“คิระ นี่มันเรื่องอะไรกัน?!”
ไม่ใช่แค่ฉันหรอก แต่ DS Member ทุกคนก็ดูสับสนพอกัน ถ้าเรียกตัวคืนสู่สังกัด แปลว่ามาโครอยู่สังกัดของเรา? แต่จะเป็นไปได้ไงก็ในเมื่อแม็ค... “ว่ากันว่า...ถ้าจะหลอกศัตรูให้ตายใจ ก็ต้องหลอกพวกเดียวกันให้ได้ซะก่อน” คิระเดินตรงเข้ามาหาฉัน และมองลงไปที่กลางสนามประลอง เห็นแม็คกับเลย์ยืนอยู่ข้างล่างท่ามกลางความเงียบงันที่ไม่มีใครพูดอะไร ยิ่งไปกว่านั้น สองคนนั้นกับติณณ์และท่านพ่อ ก็ยังหันมาดูปฏิกิริยาของฉันด้วยซ้ำ พรึ่บ! หมับ! ได้ฟังแบบนั้นฉันก็ก้าวขาจะเดินลงไปข้างล่าง แต่คินมันดันมาคว้าแขนไว้ และกระชากกลับไปอย่างแรง พร้อมกับพูดด้วยด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดก่อนจะหันไปพยักหน้าให้ติณณ์ “ครั้งนี้ไม่เอาตัวแถม ถ้าพวกมันรักเธอ...พวกมันก็มีเรื่องต้องเคลียร์กัน!” แล้วพอคินพูดจบ อยู่ๆติณณ์ก็โยนดาบคาตานะสองเล่มให้แม็คกับเลย์ที่ก็ยื่นมือไปรับมัน นั่นทำให้ฉันวิตกขึ้นมา เพราะแม็คน่ะ...ใช้ดาบคาตานะคล่องมากอยู่ละ แต่เลย์กับดาบคาตานะน่ะ... “ศิษย์สำนักเดียวกัน ไม่เห็นต้องทำหน้าเหวอขนาดนั้น” “สำนักเดียวกัน?” ฉันหันไปหาคินด้วยสีหน้างงๆ “ก็ใครสอนไอ้แม็ค? ใครประทับตราให้มัน?” คิระตอบกลับคำถามของฉันด้วยคำถาม ถ้าหมายถึงใครสอนแม็คใช้ดาบคาตานะกับประทับตราให้ก็... “สภา” เฮ่อ! พอฉันตอบไปงั้น คินมันก็ถอนหายใจและส่ายหน้า ก่อนจะหันไปหาใครคนหนึ่งที่นั่งถัดจากติณณ์ด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่ก็ให้ความสนใจเลย์กับแม็คมากกว่าใครเลย “ท่านพ่อหรอ?” “อืม ตั้งแต่ช่วงมันครองตำแหน่งว่าที่ลูกเขยสุดที่รักละ” “แต่หมอนั่นเป็นคนของสภา” ชิ้งงง พรึ่บ! หวืดดดด ฉันเลิกคิ้วถามคิน ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่แม็คพุ่งเข้าไปหาเลย์ที่ดูล้าจากข้างนอกมาก่อน แต่เลย์ก็หลบได้อย่างหวุดหวิด แล้วคินมันก็ตอบกลับมา “ถ้าหมายถึงคลุกคลีอยู่กับพวกนั้นก็ใช่ แต่ DS Member เราประทับตราตอนไหน คิดดีๆดิวะ” แม้จะกำลังคุยกัน แต่ทั้งคินและฉันก็ไม่มีใครละสายตาจากสองคนนั้นที่ทั้งจู่โจมและหลบหลีกคู่ต่อสู้ของตัวเองอย่างว่องไวได้เลย พรึ่บ! พรึ่บ! หวืดดด เคร้งๆ! คราวนี้เป็นเลย์ที่พุ่งเข้าไปหาแม็คด้วยองศาดาบที่ตัดเฉียงแบบว่องไวและแข็งแกร่งมาก จนฉันโล่งอกเพราะแอบเห็นท่านพ่อกับติณณ์กระตุกยิ้มมุมปากทันทีที่เห็นท่าทางนั้น แม็คเองก็ถึงกับถอยหลังและใช้ดาบของตัวเองรับคมดาบของเลย์แบบฉุนเฉียวพอกัน “DS Member ก็ประทับตราหลังเรียกตัวมาทดสอบ เดี๋ยว แปลว่าแม็คประทับตราก่อน” ฉันตอบคำถามคิระ แล้วต้องชะงักไปนิดหน่อย เพราะความหมายของถ้อยคำที่ติณณ์บอก แม็คเป็น Member ระดับสูงสังกัดเราแต่แรก การที่ต้องไปปฏิบัติภารกิจเป็นสปายของฝั่งสภาจนสร้างวุ่นวายมาได้ถึงตอนนี้ แปลว่าแม็คต้องผ่านการประทับตรามาก่อน แต่มันตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? “เริ่มฉลาดขึ้นละนี่ ใบ้ให้นิดนึงว่าไอ้เลโอก็มีตราประทับแบบเดียวกันด้วย และมันกำลังทำภารกิจชิงซากจดหมายอะไรสักอย่าง ติ๊กต่อก ติ๊กต่อก…” ถึงจะพูดแบบทีเล่นทีจริง แต่สายที่คินมองเลย์ก็ไม่ได้เป็นกลางสักเท่าไหร่หรอก แหงล่ะ หมอนี่เข้าข้างแม็คแน่อยู่แล้ว เคร้ง! เคร้ง! ฟรึ่บ! ฟรึ่บ! เสียงดาบของเลย์และแม็คยังคงกระทบกันเสียงดัง แทรกมาด้วยเสียงคมดาบของทั้งสองฝั่งที่เฉือนเข้าข้างลำตัวของทั้งคู่คนละหลายครั้ง แม็คยังโชคดีที่มีเสื้อสูทเจ้าปัญหาคลุมทับเลยเข้าไม่ถึงผิวหนัง แค่ลำบากตรงที่ต้องรักษาซองจดหมายในเสื้อสูทที่โดนคมดาบของเลย์เฉี่ยวไปเฉี่ยวมาจนมีรอยถากที่กระเป๋าเสื้อหลายรอย กลับกัน...เลย์โดนคมดาบนั้นเฉือนเข้าเสื้อเชิ้ตบางๆที่เปื้อนเลือดสีแดงสดจนมันยิ่งชุ่มไปด้วยเลือดอีกครั้ง เพราะถูกคมดาบเมื่อกี๊ของแม็คบาดข้างลำตัวเข้าอย่างจัง! แล้วรอยเลือดหยดเป็นลงพื้นเป็นทางทำให้เลย์ฟิวส์ขาด พุ่งเข้าใส่แม็คแบบหัวร้อนด้วยความโกรธจัด ทั้งคู่โต้ตอบกันจนไม่สนใจสภาพเสื้อสูทของเจ้าบ่าวที่แม็คสวมอยู่ด้วยซ้ำ มันขาดวิ่นจนไม่เหลือเค้าเดิม เป้าหมายเดียวที่เห็นชัดจากการกระทำ คือทั้งเลย์และแม็คต้องการล้มอีกฝ่ายให้ได้แบบไม่มีใครยอมใครทั้งนั้น เคร้ง! เคร้ง! ฟรึ่บ! ฟรึ่บ! เคร้ง เคร้ง เคร้ง! “สองคนนั้นประทับตราก่อนงานแต่งงาน?” ฉันถามออกไปแล้วคินมันก็พยักหน้าให้หายสงสัย ในขณะเดียวกันเลย์กับแม็คก็ยังสลับกันโดนคมดาบของกันและกันจนต่างคนต่างเริ่มยืนไม่อยู่ และแสดงอาการเหนื่อยหอบออกมาอย่างปิดบัง แย่หน่อยตรงที่เลย์เหมือนมีอาการคล้ายจะเสียหลัก และดูอ่อนแรงเต็มทีเพราะรับมือกับจำนวนคนที่เกินลิมิตมาก่อน แม็คเลยอาศัยจังหวะนี้พุ่งเข้าใส่เลย์ไม่ยั้ง เคร้ง! เคร้ง! ฟรึ่บ! ฟรึ่บ! ฟรึ่บ! ฟรึ่บ! เคร้ง! เคร้ง! “แม็ค!” ฉันเห็นภาพนี้แล้วใจจะขาด ได้แต่ตวาดออกไปดังลั่นให้แม็คหยุด Nightshade เองก็นั่งไม่ติดเก้าอี้ Nightshade’s Lady ถึงกับเอามือปิดปากพอเห็นเลย์ในสภาพนั้น เรียกความสะใจจากคินที่เห็นดีเห็นงามกับการประลองครั้งนี้แบบออกนอกหน้าจริงจัง “กาก! คนปวกเปียกแบบนี้หรอวะ ที่กล้าขืนใจพี่กูอ่ะ!” คินตะคอกออกไปพร้อมกับกระตุกยิ้มมุมปากสะใจ ผิดกับฉันที่พอได้ฟังและหันไปเห็นสีหน้าเอาจริงเอาจังของคนที่ไม่ยอมปล่อยมือที่จับฉันไว้แบบนั้น ก็ถึงเครียดไปเลยเหมือนกัน แล้วคำว่า ‘ขืนใจ’ ของคินก็ยิ่งทำให้แม็คเดือดขึ้นมาแบบไม่รู้เป็นบ้าไรเหมือนกัน หมอนั่นพุ่งเข้าไปหาเลย์ที่แทบจะไร้เรี่ยวแรงอย่างบ้าระห่ำ เลย์ทั้งหลบคมดาบได้บ้างไม่ได้บ้างจนเลือดท่วมไปทั้งตัว จนกระทั่ง.... เคร้งงงงงง! เสียงดาบคาตะนะของเลย์ที่หล่นลงพื้นทำเอาฉันถึงกับฟิวส์ขาด สะบัดมือคินที่จับไว้เต็มแรงจะไปช่วยเลย์ แต่ก้าวขาได้แค่ก้าวเดียว เสียงเข้มของคินก็ดังขึ้นมาขัดจนชะงักอีกครั้ง “ถ้าเจ๊ลงผมลง สาบานว่ามันตายแน่! เอาหัว Sub Leader เป็นประกัน!” กึก! “คิระ…” ฉันกำมือแน่นจนมือสั่น กัดฟันเรียกชื่อคินและหันไปสบตาติณณ์ที่ก็จ้องมองเลย์ด้วยสีหน้าเรียบเฉย ผิดกับ Nightshade คนอื่นๆที่ร้อนรนจนแทบจะเดินลงมาช่วยเลย์ไม่ต่างจากฉัน “พนันกันคลายเครียดมั้ยล่ะ ไอ้ห่านั่นแพ้แน่ ว่าป้ะ?” “หุบปากได้รึยัง?!” พอเห็นท่าทางของเลย์บวกกับน้ำเสียงของคิระ ฉันก็เริ่มหัวเสีย พวก Nightshade ที่นั่งอยู่อีกฝั่งก็ดูตึงเครียดไม่ต่างกัน แม็คเปิดโอกาสให้เลย์ก้มลงหยิบดาบจากพื้นด้วยสีหน้าซีดเซียว ส่วนนึงเพราะเสียเลือดไปเยอะมาก ก่อนที่หมอนั่นจะหันมามองฉัน “……” แล้วในเสี้ยวนาทีสั้นๆ แม็คก็พุ่งเข้าไปฟาดฟันกับเลย์แบบเร็วมาก จนเลย์ที่ล้าเอาการถอยกรูดไปตั้งหลัก แถมยังตั้งรับคมดาบนั้นแทบไม่ทัน และ... “เชี่ยเลย์! แค่นี้ก็หมดแรงแล้วหรอวะ นั่น Lady ทั้งคนไอ้ห่า!” ฉันมองตามเสียงนั้นและเห็น Nightshade กับ Nightshade’s Lady ออกมายืนเกาะขอบสนามประลองแบบไม่เกรงกลัวอำนาจของติณณ์หรือท่านพ่อ และสายตาของ DS Member นับร้อยเลยด้วยซ้ำ คนที่ตะโกนมาคือไอ้เวย์ ในระหว่างที่เลย์ตั้งรับคมดาบของแม็คด้วยสีหน้าจริงจังขัดกับร่างที่แทบจะยืนไม่ไหวแบบนั้น แล้วพอพูดจบ ไอ้เวย์มันก็ส่งสายตาเอาเรื่องไปให้แม็ค ราวกับกำลังปกป้องเลย์ผ่านคำขู่จากแววตาคู่นั้น ก่อนที่พายุโพล่งออกมาตามๆกัน “อ่อนฉิบหาย! ทำ Nightshade ขายหน้าตาย! กูอายรู้ยัง!” ถึงคำพูดจะดูเหยียดหยาม แต่สีหน้าที่พายุแสดงออกมามันตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง “ไม่เฟี้ยวเลยอ่ะเพื่อนเลย์ เราอุตส่าห์เตรียมแหวนร้อยกว่าวงมาให้ขอสาวแต่งงาน” วาโยเองก็ตะโกนตามหลังมาแบบกวนๆ แต่สายตาเป็นห่วงเป็นใยก็มาเต็ม ไม่ต่างจาก Nightshade คนอื่นเหมือนกัน ก่อนจะตามมาด้วยเสียง Nightshade’s Lady อย่างเจด้า นิลลา และโรเซ่ที่ทำให้ฉันน้ำตาซึมขึ้นมาอย่างเข้าใจในเจตนาของทุกคนตรงนั้น “เฮ้ยเลดี้ ชาตินี้ลูกเราจะมีเพื่อนเล่นมั้ย เฮียเลย์ท่าทางจะขึ้นคาน” “ยากหน่อยอ่ะไอ้ด้า อินเนอร์เลย์ไม่แรงเท่าตอนหาปิ๊กกีต้าร์เลยนี่นา ต่อไปไม่ให้จับท้องละ รำคาญอ่ะ!” “ว่างั้นแหละเจ๊ ถ้าโรสเป็นเจ๊เฟรย์นี่หนีไปแต่งงานใหม่ละนะ คือรอซะเบื่ออ่ะ เฮียเลย์ต้องตื่นได้ละ เดิมพันครั้งนี้คือเจ้าสาวของเฮียนะ!” พรึ่บ! ได้ฟังแบบนั้นเลย์ก็สะบัดคมดาบของแม็คออกอย่างแรง ทำให้แม็คที่หยุดฟังถึงกับเสียหลักไปนิดหน่อย ก่อนที่เลย์จะก้มหน้าหายใจเข้าลึกๆ และหลุดยิ้มบางๆ พยายามจะไม่เป็นไรต่อหน้าทุกคนที่มองมา “เปล่าประโยชน์ว่ะ ยังไงแพ้ราบคะ...” “นั่นดิ! ไหนบอกจะโชว์ให้ว่าที่พ่อตาเห็น ว่าเป็นเจ้าบ่าวมาเฟียที่เท่ที่สุดในโลกไงล่ะ!” ฉันไม่ได้สนใจสิ่งที่คิระจะพูด และตะโกนตามหลังโรสไปบ้าง แต่เลย์ก็ยังก้มหน้าและเอาแต่เงียบ ใช้ดาบคาตานะพยุงร่างตัวเองเอาไว้ ในสภาพที่มีหยดเลือดไหลลงมาที่พื้น บีบใจฉันที่กัดฟันมองไป ยิ่งกว่าใครๆที่มองมา “……” “อ้าวเงียบ แบบนี้ก็แย่ดิ แค่อดีตของรักษาการยังก้าวข้ามมาไม่ได้อ่ะ ฮึก...” ครั้งนี้มันสุดจะกลั้นละ ฉันตะโกนออกไปทั้งน้ำตาเพราะเลย์ไม่ตอบโต้อะไรกลับมา เลย์เอาแต่นิ่ง นิ่งแบบไม่พูดไม่จา ลมหายใจดูอ่อนล้า แต่เลย์ก็ไม่แม้แต่...จะมองมา “ไอ้บ้าเอ๊ย! ฮึก... เป็นหัวใจของรักษาการทั้งที อย่ามาอ่อนปวกเปียกให้ใครเห็นแบบนี้ดิวะ!” ฉันตะโกนออกไปอีกครั้งเหมือนคนบ้า แต่ครั้งนี้ท่ามกลางความเงียบเลย์ที่ก้มหน้าก็ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงแหบพร่า... “หึ... รักษาการก็อย่าร้องสิคะ เค้าก็แค่...ไม่อยากเห็นน้ำตา” “ฮึก... ไม่ไหวก็พอเถอะเลย์ พอแล้ว ท่านพ่...” “หัวใจของรักษาการ...เค้าชอบคำนั้นนะ” ฉันกำลังจะหันไปขอร้องท่านพ่อด้วยท่าทางร้อนใจ แต่เลย์ก็ยังเป็นเลย์ที่พูดจาติดเล่นอยู่ได้ทั้งที่ร่างกายจะไม่ไหว “ได้เป็นตอนหนะ...ไหน เพราะอะไร บอกหน่อย...ได้มั้ย” พรึ่บ! เคร้งงง! “แฮ่กๆ” แล้วภาพที่ฉันไม่อยากเห็นที่สุดก็เกิดขึ้นจนได้ พูดจบดาบคาตานะในมือที่ค้ำร่างเลย์ไว้ก็ถูกปล่อยลงพื้น พร้อมกับร่างไร้เรี่ยวแรงของเลย์ที่ทรุดลงไปนั่งคุกเข่าเกินกว่าจะรับความเจ็บปวดพวกนั้นไหว นั่นทำให้แม็คซึ่งหยุดประเมินสถานการณ์อยู่นาน พอสบโอกาสเห็นเลย์ท่าทางไม่ดีแล้วก็เลยก้าวขาเข้าไป กึก… กึก... กึก… “ว่าไงคะ” ถึงแม้เสียงฝีเท้าของแม็คจะดังก้องไปทั้งสนามประลอง แต่เลย์ก็ไม่ได้สนใจ เลย์ยังคงก้มหน้าพูดกับฉันอย่างใจเย็น ทั้งที่อีกไม่ถึงสิบก้าว แม็คที่กระชับด้ามดาบในมือก็จะเข้าประชิดตัวเลย์ได้อยู่แล้ว ทำให้ฉันตะโกนเสียงสติเลย์ออกไป “เพราะรักไงล่ะ! รักมากกว่าคน...ที่ยืนตรงหน้านายไงล่ะ! เลย์ระวัง!!!” “...รับทราบแล้วค่ะ” เคร้งงงง! ฟรึ่บ! ฟรึ่บ! ฟรึ่บ! ฟรึ่บ! แล้วทุกอย่างก็เกิดขึ้นเร็วมาก สิ้นสุดคำพูดของฉัน แม็คก็ง้างดาบขึ้นสูงมาก โดดเข้าไปพร้อมจะฟันเลย์ที่นั่งคุกเข่านิ่งๆอยู่ตรงนั้น! แต่ในพริบตาเดียว เลย์ก็คว้าดาบคาตานะของตัวเองที่ร่วงลงพื้นขึ้นมาและเบี่ยงตัวหลบลุกขึ้นยืน พร้อมกับฟันสวนกลับไปจากด้านหลังของแม็คแบบไม่ยั้งเหมือนกัน ฟุ้บ! แรงจากการฟันอย่างบ้าระห่ำของเลย์ในระยะประชิดและองศาของดาบที่ต่างกันทำให้แม็คล้มลง ส่วนเลย์ก็พยายามพยุงร่างตัวเองที่แทบจะโซซัดโซเซแบบแทบไม่รู้ทิศทาง เดินเข้าไปกระชากกระเป๋าเสื้อสูทที่แม็คใส่จนขาด และเอาซองจดหมายอีกครึ่งนึงออกมาจนได้ ก่อนจะหันมาหาฉัน และ... ฟุ้บ! ร่างของเลย์ทรุดลงอีกครั้งข้างกันกับแม็คที่น่าจะสาหัสพอกัน เห็นแบบนั้นฉันเลยวิ่งลงมาที่สนาม พวก Nightshade คือโดดข้ามขอบสนามเข้ามาแบบไม่สนใจอะไรทั้งนั้น คินเองก็ดูตกใจ ต่างคนต่างเข้าไปประคองเพื่อนตัวเองในแต่ละฝั่ง “เลย์...เลย์” และทันทีที่เห็นฉัน อ้อมกอดที่อบอุ่นเสมอก็กอดฉันแน่นทั้งที่ตัวมีแต่กลิ่นคาวเลือดแบบนั้น ทำฉันปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อาย แล้วติณณ์มันก็โพล่งออกมาเสียงดัง “สิ้นสุดการประลอง! Dark Shadow Member จงฟัง!” แต่ถึงแม้จะสาหัสกันขนาดนั้น ทั้งเลย์และแม็คที่ได้ฟังก็พยายามพยุงตัวเองขึ้นมาเพื่อฟังติณณ์พูด พร้อมกับ DS Member ที่ลุกขึ้นยืนอย่างพร้อมเพรียง ท่านพ่อยังถึงกับส่งสายตาชื่นชมในสปิริตของสองคนนั้น “ประกาศแต่งตั้งตำแหน่งใหม่! นับจากนี้เป็นต้นไป...” ติณณ์มันพูดและเงียบไป ก่อนจะหันมาหาคินที่ยืนอยู่ข้างฉัน โดยมีไอ้เวย์ช่วยพยุงแม็คอยู่อย่างนั้น แล้วคินมันก็เบะปากกวนๆฉันนิดหน่อย ก่อนจะประกาศกร้าวออกมาเสียงดัง “รฐนนท์ ภัทรเดชา เป็นหัวใจของรักษาการ!” “รับทราบ!”….END ♥
“คิระ นี่มันเรื่องอะไรกัน?!”ไม่ใช่แค่ฉันหรอก แต่ DS Member ทุกคนก็ดูสับสนพอกัน ถ้าเรียกตัวคืนสู่สังกัด แปลว่ามาโครอยู่สังกัดของเรา? แต่จะเป็นไปได้ไงก็ในเมื่อแม็ค...“ว่ากันว่า...ถ้าจะหลอกศัตรูให้ตายใจ ก็ต้องหลอกพวกเดียวกันให้ได้ซะก่อน”คิระเดินตรงเข้ามาหาฉัน และมองลงไปที่กลางสนามประลอง เห็นแม็คกับเลย์ยืนอยู่ข้างล่างท่ามกลางความเงียบงันที่ไม่มีใครพูดอะไร ยิ่งไปกว่านั้น สองคนนั้นกับติณณ์และท่านพ่อ ก็ยังหันมาดูปฏิกิริยาของฉันด้วยซ้ำพรึ่บ! หมับ!ได้ฟังแบบนั้นฉันก็ก้าวขาจะเดินลงไปข้างล่าง แต่คินมันดันมาคว้าแขนไว้ และกระชากกลับไปอย่างแรง พร้อมกับพูดด้วยด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดก่อนจะหันไปพยักหน้าให้ติณณ์“ครั้งนี้ไม่เอาตัวแถม ถ้าพวกมันรักเธอ...พวกมันก็มีเรื่องต้องเคลียร์กัน!”แล้วพอคินพูดจบ อยู่ๆติณณ์ก็โยนดาบคาตานะสองเล่มให้แม็คกับเลย์ที่ก็ยื่นมือไปรับมัน นั่นทำให้ฉันวิตกขึ้นมา เพราะแม็คน่ะ...ใช้ดาบคาตานะคล่องมากอยู่ละ แต่เลย์กับดาบคาตานะน่ะ...“ศิษย์สำนักเดียวกัน ไม่เห็นต้องทำหน้าเหวอขนาดนั้น”“สำนักเดียวกัน?” ฉันหันไปหาคินด้วยสีหน้างงๆ“ก็ใครสอนไอ้แม็ค? ใครประทับตราให้มัน?”คิระตอบกลับคำถามขอ
สองวันต่อมา...@ Dark Shadow Castle (JAPAN)“โห สวยมากกกก เจ๊คือสวยในสวย สวยโคตรๆ สวยแบบถ้าเลย์เห็นต้องยกเลิกงานแต่ง ลากไปขังไว้ในห้องไม่ให้ออกมาพบผู้คนแน่ๆ O[]O”เสียงนิลลาอวยฉันที่ยืนหมุนตัวอยู่หน้ากระจกไปมาในชุดเจ้าสาวที่เคยใส่แล้ว แต่วันนี้มันดูแปลกตากว่าครั้งนั้น คงเพราะทรงผมที่ทำมันไม่เหมือนกันล่ะมั้ง“หรอ -/////- แต่นั่นน่าจะเป็นนิสัยดิบเถื่อนของพายุมากกว่า”“แหะๆ อย่าเปิดประเด็นนินทาพายสิคะ รายนั้นยิ่งชอบเจ้ากี้เจ้าการ บังคับให้แต่งๆอยู่ได้ ไม่สนใจคนรอบข้างเลยอ่ะ -*-”“อ้าวโรส เฮียพายมาหรอ”“เย้ยยย ไอ้ด้า! เดี๋ยวกูตบกบาล”อ๋อ! รู้ละอีกอย่างนึงที่มันต่าง คือความครื้นเครงในห้องแต่งตัวเจ้าสาวตอนนี้ ที่เต็มไปด้วยบรรดา Nightshade’s Lady มาช่วยตรวจความเรียบร้อยให้ แถมยังตื่นเต้นกว่าฉันที่สวมชุดเองซะอีก“ก็สวยจริงๆนั่นแหละนะ”โมเน่ต์พูดไปแล้วจัดระเบียบชุดเจ้าสาวของฉันไปด้วยสีหน้าที่ดูดีขึ้นแบบเคลียร์ใจกันทั้งหมดแล้วก็นะ เพราะฉันกับติณณ์อายุห่างกันนิดหน่อย แถมยังเรียนมหาลัยปีเดียวกัน เราเลยคงสรรพนามเดิมคือเรียกชื่อกันเฉยๆ ไม่จำเป็นต้องเรียกเจ๊หรืออะไรจริงจัง เพราะทั้งติณณ์และคิระ ถ้า
หลายวันต่อมา...@ Dark Shadow Castleหลังผ่านการพิพากษาคิระ ซึ่งทุกอย่างก็เหมือนจะจบลงด้วยดี เพียงแต่...ไอ้สองพี่น้องขี้เก๊กนั่นมันก็ยังไม่ยอมเปิดใจคุยกันตรงๆสักทีก็...แล้วแต่นะ การกระทำมันสำคัญกว่าคำพูดอยู่แล้วนี่อ้อ...ลืมบอกไปนิด ท้ายที่สุดแล้วก็เป็นฉันนี่แหละ ที่เป็นคนประทับตรา Dark Shadow ให้โมเน่ต์ตามคำขอของติณณ์ ซึ่งเราก็ไม่เห็นหน้ากันตรงๆหรอกนะ ฉันเข้าไปประทับให้ตอนที่เธอหันหลัง เพราะยังไม่ต้องการเปิดเผยตัวตน และอย่างที่รู้... โมเน่ต์กับฉันก็ไม่ค่อยจะลงรอยกันหรอกตั้งแต่ที่ชมรมละแต่ไม่รู้ไปประทับอะไรผิดพลาดรึเปล่า เพราะอยู่ๆโมเน่ต์ก็ขอให้ติณณ์พามาที่ Castle ตั้งแต่กลับจากญี่ปุ่นตลอด Nightshade เองก็แวะเวียนมาที่นี่แทบทุกวัน จนตอนนี้กลายเป็น Ztudio Nightshade นั่นแหละที่ร้าง ในขณะที่ Castle ฝั่งติณณ์...ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!เสียงลั่นไกในห้องซ้อมยิงปืนจาก CCTV ที่เคนชินมันต่อเข้ามานั่งดูในห้องโถงของ Castle ฝั่งฉัน ดังสนั่นแบบที่ไอ้หมอนี่ไม่เห็นหัวเจ้าของ Castle ที่นั่งอ่านหนังสือเตรียมสอบอยู่นี่เลยด้วยซ้ำ -_-แถมลูกน้องของฉันอีกหลายคนก็กำลังสุมหัว รอลุ้นวิถีกระสุนของโมเน่ต์
อีกด้านหนึ่งของ Dark Shadow Castleก๊อก ก๊อก ก๊อก...ฉันเคาะประตูห้องทำงานของติณณ์ที่ถูกเปิดแง้มเอาไว้ และถือวิสาสะเดินเข้ามาข้างในซึ่งก็มีติณณ์นั่งรออยู่ก่อนแล้วด้วยสีหน้านิ่งเรียบ แต่แววตาก็เป็นอย่างที่คาดไว้หมอนี่...กำลังเสียใจก่อนที่ฉันจะยื่นอัลบั้มรูปในมือที่ตอนไปค้นรูปคิระให้ลิซ บังเอิญไปเจออัลบั้มที่มีรูปติณณ์กับคินถ่ายด้วยกันสมัยเด็กๆก็ไม่รู้หรอกว่าหมอนี่อยากได้มั้ย...แต่ในสถานการณ์แบบนี้น่ะ ฉัน...อยากให้“ไม่ฆ่ามันก็บุญเท่าไหร่”พรึ่บ!ติณณ์พูดออกมาเสียงเรียบ แล้วเลย์ที่มาด้วยกันก็วางเอกสารทั้งหมดที่ฉันได้จากเคนชินเรื่องสภาค้ายาลงบนโต๊ะแบบไม่พูดอะไรแต่ความเป็น Nightshade มันบอกชัด ว่าเลย์ก็ไม่ได้สบายใจที่ติณณ์มันอยู่ในสภาวะอารมณ์ที่...จุกแต่พูดอะไรไมได้“หลายอย่างน้องมันอาจตั้งใจ แต่บางการกระทำก็มีเหตุผลให้เป็นไป”ฉันพูดออกไป แล้วพอได้ฟังแบบนั้นติณณ์มันก็มองมานิ่งๆ และไม่มีทีท่าจะเปิดดูทั้งอัลบั้มรูปและเอกสารที่พวกฉันหอบมาให้สักนิด ซึ่งก็เป็นสิทธิ์ของหมอนี่อยู่แล้วแหละ ที่จะดูหรือไม่ดูก็ได้“เข้าด้วยมั้ย?”คำถามคลุมเครือจากติณณ์ถูกส่งมา ด้วยแววตาที่ดูเหมือนกำลังหาที่พึ่ง
หลายชั่วโมงต่อมา...“ยุติสถานการณ์บนเกาะพร้อมเคลียร์พื้นที่เรียบร้อยแล้วครับนายหญิง”เสียงลูกน้องคนหนึ่งของฉันมารายงานผลด้วยการกระซิบเบาๆเล่นเอาโล่งใจไปตามๆกัน ท่ามกลางเสียงหัวเราะคิกคักของลิซที่กำลังนั่งดูรูปคิระที่หน้าบูดตั้งแต่เด็กอยู่คนเดียว“คิกๆๆ ตาลุงคนนี้นี่หน้าตาโกตั๊กจังเลยนะคะเนี่ย ^_^”“แล้วสองคนนั้น?”ฉันถามออกไปเบาๆ เพราะเท่าที่ดูเหมือนลิซไม่รู้ว่าคิระเป็นใครด้วยซ้ำ ทั้งที่ตอนนั้นเกือบโดนคนของสภาเอาตัวไป แต่ไม่รู้คินมันหลอกน้องหรือความไร้เดียงสาทำให้ลิซคิดว่าฉันรวยมากเลยจะโดนจับไปเรียกค่าไถ่ -.-ส่วนเหตุผลที่มาที่นี่ก็พีคกว่าไง น้องมันโดนไอ้คินชวนมาล่าท้าผี เป่าหูลิซว่าที่นี่คือปราสาทร้อยปี แถมยังมีขนนกนำโชคที่จะทำให้พบรักแท้ซะด้วย หึหึ... เป็นประวัติ Castle ที่ช่าง...น่าสนใจ =_=^“คุณเตโชกับคุณคิระบาดเจ็บนิดหน่อย แต่โดยรวมปลอดภัยดีครับ Nightshade กับ Nightshade’s Lady ก็กลับมาที่นี่แล้ว อ้อ ส่วนคุณเลโอก็สบายมากหายห่วง ลูกพี่เคนชินขอตัวไปเปลี่ยนชุด แล้วจะกลับมาทำหน้าที่ต่อครับ ^_^”น้ำเสียงกับสีหน้าระรื่นของลูกน้องที่มารายงานถูกส่งมาให้ฉันแบบสวมรอยเคนชินมาชัดๆ หึ... ไอ้ล
ครึ่งชั่วโมงต่อมา...“คนของเราวางบอมบ์ได้ 60% จากพื้นที่ทั้งหมดแล้วครับ พิกัดแรกเราจะระเบิดคลังยาที่…”“คุณโมเน่ต์อาการไม่ดีเลยครับนายหญิง”ระหว่างที่ฉันกำลังสนใจสัญญาณที่คนของเราให้มาเป็นระยะว่าจะระเบิดคลังยานรกแต่ละที่ตอนไหน เคนชินที่หันไปเห็นโมเน่ต์จากภาพใน CCTV ที่เราเลิกสนใจตั้งแต่ติณณ์เดินออกไปก็พูดขึ้นมาได้ฟังแบบนั้นฉันเลยละความสนใจและหันไปดูโมเน่ต์ที่เดินวนไปวนมาโดยมีมือถือเครื่องหนึ่งแนบหู ซึ่งก็คงพยายามโทรหาติณณ์ที่ชิ่งออกไปแบบให้คำตอบคลุมเครือนั่นแหละนะถ้าให้ทาย“คนของเราอยู่ในนั้นแล้วใช่มั้ย?”“ครับ แฝงตัวเข้าไปตอนรายงานพิกัด”“งั้นก็ไม่มีไรต้องกังวลนี่”แล้วจังหวะที่ฉันกำลังหมุนตัวกลับไปดูพิกัดวางระเบิดหลังคุยเรื่องโมเน่ต์กับเคนชิน เสียงคนของเราที่ Castle ฝั่งติณณ์ก็ตะโกนเรียกออกมาดังลั่น‘นายหญิงครับ นายหญิง!!!’ “ว่า?”“คุณโมเน่ต์อยู่ๆก็หมดสติไปครับ”ตึงงงง!ได้ยินคำตอบจากเคนชินที่ตอบแทนลูกน้องที่อยู่ข้างใน ทำให้ฉันรีบผลักประตูและวิ่งข้ามทางเชื่อมตรงไปที่ Castle ฝั่งติณณ์ทันที“เคนชินเรียกรถพยาบาล! โมเน่ต์เป็นอะไร?”ฉันหันไปถามลูกน้องติณณ์ที่กำลังอุ้มร่างโมเน่ต์ที่ไร้ส