หลายวันต่อมา...
@ Dark Shadow Castle หลังผ่านการพิพากษาคิระ ซึ่งทุกอย่างก็เหมือนจะจบลงด้วยดี เพียงแต่...ไอ้สองพี่น้องขี้เก๊กนั่นมันก็ยังไม่ยอมเปิดใจคุยกันตรงๆสักที ก็...แล้วแต่นะ การกระทำมันสำคัญกว่าคำพูดอยู่แล้วนี่ อ้อ...ลืมบอกไปนิด ท้ายที่สุดแล้วก็เป็นฉันนี่แหละ ที่เป็นคนประทับตรา Dark Shadow ให้โมเน่ต์ตามคำขอของติณณ์ ซึ่งเราก็ไม่เห็นหน้ากันตรงๆหรอกนะ ฉันเข้าไปประทับให้ตอนที่เธอหันหลัง เพราะยังไม่ต้องการเปิดเผยตัวตน และอย่างที่รู้... โมเน่ต์กับฉันก็ไม่ค่อยจะลงรอยกันหรอกตั้งแต่ที่ชมรมละ แต่ไม่รู้ไปประทับอะไรผิดพลาดรึเปล่า เพราะอยู่ๆโมเน่ต์ก็ขอให้ติณณ์พามาที่ Castle ตั้งแต่กลับจากญี่ปุ่นตลอด Nightshade เองก็แวะเวียนมาที่นี่แทบทุกวัน จนตอนนี้กลายเป็น Ztudio Nightshade นั่นแหละที่ร้าง ในขณะที่ Castle ฝั่งติณณ์... ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! เสียงลั่นไกในห้องซ้อมยิงปืนจาก CCTV ที่เคนชินมันต่อเข้ามานั่งดูในห้องโถงของ Castle ฝั่งฉัน ดังสนั่นแบบที่ไอ้หมอนี่ไม่เห็นหัวเจ้าของ Castle ที่นั่งอ่านหนังสือเตรียมสอบอยู่นี่เลยด้วยซ้ำ -_- แถมลูกน้องของฉันอีกหลายคนก็กำลังสุมหัว รอลุ้นวิถีกระสุนของโมเน่ต์ที่พนันกันว่าจะเข้าเป้ามั้ย โดยมีติณณ์ Nightshade และ Nightshade’s Lady นั่งมองอย่างตั้งใจ… ซึ่งสิ่งที่มันขัดตา คือท่าทางเหมือนสอนแต่ไม่ได้สอนของหมอนั่นไง หน้าตาติณณ์ดูอยากให้โมเน่ต์ยิงปืนเป็น แต่เท่าที่เห็นก็ไม่ได้จริงจังอะไร สังเกตจากการหลับตาทุกครั้งที่ลั่นไกของ Leader’s Wife และการจับปืนที่ไม่มั่นคงจนเดาผลจากเป้ากระสุนได้ “ปากกระบอกปืนสะบัดไม่รู้ทิศขนาดนั้น มันไม่คิดจะสอนเมียมันจริงรึไง” ฉันบ่นๆออกไป แล้วเคนชินที่ตายังจ้องหน้าจอ รอดูผล ก็ตอบกลับมาขำๆ “ท่านผู้นำคงรอดูอำนาจแห่ง Leader’s Wife มั้งครับนาย” หึ... อำนาจแห่ง Leader’s Wife? “ปาฏิหาริย์อาจจะมีจริงนะ แต่จะรอให้โชคช่วยอย่างเดียวก็ไม่ได้มั้ย” แบบนี้ถ้า Leader’s Wife จวนตัว ทั้งที่มีปืนในมือแท้ๆ ก็ทำอะไรใครไม่ได้เลยน่ะสิ ไอ้ติณณ์นี่มัน... “นายหญิงก็ไปสอนเธอสิครับ ทำตัวให้เป็นประโยชน์...ดีกว่ามาเล่นซ่อนแอบ หลบ Nightshade อยู่แบบนี้นี่ไง ^_^” จิ๊! “ไม่ว่าง อ่านหนังสือ เห็นมั้ย?” พอได้ฟังคำพูดเหน็บแนมของเคนชิน ฉันก็ยกหนังสือขึ้นมาและทำท่าจะเขวี้ยงออกไป แต่หมอนี่ก็ลอยหน้าลอยตา “เป็นผม ผมไม่อ่านแล้วล่ะครับ ขอนายจบ ป.เอก ที่ Treatise มันซะพรุ่งนี้ก็ยังได้” “ไร้สาระ” “ไม่รู้สิครับ คิดอีกแง่หนึ่ง Leader’s Wife ดูจริงจังมากเลย ผมว่าลึกๆในใจ เธออาจจะอยากพัฒนาตัวเองให้สมกับฐานะที่เป็นอยู่ก็ได้ เหมือนตอนนายหญิงร่วมประลองกับ Next Gen เพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองเหมาะสมที่จะเป็นรักษาการมั้...” “เอาเวลาที่พล่ามอยู่นี่ไปสอนเองซะไป -_-” เพราะเสียงเจ้ากี้เจ้าการมันขัดสมาธิ ฉันเลยเหวี่ยงกลับ แต่เคนชินมันก็ไม่หยุดกวนประสาท “ใครจะไปกล้าล่ะครับ นั่น Leader’s Wife พวกผมแค่มองเธอยังทำไม่ได้ แบบนี้ใน Dark Shadow จะเหลือสักกี่คนกันน้า...ที่จะสอนเธอได้ ^_^” พอเคนชินพูดจบ ลูกน้องของฉันทุกคนก็มองมา และพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดนั้น แต่... ถุย! แค่มองยังไม่ได้ แล้วไอ้ที่แอบดูเค้าอยู่นี่? เคารพกฎกันตาย! “ถามจริงจะบิ้วท์ให้ได้อะไร -_-” “ก็แม่นกว่าไม่ใช่หรอครับ” “…..” ได้ฟังแบบนั้นฉันก็ไม่ได้โต้ตอบอะไร แล้วเคนชินก็ย้ำออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจังพร้อมกับส่งสีหน้ารู้มาก น่าตบกะบาลมาแบบนั้น “ที่อยู่ๆก็เปลี่ยนอาวุธคู่ใจมาเป็นดาบคาตานะแทน เพราะไม่อยากให้คุณเตโชกับคุณคิระในตอนนั้นเสียหน้า... นายหญิงน่ะ แม่นปืนมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เพราะท่านผู้หญิงสอนไว้ ไม่ใช่หรอครับ?” “อย่าเพ้อ…” แล้วพอฉันกำลังจะแก้ต่าง เคนชินก็พูดขัดขึ้นมาอีกครั้ง “ไม่แน่นะครับ... ท่านผู้นำอาจจะอยากให้นายหญิงไปสอน Leader’s Wife ให้ก็ได้ เหมือนที่เจาะจงให้นายหญิงเป็นคนประทับตราให้เธองะ...” ตึงงงง! “วุ่นวาย!” ฟังเคนชินพูดจบฉันก็โยนหนังสือในมือลงบนโต๊ะและพูดออกไป ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกจากโซฟา แล้วก็ไม่วายมีเสียงจากเคนชินดังขึ้นมาขัดไว้ “นี่แปลว่ายังไง...ก็จะไม่ไปหรอครับ?” กึก! จิ๊! ไอ้เคนชิน! บางทีก็ฉันก็คิดนะ ว่ามันเป็นคนของใคร -.- เป็นห่วงเป็นใยเค้าไปทั่ว งานการมันไม่มีทำรึไง! “เรื่องเยอะฉิบ! จำไว้เลยว่าคนกลุ่มแรกที่ Leader's Wife จะยิง คือพวกนาย!” ‘เฮ้!’ พอฉันพูดจบ ไอ้พวกลูกน้องที่พนันข้างโมเน่ต์ก็ดีใจออกมายกใหญ่ ส่วนไอ้เคนชินน่ะหรอ... “เป็นเกียรติที่ได้รับใช้ Leader's Wife ครับ เพราะพวกผมมั่นใจว่ารักษาการคงไม่ใจร้าย ปล่อยให้พวกผมตาย ฮ่ะๆๆๆ” แล้วไม่กี่นาทีต่อมาฉันก็เดินลิ่วๆมาที่ห้องซ้อมยิงปืน Castle ฝั่งติณณ์ ก่อนจะผลักประตูเข้าไป ตึงงงง! แล้วเสียงประตูจากฉันก็ทำให้ทุกคนในนั้นหันมามอง รวมถึงติณณ์ที่กระตุกยิ้มมุมปากยิ้มอ่อน เหอะ ไอ้นี่! ก็คงจะจริงอย่างที่เคนชินบอก “ควรเคาะประตูหน่อยมั้ย” นั่นไม่ใช่คำพูดจากติณณ์หรอก แต่เป็นโมเน่ต์ที่หันมาจ้องฉันพร้อมกับปืนในมือด้วยท่าทางฉุนเฉียว ส่วนหนี่งก็คงเพราะหงุดหงิดที่ยิงยังไงก็ไม่เข้าเป้าสักที “นี่คนในชมรมเลย์ใช่ป้ะ ที่ถ่ายรูปให้เราที่พิพิธภัณฑ์อัญมณีวันนั้น” เสียงนิลลากระซิบกระซาบกับเลย์ ที่เอาแต่อมยิ้มกรุ้มกริ่มตั้งแต่เห็นฉันเดินพ้นประตูเข้ามา เพราะก่อนหน้านี้ฉันบอกเอาไว้ว่า ถ้าพร้อมเดี๋ยวมาเอง แล้วเลย์ก็พยักหน้าตอบคำถามนั้น “อื้ม” ในขณะที่เจด้ามองฉันอย่างจับผิดเพราะเคยเจอฉันตั้งแต่วันที่ติณณ์คินก่อสงคราม และไม่ใช่แค่วันนี้อย่างเดียวนะ ลืมบอกไปว่าก่อนหน้านี้ฉันเคยเจอทุกคนแบบพร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว ในฐานะช่างภาพของชมรมวารสาร ที่งานเปิดตัวพิพิธภัณฑ์อัญมณีอย่างที่นิลลาว่า และวาโยก็เพิ่งขอโรเซ่แต่งงานที่นั่น แต่สมกับที่ไอ้เวย์มันบอกว่าเจด้าคือแฟนตัวยงของ Nightshade จริงๆนั่นแหละ เพราะสายตาที่พิจารณาทุกก้าวเดินของฉัน มันเต็มไปด้วยความสงสัยแบบไม่ปิดบัง “ถามได้ ถ้าข้องใจขนาดนั้น” แต่ยังไม่ทันที่เจด้าจะพูดอะไร โมเน่ต์ก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง “ยังไงที่นี่ก็ไม่ใช่ Treatise ไม่จำเป็นต้องมีเลขาตลอดเวลาก็ได้มั้...” หมับ! พรึ่บ! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ฉันอาศัยจังหวะที่โมเน่ต์กำลังตั้งใจตำหนิกัน เอื้อมไปคว้ามือโมเน่ต์ที่ยังถือปืนไว้ แล้วยกมันขึ้นลั่นไกแบบไม่หันไปมองด้วยซ้ำ กลับกัน...โมเน่ต์ที่ดูตกใจก็ออกอาการเลิ่กลั่ก หันขวับไปตามทิศทางของกระบอกปืน ก่อนจะอึ้งไปเกือบนาทีเพราะกระสุนทั้งหมดยิงเจาะทะลุเข้าจุด X ของเป้ากระสุนแบบไม่มีหลุดขอบ เรียกให้สายตาทั้ง 16 คู่ของผู้ชมบนโซฟาหันมาจับจ้องที่ฉัน “Nice Shot” ไอ้เวย์พูดขึ้นท่ามกลางความเงียบ ในขณะที่โรเซ่ทำตาโตอ้าปากค้าง อุทานออกมาแบบ..อะไรจะเหลือเชื่อขนาดนั้น “สะ...สุดยอด O[]O” ส่วนพายุ นิลลา วาโย และเจด้า ต่างก็จ้องมาที่ฉันด้วยสีหน้าที่ดูสนใจกันแปลกๆอยู่นั่น -.- พรึ่บ! แล้วโมเน่ต์ก็สะบัดมือฉันที่บังคับนิ้วเธอไว้ให้ลั่นไกตามสั่ง ก่อนจะหันมาจ้องหน้าฉันด้วยท่าทางเหมือนเสียหน้า เฮ่อ... มีน้องสะใภ้กับเค้าทั้งที ก็เอาใจยากจัง =_=^ ตัดภาพไปที่ไอ้ติณณ์ มันคือสิ่งมีชีวิตเดียวที่นั่งอมยิ้มกรุ้มกริ่มแบบโคตรน่าขนลุก เห็นละหมั่นไส้ฉิบ! พรึ่บ! “โอเค ใจเย็นนะเจ๊ ขอแนะนำอย่างเป็นทางการพร้อมการ์ดแต่งงาน นี่เฟรย่า... Lady ผมฮะ รู้จักกันหมดแล้วเน่อะพวกมึงอ่ะ เหล่า Lady ฝากเมียเฮียด้วยนะคะ แล้วก็...พวกกูจะแต่งงานกันวันมะรืนละ” พอเห็นท่าทางของโมเน่ต์ที่ดูไม่ค่อยลงรอยกับฉันมาแต่ไหนแต่ไร เลย์ก็เดินเข้ามาโอบเอวฉันและแก้สถานการณ์ให้ พร้อมวางการ์ดแต่งงานของพวกฉันลงบนโต๊ะเสร็จสรรพ แต่เดี๋ยวนะ... “วันมะรืน?” เอ้านี่คือ...อีกสองวันฉันจะแต่งงานหรอวะ -.- “ค่ะ ก็วันที่ 7 ตามเงื่อนไขพอดีไง” ฮะ? ฉันยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเลย์ไปพิมพ์การ์ดแต่งงานตั้งแต่เมื่อไหร่ ไอ้การ์ดที่หยิบออกมานั่นด้วย ตอนเดินเข้ามาไม่เห็นมี แล้วนี่ไปดึงออกมาจากซอกไหน ที่สำคัญ...ไอ้ซากจดหมายของท่านพ่ออีกครึ่งนึงนั่น หาเจอมั้ยก็ไม่เห็นเลย์เคยบอกอะไร -.- “อ้าวเงียบ ที่เงียบนี่คือพวกมึงจะไปมั้ย -.-” “(- -)(_ _)” <<< Nightshade, โรเซ่ แล้วพอเลย์พูดจบ Nightshade ทุกคนและโรสก็พยักหน้าออกมา เหลือก็แค่นิลลา เจด้า และ... “Lady?” โมเน่ต์ที่ยังคงจ้องฉันทวนคำพูดนั้น แล้วเลย์ก็พยักหน้าให้ความมั่นใจไปอีกครั้ง “อื้ม อย่าทำหน้าแปลกใจขนาดนั้นดิ ผมคิดว่าเจ๊จะรู้นานละเนี่ย เจ๊ใกล้เมียผมสุดละ” “เดี๋ยวสิถ้างั้น...หรือนี่จะเป็นน้องปิ๊กกีต้าร์ Limited Edition O[]O” นิลลาพูดออกมาด้วยสีหน้าตื่นเต้นแบบรู้สึกได้ ส่วนโมเน่ต์ก็ยังเอาแต่จ้องหน้าฉัน ว่าแต่...อะไรคือปิ๊กกีต้าร์ Limited Edition? “แล้วทำไมวันนั้น...” และในที่สุด...น้ำเสียงที่ดูสงสัยในตัวฉันมากกว่าใครของเจด้า ก็ดังขึ้นมาเบาๆ ทำให้ทุกคนเงียบลงอย่างตั้งใจฟังสิ่งที่เจด้าจะพูดกับฉัน “เอ่อ วันนั้น....” แต่แล้วอยู่ๆเจด้าก็อ้ำอึ้งออกมาแทนซะงั้น และมองฉัน เลย์ ติณณ์สลับกัน เหมือนกำลังประมวลผลอะไรบางอย่าง “ตรงๆไปเลย ถ้ามันเรียบเรียงยาก” “อื้ม เอาเลย รอฟัง” ไอ้เวย์พูดออกมาเพราะรู้อยู่แล้วว่าฉันไม่ได้ถือตัวอะไร ฉันเลยพยักหน้าเห็นด้วยออกไป อีกอย่าง...ฉันก็เคยบ่นๆกับไอ้เวย์ออกบ่อย ว่าอยากเจอนะ...ตัวเจที่สยบไอ้เวย์ได้เนี่ย ลึกๆต้องเป็นผู้หญิงที่มีอะไรอ่ะ “ก็...ทำไมวันนั้นที่มีเรื่องกัน ผู้หญิงของเฮียเลย์ต้องแยกออกไป ในเมื่อ...” “เจ๊ เฟรย์เป็นเพื่อนเฮีย” “เพื่อน?” “บางทีก็แค่ช่างภาพ” ฉันพูดปิดท้ายออกไป ยอมรับว่าฉันซาบซึ้งและตื้นตันมาก ที่อยู่ๆไอ้เวย์มันอุตส่าห์สถาปนาให้ฉันเป็นเพื่อนมันแบบไม่สนเจด้าที่แทบจะเรียบเรียงคำพูดจนลิ้นพันกัน -.- “อื้ม นั่นแหละค่ะ วันนั้นเจ๊ก็อยู่ที่นี่ด้วยนี่นา ตอนที่เจ๊โมเป็นลมเจ๊ก็เข้ามา แล้วก็...กล้ามีปากมีเสียงกับท่านปู่เรื่องคำขอของเจ๊โมด้วยอ่ะ แถมคนของเฮียเตยังเรียกเจ๊ว่า...” “นายหญิง” “อื้อ ใช่ๆ ทำไมถึง...เรียกแบบนั้น (- -)(_ _)” ครั้งนี้ เลย์เป็นคนเติมท้ายประโยคของเจด้า แล้วเจด้าก็พยักหน้าออกมาด้วยท่าทางที่ดูสงสัยในตัวฉัน ติณณ์มันเลยพูดเสริมขึ้นมาเพื่อไขข้อข้องใจนั้น “ฟาริดา ภัทรเดชา” “DS Member?” ทันทีที่ติณณ์พูดจบ โมเน่ต์ก็พูดสวนขึ้นมาไม่ต่างกัน “ไม่มิณ มากกว่านั้น” “..…” คำตอบของติณณ์ทำเอาทุกคนนิ่งเงียบ แล้วก็เหมือนเดิม พวก Nightshade กับ Nightshade's Lady นี่เป็นอะไร จ้องฉันเหมือนเป็นตัวหลาดในบ้านผีสิงงานวัดกันอยู่ได้ -.- “Dark Shadow's Acting Leader” “ระ...รักษาการ? เป็นไปได้ไง” พอติณณ์มันระบุตำแหน่งฉันไปแบบเต็มยศ คราวนี้กลายเป็นโมเน่ต์ที่ดูตกใจในคำตอบนั้น แล้วพูดอะไรงึมงำ “ทำไมถึงคิดว่าเป็นไปไม่ได้?” ฉันแกล้งถามลองเชิงออกไปเพราะสีหน้าโมเน่ต์ดูสับสนกับบางอย่างในหัวจนนอยด์ตัวเองแบบเห็นได้ชัดขนาดนั้น “ก็ตาม Dark Shadow Fundamental นี่มันเป็นตำแหน่ง...” “ที่ถูกปิดทึบเอาไว้” เข้าใจละ ถือว่าไอ้ติณณ์มันรอบคอบอยู่นะ ที่ให้ Leader's Wife ศึกษาเรื่องต่างๆของ Dark Shadow ก่อนเข้ารับตำแหน่งแบบนั้น “ใช่ แล้วทำไมอยู่ๆถึงมาบอกว่า...” “มันอยู่ในหน้าสุดท้าย Leader's Wife” พรึ่บ! พอได้ฟังคำตอบจากฉัน โมเน่ต์ก็คว้ากระเป๋าหยิบ Dark Shadow Fundamental ในนั้นออกมา แล้วเปิดไปตามที่ฉันบอก ก่อนจะนิ่งไปอยู่นาน ติณณ์เองก็ไม่พูดอะไร ราวกับตั้งใจให้ฉันเป็นคนอธิบายสถานะของตัวเองให้เธอฟัง “…..” “รักษาการเป็นตำแหน่งที่ไม่อยู่ในรากฐาน เพราะมีสิทธิพิเศษคืออยู่ในกฎหรือนอกกฎก็ได้ เป็น Dark Shadow ครึ่งๆกลางๆ ขึ้นอยู่กับ...” “ความพอใจในขณะนั้น” ผลัวะ! “สถานการณ์ -.-” ฉันกำลังคุยกับโมเนต์แบบจริงจัง ติณณ์มันก็พูดแทรกขึ้นมากวนๆเลยตบกบาลไปที แล้วมันก็หลุดขำ “หึ...” “เชี่ยยยย นี่คือสิ่งมีชีวิตที่กูตามหา มีคนตบไอ้เฮียแบบที่มันไม่กล้าหือด้วยหรอวะ ในที่สุดฟ้าก็ประทานเครื่องมือแก้แค้นลงมา” เห็นแบบนั้นวาโยก็ถึงกับยกนิ้วโป้งสองนิ้วให้ฉัน ไอ้เวย์นี่ก็นั่งขำ บรรยากาศที่ทุกคนดูนิ่งๆ อึ้งๆ ปนสงสัยก็ค่อยๆดีขึ้นตามลำดับ เหลือก็แค่โมเน่ต์ที่ยัง... “แล้วรักษาการไม่ Under ใครเลย?” “ที่จริง Under มัน” ฉันชี้ไปที่ติณณ์ กะโยนไปให้มันพูดไรสักอย่าง แต่มันก็เงียบ เงียบแบบยิ้มกรุ้มกริ่มอ่ะ ไม่รู้มันแฮปปี้อะไรของมัน -.- แต่ก็ไม่แปลกที่โมเน่ต์จะสงสัยหรอก เพราะถ้าหอบตำราต่างๆเกี่ยวกับ Dark Shadow ไปไหนมาไหนด้วย เธอก็คงแปลกใจ ที่ฉันไม่ได้แสดงความเคารพใดๆกับทั้ง Leader และ Leader's Wife “ไอ้ติณณ์ -.-” “ยัยนี่เป็นพี่กู” ต้องให้ฉันส่งเสียงขู่ออกไป ติณณ์มันถึงจะปริปากพูดออกมา แล้วพอได้ฟังคำนั้น ทั้งพายุ นิลลา วาโย โรเซ่ โมเน่ต์และเจด้า ก็พูดออกมาพร้อมกัน “....พี่???” “เอางี้ กูตอบโปรไฟล์เมียกูให้เอง ไอ้ห่านี่แม่งลีลาฉิบหาย มึงจะเขินอะไร!” ผลัวะ! คงเพราะสีหน้าทุกคนดูมึนไปหมด ก็แหงล่ะ เลย์เคยบอกว่า Nightshade สนิทกันมากเหมือนครอบครัวเดียวกันแต่กลับไม่เคยรู้เรื่องนี้ เลย์ที่รู้ดีสุดเลยคิดจะรวบรัดให้ โดยคิดค่าตอบคำถามแทนเป็นการตบกบาลติณณ์มันไปอีกที ก่อนจะหันไปหาคนที่ดูสงสัยที่สุดก่อน “เริ่มที่ตัวเจ ยิงคำถามที” “เจหรอ?” “เออน่า เราเป็นประธาน VIP Nightshade ไม่ใช่หรอ เนี่ย! เฮียเปิดโอกาสให้สัมภาษณ์ Lady” “งั้น...เจ๊เป็นลูกสาวท่านปู่หรอคะ?” เหอะๆ พอเจด้าเปิดประโยคคำถามแรกมา ก็ชวนให้ทุกคนเลิกคิ้วหันมาหาฉันแบบเซอร์ไพรส์แล้วเซอร์ไพรส์อีก “เนี่ย ถามได้ดี ใช่ค่ะ Lady! เมียเฮียเป็นลูกบุญธรรมของท่านปู่ เรียงตามลำดับญาติมีศักดิ์เป็นอา แต่เพราะอายุห่างกันไม่มาก บุญบาปเลยนำพาให้มาเป็นพี่ไอ้เหี้ยนี่” “หึ...” พูดจบเลย์ก็ชี้ไปที่ติณณ์ แล้วมันก็ขำอีก ดีจ้ะดี วันนี้มันแลอารมณ์ดี -.- “อ่ะต่อ มึงไม่ต้องถามนะเฮียเวย์ ที่กอดเมียกูไว้ กูจะฟ้องตัวเจให้หมดเลยนะ ซุบซิบๆ โรส! สงสัยไรมั้ยคะไหนถามซิ” เลย์ไล่ไปตามตำแหน่งการนั่งเหมือนกำลังเล่นเกมส์ถามตอบ ทุกคนก็ดูจะสามัคคีกันดี คือแบบ...อะไรจะดูตั้งใจฟังกันปานนี้ “โรสไม่มีอ่ะ แต่เรื่องวันนั้นขอโทษนะคะรุ่นพี่” “อื้ม” โรสพูดพร้อมกับยกมือไหว้ฉันไปอีก แล้วเลย์ก็หันไปหาโย “เคฮะ ตามึงไอ้โย นับหนึ่งถึงสามนะ หนึ่ง...สอง...สะ...” “รู้ Map Zirconia ดีก็เพราะแบบนี้?” กะแล้วเชียว หมอนี่มีคำถามคาใจอยู่ไม่กี่อย่างหรอก แล้วเลย์ก็เป็นคนตอบคำถามนั้นแบบไม่รีรออะไรเพราะรู้ดี “เออ! มึงไป Search ชื่อหุ้นส่วนนะ กูก็เพิ่งรู้ไม่นานว่าเจ้าของ Zirconia มี 3 คน คือ เมียกู ไอ้คิระ และไอ้เหี้ยนี่” “ทำไมกูต้องเหี้ยทุกที -.-” คงเพราะเริ่มรู้สึกไม่หลงเหลือความเป็นคนล่ะมั้ง ติณณ์มันเลยแย้งออกมาด้วยน้ำเสียงเซ็งๆไปที เล่นเอาฉันและนิลลาหลุดขำ “หึ...” “นั่นดิ เลย์ไม่อ่อนโยนเลยอ่ะ” “แล้วพูดกูกับหนูได้ไงคะเนี่ย?! หนูเป็นพี่เขยเฮียนะ ต่อไปจ้า นิลนิ... อุ๊ยนิลลา นิลลาคือกามเทพตัวน้อยของเค้าเลยนะ เค้าอ่อนโยนกับนิลเสมอ มามะ มาถามตรงนี้มา” “เจ๊โดนหลอกมาหรอคะ ถึงมาเป็น Lady?” พอเลย์พูดจบ นิลลาก็สวนกลับมาทันที เรียกเสียงชอบใจจากวาโยที่นั่งถัดออกไป จนลุกขึ้นมา High Five ไปที “เข้! นิลนาราศิษย์พี่” แปะ! “คำถามอย่าง Cool” ฉันพูดไปยิ้มไป แล้วเลย์ก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ ก่อนจะกัดฟันส่งเสียงขู่ต่อหน้าใครๆ “ตอบให้ดีๆนะคะ ไม่งั้นคืนนี้...” “เสียตัวไปแล้วอ่ะดิ เลยไม่รู้จะทำไงดี” ผลัวะ! ผลัวะ! ฉันตอบออกไป แล้วติณณ์มันก็ลุกขึ้นมาเอาคืนเลย์ด้วยการตบกบาลไปสองทีแบบเคืองๆ ส่วนนิลลาก็แสดงท่าทางเห็นด้วยออกมาทันที “หึ๊ยยย เหมือนหนูเลยอ่ะ อุ๊บ! :X” “ทำตัวเองรึเปล่า” ได้ยินแบบนั้นพายุก็ยื่นฝ่ามือใหญ่ๆมาปิดปากนิลลาไว้แล้วเลิกคิ้วถาม ก่อนที่เจด้าจะส่งเสียงแซวออกมาอย่างอารมณ์ดี “นั่นดิเฮีย ฉันเป็นผู้หญิงของพายุ Nightshadeeee…คิกๆๆ ^_^” “เอาล่ะ พอค่ะ ต่อไปตามึงละไอ้พายุ” เลย์หันไปหาหมอนั่น ที่ถึงจะเอามือปิดปากนิลลาอยู่ แต่ตาก็จ้องมาที่ฉัน “...อยู่ Castle ฝั่งนู้น?” “เชี่ย ทำไมมึงรู้ O_O” ไม่ใช่แค่เลย์หรอกที่แปลกใจ ฉันเองก็สงสัยและจ้องกลับไป หมอนั่นก็พูดออกมาเสียงเรียบ “เห็นแว๊บไปแว๊บมานึกว่าผี” “เห็น?” .......เห็นได้ไงวะ =_=^ “ก็เพิ่งพูดไปเมื่อกี๊” “หมายถึงเห็นตั้งแต่เมื่อไหร่?” ฉันทวนคำถามออกไป เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะพลาด อีกอย่าง Nightshade ก็ไม่ค่อยได้มาที่นี่ แล้วหมอนั่นก็หยุดคิดนิดหน่อย ก่อนจะตอบกลับมา “ประมาณปี” “งั้นมึงก็ไม่ได้หลอกกูดิ” พอได้ฟังวาโยก็พูดเสริมขึ้นมา แต่ปีนึงเลยเนี่ยนะ? แล้วพายุก็พยักหน้า “(- -)(_ _)” “เชี่ยยย ถ้าเจอตั้งแต่ตอนนั้นเจ๊เป็นเมียกูละเนี่ย” “เดี๋ยวๆ ปีที่แล้วยังบินไปส่องสาวเมกาอยู่เลยพี่ -*-” เลย์เบรควาโยที่กำลังบ่นอุบอิบเหมือนเสียดาย ก่อนหมอนั่นจะหันไปหาโรเซ่ที่ส่งยิ้มร้ายพอได้ฟังมาทันที “อุ่ย...ล้อเล่นจ้ะ ไหนเอาแหวนแต่งงานมาดูซิ” แล้ววาโยก็ทำเนียน คว้านิ้วมือเรียวของโรสมาดูแหวนแบบแถข้างๆคูๆไปจนคนรอบข้างส่ายหัวให้กับความกะล่อนนี้ แต่ต้องยอมรับเลยแฮะ ว่าพายุ Nightshade หูตาไวจริง จำรูปนั้นที่ Zirconia ได้มั้ยล่ะ? ฉันไม่ทันรู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าถูกแอบถ่าย ขนาดทุกคนในเหตุการณ์เดินวนรอบรถเลย์ตรงหน้า ทั้งที่อยู่ในสายตาฉันแท้ๆ หมอนี่ยังแอบแชะภาพฉันไว้ได้ “โอเค คนสุดท้ายแล้วนะคะ เจ๊โมเน่ต์ของเรานี่เอง ให้สามคำถามเลยอ่ะ เป็นการผูกมิตรไมตรีกันไว้นะ คำถามแรกคือออออ….” “ไม่เห็นเคยบอกเรื่องนี้?” นั่นไม่ใช่คำถามที่ต้องการคำตอบจากฉัน แต่โมเน่ต์หันไปหาติณณ์ที่ก็เหมือนจะเตรียมคำตอบไว้แล้ว “การมีตัวตนของเฟรย์ มาจากกระบวนการคิดอย่างรอบคอบของท่านย่า ว่ามันต้องเกิดขึ้นแน่ๆ ไอ้เหตุการณ์ก่อนหน้านี้” “แล้ว?” โมเน่ต์สวนกลับมาแบบไม่ค่อยแปลกใจ กลับกันพวกที่เหลือค่อนข้างไม่ชินล่ะมั้ง ที่ติณณ์มันพูดยาวขนาดนี้ แล้วติณณ์มันก็หันมามองฉัน ก่อนจะส่งเสียงตำหนิปนห่วงๆมาละมั้ง ไม่รู้ดิ “รักษาการให้ความสำคัญกับชีวิตของ Next Gen ทั้งที่ชีวิตตัวเองมีค่ามากกว่าซะอีก” “ติณณ์! ขอเคลียร์ๆกว่านี้” โมเน่ต์เริ่มออกอาการหงุดหงิด ทั้งที่จากข้อมูลที่เคนชินหามาให้ อุปนิสัยของเธอไม่ใช่แบบนี้ หรือเพราะเบบี๋ในท้องเริ่มแผลงฤทธิ์ หึ... “สภาไม่ได้กลัวแค่ Next Gen มิณ... พวกนั้นกลัวรักษาการ ทำให้ยัยนี่ต้องมาอยู่ที่นี่ เป็นครึ่งผีครึ่งคนในที่ๆปลอดภัยที่สุดแบบนี้” “ปากดี” ฉันพูดลอยๆเหน็บไอ้ติณณ์ออกไป วาโยที่นั่งอยู่ไกลๆก็หันมาทำท่าซุบซิบข้ามหัวคนอื่นๆแบบถูกอกถูกใจซะจริง “เล่นแม่งเลยเจ๊ เล่นแม่งเลย ผมอยู่ข้างเจ๊นะ” “จะบอกว่า...ไม่อยากให้คนนอกรับรู้ถึงการมีตัวตน ไม่อยากให้ใครเข้ามาวุ่นวาย แม้แต่คนที่มีตราประทับแล้วอย่างตอนนี้?” โมเน่ต์ส่งคำพูดที่ดูน้อยใจออกมา อาจเพราะเธอค่อนข้างทุ่มเทกับการศึกษาตำราต่างๆของ Dark Shadow นั่นแหละนะ แล้วตอนนี้ก็เป็น Leader's Wife ที่ใครๆต่างให้ความเคารพด้วย แต่ติณณ์มันก็ตอบไปนิ่งๆ “ใช่ เพราะตราประทับ...จะทำให้รู้จักกันอย่างเป็นทางการเอง” “งั้นถามหน่อย ถ้าสุดท้ายเฟรย่าไม่ใช่ Lady มันก็แทบไม่มีทางเลยที่ติณณ์จะบอ...” “ยังไงกฎแห่งความสัมพันธ์ ก็ต้องดึงเฟรย์ไปหาเจ๊อยู่ดี” คราวนี้เลย์เป็นคนตอบ ยิ่งทำให้โมเน่ต์ฉุนขึ้นมา “ความสัมพันธ์? ในฐานะรักษากา...” “ในฐานะพี่” ติณณ์พูดขัดออกไป แล้วคำนั้นก็ทำให้โมเน่ต์ที่ออกอาการตึงๆ ถึงกับนิ่งไปในทันที ก่อนที่ติณณ์จะพูดต่อ “...และคนที่ปฏิบัติตามกฎ Dark Shadow หมวดที่ 8 ข้อ 4” ได้ยินแบบนั้น โมเน่ต์ก็คว้า Dark Shadow Commandment อีกเล่มในกระเป๋ามาเปิดดูทันที แต่เพราะกฎต่างๆในเล่มมันเยอะมาก ทำให้เธอที่รีบร้อนหาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอสักที และถ้าจำไม่ผิด มันอยู่ราวๆ... “หน้าที่ 384” คนที่ตอบออกไปไม่ใช่ฉันหรอก แต่เป็นเลย์ ซึ่งก็น่าทึ่งเหมือนกันแฮะ เพราะเลย์ได้ตำราต่างๆของ Dark Shadow ไปไม่ถึงเดือน แต่จำได้ขนาดนี้ “ส่งสายตาชื่นชมมาแบบนี้ ต้องหอมแก้มเค้าเป็นรางวัลก่อนเลยสองที” ฟรืด ฟรืด แล้วก็ไม่ใช่ฉันอีกนั่นแหละที่ยื่นจมูกตัวเองเข้าไปหอมเลย์ แต่เป็นเลย์เองต่างหาก ที่ยื่นแก้มเข้ามาจนนิลลา โรเซ่ และเจด้าอมยิ้มเขินๆ ส่วนไอ้เวย์ วาโย และพายุก็กลอกตามองบนแบบเอือมๆ ไม่นาน...โมเน่ต์ก็หากฎข้อนั้นเจอ แต่ถ้าให้เดาก็คงอึ้งๆ ติณณ์มันเลยพูดกฎข้อนั้นออกมา เพื่อย้ำความแน่ใจให้กับเธอ “หมวดที่ 8 ข้อ 4 | Dark Shadow Member ระดับสูงที่มีอำนาจประทับตรา จะต้องเป็นผู้ปกป้อง คุ้มครอง และรับผิดชอบทุกการกระทำของ Member ที่ตนเป็นผู้ประทับ” “หมะ...หมายความว่า...” แล้วแค่นั้นแหละ โมเน่ต์ก็หันมามองฉันแบบอึ้งกว่าเดิม ครั้งนี้อึ้งจริงจัง อึ้งแบบปล่อยหนังสือในมือลงและก้มหัวให้ฉันโดยอัตโนมัติทันที “เฮ้ย ไม่ต้องทำขนาดนั้น” แต่ติณณ์มัน.... “ถูกแล้ว ในเชิงความสัมพันธ์...มิณต้องเคารพเฟรย์ในฐานะพี่ ในตำแหน่งที่ได้รับการแต่งตั้งก่อนหน้านี้…ถือว่าอยู่สูงเทียบเท่ากันตามสถานะที่เฟรย์มี และในบทบาท Nightshade's Lady… เราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว เลิกตึงใส่กันสักที” “ยาวฉิบ นี่คำสั่งป่ะ? ต้องก้มหัวรับมันหรือว่า...” “ให้เกียรติกันหน่อยก็ดี” ฉันพูดออกไปขำๆ แล้วติณณ์มันก็ทำเป็นเก๊ก ส่งเสียงเข้มกลับมา คิดว่าเท่ตายเลยมั้งไอ้หน้านิ่งๆแบบนี้ “หึ...” แต่ก็นะ ยังไงก็ Under มันอยู่ดี พอหลุดขำในลำคอนิดหน่อย ฉันก็ก้มหัวให้มัน และขานรับคำสั่งนั่นออกไปทันที “รับทราบค่ะ ท่านผู้นำ สบายใจแล้วเน่อะ บ้าอำนาจเหมือนกันนี่” ผลัวะ! ผลัวะ! ผลัวะ! แล้วพอสิ้นสุดคำพูดของฉัน เลย์ก็ทำหน้าเซ็ง เอื้อมมือไปตบหัวติณณ์อีก ตบย้ำๆอยู่สองสามที “หมั่นไส้แทนเมียกู อย่ามาจิ๊จ๊ะนะ กูตบในฐานะ Nightshade ตบมาตบกลับนะเอาเดะ!” “แต่มึงมีตราประทับ ยังไงก็ Under กูอยู่ดี -_-!” ไอ้ติณณ์ส่งเสียงงอนๆไปให้เลย์ แล้วเลย์ก็ไม่วายกวนประสาท “ใช่ที่ไหน กูติด tattoo เอา! ว๊ายยย เค้าก๊อปตราประทับ Dark Shadow กันเกลื่อน ไม่ได้จดลิขสิทธิ์อ่ะเดะ” แล้วพอไอ้เวย์ วาโย และพายุได้ฟังก็ลุกจากที่นั่งตรงมาหาเลย์ทันที “เดี๋ยวๆ ไหนวะไอ้เหี้ย มีกับเค้าด้วยไง๊ เอามาดูดิ๊” วาโยพูดและทำหน้าที่เข้ามาล็อคคอเลย์ ส่วนไอ้เวย์กับพายุก็วุ่นวายอยู่กับการกระชากเสื้อเลย์เป็นเด็กๆ พรึ่บ! แคว่กกกก! “โอ้โห เสื้อตัวละแสนสี่ ล่อซะเป็นขยะ รักเพื่อนที่สุดก็วันนี้ -3-” “ไหนวะ โม้ละไอ้สัส ไม่เห็นมี” เสียงไอ้เวย์บ่นๆ แล้วทั้งมันและพายุเดินวนรอบส่งสายตาจับผิดบนผิวขาวๆของเลย์แต่ก็ไม่มีอยู่ดี เอาจริง ไม่ใช่แค่พวกนั้นหรอกที่หาไม่เจอ ฉันเองก็มองหามาตั้งแต่เคนชินบอกจนตอนนี้ แล้วนี่ได้รับการคอนเฟิร์มจากติณณ์เลยนะว่าเลย์มี แต่หลังจากนั้น เลย์ที่เห็นสายตาจับผิดของทุกคนก็เฉไฉเปลี่ยนเรื่อง ชี้ไปที่การ์ดแต่งงานของเราบนโต๊ะ ก่อนจะแกล้งบ่นอุบอิบ ทำไม่รู้ไม่ชี้ “เออน่า ก็เนี่ย! การ์ดเชิญไปดูของดี หยิบสิหยิบ ปัดโธ่! แล้วอย่าลืมเอากล้องที่ถ่ายคุณเท็ดดี้ไปเซลฟี่ความเท่ของกูด้วยนะ เอ้า! ยังไม่หยิบกันอีก!!”“คิระ นี่มันเรื่องอะไรกัน?!”ไม่ใช่แค่ฉันหรอก แต่ DS Member ทุกคนก็ดูสับสนพอกัน ถ้าเรียกตัวคืนสู่สังกัด แปลว่ามาโครอยู่สังกัดของเรา? แต่จะเป็นไปได้ไงก็ในเมื่อแม็ค...“ว่ากันว่า...ถ้าจะหลอกศัตรูให้ตายใจ ก็ต้องหลอกพวกเดียวกันให้ได้ซะก่อน”คิระเดินตรงเข้ามาหาฉัน และมองลงไปที่กลางสนามประลอง เห็นแม็คกับเลย์ยืนอยู่ข้างล่างท่ามกลางความเงียบงันที่ไม่มีใครพูดอะไร ยิ่งไปกว่านั้น สองคนนั้นกับติณณ์และท่านพ่อ ก็ยังหันมาดูปฏิกิริยาของฉันด้วยซ้ำพรึ่บ! หมับ!ได้ฟังแบบนั้นฉันก็ก้าวขาจะเดินลงไปข้างล่าง แต่คินมันดันมาคว้าแขนไว้ และกระชากกลับไปอย่างแรง พร้อมกับพูดด้วยด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดก่อนจะหันไปพยักหน้าให้ติณณ์“ครั้งนี้ไม่เอาตัวแถม ถ้าพวกมันรักเธอ...พวกมันก็มีเรื่องต้องเคลียร์กัน!”แล้วพอคินพูดจบ อยู่ๆติณณ์ก็โยนดาบคาตานะสองเล่มให้แม็คกับเลย์ที่ก็ยื่นมือไปรับมัน นั่นทำให้ฉันวิตกขึ้นมา เพราะแม็คน่ะ...ใช้ดาบคาตานะคล่องมากอยู่ละ แต่เลย์กับดาบคาตานะน่ะ...“ศิษย์สำนักเดียวกัน ไม่เห็นต้องทำหน้าเหวอขนาดนั้น”“สำนักเดียวกัน?” ฉันหันไปหาคินด้วยสีหน้างงๆ“ก็ใครสอนไอ้แม็ค? ใครประทับตราให้มัน?”คิระตอบกลับคำถามขอ
สองวันต่อมา...@ Dark Shadow Castle (JAPAN)“โห สวยมากกกก เจ๊คือสวยในสวย สวยโคตรๆ สวยแบบถ้าเลย์เห็นต้องยกเลิกงานแต่ง ลากไปขังไว้ในห้องไม่ให้ออกมาพบผู้คนแน่ๆ O[]O”เสียงนิลลาอวยฉันที่ยืนหมุนตัวอยู่หน้ากระจกไปมาในชุดเจ้าสาวที่เคยใส่แล้ว แต่วันนี้มันดูแปลกตากว่าครั้งนั้น คงเพราะทรงผมที่ทำมันไม่เหมือนกันล่ะมั้ง“หรอ -/////- แต่นั่นน่าจะเป็นนิสัยดิบเถื่อนของพายุมากกว่า”“แหะๆ อย่าเปิดประเด็นนินทาพายสิคะ รายนั้นยิ่งชอบเจ้ากี้เจ้าการ บังคับให้แต่งๆอยู่ได้ ไม่สนใจคนรอบข้างเลยอ่ะ -*-”“อ้าวโรส เฮียพายมาหรอ”“เย้ยยย ไอ้ด้า! เดี๋ยวกูตบกบาล”อ๋อ! รู้ละอีกอย่างนึงที่มันต่าง คือความครื้นเครงในห้องแต่งตัวเจ้าสาวตอนนี้ ที่เต็มไปด้วยบรรดา Nightshade’s Lady มาช่วยตรวจความเรียบร้อยให้ แถมยังตื่นเต้นกว่าฉันที่สวมชุดเองซะอีก“ก็สวยจริงๆนั่นแหละนะ”โมเน่ต์พูดไปแล้วจัดระเบียบชุดเจ้าสาวของฉันไปด้วยสีหน้าที่ดูดีขึ้นแบบเคลียร์ใจกันทั้งหมดแล้วก็นะ เพราะฉันกับติณณ์อายุห่างกันนิดหน่อย แถมยังเรียนมหาลัยปีเดียวกัน เราเลยคงสรรพนามเดิมคือเรียกชื่อกันเฉยๆ ไม่จำเป็นต้องเรียกเจ๊หรืออะไรจริงจัง เพราะทั้งติณณ์และคิระ ถ้า
หลายวันต่อมา...@ Dark Shadow Castleหลังผ่านการพิพากษาคิระ ซึ่งทุกอย่างก็เหมือนจะจบลงด้วยดี เพียงแต่...ไอ้สองพี่น้องขี้เก๊กนั่นมันก็ยังไม่ยอมเปิดใจคุยกันตรงๆสักทีก็...แล้วแต่นะ การกระทำมันสำคัญกว่าคำพูดอยู่แล้วนี่อ้อ...ลืมบอกไปนิด ท้ายที่สุดแล้วก็เป็นฉันนี่แหละ ที่เป็นคนประทับตรา Dark Shadow ให้โมเน่ต์ตามคำขอของติณณ์ ซึ่งเราก็ไม่เห็นหน้ากันตรงๆหรอกนะ ฉันเข้าไปประทับให้ตอนที่เธอหันหลัง เพราะยังไม่ต้องการเปิดเผยตัวตน และอย่างที่รู้... โมเน่ต์กับฉันก็ไม่ค่อยจะลงรอยกันหรอกตั้งแต่ที่ชมรมละแต่ไม่รู้ไปประทับอะไรผิดพลาดรึเปล่า เพราะอยู่ๆโมเน่ต์ก็ขอให้ติณณ์พามาที่ Castle ตั้งแต่กลับจากญี่ปุ่นตลอด Nightshade เองก็แวะเวียนมาที่นี่แทบทุกวัน จนตอนนี้กลายเป็น Ztudio Nightshade นั่นแหละที่ร้าง ในขณะที่ Castle ฝั่งติณณ์...ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!เสียงลั่นไกในห้องซ้อมยิงปืนจาก CCTV ที่เคนชินมันต่อเข้ามานั่งดูในห้องโถงของ Castle ฝั่งฉัน ดังสนั่นแบบที่ไอ้หมอนี่ไม่เห็นหัวเจ้าของ Castle ที่นั่งอ่านหนังสือเตรียมสอบอยู่นี่เลยด้วยซ้ำ -_-แถมลูกน้องของฉันอีกหลายคนก็กำลังสุมหัว รอลุ้นวิถีกระสุนของโมเน่ต์
อีกด้านหนึ่งของ Dark Shadow Castleก๊อก ก๊อก ก๊อก...ฉันเคาะประตูห้องทำงานของติณณ์ที่ถูกเปิดแง้มเอาไว้ และถือวิสาสะเดินเข้ามาข้างในซึ่งก็มีติณณ์นั่งรออยู่ก่อนแล้วด้วยสีหน้านิ่งเรียบ แต่แววตาก็เป็นอย่างที่คาดไว้หมอนี่...กำลังเสียใจก่อนที่ฉันจะยื่นอัลบั้มรูปในมือที่ตอนไปค้นรูปคิระให้ลิซ บังเอิญไปเจออัลบั้มที่มีรูปติณณ์กับคินถ่ายด้วยกันสมัยเด็กๆก็ไม่รู้หรอกว่าหมอนี่อยากได้มั้ย...แต่ในสถานการณ์แบบนี้น่ะ ฉัน...อยากให้“ไม่ฆ่ามันก็บุญเท่าไหร่”พรึ่บ!ติณณ์พูดออกมาเสียงเรียบ แล้วเลย์ที่มาด้วยกันก็วางเอกสารทั้งหมดที่ฉันได้จากเคนชินเรื่องสภาค้ายาลงบนโต๊ะแบบไม่พูดอะไรแต่ความเป็น Nightshade มันบอกชัด ว่าเลย์ก็ไม่ได้สบายใจที่ติณณ์มันอยู่ในสภาวะอารมณ์ที่...จุกแต่พูดอะไรไมได้“หลายอย่างน้องมันอาจตั้งใจ แต่บางการกระทำก็มีเหตุผลให้เป็นไป”ฉันพูดออกไป แล้วพอได้ฟังแบบนั้นติณณ์มันก็มองมานิ่งๆ และไม่มีทีท่าจะเปิดดูทั้งอัลบั้มรูปและเอกสารที่พวกฉันหอบมาให้สักนิด ซึ่งก็เป็นสิทธิ์ของหมอนี่อยู่แล้วแหละ ที่จะดูหรือไม่ดูก็ได้“เข้าด้วยมั้ย?”คำถามคลุมเครือจากติณณ์ถูกส่งมา ด้วยแววตาที่ดูเหมือนกำลังหาที่พึ่ง
หลายชั่วโมงต่อมา...“ยุติสถานการณ์บนเกาะพร้อมเคลียร์พื้นที่เรียบร้อยแล้วครับนายหญิง”เสียงลูกน้องคนหนึ่งของฉันมารายงานผลด้วยการกระซิบเบาๆเล่นเอาโล่งใจไปตามๆกัน ท่ามกลางเสียงหัวเราะคิกคักของลิซที่กำลังนั่งดูรูปคิระที่หน้าบูดตั้งแต่เด็กอยู่คนเดียว“คิกๆๆ ตาลุงคนนี้นี่หน้าตาโกตั๊กจังเลยนะคะเนี่ย ^_^”“แล้วสองคนนั้น?”ฉันถามออกไปเบาๆ เพราะเท่าที่ดูเหมือนลิซไม่รู้ว่าคิระเป็นใครด้วยซ้ำ ทั้งที่ตอนนั้นเกือบโดนคนของสภาเอาตัวไป แต่ไม่รู้คินมันหลอกน้องหรือความไร้เดียงสาทำให้ลิซคิดว่าฉันรวยมากเลยจะโดนจับไปเรียกค่าไถ่ -.-ส่วนเหตุผลที่มาที่นี่ก็พีคกว่าไง น้องมันโดนไอ้คินชวนมาล่าท้าผี เป่าหูลิซว่าที่นี่คือปราสาทร้อยปี แถมยังมีขนนกนำโชคที่จะทำให้พบรักแท้ซะด้วย หึหึ... เป็นประวัติ Castle ที่ช่าง...น่าสนใจ =_=^“คุณเตโชกับคุณคิระบาดเจ็บนิดหน่อย แต่โดยรวมปลอดภัยดีครับ Nightshade กับ Nightshade’s Lady ก็กลับมาที่นี่แล้ว อ้อ ส่วนคุณเลโอก็สบายมากหายห่วง ลูกพี่เคนชินขอตัวไปเปลี่ยนชุด แล้วจะกลับมาทำหน้าที่ต่อครับ ^_^”น้ำเสียงกับสีหน้าระรื่นของลูกน้องที่มารายงานถูกส่งมาให้ฉันแบบสวมรอยเคนชินมาชัดๆ หึ... ไอ้ล
ครึ่งชั่วโมงต่อมา...“คนของเราวางบอมบ์ได้ 60% จากพื้นที่ทั้งหมดแล้วครับ พิกัดแรกเราจะระเบิดคลังยาที่…”“คุณโมเน่ต์อาการไม่ดีเลยครับนายหญิง”ระหว่างที่ฉันกำลังสนใจสัญญาณที่คนของเราให้มาเป็นระยะว่าจะระเบิดคลังยานรกแต่ละที่ตอนไหน เคนชินที่หันไปเห็นโมเน่ต์จากภาพใน CCTV ที่เราเลิกสนใจตั้งแต่ติณณ์เดินออกไปก็พูดขึ้นมาได้ฟังแบบนั้นฉันเลยละความสนใจและหันไปดูโมเน่ต์ที่เดินวนไปวนมาโดยมีมือถือเครื่องหนึ่งแนบหู ซึ่งก็คงพยายามโทรหาติณณ์ที่ชิ่งออกไปแบบให้คำตอบคลุมเครือนั่นแหละนะถ้าให้ทาย“คนของเราอยู่ในนั้นแล้วใช่มั้ย?”“ครับ แฝงตัวเข้าไปตอนรายงานพิกัด”“งั้นก็ไม่มีไรต้องกังวลนี่”แล้วจังหวะที่ฉันกำลังหมุนตัวกลับไปดูพิกัดวางระเบิดหลังคุยเรื่องโมเน่ต์กับเคนชิน เสียงคนของเราที่ Castle ฝั่งติณณ์ก็ตะโกนเรียกออกมาดังลั่น‘นายหญิงครับ นายหญิง!!!’ “ว่า?”“คุณโมเน่ต์อยู่ๆก็หมดสติไปครับ”ตึงงงง!ได้ยินคำตอบจากเคนชินที่ตอบแทนลูกน้องที่อยู่ข้างใน ทำให้ฉันรีบผลักประตูและวิ่งข้ามทางเชื่อมตรงไปที่ Castle ฝั่งติณณ์ทันที“เคนชินเรียกรถพยาบาล! โมเน่ต์เป็นอะไร?”ฉันหันไปถามลูกน้องติณณ์ที่กำลังอุ้มร่างโมเน่ต์ที่ไร้ส