คีย์
"ว่าไงล่ะหน่า จะให้พี่ทำอะไรต่อกับหน่าดี"
ผมถามคนที่กำลังนั่งนิ่งอยู่ข้างๆ ผม ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนแล้วกัน ผมชื่อคีรินหรือคีย์ อายุย่างสามสิบแล้วส่วนหน้าตาก็หล่อประมาณนึงแหละ และผมเป็นเพื่อนรักของไอ้ขุนพลและไอ้โบ๊ท
"หน่าว่าพี่คีย์กลับไปด่าไอ้โบว์ดีกว่าเนาะ"ผมยกยิ้มให้กับน้อยหน่าที่ตอบผมเสียงเบา
ผมสนิทกับน้อยหน่าและเพื่อนของเธอนะ ถ้าถามว่าสนิทขนาดไหนก็สนิทระดับนึงเพราะพวกเธอเป็นนักศึกษาฝึกงานที่บริษัทของเพื่อนผม ส่วนคนที่นั่งข้างผมตอนนี้ผมสนิทกว่าคนอื่น
"เรื่องการแต่งตัว เรื่องการกินเหล้าให้มันเบาๆหน่อยก็ได้นะหน่า"
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมบ่นหรอกนะแต่ผมบ่นเป็นร้อยรอบแล้วน้อยหน่ากับเพื่อนก็ไม่เคยฟัง ถึงวันนี้น้อยหน่าจะแต่งตัวปกติกว่าวันอื่นก็ตามเถอะ และนี่ถ้าผมไม่มาคิดหรอว่าเธอจะแต่งตัวแบบนี้ ถ้าถอดเดินได้ก็คงถอดไปแล้ว
"บ่นเป็นคนแก่ไปได้"
"พูดแบบนี้ลงจากรถแล้วเดินกลับคอนโดเองเลยไป"ผมพูดเสียงดุ
"รีบไปส่งหน่าได้แล้วค่ะ หน่าง่วงหน่าอยากจะนอน"
ผมยกยิ้มก่อนจะดับรถแล้วปรับเบาะแล้วนอนอย่างสบายใจ ไปเที่ยวทุกทีกลับเช้าไม่เคยง่วงแต่พอโดนผมบ่นเท่านั้นแหละแม่คุณง่วงขึ้นมาทันที
"จำได้ว่าเที่ยวทีไรกลับยันเช้าไม่ใช่"ผมย้อนถาม
"หน่าไม่น่ามากับพี่คีย์เลยจริงๆ บ่นอยู่นั่นแหละบ่นยิ่งกว่าพ่ออีกเนี่ย"
ผมไม่ได้สนใจเสียงบ่นของน้อยหน่าหรอกนะ ผมหยิบมือถือขึ้นมาดูข้อความที่จันทร์เจ้าส่งมาบอกว่าเข้าห้องแล้ว ใช่ครับผมชอบจันทร์เจ้าเพื่อนรักของน้อยหน่า แต่จันทร์เจ้าดันมีแฟนอยู่แล้วผมก็เลยได้แค่ชอบอยู่เงียบๆ
"คุยกับสาวที่ไหนอ่ะ สวยกว่าหน่ามั้ย"น้อยหน่ายื่นหน้าเข้ามาดูมือถือกับผมจนหน้าเราสองคนชนกัน
"จะอยากรู้ไปทำไมไม่ทราบ"
ผมยังไม่มีแฟนหรอกนะแต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยมี ตอนนี้ผมมีความสุขกับการใช้ชีวิตแบบนี้ ผมเป็นคนเจ้าชู้อันนี้ยอมรับเพียงแค่ผมไม่ได้ทำตัวเหมือนไอ้โบ๊ทเท่านั้นเอง
"มะ..ไม่อยากรู้ก็ได้ ถ้าพี่คีย์จะคุยกับสาวก็ช่วยไปส่งหน่าก่อนได้มั้ยอ่ะหน่าง่วงจริงๆนะคะ"
"ไม่อยากรู้จริงๆหรอหน่าว่าพี่คุยกับใคร"ผมดีดตัวขึ้นมาก่อนจะยื่นหน้าเข้าใกล้เธอ
"พี่คีย์ไปสักเพิ่มอีกแล้วหรอ"น้อยหน่ารีบผลักผมออกก่อนจะชี้ไปที่แขนของผม
"สักมาหลายวันแล้ว ทำไมชอบหรอ"ผมถาม
"เยอะไปมั้ยคะ หน่าว่าแค่นี้มันน่าจะพอแล้ว"เรื่องสักอันนี้มันเป็นความชอบส่วนตัว แต่รอยสักของผมมันมีความหมายไงไม่ใช่ว่าสักเพียงเพราะว่ามันเท่
"ถ้าหน่าว่าพอพี่ไม่สักแล้วก็ได้"
ผมบอกก่อนจะขับรถมาส่งน้อยหน่า ผมชอบคุยกับน้อยหน่านะ ผมว่าเวลาเธอพูดแล้วมันดูซื่อๆดี และเพราะแบบนี้ไงผมถึงได้เป็นห่วงเธอมากกว่าเพื่อนคนอื่น
"เดี๋ยวนี้มีคนมาจีบอยู่หรือเปล่า"ผมถามคนที่นั่งมองข้างทาง
"ก็มีนะคะ ส่วนคนที่คุยอยู่ก็มาๆหายๆ"
"คุยกับใครก็ควรจะศึกษาประวัติของเขาก่อนนะหน่า ไม่ใช่อัธยาศัยดีกับคนอื่นไปหมด"ผมพูดเสียงดุ
"ถึงหน้าตาของหน่าจะซื่อบื้อ แต่หน่าไม่ได้โง่นะคะ หน่ารู้หรอกว่าต้องทำยังไง"หึ...เก่งเหลือเกินแม่คุณ
"เออ..ถ้าโดนหลอกขึ้นมาพี่ไม่ปลอบนะ พี่จะสมน้ำหน้าแทน"ผมบอกไป
"รถก็ซื้อมาแพงนะทำไมวิ่งแค่หกสิบคะ"น้อยหน่าเอ่ยถามเมื่อโดนผมบ่น
"ทำไมล่ะ ไม่อยากอยู่กับพี่นานว่างั้น"
ที่ผมไม่ขับเร็วเพราะผมแค่อยากจะแกล้งไอ้คนที่นั่งหาวอยู่นี่ไง ไม่รู้สิเวลาแกล้งน้อยหน่าแล้วผมมีความสุขอ่ะ น้อยหน่าเป็นคนสวยนะครับในสายตาผมนะคือสวยเลยแหละ
"ตามสบายเลยค่ะ พี่คีย์อยากทำอะไรก็ตามสบายถ้าถึงคอนโดแล้วหน่าหลับรบกวนอุ้มหน่าไปส่งที่ห้องด้วยแล้วกันนะ"
ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับไปหรอกเพราะน้อยหน่าเก่งเรื่องพูดประชดประชัน และเก่งแค่กับผมด้วยไงเรื่องของเรื่อง ผมขับรถไม่นานก็มาถึงคอนโดของน้อยหน่าและตอนนี้.....
"จะให้พี่อุ้มจริงดิ ถ้าพี่เจ็บหลังขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ"ผมถามคนที่หลับคอพับอยู่
"หน่าเดินเองได้ค่ะ ขาหน่าไม่ได้ขาด"แล้วดูปากดิแม่ง...
ผมมองคนที่เดินลงจากรถของผมแล้วหันมาแลบลิ้นใส่ผม แล้วคิดว่าผมจะยอมหย่างนั้นหรอ ผมบอกเลยไม่มีทาง
"พี่คีย์จะไปไหน สาวอยู่คอนโดเดียวกับหน่าหรอคะ"น้อยหน่าถามเมื่อเห็นผมตามหลังมา
"วันนี้พี่จะไปนอนกับหน่า"
สองปีผ่านไปน้อยหน่า"มีอะไรให้ช่วยอีกมั้ยมึง"จันทร์เจ้าเดินเข้ามาถามฉันวันนี้เป็นวันเกิดของพี่คีย์และฉันเองก็จัดงานวันเกิดเล็กๆ ให้ที่บ้าน พี่คีย์เองก็ยังไม่รู้หรอกว่าฉันจัดงานให้ เรื่องของฉันกับพี่คีย์ก็ยังคงเหมือนเดิมเรายังเป็นพ่อและแม่ของคีตะ ตอนแรกฉันไปๆ มาๆ ระหว่างกรุงเทพและแม่ฮ่องสอนแต่เพราะพี่คีย์สงสารลูกที่ต้องเดินทางบ่อยเขาก็เลยขอให้ฉันมาอยู่ที่กรุงเทพถ้าจะกลับก็ต้องเป็นวันหยุดยาว"ใจอ่อนได้แล้วมั้งหน่า"พี่ขุนพลเดินมาก่อนจะพูดเสียงดุ"หน่าใจอ่อนตั้งนานแล้วค่ะ"ฉันบอกไป"คีตะไปไหนหน่า เจ้าขาถามหาน่ะ"จันทร์เจ้าถามฉัน"ไปทำงานกับพี่คีย์"คีตะกลายเป็นเด็กติดพ่อ ทุกวันตื่นมาจะต้องอ้อนขอไปทำงานด้วยตลอด และนิสัยเอาแต่ใจก็ยังแก้ไม่หายยิ่งพี่คีย์ไม่เคยดุลูกเลยมันยิ่งทำให้คีตะได้ใจ พี่คีย์เปลี่ยนไปมากจริงๆ นะ จากคนที่ไม่เคยเลี้ยงเด็กแต่พี่คีย์ใช้เวลาในการทำความเข้าใจไม่นานเลยพี่คีย์พาคีตะไปทำงานเพราะวันนี้ไม่มีประชุมฉันก็เลยยอม ตั้งแต่มีพี่คีย์ช่วงเลี้ยงลูกฉันสบายขึ้นเยอะเลยบางวันฉันแทบจะไม่ได้คุยกับลูกด้วยซ้ำ และคำพูดของพี่คีย์ที่เคยบอกฉันวันนี้พี่คีย์ทำมันได้หมดทุกอย่าง"ขอบคุณนะคะ
น้อยหน่าตอนนี้ฉันกำลังนั่งมองลูกชายตัวเองที่แสดงอาการไม่พอใจใส่ฉัน เมื่อเช้าพี่คีย์ไปประชุมแต่เช้าและลูกชายของฉันดันตื่นสาย พอตื่นมาไม่เจอหน้าพ่อเท่านั้นแหละ"กินข้าวมั้ยครับ"ฉันถามลูก"ป๊าไหน""คีตะครับฟังแม่นะ ป่ะป๊าของหนูไปทำงานเดี๋ยวตอนเย็นก็กลับมาเล่นกับหนูแล้ว ฟังแม่อยู่มั้ย"นอกจากจะไม่ได้ฟังที่ฉันพูดแล้วคีตะยังไม่มองหน้าของฉันอีก ฉันมองลูกชายตัวเองที่เดินเข้ามุมแล้วนั่งกอดอกปรายตามองคนเป็นแม่อย่างฉัน"เดี๋ยวปู่พาไปหาป๊าดีมั้ยลูก แต่ต้องไปกินข้าวก่อนนะครับ"ฉันมองพ่อของพี่คีย์ที่เดินเข้ามาในห้องฉันไม่ได้อยากพาลูกไปที่บริษัทเพราะฉันไม่อยากไปรบกวนพี่คีย์ตอนทำงาน เมื่อเช้าก็กว่าจะออกจากบ้านได้ก็ลีลาอยู่นานสุดท้ายฉันก็ต้องแพ้ทางลูกชายสุดที่รักของตัวเอง คุณปู่ของคีตะขับรถมาส่งที่บริษัท ส่วนเรื่องที่ฉันคุยกับพี่คีย์เมื่อวานฉันเองคิดไม่ถึงว่าพี่คีย์จะเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ และที่เหลือฉันเองก็คงต้องปล่อยให้เวลามันตัดสิน"ขอบคุณนะคะ"ฉันพาคีตะเดินเข้าบริษัทซึ่งแน่นอนพนักงานต่างพากันมองแล้วซุบซิบกันใหญ่ และนี่เป็นเหตุผลที่ฉันไม่อยากมาฉันไม่อยากให้คนอื่นคิดว่าฉันเอาลูกมาอ้างทั้งที่จริงมันไ
น้อยหน่า"นะ..หน่าจริงๆ ใช่มั้ย"พี่คีย์พูดพลางเดินเข้ามาหาฉัน คำพูดและแววตาของเขามันสั่นจนฉันรู้สึกได้ ฉันกลับมากรุงเทพได้สองวันแล้วล่ะ ใช่ค่ะฉันได้ลูกชายและฉันเป็นคนตั้งชื่อให้เขาเอง"สบายดีนะคะ"ฉันถามคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉัน"ขอพี่กอดได้มั้ยหน่า"ฉันไม่ได้ตอบอะไรกลับไปฉันเพียงแค่ยิ้มให้พี่คีย์พี่คีย์เดินเข้ามากอดฉันแน่น ตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันได้อยู่กับตัวเองมากขึ้นหลายอย่างมันทำให้ฉันเปลี่ยนความคิดตัวเองใหม่ ฉันว่าฉันโตขึ้นเยอะเลยนะตั้งแต่มีลูกฉันใจเย็นขึ้นมาก"ฮึก พี่ขอโทษนะ ขอโทษจริงๆ"พี่คีย์พูดเสียงสั่นและน้ำตาของเขามันหยดลงเสื้อฉันจนเปียก"เรื่องมันผ่านมาแล้ว หน่ายกโทษให้พี่คีย์ค่ะ"ฉันผละกอดออกแล้วยิ้มให้"ลูกของเราใช่มั้ยหน่าเขาคือลูกของเรา"พี่คีย์ชี้ไปที่คีตะที่นั่งยิ้มอยู่"ชื่อคีตะค่ะ"ฉันบอกไปพี่คีย์เปลี่ยนไปเยอะค่ะทั้งคำพูดและการกระทำ ที่ผ่านมาฉันก็พอจะรู้เรื่องของพี่คีย์อยู่บ้าง ฉันว่าสิ่งที่ฉันทำมันคุ้มค่านะอย่างน้อยพี่คีย์ก็เปลี่ยนตัวเองได้จริงๆ มันก็ดีกับตัวพี่คีย์เอง"แปลกใจใช่มั้ยคะว่าทำไมคีตะถึงไม่กลัวพี่คีย์"ฉันถามคนที่ยืนมองลูกอยู่ฉันไม่เคยปิดบังเรื่องพี่คีย์กับลูกเ
สามปีผ่านไปคีย์"เจ้าขานั่งรอลุงคีย์อยู่ตรงนี้นะครับ""ค่ะ"ผมพูดกับหลานรักของตัวเอง วันนี้ผมพาเจ้าขามาทำงานที่บริษัทด้วย ส่วนเรื่องของน้อยหน่านี่มันก็ผ่านมาตั้งสามปีแล้วที่ผมไม่เจอแม้แต่เงาของเมียตัวเอง ตอนนี้สิ่งที่ผมทำได้คือแค่ให้ความหวังตัวเองอยู่ทุกวันเผื่อว่าวันนึงน้อยหน่าจะพาลูกกลับมาหาผม และถ้ามันจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงผมก็ยินดีที่จะรับมันขอแค่ได้เจอพวกเขาอีกครั้ง"พี่ดีใจนะคะที่เห็นคุณคีย์เปลี่ยนแปลงตัวเองได้"พี่เบญเดินเข้ามาก่อนจะยิ้มให้ผม"ขอโทษด้วยนะครับที่ทำให้พี่เบญต้องลำบากไปด้วย""สู้มาขนาดนี้แล้วก็ต้องสู้ให้สุดนะคะอีกหนึ่งกำลังใจจากพี่"ถ้าวันนี้ผมยังมีน้อยหน่าอยู่ข้างกายผมจะมีความสุขที่สุด สามปีที่ผ่านมาไม่เคยมีสักวันที่ผมจะนอนหลับแบบเต็มตา ภาพของน้อยหน่าที่ร้องไห้มันยังตามผมทุกครั้งที่ผมหลับตา"ลูกผมคงจะเดินได้แล้วเนาะพี่เบญ"ผมถามพี่เบญเสียงสั่น"เลี้ยงเจ้าขาไปก่อนเนาะ"พี่เบญรีบเปลี่ยนเรื่องทันทีผมหันมากอดเจ้าขาที่นั่งอยู่ข้างผม ตอนนี้เจ้าขาสามขวบแล้วลูกของผมก็คงห่างจากเจ้าขาไม่มาก"พี่ต้องทำยังไงหน่าถึงจะใจอ่อนพาลูกกลับมาหาพี่ พี่เปลี่ยนตัวเองแล้วนะหน่าเปลี่ยนไปแล้วจ
น้อยหน่า"แม่บอกว่าให้อยู่เฉยๆ ไงลูก"ฉันสะดุ้งกับเสียงดุจนต้องรีบวางของที่ถืออยู่ลงบนโต๊ะก่อนจะค่อยๆ หันกลับไปมองผู้หญิงที่เดินเข้ามาหาฉัน ที่ผ่านมามีเรื่องเกิดขึ้นกับฉันมากมาย แต่ตอนนี้ฉันมีความสุขและสบายดีกับสิ่งที่เป็นอยู่ มันก็อาจจะมีคิดถึงบ้างแต่ก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยมันก็ทำให้ฉันโตขึ้นอีกก้าว"ทำไมดื้อแบบนี้ล่ะลูก ยิ่งท้องอยู่ด้วยนะ"เสียงของผู้หญิงวัยกลางคนที่กำลังดุฉันอยู่ก็คือคุณแม่ของพี่คีย์ วันนั้นท่านตั้งใจไปเจอฉันที่สนามบิน ท่านรู้เรื่องของฉันกับพี่คีย์ทุกอย่าง"หน่าแค่อยากช่วยค่ะอยู่ว่างๆ หน่าเบื่อ"ฉันรีบบอกไปฉันไม่ได้ไปเชียงใหม่เพราะคุณแม่ของพี่คีย์ขอให้ฉันมาอยู่ที่แม่ฮ่องสอนกับท่าน ตอนแรกฉันกลัวว่าท่านจะบอกพี่คีย์ว่าเจอฉัน แต่ท่านบอกฉันว่าท่านอยากดัดนิสัยของพี่คีย์และท่านเองก็ยอมรับในการตัดสินใจของฉัน ที่นี่เป็นสวนดอกไม้มันเป็นธุรกิจของแม่พี่คีย์ที่ทำมานานมากแล้วและฉันเองก็ชอบที่นี่มากด้วย"ไว้ใจแม่หรือยังลูก"ท่านถามก่อนจะยิ้มให้ฉันฉันยอมรับว่าแรกๆ ที่เข้ามาอยู่ฉันไม่ไว้ใจใครเลยสักคน ฉันกลัวว่าพี่คีย์จะรู้ว่าฉันอยู่ที่นี่แต่พอมาวันนี้ท่านพิสูจน์ให้ฉันเห็นแล้วว่าฉันไว
คีย์แล้วผมจะทำยังไงต่อไปดี ผมทำร้ายคนที่ผมรักมาตลอดและสิ่งที่ผมเจอมันไม่ได้เหมือนกับที่ผมคิดไว้ สุดท้ายคนที่แพ้ก็คือตัวผมเอง ผมดูถูกความรักของน้อยหน่าผมเอาทุกอย่างไปทิ้งด้วยมือของผมเอง"ลูกกับเมียกูล่ะพล ฮึก"ผมถามเพื่อนตัวเอง"ทำไมมึงถึงพึ่งมาเรียกร้องวะคีย์ มึงมีโอกาสตั้งกี่ครั้งมึงก็ไม่ทำ น้อยหน่าให้โอกาสมึงมาตลอดแต่มึงก็เลือกที่จะทำผิดซ้ำซาก กูจะบอกให้นะมันไม่มีผู้หญิงคนไหนรับได้หรอกนะที่จะใช้คนรักร่วมกับคนอื่น ใจน้อยหน่ามีแค่นี้เองคีย์ทำไมมึงไม่รู้จักดูแลรักษา มึงปล่อยให้คนของมึงมาก้าวก่ายน้องกูตั้งกี่ครั้ง มึงเคยรู้บ้างมั้ยมึงสนุกแต่น้องกูนั่งร้องไห้"ไอ้ขุนพลพูดขึ้นและน้ำเสียงของมันกำลังไม่พอใจผมอยู่ผมรู้ ผมนิ่งไปกับคำพูดของเพื่อนรักตัวเองเรื่องที่มันบอกผมไม่เคยรับรู้ด้วยซ้ำ"โถ่ว...โว้ย!!! ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้""ก็เพราะตัวมึงเองทั้งนั้นมึงไม่ต้องโทษใครเลยคีย์"เพื่อนผมพูดถูกทุกอย่างผมคิดว่ายังไงน้อยหน่าก็ยังรักผมและเธอไม่มีทางจะทิ้งผมไปไหน แต่ตอนนี้แม้แต่คำขอโทษที่ผมอยากจะพูดผมยังไม่มีโอกาสเลย"ไอ้หน่ามันรักพี่คีย์มากแค่ไหนพี่คีย์เคยรับรู้บ้างมั้ย ไม่ว่าพี่คีย์จะเลวจะชั่วจะนอ