เข้าสู่ระบบเอริคนั่งเอนตัวอยู่กับเก้าอี้ทำงานตัวโปรดพลางคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย บนโต๊ะมีแก้วไวน์วางอยู่ มืออีกข้างวางลงกับที่วางแขนตรงเก้าอี้ ส่วนปากก็คีบบุหรี่หันหน้าไปมองทางรูปถ่ายครอบครัวที่แขวนไว้กับฝาผนังห้องทำงานใหญ่ ที่ในภาพถ่ายนั้นมีพ่อ แม่ และน้องสาวและเอริค แม้ว่าท่านแม่จะเป็นแม่เลี้ยงและน้องสาวจะไม่ใช่น้องแท้ๆของเขาด้วยก็ตาม แต่เขาก็รักทั้งสองคนมากรักเหมือนครอบครัวเดียวกัน เขาไม่เคยได้สัมผัสคำว่าแม่ ตอนที่ยังเด็กคำว่าแม่คืออะไรเขาแทบจะไม่รู้เพราะเกิดมาก็มีแต่ท่านพ่อแล้ว แม่ของเขานั้นเสียไปตั้งที่คลอดเอริคเลย จนกระทั่งท่านพ่อเเต่งงานใหม่แม่เลี้ยงก็เข้ามาดูแลเขาตั้งแต่ตอนที่เอริคอายุได้ 8 ขวบและเธอก็มีลูกติดมาด้วยก็คือ เอลิน่า อายุ 4 ขวบ คุณแม่อันนาให้ความรักและการดูแลเลี้ยงดูเอริคมาอย่างดีทำให้เขารู้สึกอบอุ่นและเขาก็คิดว่าอันนาเหมือนกับแม่แท้ๆ ทุกคนต่างมีความสุขกับคำว่าครอบครัวของเรา ทุกอย่างเหมือนจะเป็นแบบนั้นแต่แล้ว…มันก็ไม่เป็นแบบนั้นได้อีกเพราะผู้หญิงที่เขารัก“เอวาลินทำไมเป็นเธอที่มาทำลายความสุข ทั้งที่เราควรจะมีความสุขไปด้วยกัน”เอริคยังคิดถึงเธอเสมอแม้มันจะไม่ควรเลยก็ตามเพราะเธอ
“ดูเหมือนเธอจะลืมไปนะว่าไอ้พวกที่มันท้าทายฉันพวกมันมีจุดจบเป็นยังไง”คำพูดนั้นทำให้เธอนิ่งไปในทันที เธอจะไม่ต่อปากต่อคำกับเขาเพราะเธอรู้ดีว่าไม่คุ้มที่จะเสี่ยง“ไงกระต่ายน้อย ไม่ปากดีแบบเมื่อกี้แล้วเหรอ”“…” ไร้เสียงตอบจากคนตัวเล็ก“อย่ามาเงียบใส่”“ฉันไม่อยากต่อปากต่อคำแล้วค่ะ”“ดี อย่าคิดที่จะหนีไปจากฉัน ชีวิตเธอต่อจากนี้เป็นฉันที่จะตัดสินว่าเธอจะอยู่หรือเธอจะตาย”เอริคปล่อยมือออกจากคอเธอวางมือยันลงไปกับเตียงจากนั้นก็ก้มหัวลงไปประกบปากจูบร่างบางที่นอนอยู่ข้างใต้ร่าง เอริคดูดปากเรเน่อย่างรุนแรงลงปากลงไปอย่าง มีขบกัดเล็กน้อยให้เธอเปิดปากแต่ก็สร้างความเจ็บให้กับร่างบางอยู่ดี ครั้งนี่เรเน่จูบกลับและกัดปากเขาคืนจนเลือดออก เธอจะไม่ยอมเจ็บอยู่ฝ่ายเดียวหรอกนะ“เก่งนิรู้จักเอาคืน”“ฉันเรียนรู้ได้เร็วค่ะ”เรเน่ตอบกลับไป และเธอใช้ลิ้นเล็กๆของเธอนั้นเลียที่บริรอบปากตัวเอง เอริคที่เห็นอย่างนั้นรู้สึกมีอารมณ์ขึ้นมาก็ประกบปากจูบเธออีกครั้ง และครั้งนี้มือหนาเริ่มอยู่ไม่นิ่งเปิดเสื้อเรเน่ที่ยังคงสวมใส่ชุดคนไข้ขึ้นมากองอยู่บริเวณหน้าอก ใบหน้าเอริคเลื่อนตำลงมาดูดึงยอดปทุมสีชมพู เรเน่ที่รู้สึกว่ามันอาจ
อะไรเย็นๆที่หน้าทำให้เรเน่รู้สึกตัวจากการที่นอนหลับอย่างลึกมันเหมือนเป็นน้ำเปียกๆที่หน้าจนเธอต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะคิดว่าเป็นเอริคหรือเปล่าที่ทำ เมื่อกะพริบตาให้มองชัดขึ้นเธอก็เห็นว่าเป็นแมวของตัวเองที่มาเลียบริเวณใบหน้าของเธอ“พี่มิลค์ พี่ลีโอ”เสียงของเธอตะโกนร้องออกมาด้วยความดีใจเมื่อเห็นเจ้าแมวสองตัวของเธอมาอยู่ตรงหน้า เรเน่รีบนั่งขึ้นโอบอุ้มแมวทั้งสองตัวเข้ามากอดด้วยความคิดถึงอย่างสุดหัวใจทั้งหอมทุั้งจุ๊บเจ้าแมว“เขาไม่ได้ทำอะไรพวกหนูใช่ไหมครับ มี้คิดถึงพวกหนูมากเลย”“เมี๊ยว เมี๊ยว” เสียงแมวของเธอต่างพากันร้องเหมือนแสดงความดีใจที่ได้เจอเจ้านายตัวเอง“มี้กลับไปหาที่บ้านไม่เจอพวกหนู มี้หัวใจมันเหมือนกับว่าแตกออกเป็นเสี่ยงๆเลยรู้ไหม”“เมี๊ยว เมี๊ยว”“รักพวกมันขนาดนั้นเลย?”น้ำเสียงแข็งกระด้างของเอริคดังขึ้น“คุณ คุณเอริค”เรเน่ย้ายแมวทั้งสองตัวของเธอไปอยู่ข้างหลังด้วยความกลัวว่าเอริคที่ไม่ชอบสัตว์จะทำอะไรแมวของเธอ“ย้ายพวกมันไปไว้ข้างหลังทำไม”“ก็คุณไม่ชอบสัตว์…”เอริคยืนนิ่งกอดอกพิงผนังห้องจ้องมองมายังคนตัวเล็กที่นั่งบนเตียง มือที่เจ็บของเธอจับแมวสองตัวย้ายไปไว้ด้านหลังจากนั้นพวก
โรงพยาบาลเอกชน“โชคดีที่ไม่มีอะไรหัก นี่มึงทำเกินไปแล้วนะ”โอลิเวอร์กล้าตักเตือนเพื่อนรัก “กู…เธอไม่ตายใช่ไหม” เขากำลังจะพูดอธิบายว่าไม่ได้ตั้งใจแต่ก็กลืนคำพูดพวกนั้นลงคอไป และเลือกจะถามอาการ ถึงจะใช้คำพูดที่โจ่งแจ้งไปหน่อย…“ไม่ตาย แต่ต่อไปก็ไม่แน่นะถ้ามึงยังรุนแรงแบบนี้”“กูเตือนมึงไว้เลยนะการที่มึงเคยโดนทำร้ายมากูเข้าใจว่ามันคือบาดแผล แต่มึงจะมาทำร้ายคนที่เขาไม่รู้อะไรแบบนี้ไม่ได้”“….”“มึงจะใช้ความเจ็บปวดที่ตัวเองได้รับมาทำร้ายคนบริสุทธิ์ไม่ได้นะ”“ไม่ใช่ทุกคนที่เขาจะทำร้ายมึงหรอกนะ ถ้ามึงเจอคนที่ทำให้มึงกลับมาเป็นเหมือนเมื่อก่อนได้แล้ว”“มึงรักษาเขาไว้อย่างดี มันจะไม่ดีกว่าหรอวะ”“มึงเป็นหมอหรือเป็นคุณพ่อ ถ้ามึงจะสอนกูมึงไปบวชเป็นพระไหม”เอริคพูดกลับไปอย่างไม่อยากจะฟังคำเตือนของเพื่อน“เออ กูจะรอดูมึงเลย”“เธอ ฟื้นหรือยัง”“ยัง กูจะย้ายไปห้องพักvvipให้มึงก็ดูจนกว่าเธอจะฟื้น แผลช้ำในกลับไปรักษาที่บ้านได้อาการหนักเธอไม่ได้น่าเป็นห่วง โชคดีที่มึงตีแค่ครั้งเดียว”“กูไม่ได้จะตีเธอ”“เออกูก็ไม่คิดว่ามึงจะกล้าทำเธอหรอก”“แต่เมื่อกี้มึงด่ากูเหมือนกูตั้งใจทำอย่างนั้น”“กูพ
เรเน่นั่งรถแท็กซี่มายังเพนท์เฮาส์ของเอริค เพียงแค่ค้นหาชื่อเขาจากอินเทอร์เน็ตก็ขึ้นประวัติมามากมาย และเพนท์เฮ้าส์นี้ก็ไม่ได้ถูกปกปิดแต่อย่างไรแถมยังโจ่งแจ้งอีกต่างหากสภาพเรเน่ยังคงสวมใส่ชุดคนไข้อยู่ เธอรีบร้อนอยากจะมาหาแมวเพียงหยิบเงินติดตัวมาเล็กน้อยเรเน่ก้าวเท้าลงจากรถแท็กซี่ยืนมองตึกสูงตรงหน้าด้วยจิตใจที่ว้าวุ่น“หนีออกมาได้แล้วแท้ๆแต่ฉันกลับเป็นคนที่เดินกลับเข้าไปในกรงขังนี้เอง เฮอะ”วินที่ขับรถออกมาจากชั้นใต้ดินจะไปตามหาเธอตามคำสั่งเอริคสายตาอันเฉียบแหลมเหลือบไปเห็นผู้หญิงร่างบางในชุดคนไข้เขาก็รู้ในทันทีว่าคือเรเน่ เขารีบลงจากรถทันที“คุณเรเน่ คุณหายไปไหนมาครับรู้ไหมว่านายท่านโมโหแค่ไหน ใครเข้าหน้าท่านก็ไม่ติด”“พาฉันไปหาเขาได้ไหมคะ”“ได้อยู่แล้วสิครับนายท่านอยากเจอคุณเรเน่ที่สุดแล้วครับ”วินประคองเรเน่เข้าไปในเพนท์เฮ้าส์กดไปชั้นที่เอริคอยู่ ซึ่งมันคือชั้นลงโทษหรือชั้นแห่งการทรมานคน…“นายท่านโกรธมากที่คุณหายไป ท่านเลยลงโทษนิคกับคนที่ดูแลคุณเรเน่อยู่ครับ แต่ถ้าท่านเห็นคุณเรเน่ ท่านจะต้องหายโกรธอย่างแน่นอนครับ”“เหรอคะ? ไม่ใช่ว่าเขาจะฆ่าฉันแทนเหรอคะ”“ไม่มีทางเป็นอย่างน
ก็อกๆ“ขออนุญาตมารายงานอาการของคุณนิชานันท์นะคะ คุณหมอโอลิเวอร์บอกว่าเธอต้องผ่าตัดใส่ติ่งอักเสบขั้นรุนแรงและ..”“ใส่ติ่งอักเสบ?”เอริคทวนคำพูดของพยาบาลสาว“ใช่ค่ะ คุณนิชานันท์เธอเป็นใส่ติ่งอักเสบถ้ามาช้ากว่านี้อีกแค่นิดเดียวใส่ติ่งอาจแตกและเธออาจตายได้เลยค่ะ และมือที่ฉีกขาดจากการที่ถูกอะไรบางอยากกรีดลึกค่ะเลยต้องทำการเย็บใหม่ทั้งหมด เบื้องต้นการผ่าตัดเสร็จเรียบร้อยดี หลังจากนี้ต้องรอดูอาการและแผลผ่าตัดค่ะ”“เพียงแค่ฉันไม่ให้เธอกลับไปหาสัตว์เลี้ยงเธอต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอวะ”“นายท่านครับ สัตว์เลี้ยงในสายตาท่านอาจจะเป็นแค่สัตว์ธรรมดาแต่กับคุณเรเน่ที่ไม่มีครอบครัวเป็นที่พึ่งพา เธอจะเห็นสัตว์เลี้ยงพวกนั้นเป็นเสมือนครอบครัวของเธอครับ”คำพูดของนิคทำให้เอริคนิ่งและใช้ความคิดแม้เขาจะเห็นแก่ตัวและไม่พอใจในสิ่งที่เรเน่ทำแต่ครั้งนี้เขาจะยอมลงให้เธอสักครั้งละกัน เอริคหยิบโทรศัพท์โทรหาลูกน้องคนสนิทอย่างวินเพื่อนออกคำสั่งบางอย่าง“มีอะไรจะสั่งเหรอครับนายท่าน”“ไปเอาแมวที่คอนโดของเรเน่มาไว้ที่เพนท์เฮ้าส์”“มะแมวเหรอครับ”“เออ”ติ๊ด!สั่งเสร็จก็กดวางสายในทันทีจากนั้นไม่นานเรเน่ก็ถูกพาตัวมาที่ห้องพิเ