Share

Over friend มากกว่าเพื่อนได้ไหม
Over friend มากกว่าเพื่อนได้ไหม
Author: หวางลี่อิง/มงกุฏดาว

ตอนที่ 1 ความลับแตก 1/2

last update Last Updated: 2025-10-03 15:33:51

คอนโด...XX

         คืนวันศุกร์เวลาล่วงเลยมาจนถึงสี่ทุ่มแล้ว ร่างของฉันก็ยังนอนแน่นิ่งไร้เรี่ยวแรงอยู่บนเตียง ด้วยสภาพเหมือนซากศพ เพราะอะไรน่ะเหรอ...

วันนี้สอบวันสุดท้ายของปีสองเทอมหนึ่งไงล่ะ

ฉันที่มีความดันทุรังค่อนข้างสูงพยายามยื่นคะแนนให้ได้เรียนคณะเดียวกับเพื่อนสนิทอย่างไอ้สาม ป. ปั้น ปุณณ์ และปัณณ์ เพื่อนสมัยเรียนมัธยมที่เรียกได้ว่าร่วมเป็นร่วมตายกันมา

         หากถามว่าพวกเรารู้จักกันได้ยังไงน่ะเหรอ...ต้องย้อนกลับไปเมื่อสองสามปีก่อนสมัยเรียนมัธยมปีที่ห้า แล้วฉันอยู่ห้องสอง ส่วนไอ้สามตัวตระกูลป. นั่นอยู่ห้องหนึ่ง

         โรงเรียนของพวกเราเป็นโรงเรียนสหที่รวมทั้งชายหญิง ดังนั้นก็ย่อมมีการแบ่งห้องคิงห้องควีน ซึ่งเอาจริง ๆ ก็ไม่รู้นะโรงเรียนใช้เกณฑ์อะไร ฉันที่เรียนเรียกว่าไม่ได้เก่งมากมาอยู่ห้องควีน

         ที่จริงพ่อฉันเพิ่งตายไม่นานฉันก็เริ่มเป็นเด็กมีปัญหา ไม่ใช่เพราะพ่อตายแล้วมีปัญหา แต่เพราะแม่ต่างหากที่จะแต่งงานใหม่หลังจากพ่อตายได้ไม่นาน นั่นทำให้เกิดการแตกหักระหว่างฉันกับที่บ้าน

         แน่นอนฉันเกลียดแม่...และก็ค่อนข้างเป็นผู้หญิง  ห้าว ๆ หัวโจกนิดหน่อย แล้วฉันแอบไปเป็นเด็กเสิร์ฟร้านข้าวต้มที่เคยชอบกินกับพ่อตั้งแต่เด็ก พ่อมักจะมารับฉันที่โรงเรียนและแวะกินร้านนี้ประจำ

         แต่เมื่อพ่อตายไปฉันกับแม่เริ่มมีปัญหา จึงตัดสินใจหาเงินเรียนเองด้วยการเป็นเด็กเสิร์ฟ และไม่เคยฟังแม่เท่าไหร่ เจอหน้ากันมีแต่ทะเลาะกัน สุดท้ายฉันก็ถูกทิ้งให้อยู่ที่บ้านลำพัง แม้เจ็บใจที่แม่เลือกทิ้งลูกไปอยู่กับผู้ชายอื่น

         แต่ใครจะแคร์ล่ะ ปาดน้ำตาแล้วก็อยู่กับความจริงต่อไป ซึ่งแม่ก็ไม่ได้สนใจฉันอีก ส่วนฉันก็คิดว่าจากเงินประกันที่พ่อยกให้ตัวเอง กับบ้านของพ่อที่แม่อยากจะขายแต่ทว่าฉันไม่ให้ขาย เพราะพ่อยกให้ฉัน ดังนั้นฉันจึงอยู่ที่นั่นไปเรียนแล้วก็ทำงานเลี้ยงตัวเองตั้งแต่อายุสิบเจ็ด

         แต่เหมือนทุกอย่างจะรันทด แต่ชีวิตต้องไปต่อเมื่อฉันขาดเรียนบ่อยขึ้นเพราะว่าทำงานเหนื่อยตื่นสายบ้าง ส่งงานช้าบ้าง แต่ก็คิดว่าเดี๋ยวเรียนอะไรก็ได้นั่นแหละมหาวิทยาลัย จนกระทั่งจุดพลิกผันเมื่อไอ้สาม ป. ที่ออกมาเที่ยวแต่กลับมาตีกันที่ร้านข้าวต้ม และเสือกโดนรุมกระทืบ

         เดือดร้อนอีรินคนนี้ไปช่วยด้วยการหยิบเอาไม้หน้าสามไปฟาดไอ้พวกแม่งหมาหมู่จนต้องร้องเอ๋ง ๆ กลับไป

         เหตุการณ์วันนั้นจำได้ดีเชียวล่ะ ฉันนี่เป็นฮีโร่ในหมู่คนเมาสามคนที่เป็นเพื่อนโรงเรียนเดียวกัน..

         “ไอ้เหี้ย...อยากตีกันทำไมไม่ไปตีที่บ้านแม่มึงล่ะ...เห็นไหมคนจะขายของไอ้เหี้ย!” แน่นอนว่าฉันก็เปรี้ยวตีน อยากหาที่ระบายพอดี เพราะแม่เพิ่งมากดดันให้ขายบ้านของพ่อ แต่ขายตอนนี้ต้องให้แม่ทำธุรกรรมดังนั้นไม่ขาย จนกว่าจะอายุครบสิบแปดปี และสามารถมีสิทธิ์ซื้อขายเองได้

         “ไอ้เหี้ย...เด็กห้องสองนี่หว่า” นั่นไอ้ปุณณ์ แฝดพี่ของไอ้ปัณณ์ เคยเห็นหน้าอยู่บ้างเพราะเข้าแถวเคารพธงชาติยืนใกล้ ๆ กัน

         “เออ...กูริน...ห้องสอง...พวกมึงนี่หาเรื่องให้กูตกงานแล้วไหมล่ะ ร้านเหี้ยนี่พังกูได้อดหัวโต” ฉันด่ามันไป โดยที่อีกคนมองฉันเงียบ ๆ มันชื่อไอ้ปั้น แล้วสามคนนี้เป็นเพื่อนสนิทกันที่หน้าตาจัดว่าโคตรหล่อ

         ฉันก็ไม่ได้อะไรหรอก จนกระทั่งช่วยพวกมันไล่นักเลงเจ้าถิ่นไป เพราะคนแถวนี้รู้จักฉันดี ปากฉันมันปากปีจอ เพราะไม่ทำตัวให้ห้าวฉันก็อยู่ไม่ได้

         “อาริน...ลื้อทำอะไร...เดี๋ยวมันดักทำร้ายลื้อทำยังไง ลื้อเป็นผู้หญิงนะ”

         อ้อลืมแนะนำตัว ฉันชื่อภาริณ อิสรากุล เรียกสั้น ๆ ว่าริน ส่วนนั่นเฮียอ๋าเจ้าของร้านข้าวต้มตีสาม นอกจากชื่ออ๋ายังปากหมาด้วย แต่เอาเข้าจริงก็ขี้ขลาดเหมือนกันนั่นแหละ ดีแต่ปาก

         “ไม่เป็นไรหรอกเฮีย...พวกนี้ดีแต่หมาหมู่ ลองเอาจริงขึ้นมาก็ไม่กล้า พวกมันคดีเยอะเรื่องทะเลาะวิวาท ลุงจ่าหมายหัวเอาไว้แล้ว” ลุงจ่าคือลุงเพื่อนสนิทของพ่อ ชอบแวะมาเยี่ยมฉันบ่อย ๆ เป็นตำรวจโรงพักใกล้ ๆ เพราะพ่อฝากให้ดูแลเอาไว้ก่อนที่พ่อจะเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง

         ที่จริงโรคนี้พ่อรู้ตัวไม่นานก็ไปเลย ทำให้ฉันแทบไม่มีเวลาทำใจอะไรด้วยซ้ำ แต่ถึงอย่างนั้นพ่อก็สั่งให้ฉันเข้มแข็ง แล้วฉันที่รักพ่อมากก็เชื่อฟังเสียด้วย

         ฉันไม่รู้ว่าพ่อรู้อะไร หลังจากตรวจพบว่าตนเองเป็นโรคร้ายก็เปลี่ยนพินัยกรรมเรื่องประกันชีวิตทันทีโดยที่แม่ไม่รู้ และในพินัยกรรมระบุว่าให้ฉันมีสิทธิ์ทำธุรกรรมต่าง ๆ แต่เพียงผู้เดียว แล้วฉันก็มารู้ว่าแม่มีรักใหม่และคิดจะแต่งงานทันทีด้วยซ้ำหลังจากงานศพพ่อ

         กลับมาที่เรื่องไอ้เพื่อนสามป. ของฉันก่อนเดี๋ยวจะเล่ายาว คืนนั้นไอ้ปั้น ไอ้ผู้ชายธงแดงที่ฉันตั้งฉายาให้มันก็มานั่งที่ร้านเฮียอ๋า แล้วก็เรียงคิวให้ฉันทำแผลให้ พวกมันก็เมากันด้วย คิดว่าจะกินข้าวต้มให้ส่างเมา แต่กลับได้กินตีนเลย เป็นไงล่ะ ทีนี้ยิ่งกว่าส่างกลับสะบักสะบอม

         ไอ้ปั้นมันสาย Toxic ชอบด่าก่อนเสมอแม้จะเป็นห่วงก็ไม่พูดออกมา แล้วชอบจัดการใครก็ตามที่มายุ่งกับเพื่อนตัวเอง แล้วโดยเฉพาะกับฉันที่ไม่รู้มันมาหวงอะไร กั๊กฉิบหายแต่บอกเพื่อนกัน ผู้ชายหน้าไหนมาจีบนะกระเจิง

         ส่วนฉันที่มันตามเทียวรับเทียวส่งกลับบ้านทุกวันก็เริ่มคิดมากกว่าเพื่อน จากที่ไม่เคยคุยกันกลับกลายเป็นรอกินข้าวด้วยกันทุกวันตอนกลางวัน มันมานั่งรอเงียบ ๆ หน้าห้อง ให้ไอ้สองแฝดไปจองโต๊ะแล้วก็ได้มันเลี้ยงตลอดหลังจากรู้ว่าฉันอยู่คนเดียวหาเงินเรียนเอง แล้วก็ไปนั่งเล่นที่ร้านเฮียอ๋าจนร้านปิดแล้วก็กลับบ้าน

         เป็นแบบนี้จนเฮียอ๋าแซวว่าฉันต้องเป็นแฟนกับไอ้สามตัวนี่สักคนหนึ่ง แต่ฉันก็ทำขรึมไปอย่างนั้นไม่กล้าเขินต่อหน้าเฮียอ๋า เดี๋ยวไอ้ปั้นจับได้

         เล่าเรื่องไอ้แฝดบ้าง ไอ้แฝดปุณณ์...ไอ้นี่สายหื่น ฉันให้นิยามว่าไอ้พระเอกธงส้ม คบกับใครก็เน้นหื่นบางทีเรื่องบนเตียงของมันยังมาเล่า เอากันท่าไหนก็เล่าถึงพริกถึงขิงเอาซะฉันหน้าร้อนไปหมด

         ส่วนไอ้แฝดน้อง ไอ้ปัณณ์ ไอ้นี่ต้องยกให้ธงดำแบบหลุมดำไร้แสงผ่าน ขี้หึง ขี้หวง แฟนมันคุยกับใครก็ไม่ได้ตามไปต่อยเขาหมด สุดท้ายเป็นไงหญิงไม่เอาโดนทิ้งเป็นหมา

         แต่พวกมันไม่มีใครสนหรอก...หล่อเลือกได้...แต่รวยเลือกก่อน แต่ถ้าทั้งหล่อทั้งรวยแบบพวกมัน จะเลือกคนไหนก็ได้หมด

         แล้วไอ้สามตัวนี่ก็คือตัวแสบของโรงเรียน ส่วนฉันคือหญิงเดียวในแก้งค์ตัวแสบ และพวกมันเข็นฉันให้สอบติดคณะวิศวกรรมเพราะว่าที่บ้านพวกมันขอให้เรียน ส่วนฉันที่ขาดเรียนบ่อย ๆ โดนจับมันติวเช้าค่ำ บางทีก็ไปนอนที่บ้านฉันอ่านหนังสือกันตาสว่าง แล้วในที่สุดฉันก็สอบได้คณะเดียวกับมันแต่เลือกคนละสาขา พวกมันเลือกเรียนเอไอ เพราะพ่อแม่พวกมันทำธุรกิจสายอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งหัวฉันไม่ถึงขนาดนั้น เลยเลือกเรียนเคมีที่คะแนนของคณะนี้ในปีที่ฉันยื่นต่ำสุด ทำให้ฉันติดมาได้ในที่สุด

         ใด ๆ คือเรียนตามเพื่อน...ซวยฉิบหายตอนสอบ

         แล้วสภาพฉันหลังสอบเสร็จก็เป็นอย่างที่เห็นสมองไหลเป็นน้ำแล้ว สอบเสร็จก็คืนอาจารย์จนหมด แล้วพวกมันนัดกันฉลองแต่ทว่ามันยังไม่มาเรียกฉันก็ยังไม่แต่งตัวหรอก เสียเวลารอ

         ไอ้ปั้นบอกว่าจะมารับฉันที่หน้าห้องสอบ พอสอบเสร็จแม่งก็หายหัว ส่วนไอ้สองแฝดไปหลีสาว ฉันเลยงอนพวกมันไม่โทรไปหา แต่อ่านไลน์กลุ่มอยู่หรอก กับอัปสตอรีไอจีในสภาพที่เหมือนศพ แต่ก็ยังสวยปิ้ง

         แน่นอนว่าฉันเริ่มหันมาดูแลตัวเองเมื่อเรียนจบม.6 เปลี่ยนจากลุคสาวห้าวกลายเป็นสาวแซ่บ แต่ทว่าไอ้ปั้นมันก็ขยันหวงจริง ๆ ฉันรู้นั่นแหละว่ามันไม่คิดอะไร แต่ว่าฉันอ่ะคิดไปไกลไง

         ฉันเปิดแอคลับที่เก็บโมเมนต์ดี ๆ เอาไว้ระหว่างฉันกับไอ้ปั้นแล้วก็มานอนไถดูแล้วก็ยิ้มคนเดียวเหมือนคนบ้า การแอบรักใครสักคนนี่ก็ดีเหมือนกันเนอะ ไม่ต้องอึดอัดเวลารู้ว่าเขาไม่รักตอบ

         ฉันเลือกเก็บมุมความสุขไว้ในมุมเล็ก ๆ คนเดียวจนกระทั่ง...

         “ไอ้ริน ไอ้เหี้ย...มึงชอบไอ้ปั้นเหรอ”

         ไอ้สัด...ปัณณ์!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • Over friend มากกว่าเพื่อนได้ไหม   ตอนพิเศษ

    สอบปลายภาคเทอมสอง... ฉันกับไอ้ปั้นแยกกันนอนสองอาทิตย์ก่อนสอบ เพราะว่าหากนอนกับมันที่ห้องทุกวันฉันไม่ได้อ่านหนังสือ และแน่นอนมันงี่เง่า “ริน...ปั้นติวให้...นะ...นะ...นะ สองอาทิตย์ตายพอดี นอนไม่หลับเลยนะ” ปั้นกอดที่เอวฉันเอาหน้าซุกมาที่ซอกคอขณะที่นั่งอยู่คอนโดที่ฉันเช่าไอ้สองแฝด และเพิ่งรู้ว่าไอ้ปั้นมันจ่ายค่าเช่าให้ฉันมาตลอด แม้จะเกรงใจมันแต่ตอนนี้เป็นแฟนกันแล้วก็ขอใช้สิทธิ์แฟนให้เต็มที่ก็แล้วกัน “ติวให้หรือติ้วให้เอาดี ๆ เคยได้ติวไหม” ตั้งแต่เป็นแฟนกันตั้งแต่ปีใหม่ก็ร่วมสองเดือนแล้ว แต่ว่ามันไม่มีวันไหนที่ไม่ทำกันสักวัน มีแต่ทำมากขึ้น ไม่รู้อดอยากมาจากไหน บางที่สะลึมสะลือไปเรียนเพื่อนในภาคเคมีก็แซวยับ ฉันก็หน้าแดงทุกที แล้วพวกมันก็พากันแซวเรื่องไอ้ปั้นไม่หยุด บางทีก็ฝากคิสมาร์กเอาไว้ตามหน้าอก แล้วเสื้อนักศึกษามันเปิดเห็นเนินอกนิด ๆ นอกจากเพื่อนในภาคเคมีก็ไอ้ปัณณ์ที่ทำหน้าเหม็นเบื่อฉัน เวลาเห็นสภาพหน้าเหมือนศพไปเรียน ก็จะอะไรเสียอีก ก่อนนอนก็สองรอบ ตื่นเช้าก่อนอาบน้ำก็อีกรอบ น้ำฉันออกแทบจะเป็นคนขาดน้ำ “นะ...นะ...คิดถึงเมีย”

  • Over friend มากกว่าเพื่อนได้ไหม   ตอนที่ 23 บทส่งท้าย 2/2

    “สวัสดีค่ะคุณพ่อคุณแม่” “ทำไมเรียกพวกเธอว่าพ่อแม่...แต่ฉันเป็นแม่ว่าที่สามีเรียกป้ามันน่าน้อยใจนะ” “.....” ฉันหันหน้าไปมองไอ้ปั้นที่ตอนนี้ยักคิ้วให้ฉันบอกว่าให้เรียกแม่สักที จะได้เลิกบ่น “ค่ะคุณแม่” ฉันเรียกแบบเกร็ง ๆ เพราะไม่ได้สนิทกับแม่ปั้นเหมือนแม่ไอ้ปัณณ์ แล้วไอ้ปั้นก็จับฉันนั่งข้างแม่อีกต่างหาก แล้วมันไปนั่งเสียไกล ดีที่ข้าง ๆ เป็นแม่ไอ้ปัณณ์ทำให้ฉันลดความเกร็งลงหน่อย “เสียดายนะคะ...นึกว่าจะได้มาเป็นหลานสะใภ้ฉัน อุตส่าห์ให้ไปเจอเจ้าเปรมแต่รายนั้นดันมีแฟนไปเสียก่อน น่ารักแล้วก็เก่งอย่างนี้รักตายเลยค่ะ” แม่ไอ้ปัณณ์อวยสุดมาก จนฉันเริ่มเขินแล้ว ส่วนแม่ไอ้ปั้นก็สู้กลับอีก “ของอย่างนี้ใครไวใครได้ค่ะ พอดีว่าปั้นไวไฟเหมือนแม่ก็เลยได้ของดีมาครอง” ไอ้ปั้นจ้างแม่มันเท่าไหร่เนี่ย ทำไมถึงได้อวยเก่งขนาดนี้ สาบานเถอะฉันไม่ได้เก่งอะไรนอกจากปากเก่งไป วัน ๆ แถมยังด่าพวกสาว ๆ ของไอ้ปั้นกระเจิดกระเจิงไปหมดแล้ว “เอ่อ...ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ” ฉันพูดอย่างเกรงใจ แต่ไอ้ปัณณ์บิดปากคว่ำใส่ฉัน “เนี่ยแม่ให้ไปบ้านก็บ่ายเบี

  • Over friend มากกว่าเพื่อนได้ไหม   ตอนที่ 23 บทส่งท้าย 1/2

    วันนี้ไอ้ปั้นไม่ได้มาที่มหาวิทยาลัย แต่มันบอกว่าจะมารับตอนเย็น มีธุระกับที่บ้าน ฉันไม่อยากซักแล้วก็ไม่อยากให้มันมารับด้วย เพราะมันจะพาฉันไปที่บ้านของมันเลย สุดท้ายนั่งหน้าเครียดอยู่ใต้ตึกคณะโดยที่ไอ้สองแฝดที่เลิกเรียนแล้วหงุดหงิดที่โดนตามมาแทนที่จะกลับบ้านไปนอน “มีอะไร” ไอ้ปัณณ์ถามขึ้นทำหน้าเหมือนกีบควาย ใส่ฉัน “มึงไปส่งกูร้านเฮียอ๋าหน่อย” “ทำไม...เฮียอ๋าไม่สบายเหรอ มึงทำหน้าแย่มาก” ไอ้ปัณณ์ถามส่วนไอ้ปุณณ์รอฟังเช่นกัน เพราะเฮียอ๋าเหมือนญาติผู้ใหญ่ของฉันคนหนึ่งเหมือนกัน “เปล่า...กูแค่ไม่อยากกลับกับไอ้ปั้น วันนี้แม่มันจะให้พากูไปบ้าน” “แล้วมีอะไร...ทำไมมึงต้องหนี” “มึงไม่เข้าใจอ่ะ...เอาเป็นว่ามึงพากูไปหลบร้านเฮียอ๋าก่อน เดี๋ยวกูจะอ้างเฮียเจ็บขาเลยต้องไปช่วย” “ริน...ทำไมมึงกลัวแม่มัน” ไอ้ปุณณ์ที่เห็นท่าทางฉันแล้วคงแบบเอือมระอา ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมกลัวแม่ไอ้ปั้น แต่แม่ไอ้แฝดกลับไม่กลัวไม่พอ ยังเข้าหาเก่งประหนึ่งลูกคนที่สาม “ก็กูกินลูกชายเขาแล้ว...เขาจะโอเคกูเหรอ” “เชี่ย...เพื่อนกูร้อนแรง มึงแตกคาปากป่ะ

  • Over friend มากกว่าเพื่อนได้ไหม   ตอนที่ 22 สถานะแฟน 2/2

    “กูก็เหนื่อยแล้ว...มึงเลิกคุยไปทั่วได้ไหม” ฉันว่า เพราะจะเป็นแฟนกันนั่นหมายถึงว่าฉันจะไม่ยอมให้มันไปคุยกับคนอื่นไปทั่วหรอกนะ หากเป็นแบบนี้ไม่ต้องเป็นแฟนกันหรอก มันเสียเวลา และเสียใจเปล่า ๆ “กูหยุดแล้ว กูจะไม่คุยกับใครนอกจากมึง” “กูขี้หึงนะ” ฉันบอกเอาไว้ก่อน เพราะว่าถ้าตกลงคบกันนั่นหมายถึงมันต้องรับข้อเสียข้อนี้ของฉันให้ได้ด้วย ไม่อย่างนั้นก็จะมีปัญหากันอีก “กูทั้งหึงและก็หวงด้วย อีกอย่างไม่อยากให้มึงไปนอนคอนโดไอ้ปัณณ์แล้วนะ มาอยู่ด้วยกันเถอะ” เพิ่งเป็นแฟนมันก็ชวนมาอยู่ด้วยกัน ไม่เร็วไปหรือไง “กูไม่ชินถ้าเปลี่ยนที่นอน นอนไม่หลับนะปั้น” “เดี๋ยวกูจะทำให้มึงเหนื่อยแล้วหลับเอง ไว้ใจกูได้” สีหน้าแววตา แบบนี้ก็คิดเรื่องเดียวนั่นแหละ ฉันไม่ได้รับปาก แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธอาจจะมาบ้างไม่มาบ้าง เพราะฉันชอบคอนโดไอ้สองแฝดนั้นมากกว่า “ไอ้สองคนนั้นมันเข้าห้องนั้นได้ ถ้าเกิดกำลังเอากันอยู่มันเข้ามาล่ะ” โอ้โห...เหตุผลมันเหี้ยมาก นึกว่าอะไรจะบ้าตาย “ปั้น...มึงรู้ใช่ป่ะเป็นแฟนกันไม่ใช่แค่เอากัน มันต้องทำอย่างอื่นด้วย”

  • Over friend มากกว่าเพื่อนได้ไหม   ตอนที่ 22 สถานะแฟน 1/2

    “ไม่ไปห้องมึงนะ” ฉันพูดขึ้นขณะรถสปอร์ตของมันมุ่งหน้าไปคอนโด แต่เชื่อได้ว่าต่อให้ฉันห้ามยังไงมันก็ไปคอนโดมัน ที่จริงมันควรให้เวลาฉันทบทวนสักหน่อย ที่มันบอกว่าชอบมันก็ดีหรอก แต่ฉันรู้สึกแค่ว่ามันยังมีบางอย่างติดค้างในใจนิด ๆ ที่ฉันต้องขจัดออก “ห้องไหนกูก็จะนอนกับมึง กูอยากกอดมึงใจจะขาด” หึ...อยากกอดหรืออยากถอด ฉันเพิ่งรู้ก็ตอนที่โดนมันรวบหัวรวบหางกินไปตลอดตัวนี่เองว่า มันเป็นคนหื่น ก่อนหน้านั้นมันไม่ได้แสดงด้านนี้ออกมาให้เพื่อนอย่างพวกฉันเห็น มีแค่ไอ้ปุณณ์ดูชัดเจนที่สุดก็เท่านั้น แต่นั่นมันก็เป็นแค่ไอ้ปุณณ์ ส่วนไอ้ปั้นแบดบอยสเปกสาว ๆ เลย หล่อเลือกได้ ถ้าให้ก็กินหมด แต่ได้ไปอยู่ห้องมันแค่เพียงเวลาไม่กี่ชั่วโมง สาบานว่าฉันเสียวท้องตลอดเวลา มันพร้อมมากสำหรับจับฉันกิน ซึ่งฉันเริ่มกลัวมันนิด ๆ แล้วสิ “คืนนี้ไปห้องกูนะ...ริน...นะ” “มึงอ้อน?” ฉันหันหน้ากลับไปมองมันอย่างแปลกใจ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่มันอ้อน เพราะปกติเป็นฉันที่อ้อนมันเป็นส่วนใหญ่ “ก็อ้อนเมีย...ครับ” “....” ฉันใบหน้าเริ่มเห่อร้อนนิด ๆ คำว่าเมียมันข้ามแฟนไปอีกอ่

  • Over friend มากกว่าเพื่อนได้ไหม   ตอนที่ 21 กูชอบมัน 2/2

    “ถ้าเป็นแฟนพี่เขากูไม่รู้หรอก แต่ถ้าเป็นแฟนกูไม่ต้องทำอะไรกูทำให้ทุกอย่าง” ผมพูดจบแล้วทุกคนก็หันหน้ามองผมอึ้ง ๆ แต่ใครจะสนล่ะ ตอนนี้ผมไม่สนใจอะไรแล้ว จะเอาเมียกลับไปกอดข้ามปี แล้วก็จะกอดไปอย่างนี้ทุกวันนั่นแหละ ไม่สนแล้วโว้ยไอ้ความรู้สึกรักหรือไม่รักอะไร รู้แต่ตอนนี้ขาดไม่ได้ “ปั้นนน...” ไอ้รินเรียกผมเสียงสั้นเล็ก ๆ เหมือนมันจะมองผมแบบไม่เชื่อสายตา “อะไรของมึงไอ้ปั้น” ปัณณ์ถาม “จะอะไรของกูอีกล่ะ...ก็ไอ้รินเนี่ยของกู พวกมึงเลิกเอามันใส่พานให้ใครได้แล้ว” ไอ้ปัณณ์ทำหน้าหมาสงสัย จนอยากจะถีบ ทีอย่างนี้โง่ขึ้นมาเลย “อะไรของมึง มันเป็นของมึงได้ยังไง” ผมเห็นหน้าไอ้รินซีดเผือด แต่ว่าผมไม่สนใจแล้วยื่นมือมาจับมันให้ลุกขึ้น “เป็นของกูได้ยังไงเหรอ...ต้องให้กูอธิบายไหม” ผมหันไปถามคนข้าง ๆ แต่มันส่ายหน้าไปมา ส่วนผมยิ้มร้ายไม่สนใจมันหรอก “ก็กูได้กับมันแล้ว ทีนี้เป็นของกูได้ยัง” “ไอ้ปั้น....” คนที่ผมจับข้อมืออยู่ตะโกนเสียงสั่น มองหน้าเพื่อนที่ตกอกตกใจจนทำอะไรไม่ถูก แต่ใครจะสน เมียกำลังจะโดนผู้ชายงาบไป ผม

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status