“นายใหญ่ครับนี่แม่บ้านคนใหม่ที่มาแทนคนเก่าที่ลาออกไปครับ”
“อ..เอ่อ…สวัสดีค่ะ หนูเบตตี้ค่ะ” การ์ดหน้าคมเอ่ยบอกนายใหญ่ของบ้านที่นั่งจิบชาอยู่บนหัวโต๊ะภายในห้องนั่งเล่น ก่อนเบตตี้ สาวใช้คนใหญ่รูปร่างหน้าตาคล้ายคลึงวัยนักศึกษาจะเอ่ยแนะนำตัวเองเสียงอ่อนตามหลัง “อืม พาเธอไปดูห้องเถอะ” เบรย์เดนไม่ได้ไตร่ตรองอะไรมาก ตอบปัดๆการ์ดหน้าคมไปโดยที่ไม่แม้แต่จะพิจารณาอะไร เพราะเรื่องสาวใช้ในบ้านเขายกให้ลูกน้องเป็นคนจัดการบ่อยครั้งอยู่แล้ว แล้วมันก็ไม่ได้เกิดปัญหาอะไร ครั้งนี้ก็คงจะเป็นเช่นนั้น การ์ดหน้าคมพนักหน้ารับ ก่อนจะพาสาวใช้คนใหม่ไปยันโซนห้องพักแม่บ้านที่อยู่อีกฝั่งของคฤหาสน์ แต่ระหว่างทางก็มีเสียงเบตตี้สาวเปร่งถามขึ้นด้วยสีหน้าอยากรู้ “พี่คะ บ้านนี้ก็ตั้งหลังใหญ่โต นายใหญ่อยู่แค่คนเดียวหรอคะ” “เปล่า มีลูกชายนายด้วย แต่ท่านไม่ค่อยอยู่หรอก” “นายใหญ่มีลูกชายด้วยหรอคะ” เบตตี้ดูเหมือนจะสนใจขึ้นมาไม่ใช่น้อยๆ เมื่อได้ยินคำตอบจากการ์ดในชุดดำ แต่คำสวนจากการ์ดก็ทำเอาเธอชะงักนิ่งเหมือนโดนดับฝันตั้งแต่ยังไม่ทันได้คิด “อืม มีเมียแล้วด้วย” “อย่าถามมาก แล้วก็อย่าคิดจะทำอะไรเกินเลยหน้าที่ตัวเองด้วย เข้าใจมั้ย” การ์ดชุดดำแทรกขึ้นมาอีกครั้งทันทีเพื่อเป็นการตัดปัญหาที่มันไม่ควรเกิดตั้งแต่ต้นลม เมื่อเห็นถึงแววตาที่ดูมีอะไรจากเด็กสาวเบื้องหน้า จนคนโดนตักเตียนถึงกับต้องก้มหน้างุด “ค..ค่ะ” . . “ม๊าครับ ดูสิครับว่าผมพาใครมา ผมทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับม๊าได้สำเร็จแล้วนะครับ แต่น่าเสียดายที่ผมสำเร็จช้าไปจนทำให้ม๊าไม่ทันได้เห็นความสำเร็จนั้นของผม…” สองคนคู่รักสามีภรรยานั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าสุสานของโอลิเวีย ผู้ซึ่งเป็นมารดาผู้บังเกิดเกล้าของชายหนุ่ม เสียงทุ้มเอ่ยคุยกับแม่ตัวเองแววตาก็ผลอยเศร้าหมองไปด้วย วิเวียนได้แต่ยื่นมือเล็กของเธอเข้าไปกุมมือของเขาเอาไว้เพื่อให้กำลังใจสามีอยู่ข้างๆ เธอสงสารเขาจับใจและเข้าใจถึงความรู้สึกของการสูนเสียได้ดี “หนูสัญญาว่าจะดูแลเซบาสเตียนด้วยความสามารถทั้งหมดที่หนูมีเลยค่ะ ม๊าไม่ต้องห่วงนะคะ” วิเวียนหันกลับไปเอ่ยกับสุสานของแม่สามี เสียงอ่อนทั้งยิ้มบาง เธอพร้อมที่จะยกทั้งใจทั้งกายให้ผู้ขายข้างๆและดูแลเขาด้วยชีวิต “ที่รัก ผมต้องเป็นคนพูดคำนั้นสิครับ” “ก็เราจะดูแลกันและกันไงคะ” “ไม่ได้ครับ ผมเคยบอกว่ายังไง บอกว่าให้เมียนั่งนอนกินสบายๆ สามีจะดูแลที่รักเอง” วิเวียนยิ้มอ่อน มองหน้าผู้เป็นสามีด้วยแววตาอบอุ่น ปล่อยให้เขาพลํ่าตามใจอยากไป เพราะมันดูอบอุ่นและเอาใจใส่อย่างบอกไม่ถูก เมื่อมีผู้ชายที่เข้ามาดูแลและพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อเรา ทั้งสองไหว้มารดาเซบาสเตียนเสร็จก็พากันไปไหว้พ่อแม่วิเวียนต่อ ก่อนทั้งคู่จะพากันขับรถกลับคฤหาสน์ “ป๊า ผมกลับมาแล้วครับ” เซบาสเตียนส่งเสียงดังเรียกหาบิดาทันทีที่ก้าวเข้ามาภายในตัวบ้าน นำพาชายวันกลางที่นั่งอยู่หัวโต๊ะหันมอง แต่แทนที่เขาจะท่องถามถึงลูกชายเพียงคนเดียว แต่เปล่าเลย เมื่อเบรย์เดนเลือกที่จะเมินเจ้าลูกชายน่ารำคาญแล้วเอ่ยปากทักลูกสะใภ้ที่เดินเคียงข้างกันมา “อ้าวหนูวิลูกกลับมาเหนื่อยๆคงหิว มานั่งก่อนลูกมา ใกล้เวลาอาหารเย็นพอดี” “ค่ะป๊า” วิเวียนยิ้มหวานเอ่ยตอบชายวัยกลางที่มองเธอด้วยสายตาเต็มไปด้วยความอบอุ่น แต่ดูเหมือนสามีของเธอจะทำตัวมีปัญหาขึ้นมาดื้อๆ “ป๊าาา!” “แกจะเสียงดังทำไม” “ป๊าไม่เห็นผมหรอครับ ทำไมบอกแต่ลูกสะใภ้” “เอ้าแกก็นั่งสิ เก้าอี้ตั้งเยอะแยะ ต้องให้ฉันคอยบอกเป็นเด็กอนุบาลรึไง” เบรย์เดนเอ่ยถ้อยคำกระแหนะกระแน หมั่นไส้ลูกชายตัวเองเต็มทน “เหอะ ป๊าลำเอียงชัดๆ” ชายหนุ่มชักสีหน้างอน กอดอกยืนมองผู้เป็นบารดาอย่างไม่ชอบใจ จนภรรยาตัวน้อยต้องหันมาดุ “ที่รักมานั่งเถอะค่ะ จะยืนเถียงกับป๊าทำไม” พอโดนเมียดุก็ได้แต่หน้าบึ้งยอมเดินมานั่งแต่โดยดี สองคนที่ยั่งอยู่แล้วได้แต่ส่ายหัวไปมาให้กับความปัญญาอ่อนของชายหนุ่ม ทำตัวเป็นเด็กไปได้ “ไอ้รอยไปเรียกแม่บ้านมาเสริฟอาหารดิ๊” เป็นชายวัยกลางที่เอ่ยสั่งลูกน้องลั่น “ป๊าแก้บล็อคผมด้วยนะครับ คนอุตส่าห์ทักมาบอกฝันดีกลัวว่าจะเหงา แล้วอยู่ๆมาบล็อคกันเฉยเลย” “โทรศัพท์ก็โทรศัพท์ฉัน มือก็มือฉัน ทำไมฉันจะบล็อคไม่ได้” ชายวัยกลางยกถ้วยชาขึ้นจิบอย่างสบายใจไม่แม้แต่จะสนใจลูกชายที่นั่งชักหน้ามุ่ยใส่เขาอยู่ตรงหน้า “ผมลูกป๊านะ” “แกจะไม่นับฉันเป็นพ่อฉันก็ไม่ว่านะ เดี๋ยวฉันยกสมบัติให้ลูกสะใภ้แทน” วิเวียนยิ้มแหย เมื่อนั่งอยู่ดีๆก็ถูกลากเข้าไปเกี่ยวในหัวข้อสนทนาของสองพ่อลูก แต่กลับกันเธอก็รู้สึกอิ่มใจกับภาพตรงหน้าอยู่ไม่น้อย แม้สองพ่อลูกจะดูเหมือนตีกัน แต่สำหรับเธอกลับมองว่าเป็นการหยอกล้อระหว่างความสนิทสนมของครอบครัวเสียมากกว่า สักพักก่อนเสียงจากแม่บ้านสาวที่นำอาหารมาเสริฟจะดังขึ้น “ขออนุญาตตักข้าวนะคะ” เป็นเบตตี้สาวใช้คนใหม่ที่เดินอ้อมมาตักข้าวให้กับชายวัยกลางผู้เป็นเจ้าของคฤหาสน์ ก่อนจะอ้อมกลับมาตักให้กับเซบาสเตียน แต่ดูเหมือนจะมีบางอย่างผิดปกติไปเมื่อเธอไม่ใช่แค่ตักข้าวเชื่องช้า แถมยังเหลือบมองหน้าคนหล่อพรางยิ้มบางให้ดั่งว่ากำลังตกอยู่ในภวังค์ความหล่อของเซบาสเตียน การกระทำของเบตตี้ตกอยู่ในเป้าสายตาของทั้งวิเวียนและเบรย์เดนที่นั่งเงียบมองอยู่จนนานหลายวิ หัวใจดวงน้อยเริ่มกระตุกวูบเมื่อเห็นว่าสามีของเธอเองมองสาวใช้ตรงหน้ากลับอย่างไม่ลดละสายตา มันหมายความว่ายังไง จนเสียงจากชายวัยกลางที่ตั้งใจขัดเปร่งดังออกมา เรียกสติจากเซบาสเตียนให้รีบหันหน้าหนี “เอ้า มัวยืนเอ๋ออะไรอยู่ล่ะ รีบๆตักแล้วไปตักให้ลูกสะใภ้ฉันต่อสิ” “ค..ค่ะๆ”เช้าของวันถัดมา ในบ้านดูเงียบขรึมทว่าในคลัวกลับวุ่นวายเต็มไปด้วยเหล่าสาวใช้ที่กำลังเตรียมมื้ออาหารให้กับเจ้านาย “มื้อเช้าวันนี้เตรียมแค่สำหรับนายใหญ่นะ“ ป้าแม่บ้านผู้เป็นหัวหน้าเหล่าสาวใช้กล่าวขึ้นในขณะที่มือจัดเตรียมนำผักไปล้างนุ่นนี่ ก่อนเสียงจากสาวใช้คนใหม่สวนถามขึ้นมาทันที ”แล้วคุณชายกับผู้หญิงคนนั้นล่ะคะ“ ”ต๊าย! ไปเรียกนายหญิงแบบนั้นได้ยังไงยัยเบตตี้“ หัวหน้าแม่บ้านรีบหันมาตำหนิเสียงดุ เมื่อสาวใช้ผู้มาใหม่ทำทีเหมือนจะไม่เคารพนายหญิงของคฤหาสน์ จนเบตตี้ต้องก้มหน้าขอโทษเสียงแผ่ว ”ขอโทษค่ะ…“ ”อย่าให้ได้ยินอีกล่ะ ขืนไปเข้าหูคุณชายหรือนายใหญ่เข้า แกจะโดนเฉดหัวออกจากที่นี่โดยไม่รู้ตัวเอา“ “ค่ะ…“ ”ท่านทั้งสองออกไปทำงานแต่เช้าแล้วเหลือก็แต่นายใหญ่ เอ้ารีบๆทำเข้าล่ะ จะถึงเวลามื้ออาหารแล้ว“ หัวหน้าแม่บ้านวัยกลางคนแม้จะดูเหมือนดุหน่อยแต่ก็ยอมอธิบาย แต่ดูเหมือนสาวใช้คนใหม่จะแส่รู้กว่าที่ตนคิด เมื่อเธอเริ่มที่จะชักคำถามต่อๆมาไม่หยุด ”แล้วคุณชายจะกลับมาเมื่อไหร่หรอจ้ะ“ ”ก็น่าจะหัวคํ่าแบบทุกวันนั่นแหละ หยุดถามเรื่องไม่เป็นเรื่องและรีบๆทำงานแกไปได้ละ แล้วฉันก็ขอเตือนไว
“อย่าไปตอแยมันเลยครับคนสวย เพื่อนผมมันรักเมีย คนชอบผิดศีลธรรมอย่างคุณ เหมาะกับขุมนรกอย่างผมมากกว่านะครับ” เป็นโอทิสที่เข้ามาแทรกพร้อมชูแก้วเหล้าเป็นการชวนหญิงสาวให้มาเล่นกับเขาแทน เมื่อเห็นหน้าเซบาสเตียนมันแล้วนึกสงสารหรอกนะ เพราะเห็นว่าเมียรออยู่ที่บ้านก็เลยยื่นมือเข้ามาช่วย “งั้นกูกลับก่อนละ” กล่าวเสร็จรีบหยัดกายลุกขึ้นจนสองแขนที่เกาะอยู่บนแขนเขาหลุดออก ก็รีบหันหลังเดินหนีออกไปอย่างไว ไม่สนเสียงเรียกที่ดังตามหลัง เพราะตอนนี้เจ้าแท่งเนื้อมันคิดทรยศคำสั่งเขาและเกิดตั้งชูชันขึ้นมาอย่างต้องการน่ะสิ . . . . แกร๊ก…. ”อ้าว สามีกลับมาแล้ว—-อุ๊บ!“ ดวงตากลมเบิ่กกว้างเมื่ออยู่ๆเขาก็พุ่งเข้ามาจับข้อมือเธอทาบลงกับเตียงพร้อมทั้งกระโจนจูบปิดปากเธอจนต้องกลืนคำพูดที่เหลือลงคอ เรียวปากเล็กถูกเขาจู่โจมอย่างหนักหน่วงโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ตอนนี้เซบาสเตียนเหมือนสติขาดหลุดลุ่ย สองข้อมือบางถูกเขากดทาบกับเตียงแน่นทำไม่ได้แม้แต่จะขยับหนี ทั้งร่างกายเธอก็ถูกเขาทาบทับไว้ด้วยลำตัวหนาจนไม่สามารถดิ้นได้ นี่เขาไปโดนอะไรมาถึงได้ครั่งแบบนี้ “อ..อื้ออ สามี ย..หยุดก่อน” วิเวียนรีบกล่าวห้ามเส
“สามีว่าที่รักอย่าไปเลยดีกว่านะครับ ที่แบบนั้นไม่เหมาะกับเทพธิดาของผมหรอก” เซบาสเตียนคิดอยู่สักพักใหญ่เขาก็เลือกที่จะปฏิเสธภรรยาออกไป ไม่สามารถทำใจให้เธอไปเหยียบในที่แบบนั้นได้เลยจริงๆ “ทีสามียังไป” วิเวียนย้อน แววตาจับผิดจ้องอยู่บนใบหน้าคนที่พยายามอธิบายเพื่อจะห้ามปรามเธออย่างสุดฤทธิ์ “มันไม่เหมือนกันครับทูลหัว ที่ผมไปได้น่ะ เพราะว่าผมมัน…” “มัน? คุณมันอะไรคะ” วิเวียนย้อนถามอย่างจับผิด เมื่ออยู่ๆเขาก็หยุดพูดกลางคัน “เปล่าครับ เอาเป็นว่าเมียนอนมาร์คหน้าอยู่บ้านสบายๆรอผัวดีกว่า เดี๋ยวผัวกลับมานอนกอด ไม่กลับดึกแน่นอน” คนถูกจ้องจับผิดรีบบ่ายเบี่ยงบทสนทนา ตัดจบด้วยการตัดสินใจของเขาเอง ยังไงเขาก็ไม่มีทางยอมให้เมียตัวน้อยไปในที่นั้นเด็ดขาด พูดเสร็จก็รีบโน้มหน้าหอมแก้มเนียนไปฟอดใหญ่ด้วยรอยยิ้มกลบเกลื่อนสายตาจับผิดของวิเวียน “สัญญาว่าจะกลับก่อนเที่ยงคืนแน่นอนครับ” “ก็ได้ค่ะ” “เมียใครน่ารักที่สุด” ฟอด! พอเมียอนุญาตก็รีบก้มหน้าฟัดแก้มเนียนรัวๆด้วยความหมั่นเขี้ยวจนฝ่ามือเล็กต้องดันห้าม “อื้ออ พอแล้วว” . . . . . “กรี๊ดดดดด แกรรรรหล่ออ่าาา” พอได้ก้าวเท้า
“ป๊า!! ไอ้รอย!! หายไปไหนกันหมดวะ“ เซบาสเตียนตะโกนลั่นบ้านจนผู้เป็นบิดาที่นั่งอยู่สวนหลังบ้านต้องยอมเดินเข้ามาหาพร้อมทั้งสถบด่าไปด้วยอย่างหงุดหงิด “โว๊ะ ตะโกนหาพ่อแกรึไง“ “ก็ตะโกนหาพ่อจริงๆนะครับ” รอยที่ก้าวตามหลังมาสมทบอย่างไม่นึกคิด จนโดนนายใหญ่หันมาจ้องเขม็งจึงต้องรีบปิดปากเงียบ “มีอะไรของแก” เบรย์เดนหันมาสถบถามลูกชายเสียงดังอย่างไม่สบอารมณ์ แต่แล้วดูไอ้ลูกเวรทำหน้าเข้า มันมีกับเขาบ้างรึเปล่าไอ้คำว่าสามัญสำนึกเนี่ย เซบาสเตียนเหยียดยิ้มภูมิใจไม่สนสี่สนห้าสนว่าพ่อจะรำคาญเขารึเปล่า แต่สิ่งที่อยากทำตอนนี้คืออวดดอกไม้ที่เมียให้‘ นึกแล้วก็ชูดอกไม้ที่หอบไว้ในอ้อมแขนโชว์หราทั้งพ่อและลูกน้องที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยความภาคภูมิใจ “ก็ไม่ได้มีอะไรมากหรอกนะครับ แต่ดูสิ เนี่ย! มีใครได้แบบผมบ้างรึเปล่าล่ะครับ เมียทำมาง้อด้วยตัวเอง ไม่ต้องอิจฉากันเอานะครับ“ ทั้งพูดก็ทั้งยิ้มจนทำเอาคนให้ดอกไม้อย่างวิเวียนยิ้มแหยตาม นี่สามีเธออาการหนักถึงขนาดนี้เชียว ส่วนเบรย์เดนก็ถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยสีหน้าสิ้นหวัง ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่าไอ้ลูกเวรนี่แล้ว “สรุปแกเรียกฉันมาเพื่อสิ่งนี้?” “น
“บอส….” “บอสคะ…” เสียงจากคิร่าเลขาสาวดังเข้ามาในโสทประสาทเรียกสติคนที่กำลังเหม่อลอยกลับคืน เซบาสเตียนรีบกลืนนํ้าลายลงคอก่อนจะเมินหน้าหนีจากสิ่งล่อตาตรงหน้าที่โผล่พ้นมาให้เห็นสองร่องชัดเจน เหี้ยไรวะเนี่ย…. “บอสเป็นอะไรรึเปล่าคะ” คิร่าแสร้งถามเสียงอ่อย ทั้งที่ในใจกำลังเป็นสุขอยู่กับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น เธอเห็นถึงสายตาของเขาที่เหม่อลอยอยู่ตรงหน้าอกเธอเมื่อครู่เต็มสองตาเลยล่ะ แม้จะเพิ่งเข้ามาทำงานได้ไม่นานแต่ข่าวลือที่ว่าเจ้านายเป็นเสือตัวพ่อผู้ชอบมีเหยื่อสวยๆมาขยํ้าเล่นบนเตียงนั้นเธอได้ยินมันบ่อยครั้ง ยิ่งเห็นเขาเผลอมองเธอแบบนี้ยิ่งมั่นใจว่าแผนเธอสำเร็จไปเกือบครึ่งแล้ว… “แฮ่ม… คุณออกไปรอข้างนอก เดี๋ยวเซ็นเสร็จแล้วผมเรียก” “แต่ว่า…“ “ผมไม่ชอบพูดซํ้า” เสียงทุ้มตํ่าสถบขึ้นอย่างเด็ดขาด ทำเอาคนได้ยินเสียวสันหลังวาบ จนต้องกุมมือสองข้างแน่นจำใจทำตามที่เขาสั่งอย่างว่าง่าย ”งั้นก็ได้ค่ะ งั้นคิร่าจะไปรอข้างนอกนะคะ“ สายตาคมกริบมองตามแผ่นหลังที่ก้าวพ้นบานประตูออกไป ก่อนจะตั้งสติแล้วส่ายหน้ารัวๆปัดป่ายความคิดชั่วๆออกจากหัว “เหี้ยไรวะแม่งไอ้เซบาสเตียน! จะความรู้สึกไวเกินไป
“สามีอย่านะ!” “เหอะ.. ไม่เจอกันนานอารมณ์การควบคุมตัวเองแย่ลงนะครับ” แมกซ์ตันที่อยู่ในท่าถูกเขากระชากคอเสื้ออยู่สถบขำออกมาอย่างยียวน ก่อนเซบาสเตียนจะยอมวางหมัดลงแล้วสบัดมือออกจากคอเสื้อจนอีกคนเซไปข้างหลัง “มึงมาทำไม!” “สามีใจเย็นๆ… คุณแมกซ์ตันเค้าแค่มาซื้อดอกไม้แล้วก็บอกลาเฉยๆ เพราะเค้ากำลังจะย้ายสาขาที่ทำงานไปต่างประเทศอาทิตย์หน้าแล้ว” วิเวียนอธิบายเสียงอ่อนให้กับคนหัวร้อนฟังเพื่อให้เขาใจเย็นลง ขืนปล่อยให้แมกซ์ตันเป็นคนตอบคงได้ต่อยกันเข้าจริงๆ สองคนยืนผสานสายตากันอย่างเดือดดาลไม่มีใครยอมใคร แต่ก็ดีกว่าใช้กำลังสู้กันนั่นแหละ “แหม่… ใจร้อนจังเลยนะครับ” “ลาเสร็จแล้วก็กลับไปได้ละ แล้วก็อย่าเสือกมาจับมือเมียกูอีก” ไม่พูดเปล่า มือหนาจับไหล่บางดันร่างอรชรเข้ามาแนบชิดตัวเอง ในขณะที่สายตาไม่ได้ละเลือนออกจากหน้าอีกคนที่กำลังเหยียดยิ้มกวนเขาอยู่ “สามี….” “ไม่เป็นไรหรอกครับคุณวิ ผมเข้าใจครับ คนใจร้อนก็มักจะชอบใช้กำลังแก้ปัญหาแบบนี้แหละครับ” แมกซ์ตันแขวะกลับด้วยถ้อยเสียงสุภาพต่างจากคำพูดลิบลับ แม่ง ไอ้เหี้ยนี่มันวอนโดนตีนชัดๆ ถ้าไม่ใช่ว่าเชื่อฟังคำพูดเมียนะ หน้ามันได้เละ