Home / โรแมนติก / My wife เมื่อหมดรัก / บทที่ 7 เรียนดนตรี

Share

บทที่ 7 เรียนดนตรี

Author: Sitha
last update Huling Na-update: 2025-08-16 13:53:02

ไปเรียนดนตรี

สกนธีพาน้องเพียงมาถึงโรงเรียนสอนดนตรีก่อนเวลาเข้าเรียนเล็กน้อย พอมีเวลาได้คุยกับครูเรื่องรายละเอียดจนเป็นที่พอใจ ในคอร์สนั้นมีนักเรียนวัยเดียวกันกับน้องเพียงสองถึงสามคน

ความจริงแล้วทางโรงเรียนแนะนำว่าเด็กหญิงควรเรียนเปียโนก่อนเพื่อให้มีพื้นฐานดนตรี  และครูเกรงว่าน้องเพียงที่อายุห้าขวบนิ้วอาจจะไม่มีแรงพอที่จะกดคอร์ดได้  แต่สกนธีไม่อยากให้ลูกผิดหวัง เขาจึงตั้งใจพามาเรียนก่อนสักครั้งสองครั้งแล้วถ้าเด็กหญิงอยากเรียนต่อเขาจะตามใจ แต่ถ้ายังเรียนไม่ได้จริงเขาจะคุยกับน้องเพียงว่าครูขอให้เปลี่ยนไปเรียนเปียโนก่อน

ชายหนุ่มมาส่งลูกที่หน้าห้องเรียน

“พ่อจะรอหนูที่หน้าห้องนะคะลูก” 

“ค่ะคุณพ่อ  หนูไปแล้วนะคะ”  เด็กหญิงยกมือขึ้นบ๊ายบายกับคุณพ่อ   หน้าห้องเรียนมีชุดโต๊ะเก้าอี้ว่างๆ สกนธีจึงใช้เวลาในตอนนั้นดูงานเอกสารที่ค้างอยู่ ประชุมออนไลน์กับทีมงานและสั่งงานลูกน้องที่บริษัท 

เวลาผ่านไปสองชั่วโมงอย่างรวดเร็ว  เด็กหญิงสุพิชชาวิ่งมาหาคุณพ่ออย่างร่าเริง

“คุณพ่อขา หนูมาแล้ว”  

“เป็นไงคะลูก  เรียนสนุกไหม หนูชอบไหม”  สกนธีปิดแล็ปท็อป  เขาเงยหน้ายิ้มให้เด็กหญิงที่กำลังอารมณ์ดี

“สนุกมากค่ะคุณพ่อ  หนูชอบ”  เด็กหญิงพยักหน้าถี่ๆ  เธอลดเสียงลงแล้วพูดว่า

“คุณพ่อขา หนูหิวขนมแล้ว”  

สกนธีหัวเราะ เขาเก็บของบนโต๊ะย่อตัวลงอุ้มเด็กหญิงขึ้นมาพาเดินไปด้วยกัน

“หนูอยากกินอะไรดีคะ” 

“อยากกินไอติมค่ะ”  น้องเพียงบอกทันที  ชายหนุ่มพยักหน้ารับเขาเดินไปถึงรถยนต์พอดี  ชายหนุ่มเปิดประตูรถด้านคนขับให้น้องเพียงเดินข้ามเบาะไปที่นั่งด้านข้าง

ชายหนุ่มพาลูกสาวไปทานไอศกรีมร้านเดิมที่เคยแอบตามอิสริยาพาลูกไปทานคราวก่อน  เด็กหญิงเปิดดูเมนูชี้รายการที่อยากได้  สกนธีจึงสั่งกับพนักงานตามรายการนั้น

“ช็อกโกแลตซันเดย์หนึ่งครับ กับกาแฟเย็นหนึ่ง” 

“น้องเพียงอยากไปเที่ยวไหนไหมคะลูก”  เขาถามเด็กหญิงในขณะที่มองเธอทานไอศกรีม เธอทำท่าคิดเอียงคอ

“หนูอยากไปสวนสัตว์ค่ะแต่แม่ไม่ว่างสักที”  เธอพูดเสียงเบาลง เข้าใจว่าแม่ไม่ว่าง

“พ่อพาไปได้ค่ะ ไปสวนสัตว์เปิดไหมลูก” 

“ต้องถามแม่ค่ะ”  เด็กหญิงถูกสอนมาว่าจะไปไหนต้องถามแม่ก่อน  ถ้าแม่ไม่ให้ไปก็คือไปไม่ได้

“พ่อบอกแม่ให้เอง ก็ชวนแม่ไปด้วยไงลูก”  สกนธีบอกลูกสาว  เด็กหญิงมีสีหน้าดีใจทันที

“จริงด้วยค่ะ พ่อจะพาหนูไปจริงๆ นะ” 

ตอนเย็นชายหนุ่มพาเด็กหญิงมาส่งที่ร้าน  เขาขมวดคิ้วเมื่อเห็นอิสริยานั่งคุยกับใครที่ห้องทำงาน  ท่าทางไม่น่าใช่เซลขายสินค้า  เธอและแขกหันมามองเมื่อน้องเพียงเปิดประตูห้องทำงานไปหามารดา

“แม่ขาหนูมาแล้ว”  น้องเพียงเขม่นมองชายหนุ่มที่นั่งคุยกับอิสริยาก่อนจะกรีดร้องดีใจวิ่งไปหาชายคนนั้น

“ลุงพุฒ...”

สกนธีนึกออกทันที  พุฒิเมธ เพื่อนรุ่นพี่สมัยเรียนของอิสริยา สมัยเรียนรุ่นพี่คนนี้เคยชอบแม่ของลูกเขามากแต่เธอเลือกที่จะรับรักเขาในวันนั้น    แล้ววันนี้มันมาทำไม

“ว่าไงครับน้องเพียงไปไหนมาคะลูก  ลุงมารอตั้งนานมีขนมมาฝากด้วย”  ชายหนุ่มมองพุฒิเมธที่อุ้มลูกสาวเขาขึ้นมานั่งบนตักโดยที่อิสริยาไม่ได้ว่าอะไร 

ทำไมมันขัดตาแบบนี้ฟะ 

อิสริยาห่มผ้าให้น้องเพียงหลังจากที่เด็กหญิงหลับแล้ว  วันนี้ลูกสาวเธอมีเรื่องเล่าไม่หยุดปากตั้งแต่กลับมาจากเรียนดนตรี

'วันนี้พ่อพาหนูไปกินไอติมด้วยค่ะแม่'

'วันนี้สนุกมากค่ะแม่ หนูอยากให้แม่ไปด้วยจัง'

'พ่อบอกว่าจะพาหนูไปสวนสัตว์ แม่ไปด้วยนะคะ'

          เธอรับฟังลูกเงียบๆ ไม่ได้ขัดคออะไร จนถึงเวลาทานข้าว อาบน้ำเล่านิทานก่อนนอน  เด็กหญิงหลับไปอย่างรวดเร็วจากความเพลียเพราะมีกิจกรรมนอกบ้าน

อิสริยาเดินมาเปิดโทรศัพท์เมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือนข้อความเข้า  เป็นพุฒิเมธนั่นเอง

พุฒิ :  ที่สองผืนเอ๋ลองดูราคาก่อนนะว่าไหวไหม  แปลงแรกสิบไร่ ราคาสองร้อยห้าสิบล้านอยู่ไม่ไกลจากร้านเดิมของเอ๋  กับอีกแปลงแปดไร่ สามงานแต่อยู่ไกลออกไปหน่อยประมาณห้าสิบกิโล ราคาสองร้อยล้าน

พุฒิเมธส่งภาพในมุมต่างๆ ของตัวที่ทั้งสองแปลงมาให้เธอดู  ประมาณยี่สิบภาพและสำเนาโฉนด รายละเอียดต่างๆ ของตัวที่ดินแนบมาให้

“ขอบคุณค่ะพี่เมธ  เอ๋ขอดูก่อนนะคะแล้วถ้ายังไงเดี๋ยวเอ๋ติดต่อกลับไปค่ะ”  เธอพิมพ์ตอบไปพร้อมกับขอบคุณ 

พุฒิเมธเป็นนายหน้าขายที่ดิน จึงเป็นเหตุให้เธอติดต่อเขาในระยะนี้เพื่อหาที่แปลงใหม่ตามที่ครอบครัวให้ช่วยกันดู

เธอพิจารณาที่ด้วยความหนักใจ  ขนาดที่ดินกำลังดีแต่ถ้าเอาเงินจำนวนมากมาทุ่มกับค่าที่แล้ว ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างน่าจะมีปัญหาแน่

วันรุ่งขึ้นสกนธีมาที่ร้านตั้งแต่เช้า  เธอขมวดคิ้วเมื่อแม่บ้านขึ้นมาแจ้งว่าเขามาหาน้องเพียง

“พ่อบอกว่าจะพาหนูไปเที่ยวสวนสัตว์ค่ะแม่  ให้พ่อขึ้นมานะคะ”  เด็กหญิงกระโดดด้วยความดีใจ เธอหันมาพูดกับมารดาแล้วเปิดประตูลงไปชั้นล่างโดยที่แม่ห้ามไม่ทัน

“คุณพ่อ”  เสียงเล็กๆ ที่มาก่อนตัวทำให้สกนธีหันมามอง  เขาเห็นน้องเพียงอยู่ที่หัวบันไดชั้นบน  ชายหนุ่มยิ้มให้ลูกสาวทันที

“ค่ะลูก พ่อมารับไปเที่ยว” 

“พ่อขึ้นมาก่อนค่ะ หนูยังกินข้าวไม่เสร็จ” เด็กหญิงกวักมือเรียกสกนธีมีทีท่าลังเล

“จะดีเหรอคะลูก แม่เขาจะว่าไหม”  ความจริงเขาเองก็อยากขึ้นไปดูส่วนที่เป็นที่อยู่ของภรรยาและลูก  แต่เกรงว่าอิสริยาจะไม่พอใจ

“ไม่ว่าค่ะ หนูบอกแม่แล้ว”  น้องเพียงยืนยันเด็กหญิงลงบันไดมาจูงมือพ่อขึ้นบ้าน  สกนธีจึงเดินตามลูกไปเงียบๆ

“พ่อนั่งตรงนี้ก่อนนะคะ”  เมื่อขึ้นไปถึงชั้นบนชายหนุ่มกวาดตามองไปรอบห้อง  ที่ชั้นบนถูกตกแต่งไว้เหมือนบ้านอยู่อาศัยทั่วไป  ดูออกว่าเพิ่งรีโนเวตไม่นานสีห้องยังใหม่กริบ  ส่วนโถงถูกจัดเป็นห้องนั่งเล่นและพักผ่อน มีชุดรับแขก  โทรทัศน์เครื่องเสียง  โต๊ะทานข้าวอยู่ในบริเวณเดียวกัน

อิสริยาเดินออกมาจากห้องนอน เธอไปแต่งตัวใหม่เมื่อรู้ว่าลูกไปพาสกนธีขึ้นมาบนห้อง

“เอ๋ พี่มารับลูกกับเอ๋ไปสวนสัตว์เขาเขียว  ไปด้วยกันนะ”  สกนธีรีบพูดเมื่อเธอเดินออกมา  เขาเห็นเธอถอนใจแรงๆ ก็หน้าเสีย

“วันนี้เหรอคะ”  หญิงสาวย้อนถาม

“ค่ะแม่  หนูอยากไปนะคะ” 

น้องเพียงเขย่ามือแม่ เด็กหญิงมองมารดาแววตามีความหวังเต็มเปี่ยม

“หนูทานข้าวเสร็จหรือยังคะลูก”  เธอย้อนถามเด็กหญิง

“หนูกินใกล้จะเสร็จแล้วค่ะ แม่ไปด้วยกันนะคะ”  น้องเพียงรีบตอบแม่

“ไปด้วยกันเถอะเอ๋  ลูกอยากไป...นะครับ” สกนธีรีบพูด

อิสริยานึกอยากว่าเขา  เธอเคยบอกเขานานแล้วว่าลูกอยากไปแต่เขาไม่เคยสนใจ  ตอนนี้ทำไมเกิดจะอยากพาไปขึ้นมา  แต่ก็ไม่อยากพูดแบบนั้นต่อหน้าลูก  เด็กหญิงเพิ่งร่าเริงได้ไม่นาน

“ค่ะ  ไปก็ได้แต่ฉันมีเวลาไม่มากนะ  น้องเพียงทานข้าวให้หมดลูก”  เธอหันไปคุยกับลูกสาวที่รีบวิ่งกลับไปทานอาหารเช้าต่อทันที

“ค่ะแม่  แม่มากินด้วยกันสิคะ  พ่อด้วย” 

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • My wife เมื่อหมดรัก   ตอนพิเศษ 3

    ณิช‍ชาคลอดลูกท้องที่สองแต่เป็นคนที่สี่ของบ้าน คราวนี้เป็นเด็กผู้หญิงสมใจคุณพ่อที่อยากเลี้ยงลูกสาววัยแบเบาะสักครั้ง “ดีจังเลยนะคะ บ้านเราจะได้ครึกครื้น” คุณนายอิส‍รีย์พูดกับสามี ขณะที่อุ้มทารกวัยแรกเกิดในอ้อมแขนอย่างระมัดระวัง “จริง ป๊าว่ามีอีกสักคนสองคนก็ดีนะอาตี๋ อั๊วมีสมบัติเยอะแยะแต่ลูกหลานรอรับสมบัติมีน้อยจัง ตอนนี้มีหลานแค่อาเพียง อาชมพู อาวิน หวาน‍หวาน อาคี‍น แล้วก็เจ้าตัวเล็กคนนี้ส่วนอาแบมจะแต่งงานเมื่อไหร่ก็ไม่รู้” พ่อสามีพูดไปด้วยก็มองหลานสาวคนใหม่ไปด้วยสายตาแห่งความรัก เป็นความรักที่เกิดขึ้นทันทีหลังจากที่เด็กน้อยเกิดมาในฐานะหลานของครอบครัวอีกคน“ยังไม่ได้คิดเรื่องนี้เลยครับป๊า กลัวจะไม่มีเวลาให้ลูกมากพอจะดูแลไม่ทั่วถึง” อังกูรเลี่ยงไปก่อน ตัวเขาและภรรยาเคยคุยกันเรื่องนี้ว่าเธอจะทำหมันเลยหรือไม่ในตอนที่คลอดลูกคนนี้ แต่ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปเพราะณิช‍ชาลังเล ส่วนอังกูรเองก็เห็นว่าเธอยังอยู่ในวัยสาวจึงตกลงใจว่าหลังคลอดจะใช้วิธีคุมกำเนิดแบบอื่นไปก่อนเด็กหญิงพุดพิชชาหรือ “น้องวุ้น” มีสุขภาพแข็งแรงดี เธอมีอาการร้องไห้ในช่วงดึกหรือโคลิกอยู่สามเดือนเต็ม ทำเ

  • My wife เมื่อหมดรัก   ตอนพิเศษ 2

    วันนั้นทั้งอังกูรและณิช‍ชาเหมือนได้ย้อนกลับไปเติมเต็มความสัมพันธ์ส่วนที่ขาดหายไประหว่างเขาสองคน นั่นคือการ ‘จีบ’ กันนั่นเอง ชายหนุ่มพาเธอไปดูหนังที่โรงภาพยนตร์ จากนั้นก็เป็นการไปใช้เวลาละเลียดอาหารและขนมอร่อยในร้านที่ณิช‍ชาเป็นฝ่ายเลือกและปิดท้ายด้วยการไปช็อปปิง“เอาเสื้อแบบนี้ไปบ้างไหมคะ สดใสดี” ณิช‍ชาทาบเสื้อฮาวายพื้นขาวมีลายสีน้ำทะเลลงบนไหล่สามี เหตุเพราะว่าอังกูรมีแต่เสื้อผ้าสีพื้นในตู้ ไม่ว่าจะเป็นสีขาวล้วน เทาล้วน น้ำเงินล้วน หรือดำสนิทก็ตามและสูทหรือเนกไทก็มักจะเป็นไปในทางเดียวกัน“ถ้าณิชว่าดีก็เลือกมาให้เฮียหน่อย” ปีนี้เขาอายุสามสิบเจ็ดย่างสามสิบแปดอยู่แล้วในขณะที่ณิช‍ชาอ่อนวัยกว่าถึงสิบปีเต็ม อังกูรจึงเริ่มอยากหันมาดูแลตัวเองเพราะไม่อยากให้ดูว่าอายุมาก ในขณะที่ณิช‍ชากำลังเป็นสาวสะพรั่งเต็มเนื้อเต็มตัวณิช‍ชาเลือกเสื้อผ้าให้เขาใหม่หนึ่งเซตใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชุดลำลองสำหรับวันพักผ่อนหรือไปเที่ยวไหนกับครอบครัว ส่วนเสื้อผ้าทำงานของเขาเธอมองว่าเหมาะสมดีอยู่แล้วจากนั้นอังกูรพาณิช‍ชาไปร้านจิวเวลลี่เพื่อหาแหวนเพชรวงเล็กๆ สำหรับให้เธอใส่ได้ทุกวัน เพราะว่าหญิงสาวเคยบอกว

  • My wife เมื่อหมดรัก   ตอนพิเศษ 1

    เนื่องจากณิช‍ชาตั้งครรภ์ ผู้ใหญ่จึงแนะนำให้ทั้งสองจัดพิธีแต่งงานก่อนที่จะคลอด เพราะเกรงว่าหากเวลาล่วงเลยไปมากกว่านี้ พวกเขาจะต้องยุ่งกับภารกิจเลี้ยงลูกอ่อนไปอีกยาวเป็นปีแน่นอน ดังนั้นพิธีมงคลสมรสจึงถูกจัดขึ้นในอีกสองเดือนต่อมา"เหนื่อยไหมณิช นั่งก่อนเฮียให้คนจัดโต๊ะกินข้าวแล้ว รอสักเดี๋ยว” อังกูรถามหลังจากที่จบพิธีช่วงครึ่งวันเช้าซึ่งเป็นพิธียกน้ำชาแบบธรรมเนียมจีน บ่าวสาวจะมีเวลาพักผ่อนส่วนตัวในช่วงบ่ายประมาณสามชั่วโมง ก่อนที่จะต้องไปแต่งตัวสำหรับงานเลี้ยงช่วงค่ำชายหนุ่มเปลี่ยนสรรพนามเรียกตัวเองว่า “เฮีย” ตามธรรมเนียมของครอบครัว ตั้งแต่ที่ตกลงใจเรื่องจัดงานแต่งเป็นเรื่องเป็นราวและพาเธอเดินสายแจกการ์ดให้กับญาติๆ และผู้ใหญ่ที่นับถือ ณิช‍ชาเองแรกๆ ไม่ชินปากแต่นานไปเธอก็เรียกเขาว่าเฮียได้แบบเคยชินไปเอง“หิวค่ะแต่ไม่มาก...รอได้ เด็กๆ จะขึ้นมากันหรือยังคะเฮีย”“กำลังมาน่ะเฮียโทรลงไปตามแล้ว เล่นกันอยู่ที่ห้องป๊าม้าถามแล้วว่ายังไม่ได้กินข้าวเที่ยงกัน เฮียก็เลยบอกให้พี่เลี้ยงพาขึ้นมาให้หมดทั้งสามคน” ทั้งสองอยู่ในห้องพักชั้นสามที่บ้านใหญ่ซึ่งเป็นโซนส่วนตัวของอังกูรทั้งชั้น เดิมป

  • My wife เมื่อหมดรัก   สมาชิกใหม่  & ตอนจบ

    เจ้าหน้าที่ตำรวจไปตามพิกัดที่ได้จากคนร้ายส่งมา หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบที่แฝงตัวเป็นคนเก็บขยะได้จับกุมกำพลและเมลินดาอย่างง่ายดาย เพราะกำพลไม่สู้อยู่แล้วเนื่องจากกลัวถูกวิสามัญฆาตกรรม ส่วนเมลินดาก็แพ้พิษมดแดงจนเกาไม่หยุดทำให้หลบหนีไม่รอด“แล้วเด็กสองคนอยู่ไหน” “ฉันจะไปรู้ได้ไง พวกมันหนีไปตั้งนานแล้ว” เมลินดาปฏิเสธว่าไม่รู้ ทำให้เธอถูกสอบสวนเพิ่มอย่างหนัก“ลูกหายไปที่ไหนคะ” ณิช‍ชาร้องไห้เมื่อไม่พบว่าลูกสองคนอยู่ในบ้านเมลินดา“ใจเย็นๆ นะณิช ลูกอาจจะหลบอยู่แถวนี้” อังกูรปลอบใจหญิงสาวทั้งที่ตัวเองก็หนักใจ “ณิชเกิดอะไรขึ้นลูก” ป้าน้อยที่ได้ยินเสียงและผู้คนมากมายในย่านละแวกบ้านก็อดไม่ได้ที่จะมาดู มีชาวบ้านคนหนึ่งเล่าเรื่องให้แกฟัง รู้รายละเอียดประดุจป้าข้างบ้านทั้งที่ก็เพิ่งมาก่อนแกไม่นาน ป้าน้อยจึงตกใจมาก “เออ แล้วคี‍นก็หายไปนานละด้วยนะ บอกป้าว่าจะไปจับหิ่งห้อยในสวนน่ะ” แกตบเข่าฉาด“คี‍นหายไปตอนไหนคะป้าน้อย” ณิช‍ชารีบถาม“น่าจะสักทุ่มนึงนะ เขาบอกว่าจะไปดูหิ่งห้อยในสวน ละเด็กมันไปประจำป้าเห็นว่าเขาไม่ได้ออกนอกเขตบ้านก็เลยไม่ได้ว่าอะไร” แกฉุกใจคิดว่าตอนแกเด

  • My wife เมื่อหมดรัก   ฮีโร่ตัวเล็ก

    เด็กชายเข‍มินท์มองภาพที่วินและหวาน‍หวานถูกพาเข้าไปในบ้านของเพื่อนบ้านอีกคนอย่างไม่เข้าใจ ตอนนั้นเขากำลังเดินมาหาหิ่งห้อยในสวนหลังบ้านของนางน้อย จึงทันได้เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวพอดี“ไม่เห็นอาณิชบอกเลยว่าพี่วินกับพี่หวานจะมา แล้วพี่วินมากับป้าเมลได้ยังไง” เด็กชายไม่เข้าใจเลย แต่ความที่เมลินดาเสียงดังและหงุดหงิดทำให้เขาเข้าใจว่านี่อาจจะไม่ใช่สภาวะปกติ ทำให้เขาแอบดูด้วยความกลัวและระวังว่าอีกฝ่ายจะเห็นเด็กชายวัยเจ็ดขวบลัดเลาะผ่านเข้าไปในเขตบ้านของเมลินดา ที่มีเพียงแนวกอกล้วยห่างๆ เป็นรั้วธรรมชาติ เขาแอบฟังเมลินดาและกำพลพูดคุยอยู่ครู่หนึ่งจึงได้คำตอบให้ตัวเอง“พี่วินกับพี่หวานถูกป้าเมลจับตัวมาแบบในหนังเลย” ทันทีที่เห็นกำพลขับรถออกไป ซึ่งเขาได้ยินว่าเมลินดาสั่งให้ไปซื้ออะไรมาให้คู่แฝดกิน เด็กชายจึงหาทางแอบเข้าไปในตัวบ้านอย่างมุ่งมั่นว่าจะไปช่วยญาติทั้งสอง เขาเปิดประตูหลังบ้านที่ไม่เคยมีกลอนล็อกดังนั้นเขาจึงเข้าไปได้อย่างง่ายดาย“คี‍นมาช่วยแล้วพี่แฝด” “หวาน‍หวานใจเย็นนะ ไม่ต้องกลัว” วินปลอบน้องสาว“วินไม่กลัวเหรอ” หวาน‍หวานย้อนถามเด็กชายส่ายหน้าทันที “ไม่กลัว”“ทำไมล่ะ ไม่กล

  • My wife เมื่อหมดรัก   ผู้ร้ายหรือผู้ประสบภัย

    “นี่เราต้องเอาไอ้เด็กเวรสองคนนี่ไปด้วยจริงๆ เหรอเมล” กำพลแฟนหนุ่มของเมลินดาเริ่มทนไม่ไหว หลังจากที่ต้องรับมือกับคู่แฝดมานานเกินห้าชั่วโมง“พี่ว่าเราเอาสมบัติที่ติดตัวมันมาไปขายแล้วปล่อยมันไว้ตรงไหนสักที่ก็พอมั้ง” “โอ๊ย มันจะมีอะไรติดตัวมาสักเท่าไหร่ ไอ้สร้อยทองจี้เล็กๆ ไม่น่าจะเกินบาทนึง สองเส้นก็สองบาทได้ยังไม่ถึงแสนเอาไปทำอะไรได้ อย่าโง่สิพี่” เนื่องจากวันนี้เด็กๆ ใส่ชุดไทย อันธิกาจึงเลือกสร้อยคอทองคำเส้นเล็กๆ มาให้หลานใส่เป็นเครื่องประดับ และมันก็มีมูลค่าไม่มากหากจะนำไปขาย และยังเสี่ยงกับการถูกจับอีกด้วย “แต่พี่กลัวถูกจับ กลัวติดคุกนี่มันคดีอาญาเลยนะเมล” กำพลเริ่มใจคอไม่ดี“ปล่อยมันไปตอนนี้คิดเหรอว่าจะไม่โดนคดี โดนตั้งแต่ตีหัวนังเอมี่ละจับมันไปขังในห้องเก็บของหลังห้างแล้ว ไม่รู้ป่านนี้เลือดไหลหมดตัวตายไปหรือยัง สาระแนดีนัก” เมลินดาพูดต่อด้วยความฉุนเฉียว “ละไอ้นาฬิกาของอีเด็กนี่ที่โยนทิ้งไป ก็ไม่รู้ว่าตำรวจตามเจอหรือยังเถอะ”“หนูหิวข้าว I'm hungry ” หวาน‍หวานตะโกนขึ้นมาจากเบาะหลัง “เงียบ” เมลินดาหันไปตวาดใส่“ก็หนูหิว นี่มันเย็นแล้วนะคะคุณป้า”

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status