Only You! หัวใจดวงนี้เป็นของคุณ

Only You! หัวใจดวงนี้เป็นของคุณ

last updateLast Updated : 2025-02-13
By:  JAOTUNTEEOngoing
Language: Thai
goodnovel12goodnovel
Not enough ratings
30Chapters
133views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

เรื่องราวในอดีตที่เลวร้าย ทำให้เขาเกือบมีตราบาป เขาวิ่งหนีความจริงมาอยู่ในเมืองใหญ่ แต่แล้วไม่รู้ว่าเวรกรรมหรือพรหมลิขิต ที่ทำให้เขาต้องกลับมาเจอกับเธออีกครั้งในฐานะของ "เจ้านายกับลูกน้อง"

View More

Chapter 1

การพบกันครั้งใหม่ - 1 -

การพบกันครั้งใหม่

- 1 -

“พี่ภูดูสิๆ วันนี้ป๊ากับม๊าซื้อตุ๊กตาหมีตัวใหญ่เบิ้มมาให้หนูด้วย น่ารักมั้ย”

เสียงเล็กๆ แหลมๆ ของเด็กหญิงวัย5ขวบเจื้อยแจ้วพร้อมกับโชว์ตุ๊กตาหมีตัวโตให้ผมดู เธอยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดีกับตุ๊กตาตัวโตที่ได้รับ สาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก ผิวขาว ปากนิดจมูกหน่อย มัดผมแกะยาวสลวยสองข้าง กับชุดกระโปรงสีแดงน่ารักสดใสเหมือนเจ้าหญิงทำให้ผมยิ้มตอบอย่างอารมณ์ดี

“น่ารักมากเลย แล้วนี่ตั้งชื่อหรือยัง จะให้ตุ๊กตาตัวนี้ชื่ออะไรดี”

ผมพูดพลางลูบหัวน้องสลับกับตุ๊กตาอย่างเอ็นดู พร้อมกับยิ้มให้

“พี่ภูตั้งให้หน่อยสิ หนูไม่รู้จะตั้งชื่ออะไรดี”

เด็กน้อยหันมามองผมด้วยสายตาแป๋วแหว๋วบ้องแบ๊ว ทำให้น่าเอ็นดูเพิ่มขึ้นไปอีก ผมลุกขึ้นยืนเต็มความสูงพลางใช้ความคิดช่วยน้องสาวคิดชื่อไปด้วย สองเท้าก้าวเดินออกจากม้านั่งผมเดินไปเรื่อยๆอย่างใช้ความคิด ว่าจะตั้งชื่อตุ๊กตาให้น้องว่าอะไรดี

ปี๊ดดดดดดดดดด!! โคร๊ม!!!

ผมสะดุ้งตื่นในเวลาตี2 กับความฝันเดิม ๆ ของตัวเอง ผมฝันเรื่องเดิมซ้ำๆ มาตลอด 15 ปี เหตุการณ์เหมือนจริงมากจนผมอดคิดถึงเด็กผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ ผมรู้สึกผิดมาโดยตลอดเหตุการณ์นั้นฝังอยู่ในหัวใจและสายตาของผม ภาพเด็กผู้หญิงวัยกำลังน่ารัก เปียกโชกได้ด้วยเลือดอาบหน้า สองมือกอดตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลแน่น เธอไม่มีน้ำตาแม้แต่น้อยทั้งที่เธอเป็นเพียงเด็กเล็ก ๆ คนหนึ่ง กับเสียงสั่น ๆ ที่ลอดผ่านเรียวปากจิ้มลิ้มเบา ๆ 'พี่..ภู'

กริ๊งงงงงงง!

ผมเอื้อมมือไปปิดนาฬิกาปลุกอย่างเคยชิน บิดซ้ายบิดขวาขับไล่ความเมื่อยล้า สองเท้าก้าวลุกขึ้นจากที่นอนอย่างอิดโรย เพราะเมื่อคืนกว่าจะหลับต่อได้ก็ปาไปเกือบตี5

ครืด ครืด

ผมหันไปมองตามเสียงสั่นของโทรศัพท์ ไม่ต้องเดาก็รู้เลยว่าคนที่โทรมาเป็นใคร ผมยิ้มเล็กๆ ที่มุมปาก ก่อนจะเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ที่หัวเตียง แล้วก็จริงอย่างที่ผมคิด คนที่โทรมาคือคนที่ผมรักมากที่สุด

“อรุณสวัสดิ์ครับคุณนายแม่ คิดถึงลูกชายเหรอครับ”

“ก็คิดถึงนะสิ ภูไม่กลับบ้านมาหาแม่2เดือนแล้วนะ เนี่ยพ่อแกก็บ่นกับแม่ทุกวันว่าแกไม่กลับบ้านเลย”

แม่บ่นอุบอิบตามประสาที่ลูกชายคนเดียวอย่างผมไม่ได้กลับบ้านเลยมา2เดือนเต็ม

“ช่วงนี้ที่ร้านกำลังยุ่งๆ ครับแม่ พนักงานกำลังจะลาออก1คน แม่ช่วยภูหาพนักงานมาทำงานที่ร้านสิ ภูจะได้มีเวลาไปหาแม่ด้วยนะครับ”

ผมพูดออดอ้อนคนเป็นแม่ตามความเคยชิน ผมชื่อภูผา ตอนนี้ประกอบอาชีพเปิดร้านอาหารเกาหลี แต่เมื่อ1อาทิตย์ก่อน มีพนักงานที่ร้านมาแจ้งลาออกเพราะต้องกลับไปดูแลแม่ที่เพิ่งจะออกจากห้องผ่าตัด จึงเป็นเหตุให้ผมต้องรีบหาพนักงานมาทดแทน ผมคุยกับแม่ไปสองมือหยิบไอแพดมาประกาศรับสมัครพนักงานไปด้วย ผมเลือกที่จะประกาศรับสมัครพนักงานลงในเว็บหางานน่าจะได้คนไวกว่า ร้านของผมเป็นร้านเล็ก ๆ อยู่ใจกลางเมือง เพราะทำเลนี้นักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะ มีหลายคนถามผมว่าทำไมถึงเปิดร้านอาหารเกาหลี อย่างแรกเลยคือตัวของผมเองนั้นผมชอบทำอาหาร อย่างที่สอง ผมชอบเวลาเห็นคนมีความสุขกับอาหาร

“ไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้วภู แล้วก็หาเวลามาหาแม่บ้าง แม่คิดถึง”

“รับทราบครับผมคุณนาย ภูรักแม่นะครับ จุ๊บ!”

ผมกดวางสายทันทีหลังจากส่งจูบใส่มือถือให้คุณนายแม่อย่างเคยชิน พร้อมกับตรวจดูใบรับสมัครในเว็บอีกเล็กน้อย พอเห็นว่ายังไม่มีคนมาสมัคร ผมก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวสีเทาผืนใหญ่ และเดินเข้าห้องน้ำเพื่อที่จะจัดการธุระส่วนตัวอย่างเคยชิน

30 นาที ผ่านไป

ครืด ครืด

ผมเดินไปหยิบมือถือที่ถูกวางทิ้งไว้บนเตียงนอนขนาดใหญ่ มากดรับทันทีเมื่อเห็นว่าปลายสายคือปันหยา เธอเป็นหุ้นส่วนของร้านและยังเป็นเพื่อนสนิทของผมเอง

“ว่าไง จะให้ไปรับเหรอ”

ผมพูดติดตลกกับปลายสาย เพราะผมรู้อยู่แล้วว่าวันนี้เธอจะต้องให้ผมไปรับอย่างแน่นอน เพราะเมื่อวานในกลุ่มไลน์เธอเพิ่งบอกรถเสีย ให้ช่างมาลากไปตอนเช้านี่เอง

“ใช่สิ แกต้องมารับ ไม่งั้นฉันจะโดดงานนะเว้ย”

เสียงแว๊ด ๆ ของเธอทำให้ผมต้องยกมือถือออกจากหูเล็กน้อย นี่คือปันหยา เพื่อนผู้หญิงเพียงคนเดียวในกลุ่ม ที่นิสัยไม่ได้หวานหรือน่ารักเหมือนชื่อเลยสักนิด

“เออครับ รับทราบครับเจ้านายแต่งตัวให้ไวเลยครับ อีกสิบนาทีถึง”

ผมกรอกเสียงลงไปถึงปลายสายก่อนจะกดวางสาย ผมเอื้อมมือไปหยิบไอแพดขึ้นมาเช็กอีกครั้ง หน้าจอเมลที่ผมรับสมัครพนักงานเด้งขึ้นมาว่ามีคนส่งเรซูเม่มา 1 คน เป็นผู้หญิง ที่มีแววตากลมโต หวานหยอดที่เป็นเอกลักษณ์ ผมเพ่งมองรูปของผู้หญิงตรงหน้าอยู่นานพอสมควร ก่อนจะตอบกลับเมลไปให้เธอเข้ามาสัมภาษณ์งานที่ร้าน แล้วก็เดินไปหยิบกุญแจรถ มือถือ ไอแพด และออกจากห้องเพื่อไปรับปันหยา

“หาคนได้ยังวะภู ให้ฉันช่วยไหม”

ปันหยายิงคำถามทันทีที่ขึ้นมาในรถ เราเป็นหุ้นส่วนกันก็จริงแต่จะแยกกันทำคนละส่วน ผมดูแลในส่วนของพนักงาน และความเรียบร้อยของร้านโดยรวม ส่วนปันหยาดูแลเรื่องสวัสดิการ และค่าใช้จ่าย และหุ้นส่วนอีกคนของผมคือมาวิน รายนั้นจะดูแลเรื่องเกี่ยวกับการตลาดและโฆษณา

“มีนัดมาสัมภาษณ์ที่ร้านวันนี้หนึ่งคน ไม่ต้องห่วงหรอก น่าจะได้อยู่”

ผมหันไปตอบแบบยิ้มๆ ให้กลับเธอ ถึงเธอจะดูแข็งแกร่ง เป็นผู้หญิงสายลุย แต่ปันหยาคือคนที่ขี้กังวลมาก ๆ คนหนึ่งเช่นกันถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับร้าน

“อืม พี่นัดจะออกอีก3วันแล้ว ถ้าไม่ได้คนเราจะแย่นะ ไอ้วินทำใบปลิวไปแจก ลูกค้าแน่นร้านทุกวัน สงสารเด็กๆ ที่ร้าน”

ผมได้แต่ยิ้ม ๆ ให้เธอ เพราะผมรู้มาตลอดว่าปันหยานั้นเธอคือคนที่จิตใจดี เป็นห่วงทุกคนมาตลอด เราถึงได้คบกันมาได้นาน จนบางครั้งผมก็คิดว่าถ้าเราอยู่กันไปแบบนี้นานกว่านี้ ผมอาจจะต้องตกหลุมรักเธอขึ้นมาสักวัน

“สวัสดีค่ะพี่ภู พี่ปันหยา”

น้ำขิง พนักงานที่ร้านกล่าวทักทายทันทีที่ผมกับปันหยาเดินเข้ามาในร้าน ผมยิ้มให้น้องขิงก่อนจะโบกมือ เป็นสัญลักษณ์ให้เธอไปทำงานของเธอต่อ แล้วเดินเข้าไปในห้องทำงานของตัวเอง ถึงเราจะเป็นร้านกลาง ๆ ไม่ค่อยใหญ่โตมากเท่าไหร่นัก แต่พวกเราลงมติแล้วว่าจะแยกห้องกันทำงาน เพื่อความไม่วุ่นวาย

ห้องทำงานของพวกเราจะเป็นห้องกระจกใสเรียงกัน 3 ห้องอยู่ชั้นสองของร้าน เป็นห้องที่สามารถมองลงไปในร้านได้รอบด้าน เพื่อตรวจตราความเรียบร้อยได้ตลอดเวลา

แต่คนด้านนอกจะมองไม่เห็นด้านบน จะเห็นแค่เป็นกระจกที่จะหมุนวนประดับด้วยป้ายไฟ และของตกแต่งอย่างสวยงามตามเทศกาลเท่านั้น เพื่อความเป็นส่วนตัวของเราด้วย อันนี้ก็ได้ความคิดมาจากมาวิน เพราะรายนั้นบอกว่าจะเอาไว้ดูลูกค้าและความปลอดภัย แต่ก็นะมันคือเหตุผลแอบแฝงนั่นและทำไมผมจะไม่รู้นิสัยมัน

ในส่วนของห้องทำงานของเรานั้น เริ่มที่ห้องแรกหลังจากขึ้นบันไดมาจะเป็นของปันหยา ถัดมาจะเป็นของมาวิน และห้องสุดท้ายจะเป็นผม ผมเดินเข้ามาในห้องก่อนจะทิ้งตัวบนโซฟาขนาดใหญ่ โยนมือถือและไอแพด รวมถึงกุญแจรถไว้บนโซฟาอย่างขอไปที วันนี้กว่าจะมาถึงร้านได้ ผมก็ต้องฟังปันหยาบ่นเรื่องรถติดบ้าง งานในร้านบ้างไปเกือบชั่วโมง เพราะรายนั้นบ่นได้ทุกอย่างจริง ๆ บ่นได้อย่างไม่มีข้อแม้

กริ๊ง กริ๊ง

เสียงโทรศัพท์ภายในของร้านดัง ผมค่อย ๆ เหลือบไปมองยังต้นตอของเสียง ก่อนจะลุกจากโซฟานุ่ม ๆ เพื่อไปรับสาย

“ภูผารับครับ”

ผมกรอกเสียงเข้าไปในโทรศัพท์พร้อมกับมองลงไปด้านล่าง เพื่อดูว่าใครที่เป็นคนโทรขึ้นมา ก็เห็นว่าเป็นพี่นัดที่ต่อสายขึ้นมา ด้านข้างของพี่นัดมีผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ด้วย เดาว่าน่าจะเป็นคนที่นัดมาสัมภาษณ์งานวันนี้

“มีคนมาสัมภาษณ์งานครับคุณภู”

“ให้เขาขึ้นมาห้องผมเลยครับ ขอบคุณมากครับพี่นัด”

ผมพูดจบก่อนจะกดวางสาย และเดินมาทิ้งตัวลงที่เก้าอี้ทำงานเพื่อรอสัมภาษณ์งานพนักงานใหม่

ก๊อก ก๊อก

“เชิญครับ”

ทันทีที่ได้รับอนุญาตจากผม ประตูกระจกบานใหญ่ก็เปิดออกทำให้ผมเห็นคนที่จะมาสัมภาษณ์งานอย่างชัดเจน ครั้งแรกที่ผมเห็นเธอนั้น ร่างกายของผมเหมือนโดนไฟฟ้าช็อต เป็นความรู้สึกที่เย็นวาบตั้งแต่หัวจรดเท้า เพราะใบหน้าของเธอคนนี้เหมือนเด็กผู้หญิงคนนั้น คนที่ผมฆ่าเธอไปเมื่อ15ปีก่อน เธอช่างเหมือนมาก เธอเหมือนมาก ๆ ถึงแม้ว่าใบหน้าที่เห็นตรงหน้าจะดูโตเป็นสาว แต่โครงหน้าของเธอก็ยังคล้ายกับเด็กผู้หญิงที่ติดอยู่ในใจของผมคนนั้น ทั้งที่ผมเห็นรูปเธอในเรซูเม่แล้ว แต่พอเจอตัวจริงเธอกลับเหมือนมากกว่าที่ผมคิด

“สวัสดีค่ะ ชื่อยาหยี มาสัมภาษณ์งานค่ะ”

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters

Comments

No Comments
30 Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status