวงจนบาง
จากวันนั้นมาถึงวันนี้เธอก็เรียนมาจนครบหนึ่งปีการศึกษาแล้วและเธอก็มีเพื่อนใหม่ที่ชื่อไชน์… ไชน์กับกั๊ฟชอบทะเลาะกันมาก และสิ่งที่ทำให้เธอตกใจก็คือไชน์เป็นว่าที่คู่หมั้นของคิม… ซึ่งเรื่องนี้เธอกับกั๊ฟก็พึ่งจะรู้ได้ไม่นานส่วนไชน์ก็พึ่งจะได้เจอกับคิมไม่นานเหมือนกัน.. แต่เธอขอบอกเลย พูดตามความคิดของเธอเลยนะ.. คิมน่าจะเอาไชน์ไม่อยู่หรอก.. ไชน์เป็นผู้หญิงที่มั่นใจในตัวเองมากๆ มีความคิดเป็นของตัวเองขั้นสุด แล้วตอนนี้เธอคิดว่าลูกสาวของเธอเริ่มติดน้าไชน์มากๆ ด้วย ทุกครั้งที่แวะมาหาเธอที่บ้านไชน์มักจะหอบหิ้วของเล่นของกิน เสื้อผ้าและอะไรต่อมิอะไรมาให้น้องอ้าย.. ไชน์มีมุมที่น่าเสมอเวลาที่เจ้าตัวเล่นกับเด็ก.. ไชน์ชอบพูดกับเธอว่าไชน์อยากมีลูกเยอะๆ ด้วยความที่ไชน์เองเป็นลูกสาวคนเดียว.. จะว่าคนเดียวก็ไม่ใช่ คือแม่ของไชน์มีแค่เธอคนเดียวแต่ไชน์มีพี่ชายพี่สาวต่างแม่อีกสองคนแต่ก็ไม่ได้สนิทกันมากเพราะพวกพี่ๆ อายุต่างจากไชน์เยอะอยู่พอสมควรจะมีก็แค่พี่สาวที่พอคุยกันได้บ้างแต่ก็ไม่ถึงกับสนิทดังนั้นเธอจึงถูกตามใจจากคนเป็นพ่อและคนเป็นแม่มากๆ เธออยากได้อะไรก็ต้องได้ เธออยากทำอะไรเธอก็จะทำ แต่ไชน์เป็นคนที่นิสัยดีส
ตื่นเต้นมากๆ เลย.. วันนี้เป็นวันเปิดเทอมครั้งแรกเธอรู้สึกตื่นเต้นสุดๆ การที่เธอต้องกลับมาเรียนที่นี้โดยไม่มีบอมเพื่อนสนิทของเธอบางครั้งมันก็น่ากลัวอยู่นะและด้วยที่เธออายุเยอะกว่าคนอื่นๆ ในคลาสด้วย.. มันทำให้เธอทำตัวไม่ค่อยถูก…“ณิชา จิตขจร..”“มาค่ะ…” เปิดเทอมวันแรกมันมักจะตื่นเต้นแบบนี้สินะแต่ทุกครั้งมันไม่ค่อยกังวลเท่าไรเพราะมีบอมอยู่ข้างๆ แต่วันนี้ไม่แล้ว.. เพื่อนของเธอเรียนจบกันไปหมดแล้ว..“นึกว่าใคร.. ครั้งนี้จะกลับมาเรียนจนจบไหมเนี่ยณิชา..”“จบค่ะอาจารย์..”แฮะๆเพียงสิ้นประโยคของอาจารย์ประจำภาควิชาเสียงของนักศึกษาคนอื่นก็ดังขึ้นมาทันที.. เธอไม่รู้หรอกว่านักศึกษาคนอื่นซุบซิบเธอเรื่องอะไรแต่ที่แน่ๆ เธอจะไม่ใส่ใจกับอย่างอื่นเธอจะใส่ใจแค่เรื่องเรียนเท่านั้น.. ออ.. เธอลืมบอกไป หลังจากที่กั๊ฟพยายามขอร้องให้เธอท้องลูกคนที่สองอีกครั้งเธอก็ไม่ไว้ใจเขาอีกเธอเลยซื้อยาคุมมาเผื่อไว้มีทั้งที่บ้านและในกระเป๋าของเธอ.. เขาน่ะเจ้าเล่ห์จะตาย… ไว้ใจไม่ได้ ส่วนน้องอ้ายก็เริ่มคลานแล้วตอนนี้คลานเร็วมาก เร็วจนบางครั้งพวกเราก็เหนื่อยสุดๆ เหนื่อยวิ่งตามเพราะกลัวว่าน้องอ้ายจะไปชนหรือร่วงจากบันไดนะสิ.. ดื
เขาและอีฟใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในบ้านหลังเล็กๆที่แม่ได้สร้างเอาไว้ให้จะว่าอึดอัดไหมก็ไม่นะเพราะว่าการมาอยู่ที่บ้านของแม่มันไม่ได้ทำให้เขารู้สึกอึดอัดอะไรเลยสักนิดแต่กลับต่างกัน มันกลับทำให้เขารู้สึกว่านี่อาจจะเรียกว่าครอบครัว ความรู้สึกแบบนี้เขาไม่รู้จักมานานมากๆแล้ว.. อาหารฝีมือแม่.. เขาเองก็แทบจะจำไม่ได้ และยังมาเจอแฟนพี่เบิร์ดอีก.. คือแบบทำอาหารแม่งโคตรอร่อย ราวกับว่าเป็นคนสอนแม่เขายังไงยังงั้น แต่สิ่งที่เขาเห็นแล้วก็คิดว่ามันน่าแปลกมากๆก็คือ.. แฟนพี่เบิร์ดกับพี่เบิร์ดแม่งแบบ.. พี่เบิร์ดแกบังคับแฟนแกรึเปล่าวะ.. แต่จะว่าไป.. เขาเองก็บังคับ ช่างแม่งเถอะ เอาเป็นว่าอย่างน้อยๆเขาก็มีอีฟ น้องอ้าย และแม่อยู่ด้วย ส่วนป๊าก็.. มาบ้างเป็นบางครั้ง.. บางครั้งของเขาก็คือวันเว้นวัน เมื่อก่อนไม่อยากไปไหนเลย วันๆอยู่แต่บ้านพอตกกลางคืนก็ออกไปทำงาน ไปคุมร้าน แต่ช่วงนี้ป๊าอยู่ไม่ติดบ้านเลยเพราะว่าขยันมาหาหลานและมาหาเมียป๊าด้วย.. บางทีการที่เขาได้ดูคนแก่เล่นตัวมันก็เป็นอะไรที่สนุกดีนะ.. ตลกดี… “อีฟ.. เค้าไปคุยกับพี่ไคล์ให้แล้่วนะ พี่ไคล์บอกว่าเปิดเทอมหน้าอีฟก็ไปเรียนได้เลย.. ” พรึบ.. “จริงเหรอ? แต่ว่
ในที่สุดเขาก็ได้เมียสักทีและที่นี้แม่ของเขาก็จะได้ไม่ต้องกระแหนะกระแหนเขาเกี่ยวกับเรื่องลูกเรื่องหลาน.. เพราะตอนนี้แม่เขาได้พาอีฟและน้องอ้ายไปอยู่บ้านท่านแล้วนั่นเลยทำให้เขาต้องมาอยู่บ้านแม่แทน.. เมื่อก่อนเขาไม่อยากมาที่นี่สักเท่าไรเพราะมาทีไรเขามักจะเจอแม่บ่นเรื่องนิสัยที่เหมือนป๊าไปทุกวันๆ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้วเพราะว่าตอนนี้เมียและลูกของเขามาอยู่กับแม่ถามว่ามาตอนไหน.. ก็ตอนที่เขาพาอีฟไปจดทะเบียนสมรสนั่นแหละ แม่นะรีบพาน้องอ้ายกลับบ้านท่านทันทีเมื่อมาถึงคอนโดเขาและอีฟหาลูกไม่เจอจนเขาต้องโทรหาป๊าและป๊าก็บอกว่าแม่ได้พาน้องอ้ายมาที่บ้านของท่านแล้วสุดท้ายอีฟร้องไห้.. กว่าจะปลอบได้หลังเขานี่แทบขาด.. เพราะอะไรน่ะเหรอ? เพราะว่าอีฟฟาดเอาๆ แล้วก็ด่าเขายกใหญ่แต่ไม่ได้ด่าคำหยาบคายนะจะเรียกว่าด่าก็ไม่ได้เรียกว่าบ่นจะดีกว่า…“อีฟ.. ไปทำงานด้วยกันไหม.. เค้าจะได้มีกำลังใจ..”“ไม่ว่างต้องเลี้ยงน้องอ้าย…”“ก็เอาน้องอ้ายไปด้วยไง.. เอาไปเลี้ยงที่นั่นก็ได้…”“ไม่.. น้องอ้ายยังเล็กน้องอ้ายไม่ควรที่จะเจอกับสิ่งแบบนั้น…”“ก็ถูก.. งั้นไม่ไปทำงานมันละ..” “ไม่ได้นะกั๊ฟนายจะไม่มีความรับผิดชอบแบบนี้ไม่ได้นะ…”
เธอนะอยากจะออกจากโรงพยาบาลเดี๋ยวนั้นตอนนั้นเลยเอาจริงๆ เธอได้ยินจากปากของ อดีตสามีเธอว่าเจ้าลูกชายตัวดีของเธอมันมีหลานให้เธอแล้วเธอนะดีใจจนน้ำตาไหลเธอทำตัวไม่ถูก เธอพึ่งจะบอกกับเจ้าเบิร์ดไปหยกๆ ว่ารีบมีหลานให้เธอทีเธออยากเลี้ยงหลาน (Past to you ย้อนเวลาไปพบรัก) เธอพูดยังไม่ถึงเดือนเลยตอนนี้เธอก็มีหลานเป็นของตัวเองแล้ว.. เธออยากเห็นหลานมากๆ เธออยากดูหน้าตาว่าจะน่ารักน่าชังขนาดไหน…“ขับรถให้มันเร็วกว่านี้ได้ไหม…”“จะรีบไปไหนกัน.. ทำตัวอย่างกับตัวเองเป็นวัยรุ่นไปได้รีบร้อนเกินคน…” เฮ้อ.. อดีตภรรยาของเขานี่ก็ใจร้อนเกินคนไปนะ เขาไม่แปลกใจเลยว่าไอ้ความใจร้อนและการขับรถเร็วน่ะได้มากจากใคร.. ไอ้กั๊ฟมันได้มาจากแม่ของมันหมด…“ฉันไม่ได้พูดกับคุณ ช่วยหุบปากอุ๊ย.. เงียบปากทีนะน่ารำคาญ…” ชิ.. อยากคุยด้วยตายแหละ จุ้นจ้านไม่เข้าเรื่อง…“พูดกับผัวไม่เพราะ…”“อดีต..” “อดีตแล้วไงถึงยังไงเราก็ได้กันจนมีลูกมาแล้ว..”“หุบปาก”“ดุฉิบหาย… แบบนี้ถึงได้รัก…”ขวับ..“ถ้าคุณยังไม่หุบปากฉันจะตบปากคุณจริงๆ แล้วนะคุณกษิดิศ..” อย่าให้ความอดทนอันน้อยนิดของเธอสิ้นสุดลงนะ.. ถ้าเธอได้โมโหเธอไปสุดนะ…“พี่ดิศ เมื่อก่อนเร