Beranda / โรแมนติก / My wife เมื่อหมดรัก / บทที่ 1  ไล่เมียออกจากบ้าน

Share

My wife  เมื่อหมดรัก
My wife เมื่อหมดรัก
Penulis: Sitha

บทที่ 1  ไล่เมียออกจากบ้าน

Penulis: Sitha
last update Terakhir Diperbarui: 2025-08-14 02:18:32

“น้องเพียงรีบกินข้าวลูก  วันนี้แม่ต้องไปซื้อของเข้าร้านค่ะ” 

เสียงนั้นทำให้เด็กหญิงวัยห้าขวบรีบทานเร็วขึ้น  วันนี้เป็นวันหยุดเด็กหญิงสุพิชชาจะไปที่ร้านกับมารดา 

ร้านที่ว่าคือมินิมาร์ทที่แม่ของเธอเป็นเจ้าของ   อิสริยาเปิดร้านนี้ตั้งแต่แต่งงานปีแรก เดิมทีก่อนหน้านั้นหญิงสาวทำงานประจำ แต่เมื่อแต่งงานแล้วสกนธีขอให้เธอออกจากงานมาเป็นแม่บ้าน แต่เมื่อเธอยอมทำตามที่เขาขอกลับพบว่าสกนธีไม่สามารถซัปพอร์ตเธอได้เท่าที่ควร  และอิสริยาเองก็ไม่อยากขอเงินสามีใช้  เธอจึงตัดสินใจเอาเงินเก็บที่มีมาเปิดร้านมินิมาร์ทที่ตึกเก่าของครอบครัวซึ่งอยู่ในย่านการค้า

“คุณพ่อล่ะคะแม่” เด็กหญิงถามเมื่อนึกขึ้นได้

“คุณพ่อนอนดึกลูกเลยยังไม่ตื่น  เราออกไปกันก่อนก็ได้ค่ะ”  หญิงสาวตอบเด็กน้อยที่ฉลาดขึ้นทุกวัน

“คุณพ่อทำงานดึกหาเงินมาเลี้ยงหนูกับคุณแม่ใช่ไหมคะ”  

เด็กหญิงพูดต่อ  คนเป็นแม่เงียบกริบเธอไม่อยากทำลายภาพพ่อที่ดีในสายตาของลูก  จึงไม่ได้แย้งว่าความจริงแล้วสกนธีมีหน้าที่ในบ้านเพียงแค่จ่ายค่าเทอมลูกเท่านั้น  นอกนั้นกินอยู่ ค่าเสื้อผ้าค่าน้ำไฟ ค่าของใช้ แม้แต่ค่ากับข้าวเธอก็ต้องออกเองหมด

สกนธีเดินลงมาจากชั้นบน   ชายหนุ่มมีนัดตอนเช้ากับหุ้นส่วนเรื่องโพรเจกต์ใหม่

“วันนี้พี่ต้องไปคุยงานกับนนท์อาจจะกลับดึก  เอ๋ไม่ต้องทำกับข้าวเผื่อนะ”  เขาหยิบเอกสารที่โต๊ะทำงานเตรียมออกไปข้างนอก

“คุณพ่อขา  หนูอยากไปเที่ยวค่ะ” 

เด็กหญิงรีบลงจากเก้าอี้ไปหาบิดา  สกนธีก้มลงหอมแก้มลูกสาวหนึ่งฟอดก่อนจะตอบว่า

“วันนี้คุณพ่อไม่ว่างเลยค่ะ  น้องเพียงไปกับคุณแม่ก่อนได้ไหมคะ” 

เด็กหญิงหน้ามุ่ยแต่ก็ยอมเข้าใจ  “งั้นคราวหน้าคุณพ่อต้องไปกับหนูนะ” 

“จ้ะ พ่อไปนะคะ”  สกนธีอุ้มลูกสาวพากลับมาส่งที่โต๊ะทานอาหารและหยิบกุญแจรถออกไป  สักพักเสียงรถยนต์ของเขาออกจากบ้านไปอิสริยาจึงขยับตัว

“ไปกันรึยังคะลูก” 

เช้าวันต่อมาอิสริยาเก็บเสื้อผ้าของสกนธีเตรียมแยกใส่เครื่องซักผ้า  ปกติวันอาทิตย์เธอจะอยู่บ้านครึ่งวันเช้าทำงานบ้านและเข้าร้านในช่วงบ่าย  เธอขมวดคิ้วเมื่อเห็นรอยลิปสติกบนปกเสื้อและกลิ่นน้ำหอมที่ไม่ใช่ของเขา

เธอตัดสินใจโทรศัพท์ไปหาชานนท์ เพื่อนรุ่นน้องของสามีและเป็นหุ้นส่วนทำบริษัทเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมด้วยกัน

“พี่นนท์เหรอ เอ๋เองนะคะ”   เธอบอกเมื่อปลายทางรับสาย

“สวัสดีครับเอ๋”  ชานนท์ตอบกลับมา

“เอ๋อยากถามว่าเมื่อคืนพี่เก่งเขาไปคุยงานกับพี่นนท์ใช่ไหมคะ”  

“ครับ เมื่อคืนไปคุยกันที่ร้านเฮียหมิง แต่ไม่ดึกนะครับแค่สามทุ่มก็แยกย้าย”  ชานนท์ตอบตามตรง

“ขอบคุณค่ะพี่นนท์ ไม่รบกวนแล้วสวัสดีค่ะ” 

อิสริยาวางสายเธอรู้สึกหมดแรง  ชานนท์บอกว่าแค่สามทุ่มก็แยกย้าย แต่สกนธีกลับมาถึงบ้านตอนตีสอง  ที่ผ่านมาเธอปิดหูปิดตามาตลอดจนถึงวันนี้ที่รู้สึกว่าไม่อยากอดทนอีกแล้ว

           วันนั้นสกนธีตื่นในตอนเกือบสิบนาฬิกา  ตอนนั้นอิสริยากำลังเก็บผ้าที่เริ่มแห้งส่งร้านซักรีด 

“อ้าวทำไมเสื้อตัวนี้ไม่เอาไปซักด้วยล่ะเอ๋”  ชายหนุ่มถามเมื่อเห็นเสื้อเชิ้ตเมื่อคืนยังอยู่ในถังผ้า

“เมื่อคืนพี่เก่งไปไหนมาคะ”  อิสริยาถามโดยไม่หันมามองเขา

“อ้าวพี่บอกแล้วไงว่าไปคุยงานกับไอ้นนท์”  สกนธีตอบ เขาขมวดคิ้วเมื่ออิสริยาเดินมาหยิบเสื้อตัวนั้นขึ้นมาแล้วคลี่ให้เห็นปกเสื้อ

“แล้วนี่อะไรคะ” 

สกนธีอึ้งเขาไม่รู้ตัวว่าเด็กเมื่อคืนจะทิ้งหลักฐานไว้ 

“ในร้านแบบนี้ก็มีเด็กดริงก์นั่งคุยเป็นปกติ มันจะอะไรนักหนาล่ะ พี่ไม่ได้ไปทำอะไรไม่ดีสักหน่อย”

“อ้อ แล้วเลิกคุยสามทุ่มพี่ไปไหนต่อถึงกลับบ้านตีสอง” 

หญิงสาวตัดสินใจถามตรงๆ 

“นี่เธอโทรไปถามเพื่อนพี่เหรอ  ไอ้นนท์มันจะคิดว่าพี่เป็นยังไงเมียถึงโทรเช็กแบบนี้  ก่อนจะโทษคนอื่นดูตัวเองก่อนนะว่าหน้าตาดูได้ไหมโทรมขนาดนี้ใครจะไปอยากอยู่ใกล้  ไม่ขอเลิกก็ดีเท่าไหร่แล้ว” 

สกนธีเอาเสียงดังเข้าข่ม เขารู้ว่าจุดอ่อนเธอคือเรื่องที่อิสริยาจะไม่ยอมให้ลูกขาดพ่อเด็ดขาด  ไม่ว่าจะทะเลาะกันกี่ครั้งที่ผ่านมาพอเขาพูดเรื่องเลิกเธอจะเงียบและเป็นฝ่ายยอมเขามาตลอด

แต่วันนี้เธอเองก็ไม่อยากทนแล้ว  ที่โทรมที่ไม่สวยเหมือนเดิมก็ไม่ใช่เพราะเขาก็มีส่วนหรอกหรือ

“ถ้ามันแย่ขนาดนั้นก็ไม่ต้องอยู่ค่ะ  เราเลิกกันเลยก็ได้”  อิสริยาพูดเสียงเรียบ เธอทนข่มความรู้สึกจนกลายเป็นความเก็บกดมาหลายปี 

สกนธีโมโหขึ้นมาทั้งที่เขาเป็นฝ่ายผิด  “งั้นก็ออกไปเลยเก็บของออกไปทั้งแม่ทั้งลูกบ้านนี้เป็นของพี่เพราะพี่เป็นคนซื้อ  ถ้าคิดว่าที่อื่นอยู่ได้ก็ออกไปพาลูกเธอไปด้วย  มีปัญญาเลี้ยงลูกเองก็ไปเลย”

เสียงเด็กหญิงสุพิชชาร้องไห้จ้าเมื่อได้ยินพ่อไล่เธอและแม่  อิสริยาตรงไปกอดลูกส่วนสกนธีเดินกระแทกเท้าปังๆ ออกไปจากบ้าน

อิสริยากอดปลอบลูกสักพักจนเด็กหญิงเงียบ  และร้องไห้จนหลับไปเอง   หญิงสาวปล่อยลูกให้นอนหลับและเมื่อเห็นว่าเด็กหญิงหลับสนิทดีแล้วหลังจากนั้นจึงหยิบโทรศัพท์มาโทรหาน้องสาว

“แบมเหรอมาช่วยพี่เก็บของหน่อย เอารถที่บ้านมาด้วย”  เมื่ออีกฝ่ายรับสายเธอก็แจ้งถึงสิ่งที่ต้องการให้ช่วยทันทีจนน้องสาวงง

“อ้าวพี่เกิดอะไรขึ้น”  เสียงน้องสาวถามมาอย่างแปลกใจอิสริยาจึงเล่าเรื่องคร่าวๆ ให้น้องฟังและกำชับว่า 

“มาเร็วๆ นะ เดี๋ยวค่อยมาคุยกัน” 

“ได้เลยพี่เอ๋  เดี๋ยวจะเอาลูกน้องไปช่วยขนด้วยมันไล่แล้วจะไปอยู่ทำไม” 

ฝ่ายนั้นรับคำอย่างโมโห  ก่อนสายจะตัดไปอิสริยาได้ยินเสียงน้องสาวเรียกหาลูกน้องเสียงดังไปหมด

ต่อจากนั้นหญิงสาวโทรไปที่ร้านมินิมาร์ทที่ตัวเองเป็นเจ้าของ  สั่งให้แม่บ้านที่ร้านทำความสะอาดห้องพักด้านบนที่เธอตกแต่งเป็นห้องนอนไว้ก่อนหน้าเหมือนจะรู้ว่าจะมีวันนี้   เพราะอิสริยาเพิ่งรีโนเวตชั้นบนเป็นที่พักและตกแต่งเสร็จเมื่อสองเดือนที่แล้วเอง

เธอรอเพียงไม่นานอันธิกาก็มาถึงพร้อมกับลูกน้องที่บ้าน  และเพราะว่าครอบครัวเดิมของเธอทำธุรกิจค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภค  จึงมีโกดังของตัวเองและมีลูกน้องมากมายที่พร้อมมาช่วยขนของแม้ว่าจะกะทันหันก็ตาม  น้องสาวของเธอขับรถส่วนตัวมาและมีหัวหน้าคนงานขับรถหกล้อมาอีกหนึ่งคัน 

อิสริยามีหน้าที่เพียงชี้สั่งว่าเธอจะเอาอะไรไปบ้าง  จากนั้นทุกสิ่งก็ถูกขนขึ้นรถในเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมง

อันธิกาเข้ามาช่วยพี่สาวเก็บเสื้อผ้าของส่วนตัวและดูแลหลานสาวในห้องนอน

“พวกเอกสารสำคัญเอาไปหมดรึยังพี่”  น้องสาวเตือน

“หมดแล้ว” 

อิสริยาตอบสั้นๆ เธอไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับสกนธี  เขาทำเพียงจดทะเบียนรับรองบุตรในตอนที่น้องเพียงเกิดมาจึงไม่มีเอกสารอะไรที่ยุ่งยาก 

บ้านโล่งขึ้นมากกว่าเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์เมื่อเธอให้คนงานขนของส่วนที่เป็นของเธอออก

“แล้วนี่ล่ะพี่ ชุดรับแขกนี่เงินพี่นะชุดละเกือบแสนไม่เอาไปเหรอ  โต๊ะกินข้าวอีกไม้สักทองที่ป๊ายกให้ตอนแต่งงานก็ด้วย” 

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • My wife เมื่อหมดรัก   ตอนพิเศษ 3

    ณิช‍ชาคลอดลูกท้องที่สองแต่เป็นคนที่สี่ของบ้าน คราวนี้เป็นเด็กผู้หญิงสมใจคุณพ่อที่อยากเลี้ยงลูกสาววัยแบเบาะสักครั้ง “ดีจังเลยนะคะ บ้านเราจะได้ครึกครื้น” คุณนายอิส‍รีย์พูดกับสามี ขณะที่อุ้มทารกวัยแรกเกิดในอ้อมแขนอย่างระมัดระวัง “จริง ป๊าว่ามีอีกสักคนสองคนก็ดีนะอาตี๋ อั๊วมีสมบัติเยอะแยะแต่ลูกหลานรอรับสมบัติมีน้อยจัง ตอนนี้มีหลานแค่อาเพียง อาชมพู อาวิน หวาน‍หวาน อาคี‍น แล้วก็เจ้าตัวเล็กคนนี้ส่วนอาแบมจะแต่งงานเมื่อไหร่ก็ไม่รู้” พ่อสามีพูดไปด้วยก็มองหลานสาวคนใหม่ไปด้วยสายตาแห่งความรัก เป็นความรักที่เกิดขึ้นทันทีหลังจากที่เด็กน้อยเกิดมาในฐานะหลานของครอบครัวอีกคน“ยังไม่ได้คิดเรื่องนี้เลยครับป๊า กลัวจะไม่มีเวลาให้ลูกมากพอจะดูแลไม่ทั่วถึง” อังกูรเลี่ยงไปก่อน ตัวเขาและภรรยาเคยคุยกันเรื่องนี้ว่าเธอจะทำหมันเลยหรือไม่ในตอนที่คลอดลูกคนนี้ แต่ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปเพราะณิช‍ชาลังเล ส่วนอังกูรเองก็เห็นว่าเธอยังอยู่ในวัยสาวจึงตกลงใจว่าหลังคลอดจะใช้วิธีคุมกำเนิดแบบอื่นไปก่อนเด็กหญิงพุดพิชชาหรือ “น้องวุ้น” มีสุขภาพแข็งแรงดี เธอมีอาการร้องไห้ในช่วงดึกหรือโคลิกอยู่สามเดือนเต็ม ทำเ

  • My wife เมื่อหมดรัก   ตอนพิเศษ 2

    วันนั้นทั้งอังกูรและณิช‍ชาเหมือนได้ย้อนกลับไปเติมเต็มความสัมพันธ์ส่วนที่ขาดหายไประหว่างเขาสองคน นั่นคือการ ‘จีบ’ กันนั่นเอง ชายหนุ่มพาเธอไปดูหนังที่โรงภาพยนตร์ จากนั้นก็เป็นการไปใช้เวลาละเลียดอาหารและขนมอร่อยในร้านที่ณิช‍ชาเป็นฝ่ายเลือกและปิดท้ายด้วยการไปช็อปปิง“เอาเสื้อแบบนี้ไปบ้างไหมคะ สดใสดี” ณิช‍ชาทาบเสื้อฮาวายพื้นขาวมีลายสีน้ำทะเลลงบนไหล่สามี เหตุเพราะว่าอังกูรมีแต่เสื้อผ้าสีพื้นในตู้ ไม่ว่าจะเป็นสีขาวล้วน เทาล้วน น้ำเงินล้วน หรือดำสนิทก็ตามและสูทหรือเนกไทก็มักจะเป็นไปในทางเดียวกัน“ถ้าณิชว่าดีก็เลือกมาให้เฮียหน่อย” ปีนี้เขาอายุสามสิบเจ็ดย่างสามสิบแปดอยู่แล้วในขณะที่ณิช‍ชาอ่อนวัยกว่าถึงสิบปีเต็ม อังกูรจึงเริ่มอยากหันมาดูแลตัวเองเพราะไม่อยากให้ดูว่าอายุมาก ในขณะที่ณิช‍ชากำลังเป็นสาวสะพรั่งเต็มเนื้อเต็มตัวณิช‍ชาเลือกเสื้อผ้าให้เขาใหม่หนึ่งเซตใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชุดลำลองสำหรับวันพักผ่อนหรือไปเที่ยวไหนกับครอบครัว ส่วนเสื้อผ้าทำงานของเขาเธอมองว่าเหมาะสมดีอยู่แล้วจากนั้นอังกูรพาณิช‍ชาไปร้านจิวเวลลี่เพื่อหาแหวนเพชรวงเล็กๆ สำหรับให้เธอใส่ได้ทุกวัน เพราะว่าหญิงสาวเคยบอกว

  • My wife เมื่อหมดรัก   ตอนพิเศษ 1

    เนื่องจากณิช‍ชาตั้งครรภ์ ผู้ใหญ่จึงแนะนำให้ทั้งสองจัดพิธีแต่งงานก่อนที่จะคลอด เพราะเกรงว่าหากเวลาล่วงเลยไปมากกว่านี้ พวกเขาจะต้องยุ่งกับภารกิจเลี้ยงลูกอ่อนไปอีกยาวเป็นปีแน่นอน ดังนั้นพิธีมงคลสมรสจึงถูกจัดขึ้นในอีกสองเดือนต่อมา"เหนื่อยไหมณิช นั่งก่อนเฮียให้คนจัดโต๊ะกินข้าวแล้ว รอสักเดี๋ยว” อังกูรถามหลังจากที่จบพิธีช่วงครึ่งวันเช้าซึ่งเป็นพิธียกน้ำชาแบบธรรมเนียมจีน บ่าวสาวจะมีเวลาพักผ่อนส่วนตัวในช่วงบ่ายประมาณสามชั่วโมง ก่อนที่จะต้องไปแต่งตัวสำหรับงานเลี้ยงช่วงค่ำชายหนุ่มเปลี่ยนสรรพนามเรียกตัวเองว่า “เฮีย” ตามธรรมเนียมของครอบครัว ตั้งแต่ที่ตกลงใจเรื่องจัดงานแต่งเป็นเรื่องเป็นราวและพาเธอเดินสายแจกการ์ดให้กับญาติๆ และผู้ใหญ่ที่นับถือ ณิช‍ชาเองแรกๆ ไม่ชินปากแต่นานไปเธอก็เรียกเขาว่าเฮียได้แบบเคยชินไปเอง“หิวค่ะแต่ไม่มาก...รอได้ เด็กๆ จะขึ้นมากันหรือยังคะเฮีย”“กำลังมาน่ะเฮียโทรลงไปตามแล้ว เล่นกันอยู่ที่ห้องป๊าม้าถามแล้วว่ายังไม่ได้กินข้าวเที่ยงกัน เฮียก็เลยบอกให้พี่เลี้ยงพาขึ้นมาให้หมดทั้งสามคน” ทั้งสองอยู่ในห้องพักชั้นสามที่บ้านใหญ่ซึ่งเป็นโซนส่วนตัวของอังกูรทั้งชั้น เดิมป

  • My wife เมื่อหมดรัก   สมาชิกใหม่  & ตอนจบ

    เจ้าหน้าที่ตำรวจไปตามพิกัดที่ได้จากคนร้ายส่งมา หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบที่แฝงตัวเป็นคนเก็บขยะได้จับกุมกำพลและเมลินดาอย่างง่ายดาย เพราะกำพลไม่สู้อยู่แล้วเนื่องจากกลัวถูกวิสามัญฆาตกรรม ส่วนเมลินดาก็แพ้พิษมดแดงจนเกาไม่หยุดทำให้หลบหนีไม่รอด“แล้วเด็กสองคนอยู่ไหน” “ฉันจะไปรู้ได้ไง พวกมันหนีไปตั้งนานแล้ว” เมลินดาปฏิเสธว่าไม่รู้ ทำให้เธอถูกสอบสวนเพิ่มอย่างหนัก“ลูกหายไปที่ไหนคะ” ณิช‍ชาร้องไห้เมื่อไม่พบว่าลูกสองคนอยู่ในบ้านเมลินดา“ใจเย็นๆ นะณิช ลูกอาจจะหลบอยู่แถวนี้” อังกูรปลอบใจหญิงสาวทั้งที่ตัวเองก็หนักใจ “ณิชเกิดอะไรขึ้นลูก” ป้าน้อยที่ได้ยินเสียงและผู้คนมากมายในย่านละแวกบ้านก็อดไม่ได้ที่จะมาดู มีชาวบ้านคนหนึ่งเล่าเรื่องให้แกฟัง รู้รายละเอียดประดุจป้าข้างบ้านทั้งที่ก็เพิ่งมาก่อนแกไม่นาน ป้าน้อยจึงตกใจมาก “เออ แล้วคี‍นก็หายไปนานละด้วยนะ บอกป้าว่าจะไปจับหิ่งห้อยในสวนน่ะ” แกตบเข่าฉาด“คี‍นหายไปตอนไหนคะป้าน้อย” ณิช‍ชารีบถาม“น่าจะสักทุ่มนึงนะ เขาบอกว่าจะไปดูหิ่งห้อยในสวน ละเด็กมันไปประจำป้าเห็นว่าเขาไม่ได้ออกนอกเขตบ้านก็เลยไม่ได้ว่าอะไร” แกฉุกใจคิดว่าตอนแกเด

  • My wife เมื่อหมดรัก   ฮีโร่ตัวเล็ก

    เด็กชายเข‍มินท์มองภาพที่วินและหวาน‍หวานถูกพาเข้าไปในบ้านของเพื่อนบ้านอีกคนอย่างไม่เข้าใจ ตอนนั้นเขากำลังเดินมาหาหิ่งห้อยในสวนหลังบ้านของนางน้อย จึงทันได้เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวพอดี“ไม่เห็นอาณิชบอกเลยว่าพี่วินกับพี่หวานจะมา แล้วพี่วินมากับป้าเมลได้ยังไง” เด็กชายไม่เข้าใจเลย แต่ความที่เมลินดาเสียงดังและหงุดหงิดทำให้เขาเข้าใจว่านี่อาจจะไม่ใช่สภาวะปกติ ทำให้เขาแอบดูด้วยความกลัวและระวังว่าอีกฝ่ายจะเห็นเด็กชายวัยเจ็ดขวบลัดเลาะผ่านเข้าไปในเขตบ้านของเมลินดา ที่มีเพียงแนวกอกล้วยห่างๆ เป็นรั้วธรรมชาติ เขาแอบฟังเมลินดาและกำพลพูดคุยอยู่ครู่หนึ่งจึงได้คำตอบให้ตัวเอง“พี่วินกับพี่หวานถูกป้าเมลจับตัวมาแบบในหนังเลย” ทันทีที่เห็นกำพลขับรถออกไป ซึ่งเขาได้ยินว่าเมลินดาสั่งให้ไปซื้ออะไรมาให้คู่แฝดกิน เด็กชายจึงหาทางแอบเข้าไปในตัวบ้านอย่างมุ่งมั่นว่าจะไปช่วยญาติทั้งสอง เขาเปิดประตูหลังบ้านที่ไม่เคยมีกลอนล็อกดังนั้นเขาจึงเข้าไปได้อย่างง่ายดาย“คี‍นมาช่วยแล้วพี่แฝด” “หวาน‍หวานใจเย็นนะ ไม่ต้องกลัว” วินปลอบน้องสาว“วินไม่กลัวเหรอ” หวาน‍หวานย้อนถามเด็กชายส่ายหน้าทันที “ไม่กลัว”“ทำไมล่ะ ไม่กล

  • My wife เมื่อหมดรัก   ผู้ร้ายหรือผู้ประสบภัย

    “นี่เราต้องเอาไอ้เด็กเวรสองคนนี่ไปด้วยจริงๆ เหรอเมล” กำพลแฟนหนุ่มของเมลินดาเริ่มทนไม่ไหว หลังจากที่ต้องรับมือกับคู่แฝดมานานเกินห้าชั่วโมง“พี่ว่าเราเอาสมบัติที่ติดตัวมันมาไปขายแล้วปล่อยมันไว้ตรงไหนสักที่ก็พอมั้ง” “โอ๊ย มันจะมีอะไรติดตัวมาสักเท่าไหร่ ไอ้สร้อยทองจี้เล็กๆ ไม่น่าจะเกินบาทนึง สองเส้นก็สองบาทได้ยังไม่ถึงแสนเอาไปทำอะไรได้ อย่าโง่สิพี่” เนื่องจากวันนี้เด็กๆ ใส่ชุดไทย อันธิกาจึงเลือกสร้อยคอทองคำเส้นเล็กๆ มาให้หลานใส่เป็นเครื่องประดับ และมันก็มีมูลค่าไม่มากหากจะนำไปขาย และยังเสี่ยงกับการถูกจับอีกด้วย “แต่พี่กลัวถูกจับ กลัวติดคุกนี่มันคดีอาญาเลยนะเมล” กำพลเริ่มใจคอไม่ดี“ปล่อยมันไปตอนนี้คิดเหรอว่าจะไม่โดนคดี โดนตั้งแต่ตีหัวนังเอมี่ละจับมันไปขังในห้องเก็บของหลังห้างแล้ว ไม่รู้ป่านนี้เลือดไหลหมดตัวตายไปหรือยัง สาระแนดีนัก” เมลินดาพูดต่อด้วยความฉุนเฉียว “ละไอ้นาฬิกาของอีเด็กนี่ที่โยนทิ้งไป ก็ไม่รู้ว่าตำรวจตามเจอหรือยังเถอะ”“หนูหิวข้าว I'm hungry ” หวาน‍หวานตะโกนขึ้นมาจากเบาะหลัง “เงียบ” เมลินดาหันไปตวาดใส่“ก็หนูหิว นี่มันเย็นแล้วนะคะคุณป้า”

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status