ครึ่งชั่วโมงต่อมา...
“คนของเราวางบอมบ์ได้ 60% จากพื้นที่ทั้งหมดแล้วครับ พิกัดแรกเราจะระเบิดคลังยาที่…” “คุณโมเน่ต์อาการไม่ดีเลยครับนายหญิง” ระหว่างที่ฉันกำลังสนใจสัญญาณที่คนของเราให้มาเป็นระยะว่าจะระเบิดคลังยานรกแต่ละที่ตอนไหน เคนชินที่หันไปเห็นโมเน่ต์จากภาพใน CCTV ที่เราเลิกสนใจตั้งแต่ติณณ์เดินออกไปก็พูดขึ้นมา ได้ฟังแบบนั้นฉันเลยละความสนใจและหันไปดูโมเน่ต์ที่เดินวนไปวนมาโดยมีมือถือเครื่องหนึ่งแนบหู ซึ่งก็คงพยายามโทรหาติณณ์ที่ชิ่งออกไปแบบให้คำตอบคลุมเครือนั่นแหละนะถ้าให้ทาย “คนของเราอยู่ในนั้นแล้วใช่มั้ย?” “ครับ แฝงตัวเข้าไปตอนรายงานพิกัด” “งั้นก็ไม่มีไรต้องกังวลนี่” แล้วจังหวะที่ฉันกำลังหมุนตัวกลับไปดูพิกัดวางระเบิดหลังคุยเรื่องโมเน่ต์กับเคนชิน เสียงคนของเราที่ Castle ฝั่งติณณ์ก็ตะโกนเรียกออกมาดังลั่น ‘นายหญิงครับ นายหญิง!!!’ “ว่า?” “คุณโมเน่ต์อยู่ๆก็หมดสติไปครับ” ตึงงงง! ได้ยินคำตอบจากเคนชินที่ตอบแทนลูกน้องที่อยู่ข้างใน ทำให้ฉันรีบผลักประตูและวิ่งข้ามทางเชื่อมตรงไปที่ Castle ฝั่งติณณ์ทันที “เคนชินเรียกรถพยาบาล! โมเน่ต์เป็นอะไร?” ฉันหันไปถามลูกน้องติณณ์ที่กำลังอุ้มร่างโมเน่ต์ที่ไร้สติขึ้นวางบนโซฟา ในขณะที่เจด้าก่อนหน้านี้ดูเหมือนจะหลับไปก็ค่อยๆรู้สึกตัวขึ้นมา “เจ๊ O_O” “ผมก็ไม่แน่ใจครับ คุณโมเน่ต์ให้ต่อสายท่านผู้นำ แต่คุยกันได้สักพักก็หมดสติไปครับ” “ต่อสายท่านพ่... ท่านผู้นำทำไม?” เพราะเจด้าที่เพิ่งรู้สึกตัวจับจ้องมาที่เรา และตรงเข้ามาหาโมเน่ต์ ฉันที่ยังไม่อยากเปิดเผยตัวตนก็เลยพูดเลี่ยงๆไป “คุณโมเน่ต์เธอจะขอ....” “เปิดใช้ Emergency Previllege!” แล้วอยู่ๆ ประตูห้องนี้ก็ถูกเปิดออก พร้อมกับท่านพ่อและคนของท่านที่เข้ามาพร้อมกับหมอและพยาบาลแบบรวดเร็วกว่า “คำขอคืออะไรคะ?” “……” ฉันหันไปถามแล้วท่านพ่อก็เงียบ ก่อนจะพยักหน้าสั่งหมอให้เข้ามาตรวจอาการโมเน่ต์แบบไม่คิดจะพูดอะไร แต่บ้าเอ๊ย! ฉันนี่โง่รึไง ถ้าต้องปกป้องคนรักที่จะพาตัวเองไปตายอย่างไอ้ติณณ์ตามเงื่อนไข Emergency น่ะ มันก็มีอย่างเดียวที่จะขอได้นั่นแหละนะ ...คือยอมแลกชีวิตตัวเองกับติณณ์มันไงล่ะ! พรึ่บ! “ท่านอนุมัติคำขอของเธอไม่ได้!” คิดได้แบบนั้นฉันก็เอาตัวเองเข้าไปขวางในจังหวะที่ท่านผู้นำกำลังจะก้าวขา แต่ท่านก็เพียงแค่ส่งสายตาคมเข้มและน้ำเสียงเคร่งขรึมออกมา “กลับไป” “แต่...” พูดจบท่านผู้นำก็เบี่ยงตัวหลบ เดินหนีฉันแบบไม่รอฟังอะไร ก่อนจะทิ้งตัวนั่งที่เก้าอี้ตัวหนึ่งในห้อง แต่คิดว่าแค่นี้ฉันจะยอมรึไง! “ท่านผู้นำ! ท่านก็รู้ว่าคำขอของโมเน่ต์…” “นี่มันเป็นความต้องการของ Leader’s Wife ไม่ว่าใครก็...” “แต่คำขอนี้มันสุ่มเสี่ยงเกินไป! ถ้าเป็นเรื่องความปลอดภัย รักษาการมีสิทธิ์ไม่เห็นชอบได้ในฐานะที่ปรึกษา เผื่อท่านจำไม่ได้!” ฉันอ้างอิงไปตามกฎ แล้วท่านพ่อก็มองมาแบบคาดเดาอะไรไม่ได้เลย ท่านไม่ได้ตำหนิ แต่ก็ไม่ได้ปล่อยผ่านคำพูดของฉันที่พยายามยับยั้งการอนุมัติคำขอนั้น “นั่นสินะ แต่ยังกลับเข้ากฎทัน? ทั้งที่ออกทะเลไปไกลขนาดนั้น” ได้ฟังคำพูดท่านพ่อ ฉันก็ชะงักไปนิดหน่อย ถ้ารู้ว่าฉันออกนอกกฎแปลว่าก็คงเห็นสินะ ทั้งภาพและเสียง รวมถึงการเคลื่อนไหวต่างๆของฉัน ยิ่งไปกว่านั้น... ท่าทางที่ดูยียวน คำพูดที่คลุมเครือ เหมือนจะเล่นสงครามประสาทตลอดเวลา แสดงว่าจากที่ฉันและเคนชินพยายามปิดบังท่านมาตลอดเรื่องสภากับยานรกนั่น ท่านก็คงรู้อยู่ก่อนแล้วเหมือนกัน! ตึงงงง! “ยังไงก็ตามแต่...ห้ามส่งเธอเข้าไปอยู่ในการควบคุมของสภา! ส่วนคำขอของติณณ์ที่อนุมัติไปแล้ว เรากำลังรับมือกับเรื่องนั้น!” ครั้งนี้ฉันเดินเข้าไปจ้องหน้าท่านพ่อแบบไม่เกรงกลัวและทุบโต๊ะที่ท่านนั่งอยู่ออกไปอย่างแรงด้วยโทสะ แต่ท่านผู้นำกลับกระตุกยิ้มมุมปาก และส่งเสียงที่ยากจะคาดเดาตอบกลับมา “หึ...รับมือ? จะเอาจริงกันได้รึยัง?” พูดจบท่านผู้นำก็จ้องหน้าฉันกับเคนชินสลับกัน แล้วความเงียบก็เข้าครอบงำห้องทั้งห้องในช่วงเวลาสั้นๆ เอาจริงงั้นหรอ? นี่ก็กำลัง.... “เอ่อ...ขอโทษนะครับ คนไข้..ตั้งครรภ์ได้ 6 สัปดาห์แล้วครับ” แล้วยังไม่ทันที่ฉันจะตอบคำถามท่านพ่อที่มองมาด้วยท่าทางเคร่งขรึม หมอที่รักษาอาการโมเน่ต์ก็พูดขัดขึ้นมา ....ตั้งครรภ์ O_O?! “จริงหรอคะหมอ ^_^” “ครับ” แต่เสียงดีใจของเจด้าและท่าทางของ Member รอบข้างที่ดูตื่นเต้นก็ยิ่งกดดันฉันยิ่งกว่าเดิม ส่วนท่านพ่อ ก็ยังคงมองมา “เหมือนรักษาการจะมีความรับผิดชอบเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งชีวิตสินะ” คำพูดยั่วโมโหถูกส่งมาภายใต้สีหน้านิ่งเรียบ ให้ตายเถอะ! ทั้งที่คิดว่าตัวเองเคยชินกับสงครามประสาทที่ท่านพ่อส่งมามากกว่าไอ้ติณณ์ แต่ครั้งนี้ฉันว่า ฉันคาดเดาเจตนาของคนตรงหน้าไม่ออกจริงๆ “งั้นอย่าโทษความบ้าของลูก ถ้า....” “ยังซอฟต์กว่าเยอะอยู่นะ ถ้าเทียบกับรักษาการคนเก่าน่ะ” ฉันกัดฟันพูดออกไปเบาๆ ท่ามกลางกลุ่มคนที่กำลังยินดีกับข่าวดีที่ได้ยิน แต่ท่านพ่อก็พูดสวนกลับมา ก่อนที่ท่านจะไปหาเคนชินและส่งเสียงเข้มออกมาอีกครั้ง... “ยังบ้าได้มากกว่านี้... ใช่มั้ย? เคนชิ...” “เจ๊ เป็นไงบะ...” พรึ่บ! แต่ยังไม่ทันที่ท่านพ่อจะพูดจบ เจด้าก็พูดขัดขึ้นมา และดูเหมือนว่าโมเน่ต์จะได้สติและค่อยๆลืมตา เลยเป็นเหตุผลให้เคนชินเอาตัวเองที่ตัวใหญ่กว่าเข้ามาบังตัวฉันที่ยังอยู่ในยูนิฟอร์ม Treatise และค่อยๆพาฉันเดินเลี่ยงออกมา แต่ซอฟต์กว่างั้นหรอ? แล้วถ้าเป็นท่านแม่น่ะ...จะทำยังไงกันนะ? “ระเบิดเริ่มทำงานแล้วนะครับ สายข่าวรายงานมาว่าสภาเริ่มนั่งไม่ติดเก้าอี้ เลิ่กลั่กกันไปทั่ว ล่าสุดคุณมาโครเองก็พยายามติดต่อนายหญิง” เคนชินพูดขึ้นมาทำลายความเงียบระหว่างที่ฉันกำลังเดินกลับ Castle เรียกความสนใจของฉันที่ก่อนหน้านี้ยังฉุกคิดเรื่องท่านแม่กลับมา พร้อมกับส่งมือถือของฉันที่สั่นรัวๆจากสายเรียกเข้าของมาโครมาให้ แต่ฉันก็เลือกจะกดตัดสายไป “ดี เลิ่กลั่กเท่าไหร่ก็ยิ่งดี แล้วสถานการณ์บนเกาะตอนนี้?” “Nightshade ไปถึงสักพักแล้วครับ ดุเดือดน่าดูเพราะ Nightshade’s Lady ถูกมัดติดกับเสาอยู่กลางทะเล เห็นแบบนั้นคุณเตโชก็เลยยิ่ง...” “กลางทะเล?! บ้าฉิบ! ให้คนของเราเข้าไปช่วยติณณ์ซะ ถึงกำลังคนจะน้อยกว่า แต่ต้องเอา Lady ขึ้นจากน้ำ แล้วเราก็ต้องสนใจคำขอของโมเน่ต์ก่อนตอนนี้” “ผมสั่งการไปแล้วล่ะครับ เพราะเท่าที่ดู ตัวแทนสภาอยู่ที่เกาะนานแล้ว แต่ไม่ยอมส่งคนเข้าไปช่วยคุณเตโชตามคำขอ Emergency แต่มีอีกเรื่องนะครับนายหญิง…” น้ำเสียงที่ดูเครียดกว่าเดิมของเคนชินก็ถูกส่งมาอีก ฉันเลยหันไปมองเคนชินที่เดินหน้าเครียดอย่างรับฟัง แต่หมอนี่ก็ยิ่งดูหวั่นๆแปลกๆ และดูอ้ำอึ้งออกมาตั้งแต่ที่ท่านพ่อพูดด้วยจนฉันต้องคาดคั้น “สักทีเหอะเคนชิน! เรากำลังทำเรื่องสำคัญ!” “ครับ สายข่าวของเราได้รับรายงานมา ยังไม่คอนเฟิร์มว่าจริงหรือไม่จริง… ตัวต้นแบบและกำลังการผลิตหลักของ Madden Whiz กับ Lust Wizard อาจอยู่ที่ชั้นใต้ดินของ DS Castle Japan ภายใต้การควบคุมของสภา” กึก! ได้ยินแบบนั้นแม้อีกไม่กี่ก้าวจะถึงประตูห้องโถง แต่ขาของฉันก็หยุดชะงักไปทันควัน ก่อนจะหันกลับไปหาเคนชินที่หน้าเสียอย่างเห็นได้ชัด เพราะรังใหญ่ของพวกมันที่เคนชินพยายามหาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ มันอยู่ใกล้แค่ปลายจมูกเราเท่านั้น “แต่นั่นก็ยังไม่ชัวร์นะครับว่า....” “จิ๊!” ตึงงงง! คราวนี้ฉันไม่สนใจคำพูดของเคนชิน และผลักประตูเข้าไปในห้องโถงที่มี่ลูกน้องตัวเองกำลังวิ่งวุ่น และจากข้อมูลต่างๆบนจอ ภาพที่ได้มาจากชั้นใต้ดินด้วยความสามารถจากคนของเรา มันการันตีได้ดีกว่าทุกสิ่ง ใช่จริงๆ... DS Castle Japan มีแหล่งผลิตยาเสพติดที่ผิดกฎหมายซ่อนอยู่ในชั้นดิน! แต่ในขณะเดียวกัน ภาพอีกจอก็กำลังแสดงภาพของโมเน่ต์ที่ดูเหมือนจะกำลังเจรจากับท่านผู้นำ ฉันเลยเดินไปเปิดเสียงที่ถูกปิดไว้ก่อนหน้านี้ ตอนที่มัวแต่สนใจเรื่องพิกัดระเบิด และทันได้ยินคำขอของโมเน่ต์ที่ดังขึ้นมาแบบทันเวลาซะจริง ‘หนูขอเปิดใช้ Emergency Privilege อีกครั้งได้มั้ยคะ?!’ ‘หึ...ว่ามา’ ‘หนูขอเพิกถอนอำนาจควบคุมหนึ่งเดียวของสภากฎ! ให้อำนาจการตัดสินใจทั้งหมดตกเป็นของ...ท่าน’ “หึ...บิงโก!” ได้ฟังแบบนั้นฉันก็กระตุกยิ้มมุมปากในความเฉลียวฉลาดของโมเน่ต์ ที่แม้จะไม่รู้ว่าก่อนหน้านั้นเธอกับท่านพ่อเจรจากันยังไง แต่ก็นับว่าเป็นคำขอที่ฉลาดที่สุดเลยก็ว่าได้ แล้วทิ้งระยะไปนิดหน่อย ก็มีเสียงท่านพ่อพูดกับโมเน่ต์อยู่ที่ Castle อีกฝั่งด้วยน้ำเสียงพอใจ ‘เตรียมฮอ! ขอไปดูหน้าไอ้สองแสบหน่อยว่าทำเรื่องไว้บรรลัยแค่ไหน!’ “เคนชิน! ไปกับท่านพ่อ” สิ้นสุดคำพูดนั้นฉันเลยหันไปหาเคนชินและสั่งการออกไป เพราะพอได้เห็นภาพชั้นใต้ดินของ DS Castle Japan ที่สภาสร้างความอัปยศเอาไว้ มันก็ยิ่งยั่วให้ฉันเกิดโทสะ และคิดอะไรขึ้นมาได้ การจะเพิกถอนอำนาจควบคุมแบบนั้นน่ะ...ถ้าสภารู้คำขอนี้ของโม่เน่ต์ คงได้ดิ้นตาย! ดีไม่ดีอาจตุกติก หาข้ออ้างไม่ยอมให้เปิดใช้ “แล้วนายหญิงไม่ไป?” ฟังฉันพูดจบเคนชินก็หันมา แต่ก็นะ ฉันมันเป็นพวก...รักษาสัญญานี่นา “เลย์ไม่ให้ไป” “แล้วจะให้ผมไปทำไมล่ะครับ ถ้าผมไปใครจะอยู่ช่วยนายหญิ...” “ก็มันเป็นหน้าที่นายนี่...คนถือสารจากรักษาการถึงตัวแทนสภา” ไม่รอให้เคนชินพูดจบ ฉันก็พูดขัดออกไป และแน่นอนคำพูดของฉันก็ยิ่งเรียกความสงสัยจากเคนชินเข้าไปใหญ่ “คนถือสาร?” “ใช่!” ครืดดดด คิดได้แบบนั้นฉันเลยเลื่อนลิ้นชักที่ใกล้ที่สุดให้เปิดออก ก่อนจะคว้าหนึ่งในปืนคู่ใจของตัวเองส่งให้เคนชินที่ก็ยื่นมือมารับมันไว้ หมับ! “ฟังให้ดีเคนชิน! นับจากนี้นายคือตัวแทนที่ได้รับเลือกจากรักษาการ! ทันทีที่เท้าแตะลงบนพื้นเกาะ แจ้งคำขอของโมเน่ต์กับตัวแทนสภาเพื่อยุติเหตุการณ์ทั้งหมดซะ! ถ้าสภาตุกติกกับคำขอของโมเน่ต์ ไม่ต้องเจรจา! ให้มันเลือก! ว่าจะเสียแค่คลังยา! หรือจะให้เราจะระเบิด DS Castle Japan ซะ!” ฉันพูดออกไปอย่างฉุนเฉียว เพราะ Gen ใหม่อย่างติณณ์ คิน หรือแม้แต่ฉันน่ะ ไม่ได้ว่างไปเดินเล่นในปราสาทคร่ำครึนั่นอยู่ละ เพราะงั้น...พวกภัทรเดชางี่เง่าพวกนั้นน่ะ ก็น่าจะตายๆไปซะ! “รับทราบ!!!” แล้วเคนชินก็รีบเดินออกจากห้องไป ในขณะที่คนของท่านพ่อก็อุ้มลิซกลับมาคืนให้ฉัน แต่คงจะวางแรงไปนิด ลิซเลยรู้สึกตัวและลืมตามามองรอบห้องโถงอย่างงงๆ ก่อนจะเรียกเสียงหัวเราะจากฉันและลูกน้องทุกคนด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นแบบซื่อๆอย่าง... “Oh My Godddd... นั่นเจ๊หรอคะ” “อื้ม เป็นไงบะ...” “คุณพระ! ที่นี่มีผีจริงๆด้วยค่ะ O_O! ก่อนมาเฮียคินบอกว่าเจ้าที่แรงมากกกก แล้วเมื่อกี๊หนูฝันเห็นวิญญาณคุณปู่แก่ๆนั่งจิบชาอยู่ข้างบนอ่ะ ม่ายยยยยย สัพเพ สัตตา หนูฝันว่าหนูขึ้นไปเดินเล่นข้างบนมา ฝันกลางวันเป็นแบบนี้นี่เองหรอเนี่ย สงสัยต้องไปทำบุญสะเดาะเคราะห์แล้วล่ะ แงงงงง =[]=!!!” เอิ่ม...ลิซ =_=^“คิระ นี่มันเรื่องอะไรกัน?!”ไม่ใช่แค่ฉันหรอก แต่ DS Member ทุกคนก็ดูสับสนพอกัน ถ้าเรียกตัวคืนสู่สังกัด แปลว่ามาโครอยู่สังกัดของเรา? แต่จะเป็นไปได้ไงก็ในเมื่อแม็ค...“ว่ากันว่า...ถ้าจะหลอกศัตรูให้ตายใจ ก็ต้องหลอกพวกเดียวกันให้ได้ซะก่อน”คิระเดินตรงเข้ามาหาฉัน และมองลงไปที่กลางสนามประลอง เห็นแม็คกับเลย์ยืนอยู่ข้างล่างท่ามกลางความเงียบงันที่ไม่มีใครพูดอะไร ยิ่งไปกว่านั้น สองคนนั้นกับติณณ์และท่านพ่อ ก็ยังหันมาดูปฏิกิริยาของฉันด้วยซ้ำพรึ่บ! หมับ!ได้ฟังแบบนั้นฉันก็ก้าวขาจะเดินลงไปข้างล่าง แต่คินมันดันมาคว้าแขนไว้ และกระชากกลับไปอย่างแรง พร้อมกับพูดด้วยด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดก่อนจะหันไปพยักหน้าให้ติณณ์“ครั้งนี้ไม่เอาตัวแถม ถ้าพวกมันรักเธอ...พวกมันก็มีเรื่องต้องเคลียร์กัน!”แล้วพอคินพูดจบ อยู่ๆติณณ์ก็โยนดาบคาตานะสองเล่มให้แม็คกับเลย์ที่ก็ยื่นมือไปรับมัน นั่นทำให้ฉันวิตกขึ้นมา เพราะแม็คน่ะ...ใช้ดาบคาตานะคล่องมากอยู่ละ แต่เลย์กับดาบคาตานะน่ะ...“ศิษย์สำนักเดียวกัน ไม่เห็นต้องทำหน้าเหวอขนาดนั้น”“สำนักเดียวกัน?” ฉันหันไปหาคินด้วยสีหน้างงๆ“ก็ใครสอนไอ้แม็ค? ใครประทับตราให้มัน?”คิระตอบกลับคำถามขอ
สองวันต่อมา...@ Dark Shadow Castle (JAPAN)“โห สวยมากกกก เจ๊คือสวยในสวย สวยโคตรๆ สวยแบบถ้าเลย์เห็นต้องยกเลิกงานแต่ง ลากไปขังไว้ในห้องไม่ให้ออกมาพบผู้คนแน่ๆ O[]O”เสียงนิลลาอวยฉันที่ยืนหมุนตัวอยู่หน้ากระจกไปมาในชุดเจ้าสาวที่เคยใส่แล้ว แต่วันนี้มันดูแปลกตากว่าครั้งนั้น คงเพราะทรงผมที่ทำมันไม่เหมือนกันล่ะมั้ง“หรอ -/////- แต่นั่นน่าจะเป็นนิสัยดิบเถื่อนของพายุมากกว่า”“แหะๆ อย่าเปิดประเด็นนินทาพายสิคะ รายนั้นยิ่งชอบเจ้ากี้เจ้าการ บังคับให้แต่งๆอยู่ได้ ไม่สนใจคนรอบข้างเลยอ่ะ -*-”“อ้าวโรส เฮียพายมาหรอ”“เย้ยยย ไอ้ด้า! เดี๋ยวกูตบกบาล”อ๋อ! รู้ละอีกอย่างนึงที่มันต่าง คือความครื้นเครงในห้องแต่งตัวเจ้าสาวตอนนี้ ที่เต็มไปด้วยบรรดา Nightshade’s Lady มาช่วยตรวจความเรียบร้อยให้ แถมยังตื่นเต้นกว่าฉันที่สวมชุดเองซะอีก“ก็สวยจริงๆนั่นแหละนะ”โมเน่ต์พูดไปแล้วจัดระเบียบชุดเจ้าสาวของฉันไปด้วยสีหน้าที่ดูดีขึ้นแบบเคลียร์ใจกันทั้งหมดแล้วก็นะ เพราะฉันกับติณณ์อายุห่างกันนิดหน่อย แถมยังเรียนมหาลัยปีเดียวกัน เราเลยคงสรรพนามเดิมคือเรียกชื่อกันเฉยๆ ไม่จำเป็นต้องเรียกเจ๊หรืออะไรจริงจัง เพราะทั้งติณณ์และคิระ ถ้า
หลายวันต่อมา...@ Dark Shadow Castleหลังผ่านการพิพากษาคิระ ซึ่งทุกอย่างก็เหมือนจะจบลงด้วยดี เพียงแต่...ไอ้สองพี่น้องขี้เก๊กนั่นมันก็ยังไม่ยอมเปิดใจคุยกันตรงๆสักทีก็...แล้วแต่นะ การกระทำมันสำคัญกว่าคำพูดอยู่แล้วนี่อ้อ...ลืมบอกไปนิด ท้ายที่สุดแล้วก็เป็นฉันนี่แหละ ที่เป็นคนประทับตรา Dark Shadow ให้โมเน่ต์ตามคำขอของติณณ์ ซึ่งเราก็ไม่เห็นหน้ากันตรงๆหรอกนะ ฉันเข้าไปประทับให้ตอนที่เธอหันหลัง เพราะยังไม่ต้องการเปิดเผยตัวตน และอย่างที่รู้... โมเน่ต์กับฉันก็ไม่ค่อยจะลงรอยกันหรอกตั้งแต่ที่ชมรมละแต่ไม่รู้ไปประทับอะไรผิดพลาดรึเปล่า เพราะอยู่ๆโมเน่ต์ก็ขอให้ติณณ์พามาที่ Castle ตั้งแต่กลับจากญี่ปุ่นตลอด Nightshade เองก็แวะเวียนมาที่นี่แทบทุกวัน จนตอนนี้กลายเป็น Ztudio Nightshade นั่นแหละที่ร้าง ในขณะที่ Castle ฝั่งติณณ์...ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!เสียงลั่นไกในห้องซ้อมยิงปืนจาก CCTV ที่เคนชินมันต่อเข้ามานั่งดูในห้องโถงของ Castle ฝั่งฉัน ดังสนั่นแบบที่ไอ้หมอนี่ไม่เห็นหัวเจ้าของ Castle ที่นั่งอ่านหนังสือเตรียมสอบอยู่นี่เลยด้วยซ้ำ -_-แถมลูกน้องของฉันอีกหลายคนก็กำลังสุมหัว รอลุ้นวิถีกระสุนของโมเน่ต์
อีกด้านหนึ่งของ Dark Shadow Castleก๊อก ก๊อก ก๊อก...ฉันเคาะประตูห้องทำงานของติณณ์ที่ถูกเปิดแง้มเอาไว้ และถือวิสาสะเดินเข้ามาข้างในซึ่งก็มีติณณ์นั่งรออยู่ก่อนแล้วด้วยสีหน้านิ่งเรียบ แต่แววตาก็เป็นอย่างที่คาดไว้หมอนี่...กำลังเสียใจก่อนที่ฉันจะยื่นอัลบั้มรูปในมือที่ตอนไปค้นรูปคิระให้ลิซ บังเอิญไปเจออัลบั้มที่มีรูปติณณ์กับคินถ่ายด้วยกันสมัยเด็กๆก็ไม่รู้หรอกว่าหมอนี่อยากได้มั้ย...แต่ในสถานการณ์แบบนี้น่ะ ฉัน...อยากให้“ไม่ฆ่ามันก็บุญเท่าไหร่”พรึ่บ!ติณณ์พูดออกมาเสียงเรียบ แล้วเลย์ที่มาด้วยกันก็วางเอกสารทั้งหมดที่ฉันได้จากเคนชินเรื่องสภาค้ายาลงบนโต๊ะแบบไม่พูดอะไรแต่ความเป็น Nightshade มันบอกชัด ว่าเลย์ก็ไม่ได้สบายใจที่ติณณ์มันอยู่ในสภาวะอารมณ์ที่...จุกแต่พูดอะไรไมได้“หลายอย่างน้องมันอาจตั้งใจ แต่บางการกระทำก็มีเหตุผลให้เป็นไป”ฉันพูดออกไป แล้วพอได้ฟังแบบนั้นติณณ์มันก็มองมานิ่งๆ และไม่มีทีท่าจะเปิดดูทั้งอัลบั้มรูปและเอกสารที่พวกฉันหอบมาให้สักนิด ซึ่งก็เป็นสิทธิ์ของหมอนี่อยู่แล้วแหละ ที่จะดูหรือไม่ดูก็ได้“เข้าด้วยมั้ย?”คำถามคลุมเครือจากติณณ์ถูกส่งมา ด้วยแววตาที่ดูเหมือนกำลังหาที่พึ่ง
หลายชั่วโมงต่อมา...“ยุติสถานการณ์บนเกาะพร้อมเคลียร์พื้นที่เรียบร้อยแล้วครับนายหญิง”เสียงลูกน้องคนหนึ่งของฉันมารายงานผลด้วยการกระซิบเบาๆเล่นเอาโล่งใจไปตามๆกัน ท่ามกลางเสียงหัวเราะคิกคักของลิซที่กำลังนั่งดูรูปคิระที่หน้าบูดตั้งแต่เด็กอยู่คนเดียว“คิกๆๆ ตาลุงคนนี้นี่หน้าตาโกตั๊กจังเลยนะคะเนี่ย ^_^”“แล้วสองคนนั้น?”ฉันถามออกไปเบาๆ เพราะเท่าที่ดูเหมือนลิซไม่รู้ว่าคิระเป็นใครด้วยซ้ำ ทั้งที่ตอนนั้นเกือบโดนคนของสภาเอาตัวไป แต่ไม่รู้คินมันหลอกน้องหรือความไร้เดียงสาทำให้ลิซคิดว่าฉันรวยมากเลยจะโดนจับไปเรียกค่าไถ่ -.-ส่วนเหตุผลที่มาที่นี่ก็พีคกว่าไง น้องมันโดนไอ้คินชวนมาล่าท้าผี เป่าหูลิซว่าที่นี่คือปราสาทร้อยปี แถมยังมีขนนกนำโชคที่จะทำให้พบรักแท้ซะด้วย หึหึ... เป็นประวัติ Castle ที่ช่าง...น่าสนใจ =_=^“คุณเตโชกับคุณคิระบาดเจ็บนิดหน่อย แต่โดยรวมปลอดภัยดีครับ Nightshade กับ Nightshade’s Lady ก็กลับมาที่นี่แล้ว อ้อ ส่วนคุณเลโอก็สบายมากหายห่วง ลูกพี่เคนชินขอตัวไปเปลี่ยนชุด แล้วจะกลับมาทำหน้าที่ต่อครับ ^_^”น้ำเสียงกับสีหน้าระรื่นของลูกน้องที่มารายงานถูกส่งมาให้ฉันแบบสวมรอยเคนชินมาชัดๆ หึ... ไอ้ล
ครึ่งชั่วโมงต่อมา...“คนของเราวางบอมบ์ได้ 60% จากพื้นที่ทั้งหมดแล้วครับ พิกัดแรกเราจะระเบิดคลังยาที่…”“คุณโมเน่ต์อาการไม่ดีเลยครับนายหญิง”ระหว่างที่ฉันกำลังสนใจสัญญาณที่คนของเราให้มาเป็นระยะว่าจะระเบิดคลังยานรกแต่ละที่ตอนไหน เคนชินที่หันไปเห็นโมเน่ต์จากภาพใน CCTV ที่เราเลิกสนใจตั้งแต่ติณณ์เดินออกไปก็พูดขึ้นมาได้ฟังแบบนั้นฉันเลยละความสนใจและหันไปดูโมเน่ต์ที่เดินวนไปวนมาโดยมีมือถือเครื่องหนึ่งแนบหู ซึ่งก็คงพยายามโทรหาติณณ์ที่ชิ่งออกไปแบบให้คำตอบคลุมเครือนั่นแหละนะถ้าให้ทาย“คนของเราอยู่ในนั้นแล้วใช่มั้ย?”“ครับ แฝงตัวเข้าไปตอนรายงานพิกัด”“งั้นก็ไม่มีไรต้องกังวลนี่”แล้วจังหวะที่ฉันกำลังหมุนตัวกลับไปดูพิกัดวางระเบิดหลังคุยเรื่องโมเน่ต์กับเคนชิน เสียงคนของเราที่ Castle ฝั่งติณณ์ก็ตะโกนเรียกออกมาดังลั่น‘นายหญิงครับ นายหญิง!!!’ “ว่า?”“คุณโมเน่ต์อยู่ๆก็หมดสติไปครับ”ตึงงงง!ได้ยินคำตอบจากเคนชินที่ตอบแทนลูกน้องที่อยู่ข้างใน ทำให้ฉันรีบผลักประตูและวิ่งข้ามทางเชื่อมตรงไปที่ Castle ฝั่งติณณ์ทันที“เคนชินเรียกรถพยาบาล! โมเน่ต์เป็นอะไร?”ฉันหันไปถามลูกน้องติณณ์ที่กำลังอุ้มร่างโมเน่ต์ที่ไร้ส