ร่างเล็กสวมชุดคลุมสีขาวสะอาดตา ยืนส่องตัวเองในกระจกเงาภายในห้องน้ำ พลางถอนหายใจดังเฮือก ๆ อยู่หลายครั้ง
"เธอไม่มีทางเลือกนี่ อย่าคิดมากสิ เปียโน" คนตัวเล็กยังคงปลอบใจตัวเองอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งมีเสียงเคาะประตูห้องน้ำดังขึ้น ก๊อก ก๊อก "เธอถ่วงเวลาอยู่หรือเปล่า" เปียโนสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ เสียงเข้มที่ดังอยู่หน้าห้องน้ำมันบ่งบอกอารมณ์ที่มีอยู่ตอนนี้ น้ำเสียงของเขาค่อนข้างจะหงุดหงิด เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะหมุนตัวออกจากหน้ากระจกแล้วเปิดประตูห้องน้ำออกกว้าง พรึ่บ ทันทีที่ร่างเล็กปรากฏตัว เขาก็ดันเธอจนติดผนังลมหายใจผ่าวร้อนระยะประชิดจนเธอได้กลิ่นเหล้าจาง ๆ ออกมา ดวงตาของเขาที่มองต่ำมาที่ริมฝีปากมันทำเอาเปียโนหายใจแทบลำบาก อย่าว่าแต่จ้องมองเขาคงอดไม่ได้ที่จะแนบริมฝีปากหยักลงมาที่เรียวปากเธอจนเปียโนต้องผลักเขาถอยออกไปด้วยความเผลอตัว ผลัก ! "เออ คุณตินไปที่เตียงก่อนไม่ได้หรือคะ" "ทำไม จะที่ไหนก็เหมือนกันนั่นแหละที่นี่ห้องของฉัน ฉันอยากทำตรงไหนมันก็ยอมได้" "แต่....." "ฉันรู้สึกว่าเธอค่อนข้างจะเรื่องมาก... ก็ได้!" สิ้นสุดคำพูดห้วน ๆ แบบนั้นร่างของเปียโนก็ถูกช้อนขึ้นมาอุ้มในท่าเจ้าสาว จนตัวลอยขึ้นสูง เธอใช้แขนทั้งสองข้างโอบกอดลำคอเขาไว้กลัวจะเป็นอันตราย เมื่อมาถึงเตียงกว้างเท่านั้น ออสตินก็ว่างเธอลงช้า ๆ พลันหัวใจดวงน้อยก็เต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ ตึก ตึก ดวงตาคู่นั้นจ้องมองที่ริมฝีปากสวยอีกครั้งก่อนที่เขาจะจูบ เป็นจูบที่กดลึกดูดดื่มเปลือกตาของเปียโนค่อย ๆ หลับลงช้า ๆ รับสัมผัสที่เขากำลังจะมอบให้ จูบที่แสนเร่าร้อนไม่ได้อ่อนโยนกับเธอเท่าไรนักซ้ำลิ้นชื้นยังพยายามแทรกเข้ามาในโพรงปากอ่อนนุ่มจนแทบหายใจไม่ออก ฮึก ฮืมม พยายามร้องท้วงขอลมหายใจที่ขาดหายแต่ดูเหมือนว่าชายหนุ่มร่างสูงจะไม่ยอมลดละแม้แต่น้อย เขายังยกมือขึ้นมาบีมคางเธอแน่นจนเปียโนเผลออ้าปากทำให้ลิ้นสากสอดแทรกเข้ามาจนสำเร็จ ลิ้นอุ่นเซาะซอนไปตามแนวฝันพลางดูดริมฝีปากจนดัง จ๊วบ ฮึก ในที่สุดเธอก็ต้องผลักเขาถอนออกไป วินาทีนั้นสิ่งที่ร่างเล็กทำได้คือพยายามกอบโกยลมหายใจเข้าไปเลี้ยงปอด อาการหอบกระเส่าของเธอตอนนี้ยิ่งปลุกอารมณ์ชายได้เป็นอย่างดี "อย่าดื้อสิ" "หนูหายใจไม่ออก" คำพูดกระเส่าของคนตัวเล็กทำให้ชายหนุ่มเจ้าของคอนโดหรู ต้องเหยียดยิ้มออกมาเล็กน้อย โดยไม่ทราบสาเหตุอยู่ ๆ เขาก็ลุกขึ้นจากเตียงถอดเสื้อผ้าอย่างคล่องตัว การกระทำนั้น ทำให้เปียโนต้องหลบสายตาหนี ใครจะไปกล้ามองก็สิ่งที่มันโชว์อยู่ตรงหน้าเธอนั้น มันคือความเป็นชายที่ใหญ่ยาวพร้อมความแข็งขืนตื่นตัวเต็มที่ เปียโนอยากจะร้องไห้ออกมาเสียตอนนั้น เธอรู้สึกสมเพชตัวเองที่ต้องตกอยู่ในสภาพนี้แต่เพราะความกตัญญูที่เธอมีต่อผู้มีพระคุณ อย่างไรเสียเธอก็ทำเพื่อช่วยเหลือพ่อของเธอ ออสตินเดินไปหยิบคอนดอมที่ลิ้นชักหัวเตียง ก่อนที่เขาจะใช้ปากฉีกมัน แต่เสียงการกระทำเหล่านั้นมันทำให้เปียโนรู้สึกละอายขึ้นไปอีก "เคยมากี่ครั้งแล้ว?" "คะ?" ไม่รู้ว่าเขาจะถามคำนี้กับเธอขณะที่เขายืนหันหลังสวมถุงอย่างอยู่ แต่คำถามแบบนี้มันเหมือนจะดูถูกเธอมากเกินไป หากจะตอบว่ายังไม่เคยก็รู้สึกละอายไปอีก เปียโนได้แต่เงียบก้มหน้าเม้มปากแน่นอยู่อย่างนั้น สิ้นเสียงในขณะที่เธอไม่ตอบ ออสตินก็สาวเท้ามาที่เตียงนอน ตอนนี้เขาตัวเปล่าล่อนจ้อน ส่วนกลางชายแข็งจนชี้โด่ง ยิ่งดวงตากลมเห็นแบบนั้นเธอยิ่งละอายพร้อมกลัวเข้าไปใหญ่ ในขณะที่นั่งขดตัวบนเตียงพร้อมหลบหน้าสั่นเทาอยู่อย่างนั้น มือหนาก็เอื้อมมาจับที่ข้อเท้าเธอแล้วดังมันลงมาอย่างแรง ทำให้เปียโนต้องร้องออกมาด้วยความกลัว "อ้ายย" ออสตินเริ่มเร้าโรมริมฝีปากหว่านพรมความร้อนไปตั้งแต่ใบหูและซอกคอขาว ๆ มืออีกข้างล้วงเข้าไปในเสื้อคลุมแม้ว่าเธอจะพยายามปกป้องตัวเอง พยายามจับมือเข้าไปไม่ให้มันซุกซนต่อไป แต่เขากลับจับมือเธอพันธนาการไว้เหนือหัวไม่ให้ต่อต้านให้เสียอารมณ์ สัมผัสแนบชิดปลายจมูกของเขาซุกไซ้ลงมาเรื่อย ๆ สัมผัสนี้มันชวนให้คนตัวเล็กรู้สึกวาบหวามไปกับเขา เปียโนหลับตานิ่งยอมให้เขาได้ทำตามอำเภอใจแต่ใครจะรู้ว่าภายในใจตอนนี้ของเธอมันรู้สึกสมเพชตัวเองขนาดไหนที่ยอมขายเรือนร่างให้คนที่พึ่งรู้จัก เขาเห็นว่าเธอนิ่งก็เริ่มจัดการกับชุดคลุมสีขาวเพียงมันหลุดออกจากตัวเธอเท่านั้น ออสตินก็ยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย เรือนร่างขาวนวลเนียน ทุกจุดของร่างกายสวยงามไปเสียหมด "อย่ามองแบบนั้นสิคะ หนูอาย" เธอยกมือมาปกปิดเนื้อตัวพลางหลบหน้าหนี แต่เขากับไล่ฝ่ามือร้อนสัมผัสเรือนร่างเธออย่างช้า ๆ ทำให้ร่างกายของเปียโนสั่นสะท้านความรู้สึกนี้เธอเองก็ไม่เคยสัมผัส จนกระทั่งฝ่ามือนั้นหยุดอยู่ที่จุดสำคัญทำเอาดวงตากลมเบิกกว้างแล้วหันมามองเขา "ตรงนั้น คือ หนู!" เธอรู้สึกอายไม่อยากให้เขาสัมผัสมันสักนิดแต่คงช้าไป เมื่อนิ้วเรียวยาวแหวกร่องสวยพร้อมจับสองขาของเธอแยกออก "อืมม" เปียโนได้แต่เม้มปากแน่นขึ้นไปอีก ในขณะที่เขาก้มลงมาหยอกล้อกับหน้าอกสวยของเธอ ลิ้นชื้นตวัดลากเลียจนคนตัวเล็กเริ่มบิดเร้าร่างกายรู้สึกได้ถึงความผิดแปลก ท่อนบนเขาใช้ลิ้นสากทว่าท่อนล่างเขากำลังใช้นิ้วหยอกล้อมันอยู่ "พอเถอะค่ะ ฮือ " ทำไมมันรู้สึกทรมานร่างกายขนาดนี้ มือบางพยายามกุมผ้าปูแน่น ทันทีที่ร่างสูงแทรกตัวเข้ามาที่กึ่งกลาง เธอรู้สึกว่าขาของเธอถูกดันให้แยกกว้างขึ้น "ทำแค่นี้เธอก็คล้อยตามแล้วรู้สึกว่าเธอตื่นตัวเร็วมาก" รู้สึกว่ามันน่าอายชะมัดที่เขาพูดมาขนาดนั้น เปียโนแทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่เธอหลบตาไม่อยากเห็นอะไรอีกต่อไป จนกระทั่งรู้สึกถึงความโอฬารแข็งตัวเต็มที่ดันเข้ามาตรงช่องทางอ่อนนุ่มพยายามแทรกเข้ามาอย่างช้า ๆ ทว่า "ทำไมดันไม่เข้าวะ แน่นชะมัด" เสียงเขาบ่นกับตัวเองขณะที่ใบหน้าสวยเริ่มบิดเบี้ยวแน่นอนว่าเธอรู้สึกเจ็บ นี่มันเป็นครั้งแรกของเธอแต่จะบอกเขาอย่างไรได้ "ฮื้อ เจ็บ" ร่างเล็กบิดตัวไปมามือบางบีบหมอนแน่น น้ำเสียงเธอเหมือนกำลังงอแงกับสิ่งที่เขาทำตอนนี้ "อย่าเกร็งสิ เธอเกร็งตัวหรือเปล่าฉันใส่ไม่เข้า" .หลังจากที่ออกจากบ้านอนันต์ธวัชแล้ว ระหว่างทางเปียโนก็เอาแต่สนใจแมวตัวสีขาวเธอทั้งกอดทั้งหอมมันต่อหน้าออสติน"ท่าทางจะรักมันมากสินะ""ใช่ค่ะ แมวตัวนี้หนูเก็บมันมาเลี้ยงมันถูกทิ้งไว้กลางถนน น่าสงสารจะตาย""ทำไมต้องเอามาฝากบ้านนั้นเลี้ยง""ก็พี่โอโซนเป็นคนเดียวที่จะเลี้ยงมันได้ ช่วงนั้นพ่อหนูก็ยังไม่ค่อยแข็งแรง จะให้หนูฝากใคร""ฝากกันไว้ยังกับคนเป็นแฟนกัน""ที่จริงพี่เขาก็จีบหนูนั่นแหละ" ประโยคของเธอทำเอาออสตินต้องเลี้ยวลงข้างไหล่ทางพร้อมทั้งเหยียบเบรกอย่างแรง"อุ้ยย คุณติน""เธอบอกว่าเขาจีบแล้วเธอชอบเขาหรือเปล่า""เขาก็เป็นคนดีนะ""นิลวรรณ!!!" "หนูกำลังดูพฤติกรรมคุณอยู่นะ" พอเธอพูดแบบนั้นออสตินก็หันกลับมานั่งตัวตรงข่มความรู้สึกทั้งหมดที่มีกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ ตั้งสติสงบอารมณ์หึงหวง"เอาเถอะยังไงก็แค่อดีตดูท่าเจ้าหมอนั้นก็คงไม่มายุ่งกับเธอ""ค่ะ"เหมียว"สำลีแกไม่ต้องตกใจ ที่แกเจอเนี่ยยังน้อยนะ ฉันเจอเยอะกว่าแกเสียอีก"คำพูดแซะของเธอทำเอาออสตินถึงขั้นหน้าซีดเผือดก็มันจริงเขาเองก็ทำกับเปียโนไว้เยอะ รู้สึกว่าทุกอย่างมันอึมครึมไปหมดออสตินเลยตัดบทเรื่องอื่น"จริงสิ อาทิตย์หน้าฉันอยากไปเยี่ยม
เปียโนเดินทางกลับมาที่คฤหาสน์หลังใหญ่ตามเดิม เมื่อมาถึงสิ่งที่เธออยากทำที่สุดก็คือคุยกับเจ้าของบ้าน"พี่ธนาค่ะ เจ้านายพี่อยู่ที่ไหนคะ""คุณตินพึ่งขึ้นข้างบนเมื่อกี้ครับ"เปียโนมองไปที่ชั้นบนของบ้านก่อนที่เท้าน้อย ๆ ของเธอก็ย่างขึ้นบันไดฉับ ๆ เมื่อมาถึงห้องเขาเธอก็จัดการเคาะเรียกสองครั้ง ก่อนที่เสียงคนข้างในจะอนุญาตให้เข้าไปแอ๊ดดดเปียโนแทรกร่างเข้าไปภายในห้อง เห็นว่าชายหนุ่มดวงตาสีน้ำตาลอ่อนกำลังนอนเหยียดตัวยาวบนที่นอน พร้อมกับหลับตานิ่ง"คุณติน คุณทำแบบนั้นต้องการอะไรกันแน่""เธอพูดอะไรฉันไม่ได้ยิน" เสียงที่เปล่งออกมาจากริมฝีปากหยักทำให้เปียโนรู้สึกหงุดหงิด ก่อนที่เธอจะสาวเท้าเข้าไปใกล้ขอบเตียงแล้วโพล่งเสียงดังฟังชัด"หนูถามคุณว่าคุณเล่นอะไรอยู่"พรึ่บ"อร๊ายยย" ร่างของเปียโนถูกดึงลงมาแล้วออสตินก็เหวี่ยงเธอลงนอนราบเป็นเขาที่ขึ้นไปทับร่าง"หูไม่ได้หนวกสักหน่อยพูดเสียงดังทำไมกัน""ก็คุณบอกว่าไม่ได้ยิน""เอ้...เราไม่ได้ทำกิจกรรมบนเตียงมานานเท่าไรแล้วนะ ว่าแต่ครั้งก่อนที่อยู่คอนโดฉันก็ไม่ได้ป้องกันผ่านมาเป็นเดือนแล้ว ทำไมเธอไม่ท้องแอบซื้อยามากินหรือเปล่า""ห๊ะ คุณพูดอะไรเนี่ย" สิ่งที่เป
เวลาเดินทางไม่เคยหยุดนิ่ง จากอาทิตย์ก็ผันเปลี่ยนเป็นเดือน เปียโนเองก็เริ่มคิดอยากจะกลับมาเรียนใหม่อีกครั้ง รู้สึกว่าทุกอย่างตอนนี้จะดีขึ้นเจ้าหนี้ที่เคยโทรมาทวงก็ดันเงียบหาย แม้จะแอบแปลกใจแต่เธอก็ไม่ได้ถามนิลภพ รู้แค่ว่าพ่อดูมีความสุขมากขึ้นสุขภาพร่างกายก็ค่อนข้างแข็งแรงกว่าเมื่อก่อน ระหว่างที่เปียโนนั่งเช็ดถูถ้วยชามอยู่ในครัว มือถือของเธอก็ดังขึ้นครืด ครืดมือเรียวเล็กล้วงลงไปหยิบมือถือในกระเป๋าผ้ากันเปื้อน เมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์พ่อของเธอเปียโนก็รีบกดรับ"ค่ะพ่อ"(ยุ่งอยู่หรือเปล่าลูก)"พ่อมีอะไรหรือคะ"(พ่ออยากให้หนูมาหาพ่อหน่อย พ่อมีอะไรจะให้ดู เดี๋ยวพ่อส่งพิกัดไปให้)"ได้สิคะ" หลังจากที่วางสายพ่อ แม้ว่าจะเกิดความสงสัยในคำพูดของพ่อแต่เปียโนก็ต้องเก็บเอาไว้ รอให้ถึงเวลาก็น่าจะเห็นเอง#คอนโดมิเนียมหรู"ทำไมพ่อถึงให้มาที่นี่นะ" คำถามที่เกิดกับตัวเองพร้อมดวงตาที่แหงนขึ้นไปมองตึกสูงตระหง่านตรงหน้า ก่อนที่เท้า น้อย ๆ ของเธอจะย่างเข้าไปในตัวตึกเมื่อรู้ตำแหน่งแล้วเปียโนก็มุ่งหน้าไปที่ชั้นห้าของอาคารแห่งนี้เบอร์ห้องที่พ่อบอกไว้เธอเดินมาถึงก่อนที่เท้าจะหยุดนิ่ง แล้วจัดการเคาะประตูเรียกก๊อ
เย็นของวันนั้นออสตินกลับบ้านเร็วกว่าปกติ และสิ่งที่เขาอยากเห็นมากที่สุดน่าจะเป็นใบหน้าหวาน ๆ ของสาวใช้ที่บ้านเปียโนยกเมนูอาหารเย็นขึ้นมาตั้งที่โต๊ะ เมนูอาหารล้วนแต่น่าทานทั้งนั้น"นั่งทานด้วยกันสิ""ไม่เป็นไรค่ะ""ฉันบอกให้นั่งก็นั่งเถอะน่า"เมื่อได้ยินน้ำเสียงของเขาเข้มขึ้นเล็กน้อย เปียโนก็ต้องยอมเลื่อนเก้าอี้ออกมานั่ง ส่วนออสตินดูเหมือนเขาจะพอใจมากที่คนตัวเล็กยอมที่จะนั่งทานเป็นเพื่อนเขา"ไหนลองเสนอเมนูที่เธอทำสิ""ก็มีแค่ผัดผักใส่หมู ส่วนแกงส้ม กับพะโล้ ป้าแม่บ้านเป็นคนทำ" เพียงแค่เสนอเมนูอาหารออสตินก็ไม่รอช้าที่จะตักผัดผักใส่ในจานตัวเอง แค่อาหารเข้าไปในปากก็เคี้ยวอย่างอร่อยทำเหมือนว่าไม่เคยทานมันมาก่อน และเขายังเอ่ยปากชมฝีมือเธอ"อร่อยดีนี่" แต่สิ่งที่มันทำให้เปียโนย่นคิ้วเรียวก็คือ เขาไม่แตะจานอื่นเลย ยิ่งทำให้เปียโนทำตัวไม่ถูกไม่รู้ว่าอาการผีเข้าผีออกเมื่อก่อนมันหายไปไหนแล้ว คนที่นั่งทานอาหารตรงหน้าเธอตอนนี้เหมือนเป็นคนละคนเปียโนตักต้มพะโล้ใส่ในจาน พร้อมกับเหลือบสายตามองเขาบ่อยครั้ง ส่วนเขานะเหรอไม่สนใจเมนูอื่นตรงหน้าระหว่างที่ทานอาหาร เสียงรถอีกคันก็วิ่งเข้ามาในบ้าน ไม่กี่อ
หลายวันผ่านพ้นทุกอย่างภายในบ้านเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด สำหรับเปียโนแล้วเธอรู้สึกว่าออสตินอ่อนโยนขึ้นไม่กระโชกโฮกฮากปากร้ายเหมือนเมื่อก่อน ดูจะสงบลงเสียด้วยซ้ำไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรหรือเขากินยาผิดซองกันแน่แต่หลายวันมานี้สิ่งที่เธอเองก็เริ่มแปลกอีกอย่างคือเพื่อนสาวที่ติดต่อกันประจำ แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยจะติดต่อมาหาเธอเท่าไรนัก ไม่รู้ว่าแมงเม่าเป็นอย่างไร เมื่อนึกถึงเพื่อนก็อยากจะโทรหา เปียโนไม่รอช้าหยิบมือถือขึ้นมาแล้วกดโทรหาเพื่อนทันทีครืด ครืด (เสียงรอสาย)(ว่าไงเปีย)"ก็แค่คิดถึงยุ่งเหรอช่วงนี้ไม่เห็นโทรหาฉันบ้าง"(เออ คือ ใช่ ๆ ฉันยุ่งก็เลยไม่ได้โทรหาแกเลย)"จริงสิ แกเจอพี่โอโซนบ้างหรือเปล่าเขาบอกไหมว่าฉันออกจากงานแล้ว"(บะ บอกเหรอ อ้อ ฉันจะไปเจอเขาได้อย่างไรละ ว่าแต่แก่ได้งานแถวไหนเห็นว่ากลับมาอยู่กับคุณลุง)"ทำไมแกรู้ว่าฉันจะกลับไปอยู่กับพ่อ"(นั่นสินะ ฮ่า ฮ่า ฉันเดา)"ยัยเม่าเธอมีอะไรปิดบังฉันหรือเปล่า ดูแกเปลี่ยนไปนะ"(ไม่มีสักหน่อย)"จริงนะ" (ที่รัก)"เอ้นั้นเสียงใคร แกอยู่กับผู้ชายเหรอ"(ไม่มี ๆ แค่นี้นะแกฉันยุ่งอยู่)แมงเม่ารีบตัดสายทำให้เรียวคิ้วของเปียโนย่นลงเล็กน้อย เก
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา หลังจากที่แคธี่มาเที่ยวเมืองไทยได้ร่วมอาทิตย์ เธอก็ต้องกลับไปที่เยอรมันตามเดิม ส่วนคนที่มาส่งก็คงเป็นออสตินกับเควิน"ฉันขอบใจเธอมากนะที่ช่วยดูแลพวกเรา""ยินดี"แคธี่ยิ้มหวานก่อนจะสวมกอดหนุ่มหล่อตรงหน้า จากนั้นทั้งคู่ก็โบกมือลากัน ส่วนเควินดูเหมือนจะติดใจสาวผมทองเพื่อนของแคธี่ ดูเหมือนว่าเขาเองจะยิ้มไม่หุบเช่นกันสองหนุ่มแยกย้ายและเดินทางกลับเพราะการไปส่งในครั้งนี้ใช้รถคนละคันกันออสตินไม่ได้เข้าไปที่บริษัท แต่เขามีนัดกับนิลภพที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ส่วนเรื่องที่นัดในวันนี้น่าจะเป็นเรื่องหนี้สินและการตัดสินใจของนิลภพด้วยณ ร้านคาเฟ่"ขอโทษนะครับที่ให้รอนาน""ไม่นานหรอกครับ ผมเองก็พึ่งมาถึง" นิลภพพูดจาอย่างสุภาพอ่อนโยนแม้ว่าออสตินจะเป็นรุ่นลูกของเขา แต่หน้าที่การงานอิทธิพลต่าง ๆ ของ T.GROP เขาเองก็พอรู้จักอยู่บ้างออสตินหย่อนสะโพกลงนั่งด้านหน้าของเขาคือกาแฟร้อนที่นิลภพพึ่งสั่งไว้รอเป็นจังหวะที่ออสตินมาถึงพอดี ออสตินยกกาแฟขึ้นมาจิบ เมื่อวางแก้วลงก็ยกขาขึ้นไขว่ห้างเคาะนิ้วบนโต๊ะอย่างไม่มีจังหวะ พร้อมเอ่ยถามด้วยท่าทางมาดเข้ม"หวังว่าคูณจะได้คำตอบให้ผมแล้วนะครับ""ผมถ