Home / โรแมนติก / My wife เมื่อหมดรัก / บทที่ 4 เริ่มดึงสติได้

Share

บทที่ 4 เริ่มดึงสติได้

Author: Sitha
last update Last Updated: 2025-08-14 02:21:19

คืนนั้นอิสริยาส่งลูกเข้านอนแล้วเธอออกมายืนใช้ความคิดที่ระเบียง เธอไม่อยากให้ลูกฝังใจกับคำพูดไม่ดีของสกนธี  เขาคงไม่รู้ว่าเด็กวัยนี้กำลังจำและจำได้แม่นยำมาก 

เธอกะพริบตาถี่ๆ มองฝ่าความมืดลงไปด้านล่างเมื่อเห็นรถยนต์คุ้นตาจอดอยู่เยื้องกับหน้าร้าน  นั่นรถยนต์ของสกนธีเขามาทำอะไรที่นี่

ฝ่ายสกนธีเขาไม่รู้จะไปไหน  ตั้งแต่อิสริยาออกจากบ้านไปพร้อมลูกเขาไม่ได้ไปสังสรรค์ ไม่มีเรื่องต้องไปพบลูกค้าหรือคุยงานในช่วงค่ำอีกเลย  ในวันแรกๆ เขาเลือกที่จะไปดื่มแต่เขาก็นั่งได้เพียงชั่วครู่ก็ต้องรีบกลับบ้าน

เขายังหวังว่าเมื่อนานไปอิสริยาอาจจะหายโกรธ และเธอจะกลับมาเองแต่สิ่งที่เห็นในวันนี้มันตรงกันข้ามกับสิ่งที่เขาคิด  อิสริยามีความสุขดี สวยขึ้น หน้าตาดูสดชื่นมีความสุข  ผมยาวที่เคยรวบง่ายๆ ได้รับการจัดทรงดูแลอย่างดี  เธอแต่งหน้าอ่อนๆ ไม่ใช่แม่บ้านที่ยุ่งกับงานครัวกับลูกจนหน้ามันแบบตอนที่อยู่กับเขา

และเพราะว่าเขาไม่รู้จะไปไหน จึงเลือกมาจอดรถที่หน้าร้านของเธอ เขารู้ว่าเธอย้ายมาอยู่ที่นี่แต่ไม่กล้าเข้าไปหา

อิสริยาหมุนตัวกลับเข้าไปในห้อง  จากนั้นโทรศัพท์ของเธอมีสายเรียกเข้าจากสกนธี  ชายหนุ่มทันเงยหน้าเห็นเธอที่ระเบียงเมื่อครู่เขาจึงรีบกดโทรศัพท์หา  แต่หญิงสาวเลือกที่จะไม่รับเธอกดปิดเสียงและปล่อยให้สายตัดไปเอง

สกนธีมองไฟชั้นสองที่ดับลงหลังจากนั้นเขาได้แต่ถอนใจ  เขาเองยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นพูดอะไรกับเธอ  เขาไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่าการมีปากเสียงวันนั้นจะทำให้เธอเดินออกจากชีวิตเขามาจริงๆ  ชายหนุ่มโทรศัพท์หาเธออีกหลายครั้งจนแน่ใจว่าอิสริยาไม่รับสายแน่  จึงโยนมันลงกับเบาะข้างๆ สตาร์ตรถเคลื่อนออกจากตรงนั้น

อีกสามสิบนาทีต่อมาเขาจอดรถที่หน้าโรงเบียร์  ชายหนุ่มเดินเข้าไปด้านในที่นี่ถือเป็นที่สังสรรค์ประจำของพวกเขา และบางครั้งใช้เป็นที่นัดคุยงานกับลูกค้าด้วย

 “ไงวะมึงทำหน้าเหมือนไม่ได้ถ่ายมาห้าวัน” 

สมิติเจ้าของร้านและเป็นเพื่อนในวงการเดียวกันด้วยเอ่ยถาม  สกนธีรุ่นราวคราวเดียวกับสมิติ จบสถาปัตย์ฯ รุ่นเดียวกัน  ต่างกันตรงที่อีกฝ่ายยังครองความเป็นโสดแบบเหนียวแน่น

“เออ...ก็คงแบบนั้น”  สกนธียอมรับ

“ได้ข่าวว่าเมียมึงหอบลูกออกจากบ้าน  กลับมารึยังวะ”  สมิติถามตรงๆ

“ถ้าเอ๋กลับมาแล้วกูจะมาอยู่ตรงนี้เหรอวะ”  สกนธีมองหน้าเพื่อน เหมือนจะด่าว่าโง่กลายๆ 

“เรอะ...ทำเป็นรักครอบครัว  มึงไม่รู้ตัวเหรอว่ามึงมาร้านกูเกือบทุกวัน เอ๋เขาไปกูก็นึกว่ามึงคงทางสะดวกมากขึ้น” 

สกนธีนิ่งไป เขาไม่เคยเห็นความผิดของตัวเองเลยว่าช่วงปีหลังๆ เขาแทบไม่ได้ใส่ใจลูกและภรรยาเท่าที่ควร  ชายหนุ่มยกมือขึ้นลูบหน้า

“เออ  กูมันเหี้ยเอง”  เขายอมรับในที่สุด

“ไม่มีใครชอบให้ถูกไล่หรอกมึง  ต่อให้รักมึงแค่ไหนก็คงไม่มีใครทนไหว”  สมิติเปรย

“พูดเหมือนรู้ทั้งที่มึงไม่มีเมีย  ไม่ใช่สิ..กูไม่เคยเห็นมึงมีแฟนด้วยซ้ำ”  สกนธีมองหน้าเจ้าของร้าน มันชอบพูดอะไรแปลกๆ

สมิติคิดไปถึงตัวเขาเองเมื่อห้าปีก่อน เขาเคยพูดกับผู้หญิงคนหนึ่งว่า

'ถ้าไก่ก้าวขาออกไปจากห้องนี้  ก็ไม่ต้องกลับมาอีก'  

เธอคนนั้นชะงักไม่มีคำพูดอะไรออกมาจากปากเธอ  จากนั้นเธอหันหลังกลับและเดินไปจากเขา เธอไม่เคยกลับมาอีกเลย  จากนั้นเรื่องของเธอก็เป็นแค่สายลมที่พัดผ่าน  ไม่มีอะไรเหลืออยู่ให้จับต้องหรือมองเห็นได้ต่อไป 

สมิติลุกขึ้นยืน   “ถ้ามึงจะกินก็กินแต่อย่าเมามาก กูสงสารไอ้นนท์มึงไม่มีสมาธิทำงานมาหลายวันแล้วนะ”

วันรุ่งขึ้นสกนธีตื่นเช้ากว่าปกติเพราะเมื่อคืนไม่ได้ดื่มจนเมา  เขามองบ้านที่เละเทะก่อนจะลุกขึ้นเก็บผ้ารอร้านซักรีดรับไปจัดการ 

เป็นครั้งแรกตั้งแต่แต่งงานที่เขาจับไม้กวาดขึ้นกวาดบ้าน  ชายหนุ่มเก็บขยะใส่ถุงดำวางหน้าบ้านได้สามถุงใหญ่รอรถขยะมาเก็บ  จากนั้นเขาเริ่มถูบ้าน ล้างจาน เก็บครัว สกนธีชงกาแฟมาวางแต่ยังไม่ทันได้ดื่มเขาทำงานบ้านเพลินจนมันเย็นอีกรอบ 

ชายหนุ่มเอาถ้วยกาแฟใส่ไมโครเวฟ เผลอใส่ช้อนกาแฟไปด้วยเมื่อเปิดเครื่องประกายไฟที่แวบขึ้นมาทำให้เขานึกขึ้นได้รีบเปิดไมโครเวฟออก

“กูจะบ้าแล้วมั้งแค่เมียไม่อยู่”  เขาบ่นกับตัวเอง

วันนั้นชายหนุ่มทำงานบ้านและอยู่รอรับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เขาสั่งซื้อไว้ให้มาส่ง ไม่ว่าจะเป็นตู้เย็น  กาน้ำร้อน  กระทะไฟฟ้า เมื่อต้องทำงานบ้านเองเขาจึงได้รู้ว่ามันเหนื่อยมาก  แล้วตอนที่อิสริยาเป็นคนทำทุกอย่างเธอทำได้อย่างไร

เขานึกย้อนไปถึงชีวิตแต่งงานปีแรก เธอและเขาแบ่งงานบ้านช่วยกันรับผิดชอบ  ถ้าเธอทำอาหารเขาจะล้างจาน  ถ้าเธอซักผ้าเขาจะเป็นคนตาก  ถ้าเธอกวาดบ้านเขาจะล้างรถ  แล้วมันกลายเป็นว่าเขาโยนทุกอย่างให้เป็นหน้าที่ของเธอตั้งแต่ตอนไหนกัน 

เรื่องค่าใช้จ่ายในบ้านก็อีกหลังจากที่เขาขอให้อิสริยาลาออกจากงาน มีช่วงหนึ่งที่การเงินในบ้านติดขัดเธอตัดสินใจเอาเงินส่วนตัวมาช่วย  และหลังจากนั้นเธอเริ่มไปเปิดร้านมินิมาร์ทเพื่อเป็นรายได้อีกทางและเขาก็ไม่ได้ให้เงินเธออีกเลย

          ก่อนหน้านี้สกนธีไม่เคยมองว่าตัวเองเห็นแก่ตัว  จนในวันนี้ที่เขาต้องอยู่คนเดียว  ภาพทุกอย่างจึงชัดเจนว่าตัวเองแย่แค่ไหน มันชัดมากจนเขาไม่มีหน้าจะเอาไปให้เธอเห็น

วันจันทร์ต่อมาสกนธีไปที่โรงเรียนอนุบาลอีก  เขาขอพบน้องเพียงที่คราวนี้เด็กหญิงไม่ได้วิ่งหนีเขาแล้ว แต่เธอมองพ่อนิ่งๆ

“น้องเพียงคะ พ่อคิดถึงหนูจังพ่อซื้อของมาฝากหนูด้วยนะ”  สกนธีหยิบกล่องแบนๆ ที่เขาถือมาวางบนโต๊ะ เด็กหญิงมองอย่างสนใจขยับเข้าใกล้มาอีกนิด   ชายหนุ่มเปิดกล่องออก สิ่งที่อยู่ในนั้นทำให้เด็กน้อยถึงกับตาโต

“อูคูเลเล่”  เธอร้องเสียงดัง

สกนธียิ้ม  “ชอบไหมคะลูก”

น้องเพียงพยักหน้า   “ชอบค่ะ แต่หนูเล่นไม่เป็น”  เธอหน้าม่อยเมื่อพูดถึงตรงนี้

“พ่อพาไปเรียนได้นะคะ ไปวันหยุดไปด้วยกันกับคุณแม่ก็ได้” 

สกนธีพูดเสียงอ่อน  เขาเห็นเด็กหญิงหน้าตาสดชื่นขึ้นจึงพูดต่อ

“ถ้าหนูอยากเรียน เดี๋ยวพ่อบอกแม่เองว่าจะพาหนูไปเรียนโอเคไหมคะ” 

น้องเพียงพยักหน้า “อยากค่ะ”

“พ่อมีขนมมาด้วยนะคะ”  สกนธีหยิบกล่องเค้กออกมาวางอีกชิ้น เขาเปิดออกมันเป็นเค้กมะพร้าวแบบคัพเค้ก เด็กหญิงมองขนมตาแวววาว

“คัพเค้กชิ้นเล็กๆ กินไหมคะลูก”  เขาเลื่อนมาตรงหน้าลูกสาวมีช้อนขนมคันเล็กมาด้วย

“กินค่ะ”  เธอรับช้อนมาตักขนมเค้กเข้าปาก 

“อร่อยไหมคะลูก” เขาถาม สกนธีรู้สึกผิดในใจเขาไม่เคยมีช่วงเวลาแบบนี้กับลูกเลย  ชายหนุ่มเอื้อมมือไปลูบศีรษะเล็กๆ นั่นพลางคิดว่าเขาจะทำอย่างไรต่อไป

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • My wife เมื่อหมดรัก   บทที่ 10 ที่ดินเจ้าปัญหา

    “เรื่องที่ผืนนั้นตกลงเจ้าของเขาจะขายเท่าไหร่ครับคุณมิ” พุฒิเมธถามเพื่อนร่วมอาชีพสาวสวยคนหนึ่งที่ทำงานร่วมกันกับเขามาหลายครั้งแล้ว“เขายังไม่ให้ราคาแน่นอนมาเลยค่ะ เดี๋ยวฉันจะถามเขาใหม่อีกที คุณรออีกสักวันสองวันนะไม่อยากไปตามง้อมาก” มิลินตอบ“เขาขายแน่ใช่ไหม ผมเปิดขายไปแล้วลูกค้าก็ทำท่าสนใจด้วย ถ้าคุณเจรจากับเจ้าของที่ไม่ได้ลองให้ผมไปคุยเองไหม”มิลินปรายตามองพุฒิเมธแล้วเมิน“ฉันจัดการเอง เชื่อมือสิ” หญิงสาวคิดไปถึงชายหนุ่มเจ้าของที่รูปหล่อที่พบจากการแนะนำของชานนท์ เนื่องจากว่าสกนธีเป็นหุ้นส่วนของญาติเธอเอง‘สงสัยเราจะต้องไปดื่มที่ร้านคุณสมิติอีกครั้งแล้ว’ เธอนิ่วหน้าเมื่อคิดถึงตรงนี้ เพราะว่าเธอไม่เคยเจอสกนธีที่อื่นเลยนอกจากที่นั่น หญิงสาวรู้ว่าเขาเป็นเจ้าของที่ดินผืนนั้นเพราะว่าชานนท์เป็นคนบอก ในฐานะนายหน้าตามนิสัยเธอจึงมองหาที่ผืนใหม่ๆ เพื่อบอกขายเสมอ และเธอได้รู้ว่าที่ดินเปล่าในทำเลดีที่หมายตามานานเป็นของเพื่อนชานนท์โดยบังเอิญ จึงพยายามเลียบๆ เคียงๆ ถามมาตลอด แน่ใจว่าเจ้าของไม่มีโครงการจะทำอะไรจึงพยายามหาคอนแท็กต์ของสกนธีจนญาติหนุ่มยอมให้ในที่สุดค่ำวันนั้นเธอไปที่โรง

  • My wife เมื่อหมดรัก   บทที่ 9 น้ำหยดลงหิน หินบอกว่ารำคาญ

    อิสริยากลับบ้านด้วยความหนักใจ และมีความตึงเครียดมากขึ้นเมื่อรู้ว่าพุฒิเมธมารอที่ร้าน“พี่เมธมานานหรือยังคะ เอ๋ไม่รู้ว่าพี่จะมาเลยเข้าร้านช้า” เธอออกตัวเป็นเชิงบอกว่าเขาไม่ได้นัดไว้“ครับ ไม่เป็นไรพี่รู้ว่าพี่ไม่ได้นัดเอ๋ไว้ วันนี้พี่มีที่อีกผืนอยากให้เอ๋ไปดูนะครับ รับรองว่าจะต้องชอบ” “ที่ไหนคะ” อิสริยาสนใจเผื่อว่าที่ผืนใหม่ที่นายหน้าหนุ่มแนะนำจะดีกว่าที่ดินของสกนธี “นี่ครับ ที่สวยเนื้อที่ประมาณยี่สิบห้าหรือสามสิบไร่อยู่ในย่านเศรษฐกิจด้วยตรงตามเงื่อนไขน้องเอ๋ทุกอย่าง” ชายหนุ่มส่งภาพของที่ดินผืนที่ว่าให้เจ้าของร้านสาวดูอิสริยารับมาแล้วต้องขมวดคิ้ว นี่มันที่ของสกนธีนี่นา “ที่ผืนนี้เจ้าของเขาขายเหรอคะ” “ครับ ถ้าน้องเอ๋สนใจพี่ดำเนินการให้ได้เลย” “แน่ใจนะคะพี่เมธ จริงๆ เอ๋ไม่คิดว่าเจ้าของที่เขาจะขายเลยนะคะ” เธอย้ำ“ขายครับ ซื้อได้แน่นอนถ้างบไปถึงถ้าน้องเอ๋กับที่บ้านยอมทุ่มสักห้าหกร้อยล้าน” พุฒิเมธยิ้มพุฒิเมธขอตัวกลับไปแล้วแต่อิสริยายังนั่งนิ่งที่เดิม หญิงสาวพยายามคิดว่าเพื่อนรุ่นพี่ไปเอาเรื่องที่ดินผืนนี้มาได้อย่างไรว่าสกนธีจะขายเที่ยงวันนั้นสกนธีมาหาที่ร้านหญิงสาวจึงถ

  • My wife เมื่อหมดรัก   บทที่ 8 ที่ดินสินสอด

    สามชั่วโมงต่อมา พวกเขาทั้งหมดมาถึงสวนสัตว์เปิดเขาเขียวจนได้ อิสริยานั่งเบาะหลังปล่อยให้เด็กหญิงสุพิชชานั่งคู่บิดา เธอฟังเสียงพ่อลูกคุยกันด้วยความรู้สึกไม่คุ้นชิน ไม่ชินทั้งการที่สกนธีมีเวลามาใส่ใจลูกสาว หรือไม่ชินกับการที่เธอได้ขึ้นมานั่งในรถยนต์ของเขาอีกครั้ง ไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้วที่เธอกับสกนธีใช้ชีวิตต่างคนต่างไป ต่างคนต่างอยู่ ช่องว่างที่มีในครอบครัวกลายเป็นเรื่องปกติจนเธอชินชาหลังจากที่สกนธีจัดการเรื่องตั๋วเข้าชมสวนสัตว์แล้ว พวกเธอก็ได้ขึ้นรถรางนำชมส่วนการแสดงต่างๆ ตลอดระยะเวลานั้นอิสริยาแทบจะไม่ได้พูดอะไร นอกจากเออออเวลาที่ลูกสาวหันมาคุยด้วย นอกนั้นเธอเป็นฝ่ายเงียบปล่อยให้หน้าที่การดูแลเด็กหญิงสุพิชชาเป็นของพ่อเต็มที่“เอ๋ดูอะไรเหรอ พี่เห็นก้มหน้าก้มตามองดูแต่มือถือมาตลอดทั้งวันเลยนะ” สกนธีอดรนทนไม่ไหวจนต้องถามในขณะที่รอเด็กหญิงสุพิชชาเลือกไอศกรีม เขาเห็นอิสริยาสนใจแต่อุปกรณ์สื่อสารในมือแทบจะตลอดเวลา“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ” เธอเงยหน้าตอบมองเขาด้วยดวงตาว่างเปล่า เธอกำลังคุยกับครอบครัวผ่านโปรแกรมแชตเรื่องที่ดินที่พุฒิเมธเสนอมา แต่ดูเหมือนว่าจะมีปัญหาจุกจิกทั้งสองผืน คง

  • My wife เมื่อหมดรัก   บทที่ 7 เรียนดนตรี

    ไปเรียนดนตรีสกนธีพาน้องเพียงมาถึงโรงเรียนสอนดนตรีก่อนเวลาเข้าเรียนเล็กน้อย พอมีเวลาได้คุยกับครูเรื่องรายละเอียดจนเป็นที่พอใจ ในคอร์สนั้นมีนักเรียนวัยเดียวกันกับน้องเพียงสองถึงสามคนความจริงแล้วทางโรงเรียนแนะนำว่าเด็กหญิงควรเรียนเปียโนก่อนเพื่อให้มีพื้นฐานดนตรี และครูเกรงว่าน้องเพียงที่อายุห้าขวบนิ้วอาจจะไม่มีแรงพอที่จะกดคอร์ดได้ แต่สกนธีไม่อยากให้ลูกผิดหวัง เขาจึงตั้งใจพามาเรียนก่อนสักครั้งสองครั้งแล้วถ้าเด็กหญิงอยากเรียนต่อเขาจะตามใจ แต่ถ้ายังเรียนไม่ได้จริงเขาจะคุยกับน้องเพียงว่าครูขอให้เปลี่ยนไปเรียนเปียโนก่อนชายหนุ่มมาส่งลูกที่หน้าห้องเรียน“พ่อจะรอหนูที่หน้าห้องนะคะลูก” “ค่ะคุณพ่อ หนูไปแล้วนะคะ” เด็กหญิงยกมือขึ้นบ๊ายบายกับคุณพ่อ หน้าห้องเรียนมีชุดโต๊ะเก้าอี้ว่างๆ สกนธีจึงใช้เวลาในตอนนั้นดูงานเอกสารที่ค้างอยู่ ประชุมออนไลน์กับทีมงานและสั่งงานลูกน้องที่บริษัท เวลาผ่านไปสองชั่วโมงอย่างรวดเร็ว เด็กหญิงสุพิชชาวิ่งมาหาคุณพ่ออย่างร่าเริง“คุณพ่อขา หนูมาแล้ว” “เป็นไงคะลูก เรียนสนุกไหม หนูชอบไหม” สกนธีปิดแล็ปท็อป เขาเงยหน้ายิ้มให้เด็กหญิงที่กำลังอารมณ์ดี“สนุกมากค่ะคุณพ่อ

  • My wife เมื่อหมดรัก   บทที่ 6 เมื่อไหร่จะกลับบ้าน

    อิสริยาเดินนำเขาไปที่ห้องทำงาน ชายหนุ่มรีบตามเธอเข้าไปในนั้น เธอนั่งที่หลังโต๊ะทำงานเหมือนกำลังจะเจรจาธุรกิจไม่ใช่คุยกับสามี“เชิญนั่งค่ะ ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรคะ” “เอ๋ ทำไมทำเหมือนเราไม่ใช่ผัวเมียกันล่ะ” “เหรอคะ คุณเพิ่งรู้สึกเหรอฉันรู้สึกมาตั้งนานแล้ว รู้สึกมาเป็นปีแล้วทำไมคุณความรู้สึกช้าจัง” เธอตอบตามที่คิดทำให้สกนธีหน้าสลดลง“เอ๋พี่ขอโทษ ขอโทษที่ละเลยเอ๋กับน้องเพียง ขอโทษที่ไม่ทำตามสัญญาแต่ให้โอกาสพี่อีกครั้งได้ไหม กลับบ้านเรากันเถอะนะ” “คุณพูดว่านั่นเป็นบ้านคุณ จะมาบ้านเราอะไรตอนนี้” อิสริยากระชากเสียงนั่นเป็นเธอในมุมที่สกนธีแทบไม่เคยเห็น “ฉันยอมให้คุณทำหน้าที่พ่อให้น้องเพียงได้แค่นั้น แล้วถ้าวันไหนลูกรู้สึกแย่ๆ เพราะคุณอีกความเป็นพ่อก็จะไม่มีเหลือเหมือนกัน” “งั้น..พี่ขอพาลูกไปเรียนดนตรีได้ไหมวันเสาร์ ลูกอยากไป” สกนธีต่อรองแต่อิสริยายิ้มมุมปาก“คุณถามตัวเองก่อนเถอะว่าจะมีเวลาให้ลูกได้ทุกวันเสาร์ไหม ไม่ใช่มาแค่ไม่กี่วันแล้วคุณก็หายไปเท่าที่จำได้เมื่อก่อนจะวันไหนๆ คุณก็ไม่เคยมีเวลาให้น้องเพียงเลยนะ ลูกชวนคุณไปสวนสัตว์แล้วคุณก็รับปากส่งๆ จนตอนนี้เขาดินปิดไปแล้วเคยจ

  • My wife เมื่อหมดรัก   คุณพ่อน้องเพียงมาค่ะ

    “พี่เอ๋คะคุณพ่อน้องเพียงมาค่ะ” อิสริยาเงยหน้าจากกองเอกสารบัญชีเมื่อลูกน้องเดินมาบอกในห้องทำงาน เธอยังไม่ทันตอบอะไรสกนธีก็เข้ามาในห้อง หญิงสาวจึงโบกมือให้พนักงานออกไปเธอมองเขานิ่งเมื่อชายหนุ่มมานั่งตรงหน้าโต๊ะทำงาน “เมื่อไหร่เอ๋จะพาลูกกลับบ้าน” สกนธีไม่อารัมภบทนาน“บ้านฉันอยู่ที่นี่ค่ะ” อิสริยาตอบเสียงเรียบ เธอทำงานตรงหน้าต่อเหมือนว่าเขาเป็นอะไรสักอย่างที่ไม่น่าสนใจ“เอ๋.. พี่ขอโทษ ยกโทษให้พี่ได้ไหม” เขายอมเอ่ยคำว่าขอโทษเมื่อรู้ว่าถูกเมินจริงๆอิสริยาเงยหน้ามองเขา “ขอโทษเรื่องอะไรคะ เรื่องที่คุณไล่ฉันกับลูกออกจากบ้าน เรื่องที่ไม่สนใจลูกเมีย เรื่องที่ไปเที่ยวแล้วไปไหนต่อไหนกับใคร หรือว่าเรื่องที่..เราหมดรักกันแล้ว” “ไม่ใช่นะเอ๋ พี่รักเอ๋กับลูกส่วนเรื่องคืนนั้นพี่อธิบายได้” สกนธีรีบพูด“แต่ฉันไม่อยากรู้แล้วค่ะว่าคืนนั้นคุณไปไหนมา ไปกับใคร ส่วนเรื่องหมดรัก คุณจะคิดยังไงฉันไม่รู้แต่ฉันหมดแล้ว ฉันเหนื่อย เหนื่อยมากกับการเป็นเมียเป็นคนใช้เป็นสารพัดอย่างแต่ไม่เคยมีความหมาย ไม่มีตัวตน” อิสริยาระเบิดออกมาอย่างเหลืออด เธอเห็นแววตาตื่นตะลึงของสกนธีมันยิ่งทำให้คำพูดหลั่งไหลไม่หย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status