ตอนนี้เธอทำงานที่ All friends house แห่งนี้ได้เป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้ว.. งานที่ทำก็ไม่ได้เหนื่อยมากเลยสักนิดเพราะคุณตาคุณยายทุกท่านน่ารัก อัธยาศัยดี นิสัยดี ร่าเริง พวกท่านท่าเทียบๆ แล้วอายุอานามก็คงจะใกล้ๆ คุณตาคุณยายของเธอสินะ.. พวกท่านทั้งสองคนจะเหงารึเปล่า… คิดถึงจัง…
“หนูมิ้นท์.. มานี้ๆ ยายมีมะยงชิดมาฝาก.. ดูสิคว้านเม็ดออกเรียบร้อย.. สวยไหม?”
^_^
“สวยค่ะ สีสวยมากๆ เลย เปรี้ยวไหมคะ? หนูไม่ได้ทานนานมากแล้วจำไม่ได้แล้วว่ารสชาติจะเป็นยังไง…”
เธอจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่ารสชาติมันจะออกมาเป็นยังไง เปรี้ยวไหม? เธอเคยได้ยินมาว่ามะยงชิดมีพี่น้องร่วมสาบาน… ฮ่าๆๆ พูดเล่นๆ เธอเคยได้ยินผ่านๆ หูมา มันน่าจะเป็นตระกูลมะ โดยมีรุ่นพี่ที่ใหญ่ที่สุดก็คือ มะม่วง รองลงมามะยงชิด ต่อมาก็มะปราง และลำดับสุดท้ายคือมะนาว.. ทุกอย่างเป็นผลไม้รสเปรี้ยวอมหวาน.. อันนี้เธอก็ลืมด้วยสิว่าเขาจัดอยู่ให้เป็นผลไม้ในตระกูลรสเปรี้ยวด้วยรึเปล่า.. แต่ก็เอาเถอะ อย่างน้อยเธอได้ก็กินมันอีก
“ยายทำเอง.. ลองชิมสิ รับรองว่าหวาน..”
“ขอบคุณนะคะ.. เดี๋ยวหนูไปจัดใส่จานมาให้นะคะ..”
ห้านาทีต่อมา…
“มาแล้วค่ะคุณยาย.. วันนี้คุณยายอารมณ์ดีนะคะ…”
“ใช่.. ดีมาก วันนี้หลานจะมารับน่ะ หลานชาย หล่อด้วยนะเป็นหมอหนูมิ้นท์มีแฟนรึยังลูก…”
จะบอกว่าไงดีล่ะ จะตอบว่าไม่มีแฟนแต่มีสามี.. จะบอกว่าสามีก็ไม่ได้เพราะเรายังไม่ได้เป็นอะไรกันแต่เอ๊ะ.. แต่งงานแล้วแต่ยังไม่มีอะไรกัน.. นับว่าเป็นสามีรึเปล่านะ?
“อย่าเลยค่ะคุณยาย.. ให้หลานคุณยายเจอคนที่ดีกว่าหนูเถอะค่ะ หนูอาจจะไม่ใช่สเปกหลานคุณยายก็ได้ค่ะ..” นั่นคือคำตอบที่ดีที่สุดแล้ว..
“ฮือ.. ยายเชื่อว่าหลานชายจะต้องชอบหนูมิ้นท์…”
“ค้าๆ คุณยายว่ายังไงหนูก็ว่าอย่างนั้นค่ะ..”
….
เฮ้อ.. พักเที่ยงแล้ว… ทีนี้เธอก็ได้กินข้าวแล้วสิ… แค่นึกถึงกินข้าวเธอก็นึกถึงอีลุงข้างบ้านเลย.. ปากว่าไล่เธอให้เธอออกไปจากคอนโด.. แต่พอเธอจะไปจริงๆ อีลุงข้างบ้านก็เอาเรื่องพ่อขึ้นมาพูด.. แต่สิ่งที่เขาพูดมันก็คือเรื่องจริงนั่นแหละเพราะเธอเองก็ไม่รู้จะหาข้ออ้างกับพ่อเธอได้ยังไง เธอคิดไม่ออกว่าจะตอบพ่อยังไงตอบถึงสาเหตุที่ออกมาอยู่ข้างนอกคนเดียว.. มันน่าเบื่อนะ มันน่ารำคาญสุดๆ เลย ไม่ว่าเธอจะทำอะไรอีลุงข้างบ้านก็ชอบจับตาดูเธอเสมอ..
งานในหนึ่งวันของเธอไม่มีอะไรมากนอกจากดูแลคุณตาคุณยายทั้งหลายในส่วนที่เธอต้องรับผิดชอบ.. มันจะมีโซนหนึ่งที่จะต้องจ้างพยาบาลพิเศษมาคอยดูแลอันที่จริงเธอก็ทำได้แหละเพราะเธอเคยทำงานที่สวิตเซอร์แลนด์มาก่อน และมีบ้างที่เธอไปรับจ๊อบฝั่งเยอรมันบ้างช่วงวันหยุดของเธอ.. และมันก็ทำให้เธอมีเงินจับจ่ายใช้สอยแยกต่างหากจากเงินเดือน.. มันเลยทำให้เธอมีเงินส่งมาให้พ่อของเธอเก็บเอาไว้เพื่อที่เราจะได้ไปทำบ้านพักคนชรายังไงล่ะ..
“โอ๊ย… เหนื่อย…”
หมับ…
อ๊ะ…
“เจอกันสักที…”
“คะ.. ใครคะ? คุณเป็นใคร มาจับเนื้อต้องตัวฉันแบบนี้ไม่ได้นะคะ…”
ใครกัน.. ทำไมอยู่ๆ มาจับแขนเธอเอาไว้แบบนี้ล่ะ และที่นี่ก็คือคอนโดด้วย.. การรักษาความปลอดภัยมันต้องดีสิ..
“ฉันเป็นใครงั้นเหรอ? เป็นคนที่คู่ควรที่สุดกับคุณไคล์น่ะสิ ส่วนแก.. หึ.. ดูจากสาระรูปแล้ว..”
“ทำไมคะ? ฉันทำไมไม่ทราบ.. อ๋อ.. ที่แท้ก็เป็นเด็กของลุงนิสัยไม่ดีคนนั้นี่เอง.. แต่ดูๆ แล้วคงจะยังเรียนไม่จบสินะ.. นี่หนู.. เอาเวลาวิ่งตามผู้ชายไปตั้งใจเรียนให้มันมากๆ นะจะได้จบมาอย่างมีคุณภาพไม่ใช่จบมาอย่างพอไปที.. เปลืองค่าเทอม..อ๊ะ..”
เพี้ยะ
“แกอย่ามาสอนฉัน.. แกก็ไม่ได้มีดีอะไรนักหรอก.. ผู้หญิงดีๆ ที่ไหนจะมาแทรกกลางคนอื่น.. หน้าด้าน.. อีผู้หญิงไม่มียางอาย ทำตัวสำส่อนไปเรื่อย.. พ่อแม่แกคงจะไม่สั่งสอนสินะว่าไม่ควรแย่งของของคนอื่น.. ทุเรศ”
เพี้ยะ…
“ที่ฉันตบเพราะเธอลามปามมาถึงพ่อและแม่ฉัน.. ที่ฉันตบเมื่อกี้ฉันไม่ได้ตบที่เธอเป็นผู้หญิงที่ถูกทิ้ง.. ที่ฉันตบเมื่อกี้ไม่ใช่เพราะฉันหึง.. แต่ฉันตบเธอเพราะปากที่มันใช้พ่นคำทุเรศออกมาอย่างไม่คิดฉันรู้ว่าเธอไม่มีสมอง.. ฉันรู้ว่าการศึกษาไม่ได้ช่วยให้เธอมีความคิด.. จะพูดอะไรก็พูดไปแต่อย่ามาพูดถึงพ่อและแม่ฉัน.. พ่อแม่ฉันสอนมาดีไม่เหมือนเธอที่ท่านน่าจะสอนมาดีในระดับหนึ่งแต่เธอเองที่ทำตัวเป็นกีสาธารณะ… ถ้ามีครั้งหน้าอีก.. ฉันจะไม่ยอมแน่…”
กรี๊ด…
“อีชั่ว.. อีเลว..”
“คุณยามคะ.. ช่วยเอาผู้หญิงคนนี้ออกไปที ผู้หญิงคนนี้ทำร้ายร่างกายฉันค่ะ.. เธอเป็นบ้าถ้าเป็นไปได้เรียกตำรวจหรือไม่ก็ติดต่อรถพยาบาลด้วยนะคะดูเหมือนจะเป็นบ้า…”
ตึกตึกตึก…
“อะไรกัน.. เป็นอะไร…”
ขวับ…
“นังผู้หญิงคนนั้นตบส้ม.. มันตบส้ม.. ส้มเจ็บ..” ฮือ~~~~
เสแสร้งมาก.. เมื่อกี้ยังกรี๊ดยังด่าเธออยู่เลยแล้วดูตอนนี้สิ.. โอ้โฮ… เก่งอ่ะ…
“เธอทำ?”
“ค่ะ ฉันทำ ถ้าผู้หญิงคนนี้ไม่ทำฉันก่อนฉันก็ไม่ทำ… ถ้าคุณคิดจะมีบ้านเล็กบ้านน้อยก็ช่วยปรามๆ หน่อยนะคะ… อย่าลืมว่าฉันมีใบทะเบียนสมรส.. ถ้าฉันนึกสนุกขึ้นมาฟ้องชู้และฟ้องคุณ.. คุณคิดว่ายังไงคะ.. อยากทำอะไรก็เกรงใจกันหน่อยและนี่มันก็มีคนเข้าออกคอนโดเยอะแล้วปล่อยให้เด็กนักศึกษาวิ่งมาเกาะแขนและแสดงมารยาททรามๆ แบบนี้ออกมา… หึ”
ขวับ…
ตึกตึกตึกตึก…
“คุณไคล์คะ.. คุณไคล์ต้องจัดการผู้หญิงคนนั้นให้ส้มนะคะ…”
“เธอ… ตบผู้หญิงคนนั้น?”
“เอ่อ… คือ.. ผู้หญิงคนนั้น.. ผู้หญิงคนนั้นด่าส้มค่ะ ด่าส้ม ผู้หญิงคนนั้นด่าส้มค่ะส้ม ส้มทนไม่ได้ ส้มสติขาด ส้มเลย…”
“เธอรู้ดีว่าที่นี่มีกล้องวงจรปิด… และผู้หญิงคนนั้นที่ไม่แม้แต่จะยุ่งวุ่นวายกับฉัน… ถ้าเธอยังอยากมีเงินใช้ล่ะก็… เธอจะต้องรู้ว่าตัวเองควรจะทำยังไง อย่าให้มีแบบนี้เกิดขึ้นอีกครั้ง.. ถ้าคิดจะโกหกฉันเธอควรไปเรียนการแสดงมาเพิ่ม.. อย่าให้ฉันรู้ว่าเธอทำเรื่องไร้สาระแบบนี้ลับหลังฉันเพราะถ้าฉันจับได้.. เธอ… ไม่รอด…”
เอือก…
“ไม่ค่ะ ไม่ทำแล้วส้มขอโทษค่ะ ขอโทษจริงๆ .. คุณไคล์… ส้มคิดถึงคุณไคล์ คุณไคล์ไม่มาหาส้มเลย..”
“แล้วเธอ.. รู้ได้ยังไงว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นคนที่ฉันแต่งงานด้วย…”
หมับ….
“คือ.. เจ็บค่ะคุณไคล์.. ส้มเจ็บ.. ส้มขอโทษ.. ส้มขอโทษ…” เธอจะกล้าบอกได้ยังไงกันว่าเธอติดสินบนพนักงานรักษาความปลอดภัยของที่นี่
“อย่าก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของฉัน.. ครั้งนี้ฉันจะทำเป็นมองไม่เห็นแต่อย่าคิดว่าจะมีครั้งหน้า.. ไปซะ… กลับไป…”
“คุณไคล์..ฮึก… ค่ะๆ กลับ ส้มกลับก่อนนะคะ..”
ขวับ…
ตึกตึกตึก…..
“ฉันไม่มีทางยอมแน่.. ถ้าฉันเห็นแกอีกเมื่อไร.. ฉันจะไม่ปล่อยแกไว้แน่คอยดูเถอะ.. แกทำให้คุณไคล์โกรธฉัน.. นังผู้หญิงหน้าด้าน.. อีผู้หญิงทุเรศ ทำตัวยิ่งกว่าผู้หญิงหากินตอนกลางคืนอีก.. ทุเรศ.. แกทำให้คุณไคล์ไม่ยอมติดต่อมาหาฉัน.. ในเมื่อมันเป็นแบบนี้.. ฉันจะต้องใช้ไม้แข็ง… แกเตรียมตัวรอรับผลกรรมได้เลย..”
~~~~
ก๊อกๆๆ
“ออกมาคุยกันหน่อย…”
เงียบ…. ยัง…
ก๊อกๆๆ
“ออกมาคุยกัน…” แสบนักนะ.. คิดว่าตัวเองเป็นใครกัน.. กล้ายังไงถึงเมินเขา…
ก๊อกแก๊กๆ
แกร๊ก…
“อาบน้ำเหรอ? .. ไม่น่าจะใช่เพราะไม่ได้ยินเสียงน้ำเปิด.. ห้องมืดซะด้วย…” ถามว่าเขาเสียมารยาทไหมที่เข้าห้องคนอื่นมาโดยที่ไม่ได้ขออนุญาต.. ไม่หรอกเพราะเขาเป็นเจ้าของคอนโดแห่งนี้ดังนั้นเขาจะทำอะไรก็ได้.. ไม่จำเป็นต้องขอหรือรอให้ผู้มาอยู่อาศัยอนุญาต..
ตึกตึกตึก…
เฮ้ย.. ไรวะ.. เตะโดนอะไรเนี่ย..
“ไหนดูสิ..”
ตึกตึกตึก…
แปะ.. พรึบ…
“ทำไมมานอนตรงนี้… ให้ตายสิ…”
ที่เขาเรียกไม่ยอมตอบคงจะเพราะหลับสินะ.. ดูสิ นั่งหลังอยู่ตรงเตียงเนี่ยนะ… หัวอยู่บนเตียง ลำตัวยังอยู่ในท่านั่งอยู่เลย.. คงจะเหนื่อยสินะ…
“วุ่นวาย..”
ฮึบ..
อ่า.. ตัวเบาจริงๆ ..
“รอให้ตื่นก่อนเถอะแล้วฉันจะคุยกับเธอให้รู้เรื่อง…”
สุดท้ายเขาก็ต้องแตะตัวผู้หญิงคนนี้.. จะว่าไป.. ตัวเล็กดี ตัวเล็กสเปกไคล์.. ไม่ๆ ไม่ใช่ๆ ไม่ใช่ยัยเด็กนี่แน่นอน.. โน ห้ามคิด
ตึกตึกตึก…
แกร๊ก…
“หรือว่าจะให้เงินเดือนดีเพื่อที่จะแลกกับการให้อยู่บ้านและไม่ต้องออกไปทำงาน…”
ถ้าออกไปทำงานแล้วเหนื่อยแบบนี้.. อยู่บ้านน่าจะดีกว่านะเขาว่าแต่ไม่เอา.. เรื่องอะไรจะต้องให้เงินเพิ่มในเมื่อฝั่งนั้นได้เงินจากครอบครัวเขาไปตั้งเยอะแล้ว.. ไม่มีทางหรอก… ฝันไปเถอะ… อย่าได้คาดหวังว่าจะได้อะไรจากเขาอีก.. ไม่มีทาง…
เธอลองๆ คุยกับพ่อแล้วแต่ดูเหมือนพ่อจะไม่ค่อยพอใจในสิ่งที่เธอท่านไปสักเท่าไร.. เธอน่ะอยากเป็นอิสระ อิสระที่แปลว่าไม่ต้องมายุ่งกับอีลุงข้างห้องคนนั้นอีก ไม่อยากเห็นไม่อยากเจอ เธออยากจะไปอยู่ที่ไหนสักที่ที่ไม่ต้องเจอใคร แต่เธอก็บอกกับพ่อไปนะว่าเธอจะแวะมาหาท่านบ่อยๆ แต่เพียงจบประโยคเท่านั้นพ่อก็ตวาดใส่เธอเสียงดังลั่น และบอกว่าเธอจะมาเห็นแก่ตัวแบบนี้ไม่ได้.. เพราะพี่มายด์ต้องเหนื่อยมากขนาดไหนกว่าจะเรียนจบมาได้ถึงขนาดนี้.. แล้วเธอล่ะ? ไม่เหนื่อยเหรอ? เธอก็เรียนนะ เธอทำงานไปเรียนไป มันย่อมเหนื่อยกว่าเป็นสองเท่าอยู่แล้ว.. ตอนนี้เธอเริ่มสับสนนะว่าตกลงพ่อน่ะใจดีกับเธอและเอ็นดูเธอบ้างรึเปล่า.. ตึกตึกตึก…“สวัสดีค่ะคุณตาคุณยาย..” เพราะยังไง.. ชีวิตของเธอก็ต้องก้าวไปข้างหน้าอยู่แล้ว เธอจะมาใส่ใจกับเรื่องเมื่อวานไม่ได้…“หนูมิ้นท์มาแล้ว.. มาๆ วันนี้ยายทำขนมใส่ไส้มาด้วย.. ไส้มะพร้าวนะลูก ตาพีทบอกอร่อยมากและนี่ตาพีทฝากมาให้…”“ให้หนูเหรอคะ? ..” อะไรนะ.. “ใช่ๆ ตาพีทฝากให้ยายเอามาให้น่ะ…”^_^“งั้นหนูขออนุญาตเปิดดูนะคะ…”0_0“สวยมากๆ เลยค่ะ.. หนูไม่เคยเห็นใครวาดรูปได้สวยมากขนาดนี้..” จริงนะ เธอพูดเร
สุดท้ายเธอก็ต้องอยู่ที่คอนโดของลุงข้างบ้านอยู่ดี.. ตอนนั้นเธอก็อุตส่าห์บอกไปแล้วว่าเธอพร้อมไปอยู่ที่อื่นแต่ดูเหมือนว่าลุงข้างบ้านจะมีปัญหาหรือเพราะว่าเขาอยากจะให้เธอช่วยจ่ายค่าเช่าเหรอ? ไม่หรอกมั้งเพราะดูๆ แล้วเขาก็มีเงินเยอะกว่าเธอเยอะเลย.. ก๊อกๆ“ออกมาคุยกับฉันหน่อย…”เฮ้อ.. ไม่น่านึกถึงเลย.. นึกทีไรแล้วเธอรู้สึกว่าเขาคล้ายกับสัมภเวสี.. แค่คิดก็โผล่มาขอส่วนบุญแล้ว.. ตึกตึกตึก…แกร๊ก….“มีอะไรคะ?”“ออกมาคุยดีๆ หรืออยากให้ฉันเข้าไป?” ตึกตึก… แกร๊ก…“ว่ามาค่ะ” เป็นบ้าเหรอ? รึยังไง?“นี่เธอ.. ควรมีมารยาทกับฉันหน่อยนะ อายุของเธอก็ห่างจากฉันตั้งหลายปี.. และฉันเป็นเจ้าของคอนโดด้วย..”“เรื่องนั้นฉันทราบค่ะว่าคุณเป็นเจ้าของคอนโด.. ฉันก็เสนอคุณไปแล้วว่าฉันจะไปอยู่ที่อื่นแต่คุณก็คัดค้าน.. และที่คุณบอกว่าคุณอายุมากกว่าฉัน ฉันทราบดีค่ะว่าคุณแก่ แล้วการที่คุณมารบกวนวันหยุดของฉันแบบนี้.. มันดูไม่มีมารยาทนะคะ…”“นี่.. พ่อแม่เธอไม่สั่งสอนเหรอว่าควรจะพูดจากับคนที่มีอายุมากกว่ายังไง…”เล่นถึงพ่อถึงแม่เลยเหรอ? เธอจำได้ว่าตั้งแต่เธอเกิดมาไม่มีใครทำให้เธอต่อล้อต่อเถียงได้มากมายเช่นเขามาก่อน… เขาคือคนแ
ตอนนี้เธอทำงานที่ All friends house แห่งนี้ได้เป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้ว.. งานที่ทำก็ไม่ได้เหนื่อยมากเลยสักนิดเพราะคุณตาคุณยายทุกท่านน่ารัก อัธยาศัยดี นิสัยดี ร่าเริง พวกท่านท่าเทียบๆ แล้วอายุอานามก็คงจะใกล้ๆ คุณตาคุณยายของเธอสินะ.. พวกท่านทั้งสองคนจะเหงารึเปล่า… คิดถึงจัง…“หนูมิ้นท์.. มานี้ๆ ยายมีมะยงชิดมาฝาก.. ดูสิคว้านเม็ดออกเรียบร้อย.. สวยไหม?”^_^“สวยค่ะ สีสวยมากๆ เลย เปรี้ยวไหมคะ? หนูไม่ได้ทานนานมากแล้วจำไม่ได้แล้วว่ารสชาติจะเป็นยังไง…” เธอจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่ารสชาติมันจะออกมาเป็นยังไง เปรี้ยวไหม? เธอเคยได้ยินมาว่ามะยงชิดมีพี่น้องร่วมสาบาน… ฮ่าๆๆ พูดเล่นๆ เธอเคยได้ยินผ่านๆ หูมา มันน่าจะเป็นตระกูลมะ โดยมีรุ่นพี่ที่ใหญ่ที่สุดก็คือ มะม่วง รองลงมามะยงชิด ต่อมาก็มะปราง และลำดับสุดท้ายคือมะนาว.. ทุกอย่างเป็นผลไม้รสเปรี้ยวอมหวาน.. อันนี้เธอก็ลืมด้วยสิว่าเขาจัดอยู่ให้เป็นผลไม้ในตระกูลรสเปรี้ยวด้วยรึเปล่า.. แต่ก็เอาเถอะ อย่างน้อยเธอได้ก็กินมันอีก“ยายทำเอง.. ลองชิมสิ รับรองว่าหวาน..”“ขอบคุณนะคะ.. เดี๋ยวหนูไปจัดใส่จานมาให้นะคะ..” ห้านาทีต่อมา…“มาแล้วค่ะคุณยาย.. วันนี้คุณยายอารมณ์ดีนะคะ…”“
เธออยู่ว่างๆ แบบนี้มาเกือบเดือนแล้วนะ.. วันๆ เธอก็ไม่ได้ทำอะไรเลยสักอย่างนอกจากตื่นนอน ทำกับข้าว กินข้าว อาบน้ำ ล้างจาน มีบ้างที่จะต้องซักผ้ารีดผ้าให้คุณชายท่าน.. ตอนนี้เธอเริ่มรู้ตัวแล้วว่าเธอแต่งงานกับเขาและฐานะของเธอคือคนใช้.. ถามว่าเธอชอบทำไม.. มันก็ไม่ได้ว่าเกลียดแต่ก็ไม่ได้ถึงกับชอบ เพราะเรื่องแบบนี้มันคือสิ่งที่เธอต้องทำประจำอยู่แล้วตอนที่เธอใช้ชีวิตอยู่สวิตเซอร์แลนด์คนเดียวเธอก็ต้องทำเองทุกอย่างอยู่แล้วสำหรับเธอมันเลยไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไรเลย..“ว่าไงคะคุณเหมียว…”“ว่างป่ะไปหาขนมกินกัน..”“แกว่างเหรอ?”“ว่างค่ะคุณนาย.. เร็วๆ จะให้ไปรับไหม..”“ไม่ต้องๆ เดี๋ยวนั่งบีทีเอไป”สามสิบนาทีต่อมา…“มิ้นท์.. ทางนี้..” ^_^ตึกตึกตึก..หมับ…“คิดถึงจัง..” “งั้นเราไปหาของอร่อยๆ กินดีกว่า…อากาศร้อนๆ แบบนี้.. ไอศกรีมกัน”อือ..บทสนทนาระหว่างเธอและเหมียวดังขึ้นเรื่อยๆ .. พวกเราไม่ได้เจอกันตั้งแต่กี่ปีแล้วนะ.. มันคงไม่แปลกถ้าพวกเราจะคิดถึงกันมาก เสียงหัวเราะและการพูดคุยของพวกเรามันทำให้เราคิดถึงวันเก่าๆ ตอนที่พวกเรายังเรียนอยู่ด้วยกัน… ตอนนั้นมันสนุกมากๆ ช่วงวัยเรียนเป็นอะไรที่ดีที่สุด พวกเ
หนึ่งเดือนต่อมา…งานเลี้ยงง่ายๆ ถูกจัดขึ้นที่บ้านของเขา.. จะว่างานเลี้ยงก็ไม่ใช่เพราะป้านวลเป็นคนทำกับข้าวและการจดทะเบียนสมรสถูกจัดแจงขึ้นที่บ้านของเขาโดยมีพ่อของฝ่ายหญิงและพ่อของฝ่ายเขาที่มาเป็นสักขีพยานไอ้น้องทั้งสองคนของเขามันก็ไม่ได้มาร่วมงานนี้เพราะมันอ้างว่าไม่อยากมากลัวโดนจับแต่งงาน.. ส่วนคนพี่.. ไม่โผล่หัวมาให้เห็นเลย.. เกลียด ตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกเกลียดคนบ้านนี้ยังไงก็ไม่รู้ ไม่ชอบขี้หน้า ไม่ถูกโฉลกเลยสักนิด..“คุณหนูมิ้นท์ทานเยอะๆ นะคะป้าทำสุดฝีมือเลย…”“ไม่ต้องเรียกคุณหนูหรอกค่ะ เรียกหนูว่ามิ้นท์เฉยๆ ก็ได้..” เธอรู้สึกว่าป้านวลนั้นอบอุ่นมาก ป้านวลเป็นผู้ใหญ่ที่ใจดีทั้งหน้าตาและการกระทำไม่เหมือนใครบางคน แก่ซะเปล่าแต่ทำตัวไม่น่าเคารพเอาเสียเลย.. เธอไม่ได้ว่าใครนะเธอไม่ได้เอ่ยชื่อออกมา..“แหม… ป้านวลรีบเลยนะครับ.. รีบทำคะแนนเหรอ? ไม่มีเกรดไม่มีคะแนนให้หรอกนะครับเพราะยังไงก็ไม่ผ่านการประเมินสำหรับผมตั้งแต่แรก..”เฮ้อ..ปากจัด ปากนี่คมเสียเหลือเกิน… เมื่อก่อนเธอเคยชื่นชอบเขานะ เขาเป็นพี่ชายที่แสนดีคนหนึ่งเลยละ แต่ทำไมนะ กาลเวลาทำไมถึงทำให้คนที่เธอเคยปลาบปลื้มถึงเป็นคนแบบนี้ไปได้.
เขาหวังว่าเด็กคนนั้นจะเข้าใจในสิ่งที่เขาพูด.. แต่ปัญหาที่เขาจะต้องจัดการก็คือ.. พ่อเขา เมื่อสองวันก่อนเขาก็ทะเลาะกับพ่อใหญ่โตเรื่องการแต่งงานนี่แหละ.. พ่อของเขาบอกว่าถ้าเขาไม่แต่งงานกับเด็กคนนั้นพ่อจะถอดเขาออกจากการบริหารงานมหาลัยทันทีแล้วพ่อของเขาจะหาคนอื่นมาดูแลแทนและที่สำคัญพ่อก็จะถอดออกจากการเป็นคณะกรรมการจากเครือธุรกิจต่างๆ ของครอบครัว.. มันได้เหรอวะ เขาเองก็เป็นคนช่วยงานช่วยหาเงินให้ตลอด.. แล้วทำไมพ่อถึงเอาเรื่องนี้มาขู่ด้วย.. แต่ถ้าพ่อต้องการแบบนั้นเขาก็จะยอม.. ในเมื่อพ่ออยากลองดูว่าเขามีความสามารถในการหาเงินและบริหารมากน้อยแค่ไหน.. เขาก็จะทำให้พ่อดูเอง…ตึกตึกตึก…“แม่ง.. ทำไมมันอยากขนาดนี้วะ… ร้อนก็ร้อน.. กูเคยเป็นเจ้าของมหาวิทยาลัยชื่อดังเลยนะเว้ย..” แม่งเอ๊ย.. ที่บ่นๆ เนี่ยไม่ใช่อะไรนะตอนนี้พ่อถอดเขาออกจากการดูแลมหาวิทยาลัยแล้วและพ่อก็มาจัดการดูแลเอง.. ส่วนไอ้ทัตน่ะเหรอ.. มันก็ยังคงทำงานกับพ่อเขาอยู่.. แม่งลอยตัวเลยนะมึงไอ้ทัตคอนโด…เมื่อเขากลับมาถึงถึงคอนโดของเขา เขาก็รีบพาตัวเองไปยังห้องน้ำทันทีร้อนมาก การแว๊นบิ๊กไบค์ไปหางานทำ ถามว่าอายไหม.. ก็นิดหน่อยแต่แล้วยังไงในเมื่อ
สิ่งที่เธอไม่อยากทำและหลีกเลี่ยงมาได้เป็นอาทิตย์สุดท้ายมันก็มาถึง… พ่อของเธอพาเธอมาที่บ้านเพื่อนของท่าน.. บ้านหลังใหญ่ถึงใหญ่มาก พ่อบอกกับเธอว่าจะพาเธอมาหาว่าที่คู่หมั้นของเธอ.. ถามว่าเธอควรจะดีใจไหม.. ถามว่าเธอรู้สึกยินดีไหม? ถ้าเธอตอบออกไปว่าไม่เลยสักอย่าง ไม่ดีใจ ไม่ต้องการแต่งงาน.. พ่อจะฟังเธอรึเปล่า… ก็คงไม่ตึกตึกตึก…“อ้าว.. เข้ามาๆ รอตั้งนาน.. น้องมิ้นท์ใช่ไหมลูก.. ไม่ได้เจอตั้งนานเป็นสาวแล้ว.. สวยนะเนี่ยเรา…”“สวัสดีค่ะคุณลุง..”เธอจำได้ว่าคุณลุงท่านนี้เป็นเพื่อนพ่อ.. เมื่อก่อนตอนเด็กๆ พ่อมักจะหิ้วเธอและพี่มายด์มาที่นี่ด้วยเสมอ.. ทุกครั้งที่มาเธอมักจะเจอพี่ชายที่น่ารักทั้งสามคน พวกพี่ๆ นิสัยดีมากเพียงแค่พวกเธอมาพวกพี่ๆ ก็รีบหาขนมและชวนพวกเธอไปเล่นที่ศาลาริมน้ำทันที.. เธอยอมรับว่าเมื่อก่อนมันสนุกมาก เธอมีความสุขสุดๆ แต่เมื่อพวกเราทุกคนเติบโตขึ้น.. กาลเวลามันก็ทำให้ความสุขที่แท้จริงของพวกเราจางหายไป…“ลุงอะไรกันต่อไปต้องเรียกพ่อนะ.. ต้องหัดเรียกว่าพ่อได้แล้ว…”“ขอบใจนะที่ช่วยพวกเรา…”ตกลง.. สาเหตุที่ทำให้เธอต้องแต่งงานกับลูกชายคุณลุงคืออะไรกันแน่.. จนป่านนี้พ่อของเธอก็ยังไม่บอก
อยู่ๆ วันหนึ่งเธอก็ได้รับสายจากพ่อของเธอ.. พ่อของเธอโทรมาหาเธอและให้เธอกลับเมืองไทย… ตอนแรกเธอก็คิดว่าเธอจะกลับหลังจากที่พ่อโทรมาหาประมาณหนึ่งเดือนเพราะว่าเธอจะได้ทำเรื่องขอลาพักร้อนพอดี.. แต่เมื่อเธอลองฟังสิ่งที่พ่อของเธอพูดต่อมันเลยทำให้เธอต้องซึมขึ้นมาทันที.. สิ่งที่พ่อของเธอพูดมันทำให้เธอต้องทำเรื่องยื่นใบลาออกทันที.. ถึงแม้ว่าหัวหน้าของเธอจะเสียดายในตัวเธอมากแต่เธอก็ไม่สามารถปล่อยผ่านเรื่องที่พ่อของเธอคุยกับเธอในครั้งนี้ได้…สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ…เพียงเท้าของเธอแตะถึงพื้นดินของประเทศไทยมันก็ทำให้น้ำตาของเธอถึงกับซึมทันที.. เธอไม่ได้กลับเมืองไทยเลยตั้งแต่เธอไปอยู่สวิตเซอร์แลนด์ เธอพยายามทำงานเก็บเงินและส่งเงินกลับบ้านให้พ่อของเธอทุกเดือน.. เธออยู่ที่นั่นไม่จำเป็นต้องใช้เงินอะไรมากมาย ดังนั้นเธอจึงมีเงินเก็บและส่งให้พ่อของเธอเสมอ…“มิ้นท์.. มิ้นท์… โอ๊ย.. คิดถึง…”^_^เหมียว.. เพื่อนรักของเธอ.. เธอได้บอกกับเหมียวว่าเธอจะกลับมาอยู่ไทยถาวรถึงแม้ว่าเหมียวจะตกใจแต่เหมียวก็ไม่ได้ถามอะไรมากนัก..“เหมียว..”หมับ…ฟอด ฟอด….“คิดถึงแก.. กลับกันเลยไหม.. จะให้ไปส่งที่บ้านเลยไหม…”“ไม่อ่ะ
เอาจริงๆ เลยนะเขาไม่ค่อยชอบที่จะกลับบ้านสักเท่าไรเขาชอบอยู่ที่คอนโดส่วนตัวของเขามากกว่า… เพราะอะไรน่ะเหรอเพราะที่บ้านมันน่าเบื่อ เบื่อที่จะต้องฟังพ่อบ่น.. พ่อนะบ่นแต่คำเดิมๆ คำว่าอะไรน่ะเหรอ?“ถ้าฉันมีลูกสาวสักคนก็คงจะดี.. ชีวิตฉันคงจะทำอะไรผิดพลาดไปสักอย่างที่มีแต่ลูกชาย.. สร้างแต่ความวุ่นวายและปวดหัว.. ถ้าพวกแกคิดจะมีหลานนะฉันขอหลานสาวเยอะๆ ก็แล้วกัน.. หลานชายไม่ต้องนะหนวกหูน่ารำคาญ.. ไม่อยากจะคิดว่าถ้าเป็นหลานชาย.. เจ้าพวกนั้นจะได้เชื้อพ่อมันมามากขนาดไหน…”ถ้าเขาจะมีลูกนะเขาจะไม่มีลูกสาวเด็ดขาด เขาจะไปทำเด็กหลอดแก้ว เขาจะไปให้โรงพยาบาลช่วยเอาแค่ลูกชายพอ สาเหตุที่ไม่อยากมีลูกสาวเพราะเขาเองก็ไม่ใช่คนดีเขาทำกับผู้หญิงมาเยอะนั่นแหละเขากลัวว่าผลกรรมมันจะไปตกที่ลูกสาวของเขา..ตึกตึกตึก…“คุณไคล์.. คิดถึงจังคุณไคล์ของป้า…”หมับ…“ป้านวล… เป็นยังไงบ้างครับ..”“ไม่ดีค่ะ คุณไคล์ไม่กลับบ้านไม่คิดถึงป้า.. คุณหนูคนอื่นๆ ก็ไม่ค่อยกลับ.. ปล่อยคนแก่ให้รอนานแสนนาน.. ไม่รู้ว่าจะได้เจออีกทีวันไหนหรือคงจะได้เจออีกทีตอนงานศพป้ารึเปล่าก็ไม่รู้..”หึ…ดึงดราม่าซะงั้น..“โอ๋ๆ ก็มาแล้วไงครับแล้วไอ้สองตัวนั