วายุ...
ผมยืนจ้องตากับเพียงฟ้าอยู่พักหนึ่งพลางถามตัวเองในใจว่านี่ผมเป็นอะไรไปทำไมถึงต้องอยากรู้ว่าสองคนนี้คุยอะไรกัน หลังจากเพียงฟ้าลงไปรับเพื่อนเธอขึ้นมาผมสังเกตุเห็นไอ้เอิร์ธมันเอาแต่มองเพียงฟ้าอยู่ตลอดเวลามันทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิด
พอเพียงฟ้าเดินเข้าครัวไอ้เอิร์ธก็เดินตามเธอเข้าไป ด้วยความสงสัยผมจึงเดินตามมันไปห่างๆก็เห็นว่าคนสองคนกำลังคุยกันอยู่ และไอ้เอิร์ธก็ดูเหมือนมีความสุขหรือดีใจอะไรสักอย่างส่วนเพียงฟ้าก็ไม่ต่างกันมันยิ่งทำให้ผมหงุดหงิดเข้าไปใหญ่ แต่ที่ทำให้ผมอยากจะเข้าไปกระชากคนสองคนให้ห่างจากกันก็คงจะเป็นเพียงฟ้ายืนให้ไอ้เอิร์ธแตะต้องตัวเธออยู่นั่นแหละ แมร่งเอ้ย!!
" คุณวายุคะ "
คนตรงหน้าเรียกผม
" เธอ - คุย - อะ - ไร - กับ - ไอ้ - เอิร์ธ "
ผมย้ำกับคนตรงหน้าอีกครั้งเมื่อยังไม่ได้คำตอบถึงแม้ว่าจะไม่เข้าใจตัวเองว่าจะอยากรู้เรื่องของคนอื่นไปทำไมก็เหอะ รู้แค่ว่าผมต้องหงุดหงิดมากแน่ๆถ้าไม่รู้
" มะ ไม่ มีค่ะ "
" ฉันเคยบอกเธอแล้วใช่มั้ยว่าอย่าโกหก"
ผมโน้มใบหน้าลงไปกระซิบที่ข้างหูของคนตรวหน้าด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ให้ตายสิตอนนี้ผมกำลังทำบ้าอะไรอยู่วะ
" แล้วทำไมคุณวายุต้องอยากรู้ด้วยคะ "
คนตรงหน้าถามกลับ นั่นน่ะสิทำไมผมต้องอยากรู้ด้วยวะ
พรึ่บ!!
“ ช่างเถอะ ”
ผมบอกพลางผละตัวออกจากเธอก่อนจะเดินออกมาด้วยอารมณ์ไม่ค่อยจะดีนัก
" อะฟ้ากินเยอะๆนะพรุ่งนี้ต้องออกเดินทาง"
ไอ้เอิร์ธที่ตักกับข้าวให้เลขาของผมพูดพลางหันไปตักนั่นนี่ให้เธอจนพูนจาน คนสองคนที่นั่งกินข้าวตรงข้ามกันกำลังคุยกันอย่างสนุกสนานถูกคอส่วนผมก็รู้สึกไม่ค่อยชอบใจนักทั้งๆที่สองคนนั่นไม่ได้ทำอะไรให้ผมเลย นี่อย่าบอกนะว่าผมน่ะ...ไม่หรอกมั้ง!!
" เฮ้ยนี่ยังไงกันวะไอ้เอิร์ธมึงจีบน้องฟ้าหรอ นี่เมื่อคืนกูเมาจนตกข่าวเลยหรอวะเกิดไรขึ้น"
เสียงไอ้เอลฟ์ที่นั่งกินข้าวอยู่ข้างๆผมถามขึ้น นั่นน่ะสิหรือว่าเมื่อคืนผมจะเมาจนตกข่าวไปทำไมสองคนนี้ถึงได้ดูสนิทสนมกันนัก
" เสือกนะมึงไม่รู้สักเรื่องจะตายมั้ย "
ไอ้ราหูที่นั่งข้างเพื่อนเพียงฟ้าแทรกขึ้นก่อนจะก้มหน้าก้มตาทานข้าวต่อ รู้สึกเหมือนไม่ได้ด่าไอ้เอฟล์คนเดียวเลยนะรู้สึกเหมือนผมโดนด่าไปด้วยเพราะผมก็อยากรู้เหมือนกัน
" หรือมึงไม่อยากรู้! "
ไอ้เอลฟ์เถียงไอ้ราหูกลับ ส่วนเพียงฟ้ากับไอ้เอิร์ธก็ได้นั่งไม่พูดไม่จา
" เอางี้วายุในฐานะที่มึงเป็นเจ้านายน้องฟ้ามึงถามน้องดิ๊ว่ายังไง"
ไอ้ราหูหันมาบอกผม
" ไร้สาระขึ้นทุกวันนะพวกมึง อิ่มแล้วก็กลับไปได้แล้วกูจะพักผ่อน"
ผมตัดบท ที่จริงก็อยากรู้อะแหละว่าสองคนนี้มีอะไร แต่ผมก็ไม่กล้าถาม ส่วนคนที่โดนพูดถึงก็ไม่หือไม่อือ ยิ่งทำให้ผมหงุดหงิดเข้าไปใหญ่จนหมดอารมณ์กินข้าวต่อ
หลังจากพวกเพื่อนๆผมกลับไปแล้วผมก็จัดการอาบน้ำอาบท่า กะว่าจะรีบนอนเพราะพรุ่งนี้ต้องรีบเดินทางแต่เช้า แต่แทนที่ผมจะนอนหลับกลับเอาแต่พลิกตัวไปมา คิดถึงเรื่องในครัววันนี้แล้วก็หงุดหงิดไม่หาย แต่จะว่าไปถ้าไอ้เอิร์ธมันจีบเพียงฟ้าจริงๆ แล้วผมจะเดือดร้อนทำไมวะ เอาเป็นว่าเลิกคิดเรื่องนั้นเหอะ คิดได้แบบนั้นผมก็ข่มตาลงแต่ภาพที่ผมยืนกอดเพียงฟ้าเมื่อคืนไหนจะเรื่องที่เราร้องไห้ไปด้วยกันนั้นก็ผุดขึ้นมาในสมองของผม จู่ๆ ก็ใบหน้าร้อนวาบขึ้นมา ไม่รู้ว่าอายหรืออะไร ปกติผมไม่เคยเป็นแบบนั้นมาก่อน ไม่เคยทำตัวอ่อนแอต่อหน้าใครด้วย
ทำไมเวลาที่เรามีปัญหาอะไรสักอย่างที่ไม่สามารถพูดหรือบอกใครได้กลับรู้สึกดีขึ้นเบาขึ้นเพียงแค่ได้กอดใครสักคนกันนะรู้สึกดีขึ้น ทั้งๆที่เราไม่ได้บอกปัญหาของเราให้เขาฟังและรู้สึกว่าความทุกข์ความเจ็บปวดทั้งหลายหายไปเมื่อถูกอีกฝ่ายกอดตอบ และในเวลาอันแสนสั้นนั้นก็ทำให้ผมรู้ว่าความทุกข์ความเจ็บปวดที่ผมเผชิญมาทั้งหมดนั้นได้หายไปแค่เรามีใครสักคนร้องไห้เสียใจกับความทุกข์ของเราเหมือนกับเขาเป็นคนได้รับความทุกข์ความเจ็บปวดนั้นเอง น่าตลกดีนะที่คืนนั้นกลับกลายเป็นผมเองที่กอดเธอเพื่อปลอบใจ
" อยากกอดอีกจัง "
ผมพรึมพรำกับตัวเองเบาๆพลางยิ้มไปด้วย ทำไมผมคิดถึงเธอจังวะ...
วายุ...ผมยืนจ้องตากับเพียงฟ้าอยู่พักหนึ่งพลางถามตัวเองในใจว่านี่ผมเป็นอะไรไปทำไมถึงต้องอยากรู้ว่าสองคนนี้คุยอะไรกัน หลังจากเพียงฟ้าลงไปรับเพื่อนเธอขึ้นมาผมสังเกตุเห็นไอ้เอิร์ธมันเอาแต่มองเพียงฟ้าอยู่ตลอดเวลามันทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดพอเพียงฟ้าเดินเข้าครัวไอ้เอิร์ธก็เดินตามเธอเข้าไป ด้วยความสงสัยผมจึงเดินตามมันไปห่างๆก็เห็นว่าคนสองคนกำลังคุยกันอยู่ และไอ้เอิร์ธก็ดูเหมือนมีความสุขหรือดีใจอะไรสักอย่างส่วนเพียงฟ้าก็ไม่ต่างกันมันยิ่งทำให้ผมหงุดหงิดเข้าไปใหญ่ แต่ที่ทำให้ผมอยากจะเข้าไปกระชากคนสองคนให้ห่างจากกันก็คงจะเป็นเพียงฟ้ายืนให้ไอ้เอิร์ธแตะต้องตัวเธออยู่นั่นแหละ แมร่งเอ้ย!!" คุณวายุคะ "คนตรงหน้าเรียกผม" เธอ - คุย - อะ - ไร - กับ - ไอ้ - เอิร์ธ "ผมย้ำกับคนตรงหน้าอีกครั้งเมื่อยังไม่ได้คำตอบถึงแม้ว่าจะไม่เข้าใจตัวเองว่าจะอยากรู้เรื่องของคนอื่นไปทำไมก็เหอะ รู้แค่ว่าผมต้องหงุดหงิดมากแน่ๆถ้าไม่รู้" มะ ไม่ มีค่ะ "" ฉันเคยบอกเธอแล้วใช่มั้ยว่าอย่าโกหก"ผมโน้มใบหน้าลงไปกระซิบที่ข้างหูของคนตรวหน้าด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ให้ตายสิตอนนี้ผมกำลังทำบ้าอะไรอยู่วะ" แล้วทำไมคุณวายุต้องอยากรู้ด้วยคะ "ค
เพียงฟ้า...วันนี้คุณวายุให้คนมาทำอาหารที่คอนโดเพราะเขาชวนเพื่อนๆมากินมื้อเช้าด้วย เห็นบอกว่าเลี้ยงส่งที่เราสองคนจะไปดูงานที่อาหรับ วันนี้คุณวายุอนุญาตให้ฉันพาเพื่อนหรือคนสำคัญมาได้ด้วยนะฉันเลยก็ถือโอกาสชวนเพื่อนๆฉันมาด้วยแต่ไม่มีใครว่างสักคนจะมีก็แต่จันทราเพื่อนสนิทของฉันเองที่ว่างส่วนยัยฝาแผดอบเชยกับขึ้นช่ายก็มาไม่ได้เพราะไปดูคอนเสิร์ตที่เกาหลีพวกนางเป็นติ่งเกาหลีน่ะหลังจากเกิดเรื่องเมื่อคืนฉันกับคุณวายุก็ไม่ได้คุยกันอีกกระทั่งตอนนี้ก็ด้วย ตอนเช้าฉํนตื่นขึ้นมาก็ไม่เจอคุณวายุที่ห้องแล้วสงสัยตื่นก่อนฉันแล้วรีบกลับห้องไป จะว่าไปแล้วตอนนี้คุณวายุก็ไม่มองหน้าฉันเลยนะเอาแต่ทำหน้านิ่งไม่พูดไม่จาจนฉันรู้สึกอึดอัดไปหมดหรือเขาจะกลัวว่าฉันจะพูดเรื่องเมื่อคืนกันนะ จะบ้าหรอใครจะไปพูดกันล่ะฉันก็อายเหมือนกันนะ" ฟ้าขอตัวแป๊บนะคะพอดีน้ำดื่มจะหมดแล้วเดี๋ยวไปเอาน้ำมาเติมให้"ฉันบอกกับพวกพี่ๆที่กำลังทานอาหารและพูดคุยกันอย่างสนุสนานเมื่อเห็นว่าน้ำดื่มบนโต๊ะจะหมดแล้ว อีกอย่างฉันก็ไม่ค่อยอยากจะนั่งตรงนี้เท่าไหร่มันอึดอัดน่ะ" เดี๋ยวผมไปเองครับมิส "เสียงคุณอาตันคนสนิทอีกคนของคุณวายุบอกฉันพลางทำท่าจะลุกข
วายุ...คุณเคยเป็นเหมือนผมมั้ยอยู่ดีๆก็อยากจะร้องไห้กับใครสักคนตอนนี้ผมสับสนไปหมดไม่รู้จะทำยังไง ผมเคยคิดว่าตัวเองผ่านช่วงเวลาเจ็บปวดนั้นมาแล้วผมคิดว่าผมลืมเธอไปแล้วคิดว่าตัวเองทำใจได้แล้ว แต่ไม่รู้สิพอเจอเธออีกครั้งเหมือนจุกอย่างบอกไม่ถูกผมพูดออกมาไม่ได้ไม่รู้จะอธิบายยังไงและตอนนี้ผมรู้แค่ว่าอยากกอดใครสักคนอยากร้องไห้กับใครสักคน...เพียงฟ้า...ก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงประตูห้องฉันดังขึ้นรัวๆไม่หยุดหย่อนในขณะที่ฉันรีบคว้าผ้าเช็ดตัวผืนนึงมาห่อตัวไว้ ทันทีที่ฉันเปิดประตูออกไปใครบางคนที่ยืนอยู่หน้าห้องก็ทำให้ฉันแปลกใจ ใบหน้านิ่งเฉยสายตาว่างเปล่าของคนตรงหน้าทำให้ฉันไม่รู้ว่าตอนนี้เขากำลังคิดอะไรอยู่"..." ไม่มีประโยคหรือคำพูดใดจากคนตรงหน้านอกจากเสียงลมหายใจแผ่วเบาคนตรงหน้าที่ยังคงยืนมองหน้าฉันอยู่อย่างนั้น เป็นอะไรของเขานะ..." คุณวายุคะ "“ ... ”" ตอนนี้คุณอยู่กับเลขาคุณแล้วนะคะ เลขาที่คุณให้ทำตัวเป็นอากาศที่ไม่มีสถานะ ไม่มีตัวตน "อึก!!ฉันมองหน้าคนตรงหน้าพร้อมกับกลืนน้ำลายก่อนจะพูดต่อเพราะเขาไม่มีปฎิกิริยาตอบรับอะไรเลย" คุณอยากพูดอะไรมั้ยคะถ้าไม่อย่างนั้นเอ่อ... คุณอ่อนแอบ้างก็ได้นะคะฉ
เพียงฟ้า..." ถึงสักที " เสียงคนตัวใหญ่ที่ทิ้งตัวลงบนโซฟาเอ่ยขึ้นพลางถอนหายใจไปด้วย ตอนนี้คุณวายุเริ่มรู้สึกตัวแล้วล่ะตอนแรกฉันคิดว่าเขาเมาจนไม่น่าจะตื่นขึ้นมาในคืนนี้ได้ซะอีก" งั้นฉันขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะดึกมากแล้ว " ฉันหันไปบอกคนตัวใหญ่ที่ยังนั่งคอตกบนโซฟาก่อนจะเดินเข้าห้องตัวเองไป เขาเป็นอะไรของเขากันนะฉันไม่ชินกับคุณวายุเวอร์ชั่นนี่เลยอะรู้สึกไม่โอเคเลยก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูห้องนอนฉันดังขึ้นเมื่อมีใครบางคนเคาะจากด้านนอก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครว่าแต่คุณวายุมีอะไรนะดึกๆแบบนี้หรือว่าจะหิว คิดได้แบบนั้นฉันก็พันผ้าเช็ดตัวรอบๆตัวให้แน่นขึ้นก่อนจะรีบคว้าผ้าอีกผืนมาคลุมไหล่เอาไว้ก่อนจะรีบเปิดประตูให้คนข้างนอก...วายุ...หลังจากที่เลขาของผมเธอบอกผมว่าจะไปอาบน้ำผมก็นั่งตั้งสติอยู่ในห้องนั่งเล่นสักพักก่อนจะไปอาบน้ำบ้าง พอสติผมเริ่มกลับมาก็คิดได้ว่าพรุ่งนี้ต้องไปจัดการเรื่องเอกสารการเดินทางให้ยัยนั่นด้วยเพราะเธอต้องไปอยู่ที่อาหรับกับผมเป็นเดือนเลย วันนี้ว่าจะกลับมาคุยเรื่องนี้หลังจากประชุมเสร็จผมก็ลืมไปซะสนิทเลย" คุณวายุมีอะไรหรือเปล่าคะ " คนที่เปิดประตูเอ่ยถามผม หอมจังวะ!!ว่าแต่แต
วายุ..." แรงอีกๆค่ะ แฮ่กๆ เร็วๆ อ๊าา ไม่ไหวแล้ว เสียวๆ อ๊ายย...."" ฟิตมากเลยนีน่าอีกรอบดีมั้ย "" ทั้งคืนยังได้เลยค่ะให้นีน่าอยู่ข้างบนนะคะอาริค... "" อื้มมม อ๊าา ลึกจังเสียวจังเลยค่ะ อาริค "พั่บ พั่บ พั่บ" ขย่มเก่งแบบนี้มิน่าล่ะไอ้วายุมันถึงได้รักได้หลงคุณ"" รัก หลง อย่างเดียวไม่พอหรอกค่ะอาริค วันๆวายุทำแต่งานส่วนสิ่งที่นีน่าต้องการวายุก็ไม่ค่อยสนใจ สำหรับนีน่าน่ะต้องแบบนี้ต่างหาก อ๊าๆ " คนสองคนพูดคุยกันทั้งๆที่ฝ่ายหญิงยังขยับตัวออกแรงกระแทกบนตัวฝ่ายชายอย่างสนุกสนาน" อีกเดี๋ยวคุณสองคนก็จะแต่งงานกันแล้วนะนีน่า แล้วแบบนี้... "" จุ๊ๆ อย่าพูดแบบนั้นสิคะ " หญิงสาวหยุดขย่มพลางก้มลงมากระซิบที่ข้างหูพ่อหนุ่มหน้าคมก่อนจะส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ไปให้" เราก็สนุกกันได้เรื่อยๆนี่คะถ้านีน่าต้องการหรือว่าอาริคไม่ต้องการนีน่าแล้ว" หญิงสาวพูดต่อ พูดจบหล่อนก็ร่อนสะโพกขยับไปมามือสองข้างของพ่อหนุ่มหน้าคมยกขึ้นมาขย้ำอกอวบขาวของสาวเซ็กซี่ที่ร่อนสะโพกไปมาบนเรือนร่างอย่างเมามัน" ผมอยากลองท่าอื่นบ้างนีน่า " สิ้นเสียงพูดของพ่อหนุ่มหน้าคมที่นอนแผ่อยู่ใต้ร่าง ร่างเปลือยเปล่าของแม่สาวเลือดร้อนก็ถูกย้ายมาที่หน้
วายุ...ผมนอนมองยัยเลขาตัวเล็กถอดเสื้อผ้าออกทีละชิ้นทีละชิ้นขณะที่ตัวเองนอนอยู่ใต้ผ้าห่ม ใครจะคิดว่าเธอเข้ามาเวลานี้ล่ะครับไอ้เราก็คิดว่าป่วยน่าจะตื่นสายส่วนผมก็นอนเพลินจนลืมไปเลยว่านี่ไม่ใช่ห้องของตัวเอง ให้ตายสินี่ผมไม่ได้ตั้งใจจะแอบดูเธอนะเธอเข้ามาถอดเสื้อผ้าในนี้เองผมกลัวเธอตกใจและไม่รู้ว่าจะแก้ตัวว่าอะไรดีเลยเอาผ้าห่มมาคลุมตัวไว้ก่อนจะโผล่หน้าออกมานิดหนึ่งเพื่อสูดอากาศหายใจก็เท่านั้น... ตอนนี้ใบหน้าของผมมีเหงื่อเปียกชุ่มไปหมดแถมยังรู้สึกร้อนรุ่มไปทั่วทั้งตัวและวายุน้อยของผมก็กำลังชูชันเหมือนจะประกาศว่าพร้อมที่จะออกรบแล้ว ผิวขาวนวลเนียนไร้ที่ติอกอวบอูมเอวคอดๆสะโพกที่ผายกลมนั่นซ่อนรูปจริงๆ ไม่ได้ๆผมจะไม่พลาดอีก!!" เฮ้ออ!! ไปซักทียัยบ้าเอ้ยย!! " ผมพูดกับตัวเองอย่างอารมณ์เสียเมื่อใครบางคนที่ยืนแก้ผ้าอยู่ตรงหน้าเดินเข้าห้องน้ำไปแล้ว ก่อนจะจัดที่นอนให้อยู่ที่เดิมแล้วรีบเดินออกจากห้องนั้น ขืนอยู่ต่อมีหวังอกแตกตายแน่ๆ" วันนี้คุณวายุมีประชุมช่วงบ่ายนะคะส่วนช่วงเช้ามีเอกสารด่วนให้เซ็นต์ค่ะ " ยัยเลขารายงานตารางงานของผมหลังจากที่เราทานอาหารเช้าเสร็จแล้วก่อนจะเริ่มเก็บโต๊ะอาหารไปด้วย“ อืม