Home / โรแมนติก / My destiny ร่างนี้ของใคร / ตอนที่13 มหาอำนาจของป่าใหญ่

Share

ตอนที่13 มหาอำนาจของป่าใหญ่

last update Last Updated: 2025-06-14 11:21:42

ณ ใจกลางผืนป่ากว้างใหญ่อันเขียวขจีที่มีแม่น้ำสายใหญ่รายล้อมรอบเมือง เมื่อมีสายน้ำก็ย่อมมีชีวิต ที่นี่จึงเป็นเมืองที่เหล่าสรรพสัตว์อาศัยอยู่กันมากที่สุด พื้นที่แห่งนี้เรียกว่าเมืองปักษิณพารา เมืองแห่งนี้เป็นเมืองที่มีสิ่งปลูกสร้างที่ทำด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่ราวกับต้นไม้ที่แกะสลักให้มีช่องว่างใหญ่โตพอที่จะให้สรรพสัตว์ได้ใช้อาศัยอยู่ได้อย่างสบายหลายแห่ง มีเจ้าเมืองปกครองนามว่า นครินทร์คีรีผู้เป็นราชานกยักษ์ ร่วมกับราชินีอชินีพาราผู้เป็นบุตรีของอดีตเจ้าเมืองพยัคฆา

อาณาเขตการปกครองของเมืองปักษิณพารากว้างใหญ่ไพศาล เพราะเป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์มีทรัพยากรมากมายที่ชุบเลี้ยงชีวิตของเหล่าสรรพสัตว์ในป่าใหญ่ อีกทั้งยังเป็นเมืองที่พระอิศวรและครุฑชั้นปกครองได้ช่วยกันสร้าง จึงเป็นที่น่าเกรงขามกับสรรพสัตว์ทุกเผ่า เรียกได้ว่าเป็นเมืองนี้เป็นมหาอำนาจของป่าใหญ่นี้ก็ว่าได้

เงือกสาวสาวในชุดเดรสผ้าฝ้ายแขนกุดกระโปรงสั้นเหนือเข่ามีเข็มขัดที่ทำจากไข่มุกคาดเอวให้เห็นทรวดทรงเดินเข้ามานั่งหน้ามุ่ยตรงข้ามกับเจ้านากทะเลตัวน้อยที่กำลังสวาปามปลาดิบอย่างเอร็ดอร่อยต่อหน้าของเธอ

“ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่เลยสามน สัตว์หลายตนที่นี่ดูไม่ค่อยเป็นมิตรกับฉันเลย แถมอาหารที่เอามาส่งให้ฉันก็มีแต่ผัก ฉันกินผักจนตดเหม็นเขียวหมดแล้วเนี่ย ซังกุงห้องเครื่องทำเมนูที่ฉันอยากกินไม่ได้หรือไง” พูดแล้วชมชีวันก็อดนึกโมโหไม่ได้ สองวันเต็มๆ แล้วที่เธอได้เดินทางมาถึงเมืองปักษิณพาราพร้อมกับรณจักรปักษา ราชองครักษ์ของปักษิณสิงขร มาถึงก็ได้รับสายตาไม่พอใจจากสรรพสัตว์แทบทุกตนในเมืองที่ออกมาต้อนรับ อีกทั้งสั่งอาหารอะไรไปก็ไม่เคยได้ตามที่สั่งสักอย่าง ไม่รู้จะต้องทำยังไง บอกกับใครเธอถึงจะได้รับประทานอาหารที่เธอชอบ ก่อนจะมาที่นี่ผู้ที่ไปรับเธอรับปากนักหนาว่าเธอจะอยู่ที่แห่งนี้ได้อย่างสบาย แต่ที่ไหนได้คนละเรื่องกับที่รับปากกับเธอเอาไว้เลย

“ข้าว่าพวกเขาทำได้เจ้าหญิง แค่พวกเขามิพึงใจท่านต่างหาก”

“ไม่พอใจฉันเรื่องอะไร อย่าบอกว่าเรื่องที่ฉันขอเห็นหน้าคนที่จะแต่งงานด้วยตั้งแต่มาถึง”

“นั่นก็ใช่ อีกอย่างภาษาที่ท่านพูดก็แปลกพิกล มิเหมือนผู้ใด กิริยาของท่านก็มิสมกับการเป็นลูกเจ้าลูกนาย แล้ว...”

“พอๆ ฉันเข้าใจแล้ว หลอกด่ากันรึเปล่าเนี่ย เอาเป็นว่า ฉัน เอ้ย! ข้าจักพูดภาษาของโลกนี้ให้ชินก็แล้วกัน”

“ท่านจักลองพูด ไหนลองพูดให้ข้าฟังหน่อยเจ้าหญิง”

ชมชีวันยืนขึ้น จากนั้นก็เริ่มขึ้นมือตั้งวง ท่าทางของเงือกสาวทำเจ้านากทะเลต้องรีบถอยหลังหนีไปยินแนบแผ่นหลังอยู่กับขาม้านั่งตัวยาว “ข้ามีนามว่ามนตรามัจฉา เอ้อ... เอย บ้านอยู่ฝั่งธนท่าพระ... ข้านามว่ามนตรามัจฉานะจ๊ะ บ้านอยู่ท่าพระฝั่งธน เอ้อ...เอย...”

“ท่าพระฝังธนนี่มันอยู่ตรงไหนฤาท่าน” ปลาตัวน้อยล่วงจากปากของนากทะเล เพราะไม่เข้าใจในสิ่งที่เงือกสาวตรงหน้าเอ่ยพูดมา อีกทั้งพฤติกรรมที่ยกมือขึ้นรำเมื่อครู่ มันไม่ใช่วิสัยของเงือกชนชั้นเจ้าเอาเสียเลย

“ข้าล้อเจ้าเล่นน่า ข้าพอจักพูดภาษาของพวกเจ้าได้อยู่เหมือนกัน พอดีดูหนังมาเยอะ เอ่อ... แล้วเจ้ารู้รึเปล่าว่าข้าจักเห็นหน้าว่าที่สวามีของข้าเพลาไหน”

“ข้ามิรู้ได้ อาจจักเป็นวันอภิเสกสมรส”

“เฮ้อ บังคับให้มาแต่งงานด้วยแล้วยังจะเล่นตัวไม่ยอมให้เห็นหน้าก่อนแต่งอีก แบบนี้เรียกเล่นตัวแล้วนะเนี่ย” เธอเท้าเอวหมับ ทั้งสีหน้ายังดูไม่สบอารมณ์เป็นที่สุด ก่อนหน้านี้เธอก็กำลังเรียนรู้การใช้ชีวิตเป็นเงือกอยู่ดีๆ แต่ชีวิตเธอต้องกลายมาเป็นว่าที่เจ้าสาวอยู่ที่นี่ก็เพราะคนในเมืองปักษิณพาราดันรู้ว่ามีเงือกที่มีเรือนผมดำขลับ ก็เลยไปขู่ว่าหากไม่ยอมส่งตัวเธอไปแต่งงานง่ายๆ จะต้องเกิดสงคราม

ตอนนี้เธอก็เลยต้องมาอยู่ที่นี่อย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่จะว่าไปการได้เรียนรู้ประสบการณ์หลายๆ อย่างที่ไม่ได้คิดว่าจะเจอในชีวิตก็เป็นเรื่องที่สนุกสำหรับคนที่ชอบความท้าทายอย่างเธอเหมือนกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นเธอก็จะต้องเอาตัวรอดจากการตกเป็นชายาของปักษิณสิงขรให้ได้ เพราะร่างนี้ไม่ใช่ร่างของเธอ เธอจะต้องรักษาร่างกายนี้ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้

“ข้าได้ยินว่าเจ้าล่องหนได้ใช่ไหมสามน”

“ใช่ นั่นเป็นความสามารถพิเศษของข้า”

“ดีเลย งั้นเจ้าก็ต้องทำตัวเป็นนากสายลับ”

“นากสายลับ ยังไงฤาท่าน”

“อ้าว... เจ้าก็ล่องหนไปสอดส่องห้อง เอ้ย... พระตำหนัก เอ่อ... เขาเรียกว่าอะไรกันล่ะ แบบที่อยู่” มือเรียวชี้ไปรอบตัว

“ตำหนัก”

“อ่อใช่ ละครพื้นบ้านที่แท้ทรู”

“อะไรของท่าน”

“เอาใหม่ๆ ข้าจะบรีฟเจ้าใหม่ ฟังข้านะสามนน้อย เจ้าจงทำตัวเป็นนากสายลับ เจ้าต้องหายตัวไปสืบมาให้ได้ว่าว่าที่สวามีของข้าอยู่ที่ใด หน้าตาเป็นเช่นไร ภายในหนึ่งชั่วยามเจ้าต้องคาบข่าวมาบอกกับข้าให้ได้”

“รับทราบขอรับเจ้าหญิง”

ชมชีวันยืนกอดอกมองเจ้านากทะเลที่เป็นเพื่อนตนเดียวของเธอกระโจนหายออกไปจากหน้าต่าง จากนั้นก็เดินขึ้นบันไดมาที่หอนอนของตัวเอง จะว่าไปเธอก็แอบทึ่งกับสิ่งปลูกสร้างของเผ่าปักษิณพาราอยู่ไม่น้อย เพราะเกิดมาก็ยังไม่เห็นต้นไม้อะไรที่ใหญ่ที่ขนาดเท่ากับบ้านหลังโตในโลกของเธอขนาดนี้

สาวเจ้าทิ้งตัวลงนอนบนแท่นบรรทมที่มีฟูกหนาสีขาวปูเอาไว้ วันๆ เธอก็เอาแต่กินกับนอนเพราะไม่คุ้นเคยกับที่แห่งนี้ จำได้ว่าบุหลันมัจฉาบอกกับเธอว่ามาถึงที่นี่เธอจะได้เจอกับชลามัจฉาน้องสาวที่มีศักดิ์เป็นน้าของมนตรามัจฉา หากมีสิ่งใดให้ชลามัจฉาช่วยก็บอกได้เลย นึกถึงคราแรกที่มาถึงเธอเจอสรรพสัตว์หลานตนก็จริง ยังไม่ทันที่เธอจะได้ทำความกับผู้ใดเธอก็ถูกส่งมาอยู่ที่นี่ ที่เป็นเช่นนั้นก็น่าจะเป็นเพราะเธอดันไปเอ่ยถามหาผู้ที่เธอจะแต่งงานด้วยตั้งแต่คราแรกที่มาถึง เธอเองก็ลืมไปว่า ณ โลกมิตินี้ยังเป็นอารยธรรมโบรารณที่เคร่งครัดเรื่องประเพณี ได้แต่โทษตัวเองที่ดูหนังดูละครมาเยอะแต่ก็ดันไม่เฉลียวใจที่จะรักษากิริยา ในเมื่อเธอได้กระทำลงไปแล้ว ตอนนี้ก็ได้แต่รับผลที่จะตามมาเท่านั้น

ในขณะที่หนังตากำลังจะปิด ชมชีวันก็ต้องดีดตัวผึง เมื่อจู่ๆ ก็มีนกตัวเล็กสองตัวบินผ่านหน้าต่างเข้ามา จากนั้นก็กลายร่างเป็นกายที่เหมือนมนุษย์สาว มีอาภรณ์ปกปิดร่างกายที่ทำจากขนนกสีน้ำตาลแทบทั้งตัว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • My destiny ร่างนี้ของใคร   ตอนที่179 ตอนจบ

    “พวกท่านจักรักข้าเหมือนลูกแท้ๆ จริงฤา”“เหตุใดจักมิจริงกันเล่า” เพลิงพันจักรรวบตัวพสุนทราขึ้นมาอุ้มเอาไว้ในอ้อมอก“ใช่แล้ว ข้านั้นก็เติบโตมากับท่านพ่อท่านแม่บุญธรรม แลพวกท่านนั้นรักแลหวังดีกับข้ามิได้ต่างจากพ่อแม่แท้ๆ แลเหตุใดพวกข้าจักรักเจ้าจริงๆ มิได้เล่า”“เจ้าอยู่ที่นี่เถิดหนาอย่าหนีไปไหน ย่าเจ้า ตัวข้า แลแม่เจ้านั้นจักดูแลเจ้าเป็นอย่างดี”“ข้า ข้าจักอยู่ที่นี่ก็ได้ แต่...ข้ามีท่านแม่เพียงตนเดียว” พสุนทราเอ่ยจบก็ก้มหน้างุดซุกไปที่อกกว้างของผู้เป็นพ่ออัญญาภานารีหน้าเจื่อนเช่นเดียวกับเพลิงพันจักรเมื่อได้ยินพญานาคตัวน้อยเอ่ยออกมาแบบนั้น“ข้าเข้าใจเจ้าหนาพสุนทรา เจ้ายังมิต้องยอมรับข้าตอนนี้ก็ได้ แต่ข้าก็จักดูแลเจ้าให้ดีที่สุด ข้าสัญญา”เพลิงพันจักรอมยิ้มให้กับอัญญาภานารี คราแรกคิดว่าชายาตนนั้นจะเสียใจกับคำพูดของพสุนทราเสียอีก โล่งใจที่ชายาตนนั้นมีเมตตาต่อพสุนทราที่กำลังไร้เดียงสา“จักมิหนีไปอีกใช่ฤาไม่เจ้าคะ” อัญญาภานารีเอ่ยถามเพลิงพันจักรหลังจากส่งพสุนทราให้สิงหลพาไปนอนแล้ว“ข้าคิดว่ามิหนีไปแล้วล่ะ แลเจ้าจักทำอย่างไรให้พสุนทรายอมรับเจ้าให้เป็นแม่”“ข้ามิคิดจักแทนที่แม่ของพสุนทราดอกเ

  • My destiny ร่างนี้ของใคร   ตอนที่178 เรื่องใหญ่

    “หากข้ามิหนีมาเรื่องเช่นนี้คงมิเกิด หากข้ารอฟังตอนที่ท่านฟื้น ท่านพี่แลอิรวดีคงมิต้องจากไป” อัญญาภานารียังคงร้องห่มร้องให้อยู่ในอ้อมอกของเพลิงพันจักร แม้นจะออกจากท้องพระโรงมาพักที่ตำหนักของตน ทว่าความรู้สึกตกใจและภาพความสูญเสียที่เกิดขึ้นก็ยังติดตาของเธอไม่หายที่เสียใจไปกว่านั้นก็เพราะรับรู้ว่าอย่างไรบูรพกันต์ก็ต้องถูกประหาร เพราะคิดจะฆ่าเธอและเขาก็เป็นสาเหตุการเสียชีวิตของอิรวดี“เจ้าอย่าโทษตนเองเลยหนา เป็นข้าเองที่มิบอกเรื่องของอิรวดีแลพสุนทรากับเจ้า แลหากมิใช่แผนร้ายของบูรพกันต์ฤา เจ้าจึงได้เสียใจจนหนีไป”“ข้าเสียใจเหลือเกิน ข้าเสียใจเหลือเกินเจ้าค่ะ” เสียใจไปกับการสูญเสียแค่นั้นไม่พอ ตอนนี้สิ่งที่ห่วงที่สุดคือพสุนทรา พญานาคตัวน้อยจะรู้สึกเช่นไรหากได้รู้ว่าเสียผู้เป็นแม่แล้ว ไม่ว่าเพลิงพันจักรจะเอ่ยถึงสาเหตุของเรื่องว่าไม่ใช่ความผิดของเธอ แต่อย่างไรเธอก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เหตุการณ์เลวร้ายขึ้น“ข้ามิคิดว่าเรื่องการกลั่นแกล้งใส่ความกันจักเป็นบ่อเกิดของเรื่องร้ายแรงเพียงนี้เลยขอรับ” รณจักรปักษาคิดว่าจะไม่พูดเรื่องราวเลวร้ายขึ้นมาอีกแล้ว ทว่าความหดหู่หัวใจก็มีมากเกินเสีนจนอดระบายออก

  • My destiny ร่างนี้ของใคร   ตอนที่177 คุ้มคลั่ง

    “ท่านเพลิงพันจักร” ปักษิณสิงขรรีบดึงให้เพลิงพันจักรนั่งลง หากปล่อยให้มีเรื่องมีราวกันการไต่สวนอาจจะไม่จบ และเขาก็เชื่อไม่มีผู้ใดเชื่อคำของบูรพกันต์อยู่แล้ว ดีเสียอีกที่ครุฑหนุ่มนั่นเผยสันดานที่แท้จริงออกมา ผู้อื่นจะได้เลิกเคารพเสียที“มิจริงหนาท่านแม่ ข้ามิเคยถูกท่านพี่ล่วงเกิน” อัญญาภานารีคิดว่าจะนั่งฟังอยู่เงียบๆ ทว่าเธอก็อดส่งเสียงท้วงไม่ได้ ถึงจะถูกบูรพกันต์จับไปขังอยู่หลายเพลา ทว่าเขาก็ไม่ได้ทำล่วงเกินอันใดกับเธออย่างที่กล่าวออกมา“หากอยากจักเอาชนะข้าด้วยวิธีอื่นข้ามิว่า แต่อย่าหยามเกียรติชายาของข้าโดยการพูดพล่อยๆ” เพลิงพันจักรรู้ทันบูรพกันต์ หรือแม้แต่เรื่องที่ครุฑหนุ่มพูดจะเป็นความจริงเขาก็ไม่สนใจอยู่แล้ว“ทำไม เจ้ายอมรับความจริงมิได้ฤา” บูรพกันต์ยังคงตีสีหน้ายียวนขณะหันไปพูดกับเพลิงพันจักรเพียะ ศีตกาลที่ทนเห็นพฤติกรรมไม่สะทกสะท้านของหลานชายไม่ได้ เธอจึงต้องเดินเข้าไปสั่งสอนบูรพกันต์ให้ได้สติโดยการยกมือฟาดไปที่แก้มสากจนบูรพกันต์หน้าหัน“ทำไมเป็นเช่นนี้หนาหลานข้า หากเจ้าพูดสิ่งใดข้าย่อมเอนเอียงไปทางเจ้าเสียหมดหนาบูรพกันต์ แต่เรื่องที่เจ้าเอ่ยว่าหยามเกียรติของอัญญาภานารีข้าว่ามั

  • My destiny ร่างนี้ของใคร   ตอนที่176 หนีไป

    “หากเป็นเช่นนั้น ถ้าเราไปถามก็คงจักมิบอก ทางเดียวที่ข้าคิดได้ตอนนี้ก็คือการติดตามบูรพกันต์อยู่ห่างๆ” ปักษิณสิงขรเห็นว่ามันน่าจะเป็นวิธีเดียวที่ทำให้ได้เจอกับอัญญาภานารีได้เร็วที่สุด“ข้าเองก็คิดเช่นนั้น แลทำอย่างไรพวกเราจึงจักอยู่ที่นี่ได้ต่อ หากเป็นเรื่องตามหาอัญญาภานารีก็มิเจอนางแล้ว”“หากบูรพกันต์รู้ว่าอัญญาภานารีอยู่ที่ใดคงมิปล่อยให้ห่างแน่ ป่านนี้ต้องกระวนกระวายเพราะถูกขังอยู่ในตำหนัก มิแน่คืนนี้เขาอาจจักกำลังหาทางออกไปจากตำหนักอีกก็เป็นได้”“เช่นนั้นเราต้องทำให้บูรพกันต์ได้ถูกปล่อยตัวในคืนนี้ ข้าเห็นว่าเป็นหน้าที่ของท่าน”“อย่างไรฤา” ปักษิณสิงขรยังไม่ค่อยเข้าใจที่เพลิงพันจักรพูดเท่าไรนักวิเวก องครักษ์ผู้ที่สนิทกับบูรพกันต์รีบเดินเข้ามาขวางหน้าเมื่อเห็นปักษิณสิงขรและรณจักรปักษากำลังตรงเข้ามายังตำหนักของบูรพกันต์“ท่านปักษิณสิงขรมาที่นี่ด้วยเหตุอันใดขอรับ”“ข้าอยากคุยกับท่านบูรพกันต์”“ตอนนี้ท่านทศยันต์สั่งห้ามมิให้ผู้ใดเข้าไปหาท่านบูรพกันต์ขอรับ”“ข้าเป็นผู้ใดเจ้าลืมไปแล้วฤา หากข้ามิขออนุญาตท่านพ่อของข้าแลข้าจักมาที่นี่ได้ฤา ถอยออกไปหากมิอยากถูกขังลืม”“ข้าให้เข้าไปมิได้ขอรับ”“

  • My destiny ร่างนี้ของใคร   ตอนที่175 ไม่ยอมรับผิด

    “ท่านพี่ที่แสนสุขุมแลให้เกียรติผู้อื่นบัดนี้อยู่ที่ใดเจ้าคะ”“ข้าก็ให้เกียรติเฉพาะผู้ที่ข้าอยากให้เกียรติ เจ้าอยู่ที่นี่ให้สบายเถิด” บูรพกันต์วางถาดอาหารแลน้ำไว้ได้เขาก็หมุนแหวนครุฑของตนเพื่อเปิดประตูมิติ หลังจากที่ครุฑหนุ่มหายไป ประตูและหน้าต่างที่เคยเปิดก็ปิดสนิทก็มีกำแพงแก้วเข้ามาปิดกั้นไม่ให้นกยักษ์สาวนั้นหนีไปไหนได้“เหตุใดเป็นเยี่ยงนี้ไปได้” อัญญาภานารีน้ำเสียงสั่นเครือ พลางคิดย้อนเวลา เธอไม่น่าใช้แขวนครุฑกลับไปยังตำหนักของบูรพกันต์ตั้งแต่คราแรกเลย แล้วตอนนี้แหวนนั้นเขาก็เอาคืนไปแล้ว แล้วเมื่อไรเขาจะมาปลดปล่อยเธอออกไปจากที่นี่กันทางด้านเพลิงพันจักร เมื่อพวกเขาเดินทางมาถึงสวรรค์ชั้นกลางก็รีบลากอิรวดีไปเข้าเฝ้าองค์ราชาพญาทศยันต์และองค์ราชินีศีตกาลโดยมีปักษิณสิงขรและรณจักรปักษาตามหลังติดๆ ทั้งสี่ได้พยายามเล่าเรื่องที่มันเกิดขึ้นให้กับองค์ราชาและราชินีพญาครุฑทั้งสองอย่างละเอียดครู่ใหญ่เรื่องราวอันน่าปวดหัวนั้นสร้างความหนักใจให้กับพญาทศยันต์และศีตกาลไม่น้อย เพราะบูรพกันต์นั้นถูกแต่งตั้งให้เป็นรัชทายาท อีกทั้งพวกเขาทั้งสองก็ไม่ทราบได้จริงๆ ว่าอัญญาภานีหนีมาที่นี่หรือไม่“เรื่องทั้งห

  • My destiny ร่างนี้ของใคร   ตอนที่174 มิมีเหตุผลแล้วหนา

    “ข้าจักเป็นลมเสียให้ได้ ใยเจ้ามิคิดบอกเรื่องนี้กับแม่บ้าง” อังกาบแทบจะล้มพับในขณะที่กำลังนั่ง ดีที่โสภิณนั้นช่วยประคองเอาไว้“ข้ากลัวว่าท่านแม่จักมิอยากให้ข้ารับบุตรผู้อื่นเป็นบุตรของตนขอรับ แลตอนนี้ข้านั้นรักพสุนทราเหมือนลูกจริงๆ ข้าเองก็หาเพลาจักบอกท่านแม่กับอัญญาภานารีเช่นกัน แต่ก็มีเรื่องของเมืองศิคาลเข้ามาก่อนขอรับ”“แล้วพวกเจ้าจักทำอย่างไร ตอนนี้อัญญาภานารีหนีไปไหนมิรู้ได้ อีกทั้งพสุนทราจักต้องรับรู้เรื่องท่านพ่อกับท่านแม่ของตนเช่นไรหากเจ้าจักพรากแม่พรากลูกเช่นนี้”“เรื่องอัญญาภานารีข้าจักตามหาน้องข้าเอง ท่านก็สะสางเรื่องตรงนี้ให้จบเถิดท่านเพลิงพันจักร” ปักษิณสิงขรเอ่ยจบก็ยืนส่ายหัวน้อยๆ กับเรื่องอันน่าปวดหัวที่เกิดจากความรักแบบผิดๆ ของอิรวดีและบูรพกันต์ แม้นจะไม่มีใครบอกเขาว่าบูรพกันต์รู้สึกอย่างไรกับอัญญาภานารี แต่เขานั้นมองออกตั้งแต่งานอภิเษกของอัญญาภานารีและเพลิงพันจักรแล้ว“ข้าจักตามหาอัญญาภานารีด้วย แลหลังจากนั้นข้าจักไปสะสางกับบูรพกันต์ด้วยตัวเอง” เอ่ยกับปักษิณสิงขรจบก็หันมาจ้องหน้าอิรวดี “แลเจ้าก็ต้องไปเป็นพยานให้ข้าว่าบูรพกันต์นั้นคิดชั่วแค่ไหนกับท่านพญาทศยันต์”อิรวดีไ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status