Home / โรแมนติก / My destiny ร่างนี้ของใคร / ตอนที่13 มหาอำนาจของป่าใหญ่

Share

ตอนที่13 มหาอำนาจของป่าใหญ่

last update Last Updated: 2025-06-14 11:21:42

ณ ใจกลางผืนป่ากว้างใหญ่อันเขียวขจีที่มีแม่น้ำสายใหญ่รายล้อมรอบเมือง เมื่อมีสายน้ำก็ย่อมมีชีวิต ที่นี่จึงเป็นเมืองที่เหล่าสรรพสัตว์อาศัยอยู่กันมากที่สุด พื้นที่แห่งนี้เรียกว่าเมืองปักษิณพารา เมืองแห่งนี้เป็นเมืองที่มีสิ่งปลูกสร้างที่ทำด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่ราวกับต้นไม้ที่แกะสลักให้มีช่องว่างใหญ่โตพอที่จะให้สรรพสัตว์ได้ใช้อาศัยอยู่ได้อย่างสบายหลายแห่ง มีเจ้าเมืองปกครองนามว่า นครินทร์คีรีผู้เป็นราชานกยักษ์ ร่วมกับราชินีอชินีพาราผู้เป็นบุตรีของอดีตเจ้าเมืองพยัคฆา

อาณาเขตการปกครองของเมืองปักษิณพารากว้างใหญ่ไพศาล เพราะเป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์มีทรัพยากรมากมายที่ชุบเลี้ยงชีวิตของเหล่าสรรพสัตว์ในป่าใหญ่ อีกทั้งยังเป็นเมืองที่พระอิศวรและครุฑชั้นปกครองได้ช่วยกันสร้าง จึงเป็นที่น่าเกรงขามกับสรรพสัตว์ทุกเผ่า เรียกได้ว่าเป็นเมืองนี้เป็นมหาอำนาจของป่าใหญ่นี้ก็ว่าได้

เงือกสาวสาวในชุดเดรสผ้าฝ้ายแขนกุดกระโปรงสั้นเหนือเข่ามีเข็มขัดที่ทำจากไข่มุกคาดเอวให้เห็นทรวดทรงเดินเข้ามานั่งหน้ามุ่ยตรงข้ามกับเจ้านาคทะเลตัวน้อยที่กำลังสวาปามปลาดิบอย่างเอร็ดอร่อยต่อหน้าของเธอ

“ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่เลยสามน สัตว์หลายตนที่นี่ดูไม่ค่อยเป็นมิตรกับฉันเลย แถมอาหารที่เอามาส่งให้ฉันก็มีแต่ผัก ฉันกินผักจนตดเหม็นเขียวหมดแล้วเนี่ย ซังกุงห้องเครื่องทำเมนูที่ฉันอยากกินไม่ได้หรือไง” พูดแล้วชมชีวันก็อดนึกโมโหไม่ได้ สองวันเต็มๆ แล้วที่เธอได้เดินทางมาถึงเมืองปักษิณพาราพร้อมกับรณจักรปักษา ราชองครักษ์ของปักษิณสิงขร มาถึงก็ได้รับสายตาไม่พอใจจากสรรพสัตว์แทบทุกตนในเมืองที่ออกมาต้อนรับ อีกทั้งสั่งอาหารอะไรไปก็ไม่เคยได้ตามที่สั่งสักอย่าง ไม่รู้จะต้องทำยังไง บอกกับใครเธอถึงจะได้รับประทานอาหารที่เธอชอบ ก่อนจะมาที่นี่ผู้ที่ไปรับเธอรับปากนักหนาว่าเธอจะอยู่ที่แห่งนี้ได้อย่างสบาย แต่ที่ไหนได้คนละเรื่องกับที่รับปากกับเธอเอาไว้เลย

“ข้าว่าพวกเขาทำได้เจ้าหญิง แค่พวกเขามิพึงใจท่านต่างหาก”

“ไม่พอใจฉันเรื่องอะไร อย่าบอกว่าเรื่องที่ฉันขอเห็นหน้าคนที่จะแต่งงานด้วยตั้งแต่มาถึง”

“นั่นก็ใช่ อีกอย่างภาษาที่ท่านพูดก็แปลกพิกล มิเหมือนผู้ใด กิริยาของท่านก็มิสมกับการเป็นลูกเจ้าลูกนาย แล้ว...”

“พอๆ ฉันเข้าใจแล้ว หลอกด่ากันรึเปล่าเนี่ย เอาเป็นว่า ฉัน เอ้ย! ข้าจักพูดภาษาของโลกนี้ให้ชินก็แล้วกัน”

“ท่านจักลองพูด ไหนลองพูดให้ข้าฟังหน่อยเจ้าหญิง”

ชมชีวันยืนขึ้น จากนั้นก็เริ่มขึ้นมือตั้งวง ท่าทางของเงือกสาวทำเจ้านาคทะเลต้องรีบถอยหลังหนีไปยินแนบแผ่นหลังอยู่กับขาม้านั่งตัวยาว “ข้ามีนามว่ามนตรามัจฉา เอ้อ... เอย บ้านอยู่ฝั่งธนท่าพระ... ข้านามว่ามนตรามัจฉานะจ๊ะ บ้านอยู่ท่าพระฝั่งธน เอ้อ...เอย...”

“ท่าพระฝังธนนี่มันอยู่ตรงไหนฤาท่าน” ปลาตัวน้อยล่วงจากปากของนาคทะเล เพราะไม่เข้าใจในสิ่งที่เงือกสาวตรงหน้าเอ่ยพูดมา อีกทั้งพฤติกรรมที่ยกมือขึ้นรำเมื่อครู่ มันไม่ใช่วิสัยของเงือกชนชั้นเจ้าเอาเสียเลย

“ข้าล้อเจ้าเล่นน่า ข้าพอจักพูดภาษาของพวกเจ้าได้อยู่เหมือนกัน พอดีดูหนังมาเยอะ เอ่อ... แล้วเจ้ารู้รึเปล่าว่าข้าจักเห็นหน้าว่าที่สวามีของข้าเพลาไหน”

“ข้ามิรู้ได้ อาจจักเป็นวันอภิเสกสมรส”

“เฮ้อ บังคับให้มาแต่งงานด้วยแล้วยังจะเล่นตัวไม่ยอมให้เห็นหน้าก่อนแต่งอีก แบบนี้เรียกเล่นตัวแล้วนะเนี่ย” เธอเท้าเอวหมับ ทั้งสีหน้ายังดูไม่สบอารมณ์เป็นที่สุด ก่อนหน้านี้เธอก็กำลังเรียนรู้การใช้ชีวิตเป็นเงือกอยู่ดีๆ แต่ชีวิตเธอต้องกลายมาเป็นว่าที่เจ้าสาวอยู่ที่นี่ก็เพราะคนในเมืองปักษิณพาราดันรู้ว่ามีเงือกที่มีเรือนผมดำขลับ ก็เลยไปขู่ว่าหากไม่ยอมส่งตัวเธอไปแต่งงานง่ายๆ จะต้องเกิดสงคราม

ตอนนี้เธอก็เลยต้องมาอยู่ที่นี่อย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่จะว่าไปการได้เรียนรู้ประสบการณ์หลายๆ อย่างที่ไม่ได้คิดว่าจะเจอในชีวิตก็เป็นเรื่องที่สนุกสำหรับคนที่ชอบความท้าทายอย่างเธอเหมือนกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นเธอก็จะต้องเอาตัวรอดจากการตกเป็นชายาของปักษิณสิงขรให้ได้ เพราะร่างนี้ไม่ใช่ร่างของเธอ เธอจะต้องรักษาร่างกายนี้ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้

“ข้าได้ยินว่าเจ้าล่องหนได้ใช่ไหมสามน”

“ใช่ นั่นเป็นความสามารถพิเศษของข้า”

“ดีเลย งั้นเจ้าก็ต้องทำตัวเป็นนาคสายลับ”

“นาคสายลับ ยังไงฤาท่าน”

“อ้าว... เจ้าก็ล่องหนไปสอดส่องห้อง เอ้ย... พระตำหนัก เอ่อ... เขาเรียกว่าอะไรกันล่ะ แบบที่อยู่” มือเรียวชี้ไปรอบตัว

“ตำหนัก”

“อ่อใช่ ละครพื้นบ้านที่แท้ทรู”

“อะไรของท่าน”

“เอาใหม่ๆ ข้าจะบรีฟเจ้าใหม่ ฟังข้านะสามนน้อย เจ้าจงทำตัวเป็นนาคสายลับ เจ้าต้องหายตัวไปสืบมาให้ได้ว่าว่าที่สวามีของข้าอยู่ที่ใด หน้าตาเป็นเช่นไร ภายในหนึ่งชั่วยามเจ้าต้องคาบข่าวมาบอกกับข้าให้ได้”

“รับทราบขอรับเจ้าหญิง”

ชมชีวันยืนกอดอกมองเจ้านาคทะเลที่เป็นเพื่อนตนเดียวของเธอกระโจนหายออกไปจากหน้าต่าง จากนั้นก็เดินขึ้นบันไดมาที่หอนอนของตัวเอง จะว่าไปเธอก็แอบทึ่งกับสิ่งปลูกสร้างของเผ่าปักษิณพาราอยู่ไม่น้อย เพราะเกิดมาก็ยังไม่เห็นต้นไม้อะไรที่ใหญ่ที่ขนาดเท่ากับบ้านหลังโตในโลกของเธอขนาดนี้

สาวเจ้าทิ้งตัวลงนอนบนแท่นบรรทมที่มีฟูกหนาสีขาวปูเอาไว้ วันๆ เธอก็เอาแต่กินกับนอนเพราะไม่คุ้นเคยกับที่แห่งนี้ จำได้ว่าบุหลันมัจฉาบอกกับเธอว่ามาถึงที่นี่เธอจะได้เจอกับชลามัจฉาน้องสาวที่มีศักดิ์เป็นน้าของมนตรามัจฉา หากมีสิ่งใดให้ชลามัจฉาช่วยก็บอกได้เลย นึกถึงคราแรกที่มาถึงเธอเจอสรรพสัตว์หลานตนก็จริง ยังไม่ทันที่เธอจะได้ทำความกับผู้ใดเธอก็ถูกส่งมาอยู่ที่นี่ ที่เป็นเช่นนั้นก็น่าจะเป็นเพราะเธอดันไปเอ่ยถามหาผู้ที่เธอจะแต่งงานด้วยตั้งแต่คราแรกที่มาถึง เธอเองก็ลืมไปว่า ณ โลกมิตินี้ยังเป็นอารยธรรมโบรารณที่เคร่งครัดเรื่องประเพณี ได้แต่โทษตัวเองที่ดูหนังดูละครมาเยอะแต่ก็ดันไม่เฉลียวใจที่จะรักษากิริยา ในเมื่อเธอได้กระทำลงไปแล้ว ตอนนี้ก็ได้แต่รับผลที่จะตามมาเท่านั้น

ในขณะที่หนังตากำลังจะปิด ชมชีวันก็ต้องดีดตัวผึง เมื่อจู่ๆ ก็มีนกตัวเล็กสองตัวบินผ่านหน้าต่างเข้ามา จากนั้นก็กลายร่างเป็นกายที่เหมือนมนุษย์สาว มีอาภรณ์ปกปิดร่างกายที่ทำจากขนนกสีน้ำตาลแทบทั้งตัว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • My destiny ร่างนี้ของใคร   ตอนที่16 ความทรงจำเจ้าของร่าง

    เงือกสาวยืนปั้นหน้าให้น่าสงสารที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่รู้ว่าวีรกรรมของเธอจะไปถึงหูองค์ราชาและราชินีผู้ปกครองเมืองนี้หรือยัง“ท่านมิควรทำเยี่ยงนี้เลยเจ้าหญิง หากท่านยังคงทำเรื่องมิสมควร ข้าจักต้องรายงานท่านเจ้าเมือง”เมื่อความผิดถูกละเว้นเงือกสาวก็พอจะยิ้มออก จากนั้นจึงรีบคุกเข่าคำนับองครักษ์หนุ่มเป็นการขอบคุณ “ข้าขออภัย ข้าจักไม่ทำอีก”ร่างของรณจักรปักษาสลายหายไปกับอากาศ ตัวของเจ้านาคทะเลก็ลงมากองกับพื้นชมชีวันค่อยๆ เงยหน้าเปิดตาทีละข้างเมื่อรู้ว่ารณจักรปักษาไม่อยู่แล้วก็ทิ้งตัวนั่งกับพื้นด้วยสีหน้าโล่งใจ ก่อนจะหันไปขมวดคิ้วใส่เจ้านาคทะเลที่นอนหงออยู่ตรงหน้า“ไปทำยังไงให้จับได้ล่ะสามน”“ก็ข้ามิรู้ว่าท่านรณจักร จักเห็นข้าด้วย ข้ากลัวแทบตายเจ้าหญิงยังมิวายบ่นข้าอีกฤา” สามนสะบัดหน้าหนีเจ้านายตน เขากลัวจนแทบหยุดหายใจเมื่อถูกรณจักรปักษาดึงหลังคอขณะที่กำลังปีนป่ายตามหาปักษิณสิงขร“ข้าปลอบเจ้าก็ได้” ชมชีวันอุ้มเจ้านาคทะเลตัวกลมมากอดปลอบ ด้วยรู้ว่าตัวเองอยากรู้อยากเห็นจนลืมใส่ใจความรู้สึกของเพื่อนตัวน้อยไป“ชิ...”“อย่างอนข้านักเลยน่า ข้าขอโทษ แล้วได้เห็นว่าที่สวามีข้าฤาไม่”“แค่ข้าย่างกายเข

  • My destiny ร่างนี้ของใคร   ตอนที่15 เหมือนแม่มากจริงๆ

    ชมชีวันมาถึงตำหนักของชลามัจฉาก็วิ่งไปรอบตำหนัก เพราะที่แห่งนี้ไม่ได้มีเพียงต้นไม้ใหญ่ที่เป็นที่อยู่หลับนอนเท่านั้น แต่หลังตำหนักมีรากไม้ขนาดใหญ่ขดโอบล้อมเกิดเป็นบ่อน้ำสีฟ้าสวยและรอบๆ ก็มีไม้ดอกหลากสีสันเป็นที่น่ามองอีกด้วย“ข้าชอบสระน้ำนี้เจ้าค่ะท่านน้า ข้ามาหาท่านบ่อยๆ ได้ไหมเจ้าคะ”“เรือนหอของเจ้าจักมีเช่นกัน หลังเจ้าร่วมหอกับท่านปักษิณสิงขร รากไม้จากตำหนักจักขยายรากเกิดเป็นบ่อน้ำให้เจ้าได้แหวกว่ายยามคะนึงหาเมืองเกิดที่จากมา”“แต่ข้าอยากมาที่นี่” ที่พูดออกไปเมื่อครู่เพียงต้องการหาข้ออ้างมาอยู่ใกล้ชลามัจฉาเท่านั้น“ตามใจเจ้าเถิด”“ท่านพี่อยากมาหาข้าใช่ฤาไม่เล่า” มีนามัจฉาอมยิ้มกรุ้มกริ่ม ด้วยรู้ว่าญาติผู้พี่ต้องอยากพาเธอไปหาอะไรทำสนุกๆ เช่นครั้งที่เธอกลับไปเยี่ยมเยียนถึงมหาสมุทรกว้างใหญ่แน่นอน ที่นั่นเป็นถิ่นของมนตรามัจฉา แต่ที่นี่เป็นถิ่นของเธอ มีหลายอย่างเลยที่เธออยากให้มนตรามัจฉาไปพบไปเห็นเหมือนกับสิ่งที่เธอได้เห็นในป่าอันกว้างใหญ่ไพศาล“ให้จำเอาไว้ว่าเจ้าจักพาพี่เจ้าซนมิได้แล้วหนา” ชลามัจฉาเหมือนจะรู้ทันว่าลูกสาวของเธอกำลังคิดอะไรจึงต้องเอ่ยปากปรามเอาไว้ก่อน เพราะหลังจากนี้มนตราม

  • My destiny ร่างนี้ของใคร   ตอนที่14 เรียกให้ไปเข้าเฝ้า

    “พวกคุณ เอ่อ... พวกท่านเข้ามาในหอนอนของข้าได้ยังไง ข้ามิได้อนุญาตให้ใครเข้ามา” ชมชีวันจำได้ว่าทั้งสองเป็นนางรับใช้ของอชินีพารา ไม่เพียงแค่หน้าตาที่ไม่เป็นมิตร ทว่าสายตายังมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าเช่นที่เจอกันคราแรกก็ยังเหมือนเดิม“ราชินีมีรับสั่งให้เจ้าหญิงเข้าเฝ้าในเพลานี้เจ้าค่ะ”“มีเหตุอันใดฤา”“มิทราบได้ พวกข้ามาเชิญเจ้าหญิงตามคำสั่งเท่านั้น จงไปกับพวกเราโดยดีเถิดเจ้าค่ะ”“เอ่อ...อืม” ชมชีวันรีบเดินตามทั้งสองไปแต่โดยดี เสียงเอ่ยเชิญของนางรับใช้นั้นแข็งไร้หางเสียงปานการออกคำสั่ง หากเธอคิดขัดขืนมีหวังอาจจะถูกฝ่ามืออรหันต์ฟาดหลังหักได้ ทว่าเรื่องที่ทำให้เธอร้อนๆ หนาวๆ มากกว่าความโหดของสายตานางรับใช้ก็เห็นจะเป็นเรื่องที่ราชินีของเมืองนี้ให้ไปเข้าเฝ้า ไม่รู้เลยว่าเรื่องอะไร ทว่าก็ภาวนาในใจว่าอย่าให้เป็นเรื่องที่สามนถูกจับได้ ไม่เช่นนั้นชื่อเสียงของเงือกสาวได้เลื่องลือเป็นที่เสียหายแน่ชมชีวันเดินก้มหน้าก้มตาตามนางรับใช้ทั้งสองมาพักใหญ่ จนกระทั่งเข้ามาถึงตำหนักใหญ่ที่อชินีพาราประทับอยู่ ในโถงใหญ่แห่งนี้แม้จะไม่ได้ต่างจากที่ที่เธอพักอาศัยมากนัก ทว่าที่แห่งนี้มีผ้าไหมสีประดับเป็นม่านตัดกับ

  • My destiny ร่างนี้ของใคร   ตอนที่13 มหาอำนาจของป่าใหญ่

    ณ ใจกลางผืนป่ากว้างใหญ่อันเขียวขจีที่มีแม่น้ำสายใหญ่รายล้อมรอบเมือง เมื่อมีสายน้ำก็ย่อมมีชีวิต ที่นี่จึงเป็นเมืองที่เหล่าสรรพสัตว์อาศัยอยู่กันมากที่สุด พื้นที่แห่งนี้เรียกว่าเมืองปักษิณพารา เมืองแห่งนี้เป็นเมืองที่มีสิ่งปลูกสร้างที่ทำด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่ราวกับต้นไม้ที่แกะสลักให้มีช่องว่างใหญ่โตพอที่จะให้สรรพสัตว์ได้ใช้อาศัยอยู่ได้อย่างสบายหลายแห่ง มีเจ้าเมืองปกครองนามว่า นครินทร์คีรีผู้เป็นราชานกยักษ์ ร่วมกับราชินีอชินีพาราผู้เป็นบุตรีของอดีตเจ้าเมืองพยัคฆาอาณาเขตการปกครองของเมืองปักษิณพารากว้างใหญ่ไพศาล เพราะเป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์มีทรัพยากรมากมายที่ชุบเลี้ยงชีวิตของเหล่าสรรพสัตว์ในป่าใหญ่ อีกทั้งยังเป็นเมืองที่พระอิศวรและครุฑชั้นปกครองได้ช่วยกันสร้าง จึงเป็นที่น่าเกรงขามกับสรรพสัตว์ทุกเผ่า เรียกได้ว่าเป็นเมืองนี้เป็นมหาอำนาจของป่าใหญ่นี้ก็ว่าได้เงือกสาวสาวในชุดเดรสผ้าฝ้ายแขนกุดกระโปรงสั้นเหนือเข่ามีเข็มขัดที่ทำจากไข่มุกคาดเอวให้เห็นทรวดทรงเดินเข้ามานั่งหน้ามุ่ยตรงข้ามกับเจ้านาคทะเลตัวน้อยที่กำลังสวาปามปลาดิบอย่างเอร็ดอร่อยต่อหน้าของเธอ“ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่เลยสามน สัตว์หลายตนที่นี่ด

  • My destiny ร่างนี้ของใคร   ตอนที่12 เรียกทุกอย่างว่าผี

    “ข้าเป็นเจ้าที่” ชายผู้มีหนวดเคราและเรือนผมสีดอกเลาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสุขุม“ท่านศร เป็นเจ้าที่ที่นี่ก่อนที่ข้ามาอยู่ในต้นไม้นี้เสียอีก” สาลิกาเอ่ยชื่อของท่านเจ้าที่ที่แสนใจดีที่อนุญาตให้วิญญาณที่ไม่มีที่ไปอย่างเธอมาอาศัยอยู่ในต้นไม้ใหญ่เมื่อแปดสิบกว่าปีก่อน“อย่าไปบอกคนอื่นว่าเห็นข้าล่ะ เดี๋ยวพวกเขาจักพาลกลัว” ท่านศรเอ่ยย้ำกับเงือกสาวเพราะเขาพอจะรับรู้ได้ว่าสองพี่น้องกลัวแค่ไหนเมื่อได้ยินมนตรามัจฉาบอกว่าคุยกับนางไม้ได้“ทำไมฤาท่าน” มนตรามัจฉายังคงมีสีหน้าฉงน สิ่งที่เธอเห็นและพูดออกไปเป็นความจริงทั้งนั้น ทำไมคนอื่นถึงต้องกลัว“สิ่งที่คนทั่วไปมองไม่เห็น ผู้คนเหล่านั้นเรียกทุกอย่างว่าผี”“พวกท่านก็ถูกผู้คนเรียกเช่นนั้นฤา”“จะเรียกว่าเจ้าที่ นางไม้ หรือวิญญาณก็มิต่างจากความหมายนั้น”“มิน่า วีถึงได้มีอาการกลัว พี่ชบาก็เรียกสิ่งที่ข้าเห็นว่าผี พวกเขาทำเหมือนเข้าใจข้า แต่สุดท้ายก็มิใช่” พูดมาถึงตรงหน้าสีหน้าของหญิงสาวก็ห่อเหี่ยวลง“เจ้าอย่าถือโทษโกรธใครที่ไม่เชื่อเจ้าเลย โลกมนุษย์นี้ ผู้คนจักเชื่อทุกอย่างที่ตาของพวกเขามองเห็น ส่วนเจ้าที่มองเห็นพวกข้าก็เพราะพวกข้าอยากให้เห็นเท่านั้น เจ้าจงใช้ชี

  • My destiny ร่างนี้ของใคร   ตอนที่11 เคสแปลก

    วายุตรวจร่างกายชมชีวันคร่าวๆ เรียบร้อยก็ส่งต่อหญิงสาวมาที่ห้องทำงานของธีรภพ จิตแพทย์หนุ่มตี๋หน้าหยกราวกับพระเอกซีรีส์จีนที่เป็นเพื่อนสนิทของเขา“เชิญนั่งก่อนครับคุณชมพู” มนตรามัจฉาเงยหน้ามองคนเป็นพี่ด้วยแววตาระแวงพอสมควรชื่นชีวาพยักหน้าให้น้องสาวนั่งลงตรงข้ามกับหมอหนุ่ม “ชมพูมีอะไรก็คุยกับคุณหมอได้ทั้งหมดเลยนะ เดี๋ยวพี่จะไปรอข้างนอก”“ค่ะ”“ฝากด้วยนะคะหมอภพ”“ครับ”เภสัชสาวออกจากห้องไปเรียบร้อย หมอหนุ่มก็หันมาสนใจหญิงสาวหน้าหวานที่กำลังนั่งทำหน้ากังวลอยู่ฝั่งตรงข้าม “ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกันก่อนนะครับ ผมชื่อภพครับ”“ฉันชื่อชมพูค่ะ แต่ว่า...” มนตรามัจฉาหยุดพูดกะทันหันเพราะจำได้ว่าชื่นชีวาให้เธอเข้าใจว่าเธอใช้ชื่อชมชีวันสีหน้าของหญิงสาวที่แสดงออกถึงความกังวลทำให้หมอหนุ่มรู้ได้ทันทีว่าเธอมีอะไรในใจเกี่ยวกับเรื่องชื่อของตัวเอง “มีอะไรพูดกับผมได้ทุกเรื่องเลยครับ คิดซะว่าผมเป็นเพื่อนของคุณคนนึงก็ได้ แล้วผมก็คิดว่าผมพร้อมจะเชื่อกับทุกอย่างที่คุณพูดด้วย”“พูดได้ทุกเรื่องจริงเหรอคะ”“ครับ คุณพูดออกมาได้ทั้งหมดเลยครับ” ธีรภพเริ่มยิ้มออกเมื่อเห็นแววตาของหญิงสาวตรงข้ามเริ่มคลายความกังวล“อั

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status