บรรยากาศอบอวลไปด้วยความรักของสองพ่อลูก นานมากแล้วที่ไม่ได้ออกมาทานข้าวนอกบ้านนับตั้งแต่ที่เกิดเรื่องขึ้นกับครอบครัวของเธอ
"อร่อยไหมคะพ่อ" เปียโนเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้มสดใสของเธอ ส่วนนิลภพเขาก็พยักหน้าตอบรับลูกสาว หากจะถามว่าอร่อยไหมในเวลานี้มันไม่มีรสชาติเสียมากกว่าแต่ที่ต้องยอมมาทานเพราะไม่อยากทำให้ลูกสาวเพียงคนเดียวต้องเสียความรู้สึก ในเวลานี้ใครจะกินข้าวได้คล่องคอทั้งหนี้สินรัดตัวไหนจะมีเรื่องสุขภาพเข้ามาเกี่ยวข้อง หากไม่ยอมรับการผ่าตัดเปียโนก็ไม่สบายใจกลัวว่าจะเป็นอันตรายมากไปกว่านี้ ครืด ครืด ในขณะที่ความสุขกำลังวิ่งวนอยู่ในหัวใจของคนตัวเล็ก เสียงมือถือของเธอก็ดังขึ้นทำเอารอยยิ้มที่มีก่อนหน้าต้องหุบลงก็เบอร์ที่เธอบันทึกไว้ในนามบัตรมันขึ้นชื่ออย่างชัดเจน ออสติน "พ่อค่ะ หนูขอไปรับสายก่อนนะ สงสัยเพื่อนที่มหาลัยโทรมา" "จ้ะ" หลังจากที่ลุกออกจากโต๊ะอาหาร เปียโนก็หลบมาคุยโทรศัพท์ด้านนอก "สวัสดีค่ะ" (เห็นเธอเงียบไปหลายวัน ไม่เห็นจะโทรหาฉันเลย หรือว่าเงินที่ได้ไปมันคุ้มแล้ว) "คือหนูติดธุระ ว่าแต่คุณตินมีอะไรหรือเปล่าคะ" (วันนี้ฉันอยากจะเจอเธอหน่อย) "วันนี้หรือคะ" (ทำไม เธอติดปัญหาอะไร) "คือ....." (ฉันหวังว่าเธอจะง่ายเหมือนเงินที่ฉันให้เธอไปนะ) ตืดๆๆๆๆ เขาพูดเพียงเท่านั้นสายก็ถูกตัดไม่นานนักไลน์ในมือถือของเปียโนก็ดังขึ้น คนที่ส่งมาคือออสตินสถานที่ที่เขาปักหมุด คอนโดหรูใจกลางเมือง ใบหน้าที่เคยมีความสุขคล้ายจะเป็นกังวลอยู่มาก แม้จะคิดไว้แล้วว่าเงินจำนวนนั้นไม่ได้มาฟรีมันย่อมมีข้อแลกเปลี่ยน แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำใจยอมรับเสียทีเดียว เปียโนเดินกลับมาที่โต๊ะอาหาร เธอบอกกับพ่อว่ามีธุระด่วนที่ร้าน จริงอยู่ว่าตอนนี้พึ่งจะหนึ่งทุ่มนิด ๆ แต่ปกติแล้วนิลภพก็ไม่เคยได้สักถามอะไรลูกสาวมากมายแม้จะอยากห้ามไม่ให้เปียโนทำงานแต่ตัวเขาก็ไม่อาจจะหาเงินมาจุนเจือลูกได้เหมือนดังเก่าก่อน หลังจากที่ทานมื้อเย็นเรียบร้อยนิลภพก็ไม่ได้รบกวนใจลูกสาวในเมื่อเปียโนเธอบอกพ่อว่ามีธุระที่ร้านก็แยกกันที่ห้างสรรพสินค้าทันที โดยที่ชายสูงวัยไม่ถามอะไรให้มากความ ส่วนเปียโนเธอเดินทางมาพบออสตินที่คอนโดหรูของเขา เมื่อแท็กซี่จอดสนิทด้านหน้าคอนโดสูงตระหง่าน หญิงสาวร่างเล็กก็เปิดประตูก้าวเท้าลงมา พลันสายตาที่เหลือบขึ้นมองตึกสูงหลายชั้นก็ทำเอาหัวใจดวงน้อยเต้นแทบไม่เป็นจังหวะ "เธอเลือกแล้วนี่ จะกลัวอะไร" เปียโนพยายามปลอบใจตัวเอง แม้สองขาของเธอจะสั่นเทาแทบก้าวไม่ออกก็ตาม ชั้นที่ออสตินอยู่เรียกว่ามองเห็นเมืองกรุงได้สุดลูกตา เปียโนสาวเท้าเข้ามาแล้วก็มุ่งตรงไปที่ลิฟต์ชั้นที่สิบที่เขาให้พิกัดไว้พร้อมเบอร์ห้อง ตึก ตึก "หยุดเต้นสักทีได้ไหม" เธอบอกหัวใจตัวเองในตอนนี้ขณะที่ขึ้นลิฟต์หัวใจก็ยิ่งเต้นผิดจังหวะมันเหมือนจะหลุดออกมาจากเนื้อ ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ติ๋ง ประตูลิฟต์เปิดออกกว้าง สายตาคู่สวยก็กวาดมองโดยรอบ ก่อนที่เท้าของเธอจะย่างออกมาเพียงหนึ่งก้าว เมื่อเห็นป้ายบอกเลขห้องก็ไม่รอช้าที่จะมุ่งหน้าไปตามที่เขาส่งพิกัดมาให้ "เอาน่าเปียโนทุกอย่างที่เธอทำเพื่อพ่อของเธอ อย่าคิดมาก" ก็ยังคงปลอบใจตัวเองขณะที่เท้าเดินไปไม่หยุด เมื่อถึงจุดหมายเธอก็ยืนนิ่งพลางหลับตาลงตั้งสติ ก่อนจะพ่นลมร้อนออกมาจากปาก กริ่ง เสียงกดสัญญาณเรียกคนข้างในให้เปิดประตู เปียโนยังคงยืนก้มหน้าพร้อมอาการเกร็งเล็กน้อยสองมือของเธอบีบกันแน่น แอ๊ดด ประตูห้องหรูค่อย ๆ เปิดช้า ๆ พร้อมสายตาของเปียโนที่จ้องมองจังหวะนั้น พรึ่บ แรงดึงจากด้านในทำให้ร่างของเธอเซถลาเข้ามาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว จนต้องเผลอร้องออกมาด้วยความตกใจ "อ้ายย" ชายหนุ่มร่างสูงผิวขาวสะอาดทว่าดวงตาของเขากับนิ่งสนิท ใบหน้านั้นค่อนข้างที่จะเฉยชาราวกับว่าเขาไม่มีจิตวิญญาณหลงเหลือ "คุณติน!!" ออสตินไม่สนที่จะถามด้วยซ้ำ ทันทีที่มือหนาคว้าร่างของสาวสวยเข้ามาในอ้อมกอดเขาก็ซุกใบหน้าอันหล่อเหลาลงที่ซอกคอคนตัวเล็ก พยายามรุกล้ำร่างกายเธอจนเปียโนต้องใช้แรงที่มีผลักเขาให้ถอยออกไป ผลัก! "จะมาเล่นตัวอะไรตอนนี้" น้ำเสียงค่อนข้างจะหงุดหงิดและเอาแต่ใจเป็นอย่างมาก จนเปียโนเธอไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดที่ตรงไหนก่อนดี เธอรู้ว่าเขาให้เงินเธอมาก็เพราะเรื่องนี้แต่ถึงอย่างนั้นก็น่าจะให้เธอได้เตรียมร่างกายสักหน่อย "ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ คือเราจะไม่คุยอะไรกันหน่อยเหรอ" "ทำไมต้องคุย ฉันเคยบอกไปแล้วนี่ฉันให้เธอง่ายเธอเองก็น่าจะให้ฉันง่าย ๆ เหมือนกัน" "อย่างน้อย ๆ ก็น่าจะให้หนูได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียใหม่" "ทำไม หรือว่าตัวเธอมันสกปรก?" พอเขาพูดแบบนั้นเธอก็นึกขึ้นได้ว่าพึ่งไปทานมื้อเย็นกับพ่อมา กลิ่นอาหารมันยังติดอยู่ในปากอยู่เลย "ค่ะ คือหนูพึ่งทานอาหารมารู้สึกอยากอาบน้ำด้วย ยังไงหนูก็ไม่หนีแน่แต่ขออาบน้ำก่อนได้ไหม" "ทานอาหารอย่างงั้นเหรอ ของหวานหรือของคาวล่ะ" "ค่ะ?" แววตาของเขาดูผิดแปลกพิกลคำถามนั้นมันก็แปลกมากด้วยอาหารที่เธอทานมันก็ต้องเป็นของคาวอยู่แล้ว แต่เปียโนยังไม่ทันได้ตอบเขาก็เอ่ยคำสั่งเสียงเข้ม "ห้องน้ำอยู่ด้านนั้น รีบอาบแล้วฉันจะรอเธออยู่ที่เตียง!!"หลังจากที่ออกจากบ้านอนันต์ธวัชแล้ว ระหว่างทางเปียโนก็เอาแต่สนใจแมวตัวสีขาวเธอทั้งกอดทั้งหอมมันต่อหน้าออสติน"ท่าทางจะรักมันมากสินะ""ใช่ค่ะ แมวตัวนี้หนูเก็บมันมาเลี้ยงมันถูกทิ้งไว้กลางถนน น่าสงสารจะตาย""ทำไมต้องเอามาฝากบ้านนั้นเลี้ยง""ก็พี่โอโซนเป็นคนเดียวที่จะเลี้ยงมันได้ ช่วงนั้นพ่อหนูก็ยังไม่ค่อยแข็งแรง จะให้หนูฝากใคร""ฝากกันไว้ยังกับคนเป็นแฟนกัน""ที่จริงพี่เขาก็จีบหนูนั่นแหละ" ประโยคของเธอทำเอาออสตินต้องเลี้ยวลงข้างไหล่ทางพร้อมทั้งเหยียบเบรกอย่างแรง"อุ้ยย คุณติน""เธอบอกว่าเขาจีบแล้วเธอชอบเขาหรือเปล่า""เขาก็เป็นคนดีนะ""นิลวรรณ!!!" "หนูกำลังดูพฤติกรรมคุณอยู่นะ" พอเธอพูดแบบนั้นออสตินก็หันกลับมานั่งตัวตรงข่มความรู้สึกทั้งหมดที่มีกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ ตั้งสติสงบอารมณ์หึงหวง"เอาเถอะยังไงก็แค่อดีตดูท่าเจ้าหมอนั้นก็คงไม่มายุ่งกับเธอ""ค่ะ"เหมียว"สำลีแกไม่ต้องตกใจ ที่แกเจอเนี่ยยังน้อยนะ ฉันเจอเยอะกว่าแกเสียอีก"คำพูดแซะของเธอทำเอาออสตินถึงขั้นหน้าซีดเผือดก็มันจริงเขาเองก็ทำกับเปียโนไว้เยอะ รู้สึกว่าทุกอย่างมันอึมครึมไปหมดออสตินเลยตัดบทเรื่องอื่น"จริงสิ อาทิตย์หน้าฉันอยากไปเยี่ยม
เปียโนเดินทางกลับมาที่คฤหาสน์หลังใหญ่ตามเดิม เมื่อมาถึงสิ่งที่เธออยากทำที่สุดก็คือคุยกับเจ้าของบ้าน"พี่ธนาค่ะ เจ้านายพี่อยู่ที่ไหนคะ""คุณตินพึ่งขึ้นข้างบนเมื่อกี้ครับ"เปียโนมองไปที่ชั้นบนของบ้านก่อนที่เท้าน้อย ๆ ของเธอก็ย่างขึ้นบันไดฉับ ๆ เมื่อมาถึงห้องเขาเธอก็จัดการเคาะเรียกสองครั้ง ก่อนที่เสียงคนข้างในจะอนุญาตให้เข้าไปแอ๊ดดดเปียโนแทรกร่างเข้าไปภายในห้อง เห็นว่าชายหนุ่มดวงตาสีน้ำตาลอ่อนกำลังนอนเหยียดตัวยาวบนที่นอน พร้อมกับหลับตานิ่ง"คุณติน คุณทำแบบนั้นต้องการอะไรกันแน่""เธอพูดอะไรฉันไม่ได้ยิน" เสียงที่เปล่งออกมาจากริมฝีปากหยักทำให้เปียโนรู้สึกหงุดหงิด ก่อนที่เธอจะสาวเท้าเข้าไปใกล้ขอบเตียงแล้วโพล่งเสียงดังฟังชัด"หนูถามคุณว่าคุณเล่นอะไรอยู่"พรึ่บ"อร๊ายยย" ร่างของเปียโนถูกดึงลงมาแล้วออสตินก็เหวี่ยงเธอลงนอนราบเป็นเขาที่ขึ้นไปทับร่าง"หูไม่ได้หนวกสักหน่อยพูดเสียงดังทำไมกัน""ก็คุณบอกว่าไม่ได้ยิน""เอ้...เราไม่ได้ทำกิจกรรมบนเตียงมานานเท่าไรแล้วนะ ว่าแต่ครั้งก่อนที่อยู่คอนโดฉันก็ไม่ได้ป้องกันผ่านมาเป็นเดือนแล้ว ทำไมเธอไม่ท้องแอบซื้อยามากินหรือเปล่า""ห๊ะ คุณพูดอะไรเนี่ย" สิ่งที่เป
เวลาเดินทางไม่เคยหยุดนิ่ง จากอาทิตย์ก็ผันเปลี่ยนเป็นเดือน เปียโนเองก็เริ่มคิดอยากจะกลับมาเรียนใหม่อีกครั้ง รู้สึกว่าทุกอย่างตอนนี้จะดีขึ้นเจ้าหนี้ที่เคยโทรมาทวงก็ดันเงียบหาย แม้จะแอบแปลกใจแต่เธอก็ไม่ได้ถามนิลภพ รู้แค่ว่าพ่อดูมีความสุขมากขึ้นสุขภาพร่างกายก็ค่อนข้างแข็งแรงกว่าเมื่อก่อน ระหว่างที่เปียโนนั่งเช็ดถูถ้วยชามอยู่ในครัว มือถือของเธอก็ดังขึ้นครืด ครืดมือเรียวเล็กล้วงลงไปหยิบมือถือในกระเป๋าผ้ากันเปื้อน เมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์พ่อของเธอเปียโนก็รีบกดรับ"ค่ะพ่อ"(ยุ่งอยู่หรือเปล่าลูก)"พ่อมีอะไรหรือคะ"(พ่ออยากให้หนูมาหาพ่อหน่อย พ่อมีอะไรจะให้ดู เดี๋ยวพ่อส่งพิกัดไปให้)"ได้สิคะ" หลังจากที่วางสายพ่อ แม้ว่าจะเกิดความสงสัยในคำพูดของพ่อแต่เปียโนก็ต้องเก็บเอาไว้ รอให้ถึงเวลาก็น่าจะเห็นเอง#คอนโดมิเนียมหรู"ทำไมพ่อถึงให้มาที่นี่นะ" คำถามที่เกิดกับตัวเองพร้อมดวงตาที่แหงนขึ้นไปมองตึกสูงตระหง่านตรงหน้า ก่อนที่เท้า น้อย ๆ ของเธอจะย่างเข้าไปในตัวตึกเมื่อรู้ตำแหน่งแล้วเปียโนก็มุ่งหน้าไปที่ชั้นห้าของอาคารแห่งนี้เบอร์ห้องที่พ่อบอกไว้เธอเดินมาถึงก่อนที่เท้าจะหยุดนิ่ง แล้วจัดการเคาะประตูเรียกก๊อ
เย็นของวันนั้นออสตินกลับบ้านเร็วกว่าปกติ และสิ่งที่เขาอยากเห็นมากที่สุดน่าจะเป็นใบหน้าหวาน ๆ ของสาวใช้ที่บ้านเปียโนยกเมนูอาหารเย็นขึ้นมาตั้งที่โต๊ะ เมนูอาหารล้วนแต่น่าทานทั้งนั้น"นั่งทานด้วยกันสิ""ไม่เป็นไรค่ะ""ฉันบอกให้นั่งก็นั่งเถอะน่า"เมื่อได้ยินน้ำเสียงของเขาเข้มขึ้นเล็กน้อย เปียโนก็ต้องยอมเลื่อนเก้าอี้ออกมานั่ง ส่วนออสตินดูเหมือนเขาจะพอใจมากที่คนตัวเล็กยอมที่จะนั่งทานเป็นเพื่อนเขา"ไหนลองเสนอเมนูที่เธอทำสิ""ก็มีแค่ผัดผักใส่หมู ส่วนแกงส้ม กับพะโล้ ป้าแม่บ้านเป็นคนทำ" เพียงแค่เสนอเมนูอาหารออสตินก็ไม่รอช้าที่จะตักผัดผักใส่ในจานตัวเอง แค่อาหารเข้าไปในปากก็เคี้ยวอย่างอร่อยทำเหมือนว่าไม่เคยทานมันมาก่อน และเขายังเอ่ยปากชมฝีมือเธอ"อร่อยดีนี่" แต่สิ่งที่มันทำให้เปียโนย่นคิ้วเรียวก็คือ เขาไม่แตะจานอื่นเลย ยิ่งทำให้เปียโนทำตัวไม่ถูกไม่รู้ว่าอาการผีเข้าผีออกเมื่อก่อนมันหายไปไหนแล้ว คนที่นั่งทานอาหารตรงหน้าเธอตอนนี้เหมือนเป็นคนละคนเปียโนตักต้มพะโล้ใส่ในจาน พร้อมกับเหลือบสายตามองเขาบ่อยครั้ง ส่วนเขานะเหรอไม่สนใจเมนูอื่นตรงหน้าระหว่างที่ทานอาหาร เสียงรถอีกคันก็วิ่งเข้ามาในบ้าน ไม่กี่อ
หลายวันผ่านพ้นทุกอย่างภายในบ้านเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด สำหรับเปียโนแล้วเธอรู้สึกว่าออสตินอ่อนโยนขึ้นไม่กระโชกโฮกฮากปากร้ายเหมือนเมื่อก่อน ดูจะสงบลงเสียด้วยซ้ำไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรหรือเขากินยาผิดซองกันแน่แต่หลายวันมานี้สิ่งที่เธอเองก็เริ่มแปลกอีกอย่างคือเพื่อนสาวที่ติดต่อกันประจำ แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยจะติดต่อมาหาเธอเท่าไรนัก ไม่รู้ว่าแมงเม่าเป็นอย่างไร เมื่อนึกถึงเพื่อนก็อยากจะโทรหา เปียโนไม่รอช้าหยิบมือถือขึ้นมาแล้วกดโทรหาเพื่อนทันทีครืด ครืด (เสียงรอสาย)(ว่าไงเปีย)"ก็แค่คิดถึงยุ่งเหรอช่วงนี้ไม่เห็นโทรหาฉันบ้าง"(เออ คือ ใช่ ๆ ฉันยุ่งก็เลยไม่ได้โทรหาแกเลย)"จริงสิ แกเจอพี่โอโซนบ้างหรือเปล่าเขาบอกไหมว่าฉันออกจากงานแล้ว"(บะ บอกเหรอ อ้อ ฉันจะไปเจอเขาได้อย่างไรละ ว่าแต่แก่ได้งานแถวไหนเห็นว่ากลับมาอยู่กับคุณลุง)"ทำไมแกรู้ว่าฉันจะกลับไปอยู่กับพ่อ"(นั่นสินะ ฮ่า ฮ่า ฉันเดา)"ยัยเม่าเธอมีอะไรปิดบังฉันหรือเปล่า ดูแกเปลี่ยนไปนะ"(ไม่มีสักหน่อย)"จริงนะ" (ที่รัก)"เอ้นั้นเสียงใคร แกอยู่กับผู้ชายเหรอ"(ไม่มี ๆ แค่นี้นะแกฉันยุ่งอยู่)แมงเม่ารีบตัดสายทำให้เรียวคิ้วของเปียโนย่นลงเล็กน้อย เก
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา หลังจากที่แคธี่มาเที่ยวเมืองไทยได้ร่วมอาทิตย์ เธอก็ต้องกลับไปที่เยอรมันตามเดิม ส่วนคนที่มาส่งก็คงเป็นออสตินกับเควิน"ฉันขอบใจเธอมากนะที่ช่วยดูแลพวกเรา""ยินดี"แคธี่ยิ้มหวานก่อนจะสวมกอดหนุ่มหล่อตรงหน้า จากนั้นทั้งคู่ก็โบกมือลากัน ส่วนเควินดูเหมือนจะติดใจสาวผมทองเพื่อนของแคธี่ ดูเหมือนว่าเขาเองจะยิ้มไม่หุบเช่นกันสองหนุ่มแยกย้ายและเดินทางกลับเพราะการไปส่งในครั้งนี้ใช้รถคนละคันกันออสตินไม่ได้เข้าไปที่บริษัท แต่เขามีนัดกับนิลภพที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ส่วนเรื่องที่นัดในวันนี้น่าจะเป็นเรื่องหนี้สินและการตัดสินใจของนิลภพด้วยณ ร้านคาเฟ่"ขอโทษนะครับที่ให้รอนาน""ไม่นานหรอกครับ ผมเองก็พึ่งมาถึง" นิลภพพูดจาอย่างสุภาพอ่อนโยนแม้ว่าออสตินจะเป็นรุ่นลูกของเขา แต่หน้าที่การงานอิทธิพลต่าง ๆ ของ T.GROP เขาเองก็พอรู้จักอยู่บ้างออสตินหย่อนสะโพกลงนั่งด้านหน้าของเขาคือกาแฟร้อนที่นิลภพพึ่งสั่งไว้รอเป็นจังหวะที่ออสตินมาถึงพอดี ออสตินยกกาแฟขึ้นมาจิบ เมื่อวางแก้วลงก็ยกขาขึ้นไขว่ห้างเคาะนิ้วบนโต๊ะอย่างไม่มีจังหวะ พร้อมเอ่ยถามด้วยท่าทางมาดเข้ม"หวังว่าคูณจะได้คำตอบให้ผมแล้วนะครับ""ผมถ