Beranda / โรแมนติก / My wife เมื่อหมดรัก / บทที่ 2 ลูกเมียหาย

Share

บทที่ 2 ลูกเมียหาย

Penulis: Sitha
last update Terakhir Diperbarui: 2025-08-14 02:19:20

อันธิกาท้วงเธอสั่งคนงานให้ยกกลับให้หมด  และพูดต่อว่าถ้ารถหกล้อคันเดียวขนไม่หมดให้เรียกรถมาเพิ่มอีกคัน  อิสริยาจึงไม่ได้ว่าอะไรตอนแรกเธอเห็นว่าเป็นของชิ้นใหญ่  นึกเกรงใจคนงานเลยไม่สั่งให้ขนไปด้วย แต่ถ้าอันธิกาจัดการได้เธอก็ไม่มีปัญหา

ท้ายสุดอิสริยาเปิดเซฟ  หญิงสาวเลือกเอาไปเฉพาะของของเธอกับลูก  ส่วนอะไรที่เป็นของสกนธีเธอไม่แตะต้อง  จากนั้นจึงไปอุ้มลูกสาวขึ้นมาเด็กหญิงงัวเงียเมื่อมารดาอุ้มออกมานอนต่อบนรถยนต์เพื่อเตรียมตัวเดินทาง

“นอนต่อนะคะลูก”  เธอลูบผมลูกสาวเบาๆ จากนั้นน้องเพียงก็หลับต่อ   อิสริยาถอนใจเมื่อลูกไม่งอแงในช่วงเวลานี้

“เดี๋ยวแบมให้คนงานเอาของไปไว้ที่ร้านพี่เลยนะ  ชั้นสองใช่ไหมพี่เห็นพี่ตกแต่งแล้วนี่”  อันธิกาเดินมาบอกเมื่อคนงานปิดท้ายรถเรียบร้อย

“ขอบใจนะแบม”  เธอตื้อในอกไม่รู้จะพูดอะไร

“ไม่เป็นไรพี่ เดี๋ยวช่วงนี้แบมให้จี๊ดไปอยู่กับพี่นะ จะได้ช่วยดูแลน้องเพียงด้วย  เย็นนี้ไปกินข้าวที่บ้านไหมป๊ากับม้าก็ห่วงพี่นะ”   

อันธิกาพูดถึงแม่บ้านที่อยู่กันมานาน จี๊ดเองก็คุ้นเคยสนิทสนมกับอิสริยาและลูกดี   ประโยคนั้นทำให้พี่สาวน้ำตาร่วง  เธอไม่อยากเอาปัญหาส่วนตัวไปบอกที่บ้านเพราะไม่อยากให้พ่อแม่เป็นห่วง  แต่ตอนนี้ครอบครัวคงเป็นเซฟโซนที่ดีที่สุดสำหรับเธอ 

“ขอบใจนะแบม  เดี๋ยวเย็นๆ พี่พาน้องเพียงไปบ้าน” 

“ร้องไห้ให้พอแล้วหยุดนะพี่  ถึงเวลาที่เราต้องรักตัวเองทำเพื่อตัวเองแล้ว อะไรที่ให้เขาแล้วไม่มีค่าก็ช่างมัน เริ่มต้นใหม่” 

อันธิกาบอกพี่สาว เธอแยกตัวไปขึ้นรถตนเองเพราะมีเรื่องจะต้องกลับไปคุยกับบิดามารดาที่บ้านอีก

อิสริยามองบ้านที่เป็นเรือนหอ เธออยู่ที่นี่มาเจ็ดปีเต็มมันมีความสุขมากในช่วงปีแรก  จนถึงปีที่สองที่เธอตั้งครรภ์ จนเมื่อน้องเพียงเกิดความหวานชื่นค่อยๆ ลดลงเมื่อเธอต้องเลี้ยงลูกเอง ทำงานบ้านและทำงานนอกบ้าน 

สกนธีไม่ชอบให้มีแม่บ้านเขาบอกว่าบ้านควรเป็นที่ส่วนตัว ไม่ควรมีคนนอกเข้ามายุ่มย่าม  ใหม่ๆ เขาก็ช่วยแบ่งเบางานบ้านแต่เมื่อนานไป   เมื่อเขาเปลี่ยนจากพนักงานกินเงินเดือนมาเปิดบริษัทกับเพื่อน  ชายหนุ่มทำงานหนักขึ้นรวมถึงมีพบปะสังสรรค์กับลูกค้ากับหุ้นส่วน  นั่นทำให้เขาไม่มีเวลามาสนใจเรื่องในบ้านจนเธอต้องรับภาระทั้งหมด

อิสริยารู้สึกเหนื่อยแต่เธออดทนได้  เธอรู้ว่าการใช้เสียงดังข่มเมื่อทะเลาะเป็นนิสัยของเขาและมันทำให้เธอเงียบมาตลอด  แต่จนถึงวันนี้ที่เขาทำร้ายความรู้สึกของลูก  ล้ำเส้นเธอด้วยการทำให้น้องเพียงได้ยินในสิ่งที่ไม่ควรฟังทำให้เธอไม่ลังเลอีกต่อไป

สกนธีกลับเข้าบ้านในตอนดึก  เขาแปลกใจที่บ้านมืดสนิททั้งหลัง ชายหนุ่มนึกตำหนิอิสริยาที่ไม่เปิดไฟไว้

“เอ๋ทำไมปล่อยบ้านมืดล่ะ”  เขาเข้ามาในบ้านเปิดไฟขึ้นหากต้องแปลกใจเมื่อเห็นบ้านโล่งผิดปกติ 

“เอ๋  อยู่ไหนน่ะ” 

เขาตะโกนเรียกหาเธอแต่เงียบสนิท ชายหนุ่มขึ้นไปดูบนห้องนอน เขาเปิดไฟทั้งบ้านและพบว่าของที่เธอซื้อมามันหายไปหมด ไม่ว่าจะเป็นของแต่งบ้านหรือของใช้  รวมถึงตัวเธอและลูกสาวด้วย  ชายหนุ่มกลับขึ้นห้องไปดูซองเอกสารมันหายไปด้วย  เขานึกออกว่าเมื่อเช้าเขาไล่เธอออกจากบ้าน

'เดี๋ยวก็คงกลับมาเอง  คงจะรอให้เราไปง้อแต่ไม่ไปหรอก จะเสียการปกครอง'  เขามั่นใจว่าเธอรักเขาและจะไม่ยอมให้ลูกขาดพ่อแน่ๆ เขารู้ว่าถ้าเขาไม่ไปตามเดี๋ยวเธอก็พาลูกกลับมาเอง

เกือบสี่ทุ่มอิสริยาพาลูกกลับมาจากไปทานข้าวที่บ้านพ่อแม่  เด็กหญิงดูร่าเริงขึ้นเมื่อได้พบคนอื่นๆ

“ลูกอาบน้ำนอนนะคะ  พรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียน”  

เธอพาลูกสาวขึ้นมาที่ชั้นสองของร้านค้า  นึกขอบคุณตัวเองที่ตัดสินใจตกแต่งที่นี่เป็นที่พักเมื่อสองเดือนก่อน  ตึกของเธอเป็นอาคารพาณิชย์ขนาดสามคูหา  ข้างบนตีทะลุถึงกันหมดแต่ด้านล่างกั้นเป็นร้านค้าสองร้าน เธอเปิดมินิมาร์ทฝั่งที่เป็นสองห้อง  อีกหนึ่งห้องเธอตกแต่งแล้วปล่อยเช่าซึ่งมีคนมาเปิดร้านกาแฟหลายปีแล้ว

เธอมองไปรอบๆ พรุ่งนี้คงจะต้องไปหาซื้อของสำหรับเด็กอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะเขียนหนังสือหรือของใช้อื่นๆ  เธอเปิดตู้เสื้อผ้าที่ถูกจัดแล้วเรียบร้อย  หญิงสาวหยิบชุดนอนของน้องเพียงออกมาหนึ่งชุด  เอามาให้น้องเพียงดูและถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง

“วันนี้หนูใส่ชุดนี้ดีไหมคะ เจ้าหญิงเอลซ่า” 

“ดีค่ะแม่หนูชอบเจ้าหญิงเอลซ่า”  น้องเพียงยิ้มจนตาหยี 

“งั้นเจ้าหญิงก็ไปอาบน้ำได้แล้วค่ะ  มาแม่อาบให้” 

เธอจัดการพาลูกสาวไปอาบน้ำ หลายอย่างที่นี่น้องเพียงยังไม่รู้จักและไม่คุ้นเคย

“แม่ขา..  แล้วเราจะไม่กลับไปนอนบ้านเหรอคะ”  เด็กน้อยถามในขณะที่แม่พาเข้านอน

อิสริยามองหน้าลูก  “หนูอยากกลับไหมคะ”

น้องเพียงส่ายหน้าทันที   “ไม่ค่ะ หนูกลัวคุณพ่อ คุณพ่อเสียงดัง” 

หญิงสาวกอดลูกไว้  “พ่อเขาโมโหค่ะเลยเสียงดัง แต่คุณพ่อเขารักลูกนะคะถึงเราจะไม่กลับไปแต่เขาก็ยังเป็นพ่อหนู  หนูเข้าใจใช่ไหม” 

เด็กหญิงสุพิชชาพยักหน้า  ซึ่งเธอไม่รู้ว่าลูกสาวเข้าใจแค่ไหนแต่ก็ดีใจที่เด็กหญิงไม่ร้องกลับบ้าน  

“นอนนะคะลูก”  

หนึ่งชั่วโมงต่อมาเมื่อลูกสาวหลับเรียบร้อย  อิสริยาออกมานอกห้องนอนเธอสำรวจของที่นำมา คนงานและแม่บ้านช่วยกันจัดวางให้เข้าที่หมดแล้ว  หญิงสาวเปิดเครื่องซักผ้าเสื้อผ้าเมื่อเช้าที่ซักไว้ของเธอยังไม่แห้งดี  ก็เกิดเรื่องเสียก่อนตอนนี้จึงต้องมาซักซ้ำเพื่อไม่ให้มีกลิ่นอับ  ส่วนในครัวทุกอย่างพร้อมใช้เครื่องครัวต่างๆ ที่เธอเคยซื้อทิ้งไว้ได้ใช้จริงจังก็ตอนนี้เอง

อย่างน้อยการเริ่มต้นใหม่ก็ไม่ได้แย่แบบที่เคยกลัวมาตลอดอิสริยาคิดในใจ  หนทางข้างหน้าคงไม่มีอะไรแย่กว่าที่เคยเจออีกแล้ว  ต่อไปเธอจะทำเพื่อตัวเองและลูกก็พอ

สกนธีตื่นสาย เขาบ่นเมื่อมองนาฬิกา   “เอ๋ทำไมไม่ปลุกพี่ล่ะ สายแล้วเห็นไหม”  เขาพูดก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเช้านี้ไม่มีเธออยู่แล้ว  ชายหนุ่มลุกเข้าห้องน้ำจะอาบน้ำแต่ก็ต้องกลับออกมา

'ยาสีฟันหมด เอ๋เก็บไว้ตรงไหนวะเนี่ย'  เขาออกมารื้อหาทั่วห้องถึงจะเจอว่าบรรดาของใช้ ยาสีฟัน แชมพูเธอซื้อสำรองเก็บไว้ที่ชั้นล่างของตู้เสื้อผ้า

หลังจากนั้นเมื่อเขาจะแต่งตัวก็ต้องหงุดหงิดอีกเมื่อไม่มีชุดทำงานใส่  เขาเดินหาทั่วบ้านจึงเห็นว่าชุดทำงานกองใหญ่ถูกวางทิ้งไว้ตรงที่เขาทะเลาะกับเธอเมื่อวาน

สกนธีลงจากชั้นบนด้วยชุดทำงานยับๆ  เขามองหาเครื่องชงกาแฟไม่เจอและนึกขึ้นได้ว่าอิสริยาเป็นคนซื้อมา เธอคงขนไปด้วยหมด   เขาเปิดลิ้นชักที่เคาน์เตอร์กาแฟไม่มีอะไรเหลืออยู่  น้ำร้อนใช้ไมโครเวฟทำได้แต่เขาไม่มีกาแฟชงอยู่ดี

          ชายหนุ่มมองหาตู้เย็น หากเช้านี้ไม่มีอะไรทานได้น้ำเย็นๆ ก็ยังดี  แต่ตู้เย็นก็ไม่ได้อยู่ที่เดิมเช่นกัน

'นี่ของในบ้านเอ๋เป็นคนซื้อหมดเลยเหรอวะเนี่ย'  เขานึกไม่ออกว่าตัวเองไม่ได้สนใจเรื่องในบ้านมานานแค่ไหน  เพราะไม่เคยขาดแคลนอะไร

'ซื้อใหม่ก็ได้วะ เดี๋ยวเย็นนี้ไปซื้อเลยก็ได้มันจะกี่ตังเชียว'  เขาคิดในใจ  แต่อีกใจแย้งขึ้นมาว่าเดี๋ยวอิสริยาก็กลับมา อดทนไปก่อนไม่กี่วัน

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • My wife เมื่อหมดรัก   ตอนพิเศษ 3

    ณิช‍ชาคลอดลูกท้องที่สองแต่เป็นคนที่สี่ของบ้าน คราวนี้เป็นเด็กผู้หญิงสมใจคุณพ่อที่อยากเลี้ยงลูกสาววัยแบเบาะสักครั้ง “ดีจังเลยนะคะ บ้านเราจะได้ครึกครื้น” คุณนายอิส‍รีย์พูดกับสามี ขณะที่อุ้มทารกวัยแรกเกิดในอ้อมแขนอย่างระมัดระวัง “จริง ป๊าว่ามีอีกสักคนสองคนก็ดีนะอาตี๋ อั๊วมีสมบัติเยอะแยะแต่ลูกหลานรอรับสมบัติมีน้อยจัง ตอนนี้มีหลานแค่อาเพียง อาชมพู อาวิน หวาน‍หวาน อาคี‍น แล้วก็เจ้าตัวเล็กคนนี้ส่วนอาแบมจะแต่งงานเมื่อไหร่ก็ไม่รู้” พ่อสามีพูดไปด้วยก็มองหลานสาวคนใหม่ไปด้วยสายตาแห่งความรัก เป็นความรักที่เกิดขึ้นทันทีหลังจากที่เด็กน้อยเกิดมาในฐานะหลานของครอบครัวอีกคน“ยังไม่ได้คิดเรื่องนี้เลยครับป๊า กลัวจะไม่มีเวลาให้ลูกมากพอจะดูแลไม่ทั่วถึง” อังกูรเลี่ยงไปก่อน ตัวเขาและภรรยาเคยคุยกันเรื่องนี้ว่าเธอจะทำหมันเลยหรือไม่ในตอนที่คลอดลูกคนนี้ แต่ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปเพราะณิช‍ชาลังเล ส่วนอังกูรเองก็เห็นว่าเธอยังอยู่ในวัยสาวจึงตกลงใจว่าหลังคลอดจะใช้วิธีคุมกำเนิดแบบอื่นไปก่อนเด็กหญิงพุดพิชชาหรือ “น้องวุ้น” มีสุขภาพแข็งแรงดี เธอมีอาการร้องไห้ในช่วงดึกหรือโคลิกอยู่สามเดือนเต็ม ทำเ

  • My wife เมื่อหมดรัก   ตอนพิเศษ 2

    วันนั้นทั้งอังกูรและณิช‍ชาเหมือนได้ย้อนกลับไปเติมเต็มความสัมพันธ์ส่วนที่ขาดหายไประหว่างเขาสองคน นั่นคือการ ‘จีบ’ กันนั่นเอง ชายหนุ่มพาเธอไปดูหนังที่โรงภาพยนตร์ จากนั้นก็เป็นการไปใช้เวลาละเลียดอาหารและขนมอร่อยในร้านที่ณิช‍ชาเป็นฝ่ายเลือกและปิดท้ายด้วยการไปช็อปปิง“เอาเสื้อแบบนี้ไปบ้างไหมคะ สดใสดี” ณิช‍ชาทาบเสื้อฮาวายพื้นขาวมีลายสีน้ำทะเลลงบนไหล่สามี เหตุเพราะว่าอังกูรมีแต่เสื้อผ้าสีพื้นในตู้ ไม่ว่าจะเป็นสีขาวล้วน เทาล้วน น้ำเงินล้วน หรือดำสนิทก็ตามและสูทหรือเนกไทก็มักจะเป็นไปในทางเดียวกัน“ถ้าณิชว่าดีก็เลือกมาให้เฮียหน่อย” ปีนี้เขาอายุสามสิบเจ็ดย่างสามสิบแปดอยู่แล้วในขณะที่ณิช‍ชาอ่อนวัยกว่าถึงสิบปีเต็ม อังกูรจึงเริ่มอยากหันมาดูแลตัวเองเพราะไม่อยากให้ดูว่าอายุมาก ในขณะที่ณิช‍ชากำลังเป็นสาวสะพรั่งเต็มเนื้อเต็มตัวณิช‍ชาเลือกเสื้อผ้าให้เขาใหม่หนึ่งเซตใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชุดลำลองสำหรับวันพักผ่อนหรือไปเที่ยวไหนกับครอบครัว ส่วนเสื้อผ้าทำงานของเขาเธอมองว่าเหมาะสมดีอยู่แล้วจากนั้นอังกูรพาณิช‍ชาไปร้านจิวเวลลี่เพื่อหาแหวนเพชรวงเล็กๆ สำหรับให้เธอใส่ได้ทุกวัน เพราะว่าหญิงสาวเคยบอกว

  • My wife เมื่อหมดรัก   ตอนพิเศษ 1

    เนื่องจากณิช‍ชาตั้งครรภ์ ผู้ใหญ่จึงแนะนำให้ทั้งสองจัดพิธีแต่งงานก่อนที่จะคลอด เพราะเกรงว่าหากเวลาล่วงเลยไปมากกว่านี้ พวกเขาจะต้องยุ่งกับภารกิจเลี้ยงลูกอ่อนไปอีกยาวเป็นปีแน่นอน ดังนั้นพิธีมงคลสมรสจึงถูกจัดขึ้นในอีกสองเดือนต่อมา"เหนื่อยไหมณิช นั่งก่อนเฮียให้คนจัดโต๊ะกินข้าวแล้ว รอสักเดี๋ยว” อังกูรถามหลังจากที่จบพิธีช่วงครึ่งวันเช้าซึ่งเป็นพิธียกน้ำชาแบบธรรมเนียมจีน บ่าวสาวจะมีเวลาพักผ่อนส่วนตัวในช่วงบ่ายประมาณสามชั่วโมง ก่อนที่จะต้องไปแต่งตัวสำหรับงานเลี้ยงช่วงค่ำชายหนุ่มเปลี่ยนสรรพนามเรียกตัวเองว่า “เฮีย” ตามธรรมเนียมของครอบครัว ตั้งแต่ที่ตกลงใจเรื่องจัดงานแต่งเป็นเรื่องเป็นราวและพาเธอเดินสายแจกการ์ดให้กับญาติๆ และผู้ใหญ่ที่นับถือ ณิช‍ชาเองแรกๆ ไม่ชินปากแต่นานไปเธอก็เรียกเขาว่าเฮียได้แบบเคยชินไปเอง“หิวค่ะแต่ไม่มาก...รอได้ เด็กๆ จะขึ้นมากันหรือยังคะเฮีย”“กำลังมาน่ะเฮียโทรลงไปตามแล้ว เล่นกันอยู่ที่ห้องป๊าม้าถามแล้วว่ายังไม่ได้กินข้าวเที่ยงกัน เฮียก็เลยบอกให้พี่เลี้ยงพาขึ้นมาให้หมดทั้งสามคน” ทั้งสองอยู่ในห้องพักชั้นสามที่บ้านใหญ่ซึ่งเป็นโซนส่วนตัวของอังกูรทั้งชั้น เดิมป

  • My wife เมื่อหมดรัก   สมาชิกใหม่  & ตอนจบ

    เจ้าหน้าที่ตำรวจไปตามพิกัดที่ได้จากคนร้ายส่งมา หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบที่แฝงตัวเป็นคนเก็บขยะได้จับกุมกำพลและเมลินดาอย่างง่ายดาย เพราะกำพลไม่สู้อยู่แล้วเนื่องจากกลัวถูกวิสามัญฆาตกรรม ส่วนเมลินดาก็แพ้พิษมดแดงจนเกาไม่หยุดทำให้หลบหนีไม่รอด“แล้วเด็กสองคนอยู่ไหน” “ฉันจะไปรู้ได้ไง พวกมันหนีไปตั้งนานแล้ว” เมลินดาปฏิเสธว่าไม่รู้ ทำให้เธอถูกสอบสวนเพิ่มอย่างหนัก“ลูกหายไปที่ไหนคะ” ณิช‍ชาร้องไห้เมื่อไม่พบว่าลูกสองคนอยู่ในบ้านเมลินดา“ใจเย็นๆ นะณิช ลูกอาจจะหลบอยู่แถวนี้” อังกูรปลอบใจหญิงสาวทั้งที่ตัวเองก็หนักใจ “ณิชเกิดอะไรขึ้นลูก” ป้าน้อยที่ได้ยินเสียงและผู้คนมากมายในย่านละแวกบ้านก็อดไม่ได้ที่จะมาดู มีชาวบ้านคนหนึ่งเล่าเรื่องให้แกฟัง รู้รายละเอียดประดุจป้าข้างบ้านทั้งที่ก็เพิ่งมาก่อนแกไม่นาน ป้าน้อยจึงตกใจมาก “เออ แล้วคี‍นก็หายไปนานละด้วยนะ บอกป้าว่าจะไปจับหิ่งห้อยในสวนน่ะ” แกตบเข่าฉาด“คี‍นหายไปตอนไหนคะป้าน้อย” ณิช‍ชารีบถาม“น่าจะสักทุ่มนึงนะ เขาบอกว่าจะไปดูหิ่งห้อยในสวน ละเด็กมันไปประจำป้าเห็นว่าเขาไม่ได้ออกนอกเขตบ้านก็เลยไม่ได้ว่าอะไร” แกฉุกใจคิดว่าตอนแกเด

  • My wife เมื่อหมดรัก   ฮีโร่ตัวเล็ก

    เด็กชายเข‍มินท์มองภาพที่วินและหวาน‍หวานถูกพาเข้าไปในบ้านของเพื่อนบ้านอีกคนอย่างไม่เข้าใจ ตอนนั้นเขากำลังเดินมาหาหิ่งห้อยในสวนหลังบ้านของนางน้อย จึงทันได้เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวพอดี“ไม่เห็นอาณิชบอกเลยว่าพี่วินกับพี่หวานจะมา แล้วพี่วินมากับป้าเมลได้ยังไง” เด็กชายไม่เข้าใจเลย แต่ความที่เมลินดาเสียงดังและหงุดหงิดทำให้เขาเข้าใจว่านี่อาจจะไม่ใช่สภาวะปกติ ทำให้เขาแอบดูด้วยความกลัวและระวังว่าอีกฝ่ายจะเห็นเด็กชายวัยเจ็ดขวบลัดเลาะผ่านเข้าไปในเขตบ้านของเมลินดา ที่มีเพียงแนวกอกล้วยห่างๆ เป็นรั้วธรรมชาติ เขาแอบฟังเมลินดาและกำพลพูดคุยอยู่ครู่หนึ่งจึงได้คำตอบให้ตัวเอง“พี่วินกับพี่หวานถูกป้าเมลจับตัวมาแบบในหนังเลย” ทันทีที่เห็นกำพลขับรถออกไป ซึ่งเขาได้ยินว่าเมลินดาสั่งให้ไปซื้ออะไรมาให้คู่แฝดกิน เด็กชายจึงหาทางแอบเข้าไปในตัวบ้านอย่างมุ่งมั่นว่าจะไปช่วยญาติทั้งสอง เขาเปิดประตูหลังบ้านที่ไม่เคยมีกลอนล็อกดังนั้นเขาจึงเข้าไปได้อย่างง่ายดาย“คี‍นมาช่วยแล้วพี่แฝด” “หวาน‍หวานใจเย็นนะ ไม่ต้องกลัว” วินปลอบน้องสาว“วินไม่กลัวเหรอ” หวาน‍หวานย้อนถามเด็กชายส่ายหน้าทันที “ไม่กลัว”“ทำไมล่ะ ไม่กล

  • My wife เมื่อหมดรัก   ผู้ร้ายหรือผู้ประสบภัย

    “นี่เราต้องเอาไอ้เด็กเวรสองคนนี่ไปด้วยจริงๆ เหรอเมล” กำพลแฟนหนุ่มของเมลินดาเริ่มทนไม่ไหว หลังจากที่ต้องรับมือกับคู่แฝดมานานเกินห้าชั่วโมง“พี่ว่าเราเอาสมบัติที่ติดตัวมันมาไปขายแล้วปล่อยมันไว้ตรงไหนสักที่ก็พอมั้ง” “โอ๊ย มันจะมีอะไรติดตัวมาสักเท่าไหร่ ไอ้สร้อยทองจี้เล็กๆ ไม่น่าจะเกินบาทนึง สองเส้นก็สองบาทได้ยังไม่ถึงแสนเอาไปทำอะไรได้ อย่าโง่สิพี่” เนื่องจากวันนี้เด็กๆ ใส่ชุดไทย อันธิกาจึงเลือกสร้อยคอทองคำเส้นเล็กๆ มาให้หลานใส่เป็นเครื่องประดับ และมันก็มีมูลค่าไม่มากหากจะนำไปขาย และยังเสี่ยงกับการถูกจับอีกด้วย “แต่พี่กลัวถูกจับ กลัวติดคุกนี่มันคดีอาญาเลยนะเมล” กำพลเริ่มใจคอไม่ดี“ปล่อยมันไปตอนนี้คิดเหรอว่าจะไม่โดนคดี โดนตั้งแต่ตีหัวนังเอมี่ละจับมันไปขังในห้องเก็บของหลังห้างแล้ว ไม่รู้ป่านนี้เลือดไหลหมดตัวตายไปหรือยัง สาระแนดีนัก” เมลินดาพูดต่อด้วยความฉุนเฉียว “ละไอ้นาฬิกาของอีเด็กนี่ที่โยนทิ้งไป ก็ไม่รู้ว่าตำรวจตามเจอหรือยังเถอะ”“หนูหิวข้าว I'm hungry ” หวาน‍หวานตะโกนขึ้นมาจากเบาะหลัง “เงียบ” เมลินดาหันไปตวาดใส่“ก็หนูหิว นี่มันเย็นแล้วนะคะคุณป้า”

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status