Beranda / โรแมนติก / My wife เมื่อหมดรัก / บทที่ 4 เริ่มดึงสติได้

Share

บทที่ 4 เริ่มดึงสติได้

Penulis: Sitha
last update Terakhir Diperbarui: 2025-08-14 02:21:19

คืนนั้นอิสริยาส่งลูกเข้านอนแล้วเธอออกมายืนใช้ความคิดที่ระเบียง เธอไม่อยากให้ลูกฝังใจกับคำพูดไม่ดีของสกนธี  เขาคงไม่รู้ว่าเด็กวัยนี้กำลังจำและจำได้แม่นยำมาก 

เธอกะพริบตาถี่ๆ มองฝ่าความมืดลงไปด้านล่างเมื่อเห็นรถยนต์คุ้นตาจอดอยู่เยื้องกับหน้าร้าน  นั่นรถยนต์ของสกนธีเขามาทำอะไรที่นี่

ฝ่ายสกนธีเขาไม่รู้จะไปไหน  ตั้งแต่อิสริยาออกจากบ้านไปพร้อมลูกเขาไม่ได้ไปสังสรรค์ ไม่มีเรื่องต้องไปพบลูกค้าหรือคุยงานในช่วงค่ำอีกเลย  ในวันแรกๆ เขาเลือกที่จะไปดื่มแต่เขาก็นั่งได้เพียงชั่วครู่ก็ต้องรีบกลับบ้าน

เขายังหวังว่าเมื่อนานไปอิสริยาอาจจะหายโกรธ และเธอจะกลับมาเองแต่สิ่งที่เห็นในวันนี้มันตรงกันข้ามกับสิ่งที่เขาคิด  อิสริยามีความสุขดี สวยขึ้น หน้าตาดูสดชื่นมีความสุข  ผมยาวที่เคยรวบง่ายๆ ได้รับการจัดทรงดูแลอย่างดี  เธอแต่งหน้าอ่อนๆ ไม่ใช่แม่บ้านที่ยุ่งกับงานครัวกับลูกจนหน้ามันแบบตอนที่อยู่กับเขา

และเพราะว่าเขาไม่รู้จะไปไหน จึงเลือกมาจอดรถที่หน้าร้านของเธอ เขารู้ว่าเธอย้ายมาอยู่ที่นี่แต่ไม่กล้าเข้าไปหา

อิสริยาหมุนตัวกลับเข้าไปในห้อง  จากนั้นโทรศัพท์ของเธอมีสายเรียกเข้าจากสกนธี  ชายหนุ่มทันเงยหน้าเห็นเธอที่ระเบียงเมื่อครู่เขาจึงรีบกดโทรศัพท์หา  แต่หญิงสาวเลือกที่จะไม่รับเธอกดปิดเสียงและปล่อยให้สายตัดไปเอง

สกนธีมองไฟชั้นสองที่ดับลงหลังจากนั้นเขาได้แต่ถอนใจ  เขาเองยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นพูดอะไรกับเธอ  เขาไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่าการมีปากเสียงวันนั้นจะทำให้เธอเดินออกจากชีวิตเขามาจริงๆ  ชายหนุ่มโทรศัพท์หาเธออีกหลายครั้งจนแน่ใจว่าอิสริยาไม่รับสายแน่  จึงโยนมันลงกับเบาะข้างๆ สตาร์ตรถเคลื่อนออกจากตรงนั้น

อีกสามสิบนาทีต่อมาเขาจอดรถที่หน้าโรงเบียร์  ชายหนุ่มเดินเข้าไปด้านในที่นี่ถือเป็นที่สังสรรค์ประจำของพวกเขา และบางครั้งใช้เป็นที่นัดคุยงานกับลูกค้าด้วย

 “ไงวะมึงทำหน้าเหมือนไม่ได้ถ่ายมาห้าวัน” 

สมิติเจ้าของร้านและเป็นเพื่อนในวงการเดียวกันด้วยเอ่ยถาม  สกนธีรุ่นราวคราวเดียวกับสมิติ จบสถาปัตย์ฯ รุ่นเดียวกัน  ต่างกันตรงที่อีกฝ่ายยังครองความเป็นโสดแบบเหนียวแน่น

“เออ...ก็คงแบบนั้น”  สกนธียอมรับ

“ได้ข่าวว่าเมียมึงหอบลูกออกจากบ้าน  กลับมารึยังวะ”  สมิติถามตรงๆ

“ถ้าเอ๋กลับมาแล้วกูจะมาอยู่ตรงนี้เหรอวะ”  สกนธีมองหน้าเพื่อน เหมือนจะด่าว่าโง่กลายๆ 

“เรอะ...ทำเป็นรักครอบครัว  มึงไม่รู้ตัวเหรอว่ามึงมาร้านกูเกือบทุกวัน เอ๋เขาไปกูก็นึกว่ามึงคงทางสะดวกมากขึ้น” 

สกนธีนิ่งไป เขาไม่เคยเห็นความผิดของตัวเองเลยว่าช่วงปีหลังๆ เขาแทบไม่ได้ใส่ใจลูกและภรรยาเท่าที่ควร  ชายหนุ่มยกมือขึ้นลูบหน้า

“เออ  กูมันเหี้ยเอง”  เขายอมรับในที่สุด

“ไม่มีใครชอบให้ถูกไล่หรอกมึง  ต่อให้รักมึงแค่ไหนก็คงไม่มีใครทนไหว”  สมิติเปรย

“พูดเหมือนรู้ทั้งที่มึงไม่มีเมีย  ไม่ใช่สิ..กูไม่เคยเห็นมึงมีแฟนด้วยซ้ำ”  สกนธีมองหน้าเจ้าของร้าน มันชอบพูดอะไรแปลกๆ

สมิติคิดไปถึงตัวเขาเองเมื่อห้าปีก่อน เขาเคยพูดกับผู้หญิงคนหนึ่งว่า

'ถ้าไก่ก้าวขาออกไปจากห้องนี้  ก็ไม่ต้องกลับมาอีก'  

เธอคนนั้นชะงักไม่มีคำพูดอะไรออกมาจากปากเธอ  จากนั้นเธอหันหลังกลับและเดินไปจากเขา เธอไม่เคยกลับมาอีกเลย  จากนั้นเรื่องของเธอก็เป็นแค่สายลมที่พัดผ่าน  ไม่มีอะไรเหลืออยู่ให้จับต้องหรือมองเห็นได้ต่อไป 

สมิติลุกขึ้นยืน   “ถ้ามึงจะกินก็กินแต่อย่าเมามาก กูสงสารไอ้นนท์มึงไม่มีสมาธิทำงานมาหลายวันแล้วนะ”

วันรุ่งขึ้นสกนธีตื่นเช้ากว่าปกติเพราะเมื่อคืนไม่ได้ดื่มจนเมา  เขามองบ้านที่เละเทะก่อนจะลุกขึ้นเก็บผ้ารอร้านซักรีดรับไปจัดการ 

เป็นครั้งแรกตั้งแต่แต่งงานที่เขาจับไม้กวาดขึ้นกวาดบ้าน  ชายหนุ่มเก็บขยะใส่ถุงดำวางหน้าบ้านได้สามถุงใหญ่รอรถขยะมาเก็บ  จากนั้นเขาเริ่มถูบ้าน ล้างจาน เก็บครัว สกนธีชงกาแฟมาวางแต่ยังไม่ทันได้ดื่มเขาทำงานบ้านเพลินจนมันเย็นอีกรอบ 

ชายหนุ่มเอาถ้วยกาแฟใส่ไมโครเวฟ เผลอใส่ช้อนกาแฟไปด้วยเมื่อเปิดเครื่องประกายไฟที่แวบขึ้นมาทำให้เขานึกขึ้นได้รีบเปิดไมโครเวฟออก

“กูจะบ้าแล้วมั้งแค่เมียไม่อยู่”  เขาบ่นกับตัวเอง

วันนั้นชายหนุ่มทำงานบ้านและอยู่รอรับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เขาสั่งซื้อไว้ให้มาส่ง ไม่ว่าจะเป็นตู้เย็น  กาน้ำร้อน  กระทะไฟฟ้า เมื่อต้องทำงานบ้านเองเขาจึงได้รู้ว่ามันเหนื่อยมาก  แล้วตอนที่อิสริยาเป็นคนทำทุกอย่างเธอทำได้อย่างไร

เขานึกย้อนไปถึงชีวิตแต่งงานปีแรก เธอและเขาแบ่งงานบ้านช่วยกันรับผิดชอบ  ถ้าเธอทำอาหารเขาจะล้างจาน  ถ้าเธอซักผ้าเขาจะเป็นคนตาก  ถ้าเธอกวาดบ้านเขาจะล้างรถ  แล้วมันกลายเป็นว่าเขาโยนทุกอย่างให้เป็นหน้าที่ของเธอตั้งแต่ตอนไหนกัน 

เรื่องค่าใช้จ่ายในบ้านก็อีกหลังจากที่เขาขอให้อิสริยาลาออกจากงาน มีช่วงหนึ่งที่การเงินในบ้านติดขัดเธอตัดสินใจเอาเงินส่วนตัวมาช่วย  และหลังจากนั้นเธอเริ่มไปเปิดร้านมินิมาร์ทเพื่อเป็นรายได้อีกทางและเขาก็ไม่ได้ให้เงินเธออีกเลย

          ก่อนหน้านี้สกนธีไม่เคยมองว่าตัวเองเห็นแก่ตัว  จนในวันนี้ที่เขาต้องอยู่คนเดียว  ภาพทุกอย่างจึงชัดเจนว่าตัวเองแย่แค่ไหน มันชัดมากจนเขาไม่มีหน้าจะเอาไปให้เธอเห็น

วันจันทร์ต่อมาสกนธีไปที่โรงเรียนอนุบาลอีก  เขาขอพบน้องเพียงที่คราวนี้เด็กหญิงไม่ได้วิ่งหนีเขาแล้ว แต่เธอมองพ่อนิ่งๆ

“น้องเพียงคะ พ่อคิดถึงหนูจังพ่อซื้อของมาฝากหนูด้วยนะ”  สกนธีหยิบกล่องแบนๆ ที่เขาถือมาวางบนโต๊ะ เด็กหญิงมองอย่างสนใจขยับเข้าใกล้มาอีกนิด   ชายหนุ่มเปิดกล่องออก สิ่งที่อยู่ในนั้นทำให้เด็กน้อยถึงกับตาโต

“อูคูเลเล่”  เธอร้องเสียงดัง

สกนธียิ้ม  “ชอบไหมคะลูก”

น้องเพียงพยักหน้า   “ชอบค่ะ แต่หนูเล่นไม่เป็น”  เธอหน้าม่อยเมื่อพูดถึงตรงนี้

“พ่อพาไปเรียนได้นะคะ ไปวันหยุดไปด้วยกันกับคุณแม่ก็ได้” 

สกนธีพูดเสียงอ่อน  เขาเห็นเด็กหญิงหน้าตาสดชื่นขึ้นจึงพูดต่อ

“ถ้าหนูอยากเรียน เดี๋ยวพ่อบอกแม่เองว่าจะพาหนูไปเรียนโอเคไหมคะ” 

น้องเพียงพยักหน้า “อยากค่ะ”

“พ่อมีขนมมาด้วยนะคะ”  สกนธีหยิบกล่องเค้กออกมาวางอีกชิ้น เขาเปิดออกมันเป็นเค้กมะพร้าวแบบคัพเค้ก เด็กหญิงมองขนมตาแวววาว

“คัพเค้กชิ้นเล็กๆ กินไหมคะลูก”  เขาเลื่อนมาตรงหน้าลูกสาวมีช้อนขนมคันเล็กมาด้วย

“กินค่ะ”  เธอรับช้อนมาตักขนมเค้กเข้าปาก 

“อร่อยไหมคะลูก” เขาถาม สกนธีรู้สึกผิดในใจเขาไม่เคยมีช่วงเวลาแบบนี้กับลูกเลย  ชายหนุ่มเอื้อมมือไปลูบศีรษะเล็กๆ นั่นพลางคิดว่าเขาจะทำอย่างไรต่อไป

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • My wife เมื่อหมดรัก   ตอนพิเศษ 3

    ณิช‍ชาคลอดลูกท้องที่สองแต่เป็นคนที่สี่ของบ้าน คราวนี้เป็นเด็กผู้หญิงสมใจคุณพ่อที่อยากเลี้ยงลูกสาววัยแบเบาะสักครั้ง “ดีจังเลยนะคะ บ้านเราจะได้ครึกครื้น” คุณนายอิส‍รีย์พูดกับสามี ขณะที่อุ้มทารกวัยแรกเกิดในอ้อมแขนอย่างระมัดระวัง “จริง ป๊าว่ามีอีกสักคนสองคนก็ดีนะอาตี๋ อั๊วมีสมบัติเยอะแยะแต่ลูกหลานรอรับสมบัติมีน้อยจัง ตอนนี้มีหลานแค่อาเพียง อาชมพู อาวิน หวาน‍หวาน อาคี‍น แล้วก็เจ้าตัวเล็กคนนี้ส่วนอาแบมจะแต่งงานเมื่อไหร่ก็ไม่รู้” พ่อสามีพูดไปด้วยก็มองหลานสาวคนใหม่ไปด้วยสายตาแห่งความรัก เป็นความรักที่เกิดขึ้นทันทีหลังจากที่เด็กน้อยเกิดมาในฐานะหลานของครอบครัวอีกคน“ยังไม่ได้คิดเรื่องนี้เลยครับป๊า กลัวจะไม่มีเวลาให้ลูกมากพอจะดูแลไม่ทั่วถึง” อังกูรเลี่ยงไปก่อน ตัวเขาและภรรยาเคยคุยกันเรื่องนี้ว่าเธอจะทำหมันเลยหรือไม่ในตอนที่คลอดลูกคนนี้ แต่ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปเพราะณิช‍ชาลังเล ส่วนอังกูรเองก็เห็นว่าเธอยังอยู่ในวัยสาวจึงตกลงใจว่าหลังคลอดจะใช้วิธีคุมกำเนิดแบบอื่นไปก่อนเด็กหญิงพุดพิชชาหรือ “น้องวุ้น” มีสุขภาพแข็งแรงดี เธอมีอาการร้องไห้ในช่วงดึกหรือโคลิกอยู่สามเดือนเต็ม ทำเ

  • My wife เมื่อหมดรัก   ตอนพิเศษ 2

    วันนั้นทั้งอังกูรและณิช‍ชาเหมือนได้ย้อนกลับไปเติมเต็มความสัมพันธ์ส่วนที่ขาดหายไประหว่างเขาสองคน นั่นคือการ ‘จีบ’ กันนั่นเอง ชายหนุ่มพาเธอไปดูหนังที่โรงภาพยนตร์ จากนั้นก็เป็นการไปใช้เวลาละเลียดอาหารและขนมอร่อยในร้านที่ณิช‍ชาเป็นฝ่ายเลือกและปิดท้ายด้วยการไปช็อปปิง“เอาเสื้อแบบนี้ไปบ้างไหมคะ สดใสดี” ณิช‍ชาทาบเสื้อฮาวายพื้นขาวมีลายสีน้ำทะเลลงบนไหล่สามี เหตุเพราะว่าอังกูรมีแต่เสื้อผ้าสีพื้นในตู้ ไม่ว่าจะเป็นสีขาวล้วน เทาล้วน น้ำเงินล้วน หรือดำสนิทก็ตามและสูทหรือเนกไทก็มักจะเป็นไปในทางเดียวกัน“ถ้าณิชว่าดีก็เลือกมาให้เฮียหน่อย” ปีนี้เขาอายุสามสิบเจ็ดย่างสามสิบแปดอยู่แล้วในขณะที่ณิช‍ชาอ่อนวัยกว่าถึงสิบปีเต็ม อังกูรจึงเริ่มอยากหันมาดูแลตัวเองเพราะไม่อยากให้ดูว่าอายุมาก ในขณะที่ณิช‍ชากำลังเป็นสาวสะพรั่งเต็มเนื้อเต็มตัวณิช‍ชาเลือกเสื้อผ้าให้เขาใหม่หนึ่งเซตใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชุดลำลองสำหรับวันพักผ่อนหรือไปเที่ยวไหนกับครอบครัว ส่วนเสื้อผ้าทำงานของเขาเธอมองว่าเหมาะสมดีอยู่แล้วจากนั้นอังกูรพาณิช‍ชาไปร้านจิวเวลลี่เพื่อหาแหวนเพชรวงเล็กๆ สำหรับให้เธอใส่ได้ทุกวัน เพราะว่าหญิงสาวเคยบอกว

  • My wife เมื่อหมดรัก   ตอนพิเศษ 1

    เนื่องจากณิช‍ชาตั้งครรภ์ ผู้ใหญ่จึงแนะนำให้ทั้งสองจัดพิธีแต่งงานก่อนที่จะคลอด เพราะเกรงว่าหากเวลาล่วงเลยไปมากกว่านี้ พวกเขาจะต้องยุ่งกับภารกิจเลี้ยงลูกอ่อนไปอีกยาวเป็นปีแน่นอน ดังนั้นพิธีมงคลสมรสจึงถูกจัดขึ้นในอีกสองเดือนต่อมา"เหนื่อยไหมณิช นั่งก่อนเฮียให้คนจัดโต๊ะกินข้าวแล้ว รอสักเดี๋ยว” อังกูรถามหลังจากที่จบพิธีช่วงครึ่งวันเช้าซึ่งเป็นพิธียกน้ำชาแบบธรรมเนียมจีน บ่าวสาวจะมีเวลาพักผ่อนส่วนตัวในช่วงบ่ายประมาณสามชั่วโมง ก่อนที่จะต้องไปแต่งตัวสำหรับงานเลี้ยงช่วงค่ำชายหนุ่มเปลี่ยนสรรพนามเรียกตัวเองว่า “เฮีย” ตามธรรมเนียมของครอบครัว ตั้งแต่ที่ตกลงใจเรื่องจัดงานแต่งเป็นเรื่องเป็นราวและพาเธอเดินสายแจกการ์ดให้กับญาติๆ และผู้ใหญ่ที่นับถือ ณิช‍ชาเองแรกๆ ไม่ชินปากแต่นานไปเธอก็เรียกเขาว่าเฮียได้แบบเคยชินไปเอง“หิวค่ะแต่ไม่มาก...รอได้ เด็กๆ จะขึ้นมากันหรือยังคะเฮีย”“กำลังมาน่ะเฮียโทรลงไปตามแล้ว เล่นกันอยู่ที่ห้องป๊าม้าถามแล้วว่ายังไม่ได้กินข้าวเที่ยงกัน เฮียก็เลยบอกให้พี่เลี้ยงพาขึ้นมาให้หมดทั้งสามคน” ทั้งสองอยู่ในห้องพักชั้นสามที่บ้านใหญ่ซึ่งเป็นโซนส่วนตัวของอังกูรทั้งชั้น เดิมป

  • My wife เมื่อหมดรัก   สมาชิกใหม่  & ตอนจบ

    เจ้าหน้าที่ตำรวจไปตามพิกัดที่ได้จากคนร้ายส่งมา หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบที่แฝงตัวเป็นคนเก็บขยะได้จับกุมกำพลและเมลินดาอย่างง่ายดาย เพราะกำพลไม่สู้อยู่แล้วเนื่องจากกลัวถูกวิสามัญฆาตกรรม ส่วนเมลินดาก็แพ้พิษมดแดงจนเกาไม่หยุดทำให้หลบหนีไม่รอด“แล้วเด็กสองคนอยู่ไหน” “ฉันจะไปรู้ได้ไง พวกมันหนีไปตั้งนานแล้ว” เมลินดาปฏิเสธว่าไม่รู้ ทำให้เธอถูกสอบสวนเพิ่มอย่างหนัก“ลูกหายไปที่ไหนคะ” ณิช‍ชาร้องไห้เมื่อไม่พบว่าลูกสองคนอยู่ในบ้านเมลินดา“ใจเย็นๆ นะณิช ลูกอาจจะหลบอยู่แถวนี้” อังกูรปลอบใจหญิงสาวทั้งที่ตัวเองก็หนักใจ “ณิชเกิดอะไรขึ้นลูก” ป้าน้อยที่ได้ยินเสียงและผู้คนมากมายในย่านละแวกบ้านก็อดไม่ได้ที่จะมาดู มีชาวบ้านคนหนึ่งเล่าเรื่องให้แกฟัง รู้รายละเอียดประดุจป้าข้างบ้านทั้งที่ก็เพิ่งมาก่อนแกไม่นาน ป้าน้อยจึงตกใจมาก “เออ แล้วคี‍นก็หายไปนานละด้วยนะ บอกป้าว่าจะไปจับหิ่งห้อยในสวนน่ะ” แกตบเข่าฉาด“คี‍นหายไปตอนไหนคะป้าน้อย” ณิช‍ชารีบถาม“น่าจะสักทุ่มนึงนะ เขาบอกว่าจะไปดูหิ่งห้อยในสวน ละเด็กมันไปประจำป้าเห็นว่าเขาไม่ได้ออกนอกเขตบ้านก็เลยไม่ได้ว่าอะไร” แกฉุกใจคิดว่าตอนแกเด

  • My wife เมื่อหมดรัก   ฮีโร่ตัวเล็ก

    เด็กชายเข‍มินท์มองภาพที่วินและหวาน‍หวานถูกพาเข้าไปในบ้านของเพื่อนบ้านอีกคนอย่างไม่เข้าใจ ตอนนั้นเขากำลังเดินมาหาหิ่งห้อยในสวนหลังบ้านของนางน้อย จึงทันได้เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวพอดี“ไม่เห็นอาณิชบอกเลยว่าพี่วินกับพี่หวานจะมา แล้วพี่วินมากับป้าเมลได้ยังไง” เด็กชายไม่เข้าใจเลย แต่ความที่เมลินดาเสียงดังและหงุดหงิดทำให้เขาเข้าใจว่านี่อาจจะไม่ใช่สภาวะปกติ ทำให้เขาแอบดูด้วยความกลัวและระวังว่าอีกฝ่ายจะเห็นเด็กชายวัยเจ็ดขวบลัดเลาะผ่านเข้าไปในเขตบ้านของเมลินดา ที่มีเพียงแนวกอกล้วยห่างๆ เป็นรั้วธรรมชาติ เขาแอบฟังเมลินดาและกำพลพูดคุยอยู่ครู่หนึ่งจึงได้คำตอบให้ตัวเอง“พี่วินกับพี่หวานถูกป้าเมลจับตัวมาแบบในหนังเลย” ทันทีที่เห็นกำพลขับรถออกไป ซึ่งเขาได้ยินว่าเมลินดาสั่งให้ไปซื้ออะไรมาให้คู่แฝดกิน เด็กชายจึงหาทางแอบเข้าไปในตัวบ้านอย่างมุ่งมั่นว่าจะไปช่วยญาติทั้งสอง เขาเปิดประตูหลังบ้านที่ไม่เคยมีกลอนล็อกดังนั้นเขาจึงเข้าไปได้อย่างง่ายดาย“คี‍นมาช่วยแล้วพี่แฝด” “หวาน‍หวานใจเย็นนะ ไม่ต้องกลัว” วินปลอบน้องสาว“วินไม่กลัวเหรอ” หวาน‍หวานย้อนถามเด็กชายส่ายหน้าทันที “ไม่กลัว”“ทำไมล่ะ ไม่กล

  • My wife เมื่อหมดรัก   ผู้ร้ายหรือผู้ประสบภัย

    “นี่เราต้องเอาไอ้เด็กเวรสองคนนี่ไปด้วยจริงๆ เหรอเมล” กำพลแฟนหนุ่มของเมลินดาเริ่มทนไม่ไหว หลังจากที่ต้องรับมือกับคู่แฝดมานานเกินห้าชั่วโมง“พี่ว่าเราเอาสมบัติที่ติดตัวมันมาไปขายแล้วปล่อยมันไว้ตรงไหนสักที่ก็พอมั้ง” “โอ๊ย มันจะมีอะไรติดตัวมาสักเท่าไหร่ ไอ้สร้อยทองจี้เล็กๆ ไม่น่าจะเกินบาทนึง สองเส้นก็สองบาทได้ยังไม่ถึงแสนเอาไปทำอะไรได้ อย่าโง่สิพี่” เนื่องจากวันนี้เด็กๆ ใส่ชุดไทย อันธิกาจึงเลือกสร้อยคอทองคำเส้นเล็กๆ มาให้หลานใส่เป็นเครื่องประดับ และมันก็มีมูลค่าไม่มากหากจะนำไปขาย และยังเสี่ยงกับการถูกจับอีกด้วย “แต่พี่กลัวถูกจับ กลัวติดคุกนี่มันคดีอาญาเลยนะเมล” กำพลเริ่มใจคอไม่ดี“ปล่อยมันไปตอนนี้คิดเหรอว่าจะไม่โดนคดี โดนตั้งแต่ตีหัวนังเอมี่ละจับมันไปขังในห้องเก็บของหลังห้างแล้ว ไม่รู้ป่านนี้เลือดไหลหมดตัวตายไปหรือยัง สาระแนดีนัก” เมลินดาพูดต่อด้วยความฉุนเฉียว “ละไอ้นาฬิกาของอีเด็กนี่ที่โยนทิ้งไป ก็ไม่รู้ว่าตำรวจตามเจอหรือยังเถอะ”“หนูหิวข้าว I'm hungry ” หวาน‍หวานตะโกนขึ้นมาจากเบาะหลัง “เงียบ” เมลินดาหันไปตวาดใส่“ก็หนูหิว นี่มันเย็นแล้วนะคะคุณป้า”

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status