My Husband (อุ๊ปส์) เจ้าบ่าวของฉันเป็นประธานบริษัท

My Husband (อุ๊ปส์) เจ้าบ่าวของฉันเป็นประธานบริษัท

last updateLast Updated : 2025-04-25
By:  SiestaUpdated just now
Language: Thai
goodnovel18goodnovel
Not enough ratings
62Chapters
32views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

ใครจะไปคิดล่ะว่าเจ้าบ่าวที่เพิ่งจะแต่งงานด้วยจะกลายเป็นประธานบริษัท แถมยังเอาแต่ใจมากเสียด้วย

View More

Chapter 1

My Husband - 1 การนัดบอดที่ไม่ได้เต็มใจ

ร้านเสริมสวยริมถนนย่านกลางเมืองที่เต็มไปด้วยรถสัญจรไปมา อาจจะเพราะย่านนี้เป็นย่านที่มีร้านอาหารและร้านชื่อดังติดกันอยู่หลายร้านทำให้รถค่อนข้างจะหนาแน่นเป็นพิเศษ ฉันได้แต่ถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า พลางทอดสายตามองออกไปนอกกระจก ด้วยความรู้สึกเหนื่อยหน่ายต่อสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในเย็นนี้

ใช่...เย็นนี้แล้วสินะ ที่ฉันจะได้พบกับชายคนหนึ่งที่ทางบ้านจัดหามาให้เป็นคู่นัดบอด

ในขณะที่ใกล้จะถึงเวลานัดหมายแต่ฉันกลับไม่ได้รู้สึกรีบร้อนอะไรเลย ได้แต่ปล่อยเวลาให้ช่างทำเล็บทำผมอะไรกับของฉันได้เต็มที่อาจจะเพราะส่วนหนึ่งฉันไม่ได้คาดหวังให้ผู้ชายคนนั้นประทับใจในการนัดบอดครั้งนี้เลยด้วยซ้ำ

ฉันคิดไปไกลถึงกับว่า หากเย็นนี้ได้เจอเขาแล้ว เราอาจจะไม่ประทับใจกันและกัน จนบางทีเขาก็อาจจะเป็นฝ่ายที่ปฏิเสธฉันแทนก็ได้มั้ง แต่ก็นั่นละต่อให้ฉันไม่ตกลงใจกับผู้ชายที่จะมานัดบอดในวันนี้ สุดท้ายแล้วฉันก็ต้องถูกทางบ้านจับให้ไปดูตัวกับคนอื่นอยู่ดี ซึ่งฉันเองก็ ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมผู้ใหญ่ถึงอยากจะให้ฉันแต่งงานไวนัก ทั้งที่ฉันเพิ่งจะเรียบจบมาไม่นานนี่เอง

เฮ้อ...ชีวิตลูกผู้หญิงมีแค่นี้เองเหรอ

ฉันถอนหายใจออกมาอย่างเซ็ง ๆ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน

-------

“อะไรนะคะ คุณพ่อจะให้เฟิร์นดูตัว”

ฉันอดไม่ได้ที่จะโวยวายเสียงดัง ในขณะที่คุณพ่อแทบจะคล้ายขอร้องให้ฉันรับนัดการดูตัวครั้งนี้

“ไม่เอาค่ะ เฟิร์นเพิ่งจะเรียนจบ ขอเฟิร์นทำงานก่อนไม่ได้หรือคะ นะคะคุณแม่ช่วยคุยกับคุณพ่อให้เฟิร์นหน่อยได้ไหมคะ”

ฉันรีบถลาเข้าไปโอบกอดคุณแม่ที่เอว และคาดหวังเล็ก ๆ ว่าคุณแม่อาจจะเป็นคนเดียวที่ช่วยฉันได้ในเรื่องนี้

“โธ่ใบเฟิร์นลูกแม่ คือคุณพ่อเขาสัญญากับเพื่อนเขาตั้งนานแล้ว ว่าถ้าหนูเรียนจบเมื่อไหร่จะให้ลูกชายเขากับหนูแต่งงานกันทันที”

“แต่...แต่งงานกันทั้งที่ไม่ได้รักเนี่ยนะคะ มันจะรักกันได้ยังไงคะ เฟิร์นไม่อยากแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก ไม่เอาค่ะ เฟิร์นไม่ยอม เฟิร์นยังอยากอยู่กับคุณพ่อคุณแม่เหมือนเดิมนี่คะ นะคะคุณแม่ นะคะคุณพ่อ” ฉันอ้อนสุดฤทธิ์เพราะคาดหวังที่จะโน้มน้าวใจท่านทั้งสองให้สำเร็จ

แต่...ก็นั่นแหละ สุดท้ายฉันที่เป็นลูกสาวคนเดี๋ยวจะขัดคุณพ่อคุณแม่ที่รักได้อย่างไร เมื่อท่านทั้งสองยืนกรานว่าไม่สามารถผิดคำพูดกับเพื่อนของท่านได้ และอย่างไรเสียเย็นพรุ่งนี้ฉันก็ต้องไปพบกับผู้ชายคนนั้น

“ถ้าเฟิร์นเจอเขาแล้วเฟิร์นไม่ถูกชะตา เฟิร์นปฏิเสธเขาก็ได้ใช่ไหมคะ”

ถึงกระนั้นฉันก็ยังยื่นข้อเสนอที่ฟังดูดื้อ ๆ ต่อท่านทั้งสองอยู่ดี

“พ่อไม่อยากให้เราปฏิเสธเขา”

ดูคุณพ่อพูดเขาสิ ฉันทำหน้างอเล็กน้อยก่อนหันไปทำสายตาวิงวอนอ้อนคุณแม่ต่อ

“คุณแม่ขา...”

“แม่ก็ไม่อยากให้ใบเฟิร์นปฏิเสธเขาเหมือนกันลูกเห็นใจพ่อเขาเถอะ พ่อเกรงใจเพื่อนคนนี้มากแล้วสัญญานี้ก็คุยกันมาตั้งแต่ก่อนหนูเกิดอีก”

ฉันรู้สึกจุกจนพูดไม่ออก เพราะคุณพ่อกับคุณแม่พูดเหมือนกับว่า...เลือกที่จะแคร์ความรู้สึกของเพื่อนเขามากกว่าลูกสาวคนเดียวอย่างฉัน

งื้อ....แล้วฉันเลือกอะไรได้บ้างเนี่ย ความรู้สึกเหมือนตัวเองจะร้องไห้ออกมาให้ได้ ก็นะ...คิดแล้วก็น่าน้อยใจชะมัดที่ฉันไม่สามารถทำอะไรได้เลย

เดิมที่ครอบครัวของเราอยู่ที่เชียงใหม่ แต่อยู่ ๆ คุณพ่อก็บอกฉันกับคุณแม่ว่า พวกเราต้องย้ายมาทำธุรกิจที่กรุงเทพกะทันหัน ด้วยเหตุนี้เลยทำให้ทันทีที่ฉันเรียบจบครอบครัวของเราจึงย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่กัน และแค่เพียงไม่ถึงสามเดือนท่านก็มาบอกจะให้ฉันดูตัวทั้ง ๆ ที่ฉันเพิ่งไปสมัครงานมาไม่นานนี้เองไม่ถึงสัปดาห์

“ค่ะ หนูคงทำอะไรไม่ได้งั้นก็ตามใจคุณพ่อคุณแม่เห็นสมควรแล้วกันค่ะ” ฉันทำได้เพียงแค่นี้ เพียงแค่นี้จริง ๆ ฉันเห็นทั้งสองมองหน้ากันอย่างโล่งอกปนดีใจ แต่ฉันสิกลับรู้สึกเหมือนตอนนี้ก้อนหินทั้งภูเขากำลังทับอยู่ในอก

“พี่เขาชื่อคุณภีมม์ อายุยี่สิบเจ็ดเป็น....” พ่อพยายามจะบอกประวัติของเขานี้อย่างคร่าว ๆ ให้กับฉันตอนที่ฉันยอมรับปากแบบไม่เต็มใจแต่ก็ยอมทำตามที่คุณพ่อคุณแม่ขอร้อง

“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวหนูค่อยทำความรู้จักเขาเอง”

ฉันยอมรับว่าเสียมารยาทมากที่พูดแทรกท่านขึ้นมา แต่ก็นะ...ก็คนไม่ได้อยากไปนัดบงนัดบอดอะไรนั่นเลยสักนิด นี่มันพ.ศ.ไหนแล้วเหอะ ฉันเองยังแทบไม่อยากจะเชื่อว่าจะถูกคลุมถุงชนในตอนอายุยี่สิบพอดิบพอดีแถมเพิ่งจะเรียนจบ นี่พวกท่านทั้งสองกะจะไม่ให้ฉันมีชีวิตอิสระกันเลยใช่ไหมเนี่ย

ฉันกลับมาที่ห้องนอนของตัวเองอย่างเซ็ง ๆ ก่อนทิ้งตัวลงบนที่นอนแล้วถอนหายใจออกมาเพื่อระบายอารมณ์ วันพรุ่งนี้แล้วสินะที่ฉันต้องเตรียมตัวไปนัดดูตัวกับเขาในตอนอาหารมื้อเย็น และถึงแม้ต่อให้ฉันอยากปฏิเสธแทบขาดใจแน่นอนว่าก็คงทำไม่ได้อยู่ดี

ฉันเชื่อว่า เขาคนนั้นก็คงรู้สึกไม่ต่างกัน พอเขารู้ว่าจะโดนบังคับให้ดูตัวเพื่อแต่งงานกับฉัน เขาเองก็คงไม่ยอมและคงจะโวยวายเหมือนอย่างที่ฉันเป็นในตอนนี้

ประวัติส่วนตัวของเขาถูกส่งมาทางอีเมล์ แต่เชื่อไหมว่าฉันไม่แม้แต่คิดจะเปิดเข้าไปอ่าน เพราะถึงต่อให้อ่านแล้วไม่ประทับใจในโปรไฟล์ของเขา แล้วฉันเลือกอะไรได้ไหมล่ะ ก็คงไม่ได้

ทันทีเมื่อเห็นมีเมล์เด้งเข้ามา ความนอยด์ทำให้ฉันกดลบอีเมล์ประวัติของเขาลงไฟล์ถังขยะในทันที

My Husband 1

การนัดบอดที่ไม่ได้เต็มใจ

ร้านเสริมสวยริมถนนย่านกลางเมืองที่เต็มไปด้วยรถสัญจรไปมา อาจจะเพราะย่านนี้เป็นย่านที่มีร้านอาหารและร้านชื่อดังติดกันอยู่หลายร้านทำให้รถค่อนข้างจะหนาแน่นเป็นพิเศษ ฉันได้แต่ถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า พลางทอดสายตามองออกไปนอกกระจก ด้วยความรู้สึกเหนื่อยหน่ายต่อสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในเย็นนี้

ใช่...เย็นนี้แล้วสินะ ที่ฉันจะได้พบกับชายคนหนึ่งที่ทางบ้านจัดหามาให้เป็นคู่นัดบอด

ในขณะที่ใกล้จะถึงเวลานัดหมายแต่ฉันกลับไม่ได้รู้สึกรีบร้อนอะไรเลย ได้แต่ปล่อยเวลาให้ช่างทำเล็บทำผมอะไรกับของฉันได้เต็มที่อาจจะเพราะส่วนหนึ่งฉันไม่ได้คาดหวังให้ผู้ชายคนนั้นประทับใจในการนัดบอดครั้งนี้เลยด้วยซ้ำ

ฉันคิดไปไกลถึงกับว่า หากเย็นนี้ได้เจอเขาแล้ว เราอาจจะไม่ประทับใจกันและกัน จนบางทีเขาก็อาจจะเป็นฝ่ายที่ปฏิเสธฉันแทนก็ได้มั้ง แต่ก็นั่นละต่อให้ฉันไม่ตกลงใจกับผู้ชายที่จะมานัดบอดในวันนี้ สุดท้ายแล้วฉันก็ต้องถูกทางบ้านจับให้ไปดูตัวกับคนอื่นอยู่ดี ซึ่งฉันเองก็ ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมผู้ใหญ่ถึงอยากจะให้ฉันแต่งงานไวนัก ทั้งที่ฉันเพิ่งจะเรียบจบมาไม่นานนี่เอง

เฮ้อ...ชีวิตลูกผู้หญิงมีแค่นี้เองเหรอ

ฉันถอนหายใจออกมาอย่างเซ็ง ๆ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน

-------

“อะไรนะคะ คุณพ่อจะให้เฟิร์นดูตัว”

ฉันอดไม่ได้ที่จะโวยวายเสียงดัง ในขณะที่คุณพ่อแทบจะคล้ายขอร้องให้ฉันรับนัดการดูตัวครั้งนี้

“ไม่เอาค่ะ เฟิร์นเพิ่งจะเรียนจบ ขอเฟิร์นทำงานก่อนไม่ได้หรือคะ นะคะคุณแม่ช่วยคุยกับคุณพ่อให้เฟิร์นหน่อยได้ไหมคะ”

ฉันรีบถลาเข้าไปโอบกอดคุณแม่ที่เอว และคาดหวังเล็ก ๆ ว่าคุณแม่อาจจะเป็นคนเดียวที่ช่วยฉันได้ในเรื่องนี้

“โธ่ใบเฟิร์นลูกแม่ คือคุณพ่อเขาสัญญากับเพื่อนเขาตั้งนานแล้ว ว่าถ้าหนูเรียนจบเมื่อไหร่จะให้ลูกชายเขากับหนูแต่งงานกันทันที”

“แต่...แต่งงานกันทั้งที่ไม่ได้รักเนี่ยนะคะ มันจะรักกันได้ยังไงคะ เฟิร์นไม่อยากแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก ไม่เอาค่ะ เฟิร์นไม่ยอม เฟิร์นยังอยากอยู่กับคุณพ่อคุณแม่เหมือนเดิมนี่คะ นะคะคุณแม่ นะคะคุณพ่อ” ฉันอ้อนสุดฤทธิ์เพราะคาดหวังที่จะโน้มน้าวใจท่านทั้งสองให้สำเร็จ

แต่...ก็นั่นแหละ สุดท้ายฉันที่เป็นลูกสาวคนเดี๋ยวจะขัดคุณพ่อคุณแม่ที่รักได้อย่างไร เมื่อท่านทั้งสองยืนกรานว่าไม่สามารถผิดคำพูดกับเพื่อนของท่านได้ และอย่างไรเสียเย็นพรุ่งนี้ฉันก็ต้องไปพบกับผู้ชายคนนั้น

“ถ้าเฟิร์นเจอเขาแล้วเฟิร์นไม่ถูกชะตา เฟิร์นปฏิเสธเขาก็ได้ใช่ไหมคะ”

ถึงกระนั้นฉันก็ยังยื่นข้อเสนอที่ฟังดูดื้อ ๆ ต่อท่านทั้งสองอยู่ดี

“พ่อไม่อยากให้เราปฏิเสธเขา”

ดูคุณพ่อพูดเขาสิ ฉันทำหน้างอเล็กน้อยก่อนหันไปทำสายตาวิงวอนอ้อนคุณแม่ต่อ

“คุณแม่ขา...”

“แม่ก็ไม่อยากให้ใบเฟิร์นปฏิเสธเขาเหมือนกันลูกเห็นใจพ่อเขาเถอะ พ่อเกรงใจเพื่อนคนนี้มากแล้วสัญญานี้ก็คุยกันมาตั้งแต่ก่อนหนูเกิดอีก”

ฉันรู้สึกจุกจนพูดไม่ออก เพราะคุณพ่อกับคุณแม่พูดเหมือนกับว่า...เลือกที่จะแคร์ความรู้สึกของเพื่อนเขามากกว่าลูกสาวคนเดียวอย่างฉัน

งื้อ....แล้วฉันเลือกอะไรได้บ้างเนี่ย ความรู้สึกเหมือนตัวเองจะร้องไห้ออกมาให้ได้ ก็นะ...คิดแล้วก็น่าน้อยใจชะมัดที่ฉันไม่สามารถทำอะไรได้เลย

เดิมที่ครอบครัวของเราอยู่ที่เชียงใหม่ แต่อยู่ ๆ คุณพ่อก็บอกฉันกับคุณแม่ว่า พวกเราต้องย้ายมาทำธุรกิจที่กรุงเทพกะทันหัน ด้วยเหตุนี้เลยทำให้ทันทีที่ฉันเรียบจบครอบครัวของเราจึงย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่กัน และแค่เพียงไม่ถึงสามเดือนท่านก็มาบอกจะให้ฉันดูตัวทั้ง ๆ ที่ฉันเพิ่งไปสมัครงานมาไม่นานนี้เองไม่ถึงสัปดาห์

“ค่ะ หนูคงทำอะไรไม่ได้งั้นก็ตามใจคุณพ่อคุณแม่เห็นสมควรแล้วกันค่ะ” ฉันทำได้เพียงแค่นี้ เพียงแค่นี้จริง ๆ ฉันเห็นทั้งสองมองหน้ากันอย่างโล่งอกปนดีใจ แต่ฉันสิกลับรู้สึกเหมือนตอนนี้ก้อนหินทั้งภูเขากำลังทับอยู่ในอก

“พี่เขาชื่อคุณภีมม์ อายุยี่สิบเจ็ดเป็น....” พ่อพยายามจะบอกประวัติของเขานี้อย่างคร่าว ๆ ให้กับฉันตอนที่ฉันยอมรับปากแบบไม่เต็มใจแต่ก็ยอมทำตามที่คุณพ่อคุณแม่ขอร้อง

“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวหนูค่อยทำความรู้จักเขาเอง”

ฉันยอมรับว่าเสียมารยาทมากที่พูดแทรกท่านขึ้นมา แต่ก็นะ...ก็คนไม่ได้อยากไปนัดบงนัดบอดอะไรนั่นเลยสักนิด นี่มันพ.ศ.ไหนแล้วเหอะ ฉันเองยังแทบไม่อยากจะเชื่อว่าจะถูกคลุมถุงชนในตอนอายุยี่สิบพอดิบพอดีแถมเพิ่งจะเรียนจบ นี่พวกท่านทั้งสองกะจะไม่ให้ฉันมีชีวิตอิสระกันเลยใช่ไหมเนี่ย

ฉันกลับมาที่ห้องนอนของตัวเองอย่างเซ็ง ๆ ก่อนทิ้งตัวลงบนที่นอนแล้วถอนหายใจออกมาเพื่อระบายอารมณ์ วันพรุ่งนี้แล้วสินะที่ฉันต้องเตรียมตัวไปนัดดูตัวกับเขาในตอนอาหารมื้อเย็น และถึงแม้ต่อให้ฉันอยากปฏิเสธแทบขาดใจแน่นอนว่าก็คงทำไม่ได้อยู่ดี

ฉันเชื่อว่า เขาคนนั้นก็คงรู้สึกไม่ต่างกัน พอเขารู้ว่าจะโดนบังคับให้ดูตัวเพื่อแต่งงานกับฉัน เขาเองก็คงไม่ยอมและคงจะโวยวายเหมือนอย่างที่ฉันเป็นในตอนนี้

ประวัติส่วนตัวของเขาถูกส่งมาทางอีเมล์ แต่เชื่อไหมว่าฉันไม่แม้แต่คิดจะเปิดเข้าไปอ่าน เพราะถึงต่อให้อ่านแล้วไม่ประทับใจในโปรไฟล์ของเขา แล้วฉันเลือกอะไรได้ไหมล่ะ ก็คงไม่ได้

ทันทีเมื่อเห็นมีเมล์เด้งเข้ามา ความนอยด์ทำให้ฉันกดลบอีเมล์ประวัติของเขาลงไฟล์ถังขยะในทันที

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

Comments

No Comments
62 Chapters
My Husband - 1 การนัดบอดที่ไม่ได้เต็มใจ
ร้านเสริมสวยริมถนนย่านกลางเมืองที่เต็มไปด้วยรถสัญจรไปมา อาจจะเพราะย่านนี้เป็นย่านที่มีร้านอาหารและร้านชื่อดังติดกันอยู่หลายร้านทำให้รถค่อนข้างจะหนาแน่นเป็นพิเศษ ฉันได้แต่ถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า พลางทอดสายตามองออกไปนอกกระจก ด้วยความรู้สึกเหนื่อยหน่ายต่อสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในเย็นนี้ใช่...เย็นนี้แล้วสินะ ที่ฉันจะได้พบกับชายคนหนึ่งที่ทางบ้านจัดหามาให้เป็นคู่นัดบอดในขณะที่ใกล้จะถึงเวลานัดหมายแต่ฉันกลับไม่ได้รู้สึกรีบร้อนอะไรเลย ได้แต่ปล่อยเวลาให้ช่างทำเล็บทำผมอะไรกับของฉันได้เต็มที่อาจจะเพราะส่วนหนึ่งฉันไม่ได้คาดหวังให้ผู้ชายคนนั้นประทับใจในการนัดบอดครั้งนี้เลยด้วยซ้ำฉันคิดไปไกลถึงกับว่า หากเย็นนี้ได้เจอเขาแล้ว เราอาจจะไม่ประทับใจกันและกัน จนบางทีเขาก็อาจจะเป็นฝ่ายที่ปฏิเสธฉันแทนก็ได้มั้ง แต่ก็นั่นละต่อให้ฉันไม่ตกลงใจกับผู้ชายที่จะมานัดบอดในวันนี้ สุดท้ายแล้วฉันก็ต้องถูกทางบ้านจับให้ไปดูตัวกับคนอื่นอยู่ดี ซึ่งฉันเองก็ ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมผู้ใหญ่ถึงอยากจะให้ฉันแต่งงานไวนัก ทั้งที่ฉันเพิ่งจะเรียบจบมาไม่นานนี่เองเฮ้อ...ชีวิตลูกผู้หญิงมีแค่นี้เองเหรอฉันถอนหายใจออกมาอย่างเซ็ง ๆ เมื่อนึก
last updateLast Updated : 2025-02-21
Read more
My Husband 2 - พลาสเตอร์สีหวาน
และ....เรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเป็นที่มาของเหตุการณ์ทั้งหมดทั้งมวลที่ทำให้ตอนนี้ฉันมานั่งทำผมทำเล็บอยู่ตรงนี้ เหลือเวลาอีกตั้งเป็นชั่วโมงก่อนที่จะถึงเวลานัด ความรู้สึกเบื่อ ๆ ทำให้ฉันหาข้ออ้างออกจากบ้านก่อนเวลานัด อย่างน้อยก็เอิ่ม...ควรไปทำผมทำเล็บฆ่าเวลาเล่น ๆ ถึงจะเป็นการนัดบอดที่ไม่ได้เต็มใจแต่อย่างไรแล้วคนเราก็ต้องทำตัวให้ดูดีนิดหนึ่งไหมฉันเลือกร้านทำผมที่ไม่ไกลจากร้านที่ได้นัดบอดกับผู้ชายคนนั้น เพราะรู้ดีว่าการทำผมทำเล็บแต่ละครั้งกินเวลาเป็นชั่วโมง การได้ทำอะไรแบบนี้เป็นการระบายความเครียดได้เป็นอย่างดีเลยละในขณะที่สายตาฉันมองทอดออกไปนอกกระจกแบบเรื่อยเปื่อย พลันสายตาของฉันบังเอิญไปที่เด็กน้อยคนหนึ่งในวัยไม่ถึงเจ็ดขวบที่กำลังวิ่งอยู่ที่ริมถนนและตอนนี้เด็กน้อยคนนั้น กำลังวิ่งตามลูกบอลกลิ้งออกไปทางม้าลาย“ตายแล้ว! เด็กนั่น” ฉันเผลอร้องออกมาด้วยความตกใจ พร้อม ๆ กับเสียงหวีดร้องของคนที่เห็นเหตุการณ์อีกหลายต่อหลายคนที่กำลังตกตะลึงกับเหตุการณ์นั้นด้วยเช่นกัน“ไม่น่ะ!!”เอี๊ยดดดดดเสี้ยววินาทีที่ฉันกลั้นหายใจ ฉันได้ยินเหมือนเสียงเบรกรถดังสนั่นท้องถนนพร้อมกับเสียงหวีดร้องของผู้คน และ
last updateLast Updated : 2025-02-21
Read more
My Husband 3 - ว่าที่เจ้าบ่าว
“อ่อค่ะ แต่คุณมาสายไปสิบนาที ไม่สิสิบห้านาทีจากเวลานัด” ฉันรีบยกข้อมือที่สวมนาฬิกาให้เขาดู เพราะถึงต่อให้เขาดูหล่อและดูดีมากก็ตามเถอะ แต่การนัดบอดแบบนี้เขาควรต้องให้ความสำคัญ ไม่ใช่ให้ฝ่ายหญิงแบบฉันต้องมารอ“ขอโทษที่มาช้านะครับพอดีผมเกิดเอ็กซิเดนท์นิดหน่อย”เขาโค้งศีรษะเล็กน้อยเป็นเชิงขออภัยดูจากรูปลักษณ์ภายนอก เขาดูค่อนข้างเป็นคนสุภาพและจัดว่าดูดีมากคนหนึ่ง จะผิดก็แต่การแต่งตัวที่ดูเหมือนไม่ค่อยเรียบร้อยสำหรับการนัดบอดแบบนี้ ปกติการนัดบอดทั่วไปผู้ชายควรจะใส่เสื้อสูทและแต่งตัวกันมาค่อนข้างเนี๊ยบ แต่กลับผู้ชายคนนี้เขากลับเลือกใส่แค่เสื้อเชิ้ตสีขาวธรรมดา อืมแต่ก็นะ...ไหน ๆ เขาก็มาแล้วลองให้โอกาสคุย ๆ ดูก่อนคงไม่เสียหายอะไรงั้นก็…“โอเคค่ะ งั้นเชิญนั่งก่อนสิคะ”“ขอบคุณครับ”“คุณจะสั่งเครื่องดื่มอะไรดีคะ” ฉันส่งเมนูอาหารให้กับเขา ก่อนจะสังเกตเห็นแผลถลอกที่หลังมือของเขาที่มีเลือดออกซิบ ๆ นี่นะเหรอที่เขาบอกว่าเพิ่งเกิดเอ็กซิเดนท์มา“หลังมือของคุณมีเลือดออก ฉันมีพลาสเตอร์ยาค่ะ”แผลของเขาที่เหมือนคนที่เพิ่งไปล้างมือมาใหม่ ๆ เพราะแทบไม่มีรอยฝุ่นติดหลงเหลืออยู่ แสดงว่าเขาอาจจะไปล้างแผลที่ห้องน
last updateLast Updated : 2025-02-21
Read more
My Husband 4 - แทนตัวเองแบบนี้น่ารักดี
“โห บริษัทนำเข้ารถยนต์ชื่อดังด้วย คุณทำงานเป็นเซลล์หรือคะ งั้นเอาไว้ถ้าฉันมีเพื่อนคนไหนสนใจจะออกรถ ฉันจะแนะนำไปให้” ก็ถ้าดูจากการแต่งตัวฉันคิดเป็นอื่นไปไม่ได้เลย เขาใส่แค่เสื้อเชิ้ตสีขาวธรรมดาไม่ได้ใส่สูทอย่างผู้บริหารระดับสูงหรือระดับเมเนเจอร์ เพราะงั้นเขาก็คงเป็นเซลล์นะแหละคงไม่ใช่ช่างซ่อมในอู่รถหรอกมั๊ง หุ่นสูง ๆ ผิวขาว ๆ ดูเจ้าสำอางมันทำให้ฉันค่อนข้างมั่นใจว่าเดาไม่ผิด“อืม ครับ งั้นถ้าคุณมีเพื่อนสนใจจะออกรถจริงก็ติดต่อมาได้เลยครับ ผมยินดี”“ได้เลยค่ะ ว่าแต่คุณมีนามบัตรไหมล่ะ เผื่อมีเพื่อนสนใจออกรถ ฉันจะได้ให้ติดต่อคุณไป”“เออ...พอดีนามบัตรของผมน่าจะติดไปกับเสื้ออีกตัว”“ไม่ได้นะคะ ทีหลังต้องพกไว้ตลอด คุณเป็นเซลล์และนามบัตรเป็นสิ่งสำคัญ” ฉันเผลอตำหนิเล็กน้อยเพราะแทนที่มานัดบอดแบบนี้เขาควรจะเตรียมความพร้อมให้มากกว่านี้ แต่พอรู้ตัวว่าหลุดพูดอะไรออกไปก็ถึงกับเม้มปากสำนึกผิด“ขอโทษด้วยนะครับ”“มะ ไม่เป็นไรค่ะ คนเราลืมกันได้แหละ” ฉันหัวเราะแหะ แหะ แก้เก้อก่อนจะพยายามชวนคุยเรื่องสัพเพเหระทั่วไปTalk ภีมม์ผมรู้ว่าเธอคู่นัดบอดของผม ไม่ได้เปิดอ่านประวัติของผมจากเมล์ที่ส่งไปให้เลย ไม่เหมือน
last updateLast Updated : 2025-02-21
Read more
My Husband 5 - ผู้ชายคนนั้น
Talk เฟิร์นเมื่อกี้ฉันรู้สึกเหมือนหูฝาดที่เขาตกลงทุกข้อที่ฉันขอ ใช่มันง่ายกว่าที่ฉันคิดเอาไว้มาก และเมื่อฉันขออะไรเขาก็โอเคหมดไม่มีค้าน อย่างว่าอะเนอะเพราะเขาก็ไม่ได้เต็มใจกับการแต่งงานนี้เลยยอมตกลงกับข้อเสนอของฉันอย่างง่าย ๆ อย่าลืมสิว่าเราสองคนแค่ตกลงยอมแต่งงานเพราะหลีกเลี่ยงสัญญาของพวกผู้ใหญ่ไม่ได้จากตอนแรกที่ฉันลำบากใจเรื่องแต่งงาน แต่เพราะพี่ภีมม์ดูเป็นคนสุภาพและพูดง่ายกว่าที่คิดไว้ เลยทำให้ฉันรู้สึกโล่งอก โล่งอกที่เขาไม่ได้เป็นคนน่ากลัวอย่างที่ฉันกลัวในตอนแรก ที่สำคัญคือเอ่อ...นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มของเขาที่มองมา มันทำให้หัวใจของฉันสั่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน นี่...ฉันคงไม่ได้ตกหลุมรักเขาในครั้งแรกหรอกใช่ไหม หรือบางทีที่ฉันใจสั่นอย่างตอนนี้อาจจะเป็นเพราะว่าเขาดูหล่อมาก ๆ เท่านั้นเองเมื่อเราสองคนตกลงเรื่องการแต่งงานกันเรียบร้อยก่อนที่จะแยกย้ายไปบอกผู้ใหญ่ของกันและกัน ฉันเลยขอเป็นฝ่ายขอตัวแยกกับเขาก่อน แม้เขาจะอาสามาส่งฉันก็ตามที“เฟิร์นว่าจะแวะไปหาเพื่อนก่อนเข้าบ้านค่ะ”“ให้พี่ไปส่งบ้านเพื่อนไหม”“ไม่เป็นไรค่ะ เพื่อนเฟิร์นอยู่แค่คอนโดตรงนี้เองไม่ไกลเท่าไหร่”เราเอ่ยปากลากัน ก่อนที่เ
last updateLast Updated : 2025-02-21
Read more
My Husband 6 - คืนเข้าหอ
ไหน ๆ เราสองคนก็แต่งงานกันแล้ว แต่ไม่ได้เกิดจากความรัก เพราะงั้นเรื่องอันตรายอะไรคงไม่มีทางเกิดขึ้น (หรอกมั้งนะ) ฉันพยายามบอกตัวเองไม่ก็กำลังหลอกตัวเองอยู่นั่นแหละเอาแค่ตอนนี้ พี่ภีมม์ถอดเสื้อสูทแล้วแขวนไว้ที่แขน ตามด้วยปลดกระดุมแขนเสื้อออกที่ละเม็ด เท่านี้ฉันก็เริ่มหายใจติดขัดแล้ว คนอะไรไม่รู้ขนาดท่าปลดกระดุมยังเท่ห์“เราอาบน้ำก่อนไหมเดี๋ยวพี่ค่อยอาบทีหลังก็ได้” เขาเงยหน้าขึ้นมามองอย่างกับรู้ตัวว่าฉันกำลังนั่งแอบมองการกระทำของเขาอยู่“พี่ภีมม์อาบก่อนเลย เฟิร์นรอได้ เฟิร์นอาบน้ำนาน”“พี่ก็อาบน้ำนาน หรือเราจะอาบพร้อมกันเลย”“หา...” ฉันถึงกับอ้าปากค้างเมื่อได้ยินที่พี่ภีมม์พูดออกมา ส่วนเขาก็ยกยิ้มออกมาน้อย ๆ เหมือนพูดแกล้งยั่วให้ฉันกลัว“ว่าไงครับ จะอาบพร้อมกันหรือเราจะอาบก่อนพี่” พอเขายื่นข้อเสนอมาอีก คราวนี้ฉันไม่กล้าลีลาเลยรีบตอบตกลงทันที ขืนไม่รีบฉันกลัวต้องอาบน้ำด้วยกันอย่างที่พี่ภีมม์ว่าแต่...อื้อ ชุดแต่งงานทำไมมันถอดยากแบบนี้นะ ฉันเอื้อมแขนหมายจะรูดซิปที่อยู่ตรงแผ่นหลังออก แต่รูดมาได้ครึ่งเดียวมือก็เอื้อมไม่ถึงแล้ว ก็ตอนแต่งตัวมีช่างแต่งหน้าแต่งตัวมาให้นี่นา ใครจะไปรู้ว่าชุดแต่ง
last updateLast Updated : 2025-02-21
Read more
My Husband 7 - ฝันหวาน
โชคดีที่ฉันเตรียมชุดนอนแบบกางเกงลายการ์ตูนรูปเป็ดสีเหลืองมาด้วย ชนิดที่ว่าไม่ได้มีความเซ็กซี่ที่พอจะยั่วยวนให้ใครเกิดอารมณ์ได้ แต่กระนั้นพอพี่ภีมม์ไปอาบน้ำ ฉันก็รีบกระโดดขึ้นเตียงนอนก่อนเอาผ้าห่มพันตัวเองจนแทบไม่เหลืออากาศให้หายใจพี่ภีมม์อาบน้ำร่วมครึ่งชั่วโมง เขาอาบน้ำนานจริง ๆ อย่างที่เขาบอกไว้ นี่สินะที่มีคนบอกกันว่าคนที่มีอาชีพเซลล์มักจะพิถีพิถันเสมอ“ทำไมเฟิร์นนอนแบบนั้นล่ะครับ ไม่อึดอัดแย่เหรอ” เสียงพี่ภีมม์ที่เดินออกมาพร้อมผ้าขนหนูพันรอบเอวแค่ผืนเดียว ในขณะที่ฉันมีสภาพเหมือนดักแด้“ดะ เดี๋ยวทำไมพี่ภีมม์แต่งตัวแบบนี้ค่ะ”“ปกติพี่ใส่แต่บ็อกเซอร์นอนครับ มันสบายดี”“แต่...”“ไม่ต้องคิดมากครับ แค่นอนเตียงเดียวกัน ถึงวันนี้เราจะเพิ่งแต่งงานกันแต่พี่ไม่ชอบทำอะไรใครถ้าอีกฝ่ายไม่เต็มใจ”หืม...คำพูดของพี่ภีมม์ฟังแล้วดูดี เป็นสุภาพบุรุษเอามาก ๆ แต่ใจฉันสิมันเต้นแรงจนแทบจะเป็นบ้า คิดเอาเถอะฉันผู้เวอร์จิ้นไม่เคยคบกับผู้ชายเลยแม้แต่คนเดียว แต่ตอนนี้ฉันต้องนอนกับผู้ชายที่มีซิกแพคขาว ๆ ลอนเป็นลูก ๆ ราวกับปั้นมาตรงกล้ามท้องแน่นนั่น ทำเอาหัวใจของฉันเต้นไม่เป็นจังหวะ ขนาดเวลาไปว่ายน้ำฉันก็เห็นผู้
last updateLast Updated : 2025-02-21
Read more
My Husband 8 - ผู้หญิงคนนั้นคือใครกัน
คืนเข้าหอที่ไม่ได้มีความโรแมนติกอย่างที่คู่รักทั่วไปควรจะเป็นเพราะเรื่องน่าอายที่เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ฉันเผลอเปลือยอกให้เขาดู และไหนจะเรื่องที่ฉันเผลอนอนก่ายเข้าแบบแนบชิดตอนตื่นนอนตอนเช้าอีก มันทำให้วันนี้ฉันไม่กล้าเริ่มที่จะชวนเขาคุยอะไร เพราะพอจะคุยก็อดคิดไปถึงภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไม่ได้เช้าแรกของวันแต่งงานเราสองคนเลยอยู่ในสภาพที่ค่อนข้างกระอักกระอ่วน และเพราะตอนนี้เราสองคนได้อยู่ร่วมกันเรียกว่าน่าจะครบยี่สิบสี่ชั่วโมงแล้ว เลยทำให้ฉันได้รู้ว่าพี่ภีมม์เจ้าบ่าวของฉันดูเป็นคนพูดน้อยกว่าที่ฉันคิดเอาไว้มาก มากจนฉันแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาเป็นแค่เซลล์ขายรถธรรมดาคือปกติคนเราถ้าเป็นเซลล์ก็ต้องพูดจาขายของเก่ง หรือโน้มน้าวใจเก่งมาก ๆ แต่นี่พี่ภีมม์ดูเป็นคนพูดน้อย น้อยแบบน้อยเว่อร์ แล้วพูดน้อยแบบพี่ภีมม์อะนะจะเป็นเซลล์ หรือว่าเวลาที่เขาขายรถ เขาจะใช้แต่ใบหน้าหล่อ ๆ มองลูกค้าให้ลูกค้าหลง แล้วก็สั่งซื้อรถแบบงง ๆ โดยที่เขาไม่ต้องพูดอะไรออกมางี้เหรอ...ไม่มั๊งอ่อ อีกเรื่องหนึ่งหลังจากที่เราสองคนแต่งงานกัน คือเรามีแพลนที่จะต้องเดินทางไปฮันนีมูนที่มิลานในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ทำให้ในตอนนี้
last updateLast Updated : 2025-02-21
Read more
My Husband 9 - เขามีแฟนอยู่ก่อนแล้ว
ก๊อก ก๊อก“ขอโทษค่ะพี่ภีมม์ พอดีพี่ภีมม์ลืมโทรศัพท์ไว้ในห้อง” ฉันเคาะประตูห้องทำงานของพี่ภีมม์ก่อนเดินเข้าไปเอาโทรศัพท์มือถือไปส่งให้เขาที่โต๊ะทำงาน ดูเขามีสีหน้าเอาจริงเอาจังมากเวลาอยู่ต่อหน้าคอมพิวเตอร์ของเขา“อ่อครับ ขอบคุณ” เขายอมละสายตาจากงานของเขาก่อนเงยหน้าขึ้นมามองฉัน แต่กลับไม่ยอมกดรับสายในทันที ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกสงสัยมากขึ้น“เพื่อนเหรอคะ สวยจัง” ดูเป็นการเสียมารยาทมากสินะที่ฉันพูดประโยคนี้ออกไปเพราะนอกจากพี่ภีมม์จะไม่ตอบคำถามฉัน แถมยังเลิกคิ้วหนา ๆ มองฉัน คล้ายจะถามว่าทำไมฉันยังไม่ออกไปมากกว่าเออ...ออกไปก็ได้วะ ฉันก็ไม่อยากรู้สักเท่าไหร่หรอก แค่เห็นสายตาก็พาลให้หงุดหงิด ฉันเลยเดินงอน ๆ ออกไปแบบไม่พูดอะไรต่อเหมือนกันสุดท้ายตอนนี้ฉันต้องกลับออกมาดูทีวีที่หน้าโซฟาตามเดิม ได้แต่เอาคางเกยหมอนอิงแล้วกดเปลี่ยนรีโมตทีวีไปมา บอกตรง ๆ เลยว่าฉันดูไม่รู้เรื่องเอาซะเลย เพราะฉันไม่ได้สนใจภาพจากจอในทีวีเลยสักนิดนี่ฉันไม่ได้หึงเขาเลยนะ สาบานได้แต่...แค่รู้สึกไม่พอใจเฉยๆถึงเราจะไม่ได้รักกันแต่อย่างน้อยเราสองคนก็เป็นสามีภรรยากันตามกฎหมายถึงจะไม่ได้รักกันก็เถอะผ่านไปร่วมครึ่งชั่วโมง บังเ
last updateLast Updated : 2025-02-21
Read more
My Husband 10 - งานใหม่ เพื่อนใหม่ และชีวิตใหม่
รุ่งเช้า“พี่ภีมม์คะ เฟิร์นไปทำงานก่อนนะคะ”ฉันผู้อาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว รีบหยิบกระเป๋าสะพายขึ้นมาไว้ในมือ ส่วนพี่ภีมม์ที่อาบน้ำที่หลังเพิ่งจะเดินออกมาจากห้องน้ำ“เค รอแป๊บเดี๋ยวพี่ไปส่ง”“โอ๊ยไม่เป็นไรค่ะ เฟิร์นว่าไปเองดีกว่าจะได้ดูทางแล้วกะเวลาด้วย ว่าถ้าต้องไปทำงานเองต้องใช้เวลากี่ชั่วโมง”“แล้วทำไมไม่ให้พี่ไปส่ง”“แล้วพี่ภีมม์ไม่ไปทำงานเหรอคะ ก็ในเมื่อเราสองคนยกเลิกงานฮันนีมูนแล้ว พี่ภีมม์ก็กลับไปทำงานตามเดิมก็ได้นี่ค่ะ เมื่อคืนเฟิร์นเห็นพี่ภีมม์นั่งทำงานจนดึกดื่นดูท่างานของพี่ภีมม์น่าจะเยอะ”ฉันพูดคนเดียวเป็นฉาก ๆ ในขณะที่พี่ภีมม์ยังทำหน้าเดียวไม่แสดงความรู้สึกใด ๆ“เอาเถอะค่ะ นี่ขนาดพี่ภีมม์หยุดสองวันงานยังเยอะขนาดนี้ ถ้าพี่ภีมม์หยุดเป็นอาทิตย์พี่จะทำงานทันเหรอ เดี๋ยวเดือนนี้ยอดขายรถก็ตกเป้าหรอก เฟิร์นไปทำงานก่อนนะคะ พี่ไม่ต้องซีเรียส สบาย ๆ ค่ะ เฟิร์นไม่ใช่ผู้หญิงเรื่องมากขนาดที่ต้องให้ใครมารับมาส่งขนาดนั้น บ้าย บายนะคะ เจอกันตอนเย็นนะคะ”ยิ่งพอเขาไม่พูดหรือแสดงความรู้สึกอะไรออกมา ทำให้ฉันต้องยิ่งรีบรวดเดียวให้จบ ก่อนจะรีบชิ่งออกมาเพราะอึดอัด อีกอย่างก็ไม่ใช่อะไรนะเพราะสายตาของพ
last updateLast Updated : 2025-02-21
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status