LOGINNew meeting and new relationship. – I
1/4
“พี่วินรู้หรือเปล่าว่าทำไมพ่อถึงให้ณินกลับมาไทย” ฉันถามกับพี่ชายที่มารับฉันที่สนามบิน “แล้วพ่อจะให้ณินอยู่นานแค่ไหนคะ ณินน่ะถูกเสนอให้ร่วมงานกับแบรนด์ที่ฝรั่งเศสแล้วนะ”
“พี่ก็ไม่รู้ ณินรอถามพ่อเองตอนที่พ่อกลับมาดีกว่า” ฉันยู่ปากอย่างเซ็ง ๆ เมื่อพี่ชายไม่บอกข้อมูลอะไรเลย “น้องพี่สวยขึ้นเยอะนะเนี้ย”
“แหม...พึ่งเจอกันเมื่อสี่เดือนก่อนเอง” ฉันพูดใส่พี่ชายเพราะเขาทำเหมือนว่าเราไม่ได้เจอกันนานเป็นชาติ “ว่าแต่พี่ชายณินน่ะ ไม่อยากมีแฟนจริง ๆ เหรอ ณินอยากมีหลานเพิ่มแล้วน๊า”
ฉันพูดอย่างอารมณ์ดีเมื่อคิดว่าวันนี้จะได้เจอหลานชายสุดที่รักอย่างน้องเอิร์ธวัยใกล้สี่ขวบ ถึงเราจะมีพี่น้องกันสามคนแต่คนที่แต่งงานไปแล้วมีเพียงคนเดียวคือพี่พาลิน แล้วเขาก็มีหลานชายที่เป็นแก้วตาดวงใจหนึ่งหน่อให้เรา ฉันคลั่งรักหลานสุด ๆ
“ถ้ามีหลานสาวก็จะดีนะ” ฉันมองพี่ชายทำให้เขาที่ขับรถอยู่หันมาบีบจมูกฉันแรง ๆ
“พี่ไม่อยากมีลูก ขอเป็นคุณลุงของหลาน ๆ อย่างเดียวก็พอแล้ว” เขาตอบอย่างไม่ใส่ใจอะไร พี่ชายอายุจะสามสิบเจ็ดแล้ว เขาไม่ข้องแวะกับผู้หญิงคนไหนเลย แล้วก็ไม่ใช่LGBTQ+ ด้วย ตาลุงนี่ใส่ใจแต่งานทั้งที่รวยมากจนแทบไม่มีที่เก็บเงินแล้ว
“งั้นไม่ต้องแต่งงานก็ได้ ตั้งใจทำงาน อยู่ให้ณินถลุงเงินเล่นตลอดไปนะ” ฉันบอกพี่ชายทำให้เขาหันมาอีกครั้ง “ณินจะเกาะพี่กินตลอดชีวิตเลย”
“แล้วเราน่ะ เมื่อไหร่จะมีแฟนแต่งงานสักที ปู่กับย่าอยากให้เราแต่งงานแล้วนะ” ฉันถอนหายใจพรืดใหญ่เลยคราวนี้
“ไม่แต่งหรอก ณินจะครองโสดตลอดชีพเหมือนพี่” ฉันแกล้งทำเป็นพูดทีเล่นทีจริงแต่ฉันคิดจริงนะ ฉันไม่ต้องการความรักแล้วเพราะความรักจริง ๆ มันไม่มีในโลกหรอกสำหรับฉัน คนอื่นอาจจะชอบการมีความรัก แต่สำหรับฉันแล้วมันไม่ใช่
ฉันเกลียดความรัก เพราะความรักมันจะทำให้ฉันอ่อนแอ ฉันอาจจะตกเป็นรองใครสักคนหากฉันตกหลุมรักเขาหมดหัวใจ
ฉันไม่เคยคิดถึงภาพตัวเองตอนมีความรักมาหลายปีแล้ว ฉันไม่ศรัทธาในมัน เพราะความรักมันก็เหมือนภาพลวงตาที่หลอกล่อเราให้ลงนรก การอยู่คนเดียวและรักตัวเองนั่นแหละคือสวรรค์
เพราะฉันเรียนรู้มาแล้วว่าการรักคนอื่นมากกว่าตัวเองมันอาจจะทำให้เราตายทั้งเป็นได้
“ย่า” ฉันร้องเรียกตอนเดินเข้าบ้านมาแล้วเห็นปู่กับย่านั่งคอยอยู่กับปู่แล้วก็พี่สาวกับพี่เอ็กซ์ พี่เขยของฉัน ที่สำคัญหลานรักของฉันก็อยู่ด้วย
“หมาน้อยของย่า” ฉันสวมกอดเข้าที่เอวของผู้หญิงวัยแปดสิบก่อนจะหอมแก้มทั้งสองข้าง แล้วก็เข้าไปสวมกอดปู่ที่ยิ้มอย่างดีใจ “ย่าคิดถึงจังเลย”
“ณินก็คิดถึงปู่กับย่าค่ะ” เมื่อคลายกอดออกแล้วฉันก็ทักทายพี่สาวกับพี่เขยแล้วกอดพี่สาวด้วยความคิดถึง จนกอดเสร็จฉันก็หันมาเห็นหลาน “มาให้น้าณินกอดซะดี ๆ”
“คิดถึงน้าณินที่สู้ด” หลานชายกอดแล้วก็หอมแก้มฉันด้วย
“น้าณินก็คิดถึงพี่เอิร์ธที่สู้ด” ฉันกอมแก้มหลานกลับคืนข้างละหลาย ๆ ที
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะครับน้องณิน” ฉันยิ้มให้กับคำพูดของพี่เอ็กซ์ และรับรู้ตั้งแต่ขึ้นรถแล้วว่าพ่อยังไม่กลับมาหรอก
ตั้งแต่แม่เสียไปพ่อก็ย้ายออกจากบ้านไปอยู่ที่อื่น ก่อนจะก็ย้ายไปทำธุรกิจที่แคนาดาเป็นหลักตอนฉันได้เจ็ดขวบ ฉันกับพี่ ๆ เลยอยู่ในความดูแลของปู่กับย่า
แล้วพอฉันย้ายไปเรียนต่อที่เมกาฯ ไม่มีคนอยู่บ้านหลังนี้แล้วปู่กับย่าก็ย้ายกลับไปอยู่บ้านเดิมที่บางเสร่จังหวัดชลบุรี นาน ๆ จะกลับเข้ามากรุงเทพนี้ พี่ชายฉันก็อยู่ที่อพาร์ตเมนต์หรูหราของเขาด้วยเหตุผลเรื่องความเป็นส่วนตัวในการทำงาน พี่สาวฉันพอแต่งงานก็ย้ายไปอยู่เรือนหอกับสามี
ย่ากับพี่ ๆ เตรียมของโปรดไว้ให้ฉันมากมาย พวกเรามาที่โต๊ะทานข้าวกัน พูดคุยกันอย่างมีความสุขโดยที่ฉันก็ไม่ได้คิดมากอะไรเกี่ยวกับการที่พ่อเรียกฉันกลับมา
เดาว่าพ่ออาจจะเห็นว่าฉันเรียนนานไปแล้ว คงให้กลับมาทำงานช่วยพี่ ๆ มั้ง เพราะงานที่ไทยพี่พาลินก็ทำคนเดียวเสียส่วนใหญ่ พี่วินก็ดูแลบริษัทของเขาที่ก่อตั้งมาตั้งแต่อายุสิบเก้าปี
ส่วนฉันพอจบปริญญาตรีก็ย้ายไปเรียนต่อโทที่อเมริกาเกือบสองปี แล้วก็ไปต่อโทใบที่สองที่ฝรั่งเศสก่อนจะร่วมงานกับห้องเสื้อชื่อดังที่นั่นในฐานะพนักงานชั่วคราว แล้วก็มีแบรนด์ชุดแต่งงานชื่อดังระดับโลกติดต่อมาว่าอยากจะให้ไปร่วมงานด้วยหลังจากเห็นผลงานของฉัน
ซึ่งถ้าพ่อขอให้ฉันกลับมาช่วยงานฉันอาจจะคุยกับพ่อว่าขอเวลาไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากโอกาสที่ไม่มีใครจะได้รับง่าย ๆ เพราะเอาจริง ๆ พ่อก็ไม่ได้อยากให้ฉันอยู่ใกล้หูใกล้ตาหรอก แล้วพ่อก็คงไม่รู้ด้วยว่าฉันได้รับโอกาสอะไรมา
เขาไม่ได้สนใจฉันขนาดนั้นหรอก
สองสามวันถัดมาฉันอาสามาส่งปู่กับย่าที่บ้านที่บางเสร่เพราะว่าฉันไม่มีอะไรทำ กว่าพ่อจะกลับมาก็อีกหลายวันฉันเลยตั้งใจจะไปนอนค้างที่บ้านปู่กับย่าหนึ่งคืนแล้วก็ค่อยกลับมาที่กรุงเทพ
ตอนขากลับมาฉันเห็นวัด ๆ หนึ่งที่ฉันเคยมาตอนยังเด็กเวลาที่ตามตูดปู่กับย่ากลับมาบ้านที่บางเสร่เป็นครั้งคราว ฉันมองจากถนนขามาก็เห็นว่าวัดสวยขึ้นกว่าเดิมมา เลยตั้งใจว่าขากลับจะแวะ ซึ่งวัดนี้อยู่ช่วงสัตหีบแล้ว และฉันจะต้องมาขึ้นมอเตอร์เวย์เพื่อกลับเข้ากรุงเทพด้วย
วัดนี้ไม่ใช่วัดใหญ่อะไร เมื่อก่อนหลวงน้าของฉันก็เคยอยู่วัดนี้แต่ตอนนี้หลวงน้าท่านย้ายไปอยู่ที่วัดในกรุงเทพเพราะใกล้บ้านตากับยาย ฉันก็เลยค่อนข้างคุ้นเคยกับวัดนี้พอสมควร
ตอนฉันเดินดูวัดไปเรื่อย ๆ อยู่นั้นฉันก็เห็นกับผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังเดินมาจากอีกทาง อายุของเธอน่าจะห้าสิบปลาย ๆ สีหน้าเธอดูไม่ดีเลยจนกระทั่งเธอเดินมาใกล้ฉัน
“หนู...หนูช่วยป้าด้วยลูก” เธอพูดแล้วก็ฟุบตัวลงกับพื้น
“ว้าย คุณป้า” ฉันถลาประคองตัวเธอไว้ทันทำให้เธอไม่ได้ล้มลงฟาดหัวเข้ากับม้านั่งหินอ่อนที่อยู่ด้านข้าง ไม่อย่างนั้นละก็เธอคงได้หัวแตกเลือดอาบแน่
“คุณพิม” ผู้หญิงอีกคนวิ่งมาจากด้านในศาลาในขณะที่ฉันยังประคองคุณป้าคนนี้อยู่ด้วยความตกใจ “คุณพิมคะคุณพิม”
“คุณป้าเขาเป็นลมน่ะค่ะ” ฉันบอกกับผู้หญิงที่วิ่งมาเธอรีบมาช่วยประคองคุณป้าคนนี้ที่กึ่งนั่งทับฉันอยู่ขึ้น แต่ทว่าคุณป้าก็เหมือนจะไม่ได้สติแล้ว
“อาการกำเริบแน่เลย” คุณน้าคนที่มาใหม่พูดอย่างร้อนใจ ก่อนจะเอามือถือกดมาโทรศัพท์ “คุณพิมได้ยินไลไหมคะ คุณพิม”
“ไปโรงพยาบาลไหมคะ” เพราะสีหน้าของคุณป้าที่เป็นลมดูแย่มาก หน้าตาซีดเซียวราวกับไม่มีเลือดไปเลี้ยงทำให้ฉันกังวลด้วย “หนูพาไปได้นะคะ”
ไม่รู้ว่าทำไมถึงอาสาไปแบบนั้นทั้ง ๆ ที่ปกติแล้วฉันไม่ใช่คนชอบยุ่งกับใครยกเว้นครอบครัวและคนสนิท หากแต่ว่าคุณป้าคนเมื่อกี้ขอให้ฉันช่วยก่อนจะเป็นลม ทำให้ฉันอาสาไป
“น้ารบกวนด้วยนะคะหนู ถ้าเรียกรถพยาบาลหรือเรียกคนที่บ้านมาคงช้าไป” ฉันกับคุณน้าช่วยกันประคองกันคนละฝั่งโดยมีคนที่วัดอีกสองสามคนรีบมาช่วย โชคดีมากพอที่ฉันไม่ได้จอดรถไว้ไกลทำให้เราเดินมาถึงรถได้เร็วขึ้น
“ริณ” ตอนที่ฉันดันคุณป้าเข้ามาในรถ คุณป้าก็ลืมตาขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะมองฉัน ดวงตาท่านดูเหม่อลอยนิดหน่อยพลางขยับปากพูด “ดาริณ”
ฉันชะงักตอนที่ท่านพูดเสียงแผ่ว ๆ ด้วยชื่อนั้นก่อนจะจับแก้มฉัน ฉันตกใจมากนะเพราะว่าชื่อที่ท่านพูดออกมาคือชื่อแม่ของฉัน
กรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้ากรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้ากรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้ากรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้าNew meeting and new relationship. – III4/4“ณินรู้ว่าพ่อเกลียดณิน ไม่รักณิน แต่ไม่ต้องแสดงออกให้เห็นมากขนาดนั้นก็ได้ค่ะ” ฉันให้หลังมือปาดน้ำตาออก และฉันก็เจ็บจนชาไปเลยล่ะ “เพราะแค่ที่ผ่านมาพ่อก็แสดงออกมันมากพอแล้ว”“เพราะแกเกิดมาแล้วก็ทำให้ผู้หญิงที่ฉันรักที่สุดในชีวิตต้องจากโลกนี้ไป” ฉันหลับตาลงอย่างข่มกลั้นอารมณ์ “แกไม่เคยทำให้ฉันรู้สึกถึงคุณค่าที่แกเกิดมาเลยสักครั้ง แกเคยไหมที่จะทำให้ฉันรู้สึกมีคุณค่า มีประโยชน์ที่แกเกิดมา มีสักครั้งไหมที่ทำให้ฉันภูมิใจ”น่าแปลกจริงเชียวที่ฉันเจอคำพูดรุนแรงขนาดนี้ใจฉันกลับรู้สึกไม่สะทกสะท้านอะไรขึ้นมาเลยสักนิด ไม่ได้รู้สึกว่าน้ำตาจะไหลออกมาเพิ่มได้อีก มันจุก ตื้อตันในคออย่างบอกไม่ถูกเลย“เกิดมาแกเคยมีอะไรดีไหม ถ้าแกอยากให้ฉันยอมรับแกในฐานะลูก แกก็ควรจะทำตัวให้เป็นประโยชน์โดยการแต่งงานกับเขาซะ”“พ่อไม่เคยภูมิใจ ไม่เคยเห็นคุณค่า ไม่เคยเห็นประโยชน์ในตัวณินเพราะพ่อไม่เคยมองเลยต่างหาก” ฉันจ้องหน้าพ่อและรู้สึกว่านี่ก็เห็นครั้งแ
กรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้ากรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้ากรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้ากรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้าNew meeting and new relationship. – III3/4เพราะฉันไม่เคยสัมผัสคำว่าแม่มาก่อนในชีวิต แล้วฉันก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ฉันจะต้องมารับผิดชอบความรู้สึกของแม่เขา รับผิดชอบคำสัญญาของพ่อแม่เราด้วย“ฉันไม่ได้มีหน้าที่มารับผิดชอบความรู้สึกของพ่อแม่ใคร ฉันบอกแล้วไง” ฉันพูดกับด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นและเรียบเฉย คุณเป็นแฟนที่ดีให้ฉันไม่ได้ แล้วฉันจะไปเชื่อได้ยังไงว่าคุณจะเป็นสามีที่ดีฉันกอดอก จ้องมองเขา และคิดว่าฉันเคยรักผู้ชายคนนี้มากขนาดไหน และตอนนั้นฉันรักเขาลงไปได้ยังไง แต่ตอนนั้นฉันจำได้ว่าฉันรักเตมากแค่ไหน แต่มีคนสอบฉันว่าให้เปลี่ยนความรักที่มีเป็นความโกรธ ถ้าทำได้เราจะเกลียดชังเขามากกว่าที่เคยรักเป็นพันเท่า ๆ“ผมเปลี่ยนไปแล้ว ผมไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้คุณเชื่อดี แต่ขอโอกาสให้ผมได้ทำให้ดูสักครั้งได้ไหม” ฉันไม่เคยเห็นเตพูดด้วยความจริงใจขนาดนี้มาก่อน มันเหมือนตอนที่เตอยากเป็นแฟนกับฉัน และเหมือนตอนที่เขาอยากไปจากฉันด้วย พอคิดถึงความเก่าหนหลังมันก็ทำให้ฉัน...เบ้ปากเส
คำเตือน กรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้าNew meeting and new relationship. – III2/4“คุณเตบอกว่าอยากคุยจริง ๆ นะคะ เค้าบอกจะรออยู่ที่นี่จนกว่าคุณณินจะยอมคุยด้วย” ฉันกรอกตามองบนอย่างเหนื่อยหน่าย เขานี่พูดไม่รู้เรื่องเลยหรือไงนะ“งั้นบอกเขาไปค่ะว่าณินจะนอน ณินตื่นเมื่อไหร่ก็ค่อยคุย” แม่บ้านทำท่าทางเลิ่กลั่กเมื่อฉันบอกแบบนั้น และฉันก็คิดอะไรบางอย่างออก “พี่ตาไปบอกเขานะคะว่าถ้าอยากคุยก็รอณินตื่นก่อน แต่ถ้ารอไม่ไหวก็ไสหัวกลับไป บอกเขาตามนี้เลยนะคะ”“กะ ก็ได้ค่ะคุณณิน” แม่บ้านตอบรับและฉันก็กลับเข้าไปนอนต่อ คือฉันง่วงนอนมาก ๆ แล้วก็ไม่ชอบใจเวลาที่ฉันถูกรบกวนจากการนอน แม่บ้านที่บ้านจะรู้ดีว่าฉันไม่ชอบและจะไม่เคยปลุกฉันหากไม่มีอะไรเร่งด่วน และไม่มีอะไรสำคัญฉันหลับไปนานจนนาฬิกาปลุกดังขึ้น ซึ่งน่าจะถึงเวลาเที่ยงของวันนี้แล้ว แม้ฉันจะนอนดึกแค่ไหนฉันจะไม่ตื่นเกินเที่ยงเลย หลังจากนอนตื่นแล้วฉันก็อาบน้ำอาบท่า แต่งตัวอย่างอารมณ์ดีเพราะคิดว่าเตคงรอไม่ไหวและกลับไปแล้วล่ะมั้งพออาบน้ำแต่งตัวอีกครั้งชั่วโมงเสร็จฉันก็เดินนวยนาดลงมาจากห้องด้วยอารมณ์ดีพลางคิดว่าวันนี้จะมีอะไรกินเป็นมื้อเที่ยง หรือจะสั่งอะไ
คำเตือน กรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้าNew meeting and new relationship. – III1/4“ทำหน้าอย่างกับโลกจะแตกเลยณิน” ระหว่างมื้อค่ำที่ฉันนั่งทานข้าวอยู่กับพี่ชายคนโตของฉัน ซึ่งวันนี้เขานอนที่บ้าน ไม่ได้กลับไปนอนที่อพาร์ทเม้นท์ของเขา ส่วนใหญ่แล้วพี่วินจะอยู่ห้องชุดของโครงการหนึ่งซึ่งห้องนั้นก็ค่อนข้างจะหรูหราอยู่มาก ฉันไปหาพี่ชายบ่อยครั้งนะบอกเลยว่าห้องเขาค่อนข้างที่จะไฮเทคฯ สมกับเป็นผู้นำด้านไอที“พี่วินพูดกับพ่อให้หน่อยได้ไหม ณินไม่อยากแต่งงาน” ฉันเริ่มเปิดประเด็นเพราะวันนี้ฉันกะจะพูดกับพ่อแล้วแต่ว่าพอส่งฉันกับพี่วินลงที่บ้านพ่อก็ไปทำงานต่อทั้งที่วันนี้เป็นวันเสาร์ ชีวิตพ่อมีแต่งาน“พี่ก็เห็นว่าณินก็ชอบคุณอาทั้งสองคนนี่นา” พี่ชายถามมา“ณินชอบคุณอาค่ะ แต่ณินไม่ชอบลูกชายเขา” ฉันบอกไปก่อนจะใช้ซ่อมหมุนเส้นพาสตาอย่างเซ็ง ๆ “ณินพูดจริงนะเรื่องที่บอกว่าไม่อยากแต่งงานแล้วน่ะ”“พี่เข้าใจ” พี่ชายเอื้อมมือมาจับมือฉัน แต่พ่อดูจริงจังมากนะ“พ่อเกรงใจพี่มากนะพี่วิน ถ้าเกิดว่าพี่วินพูดพ่อจะต้องยอมใจอ่อนแน่ ๆ” ฉันร้องขออย่างมีหวัง พี่ชายก็ทำหน้าคิดหนักพอดูเราทุกคนในบ้านรู้ว่าพ่อเป็นคนยังไง เป็นคนคำไ
คำเตือน กรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้าNew meeting and new relationship. – II4/4ฉันได้แต่อดทนและคิดว่าฉันเองจะอดทนเอาไว้แล้วค่อยกลับไปคุยกันพ่อที่บ้านก็ได้ ฉันอยากจะรักษาหน้า รักษาความรู้สึกของคนป่วยอย่างคุณอาไว้ เพราะฉันไม่สามารถที่จะแต่งงานกับเตได้จริง ๆ อันที่จริงก็คงไม่ต้องพูดถึงขั้นแต่งงานหรอก แค่มองหน้ายังไม่อยากจะมองเลยที่ทนกลืนข้าวลงได้ทั้งที่นั่งข้างเขาฉันก็แทบจะใช้พลังทั้งหมดชีวิตที่มีแล้ว“เต พาญาณินไปเดินเล่นหน่อยสิ เดินคุยกันจะได้ทำความรู้จักกันไว้” หลังจากทานผลไม้เป็นของหวานกันไปแล้วพ่อก็เป็นฝ่ายบอกกับเตไปเอาตรง ๆ วันนี้แทบจะไม่ให้ฉันได้มีโอกาสออกบากเรื่องแต่งงานเลยสักครั้งเดียว ฉันจะได้แค่ตอบคำถามที่ผู้ใหญ่ถามหรือพูดเรื่องอื่นเท่านั้น“ได้ครับลุง” เตรับคำราวกับว่ารอโอกาสนี้อยู่แล้ว และถึงแม้ว่าฉันจะไม่อยากใช้เวลาร่วมกับเตมากเกินไปกว่านี้ได้ฉันก็จำใจ เพราะฉันอยากจะบอกเตว่าฉันไม่มีวันนที่จะแต่งงานกับเขาเตพาฉันเดินมาที่สวนหลังบ้านซึ่งเป็นสระน้ำและมีดอกบัวอยู่หลายกอ ลายล้อมไปสวนพืชผักนานาพันธุ์ และสวนดอกไม้ด้วย อีกฝากฝั่งของสระน่าจะเป็นสวนผลไม้ซึ่งมองด้วยสายตาฉันก็เห็
คำเตือน กรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้าNew meeting and new relationship. – II3/4“คือหนู....” ฉันอยากบอกว่าฉันไม่อยากแต่งงาน ถ้าพูดออกไปตอนนี้เลยก็น่าจะดีแต่ว่าในตอนนั้นเองก็มีคนใหม่เดินเข้าประตูมาฉันก็ตกใจมากที่เห็นว่าคนนั้น ๆ คือเต เขายืนอยู่หน้าประตูและฉันเห็นว่าทุกคนหันไปมองเขาคนเดียว เขาเองก็มองมายังฉันด้วยสีหน้าที่แปลกใจแต่ฉันตั้งสติและรู้ตัวได้ว่าฉันไม่อยากจะให้ใครตรงนี้รู้เรื่องอดีตของฉันกับเตจึงได้พยายามส่งสายตาให้เขารู้เป็นนัย ๆ ว่าฉันนั้นไม่อยากให้ใครรู้“มาแล้วเหรอเจ้าเต “คุณอาไตรทักลูกชายที่อยู่ในชุดวอร์มซึ่งน่าจะเป็นของหน่วยงาน “ลุงกับพี่ ๆ เขามารออยู่นานแล้วนะ ทำไมถึงพึ่งมา”“พึ่งจัดการงานเสร็จนะครับ” เขาพูดและรอบมองมายังฉันอยู่อีกหน แต่วันนี้ฉันรู้สึกใจเต้นแรงอีกครั้งเพราะความรู้สึกตื่นตะลึง และเกลียดขี้หน้า “ขอโทษทีที่ให้รอนะครับ”“ไม่เป็นไร มันเป็นเรื่องงาน มา ๆ นั่งก่อน” พ่อฉันพูดแล้วก็บอกให้เขามานั่ง ซึ่งที่ว่างที่เหลือตอนนี้ก็คือโซฟาตัวเดียวกันกับฉัน และที่ว่างคือข้างแม่เขากลายเป็นว่าแม่ของเขาคั่นกลางระหว่างฉันกับเขาอยู่ ฉันควบคุมสีหน้าและอารมณ์เอาไว้แม้ว่าจะ







